LOGINเมื่ออยู่กันสองคนภาคินที่มีสีหน้าเรียบนิ่งไร้ความรู้สึกก็เดินเข้ามายืนตรงหน้าของหญิงสาวที่ก้มหน้าลง เธอก้าวถอยหลังเพราะตั้งรับกับสถานการณ์ตรงหน้าไม่ทัน ร่างเล็กตัวสั่นเหมือนลูกนกที่พลัดออกจากรัง
ชายหนุ่มใช้สองแขนคร่อมเหนือร่างเพื่อกันไม่ให้เจ้าตัวหนีไปไหน ก่อนจะโน้มหน้าลงไปกระซิบด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ “เห็นพี่โง่เป็นควายขนาดนั้นเลยใช่ไหมถึงปั่นหัวกันแบบนี้ เจ้าจันทร์คนดีบอกให้พี่ชื่นใจหน่อยสิ” เจ้าจันทร์ที่รู้ว่าภาคินกำลังโกรธจึงเงยหน้าขึ้นมามองพร้อมหยดน้ำตาที่ไหลไม่ขาดสาย “เจ้าขอโทษพี่คิน ฮือ..ขอโทษ แต่เจ้าไม่ผิด พี่เป็นชู้กับแฟนเจ้าจริงนี่ เจ้าเจ็บ เจ้าอยากแก้แค้นบ้างเจ้าผิดตรงไหน” ภาคินได้ฟังสิ่งที่อีกคนพูดออกมาก็โมโหจนขบฟันกรามแน่น เขาก้าวถอยหลังและเดินไปปิดประห้องน้ำก่อนจะดันร่างของหญิงสาวจนติดผนังห้องน้ำ “พะ พี่คิน” เจ้าจันทร์ดิ้นสุดแรงเกิดเพราะรู้ว่าตัวเองจะไม่รอด “เก่งมากเลยนะ เก่งเหลือเกินทำร้ายหัวใจพี่ได้ตลอดเวลา ที่ผ่านมาพี่ยังอดทนกับเธอไม่พอหรือไง จะเหยียบพี่ให้จมดินเลยใช่ไหม” “ไม่ใช่แบบนั้น เจ้าไม่ได้คิดแบบนั้น” เธอส่ายหน้าปฏิเสธจนไม่ได้จับใจความสำคัญ “รู้ว่าพี่รัก รู้ว่าพี่ยอมก็เลยจะทำยังไงก็ได้ใช่ไหม” ภาคินเปรยความรู้สึกออกมาทุกอย่างจนลืมไปว่าตอนนี้น้องน้อยของเขากำลังกลัวตัวตนอีกด้านที่ไม่เคยแสดงมาก่อน “ไม่! เจ้าไม่ได้ทำ เจ้าไม่เคยทำอะไรแบบนั้น” “เรามาทวนความจำกันหน่อยเจ้าจันทร์ เจ้าอาจจะลืมไป ว่าเวลาพี่ลงโทษพี่ทำแบบไหนแล้วเจ้ายอมพี่ยังไง ถึงมันจะเคยเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวแต่อย่างน้อยมันก็เคยเกิดขึ้น” เพียะ! เพียะ! เพียะ! ภาคินกระชากร่างบางให้หันหลังเอาหน้าเข้ากับผนังก่อนจะยกมือฟาดไปที่แก้มก้นสองข้างอย่างแรงไร้ซึ่งความทะนุถนอม “โอ๊ย..เจ็บ ปล่อยนะ..ปล่อย เจ็บ..พี่คินเจ้าเจ็บ คินคิน เขาเจ็บ” ภาคินหยุดมือก่อนจะกระชากร่างบางให้หันกลับมาและระดมจูบไม่หยุด ยิ่งอีกคนหันหน้าหนีเขายิ่งซ้ำเหมือนคนบ้า “จ๊วบ จุ๊บ จ๊วบ! จะหนีไปไหน อยากเจ็บตัวใช่ไหม” “อื้อ! ปล่อยเขา ปล่อยเขาด้วยนี้ คิน อื้ม! แฮ่ก! แฮ่ก! ขอร้องอย่าจูบ อย่าทำแบบนี้” เธอเอ่ยขอร้องอย่างหวาดกลัว “ใช่ว่าเราไม่เคยจูบกันนี่มากกว่านี้ก็ทำกันมาแล้ว ทำก่อนที่เธอจะเปลี่ยนใจไปชอบผู้หญิงอีก” “ฮึก..