LOGINแสงอาทิตย์วันใหม่ที่สาดส่องลงมาทำให้ภาคินต้องยกมือบังหน้า ก่อนจะลุกไปปิดผ้าม่านทำให้ห้องทึบอีกครั้งก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมือบ่งบอกว่าตอนนี้เจ็ดโมงเช้าแล้ว เขารีบเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการตนเองและเร่งฝีเท้าไปยังห้องครัวเพื่อเตรียมตัวทำอาหารเช้าให้อีกคน
แต่ไม่นึกว่าจะได้เห็นน้องสาวเพื่อนที่เขาเอ็นดูอยู่ในส่วนลึกจะมาจับตะหลิวทำครัวแบบนี้ ร่างบางที่หยิบจับนู่นนี่ด้วยความคล่องแคล่วทำให้ภาคินมีความสุขที่ได้แอบมองอยู่ตรงนี้ “อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่คิน” เจ้าจันทร์ที่หันมาเจอภาคินก็ทักทายด้วยรอยยิ้มสดใส “อรุณสวัสดิ์ครับเจ้า” ภาคินตอบรับรอยยิ้มของเจ้าจันทร์ด้วยคำทักทายเช่นกัน สองเท้าก้าวมาข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีตอนอยู่ตรงหน้าเจ้าจันทร์ที่ห่างกันแค่คืบ ซึ่งไม่แตกต่างจากหญิงสาวที่เฝ้ามองการกระทำของภาคินด้วยใจที่ว้าวุ่นจนแทบจะห้ามตัวเองไม่อยู่ “หิวหรือยังเอ่ย เจ้าทำอาหารแบบง่าย ๆ นะคะกินก่อนไปทำงาน ของพี่คินเป็นไส้กรอกขนมปังไข่ดาวและกาแฟสูตรเดิม ส่วนของเจ้าเป็นข้าวผัด” “ต่อไปเจ้าทำแบบที่เจ้าชอบก็ได้ พี่กินอะไรก็ได้ไม่ได้เรื่องมากเท่าไหร่” “รับทราบค่ะ ตอนเที่ยงเจ้าไปหาได้ไหมคะ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจยิ่งเห็นเขามอฃมาพร้อมคำถามก็รีบเร่งตอบ “คือเจ้าอยากทานข้าวด้วยและอีกอย่างว่างค่ะ เดี๋ยวช่วงเย็นเจ้าจะซื้อของเข้ามาเติมในครัว” “เจ้ามาได้เลยครับพี่ว่างตลอด ส่วนซื้อของเดี๋ยวให้ลูกน้องไปจัดการ” ภาคินยิ้มอย่างอ่อนโยนเมื่อรู้ตัวว่าใช้สายตาแบบนั้นกับน้องน้อย อะไรที่คนตรงหน้าอยากทำเขาเต็มใจเสมอ “ไม่เอาเจ้าจะซื้อเอง บางอย่างลูกน้องพี่ก็ซื้อไม่รู้เรื่อง เอาแบบนี้ดีกว่าตอนเที่ยงเจ้าไปกินข้าวกับพี่คิน พอช่วงบ่ายไปซื้อของที่ห้างกว่าพี่คินจะกลับมาเจ้าก็คงจัดของเรียบร้อยแล้ว” “งั้นเอางี้นะ เอาลูกน้องพี่ไปด้วยจะได้ช่วยเจ้าถือของ ส่วนเสื้อผ้าของเจ้าพี่ก็สั่งลูกน้องให้จัดการแล้วพอกลับมาเจ้าก็จัดของเอานะ” “รับทราบค่ะพี่ภาคิน” ทั้งสองคนต่างก้มหน้าก้มตาทานมื้อเช้าที่เต็มไปด้วยความสุข โดยเฉพาะภาคินที่ใบหน้าแต้มไปด้วยรอยยิ้มหวาน ทันทีที่ทานข้าวกันเรียบร้อยทั้งสองคนก็แยกย้ายกันไปทำงาน ภาคินไปบริษัทตนเอง แตกต่างจากเจ้าจันทร์ที่ปลายทางคือบริษัทพี่ชายตนเอง สองมือกำหมัดแน่นก่อนจะเดินเข้าไปทันทีที่เลขาหน้าห้องรายงานเจ้าของห้องเสร็จเรียบร้อย “ไงไอ้แสบ เมื่อคืนนอนห้องใคร” “รู้หรือไง หืม” “ไม่โง่นี่ครับ มาหาพี่มาให้พี่กอดที” เจ้าจอมอ้าแขนออกกว้างให้น้องสาว ก่อนจะคว้าร่างบางมากอดด้วยความหวงแหน เจ้าจันทร์วิ่งหาอ้อมกอดพี่ชายด้วยความโหยหา ก่อนจะสะอึกสะอื้นกับอกแกร่งและกอดรัดร่างหนาของพี่ชายจนแน่น “ไม่เป็นไรนะเจ้า ไม่เป็นไร เขาไม่เห็นค่าของเราไม่เป็นไร เจ้ายังมีพี่อยู่นะ มีพ่อแม่ที่รักเจ้าอยู่นะทุกคนรักเจ้านะครับ” เจ้าจอมพยายามปลอบร่างบางในอ้อมอกด้วยความใจเย็น แม้ภายในใจของเขาจะเต็มไปด้วยความร้อนรุ่ม “เจ้าผิดอะไรหรือพี่จอม ผู้หญิงคนนั้นทำแบบนี้กับเจ้าได้ยังไง” “ไม่ผิดเลยที่ผ่านมาเจ้าเต็มที่กับมันที่สุดแล้ว ในเมื่อเขาอยากไปก็ให้เขาไปเถอะ ที่พี่จะบอกคือไอ้คินมันไม่รู้เรื่อง เจ้าใช้มันเป็นเหยื่อล่อเจ้ารู้ไหมว่าทำไม่ถูก ถ้ามันรู้ว่ามันคือสาเหตุที่ทำให้เจ้าเจ็บปวดเสียใจแบบนี้คงรู้สึกแย่ไม่ต่างกันหรอก” เจ้าจันทร์คิดตามคำพูดพี่ชาย ก็พยักหน้าเข้าใจแต่ก็กลับลำไม่ทันแล้ว “พี่จอมช่วยเจ้าได้ไหม ปิดข้อมูลเมลดาไว้อย่าให้คนของพี่คินสืบเจอ เจ้าขอเวลาไม่นานเจ้าจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นรู้ว่า การที่เขาเลิกกับเจ้าคือสิ่งที่ผิด ในเมื่อเขาอยากได้พี่คินแต่เจ้าไม่ให้ และไม่มีวันได้” “คุ้มหรือเจ้าจันทร์เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในเกมพวกนี้ ไม่เล่นกับไฟไปหน่อยหรือไง ถ้าสิ่งที่เจ้าทำมันทำให้ไอ้คินไม่ปล่อยเจ้าไปจะทำยังไงเคยคิดถึงตรงนั้นหรือเปล่า” “และพี่จอมจะให้เจ้าทำยังไง ให้เจ้าปล่อยพวกมันไป ปล่อยให้พวกมันเสวยสุขกันหรือไง ตอนที่บอกเลิกเจ้ามันยังควงแขนออกมากับพี่คินเลย เจ้าเจ็บ เจ็บมาก พี่คินก็ต้องได้รับบทลงโทษจากเจ้าด้วย เจ้าผิดตรงไหนกันทั้งที่เจ้าไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง ไม่เคยนอกใจ รักอย่างดี สู้ทุกอย่าง แล้วตอนนี้คืออะไร เจ้าสู้ไปเพื่ออะไร ทำไมถึงทิ้งกันได้ลงคอ” เจ้าจอมได้แต่โอบกอดร่างบางที่ตอนนี้กำลังแตกสลายด้วยความเจ็บปวด เขาทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ทำตามที่น้องสาวตนเองต้องการ ให้เจ้าจันทร์ได้ระบายออกมาบ้างไว้เบื่อเมื่อไหร่ก็คงหยุดเองและหวังว่ามันจะทันนะ และเขาก็คิดว่า ไอ้คินไม่น่าจะปล่อยน้องสาวเขาไปง่าย ๆ ดันเล่นเข้าไปอยู่ในถ้ำเสือแบบนั้น เฮ้อ…เขาไม่อยากมีน้องเขยที่ชื่อภาคินหรอกนะ แต่เจ้าจันทร์ชอบผู้หญิงมาตลอด มันจะเอาอะไรผูกรั้งเจ้าจันทร์ให้อยู่กับมันได้ “เจ้ากินอะไรมาหรือยัง ตอนเที่ยงไปกินข้าวกับพี่ไหมเดี๋ยวเลี้ยงเอง” “ตอนเที่ยงเจ้าจะไปหาพี่คินและจะซื้อของเข้าห้องหน่อย” “รู้ไหมว่าไอ้คินมันตัวอันตราย มันเป็นเสือที่ชอบล่าเหยื่อ เจ้าแน่ใจหรือที่จะอยู่กับมันแบบนั้น” “เจ้าก็ไม่เห็นว่าเขาจะเป็นเสือตรงไหนเลย เขาก็ดูปกติ” “เอาเถอะมีอะไรก็โทรมาหาพี่นะ พี่จะปิดพ่อแม่ไว้ให้ก่อน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พวกเขารู้ เจ้าจะต้องเคารพการตัดสินใจของพ่อแม่นะรู้หรือเปล่า” “รู้แล้วค่ะ เจ้าขอบคุณพี่จอมนะ” “เราพี่น้องกันนี่ ไม่ช่วยเจ้าให้พี่ไปช่วยใคร” “งั้นเจ้าไปก่อนนะ รักพี่จอมนะ” เจ้าจอมมองตามหลังน้องสาวที่เดินออกจากประตูจนลับหายไป เขาได้แต่ทำใจถ้าไอ้คินรู้เรื่อง ยัยเด็กนั่นจะรอดหรือเปล่า และถ้าวันหนึ่งเจ้าจันทร์ตกไปในหลุมที่ตัวเองขุดขึ้นมา นึกสภาพไม่ออกจริง ๆ เขาหยิบมือถือและพิมพ์ข้อความลงไปคงทำได้แค่ยืดเวลาล่ะนะ ความลับหญิงสาวในห้องนั้นที่ภาคินหวงแหน เหอะ ถ้าเจ้าจันทร์รู้คงช็อกตาย เลือกเองกันทั้งนั้น เกมนี้ใครจะเป็นฝ่ายชนะนะ เจ้าจันทร์หรือภาคินเมื่ออยู่กันสองคนภาคินที่มีสีหน้าเรียบนิ่งไร้ความรู้สึกก็เดินเข้ามายืนตรงหน้าของหญิงสาวที่ก้มหน้าลง เธอก้าวถอยหลังเพราะตั้งรับกับสถานการณ์ตรงหน้าไม่ทัน ร่างเล็กตัวสั่นเหมือนลูกนกที่พลัดออกจากรังชายหนุ่มใช้สองแขนคร่อมเหนือร่างเพื่อกันไม่ให้เจ้าตัวหนีไปไหน ก่อนจะโน้มหน้าลงไปกระซิบด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ “เห็นพี่โง่เป็นควายขนาดนั้นเลยใช่ไหมถึงปั่นหัวกันแบบนี้ เจ้าจันทร์คนดีบอกให้พี่ชื่นใจหน่อยสิ”เจ้าจันทร์ที่รู้ว่าภาคินกำลังโกรธจึงเงยหน้าขึ้นมามองพร้อมหยดน้ำตาที่ไหลไม่ขาดสาย “เจ้าขอโทษพี่คิน ฮือ..