แสงจันทร์สีเงินนวลทาบทอไปทั่วผืนฟ้าเหนือวังเฉินหยวน หิมะแรกแห่งปีร่วงหล่นลงมาดังปุยนุ่นจากสวรรค์ แผ่คลุมยอดหลังคาพระตำหนักให้กลายเป็นม่านขาวสงัดราวอยู่ในแดนเซียนสายลมยามราตรีเย็นเยียบ แม้จะอยู่ในเดือนที่สองแห่งเหมันต์ แต่ไอเยือกกลับแรงราวคมมีดแทงผ่านผ้าคลุมเนื้อหนาท่ามกลางความเงียบงันแห่งค่ำคืนหนึ่ง เซิ่งอี้เหวิน องครักษ์ในชุดคลุมสีดำประจำราชองค์รักษ์ยืนเงียบอยู่บนยอดหลังคาเรือนฝ่ายใน นัยน์ตาคมของเขามองทอดไปยังทิศเหนือ สู่เขตตำหนักที่แม้จะอยู่ภายในวัง แต่กลับถูกทิ้งร้างไร้ผู้คนมายาวนานตำหนักเหมันต์“ลมคืนนี้พัดแรงนัก”เขาพึมพำกับตนเอง ก่อนจะกระชับเสื้อคลุมให้แน่นขึ้น ทว่าดวงตากลับยังจ้องไปยังดงไม้สีขาวพราวหิมะเบื้องหน้า เมื่อครู่ ขณะลาดตระเวนบนกำแพงวัง อี้เหวินได้ยินบางสิ่งเสียงพิณ...เสียงเพลงลึกล้ำคล้ายมนตรา ขับขานมาเบา ๆ ดั่งสายลมพัดผ่านขุนเขา แม้เบาแต่ทว่าลึกสะท้านไปถึงทรวงอก ราวกับเคยได้ยินมาก่อน แต่เขาแน่ใจ เพลงนี้ไม่เคยมีในวัง ไม่มีในบันทึกของดนตรีหลวง และไม่มีในงานพิธีใดเขาตัดสินใจกระโจนลงจากหลังคา แฝงกายในเงาไม้ หยุดยืนอยู่เบื้องนอกแนวรั้วไม้เก่าคร่ำของสวนเหมยอวิ๋นเสียง
Terakhir Diperbarui : 2025-08-03 Baca selengkapnya