Se connecterวรรณนรีมือไม้สั่น ลูบคลำแผ่นอกแกร่งใต้ผ้าซาตินนุ่มลื่น... ราวกับกำลังสำรวจขุมทรัพย์ล้ำค้า
“เร็วสิ” เสียงทุ้มเร่งเร้า
เธอกลืนน้ำลายเอือก... ช้อนสายตามองเขาก่อนแล้วค่อยปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ด
พรึ่บ
เสื้อเชิ้ตลุคคาหล่นลงไปกองกับพื้น เผยท่อนบนเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นตึงต่อหน้าวรรณนรี รอนซิกแพกของเขาชัดจนหญิงสาวตาพร่าไปชั่วขณะ ฝ่ามือเล็กลากผ่านร่องอกแกร่งลงมาลูบคลำกล้ามท้องฉกรรจ์ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“คุณดูดีมากเลย”
“ชอบไหม”
“อือ”
วรรณนรีเอ่ยอย่างเขินๆ เหลือบมองขอบกางเกงเขาแววตาเปล่งประกาย ไม่ต่างจากเด็กที่กำลังสงสัยว่าข้างในนั้นมีอะไรซ่อนอยู่
ลุคคากระตุกยิ้มมุมปาก ก้มลงซบซอกคอขาวเนียนก่อนเอ่ยเสียงยั่วยวน
“ถอดอีกสิ”
“....”
วรรณนรีเม้มริมฝีปาก ไม่เอ่ยคำพูดใดออกมา นิ้วเรียวขยับไปปลดหัวเข็มขัด คลายพันธนาการที่ผูกรั้งเอวสอบเอาไว้ทีละชิ้น... กระทั่งซิปเปิดอ้า เนื้อนูนด้านในดันออกมาเป็นทรงโค้ง
เธอลังเลที่จะสัมผัส แต่ด้วยความอยากรู้อยากลองจึงหลับหูหลับตาตะปบหมับ!
“ซนจริงๆ” ลุคคาสะดุ้งเล็กน้อย หน้าท้องแกร่งกระตุกโดยไม่ตั้งใจ เห็นชัดเจนว่าวรรณนรีเงอะงะ แต่เขาไม่คิดตำหนิให้เสียเรื่อง ตรงข้ามกลับรู้สึกว่าน่ารักดี
“ระร้อนมาก”
“หึ”
ลุคคาจับมือข้างนั้นของวรรณนรีขึ้นมาจูบ ค่อยๆ แทะเล็มทีละนิ้วอย่างใจเย็น
“นะนี่...”
วรรณนรีหน้าร้อนผ่าว หัวใจวรรณนรีเต้นตึกตัก นิ้วทั้งห้าเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายลุคคาแต่แปลกที่เวลานี้กลับไม่นึกรังเกียจแม้แต่น้อย
สายตาลุคคาจับจ้องวรรณนรี ขณะบรรจงเลียนิ้วของเธอ ก่อนที่คำพูดชวนสยิวจะหลุดออกมาจากปากเขา
“อยากให้เลียตรงไหนอีก”
“ลามก”
“เวลาแบบนี้ใครสนล่ะ”
เสียงลุคคาแตกพร่าและอัดอั้น ยกเอวบางขึ้นเกยกับจอบเคาน์เตอร์ ตามฉกริมฝีปากอ่อนหวาน กลิ่นแอลกอฮอล์คละเคล้ากับซอสสเต๊กคุกรุ่นอยู่ในลมหายใจ ผสมปนเปจนแยกไม่ออกว่ากลิ่นไหนของใคร
“อื้อ~”
วรรณนรีครางประท้วงผ่านลำคอ เขาขบเม้มริมฝีปากเธออย่างร้อนแรง ปลายลิ้นสากแยงเข้าไปด้านใน กวัดแกว่งทั่วทั้งโพรงปาก ดื่มด่ำรสชาติของเธออย่างหิวกระหาย
ฝ่ามือหนาโอบรัดแผ่นหลังบางไม่ให้ถอยห่าง ขณะที่อีกมือปลดกระชากพันธนาการช่วงล่างของเธอออก