ขอโทษ แต่เจ้าไม่ผิด พี่เป็นชู้กับแฟนเจ้าจริงนี่ เจ้าเจ็บ เจ้าอยากแก้แค้นบ้างเจ้าผิดตรงไหน”ภาคินได้ฟังสิ่งที่อีกคนพูดออกมาก็โมโหจนขบฟันกรามแน่น เขาก้าวถอยหลังและเดินไปปิดประห้องน้ำก่อนจะดันร่างของหญิงสาวจนติดผนังห้องน้ำ“พะ พี่คิน” เจ้าจันทร์ดิ้นสุดแรงเกิดเพราะรู้ว่าตัวเองจะไม่รอด“เก่งมากเลยนะ เก่งเหลือเกินทำร้ายหัวใจพี่ได้ตลอดเวลา ที่ผ่านมาพี่ยังอดทนกับเธอไม่พอหรือไง จะเหยียบพี่ให้จมดินเลยใช่ไหม”“ไม่ใช่แบบนั้น เจ้าไม่ได้คิดแบบนั้น” เธอส่ายหน้าปฏ
เจ้าจันทร์ขับรถมาจอดหน้าร้านเพื่อซื้ออาหารเป็นมื้อเที่ยงให้ชายหนุ่ม เธอเลือกข้าวหน้าเป็ดและเค้กสามชิ้นเป็นของหวานและน้ำผลไม้ล้างปาก หลังจากที่ซื้อเสร็จก็ขับรถไปบริษัทของภาคินทันที สองเท้าก้าวเข้ามาบริษัทที่คุ้นเคย ทักทายพนักงานไปตลอดทางด้วยรอยยิ้มแจ่มใสก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟต์พออยู่ในลิฟต์รอยยิ้มหวานก็หายไปทันทีกลับถูกแทนที่ด้วยใบหน้าที่เฉยเมยและว่างเปล่า จนกระทั่งประตูลิฟต์เปิดออก เธอก็ก้าวออกไปทันทีและทักทายเลขาหน้าห้องด้วยความคุ้นเคยพร้อมของฝากเป็นเค้กหนึ่งชิ้น มือเล็กเปิดประตูเข้าไปกลับเห็นฉากที่ทั้งสองคนกำลังเกี่ยวรัดกันและรีบผละตัวออกจากกันเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา “ขอโทษที่ขัดจังหวะค่ะพอดีเอาข้าวเที่ยงมาให้ แต่คงไม่ต้องกินแล้วเนอะดูท่าจะอิ่มแล้ว” พูดจบก็หันหลังเดินหนีทันทีทำให้ภาคินรีบวิ่งมาคว้าข้อมือไว้“เจ้ามันไม่มีอะไรครับ เจ้ากินข้าวกับพี่ก่อนนะครับคนดี”“แต่พี่คินมีแขกนี่คะเจ้าไม่อยากรบกวน”“ไม่รบกวนเลยครับ ไม่เลย” เมลดาที่มองเห็นภาพที่ทั้งสองคนง้องอนกัน ก็รู้ทันทีว่าเจ้าจันทร์ต้องการจะทำอะไร เธอได้แต่เก็บความไม่พอใจเอาไว้ภายในไม่ให้มันแส
แสงอาทิตย์วันใหม่ที่สาดส่องลงมาทำให้ภาคินต้องยกมือบังหน้า ก่อนจะลุกไปปิดผ้าม่านทำให้ห้องทึบอีกครั้งก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมือบ่งบอกว่าตอนนี้เจ็ดโมงเช้าแล้ว เขารีบเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการตนเองและเร่งฝีเท้าไปยังห้องครัวเพื่อเตรียมตัวทำอาหารเช้าให้อีกคน แต่ไม่นึกว่าจะได้เห็นน้องสาวเพื่อนที่เขาเอ็นดูอยู่ในส่วนลึกจะมาจับตะหลิวทำครัวแบบนี้ ร่างบางที่หยิบจับนู่นนี่ด้วยความคล่องแคล่วทำให้ภาคินมีความสุขที่ได้แอบมองอยู่ตรงนี้ “อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่คิน” เจ้าจันทร์ที่หันมาเจอภาคินก็ทักทายด้วยรอยยิ้มสดใส “อรุณสวัสดิ์ครับเจ้า” ภาคินตอบรับรอยยิ้มของเจ้าจันทร์ด้วยคำทักทายเช่นกัน สองเท้าก้าวมาข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีตอนอยู่ตรงหน้าเจ้าจันทร์ที่ห่างกันแค่คืบ ซึ่งไม่แตกต่างจากหญิงสาวที่เฝ้ามองการกระทำของภาคินด้วยใจที่ว้าวุ่นจนแทบจะห้ามตัวเองไม่อยู่ “หิวหรือยังเอ่ย เจ้าทำอาหารแบบง่าย ๆ นะคะกินก่อนไปทำงาน ของพี่คินเป็นไส้กรอกขนมปังไข่ดาวและกาแฟสูตรเดิม ส่วนของเจ้าเป็นข้าวผัด” “ต่อไปเจ้าทำแบบที่เจ้าชอบก็ได้ พี่กินอะไรก็ได้ไม่ได้เรื่องมากเท่าไหร่”
ภาคินรีบขับรถกลับมายังคอนโดทันทีที่ได้เห็นข้อความจากน้องสาวของเพื่อนว่าจะมากินข้าวด้วย ทำให้เขายกเลิกนัดกับเด็กในสังกัด จะมีใครสำคัญไปกว่าเด็กคนนี้อีกล่ะ และเป็นคนเดียวที่เขายอมทำทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้ ภาคินรีบขึ้นห้องและเก็บของในห้องทันที อะไรที่ไม่เข้าที่เข้าทางก็รีบเคลียร์พื้นที่ทุกอย่างให้มันเรียบร้อย หลังจากเช็กสภาพห้องเสร็จก็รีบลงไปรอที่ลานจอดรถทันที ครั้นพอเห็นรถยนต์สีดำแค่มองก็รู้แล้วว่าเจ้าของรถเป็นใคร ทันทีที่รถจอดนิ่งเขาก็พุ่งเข้าหารถคันนั้นทันที “อุ๊ย! ตกใจหมดเลยพี่คิน ทำไมเหงื่อออกเยอะขนาดนี้ วิ่งมาใช่ไหมคะเนี่ย คิกคิก” เจ้าจันทร์ทักทายชายหนุ่มที่วิ่งเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว อดไม่ได้ที่จะยื่นปลายนิ้วไปเช็ดเหงื่อออกให้อย่างใส่ใจ ทันทีที่ปลายนิ้วของหญิงสาวสัมผัสบริเวณหางคิ้ว ภาคินก็ตัวแข็งทื่อจนทำตัวไม่ถูก ใบหน้าขึ้นริ้วสีแดงจนลามไปถึงใบหู “หยอกพี่เล่นอีกแล้วเห็นใจคนแก่บ้างเถอะ หัวใจจะวายเอาได้นะ” “ขำขำนะคะ ซื้อกับข้าวมาหลายอย่างเลย มีขนมหวานของชอบพี่คินด้วย” “ขอบคุณครับ นึกถ
