ปาลิดาสั่งคาปูชิโน่ร้อนจาก ‘ต้นรักคาเฟ่’ ร้านกาแฟสุดโรแมนติกใต้ตึกโรงพยาบาลมาหนึ่งแก้วใหญ่ แล้วโดยสารลิฟต์ขึ้นมายังชั้นดาดฟ้า ซึ่งถูกจัดเป็นสวนสวยเพื่อการพักผ่อนสำหรับคนที่ชอบชมวิวเมืองใหญ่
เมื่อไหร่ที่ว่างหรือมีเวลาพักจากงาน เธอมักจะขึ้นมานั่งเล่นบนนี้เสมอ โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ช่วงเวลาที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวนับล้านดวง
“เฮ่อ...คืนนี้จะมีดาวตกมั้ยนะ” เธอเลือกนั่งตรงม้านั่งตัวเดิม ติดริมตึก ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้สวยที่สุด “อากาศหนาวจัง...อืม...ได้กลิ่นดอกแก้วขึ้นมาถึงบนนี้เลย”
“แก้ว!” น้ำเสียงเอ็นดูปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์ เธอหันไปมองหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า รอยยิ้มเมตตาปราณีสร้างความอุ่นใจให้เธอเสมอมา ท่านนั่งลงใกล้กับเธอ แล้วจับมือเธอไว้แน่น เหมือนทุกครั้ง
“แม่ปู”
“ทำงานเป็นไงบ้าง”
“สนุกมากค่ะ และก็มีความสุขมาก ๆ ด้วย”
“เข้ากับเพื่อนร่วมงานได้มั้ย”
“ได้สิคะ ทุกคนใจดีมากเลยค่ะ” เธอพูดความจริง แม้จะมีคนช่างนินทาอยู่บ้างก็เถอะ แต่เธอมีเพื่อนรักถึงสองคนเป็นเกราะคุ้มใจ นั่นก็คือสุกัญญาและน้ำพราว เพื่อนสมัยมัธยมที่ได้มาทำงานเป็นพยาบาลอยู่ในแผนกเด็กด้วยกันโดยบังเอิญ
“ขอบใจนะแก้ว ที่หนูยอมกลับมาที่นี่”
“หนูก็ต้องกลับมาอยู่ใกล้ ๆ แม่สิคะ”
“แต่ไม่ยอมกลับมาอยู่บ้าน ไปเช่าอพาร์ตเม้นต์ทำไมให้เสียตังค์ หรือว่าแอบมีแฟน”
“เปล่าค่ะ” เธอรีบปฏิเสธ “หนูแค่อยาก...นั่งรถเมย์มาทำงานน่ะค่ะ มันสนุกดี”
“ชิ! ตอนแรกแม่คิดว่าเราจะอยู่ใต้ไม่ยอมกลับมากรุงเทพฯ ซะแล้ว คิดว่าติดใจหนุ่มใต้จนอยากจะตั้งหลักปักฐานอยู่ที่นั่น”
“หูย หนุ่มใต้ที่ไหนกันคะแม่ หนูไม่เคยมีใคร ชีวิตนี้มีแต่เรียนกับเรียนอย่างเดียวค่ะ”
“เอ...แต่ตอนปีหนึ่ง เหมือนหนูเคยบอกว่ากำลังคบหาดูใจอยู่กับรุ่นพี่นี่นา”
