LOGINเจ้าจันทร์ขับรถมาจอดหน้าร้านเพื่อซื้ออาหารเป็นมื้อเที่ยงให้ชายหนุ่ม เธอเลือกข้าวหน้าเป็ดและเค้กสามชิ้นเป็นของหวานและน้ำผลไม้ล้างปาก
หลังจากที่ซื้อเสร็จก็ขับรถไปบริษัทของภาคินทันที สองเท้าก้าวเข้ามาบริษัทที่คุ้นเคย ทักทายพนักงานไปตลอดทางด้วยรอยยิ้มแจ่มใสก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟต์ พออยู่ในลิฟต์รอยยิ้มหวานก็หายไปทันทีกลับถูกแทนที่ด้วยใบหน้าที่เฉยเมยและว่างเปล่า จนกระทั่งประตูลิฟต์เปิดออก เธอก็ก้าวออกไปทันทีและทักทายเลขาหน้าห้องด้วยความคุ้นเคยพร้อมของฝากเป็นเค้กหนึ่งชิ้น มือเล็กเปิดประตูเข้าไปกลับเห็นฉากที่ทั้งสองคนกำลังเกี่ยวรัดกันและรีบผละตัวออกจากกันเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา “ขอโทษที่ขัดจังหวะค่ะพอดีเอาข้าวเที่ยงมาให้ แต่คงไม่ต้องกินแล้วเนอะดูท่าจะอิ่มแล้ว” พูดจบก็หันหลังเดินหนีทันทีทำให้ภาคินรีบวิ่งมาคว้าข้อมือไว้ “เจ้ามันไม่มีอะไรครับ เจ้ากินข้าวกับพี่ก่อนนะครับคนดี” “แต่พี่คินมีแขกนี่คะเจ้าไม่อยากรบกวน” “ไม่รบกวนเลยครับ ไม่เลย” เมลดาที่มองเห็นภาพที่ทั้งสองคนง้องอนกัน ก็รู้ทันทีว่าเจ้าจันทร์ต้องการจะทำอะไร เธอได้แต่เก็บความไม่พอใจเอาไว้ภายในไม่ให้มันแสดงออกมา “พี่ภาคินคะ ใครหรือคะ แนะนำให้เมลรู้จักหน่อยได้ไหม ใช่น้องสาวที่พี่ภาคินพูดถึงบ่อย ๆ หรือเปล่า” ภาคินที่ได้ยินเสียงเมลดาก็ตั้งสติได้และลืมตัวไปว่าไม่ได้อยู่กันตามลำพัง ก่อนจะหันมาแนะนำเจ้าจันทร์ให้รู้จัก “เมล นี่คุณเจ้าจันทร์ น้องสาวผมเอง เจ้านี่เมลเพื่อนพี่” “สวัสดีค่ะคุณเจ้าจันทร์ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” เมลดายื่นมือเพื่อทักทายแต่เจ้าจันทร์กลับมองมันด้วยความรังเกียจ “สวัสดีค่ะ” เจ้าจันทร์ทักทายตามมารยาทเพื่อไม่ให้ภาคินต้องเสียหน้า “เจ้าหิวหรือยัง กินข้าวก่อนไหม” “เมลขอฝากท้องด้วยได้ไหมคะ” “กลับเถอะครับอาหารมันไม่พอดี” ภาคินชักสีหน้าไม่พอใจแต่เจ้าจันทร์กลับแย่งพูดออกมาก่อน “ไม่เป็นไรค่ะทานด้วยกันก็ได้ ข้าวหน้าเป็ดมีสองห่อ เจ้ายกให้คุณเมลห่อหนึ่งส่วนพี่คินกินกับเจ้านะคะ” “ได้สิ ไม่มีปัญหา” เจ้าจันทร์ได้แต่ยิ้มขำที่อีกคนพยายามสร้างเรื่องแต่ก็ไม่เป็นดั่งที่ใจต้องการ เมลดามองเจ้าจันทร์ด้วยสายตาแปลกประหลาด นี่ใช่พี่จันทร์คนที่เธอเคยรักหรือเปล่าทำไมถึงเจ้าเล่ห์ชอบเอาชนะแบบนี้ ภาคินที่อยู่ตรงกลางของสองสาวที่ฟาดฟันกันไปมาแทบไม่ได้สนใจเลยว่าตนเองเป็นสาเหตุ เขาสนใจแค่จัดอาหารตรงหน้าให้เจ้าจันทร์เท่านั้น