ภาคินกำลังอ่านรายงานที่เลขาสรุปมาให้ก็ขมวดคิ้วไม่หยุด ได้แต่ทนอ่านรายงานต่อไป สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่าไม่สามารถร่วมงานกับบริษัทที่ทำงานห่วยแตกแบบนี้ได้เลย “ยกเลิกซะ และจ่ายค่าเสียเวลาไป” “รับทราบค่ะ บอสคะทางคุณแม่ของคุณเมลดาเชิญบอสไปทานข้าวที่บ้านค่ะ” “ไม่ไป วุ่นวายซะจริง” “เดี๋ยวดิฉันจะรีบจัดการให้เลยค่ะ บอสหายห่วงได้เลยค่ะ” ภาคินที่ตรวจเอกสารเสร็จก็ส่งให้เลขาทันที จนเลขาเดินออกจากห้องไป เขาก็เคาะนิ้วกับโต๊ะเป็นจังหวะอย่างคนใช้ความคิด “ล้ำเส้นซะจริง คิดว่าลูกสาวเป็นคู่นอนฉันและจะทำอะไรตามอำเภอใจได้หรือไง น่าเบื่อ” ครืดดด ครืดดด ภาคินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและก็จ้องมองข้อความนั้น นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้คุยกัน เจ้าจันทร์ : มาหาเจ้าหน่อย เจ้าไม่สบาย เจ้าไม่สบาย เจ้านี่นะป่วย?! ภาคินมองไปด้านหลังก็เห็นหยาดฝนโปรยปราย เขาหยิบกุญแจรถและพุ่งตัวออกไปทันที ชายหนุ่มขับรถแวะตลาดใกล้คอนโดของเจ้าจันทร์ นานมากแล้วที่ไม่ได้ทำอะไรแบบนี้ เขาเดินสำรวจของที่จะซื้อและไม่ลืมของหวานที่คนป่วยชอบรวมทั้งยากับแผ่นแปะลดไข้ ก่อนจะติดผลไม้กลับไปด้วย ไม่กี่อึดใจรถก็เข้ามาจอดใต้คอนโด สองเท้ารี
เมลดาหลังจากที่ออกมาจากคอนโดของเจ้าจันทร์ก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังบริษัทของภาคิน เธอเดินเข้าไปด้านในและกดลิฟต์ไปยังชั้นที่สามสิบห้า ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกก็เข้าไปหาประธานหนุ่มทันทีไม่จำเป็นต้องให้เลขารายงาน “วันนี้มาเร็วจังนะ คิดถึงหรือไง” ชายหนุ่มพูดจบพลางตบขาให้มานั่ง หญิงสาวเดินมานั่งบนตักอย่างว่าง่าย สองมือของชายหนุ่มบีบไปที่ต้นขาและลูบมันไปมาพร้อมกับสายตาที่บ่งบอกความต้องการ “คิดถึงไงคะเลยรีบมาหา พี่ภาคินไม่ดีใจหรือคะเนี่ย” “ดีใจสิ แค่เธอมาหาก็ดีใจแล้ว อยากกินอะไรหรือเปล่าสั่งได้เลย” “ยังไม่หิวเลยค่ะ อยากกินพี่ภาคินแทนจะได้ไหม” สายตาหวานเชื่อมออดอ้อนภาคินและซบหน้าไปบนอกแกร่ง “หึ! แล้วรออะไรอยู่ล่ะ พี่พร้อมตลอดเวลา” ทันทีที่ได้รับอนุญาตก็ไถตัวลงไปนั่งข้างล่างตรงกลางหว่างขาทันที สองมือเอื้อมไปปลดเข็มขัดและรูดซิปลงพลางควักท่อนเนื้อสีชมพูอ่อนที่ตอนนี้กำลังจะตื่นขึ้นมา “มองแบบนี้ระวังขาจะหุบไม่ได้นะคะคนดี” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อแกมอารมณ์ดี ที่ได้แกล้งจนทำให้เด็กสาวคนนี้อ่อนระทวยกับคำหวานของเขา “ปากหวานจังเลยนะคะพี่ภาคิน แต่ทำตรงนี้จะดีหรือคะ เข้าไปทำในห้องนอนไ