แม่บุญธรรมคงหมายถึงรุ่นพี่คณะแพทย์ศาสตร์คนนั้น คนที่เธอเคยคิดว่าเขาอาจเป็นคนในชีวิตจริงของเธอ ไม่ใช่คนในฝันที่เกินเอื้อม แต่เธอคิดผิดไปมาก
“อ๋อ สงสัยจะเป็นรุ่นพี่คนนั้น ไม่มีอะไรหรอกค่ะแม่ ก็แค่รุ่นพี่ที่สนิทกันอยู่ช่วงหนึ่งค่ะ พอดีพี่เค้าเป็นคนเฟรนลี่ ก็เลยสนิทกับรุ่นน้องเยอะ หลังจากพี่เค้าเรียนจบไปก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยค่ะ”
“งั้นเหรอ แล้วตอนนี้ล่ะ คุยกับใครอยู่บ้างมั้ย”
“ไม่มีค่ะ หนูยังไม่คิดเรื่องนี้ ตอนนี้กำลังสนุกกับงาน หนูรักงานดีกว่าค่ะแม่ เพราะงานมันซื่อสัตย์ มันไม่ทรยศเรา นอกจากเราจะทรยศมันเอง”
“คิดอะไรอย่างนั้น งานก็ส่วนงานสิ เรา 23 แล้วนะแก้ว ถ้าเกิดมีผู้ชายดี ๆ เข้ามาก็ลองเปิดใจบ้าง อย่าปล่อยให้โอกาสมันหลุดมือไป”
“หนูว่าอยู่เป็นโสดเหมือนแม่สบายใจกว่าเยอะ”
ปวีณาสีหน้าสลดลงเหมือนรู้สึกผิด หากลูกบุญธรรมรู้ว่าข่าวลือข้าวเม้าท์เกี่ยวกับเธอมีมูลความจริงซ่อนอยู่ หากรู้ว่าเธออาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมเมื่อสิบสามปีก่อน ลูกบุญธรรมจะยังเคารพรักเธอเหมือนเดิมหรือไม่
“แต่แม่อยากให้มีคนดูแลหนู”
“หนูดูแลตัวเองได้ค่ะ...อีกอย่าง...” แม่บุญธรรมก็รู้นี่นาว่าเธอมีปัญหาอะไร...ใช่ว่าเธอไม่อยากเปิดใจนะ แต่สภาพร่างกายภายในของเธอมันไม่เอื้ออำนวยน่ะสิ เธอสวยตั้งแต่หัวจรดเท้าก็จริง แต่ใครจะรู้ล่ะว่า...อวัยวะเพศของเธอมันน่าเกลียดน่าชังขนาดไหน ร่องรอยบาดแผลจากการเผาไหม้ยังคงปรากฏชัดเจน
เธอเคยมีความคิดจะทำศัลยกรรมตรงนั้นของเธอนะ แต่ความเสียหายมันรุนแรงพอสมควร หากเธอจะตกแต่งมันให้กลับมาเป็นปกติ ก็จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อย แล้วเธอจะเอาเงินมาจากไหนล่ะ
“หนูยังไม่เจอ...ผู้ชายดี ๆ เลยค่ะ” ความจริงเธอเคยคบและคุยกับผู้ชายคนหนึ่งในช่วงที่เธอเรียนปีหนึ่ง แต่ก็ต้องเลิกรากันไปในวันวาเลนไทน์แรกของการคบหากัน หลังจากที่เขาเห็นอวัยวะเพศของเธอ ตอนนั้นเขาตกใจมากจนอุทานออกมาว่า...
