Masukตอนที่สอง
เล่นละคร
สามวันต่อมา พิธีแต่งงานอย่างเรียบง่ายที่สุดก็ถูกจัดขึ้นโดยมีอาคนที่สี่มาเป็นผู้ใหญ่เพียงคนเดียว เฉินเป่าลี่คิดเพียงให้ซูเทียนอี้เปลี่ยนมาใช้แซ่เฉินเท่านั้น จึงเน้นย้ำที่การคำนับเข้าสกุลโดยละเว้นพิธีบ่าวสาวอันยุ่งยากไป
หญิงสาวไม่กล้าเชิญอารองและอาสามมาร่วมพิธีด้วยไม่อยากให้การเปลี่ยนสกุลของซูเทียนอี้โดนขัดขวาง จนเมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอน สตรีสกุลเฉินทั้งเจ็ดจึงถอนหายใจร่วมกันอย่างโล่งอก ทุกคนแยกย้ายกันไปทำงานอย่างเช่นทุกวัน โดยไม่มีการเข้าหอหรือจัดเลี้ยงแต่อย่างใด
แต่มีหรือที่อารองและอาสามจะยอมรับการขายผ้าเอาหน้ารอดในครั้งนี้ของหลานสาว พวกเขาบุกเข้ามาโวยวายที่บ้านสกุลเฉินโดยกล่าวหาว่าเฉินเป่าลี่เสแสร้งและไม่เคารพผู้ใหญ่
“อารอง ท่านกล่าวเกินไปแล้ว พวกเราเพียงแต่งงานเรียบง่ายด้วยยามนี้ท่านพ่อท่านแม่ไม่อยู่ หากพวกท่านกลับมาย่อมต้องจัดงานใหญ่อีกครั้งแน่นอน” เฉินเป่าลี่แก้ตัว
“เชอะ พวกเจ้าเพียงเล่นละครเพื่อกีดกันอาผู้หวังดีเท่านั้น ไยพวกเราจะมองไม่ออก”
“พวกเจ้าโตมาด้วยกัน อาอี้เองก็อ่อนกว่าเจ้า จู่ๆเหตุใดจึงลุกขึ้นมาจัดพิธีแต่งงานเข้าสกุลเฉิน หากมิใช่ต้องการฮุบกิจการทั้งหมดไป”
“อาสาม ท่านกล่าวเกินไปแล้ว พวกท่านย่อมรู้แก่ใจดีว่าท่านพ่อเลี้ยงดูอาอี้ด้วยต้องการให้เขาแต่งเข้าสกุลอยู่แล้ว” หญิงสาวเสียงแข็งด้วยเริ่มไม่พอใจ
“เชอะ...เป่าลี่ เจ้าหรือจะเหลือบแลเด็กในบ้านเช่นอาอี้” อาสามพ่นคำดูหมิ่นออกมา
“อาอี้ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดี เขาทั้งหล่อเหลาและแข็งแรง มีตรงใดไม่ดีกัน ท่านอาทั้งสองเหตุใดจึงต้องไม่พอใจด้วย”
“หากเขาจะแต่งกับน้องสาวของเจ้าสักคน อารองก็คงไม่แปลกใจ แต่ที่เจ้าลุกขึ้นมาแต่งกับเขาเสียเอง นี่ช่างน่าคิดนัก”
“ไม่ว่าอย่างไร ซูเทียนอี้ก็คือเฉินเทียนอี้แล้ว เขาเป็นสามีของข้า เป็นเขยใหญ่สกุลเฉิน ซึ่งจะดูแลและรับผิดชอบพวกเราพี่น้องทุกคน ขอท่านอาทั้งสองโปรดวางใจ” เฉินเป่าลี่สรุปออกมา