ส่วนเมลดาก็จัดอาหารใส่จานเอง เพราะคิดว่าภาคินคงไม่มาทำให้เธอหรอก “พี่ป้อนนะจะได้ไม่เลอะมือ อันนี้ร้านประจำพี่ใช่ไหม” “ใช่ค่ะพี่คิน ร้านประจำที่พี่พาเจ้าไปกินบ่อย ๆ ไงคะ ไว้วันหลังเราค่อยซื้อเป็ดย่างมากินด้วยดีไหม” “ดีค่ะ ทีหลังบอกพี่นะเดี๋ยวพี่ซื้อไปให้ไม่ต้องลำบากมาหาเอง” “ได้สิคะ เอาอันนี้ด้วยขอหนังด้วยสิ” “ตัวแสบ สั่งได้สั่งใหญ่เลยนะ อ้าปากครับ” เมลดาที่ก้มหน้าก้มตากินได้แต่เจ็บปวดในอก ภาคินไม่สนใจเธอเลย ไม่สนใจแม้สักนิด สนใจแต่เจ้าจันทร์เขาสองคนทำเหมือนเธอเป็นส่วนเกิน ได้แต่หวังว่าเจ้าจันทร์คงไม่ใช่ผู้หญิงในห้องลับนั่นหรอกนะ ไม่งั้นเธอก็สู้อะไรไม่ได้เลย ถ้าเลือกแล้วยังไม่ได้เป็นตัวจริง จะทำยังไงต่อไป “พี่ภาคิน คุณเจ้าจันทร์ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะคะ เมลขอกลับตัวก่อนนะคะ” “เดินทางปลอดภัยนะครับ ผมไม่ไปส่งนะ” ภาคินรีบปฏิเสธก่อนที่หญิงสาวจะพูดอะไรออกมา เมลดามองเจ้าจันทร์ที่ไม่ได้สนใจอะไรเธอเลยสักนิด กลับหยอกล้อกับภาคินอย่างสนุกสนาน เลิกกันได้วันเดียวเจ้าจันทร์ลืมเธอได้เร็วขนาดนี้เลยหรือไง หรือจริง ๆ แล้วก็อยากเลิกกับเธอเหมือนกัน หรือเจ้าจันทร์ก็หลงลีลาบนเตียงของภาคินเหมือนเธอ เจ้าจันทร์ที่ใช้หางตามองเมลดาเดินออกไปจากห้องด้วยแววตาร้ายกาจแสยะยิ้มเล็กน้อยและเก็บขยะเพื่อจะเอาไปทิ้ง ภาคินพยักหน้ารับรู้เธอจึงเดินออกไป เจ้าจันทร์เดินมาทิ้งขยะหน้าห้องน้ำก่อนจะเข้าห้องน้ำไปล้างมือให้สะอาด “สนุกไหมคะพี่จันทร์ที่ทำตัวแบบนี้ สนุกไหมคะที่เห็นพี่ภาคินเป็นเหยื่อในเกมนี้” เมลดาเห็นเจ้าจันทร์เข้ามาล้างมือก็สาดอารมณ์ใส่ทันที เจ้าจันทร์เงยหน้ามองคนในกระจกด้วยแววตาเฉยเมยก่อนจะเอ่ยออกมามา “ก็สนุกดีนะ เห็นเธอรู้สึกแย่ก็สะใจดี นี่เหรอคนที่เธอเลือกแล้วทิ้งฉันไปก็ไม่เห็นเขาจะสนใจใส่ใจสักเท่าไหร่นี่ แต่ถ้าส่วนเกินน่าจะใช่อยู่นะคิดแบบนั้นหรือเปล่าเมลดา” “ใช่ค่ะ เมลเป็นส่วนเกิน แต่พี่จันทร์อย่าคิดนะคะว่าทำเมลได้ฝ่ายเดียว ไม่มีทางที่เมลจะยอมยกพี่ภาคินให้เด็ดขาด” “อ่อ! อยากทำอะไรก็ทำเถอะตามสบายเลยฉันไม่สนใจหรอก เลิกกันแล้วนี่นาเกี่ยกับฉันตรงไหนกัน” เจ้าจันทร์ยักไหล่ไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไหร่ ตอนนี้ยิ่งเห็นหน้าก็รู้สึกผะอืดผะอมจนอยากจะอ้วกออกมาซะเดี๋ยวนั้น คำพูดของเจ้าจันทร์ทำเอาความอดทนของเมลดาหมดลง “เลิกยุ่งกับพี่ภาคินซะ พี่จันทร์ทนไม่ไหวหรอกอีกอย่างผู้หญิงจืดชืดอย่างพี่เจ้าจันทร์ตอบสนองพี่ภาคินไม่ได้หรอก