‘สัตว์ประหลาด’ ใช่สิ อวัยวะเพศของเธอเหมือนสัตว์ประหลาดไม่มีผิด...ตอนนั้นนอกจากเขาจะไม่ยอมแตะต้องเธอแล้ว เขายังหายไปจากชีวิตของเธออีกด้วย
หลังจากถูกทิ้งในครั้งนั้น เธอก็ไม่เคยกล้าคบกับผู้ชายคนไหนอีกเลย ไม่กล้าคุย ไม่กล้าผูกใจ ไม่กล้าถลกกระโปรงให้ใครเห็น เพราะรู้ดีว่าคงไม่มีผู้ชายคนไหนรับความเป็นเธอได้
“หนูขอทำงานเก็บเงินดีกว่าค่ะ” เธอเลือกใช้เหตุผลนี้เป็นเกราะกำบังให้ตนเองก้าวผ่านความเจ็บปวดเสมอ “สมัยนี้ผู้ชายดี ๆ หายากกว่าเงินซะอีก”
“แต่ก็ยังมีน่า ดูอย่างหมอมินทร์สิ” ปวีณาเอ่ยถึงหมอสุดหล่อของโรงพยาบาล ลูกเขยของ ผอ.โรงพยาบาล สามีสุดเพอร์เฟคของแพทย์หญิงนิวราจอมเย่อหยิ่งทระนง “ทั้งหล่อ ทั้งเก่ง! แถมเป็นสุภาพบุรุษ หมอนิโชคดีมากที่ได้หมอมินทร์เป็นสามี”
ปาลิดายิ้มไม่ออก ใจสั่นรัว หากเธอเล่าให้แม่บุญธรรมฟังว่าหมอมินทร์หรือภูมินทร์ คือผู้ชายที่เคยทิ้งเธอเพราะรับความเป็นเธอไม่ได้ คือผู้ชายที่เคยชี้นิ้วบอกว่าเธอคือสัตว์ประหลาดแล้วหายไปจากชีวิตของเธอโดยไม่บอกลาแม้แต่คำเดียว แม่บุญธรรมจะยังคิดว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษอยู่อีกมั้ย
ช่วงเวลาหนึ่งเดือนเศษที่เธอเข้ามาเป็นพยาบาลที่นี่ เธอกับหมอมินทร์ไม่เคยคุยกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขาทำเหมือนไม่รู้จักเธอ ทำเหมือนเธอไม่มีตัวตนด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็ดีแล้ว เพราะเธอเองก็ไม่ได้อยากให้ใครรู้เรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ครั้งเก่าก่อนระหว่างเธอกับเขา
“อย่างหนูคงไม่มีโอกาสแบบหมอนิหรอกค่ะ”
“คิดอะไรอย่างนั้น หนูดีพอนะแก้ว”
“แต่หนู...”
“อย่าเอาเรื่องนั้นมากำหนดชีวิต มันไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต สักวันหนูจะเจอคนที่รักหนูด้วยใจจริง”
ปาลิดาแอบถอนหายใจ คิดว่าคงไม่มีผู้ชายอย่างที่แม่บุญธรรมพูดอยู่ในโลกใบนี้
“ฝันร้ายหรือคะ ไม่เป็นไรนะ พี่อยู่ตรงนี้แล้วนะคะ ไม่มีใครมาทำอะไรหนูได้ พี่สัญญา”ปาลิดาจับมือเด็กน้อยวัยหกขวบที่น่าสงสารคนนั้นแล้วลูบหลังมือเบา ๆ อย่างอ่อนโยน เด็กหญิงที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งมาหนึ่งปีแล้ว เธอกำลังต่อสู้กับโรคร้ายอย่างเข้มแข็ง แม้หัวใจจะอ่อนแอลงทุกวัน“หนูคิดถึงเพื่อน ๆ หนูอยากไปโรงเรียนจัง”“อีกไม่นานหนูก็จะได้ไปโรงเรียนแล้ว