“หากท่านอาทั้งสองมีข้อสงสัยเรื่องใด สามารถคุยกับข้าได้โดยตรง” เฉินเทียนอี้ก้าวออกมายืนเคียงข้างภรรยาซึ่งเพิ่งเข้าพิธีอย่างปกป้อง
“เชอะ เจ้าคู่ควรหรือ พวกเจ้าเพียงเล่นละครกันเท่านั้น ข้าจะคอยดูว่าจะอยู่กันไปได้สักกี่วัน” อาทั้งสองกล่าวคำดูหมิ่นด้วยความไม่พอใจก่อนจะสะบัดหน้าจากไปทั้งอารมณ์คุกรุ่น
หลังกินอาหารเย็น พี่น้องทุกคนต่างแยกย้ายกันเข้าห้องของตัวเองอย่างเช่นทุกวัน รวมทั้งเฉินเป่าลี่ซึ่งเพิ่งจัดพิธีแต่งงานไปเมื่อเช้า ห้องของนางยังคงเหมือนเดิมด้วยหญิงสาวไม่คิดที่จะร่วมหอจริงจังกับชายหนุ่มซึ่งเพิ่งกราบไหว้ฟ้าดินกันมา
ก็อก ก็อก ก็อก
“อาอี้ มีเรื่องใดหรือ” เฉินเป่าลี่แปลกใจที่ชายหนุ่มผู้อ่อนวัยมาเคาะประตูยามค่ำคืนอย่างที่ไม่เคยกระทำ
“พี่หญิงใหญ่คงลืมไปแล้วว่าพวกเราเป็นสามีภรรยากัน” เฉินเทียนอี้เดินเข้าห้องนอนของหญิงผู้เคยนับถือเป็นพี่สาว
“พี่ไม่ได้ลืม แต่นั่นเป็นเพียงข้ออ้างในการรับเจ้าเข้าสกุลเฉินเท่านั้น”
“คงไม่ใช่แค่นั้น พวกเราเข้าพิธีแล้วย่อมต้องเป็นสามีภรรยากันอย่างแท้จริง หรือจะเพียงแค่เล่นละครอย่างที่อาสามกล่าวหา หากเป็นเช่นนั้นอีกไม่นานพวกเขาก็คงจับได้”
“จับได้แล้วอย่างไร”
”หญิงรองแสนเร่าร้อน”พี่สาวคนรองผู้แสนเร่าร้อนอย่างนางจำต้องควานหาชายหนุ่มซึ่งมีสมองมาช่วยคิดหาหนทางไม่ให้กิจการค้าโดนตะครุบไปต่อหน้าต่อตา ที่สำคัญชายหนุ่มผู้นั้นยังต้องยินยอมแต่งเข้าสกุลเฉินด้วยความเต็มใจ เรื่องที่ยากเย็นนี้กลับง่ายดายเมื่อนางได้พบกับคุณชายหนุ่มผู้นี้ เขาทั้งช่างเจรจาและยังตามทันนางทุกท่วงท่าความเร่าร้อนที่บังเกิดจึงทำให้เรือนของสกุลเฉินแทบลุกเป็นไฟตอนพิเศษห่มเนื้อตัวเจ้าด้วยมือและปากเฉินอู๋ฟานอาศัยอยู่ในบ้านสกุลเฉินมาเกือบเดือนโดยไม่ได้กลับไปช่วยงานที่สกุลห่านเลย เมื่อเห็นว่าสินค้าผ้าไหมแพรพรรณได้เตรียมพร้อมแล้ว เขาจึงตัดสินใจกลับไปเพื่อจัดการข้าวของที่จะนำออกขายด้วยตนเองชายหนุ่มไม่ได้รับเงินและไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องใดทั้งสิ้นในสกุลเฉิน เขาเพียงปกป้องดูแลภรรยาสาว และคอยสอดส่องไม่ให้มีผู้อื่นมาฉวยโอกาสและทำร้ายบรรดาหญิงสาวทั้งเจ็ดเท่านั้นการค้าของเขายังคงอยู่ที่สกุลห่าน โดยลุงห่านของเขายังให้เงินค่าจ้างแล