เจ้าเกลียดพี่ พี่มันเลว พี่ก็รู้ว่าเจ้าชอบผู้หญิงพี่ทำแบบนี้ทำไม” “งั้นฉันจะเปลี่ยนมันเอง เปลี่ยนให้เธอชอบแค่ฉัน” หลังจากนั้นภาคินก็ลากเจ้าจันทร์ออกมาจากห้องน้ำอย่างทุลักทุเลและพาเข้าห้องทำงานจนเลขาหน้าห้องตกใจไปหมด “ปล่อยเจ้านะพี่คิน ปล่อยเจ้าเดี๋ยวนี้” เจ้าจันทร์ที่พยายามทุบตีชายหนุ่มที่เอาแต่ลากเธอไม่หยุด พอเข้ามาได้ก็ล็อกประตูและลากเธอเข้าห้องนอนทันทีก่อนจะเหวี่ยงไปบนเตียง พลั่กกก เจ้าจันทร์โดนเหวี่ยงเต็มแรงไปบนที่นอนหนา ทำให้เธอจุกท้องเป็นอย่างมาก ได้แต่ร้องโอดโอยและพยายามดิ้นหนีแต่ก็ถูกภาคินจับเหวี่ยงอีกครั้ง หญิงสาวเจ็บท้องมากไม่มีแรงดิ้นหนีเขาอีกแล้วพลิกตัวเพื่อที่จะสงบศึก แต่กลับต้องตกใจเมื่อภาคินคร่อมร่างไว้ไม่ให้หนีไปไหน ยิ่งตอนที่เขาก้มหน้ามาใกล้ทำให้เธอหันหน้าหนีทันที ทำให้เห็นภาพที่ไม่ควรเห็นแต่มันเต็มไปทุกมุมของห้อง สายตามองซ้ายทีขวาที แม้กระทั่งหัวเตียง ผนังกำแพงกลับเต็มไปด้วยภาพถ่ายของเธอในแต่ละช่วงวัย คนที่พี่คินปักใจคือฉันเหรอ! ไม่ใช่หรอก แต่รูปพวกนี้เป็นหลักฐานที่ทำให้ปฏิเสธไม่ออก “เป็นเจ้าจันทร์ เป็นน้องมาโดยตลอด” ภาคินก้มหัวลงกระซิบชิดใบหูของหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “พี่รักเจ้าจันทร์ รักมาตลอด พยายามทุกครั้งที่จะไม่ล้ำเส้น แต่ความอดทนของพี่ก็มีจำกัดแต่วันนี้พี่ไม่ขออดทนอีกแล้ว” เจ้าจันทร์ที่อดทนฟังความในใจของภาคินได้แต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกมาสักคำเดียว เพราะน้ำเสียงของภาคินมีแต่ความเจ็บปวดและอดกลั้น รักหรือ! ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ไม่เห็นรู้ตัวเลยสักนิด นี่สินะที่พี่จอมเตือนมาตลอด ว่าอย่าเล่นกับไฟยังไม่ทันจะทำอะไรเลย ไฟก็เล่นงานเธอแล้ว “พี่..คิน” แต่ละคำที่เอ่ยออกมาช่างยากลำบากเหลือเกิน จะทำยังไงถึงจะรักษาความสัมพันธ์นี้เอาไว้ได้ สองมือที่ภาคินตรึงเธอไว้กับที่นอนแม้แต่จะขยับยังแทบไม่มีแรง ทุกส่วนถูกทาบทับไปด้วยร่างแกร่งที่มวลไปด้วยกล้ามเนื้อ แค่คิดที่จะต่อต้านก็เจ็บไปแทบทุกส่วน “เจ้าชอบผู้หญิงนะพี่คินเผื่อพี่อาจจะลืมไป เจ้าขอโทษด้วยที่ตอบรับความรู้สึกพี่ไม่ได้” ภาคินปล่อยมือจากเจ้าจันทร์และลุกขึ้นมานั่งข้างเตียง สายตาเหม่อมองไปข้างหน้า และเอ่ยคำพูดบางคำที่ทำให้เจ้าจันทร์ไม่เข้าใจ “ต่อให้เจ้าไม่ชอบพี่หรือเจ้าชอบผู้หญิง แต่เจ้าก็เห็นแล้วผู้หญิงคนนั้นพร้อมจะทิ้งเจ้าไป และพี่พูดได้เลยผู้หญิงคนนั้นจะกลับมาหาเจ้า มาขอโอกาสจากเจ้า จริงอยู่ที่เรื่องนี้พี่ก็มีส่วนผิดแต่พี่ไม่รู้นะเจ้า พี่ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนของเจ้า ถ้าพี่รู้พี่จะไม่ยุ่งเกี่ยว พี่ไม่มีทางทำให้เจ้าเจ็บปวดหรือเสียใจเด็ดขาด