แค่เห็นก็หมดอารมณ์แล้ว” เจ้าจันทร์เดินเข้าหาเมลดาก่อนจะทำหน้าสงสัยแต่มุมปากกับยกขึ้นราวกับว่ากำลังมองคนโง่ “จืดชืด? บางทีผู้ชายอาจจะชอบของจืดชืดมากกว่าต้มยำที่มีแต่ความเผ็ดร้อน ผลสุดท้ายไม่ว่ายังไงก็ต้องล้างปากด้วยของจืดอยู่ดี” “ไม่รู้มาก่อนเลยนะคะว่าพี่เจ้าจันทร์จะร้ายเงียบแบบนี้ ที่พูดมาทั้งหมดจะเก็บพี่ภาคินไว้คนเดียวใช่ไหมคะ” “ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าผู้ชายคนเดียวจะทำให้เธอเป็นได้ขนาดนี้นะเมลดา ทั้งที่ฉันรักเธอมาตลอดไม่คิดนอกใจ เธอทำลงไปได้ยังไง ไม่สงสารฉันบ้างเลยหรือไง” เจ้าจันทร์แผดเสียงใส่ทำให้ไม่ได้ยินเสียงคนที่ยืนอยู่หน้าประตู “แล้วพี่จันทร์จะให้เมลทำยังไง เมลเมาแล้วพลาดมีอะไรกับพี่ภาคินไปแล้ว” “พลาด?” เจ้าจันทร์บีบไหล่หญิงสาวตรงหน้าด้วยความเกลียดชัง “เธอไม่ได้พลาดแต่ตั้งใจมากกว่า ตั้งใจอ้าขาให้คนอื่นและนอกใจฉัน ถ้าเธอพลาดอย่างที่ปากพูดจริง ฮึก…ต้องหยุดได้แล้วไม่ใช่มาสานต่อ สามเดือนเลยนะมันพลาดตรงไหนเอากับผู้ชายคนนั้นมาสามเดือนแล้ว อยู่ในสถานะคู่นอนมันเรียกพลาดได้หรือไง” “พี่จันทร์ พี่… พี่รู้มาตลอดเลยเหรอ” เมลดาเซถอยหลังด้วยความตกใจ ยิ่งมองเห็นน้ำตาของคนตรงหน้าก็รู้ว่าที่เจ้าจันทร์ทำในวันนี้คือการแก้แค้นเธอที่นอกใจ “ที่พี่ทำทั้งหมดก็เพื่อแก้แค้นเมลด้วยการเข้าหาพี่ภาคินใช่ไหมคะ” เจ้าจันทร์ปรายตามองก่อนจะไม่ได้สนใจหลังจากที่ตั้งสติได้ หญิงสาวใช้หลังมือปาดน้ำตาออกจากใบหน้า แววตาแข็งกร้าวลุกโชนด้วยความเกลียดชังก่อนจะเอ่ยตอบกลับไป “ถ้าใช่แล้วจะทำไม คิดว่าฉันจะปล่อยให้พวกชู้ที่ลักกินขโมยกินสมหวังกันหรือยังไง ไม่มีทาง!” เจ้าจันทร์มองใบหน้าเล็กที่เจ็บปวดใจก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะในใจ มันสมควรแล้วกับสิ่งที่พวกเขาทำ หลังจากนี้เธอจะถอยห่างให้ไกลจากสองคนนี้ “เพราะงั้นพี่ก็เลยเป็นไอ้หน้าโง่ให้พวกเธอสองคนปั่นหัวจนสนุกเลยสินะ” ทั้งสองคนหันไปมองเสียงที่มาจากประประตูห้องน้ำอย่างพร้อมเพรียงกัน เมลดาสีหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นภาคินมองมา ความลับที่ปิดเอาไว้ตลอดได้เปิดเผยจนเธอไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย ถ้าเจ้าจันทร์ไม่มาที่นี่เรื่องทุกอย่างก็จะเป็นความลับตลอดไป หญิงสาวก้าวไปหาอดีตคนรักแต่ยังไม่ได้ทำอะไรกลับได้ยินเสียงตวาดจากคนด้านหลัง “กลับไปซะเมลดา” “พี่ภาคิน