ตอนพิเศษ (เรื่องหญิงใหญ่สายรุก)ใครรุกใครรับเฉินเป่าลี่ยังคงฝั่งใจในความเป็นพี่สาวซึ่งดำรงอยู่มาหลายปี เมื่อต้องมาใช้ชีวิตเช่นสามีภรรยาจึงเคยชินกับการออกคำสั่งและการต้องเป็นผู้นำ เมื่อถึงยามร่วมรักหญิงสาวจึงเพียรพยายามขึ้นนำและโยกขย่มด้วยตนเองอยู่หลายครา แต่ทุกครั้งกลับจบลงด้วยการโดนชายหนุ่มผู้อ่อนวัยกว่าโยกขย่มควบขี่อย่างดุเดือด ส่วนตัวนางกลับต้องนอนพับหมดแรงจนบางคืนถึงกับต้องร้องขอชีวิตกันเลยทีเดียวไยนางจึงไม่สามารถรุกไล่เขาได้ทั้งคืนเล่า นางช่างอ่อนแอเสียจริงหญิงสาวคิดอย่างไม่เข้าใจในความแข็งแกร่งของชายหนุ่ม ยิ่งเมื่อนางชักชวนให้เขาปรับเปลี่ยนท่วงท่าลีลาแปลกใหม่ตามตำรา ชายหนุ่มก็ยิ่งคึกคักเร่าร้อนจนเตียงนอนแทบมอดไหม้พังพินาศไปอย่างเช่นคืนนี้ซึ่งนางสั่งการให้เฉินเทียนอี้นอนหงายนิ่งๆอยู่บนเตียงนอน“เจ้าห้ามขยับตัว ให้ข้าขยับได้เพียงผู้เดียว”“ได้ ให้เจ้าขยับ” ชายหนุ่มรับปากอย่างตื่นเต้นด้วยคืนนี้ภรรยาสาวมีลูกเล่นใหม่มาให้เขาได้
ตอนพิเศษสองรวมพลังหกคู่สองบ่าวสาวใช้เวลาร่วมรักอย่างมีความสุขโดยไม่ออกจากเรือนหอจนข้ามวันข้ามคืน แม้จะผิดธรรมเนียมปฏิบัติแต่ด้วยท่านเจ้าเมืองและฮูหยินต่างอยากได้หลานจึงไม่เคร่งครัดยึดถือปล่อยให้พวกเขาส่งน้ำเชื้อเข้าร่องน้ำของสะใภ้รองเพื่อปั้นหลานตัวน้อยอย่างเต็มที่กว่าเหอโยวหมิงจะพาเฉินซินหลินออกมายกน้ำชาคารวะบิดามารดาของสามี สาวน้อยก็ขาอ่อนต้องเดินประคองตลอดทางชายหนุ่มพาหญิงสาวกลับไปเยี่ยมพี่สาวที่บ้านสกุลเฉินในวันที่สามตามธรรมเนียม จากนั้นจึงพากลับมาอยู่ร่วมกันที่บ้านสกุลเหออย่างมีความสุข ด้วยบุตรสาวทั้งเจ็ดของสกุลเฉินต่างแต่งงานอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาไม่นาน แม้พวกเขาจะยังมีความพยายามในการตามหาบิดามารดา แต่ชีวิตคู่ย่อมต้องเติมเต็มอยู่โดยตลอด เฉินเป่าลี่พี่สาวใหญ่และสามีหนุ่มเฉินเทียนอี้ซึ่งเป็นเด็กหนุ่มอ่อนวัยกว่าป