พี่รู้จักผู้หญิงคนนั้นเพราะพ่อของเธอเป็นลูกค้าของพี่เราทำธุรกิจร่วมกัน พองานสำเร็จเราก็ไปฉลองกัน และวันนั้นเธอก็มาด้วย และเธอไม่เคยพูดเลยว่ามีคนรักอยู่แล้ว พี่เป็นผู้ชายเธอเสนอพี่ก็สนองและวันนั้นดื่มหนักด้วย ก็เลยได้เสียกันและเป็นเธอเองที่เสนอตัวเป็นคู่นอนพี่ แต่เธอกลับบอกเจ้าว่าเธอพลาด พี่ขอโทษเจ้าจริง ๆ เรื่องนี้ ถ้ารู้เร็วกว่านี้พี่จะรีบแก้ไขทันทีแต่มันก็ไม่ทันแล้ว ช่วงนี้ที่เจ้าเรียกให้พี่ไปหาบ่อยครั้งเป็นแผนเจ้าใช่ไหม" เจ้าจันทร์ที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมดจากปากภาคินก็พยักหน้ายอมรับกับความผิดที่ตัวเองก่อ เธอไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาวที่ก่อเรื่องและโยนความผิดให้คนอื่น แต่ก็จริงอย่างที่ภาคินพูดทุกอย่าง เขาไม่รู้และผู้หญิงคนนั้นก็เข้าหาเขาขนาดนั้น เรื่องนี้ภาคินไม่ผิด ภาคินคือเหยื่อความโกรธของเธอ ผู้ชายคนนี้ไม่มีวันทำร้ายเธอ เธอรู้จักกับภาคินมาตั้งแต่อายุสิบสามจนตอนนี้ยี่สิบห้าแล้ว ส่วนภาคินสามสิบปีแล้ว กาลเวลาทำให้เราสองคนเติบโตกันคนละแบบ แต่สิ่งหนึ่งที่ภาคินไม่เคยทิ้งคือการดูแลเธอและทำตามใจเธอทุกอย่าง แล้วจะเอาอะไรมาบอกว่าคนนี้จะทำร้ายเธอ ไม่เชื่อเด็ดขาด ต่อให้เขาเล็งปืนใส่เธอ เธอก็จะเชื่อว่าผู้ชายคนนี้ทำไปเพราะมีเหตุผล “ถ้าเธอกลับมาเจ้าจะให้อภัยผู้หญิงคนนั้นไหม? เจ้าจะกลับไปหรือเปล่า” “และถ้าสมมติว่าเจ้ากลับไปล่ะคะ พี่คินจะทำยังไง” ภาคินหันหน้ามามองเจ้าจันทร์และจับมือหญิงสาวลูบไล้ไปมา ก่อนจะก้มหัวลงประทับจูบที่หลังฝ่ามือ ริมฝีปากอุ่นร้อนแตะลงบนหลังมือทำให้เจ้าจันทร์รู้สึกแปลกประหลาด ก่อนจะดึงมือออกด้วยความไม่ชอบใจ “อย่าทำแบบนี้อีกนะคะพี่คิน เจ้าไม่ชอบ ไม่อย่างนั้นเจ้าจะไม่ยุ่งกับพี่อีก” ภาคินที่ได้ฟังถ้อยคำตัดรอนก็เริ่มจะยั้งอารมณ์ตัวเองไม่ไหว ได้แต่กลั้นใจอดทนไม่ให้วู่วาม เขาต้องใจเย็นไม่งั้นจะเอาเจ้าจันทร์ไม่อยู่ “พี่ขอโทษครับเจ้าจันทร์” ภาคินสูดหายใจเข้าลึก ๆ และเอ่ยสิ่งที่อยู่ในใจออกมา “ถ้าเจ้าจะให้โอกาสผู้หญิงคนนั้น เจ้าให้โอกาสพี่บ้างได้ไหม พี่สัญญาพี่จะทำทุกอย่างให้เจ้ามีความสุข จะไม่ให้ใครหรืออะไรมาทำให้เจ้าทุกข์ใจหรือเสียน้ำตาเด็ดขาด พี่ขอโอกาสนั้นได้ไหมครับ เจ้าอยากแก้แค้นไม่ใช่หรือไง ใช้พี่เป็นเหยื่อก็ได้ พี่พร้อมทำทุกอย่างที่เจ้าต้องการ” “แน่ใจเหรอว่าจะทำทุกอย่าง” เจ้าจันทร์ต่อรองอย่างสนใจ เพราะอยากให้ผู้หญิงคนนั้นเจ็บมากกว่านี้อีก “แน่ใจครับ” “ตกลง” ภาคินยิ้มกว้างที่ทุกอย่างง่ายดายขนาดนี้ ต่อไปนี้เจ้าจันทร์จะเป็นของภาคินคนเดียวเท่านั้น ไม่มีทางที่เจ้าจันทร์จะออกจากวังวนนี้ไปได้ “ลุกขึ้นเถอะ ไปซื้อของเข้าห้องกัน เดี๋ยวจะมืดซะก่อน”เมื่ออยู่กันสองคนภาคินที่มีสีหน้าเรียบนิ่งไร้ความรู้สึกก็เดินเข้ามายืนตรงหน้าของหญิงสาวที่ก้มหน้าลง เธอก้าวถอยหลังเพราะตั้งรับกับสถานการณ์ตรงหน้าไม่ทัน ร่างเล็กตัวสั่นเหมือนลูกนกที่พลัดออกจากรังชายหนุ่มใช้สองแขนคร่อมเหนือร่างเพื่อกันไม่ให้เจ้าตัวหนีไปไหน ก่อนจะโน้มหน้าลงไปกระซิบด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ “เห็นพี่โง่เป็นควายขนาดนั้นเลยใช่ไหมถึงปั่นหัวกันแบบนี้ เจ้าจันทร์คนดีบอกให้พี่ชื่นใจหน่อยสิ”เจ้าจันทร์ที่รู้ว่าภาคินกำลังโกรธจึงเงยหน้าขึ้นมามองพร้อมหยดน้ำตาที่ไหลไม่ขาดสาย “เจ้าขอโทษพี่คิน ฮือ..ขอโทษ แต่เจ้าไม่ผิด พี่เป็นชู้กับแฟนเจ้าจริงนี่ เจ้าเจ็บ เจ้าอยากแก้แค้นบ้างเจ้าผิดตรงไหน”ภาคินได้ฟังสิ่งที่อีกคนพูดออกมาก็โมโหจนขบฟันกรามแน่น เขาก้าวถอยหลังและเดินไปปิดประห้องน้ำก่อนจะดันร่างของหญิงสาวจนติดผนังห้องน้ำ“พะ พี่คิน” เจ้าจันทร์ดิ้นสุดแรงเกิดเพราะรู้ว่าตัวเองจะไม่รอด“เก่งมากเลยนะ เก่งเหลือเกินทำร้ายหัวใจพี่ได้ตลอดเวลา ที่ผ่านมาพี่ยังอดทนกับเธอไม่พอหรือไง จะเหยียบพี่ให้จมดินเลยใช่ไหม”“ไม่ใช่แบบนั้น เจ้าไม่ได้คิดแบบนั้น” เธอส่ายหน้าปฏ
เจ้าจันทร์ขับรถมาจอดหน้าร้านเพื่อซื้ออาหารเป็นมื้อเที่ยงให้ชายหนุ่ม เธอเลือกข้าวหน้าเป็ดและเค้กสามชิ้นเป็นของหวานและน้ำผลไม้ล้างปาก หลังจากที่ซื้อเสร็จก็ขับรถไปบริษัทของภาคินทันที สองเท้าก้าวเข้ามาบริษัทที่คุ้นเคย ทักทายพนักงานไปตลอดทางด้วยรอยยิ้มแจ่มใสก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟต์พออยู่ในลิฟต์รอยยิ้มหวานก็หายไปทันทีกลับถูกแทนที่ด้วยใบหน้าที่เฉยเมยและว่างเปล่า จนกระทั่งประตูลิฟต์เปิดออก เธอก็ก้าวออกไปทันทีและทักทายเลขาหน้าห้องด้วยความคุ้นเคยพร้อมของฝากเป็นเค้กหนึ่งชิ้น มือเล็กเปิดประตูเข้าไปกลับเห็นฉากที่ทั้งสองคนกำลังเกี่ยวรัดกันและรีบผละตัวออกจากกันเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา “ขอโทษที่ขัดจังหวะค่ะพอดีเอาข้าวเที่ยงมาให้ แต่คงไม่ต้องกินแล้วเนอะดูท่าจะอิ่มแล้ว” พูดจบก็หันหลังเดินหนีทันทีทำให้ภาคินรีบวิ่งมาคว้าข้อมือไว้“เจ้ามันไม่มีอะไรครับ เจ้ากินข้าวกับพี่ก่อนนะครับคนดี”“แต่พี่คินมีแขกนี่คะเจ้าไม่อยากรบกวน”“ไม่รบกวนเลยครับ ไม่เลย” เมลดาที่มองเห็นภาพที่ทั้งสองคนง้องอนกัน ก็รู้ทันทีว่าเจ้าจันทร์ต้องการจะทำอะไร เธอได้แต่เก็บความไม่พอใจเอาไว้ภายในไม่ให้มันแส