หนูจะหายป่วยและกลับมาเล่นกับเพื่อน ๆ ได้” ปาลิดาพยายามเก็บกลั้นน้ำตาเอาไว้ เผยรอยยิ้มอบอุ่นปลอบประโลม เธอยอมถอดสร้อยคอที่เปรียบเสมือนเครื่องรางของชีวิตออกมา สร้อยคอเงินที่มีจี้ทองคำเป็นรูปเครื่องดักฝันแบบชาวอินเดียนแดง “พี่ได้เครื่องรางนี้มาจากนางฟ้า เธอจะปกป้องเด็ก ๆ ทุกคน ถ้าหนูใส่เครื่องรางนี้ไว้ หนูจะไม่ร้องไห้และไม่ฝันร้ายอีกเลย”ปาลิดาสวมสร้อยคอให้เด็กหญิงข้าวฟ่างแล้วกล่อมเกลาจนสาวน้อยหลับไป...“ฝันดีนะคะ”สวยจัง...ชายหนุ่มสุดเซอร์ที่ยืนอยู่ตรงประตูห้องมองพยาบาลสาวด้วยความชื่นชม ไม่ใช่เพียงแค่ความสวยของรูปร่างหน้าตาเท่านั้นที่ทำให้เขาประทับใจ แต่ความใจดีมีเมตตาของเธอนั้นต่างหากที่กระแทกใจเขาอย่างแรง ความจริงเขาเจอเธอมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่มีโอกา
“พวกแกสองคนอย่าเข้าไปใกล้เค้าเชียวนะ ฉันได้ข่าวมาจากพวกรุ่นพี่ว่าเค้าเกลียดพยาบาลอย่างพวกเรามาก ใครเข้าใกล้เป็นได้หาเรื่องไล่ออก!”“ขนาดนั้นเลยเหรอ?” น้ำพราวไม่อยากจะเชื่อ “ทำไมเค้าถึงได้เกลียด...พยาบาล?”“นั่นสิ” ปาลิดาเองก็อยากรู้เหมือนกัน เพราะเธอเองก็ได้ยินมา “เค้ามีปมอะไรเหรอ?”“ฉันสืบมาเรียบร้อยแล้ว” สุกัญญากระดิกนิ้วเรียกให้เพื่อนทั้งสองขยับหูเข้ามาใกล้อีกนิด “ที่เขาเกลียดพยาบาลก็เพราะท่านประธานแอบมีเมียน้อยเป็นพยาบาลน่ะสิ ตอนนั้นท่านประธานหลงพยาบาลคนนั้นมากถึงกับจะฟ้องหย่าเมียเลยนะ แต่เมียของเขาดันกระโดนตึกตายซะก่อนน่ะสิ!”“หา!” สองสาวอุทานพร้อมกัน ก่อนจะถอนหายใจพร้อมกันอีกครั้ง “เฮ่อ!”“ข่าวจริงเหรอ” ปาลิดาถามด้วยใจสั่นเทา แอบภาวนาให้มันเป็นแค่ข่าวลือ“จริง!” สุกัญญายืนยันเสียงหนักแน่น “แต่เค้าปิดข่าว เมื่อสิบสามปีก่อนนี่เอง มีคนกระโดดตึกโรงพยาบาลลงไปตาย!”“หา!” น้ำพราวอุทานลั่นด้วยความตกใจ “กระโดดที่ตึกนี้เลยเหรอ!”“เออ! แต่ไม่ใช่จากดาดฟ้านะ จากชั้นที่สิบสาม หล่นลงมาตรงที่เค้าปลูกต้นแก้วไว้น่ะ ต้นแก้วอายุสิบกว่าปีที่หน้าคาเฟ่ใต้ตึกไง ต้นไม้ต้องห้ามที่ใครก็ห้ามเข้าใกล้เด็ดขาด
เมื่อเธอกลับมาทำงานอีกครั้ง สองพยาบาลเพื่อนซี๊ของเธอกำลังเม้าท์มอยด์ถึงหมอภูมินทร์อยู่พอดี เธอแทบจะหันหลังแล้วเดินหนีไปเลย หากไม่โดนน้ำพราวฉุดมือให้นั่งลงเสียก่อน“อบอุ่นชะมัดเลยแก อย่างกับโอปป้าแน่ะ!”