ตอนพิเศษหนึ่งคืนเข้าหอเจ้าบ่าวหนุ่มยิ่งได้ยินเสียงครางเสียว เรี่ยวแรงยิ่งมามาก เอวสอบเด้งออกแล้วสวนเข้า เด้งออกแล้วสวนเข้า เข้าๆออกๆอีกครั้งและอีกครั้ง ท่อนทวนแกร่งตอกอัดจนมิดด้ามส่งเสียงดังกังวาน กลีบดอกไม้แดงปริเข้าปริออกตามแรงมุดของท่อนเนื้ออวบ ร่างบางกระเพื่อมแรงจนเส้นผมปลิวสยาย เฉินซินหลินถูกความเสียวซาบซ่านเล่นงานจนต้องจิกเล็บเข้ากับไหล่ ร้องครางเสียงดังลั่นก่อนจะสั่นกระตุกเกร็งค้างอยู่เนิ่นนาน เหอโยวหมิงไม่ปล่อยจังหวะให้เว้นว่าง เมื่อโพรงอุ่นคลายการตอดรัดแล้ว จึงเอื้อมมือไปบดขยำคลึงขยี้ทรวงอวบใหญ่จนบี้แบน สะโพกหนาโยกเข้าโยกออกถี่รัว เอวสอบโยกขยับส่ายควงขย่มกระหน่ำบดขยี้ทิ่มแทงไม่ยั้งสัมผัสเร่าร้อนทั้งบนล่างส่งความรู้สึกพลุ่งพล่านจนมิอาจดับลงได้ เฉินซินหลินเสียวซ่านราววิญญาณจะออกจากร่างด้วยความรัญจวนวาบหวามอันต่อเนื่องไปไ
ตอนที่สิบ สวรรค์สรรค์สร้าง“ชิ เอาไว้ให้ถึงคราของพวกเขา พี่หมิงอย่าลืมรั้งตัวพวกเขาไว้นานๆด้วยเล่า” เด็กน้อยย่อมชอบการแก้แค้น“ได้ พี่จะรั้งพวกเขาเอาไว้จนดึกดื่นทีเดียว” เจ้าบ่าวหนุ่มตอบอย่างเอาใจ“พวกเราอย่าใส่ใจผู้อื่นเลย มาดื่มสุรามงคลให้ครบพิธีก่อนเถิด”สองหนุ่มสาวคล้องแขนดื่มสุรามงคลตามกระบวนการ ก่อนที่เจ้าบ่าวหนุ่มจะก้มลงมาละเลียดชิมสุราซึ่งตกค้างอยู่ในอุ้งปากบาง “อืม...สุราในปากของน้องหลินหวานกว่าของพี่มากนัก” “เชอะ มาจากกาเดียวกัน เหตุใดจึงหวานกว่า” “นั่นเพราะน้องหลินหอมหวานไปทั้งกาย พี่ช่างโชคดีนักที่ได้สาวน้อยแสนงามและหอมหวานอย่างน้องหลินมาครอบครอง”&
ตอนที่สิบ สวรรค์สรรค์สร้าง เฉินซินหลินโดนท่วงท่าโยกขยับกลางน้ำย่อมแตกตื่นไม่กล้าดิ้นหนี สาวน้อยเพียงโยกร่างคล้อยตามไปกับว่าทีสามีจนถึงฝั่นฝันไปอีกคราว เหอโยวหมิงอุ้มร่างเล็กซึ่งเริ่มขาสั่นขึ้นจากน้ำพามาเช็ดตัวแล้ววางลงบนเตียง “พี่จะให้เจ้าแน่ใจในความจริงใจของพี่” เสียงทุ้มบ่งบอกความตั้งใจ แล้วสอดใส่มาทางด้านหน้าของร่างบางซึ่งนอนหงายเปลือยกายอย่างเชิญชวน ความอวบใหญ่ยังคงขยายคับในร่องรูแคบซึ่งเพิ่งโดนขยายไปเพียงไม่กี่ครา แรงโยกขยับจากเนิบช้าค่อยๆเร่งเร็วก่อนจะร้อนแรงจนร่างเล็กสะท้านไหว&nb







