ตอนที่หก
ดีหรือไม่
เฉินฟางหนิงยังคงหอบหายใจรัวด้วยแรงปรารถนา กว่าจะปรับลมหายใจจนช้าลงก็พบว่าตนเองนอนเปิดเปลือยอยู่ข้างศิษย์พี่เหยาแล้ว
“หากชายหนุ่มอยากจะล่วงล้ำเจ้าก็คงไม่ยาก ดังนั้นอย่าได้ชะล่าใจไป ไม่ว่าอย่างไรแรงของสตรีก็ไม่อาจสู้บุรุษได้” เหยาชานเอ่ยบอกเมื่อเห็นว่าหญิงสาวหันมามองหน้าสบตากัน
“ศิษย์พี่เหยาทำเช่นนี้เพียงเพื่อสั่งสอนข้าหรือ”
เจอเข้ากับคำถามนี้ เหยาชานถึงกับพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
“ความจริงพี่ชอบเจ้า น้องฟางหนิง” ชายหนุ่มตัดสินใจสารภาพความในใจด้วยหากไม่บอกออกมาคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว
 
ตอนที่ห้า เจ้าจะเอาอย่างไรกันแน่ฮัวหลีเหวินอธิบายยืดยาวจนหญิงสาวเริ่มเข้าใจ “แต่ข้าต้องช่วยกิจการค้าที่นี่ ไม่สามารถไปอยู่เมืองหลวงได้” เฉิยฟางเฟินรีบยกเหตุผลขึ้นมาโต้แย้ง “เรื่องนี้พวกเราค่อยมาตกลงกันภายหลังได้ ข้าอาจจะขอย้ายมาหรือไม่เจ้าก็ขยายกิจการไป หรืออาจจะไปๆมาๆ” ฮัวหลีเหวินกลับไม่รับฟังด้วยไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ “ท่านจะแต่งงานกับข้าจริงหรือ”&nbs
ตอนที่สี่ ท่อนไม้หรือ“ท่อนไม้หรือ เจ้าบอกว่าท่อนทวนคู่กายของข้าคือท่อนไม้หรือ” ฮัวหลีเหวินตะโกนออกมาเสียงดัง “จะโวยวายไปเพื่ออันใด จะท่อนไม้หรือท่อนทวนก็เหมือนกัน แข็งทื่อไร้ราคา ชิ” “เฉินฟางเฟิน เจ้าหาเรื่องเองนะ” ฮัวหลีเหวินเรียกชื่อเต็มของหญิงสาวก่อนจะเข้าโอบอุ้มร่างบางกระโดดออกมาจากรถม้าอย่างรวดเร็ว “ว๊ายยย เจ้าทำอันใด”
ตอนที่สาม ขอโทษตอนนี้จะมีประโยชน์อันใด“ท่านรู้ว่าข้าคือใคร แล้วท่านเล่า”“ข้าคือชายผู้หนึ่งซึ่งผ่านทางมา”“แม้กระทั่งความจริงท่านก็ยังไม่ยอมบอกออกมา จะแสดงความจริงใจได้อย่างไร หึ เก็บความรับผิดชอบจอมปลอมของท่านเอาไว้เถอะ”“หากข้าบอกความจริง เจ้าจะรับปากได้หรือไม่ว่าจะไม่แพร่งพราย”“ข้าควรต้องป่าวประกาศออกไปหรือไร เชอะ ความลับอันใดจะมากเรื่องเช่นนั้น”“ข้าเพียงไม่อยากให้เจ้าเดือดร้อน”“เพียงข้ออ้างเช่นนี้ ก็ยังเอ่ยออกมา พวกเราไม่มีเรื่องต้องคุยกันแล้ว ข้าขอตัว” เฉินฟางเฟินผุดลุกขึ้นอย่างไม่พอใจ“เดี๋ยว...ใจเย็น นั่งลงก่อน” ชายหนุ่มหล่อรีบเอื้อมมือมาจับหญิงสาวให้นั่งลงคุยกันต่อ“มีอันใดต้องคุยอีก เพียงชื่อแซ่ยังไม่กล้าบอก แล้วจะคุยอันใดได้”เฉินฟางเฟินเป็นนักเจรจา นางเจรจาการค้าทุกวันจนช่ำชอง ให้ต่อรองกับชายหนุ่มแปลกหน้าผู้ไม่รู้ที่มาที่ไปย่อมเป็นการไม่คุ้มค่าจึงต้องการรับรู้