แสงอาทิตย์วันใหม่ที่สาดส่องลงมาทำให้ภาคินต้องยกมือบังหน้า ก่อนจะลุกไปปิดผ้าม่านทำให้ห้องทึบอีกครั้งก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมือบ่งบอกว่าตอนนี้เจ็ดโมงเช้าแล้ว เขารีบเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการตนเองและเร่งฝีเท้าไปยังห้องครัวเพื่อเตรียมตัวทำอาหารเช้าให้อีกคน แต่ไม่นึกว่าจะได้เห็นน้องสาวเพื่อนที่เขาเอ็นดูอยู่ในส่วนลึกจะมาจับตะหลิวทำครัวแบบนี้ ร่างบางที่หยิบจับนู่นนี่ด้วยความคล่องแคล่วทำให้ภาคินมีความสุขที่ได้แอบมองอยู่ตรงนี้ “อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่คิน” เจ้าจันทร์ที่หันมาเจอภาคินก็ทักทายด้วยรอยยิ้มสดใส “อรุณสวัสดิ์ครับเจ้า” ภาคินตอบรับรอยยิ้มของเจ้าจันทร์ด้วยคำทักทายเช่นกัน สองเท้าก้าวมาข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีตอนอยู่ตรงหน้าเจ้าจันทร์ที่ห่างกันแค่คืบ ซึ่งไม่แตกต่างจากหญิงสาวที่เฝ้ามองการกระทำของภาคินด้วยใจที่ว้าวุ่นจนแทบจะห้ามตัวเองไม่อยู่ “หิวหรือยังเอ่ย เจ้าทำอาหารแบบง่าย ๆ นะคะกินก่อนไปทำงาน ของพี่คินเป็นไส้กรอกขนมปังไข่ดาวและกาแฟสูตรเดิม ส่วนของเจ้าเป็นข้าวผัด” “ต่อไปเจ้าทำแบบที่เจ้าชอบก็ได้ พี่กินอะไรก็ได้ไม่ได้เรื่องมากเท่าไหร่”
ภาคินรีบขับรถกลับมายังคอนโดทันทีที่ได้เห็นข้อความจากน้องสาวของเพื่อนว่าจะมากินข้าวด้วย ทำให้เขายกเลิกนัดกับเด็กในสังกัด จะมีใครสำคัญไปกว่าเด็กคนนี้อีกล่ะ และเป็นคนเดียวที่เขายอมทำทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้ ภาคินรีบขึ้นห้องและเก็บของในห้องทันที อะไรที่ไม่เข้าที่เข้าทางก็รีบเคลียร์พื้นที่ทุกอย่างให้มันเรียบร้อย หลังจากเช็กสภาพห้องเสร็จก็รีบลงไปรอที่ลานจอดรถทันที ครั้นพอเห็นรถยนต์สีดำแค่มองก็รู้แล้วว่าเจ้าของรถเป็นใคร ทันทีที่รถจอดนิ่งเขาก็พุ่งเข้าหารถคันนั้นทันที “อุ๊ย! ตกใจหมดเลยพี่คิน ทำไมเหงื่อออกเยอะขนาดนี้ วิ่งมาใช่ไหมคะเนี่ย คิกคิก” เจ้าจันทร์ทักทายชายหนุ่มที่วิ่งเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว อดไม่ได้ที่จะยื่นปลายนิ้วไปเช็ดเหงื่อออกให้อย่างใส่ใจ ทันทีที่ปลายนิ้วของหญิงสาวสัมผัสบริเวณหางคิ้ว ภาคินก็ตัวแข็งทื่อจนทำตัวไม่ถูก ใบหน้าขึ้นริ้วสีแดงจนลามไปถึงใบหู “หยอกพี่เล่นอีกแล้วเห็นใจคนแก่บ้างเถอะ หัวใจจะวายเอาได้นะ” “ขำขำนะคะ ซื้อกับข้าวมาหลายอย่างเลย มีขนมหวานของชอบพี่คินด้วย” “ขอบคุณครับ นึกถ