เธอหันไปมองตามสายตาหื่น ๆ ของสองสาวที่เอาแต่จ้องผู้ชายตาเป็นมัน เห็นภูมินทร์ยืนคุยอยู่กับญาติคนไข้ตรงหน้าห้องพักฟื้นในท่วงท่าเป็นกันเอง แต่ก็ให้เกียรติ และใส่ใจ เธอยอมรับว่าเขาทั้งหล่อ สมาร์ท และดูอบอุ่นใจดี แต่ก็นั่นแหละ เธอเคยเห็นด้านมืดเขามาแล้ว จะให้เธอมองเขาดีร้อยเปอร์เซ็นเหมือนทุกคนในโรงพยาบาลนี้คงไม่ได้หรอก“หมอมินทร์หล่อที่สุดเลยเนาะ” สุกัญญาเป็นสาวห้าวออกแนวทอมบอย แต่กลับเป็นแฟนพันธุ์แท้ของหมอมินทร์มาตลอด “เห็นแล้วใจบาง อยากเกิดเป็นกางเกงในของเขาจัง คงจะมีความสุข”“ใครบอกว่าหล่อสุด รองประธานต่างหากเล่า” น้ำพราวเถียงคอเป็นเอ็น พร้อมกับทำตาเพ้อฝัน ยามนึกถึงใบหน้าของชัชวิน วรรธนันท์ ซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาล “คนอะไรหล่ออย่างกับพระเอกเกาหลีแน่ะ เห็นเค้าแล้วทำให้นึกถึงคิมวูบินทุกทีเลยอ่ะ”“สองคนนี้น่าจะได้กันนะ” ปาลิดาชักหมั่นไส้ “หมอมินทร์กับอีตารองประธานเนี่ย!”“ต๊า
ปาลิดาสั่งคาปูชิโน่ร้อนจาก ‘ต้นรักคาเฟ่’ ร้านกาแฟสุดโรแมนติกใต้ตึกโรงพยาบาลมาหนึ่งแก้วใหญ่ แล้วโดยสารลิฟต์ขึ้นมายังชั้นดาดฟ้า ซึ่งถูกจัดเป็นสวนสวยเพื่อการพักผ่อนสำหรับคนที่ชอบชมวิวเมืองใหญ่เมื่อไหร่ที่ว่างหรือมีเวลาพักจากงาน เธอมักจะขึ้นมานั่งเล่นบนนี้เสมอ โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ช่วงเวลาที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวนับล้านดวง“เฮ่อ...คืนนี้จะมีดาวตกมั้ยนะ” เธอเลือกนั่งตรงม้านั่งตัวเดิม ติดริมตึก ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้สวยที่สุด “อากาศหนาวจัง...อืม...ได้กลิ่นดอกแก้วขึ้นมาถึงบนนี้เลย”“แก้ว!” น้ำเสียงเอ็นดูปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์ เธอหันไปมองหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า รอยยิ้มเมตตาปราณีสร้างความอุ่นใจให้เธอเสมอมา ท่านนั่งลงใกล้กับเธอ แล้วจับมือเธอไว้แน่น เหมือนทุกครั้ง“แม่ปู”“ทำงานเป็นไงบ้าง”“สนุกมากค่ะ และก็มีความสุขมาก ๆ ด้วย”“เข้ากับเพื่อนร่วมงานได้มั้ย”“ได้สิคะ ทุกคนใจดีมากเลยค่ะ” เธอพูดความจริง แม้จะมีคนช่างนินทาอยู่บ้างก็เถอะ แต่เธอมีเพื่อนรักถึงสองคนเป็นเกราะคุ้มใจ นั่นก็คือสุกัญญาและน้ำพราว เพื่อนสมัยมัธยมที่ได้มาทำงานเป็นพยาบาลอยู่ในแผนกเด็กด้วยกันโดยบ