เมลอธิบายได้นะ” “กลับไป! ก่อนที่ผมจะหมดความอดทนกับคุณ” ภาคินกัดฟันกรามกรอดจนเมลดาตกใจกลัวเพราะไม่เคยเห็นท่าทางแบบนี้ของเขามาก่อนได้แต่เดินจากไปเมื่ออยู่กันสองคนภาคินที่มีสีหน้าเรียบนิ่งไร้ความรู้สึกก็เดินเข้ามายืนตรงหน้าของหญิงสาวที่ก้มหน้าลง เธอก้าวถอยหลังเพราะตั้งรับกับสถานการณ์ตรงหน้าไม่ทัน ร่างเล็กตัวสั่นเหมือนลูกนกที่พลัดออกจากรังชายหนุ่มใช้สองแขนคร่อมเหนือร่างเพื่อกันไม่ให้เจ้าตัวหนีไปไหน ก่อนจะโน้มหน้าลงไปกระซิบด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ “เห็นพี่โง่เป็นควายขนาดนั้นเลยใช่ไหมถึงปั่นหัวกันแบบนี้ เจ้าจันทร์คนดีบอกให้พี่ชื่นใจหน่อยสิ”เจ้าจันทร์ที่รู้ว่าภาคินกำลังโกรธจึงเงยหน้าขึ้นมามองพร้อมหยดน้ำตาที่ไหลไม่ขาดสาย “เจ้าขอโทษพี่คิน ฮือ..ขอโทษ แต่เจ้าไม่ผิด พี่เป็นชู้กับแฟนเจ้าจริงนี่ เจ้าเจ็บ เจ้าอยากแก้แค้นบ้างเจ้าผิดตรงไหน”ภาคินได้ฟังสิ่งที่อีกคนพูดออกมาก็โมโหจนขบฟันกรามแน่น เขาก้าวถอยหลังและเดินไปปิดประห้องน้ำก่อนจะดันร่างของหญิงสาวจนติดผนังห้องน้ำ“พะ พี่คิน” เจ้าจันทร์ดิ้นสุดแรงเกิดเพราะรู้ว่าตัวเองจะไม่รอด“เก่งมากเลยนะ เก่งเหลือเกินทำร้ายหัวใจพี่ได้ตลอดเวลา ที่ผ่านมาพี่ยังอดทนกับเธอไม่พอหรือไง จะเหยียบพี่ให้จมดินเลยใช่ไหม”“ไม่ใช่แบบนั้น เจ้าไม่ได้คิดแบบนั้น” เธอส่ายหน้าปฏ
เจ้าจันทร์ขับรถมาจอดหน้าร้านเพื่อซื้ออาหารเป็นมื้อเที่ยงให้ชายหนุ่ม เธอเลือกข้าวหน้าเป็ดและเค้กสามชิ้นเป็นของหวานและน้ำผลไม้ล้างปาก หลังจากที่ซื้อเสร็จก็ขับรถไปบริษัทของภาคินทันที สองเท้าก้าวเข้ามาบริษัทที่คุ้นเคย ทักทายพนักงานไปตลอดทางด้วยรอยยิ้มแจ่มใสก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟต์พออยู่ในลิฟต์รอยยิ้มหวานก็หายไปทันทีกลับถูกแทนที่ด้วยใบหน้าที่เฉยเมยและว่างเปล่า จนกระทั่งประตูลิฟต์เปิดออก เธอก็ก้าวออกไปทันทีและทักทายเลขาหน้าห้องด้วยความคุ้นเคยพร้อมของฝากเป็นเค้กหนึ่งชิ้น มือเล็กเปิดประตูเข้าไปกลับเห็นฉากที่ทั้งสองคนกำลังเกี่ยวรัดกันและรีบผละตัวออกจากกันเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา “ขอโทษที่ขัดจังหวะค่ะพอดีเอาข้าวเที่ยงมาให้ แต่คงไม่ต้องกินแล้วเนอะดูท่าจะอิ่มแล้ว” พูดจบก็หันหลังเดินหนีทันทีทำให้ภาคินรีบวิ่งมาคว้าข้อมือไว้“เจ้ามันไม่มีอะไรครับ เจ้ากินข้าวกับพี่ก่อนนะครับคนดี”“แต่พี่คินมีแขกนี่คะเจ้าไม่อยากรบกวน”“ไม่รบกวนเลยครับ ไม่เลย” เมลดาที่มองเห็นภาพที่ทั้งสองคนง้องอนกัน ก็รู้ทันทีว่าเจ้าจันทร์ต้องการจะทำอะไร เธอได้แต่เก็บความไม่พอใจเอาไว้ภายในไม่ให้มันแส