ตอนที่สาม ขอโทษตอนนี้จะมีประโยชน์อันใดเพียงครั้งเดียวยังไม่ทันได้ซ่านเสียวอย่างเต็มที่ ความคับแน่นนี้ยังคงชวนให้ค้นหาอีกหลายคราชายหนุ่มคิดอย่างย่ามใจก่อนจะเปล่งเสียงต่ำด้วยความสุขแห่งการเสพสมแล้วนอนซบลงบนอกคู่งามเมื่อเงยหน้าขึ้นพบมือบางซึ่งแดงเถือกจากการดิ้นรน เขาจึงคลายผ้าซึ่งผูกมัดหญิงงามไว้แล้วจับร่างบางคว่ำหน้ากระแทกสะโพกจนเด้งไหวสะท้านสะเทือนเฉินฟางเฟินโดนขย่มโยกกระแทกไปถึงสามคราวกว่าชายหนุ่มจะทิ้งตัวลงนอนหลับไปในที่สุดหญิงสาวหอบหิ้วร่างบอบช้ำเดินย่องหลบออกมาจากสำนักเริงรมย์แล้วผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าในรถม้าอย่างรวดเร็วก่อนจะกลับเข้าเรือนสกุลเฉินอย่างเงียบเชียบโดยไม่ปริปากบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้ใด นางพลาดเอง ไม่ควรอยู่จนเย็นย่ำเพียงนั้น นางแต่งกายยั่วยวนอยู่ในสำนักเริงรมย์ จะร้องโวยวายว่ามิใช่หญิงคณิกา ผู้ใดจะเชื่อ
ตอนที่สอง ความคับแน่นนี้ชวนให้ค้นหาอีกหลายคราว “ข้าไม่ใช่หญิงคณิกาที่นี่จริงๆ หากไม่เชื่อควรไปสอบถามเถ้าแก่เนี้ยดู ข้าเป็นบุตรสาวพ่อค้ามาเจรจาค้าขาย ท่านไม่ควรทำเช่นนี้กับข้า”“จะบอกว่าเจ้าไม่เคยมือชายเพื่อเรียกราคาให้สูงขึ้นหรือ ย่อมได้ หากร่องรูของเจ้าคับแคบจริง ข้าจะเพิ่มเงินให้อีกสองเท่า”ชายหนุ่มแปลเจตนาอย่างผิดเพี้ยนก่อนจะก้มลงดูดดึงก้อนเต้าหู้อิ่มอีกโดยไม่แยแสการดิ้นรนด้วยแรงอันน้อยนิด“ท่านปล่อยข้าก่อน อย่าได้ทำเช่นนี้” เฉินฟางเฟินทั้งทุบทั้งถีบทั้งเตะเพื่อหลีกหนีแต่ชายตรงหน้าช่างแข็งแรงนัก เขากดทับนางเอาไว้ทั้งตัวก่อนจะปลดสายคาดเอวของนางออกแล้วจับแขนเรียวผูกรั้งไว้กับหัวเตียง“อย่า...ปล่อยข้าเถิด ข้ามิใช่หญิงคณิกาจริงๆ” ถึงตอนนี้เฉินฟางเฟินหลั่งน้ำตาด้วยความหวาดกลัวออกมาแล้ว“คณิกาที่นี่ช่างน่าสนใจ มีลูกล่อลูกชนและลีลาเรียกเงินทองไม่น้อย มิน่าชายหนุ่มพวกนั้นถึงติดใจนัก” ชายหนุ่มยังเข้าใจไปอีกทางจนหญิงสาวทดท้อใจมือหนาฉีกเสื้
หญิงสี่สุดร้อนแรงนางเพียงมาเจรจาการค้าในหอคณิกา ไยเขาจึงจับนางมาโยกขย่มอย่างรุนแรงเช่นนี้มาสืบหาข่าวอันใดกัน ข้ออ้างเช่นนี้ยังคิดออกมาได้แนะนำตัวละครเฉินฟางเฟิน หญิงสี่สุดร้อนแรง อายุ18ขวบปี เป็นสาวงามช่างเจรจา รับหน้าที่นักขายของกิจการ ย่ำเท้าเข้าออกหอคณิกาเพื่อติดต่อการค้าอย่างช่ำชองเฉินเป่าลี่ พี่หญิงใหญ่สายรุก อายุ21ขวบปี เป็นกำลังหลักของกิจการค้าทั้งหมดของตระกูลเฉินด้วยช่วยเหลือบิดามารดาดูแลแต่เยาว์วัย ด้วยอายุจะเลยวัยออกเรือนไปนานแล้วจึงจับชายอ่อนวัยซึ่งบิดาเลี้ยงดูเอาไว้แต่งงานเข้าสกุลเฉินฟางหรง หญิงรองแสนเร่าร้อน อายุ20ขวบปี เป็นสาวงามเจ้าความคิดดุจเป็นมันสมองของตระกูล เป็นสาวงามซึ่งคิดมากทุกสิ่งที่ทำต้องได้เปรียบและไม่ยอมเสียเปรียบผู้ใดเฉินฟางหนิง หญิงสามจอมหยอกเย้า อายุ19ขวบปี ชอบการต่อสู้และฝึกวิชายุทธ์มาหลายปี เป็นสาวงามที่คิดว่าตนเองต้องดูแลและคุ้มครองพี่น้องทุกคนเฉินเฟยเจิน ห