วรรณนรีรู้สึกถึงแรงดึงรั้งที่ช่วงขาตามมาด้วยความเจ็บแสบจากเนื้อผ้าเสียดสี ก่อนที่สะโพกเปลือยเปล่าจะสัมผัสกับขอบเคาน์เตอร์หินอ่อนเย็นเยียบ
“อ๊ะ อื้อ~”
เธออุทานเสียงหลงเพราะมือที่ล้วงเข้ามาตรงหว่างขา ผลักไหล่แกร่งออกห่าง ก้มลงมองพลางจับข้อมือหนาเอาไว้ด้วยความตกใจ ทว่าอาการแตกตื่นเพียงน้อยนิดไม่อาจหยุดยั้งคลื่นอารมณ์อันหนักหน่วงกว่าของลุคคาได้
ริมฝีปากหยักลึกเคลื่อนจากปากอิ่มลงมากดเม้มข้างลำคอขาวเนียน “ผมขอได้ไหม” เพียงกระซิบแผ่วเบา วรรณนรีก็ระทดระทวยไปทั้งตัว มือที่จับข้อมือเขาเอาไว้ค่อยๆ คลายออก ทิ้งลงข้างลำตัวอย่างไร้น้ำหนัก ปล่อยให้เขากระทำการตามอำเภอใจ
ลุคคาพลิกฝ่ามือแยกโคนขานวลออกกว้าง ก่อนหงายมือขึ้นเลื่อนไปตรงกลาง สัมผัสแคมเนื้ออ่อน
“อ๊ะ ลุค... อื้อ”
วรรณนรีสะดุ้งโยง คราวนี้ต่างจากการสัมผัสฉาบฉวยครั้งก่อน... นิ้วของเขาสะกิดเย้าติ่งเนื้อร้อน เกลี่ยไล้ไปมา ก่อนส่งนิ้วกลางเข้ามาสำรวจข้างในตัวเธอ
“คุณ... อึก!”
“ผ่อนคลาย”
“อือ~”
วรรณนรีกัดริมฝีปากล่าง มือผวากำขอบเคาน์เตอร์แน่น เหงื่อผุดซึมตามไรผม ขนลุกพองไปกับสิ่งที่รุกล้ำเข้ามาในกายเธอ
นิ้วลุคคาแทรกผ่านช่องทางคับแน่นของหญิงสาวทีละนิด ไม่รีบร้อน แต่แรงตอดรัดที่รุมเร้าใส่นิ้วกลางกลับทำเขาร้อนรุ่มจับใจ ลำคอแกร่งกลืนน้ำลายอึกใหญ่ พลางจินตนาการว่าหากเป็นตรงนั้นจะรู้สึกดีขนาดไหน เขาแทบทนรอไม่ไหวแล้วจริงๆ
จากหนึ่งนิ้ว เพิ่มเข้ามาเป็นสองนิ้ว...
“อ๊า... ยะ... อา อู้ว...”
วรรณนรีใช้สองมือกำขอบเคาน์เตอร์เอาไว้แน่น ยันกายไม่ให้ล้มลง โคนขาเกร็งเจ็บ อยากหุบก็หุบไม่ลงเพราะถูกลำตัวของลุคคาขวางเอาไว้
เธอทำได้แค่ส่ายลำตัวไปมาเพื่อคลายความกระสันซ่านที่เขามอบให้
ลุคคาชักนิ้วเข้าออกเบาๆ พลางซุกหน้าจูบไซ้ซอกคอวรรณนรี ไล่ลงมาถึงเนินอกที่ยังมีเสื้อเชิ้ตติดกระดุมเม็ดล่างและบราแบบเต็มเต้าปิดกั้นเอาไว้ ปลายลิ้นเปียกชื้นแลบเลียตามผิวเนื้อ ก่อนจะยื่นเข้าไปในช่องระหว่างขอบบรากับนวลเนื้ออก สัมผัสเม็ดแข็งกลางเนินนิ่มแบบเฉียดๆ
อยากกินแต่ไม่ได้กิน ยิ่งกระตุ้นแรงกระหายภายในตัว ทั้งวรรณนรีและลุคคาต่างหายใจแรงด้วยกันทั้งคู่
ริมฝีปากหญิงสาวแห้งผาก กล้ามเนื้อช่วงล่างเกร็งกระตุก เต็มไปด้วยความรู้สึกเร่งเร้าและโหยหา
ขณะที่ลุคคาเองก็ทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน เขาก้มลงควักเอาแก่นกายออกมา
“....”