แสงอาทิตย์วันใหม่ที่สาดส่องลงมาทำให้ภาคินต้องยกมือบังหน้า ก่อนจะลุกไปปิดผ้าม่านทำให้ห้องทึบอีกครั้งก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมือบ่งบอกว่าตอนนี้เจ็ดโมงเช้าแล้ว เขารีบเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการตนเองและเร่งฝีเท้าไปยังห้องครัวเพื่อเตรียมตัวทำอาหารเช้าให้อีกคน แต่ไม่นึกว่าจะได้เห็นน้องสาวเพื่อนที่เขาเอ็นดูอยู่ในส่วนลึกจะมาจับตะหลิวทำครัวแบบนี้ ร่างบางที่หยิบจับนู่นนี่ด้วยความคล่องแคล่วทำให้ภาคินมีความสุขที่ได้แอบมองอยู่ตรงนี้ “อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่คิน” เจ้าจันทร์ที่หันมาเจอภาคินก็ทักทายด้วยรอยยิ้มสดใส “อรุณสวัสดิ์ครับเจ้า” ภาคินตอบรับรอยยิ้มของเจ้าจันทร์ด้วยคำทักทายเช่นกัน สองเท้าก้าวมาข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีตอนอยู่ตรงหน้าเจ้าจันทร์ที่ห่างกันแค่คืบ ซึ่งไม่แตกต่างจากหญิงสาวที่เฝ้ามองการกระทำของภาคินด้วยใจที่ว้าวุ่นจนแทบจะห้ามตัวเองไม่อยู่ “หิวหรือยังเอ่ย เจ้าทำอาหารแบบง่าย ๆ นะคะกินก่อนไปทำงาน ของพี่คินเป็นไส้กรอกขนมปังไข่ดาวและกาแฟสูตรเดิม ส่วนของเจ้าเป็นข้าวผัด” “ต่อไปเจ้าทำแบบที่เจ้าชอบก็ได้ พี่กินอะไรก็ได้ไม่ได้เรื่องมากเท่าไหร่”
ภาคินรีบขับรถกลับมายังคอนโดทันทีที่ได้เห็นข้อความจากน้องสาวของเพื่อนว่าจะมากินข้าวด้วย ทำให้เขายกเลิกนัดกับเด็กในสังกัด จะมีใครสำคัญไปกว่าเด็กคนนี้อีกล่ะ และเป็นคนเดียวที่เขายอมทำทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้ ภาคินรีบขึ้นห้องและเก็บของในห้องทันที อะไรที่ไม่เข้าที่เข้าทางก็รีบเคลียร์พื้นที่ทุกอย่างให้มันเรียบร้อย หลังจากเช็กสภาพห้องเสร็จก็รีบลงไปรอที่ลานจอดรถทันที ครั้นพอเห็นรถยนต์สีดำแค่มองก็รู้แล้วว่าเจ้าของรถเป็นใคร ทันทีที่รถจอดนิ่งเขาก็พุ่งเข้าหารถคันนั้นทันที “อุ๊ย! ตกใจหมดเลยพี่คิน ทำไมเหงื่อออกเยอะขนาดนี้ วิ่งมาใช่ไหมคะเนี่ย คิกคิก” เจ้าจันทร์ทักทายชายหนุ่มที่วิ่งเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว อดไม่ได้ที่จะยื่นปลายนิ้วไปเช็ดเหงื่อออกให้อย่างใส่ใจ ทันทีที่ปลายนิ้วของหญิงสาวสัมผัสบริเวณหางคิ้ว ภาคินก็ตัวแข็งทื่อจนทำตัวไม่ถูก ใบหน้าขึ้นริ้วสีแดงจนลามไปถึงใบหู “หยอกพี่เล่นอีกแล้วเห็นใจคนแก่บ้างเถอะ หัวใจจะวายเอาได้นะ” “ขำขำนะคะ ซื้อกับข้าวมาหลายอย่างเลย มีขนมหวานของชอบพี่คินด้วย” “ขอบคุณครับ นึกถ