หลังทำงานหนักที่วอร์ดติดต่อกันมาหลายชั่วโมง ปาลิดาตั้งใจจะไปหากาแฟดื่มที่คาเฟ่ใต้ตึกและจะขึ้นไปนั่งพักผ่อนชมวิวที่สวนลอยฟ้าบนชั้นดาดฟ้าของตึกโรงพยาบาล ตึกสูงยี่สิบห้าชั้นนามว่า ‘ช่อแก้ว’ ซึ่งตั้งตามชื่อของลูกสาวผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลแห่งนี้ ตึกสีขาวที่หอมอบอวลไปด้วยดอกแก้วขาวละมุนในทุกฤดู“อืมม หอมจัง” ปาลิดาดมดอกแก้วที่อยู่กลางฝ่ามือตัวเองแล้วยิ้มเอ็นดูในความน่ารักน่าชังของดอกไม้ดอกจิ๋ว ขณะนั่งทำธุระอยู่บนโถชักโครกอย่างมีความสุข ก่อนที่ความทุกข์จะมาเยือนในนาทีต่อมา เมื่อหูของเธอดันได้ยินเสียงสบถขัดอกขัดใจจากคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องน้ำ เธอจำได้ทันทีว่าเป็นพยาบาลร่วมแผนกที่เข้ามาทำงานในเวลาไล่เลี่ยกัน“คุณปวีณาหัวหน้าพยาบาลดุฉิบเป๋งเลย วันนี้ฉันโดนด่าตั้งหลายครั้งแน่ะ ดุอย่างกับล็อตไวเลอร์ ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของโรงพยาบาล!!”โอ้วววว....พวกเธอกำลังคุยเรื่องแม่ปูของเธอนั่นเอง...แม่ปูหรือคุณปวีณา หัวหน้าพยาบาลที่กุมอำนาจงานในส่วนของพยาบาลเอาไว้ในมือแทบทั้งหมด หญิงวัยกลางคนที่งดงามทั้งภายนอกและภายใน สวยสง่าสมวัย แต่กลับโสดสนิท ไร้คู่ครองเคียงกาย“แกได้ยินข่าวลือมั้ย ที่ว่าหัวหน้าพยาบาลเป็นเม
หนึ่งเดือนมาแล้ว...ที่เธอได้สวมแบบฟอร์มสีขาวอันงดงามของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ‘MHD medical center’ ได้เป็นพยาบาลตามที่ฝันใฝ ได้ช่วยเหลือผู้อื่นอย่างที่ใจปรารถนา และได้เป็น ‘นางฟ้า’ ของเด็กน้อยมากมายนับไม่ถ้วนปาลิดาในวัย 23 ปี กลายเป็นหญิงสาวเต็มตัวที่สวยสะพรั่งดั่งดอกไม้งามกลางแสงอรุณ มีหัวใจที่อบอุ่นอ่อนโยนราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ ดวงตาสุกสกาวสดใสคู่นั้นมีความกล้าหาญซ่อนอยู่ แต่หากมองให้ลึกลงไปในส่วนเสี้ยวของแววตา ก็จะพบว่า มันเจือจางด้วยความเศร้าอย่างแผ่วบาง...“พอใส่ชุดนี้แล้วสวยขึ้นนะเนี่ย” เธอมองตัวเองในกระจกด้วยความภาคภูมิใจ ชุดพยาบาลทำให้เธอดูสวยกว่าเดิมหลายเท่า ริมฝีปากอิ่มสีพีชส่งให้ใบหน้ารูปไข่ไร้เครื่องสำอางดูเซ็กซี่แบบไม่ได้ตั้งใจ ผมดำยาวสลวยถูกรวบเก็บอย่างดีภายใต้หมวกพยาบาล เผยให้เห็นต้นคอระหงขาวสะอาด ดูสง่า ดุจนางพญา“เรานี่สวยจัง แต่...ใครจะรู้ล่ะ” ว่าเธอไม่ได้เพอร์เฟคอย่างที่ทุกคนคิด ความงามของเธอนั้นมีตำหนิ มีบาดแผลที่ลบไม่ออกซ่อนอยู่ บาดแผลที่สร้างความเจ็บปวดให้เธอทุกครั้งเมื่อนึกถึง...ย้อนไปเมื่อ 16 ปีก่อน ตอนที่เธออายุได้ 7 ขวบ มารดาได้พาเธอเข้าไปอยู่ในบ้านของพ่อเ