ภาคินกำลังอ่านรายงานที่เลขาสรุปมาให้ก็ขมวดคิ้วไม่หยุด ได้แต่ทนอ่านรายงานต่อไป สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่าไม่สามารถร่วมงานกับบริษัทที่ทำงานห่วยแตกแบบนี้ได้เลย “ยกเลิกซะ และจ่ายค่าเสียเวลาไป” “รับทราบค่ะ บอสคะทางคุณแม่ของคุณเมลดาเชิญบอสไปทานข้าวที่บ้านค่ะ” “ไม่ไป วุ่นวายซะจริง” “เดี๋ยวดิฉันจะรีบจัดการให้เลยค่ะ บอสหายห่วงได้เลยค่ะ” ภาคินที่ตรวจเอกสารเสร็จก็ส่งให้เลขาทันที จนเลขาเดินออกจากห้องไป เขาก็เคาะนิ้วกับโต๊ะเป็นจังหวะอย่างคนใช้ความคิด “ล้ำเส้นซะจริง คิดว่าลูกสาวเป็นคู่นอนฉันและจะทำอะไรตามอำเภอใจได้หรือไง น่าเบื่อ” ครืดดด ครืดดด ภาคินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและก็จ้องมองข้อความนั้น นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้คุยกัน เจ้าจันทร์ : มาหาเจ้าหน่อย เจ้าไม่สบาย เจ้าไม่สบาย เจ้านี่นะป่วย?! ภาคินมองไปด้านหลังก็เห็นหยาดฝนโปรยปราย เขาหยิบกุญแจรถและพุ่งตัวออกไปทันที ชายหนุ่มขับรถแวะตลาดใกล้คอนโดของเจ้าจันทร์ นานมากแล้วที่ไม่ได้ทำอะไรแบบนี้ เขาเดินสำรวจของที่จะซื้อและไม่ลืมของหวานที่คนป่วยชอบรวมทั้งยากับแผ่นแปะลดไข้ ก่อนจะติดผลไม้กลับไปด้วย ไม่กี่อึดใจรถก็เข้ามาจอดใต้คอนโด สองเท้ารี
เมลดาหลังจากที่ออกมาจากคอนโดของเจ้าจันทร์ก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังบริษัทของภาคิน เธอเดินเข้าไปด้านในและกดลิฟต์ไปยังชั้นที่สามสิบห้า ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกก็เข้าไปหาประธานหนุ่มทันทีไม่จำเป็นต้องให้เลขารายงาน “วันนี้มาเร็วจังนะ คิดถึงหรือไง” ชายหนุ่มพูดจบพลางตบขาให้มานั่ง หญิงสาวเดินมานั่งบนตักอย่างว่าง่าย สองมือของชายหนุ่มบีบไปที่ต้นขาและลูบมันไปมาพร้อมกับสายตาที่บ่งบอกความต้องการ “คิดถึงไงคะเลยรีบมาหา พี่ภาคินไม่ดีใจหรือคะเนี่ย” “ดีใจสิ แค่เธอมาหาก็ดีใจแล้ว อยากกินอะไรหรือเปล่าสั่งได้เลย” “ยังไม่หิวเลยค่ะ อยากกินพี่ภาคินแทนจะได้ไหม” สายตาหวานเชื่อมออดอ้อนภาคินและซบหน้าไปบนอกแกร่ง “หึ! แล้วรออะไรอยู่ล่ะ พี่พร้อมตลอดเวลา” ทันทีที่ได้รับอนุญาตก็ไถตัวลงไปนั่งข้างล่างตรงกลางหว่างขาทันที สองมือเอื้อมไปปลดเข็มขัดและรูดซิปลงพลางควักท่อนเนื้อสีชมพูอ่อนที่ตอนนี้กำลังจะตื่นขึ้นมา “มองแบบนี้ระวังขาจะหุบไม่ได้นะคะคนดี” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อแกมอารมณ์ดี ที่ได้แกล้งจนทำให้เด็กสาวคนนี้อ่อนระทวยกับคำหวานของเขา “ปากหวานจังเลยนะคะพี่ภาคิน แต่ทำตรงนี้จะดีหรือคะ เข้าไปทำในห้องนอนไ