ภาคินกำลังอ่านรายงานที่เลขาสรุปมาให้ก็ขมวดคิ้วไม่หยุด ได้แต่ทนอ่านรายงานต่อไป สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่าไม่สามารถร่วมงานกับบริษัทที่ทำงานห่วยแตกแบบนี้ได้เลย “ยกเลิกซะ และจ่ายค่าเสียเวลาไป” “รับทราบค่ะ บอสคะทางคุณแม่ของคุณเมลดาเชิญบอสไปทานข้าวที่บ้านค่ะ” “ไม่ไป วุ่นวายซะจริง” “เดี๋ยวดิฉันจะรีบจัดการให้เลยค่ะ บอสหายห่วงได้เลยค่ะ” ภาคินที่ตรวจเอกสารเสร็จก็ส่งให้เลขาทันที จนเลขาเดินออกจากห้องไป เขาก็เคาะนิ้วกับโต๊ะเป็นจังหวะอย่างคนใช้ความคิด “ล้ำเส้นซะจริง คิดว่าลูกสาวเป็นคู่นอนฉันและจะทำอะไรตามอำเภอใจได้หรือไง น่าเบื่อ” ครืดดด ครืดดด ภาคินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและก็จ้องมองข้อความนั้น นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้คุยกัน เจ้าจันทร์ : มาหาเจ้าหน่อย เจ้าไม่สบาย เจ้าไม่สบาย เจ้านี่นะป่วย?! ภาคินมองไปด้านหลังก็เห็นหยาดฝนโปรยปราย เขาหยิบกุญแจรถและพุ่งตัวออกไปทันที ชายหนุ่มขับรถแวะตลาดใกล้คอนโดของเจ้าจันทร์ นานมากแล้วที่ไม่ได้ทำอะไรแบบนี้ เขาเดินสำรวจของที่จะซื้อและไม่ลืมของหวานที่คนป่วยชอบรวมทั้งยากับแผ่นแปะลดไข้ ก่อนจะติดผลไม้กลับไปด้วย ไม่กี่อึดใจรถก็เข้ามาจอดใต้คอนโด สองเท้ารี
เมลดาหลังจากที่ออกมาจากคอนโดของเจ้าจันทร์ก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังบริษัทของภาคิน เธอเดินเข้าไปด้านในและกดลิฟต์ไปยังชั้นที่สามสิบห้า ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกก็เข้าไปหาประธานหนุ่มทันทีไม่จำเป็นต้องให้เลขารายงาน “วันนี้มาเร็วจังนะ คิดถึงหรือไง” ชายหนุ่มพูดจบพลางตบขาให้มานั่ง หญิงสาวเดินมานั่งบนตักอย่างว่าง่าย สองมือของชายหนุ่มบีบไปที่ต้นขาและลูบมันไปมาพร้อมกับสายตาที่บ่งบอกความต้องการ “คิดถึงไงคะเลยรีบมาหา พี่ภาคินไม่ดีใจหรือคะเนี่ย” “ดีใจสิ แค่เธอมาหาก็ดีใจแล้ว อยากกินอะไรหรือเปล่าสั่งได้เลย” “ยังไม่หิวเลยค่ะ อยากกินพี่ภาคินแทนจะได้ไหม” สายตาหวานเชื่อมออดอ้อนภาคินและซบหน้าไปบนอกแกร่ง “หึ! แล้วรออะไรอยู่ล่ะ พี่พร้อมตลอดเวลา” ทันทีที่ได้รับอนุญาตก็ไถตัวลงไปนั่งข้างล่างตรงกลางหว่างขาทันที สองมือเอื้อมไปปลดเข็มขัดและรูดซิปลงพลางควักท่อนเนื้อสีชมพูอ่อนที่ตอนนี้กำลังจะตื่นขึ้นมา “มองแบบนี้ระวังขาจะหุบไม่ได้นะคะคนดี” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อแกมอารมณ์ดี ที่ได้แกล้งจนทำให้เด็กสาวคนนี้อ่อนระทวยกับคำหวานของเขา “ปากหวานจังเลยนะคะพี่ภาคิน แต่ทำตรงนี้จะดีหรือคะ เข้าไปทำในห้องนอนไ