วงแขนเล็กเรียวโอบรอบลำคอแกร่ง ซุกกายเข้าหาไออุ่นจากร่างหนา จิตใจล่องลอยไปกับรสจูบที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ กลิ่นอายเร่าร้อนปะทุท่วม บนเตียงราวกับมีไฟลุกโชน เหงื่อเม็ดเล็กผุดซึมเบาบาง ยังไม่ทันเข้าด้ายเข้าเข็ม วรรณนรีก็ร้อนไปทั้งตัว หว่างขาอุ่นชื้นตอบสนองความต้องการที่ถูกปลุกเร้า เสียงครางสั่นสะท้านดังคลอเป็นระยะ แรงบีบไล้จากฝ่ามือหนาลากผ่านแขนลงข้างลำตัว บีบคลึงเนินสะโพกด้านข้าง เจตนาชัดเจน “อือ~” ดวงหน้าหวานผละหน้าออก อ้าปากเอาลมหายใจเข้าเต็มปอด หน้าอกกระเพื่อมสูง หน้าท้องยุบต่ำเมื่อระบายลมหายใจออก เป็นภาพที่ชวนให้คนมองเห็นแล้วรู้สึกคลั่งไคล้ ยากที่จะไม่สัมผัส เสื้อผ้าบนตัวถูกปลดเปลื้องไปทีละชิ้น ลุคคาค่อยๆ ใช้ปลายลิ้นสำรวจร่างกายวรรณนรีแบบไม่รีบร้อน เริ่มจากทรวงอก ลงมาถึงหน้าท้องแบนราบ ริมฝีปากร้อนผ่าวกดลงหนักๆ บนเนินสามเหลี่ยม ร่างบางสะดุ้งเฮือก เรียวขาอ้าออก มือขยุ้มผ้าปูที่นอนอย่างกลั้นเสียว “ยะอย่าค่ะ อะอ๊า...” เธอห้ามเพราะไม่ได้ทำความสะอาด
“เก็บไว้ใช้” เขาไม่รอให้เธอรับเอง แต่เลือกวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง ถือว่าได้ให้แล้ว ส่วนเธอจะจัดการยังไงก็ไม่เกี่ยวกับเขาแล้ว วรรณนรีสะกดข่มความโกรธเคืองเอาไว้ มองลุคคาที่ตอนนี้ใส่ชุดลำลองเสื้อยืดคอกลมสีเทาธรรมดากับกางเกงวอร์มขายาวสีดำ กลิ่นหอมสะอาด ท่าทางสบายใจดี ในอกก็ระคายเคืองขึ้นมาแปลกๆ “ถ้าไม่มีอะไร คุณกลับไปเถอะ ฉันอยากอยู่คนเดียว” “วรรณนรี แยกแยะหน่อย” “ฉันไม่ใช่คนเก่งแบบคุณที่แยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานได้ชัดเจน ให้เวลาฉันหน่อย” “ประชดให้ได้อะไร” “ใครประชด” “หรือไม่ใช่” “....” เธอสูดหายใจลึก นัยน์ตาร้อนผ่าว มองความมั่นหน้าของลุคคาแล้วก็รู้สึกเหมือนอกจะแตก ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องมายืนบีบคั้นเธอแบบนี้ “อืม คุณจะคิดยังไงก็ได้ ตอนนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี คุณกลับไปก่อน ไว้ค่อย... อ๊ะ” เธอโดนเขาฉุดแขน ดึงเข้าไปสวมกอดโดยไม่ตั้งใจ พลั่ก... แผ่นหลังวรรณนรีกระแทกกับแผงอกแกร่ง ความรู้สึกอุ่นวาบแผดซ่านไปทั้งตัว แต่ก็แค่ชั่ววู
วรรณนรีออกจากห้องประชุมคนสุดท้าย เดินเหมือนคนไร้วิญญาณ รู้ตัวอีกทีก็มาหยุดอยู่ที่ห้อง HR หรือ ‘ฝ่ายบุคคล’ แจ้งเรื่องกับ HR เสร็จ ก็เดินเหม่อกลับมาที่แผนกของตัวเอง สายตาของเพื่อนร่วมทีมมองมาที่เธอ ต่างก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจากการสอบถามจากมารุตก่อนหน้านี้ “วรรณนรี” ริกะเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นมาปลอบ เดินมาประคองวรรณนรีไปนั่งที่โต๊ะ “ขอโทษนะ ฉันเป็นหัวหน้าแท้ๆ แต่กลับช่วยอะไรไม่ได้เลย” “อาจารย์ไม่ต้องขอโทษหรอกคะ ไม่ใช่ความผิดของคุณเลย” “มีอะไรให้ช่วยก็บอกได้เลยนะ” จิราพรที่นั่งข้างๆ เอ่ยขึ้นด้วยความจริงใจ “ขอบคุณค่ะ” วรรณนรีฝืนยิ้มอย่างคนเข้มแข็งให้ทั้งคู่ ก่อนจะเหลือบมองเพื่อนอีกสองคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม มารุตกับญาดา... สองคนนี้ไม่พูดอะไรสักคำ ข้างในใจเธอเดือดปุดๆ อยากลุกขึ้นจิกหัวมารุตกระแทกกับโต๊ะแรงๆ แล้วตะโกนถามว่า ‘โยนขี้ให้คนอื่น ไม่อายบ้างเลยหรือไง’ แต่นั่นแหละ เธอได้แค่คิด แต่คงทำจริงๆ ไม่ได้ เว้นแต่อยากเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ วรรณนรียังไม่ปีกกล้าขาแข็งขนาดนั้น
บรรยากาศในกองถ่ายระอุไม่แพ้แดดข้างนอก เสียงลูกค้ากับทีมงานโต้เถียงกันจนหาข้อยุติไม่ได้ สุดท้ายหวยก็มาออกที่ AE เจ้าของโปรเจกต์ที่ลูกค้าเลือก วรรณนรีและมารุตถูกเรียกตัวด่วนในบ่ายวันเดียวกัน ผู้เกี่ยวข้องทุกคน หัวหน้าทีมครีเอทีฟ ฝ่ายโปรดักชั่นผู้ช่วยผู้กำกับ ฝั่งของลูกค้าเองก็มา...และคนสำคัญที่เดิมทีมีธุระข้างนอก แต่เพราะปัญหาที่เคลียร์กันไม่จบนี้ ทำให้เขาต้องกลับมาแก้ไข คนที่ว่านี้ก็คือลุคคา“ตุ๊กผิดเองค่ะที่ไม่ได้ตรวจสอบบรีฟก่อนยื่น” หัวหน้าทีมครีเอทีฟของโปรเจกต์นี้ออกตัวก่อนหลังจากถกเถียงกันมาสักพักใหญ่ลูกค้าหัวเสียที่บรีฟสลับ โปรดักชั่นก็หงุดหงิดที่ต้องหยุดถ่ายทำกลางคันวรรณนรีเหลือบมองคนพูด ช่างแกล้งแสดงได้เนียนจริงๆ นึกถึงท่าทีหยิ่งยโสที่หน้าลิฟต์ตอนนั้น ก็รู้แล้วว่าคุณตุ๊กตาคนนี้ไม่ถูกชะตาเธอ“แล้วตกลงจะยังไง สรุป!?” ทรงกิตต์ไม่สนว่าใครผิดใครถูก แค่อยากได้คำตอบ จะถ่ายงานต่อหรือไม่ถ่าย หน้าที่โปรดักชั่นมีแค่นี้จริงๆ การที่ต้องมาเสียเวลาเพราะความสับเพร่าของแผนกอื่นทำเขาโมโหจนควันออกหู“ฉันยังยืนกรานว่าชอบงานของคุณวรรณนรี และฉั
ลุคคา : คืนนี้น่าจะดึก ไม่ต้องรอ ข้อความเด้งขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ที่วางหงายอยู่ข้างมือบนโต๊ะทำงาน วรรณนรีกำลังขีดเขียนเนื้องานคร่าวๆของสินค้าตัวใหม่บนสมุดโน้ต เหลือบเห็นแวบๆ ก็ลากนิ้วปัดแบบขี้เกียจ ยิ่งพอเห็นว่าเขาส่งอะไรมา ก็ยิ่งเบื่อเซ็งไปอีก เธอย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านกับลุคคาได้ประมาณอาทิตย์หนึ่งแล้ว แน่นอนว่าหลายๆ อย่างยังไม่เข้าที่เข้าทาง แต่ก็ค่อยๆ ปรับตัวกันไป ยอมรับว่าเธอตื่นเต้นและทำตัวไม่ถูกกับการย้ายมาอาศัยกับเขาในฐานะ
หลายวันมานี้ นอกจากโฟกัสเรื่องงานที่รับผิดชอบ เธอยังคอยสังเกตการณ์เพื่อนร่วมทีมอย่างมารุตด้วย ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่เหมือนมารุตกำลังหลบหน้าเธอ ถามคำตอบคำ... เหมือนไม่อยากคุยด้วย “วรรณนรี”ภายในห้องพักของพนักงาน วรรณนรีกำลังคิดอะไรเพลินๆ ระหว่างคนแก้วกาแฟร้อนในมือ ประตูก็ถูกเปิดเข้ามา และคนคนนั้นเป็นริกะ หัวหน้าทีมของเธอเอง “อาจารย์ ดื่มกาแฟเหรอคะ ฉันชงให้ไหม” 







