เธอแค่พนักงานใหม่ที่เผลอใจให้เจ้านาย... แต่สำหรับเขา เธอคือความลับที่ไม่อาจเปิดเผย จนวันที่เธอตัดสินใจเดินออกไป — เขาถึงเพิ่งรู้ว่า ความลับนั้น…คือสิ่งที่เขาไม่อยากสูญเสียที่สุดในชีวิต
View More“ออกไป!”
เพล้ง!
จานรองแก้วน้ำใบหนึ่งถูกขว้างออกมาอย่างแรง พุ่งเฉียดแก้มเนียนระเรื่อของหญิงสาวไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด เสียงแตกละเอียดก้องกระจายไปทั่วห้อง
“คุณไล่ฉันเหรอ ลุคคา นี่คุณกล้าไล่ฉันเหรอ”
“หูตึงหรือไง ไสหัวไป”
“....” วรรณนรียืนอึ้ง เข่าอ่อนไปทั้งตัว น้ำตาร่วงเผลาะ กำลังจะอ้าปากพูด เสียงเหี้ยมเกรียมจากคนตรงหน้าก็ตะโกนขึ้นมาอีก
“รปภ! ใครก็ได้ ลากผู้หญิงคนนี้ออกไปเดี๋ยวนี้”
ไม่นานฝ่ายรักษาความปลอดภัยก็กรูเข้ามาในห้องราวกับเตี้ยมกันเอาไว้
“ไม่ต้อง! ฉันไปเองได้” วรรณนรีสะบัดมือรปภ.ออกอย่างไม่สะทกสะท้าน ทว่าสายตาที่เธอมองไปยัง ‘ลุคคา’ กลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและสิ้นหวัง “คนอย่างคุณ... ฉันไม่น่าตาบอดเลยจริงๆ”
วรรณนรีเดินออกจากห้องทำงานของผู้บริหาร ผ่านแผนกต่างๆ ของบริษัท กระชากป้ายชื่อที่ระบุตำแหน่งผู้อำนวยการบนอกเสื้อทิ้งขยะท่ามกลางสายตาของพนักงานมากมาย
ร่างบางก้าวออกจากบริษัทซางเหมยฯ ราวกับพายุ
“ให้ไปส่งที่ไหนครับคุณผู้หญิง”
“....”
หลังจากแจ้งจุดหมายกับคนขับเสร็จ วรรณนรีหยิบแหวนเพชรที่ใส่เป็นจี้ห้อยคอขึ้นมาคลำเล่น
...ภาพวันวานทอวาบเข้ามาในหัว
ตอนนั้นเธอเป็นเพียงพนักงานใหม่ เริ่มต้นจาก AE ตัวเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายครีเอทีฟด้วยความสามารถของตัวเอง และอยู่ภายใต้การสนับสนุนของลุคคา ...คนที่เธอรักอย่างหมดหัวใจ
เธอเคยคิดว่าที่เขาไม่เปิดเผยความสัมพันธ์เป็นเพราะกลัวเพื่อนร่วมงานจะอคติกับเธอ
เธอเชื่อ เชื่อสุดหัวใจว่าเขาหวังดีกับเธอจริงๆ
“เอาอะไรมามั่นใจว่าเขาทำเพื่อเธอ น่าขำสิ้นดี!”
วรรณนรีหัวเราะให้กับความโง่เขลาของตัวเองในอดีต
“เขาทำเพื่อตัวเองทั้งนั้น”
“คนเห็นแก่ตัว”
วรรณนรีกระตุกสร้อยที่คอกำไว้ในมือแน่น
หลับตาทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา จนมั่นใจแล้วว่าเธอจะยอมปล่อยมือ
ทิ้งความสัมพันธ์ที่เธออุตส่าห์ทะนุถนอมมา 5 ปี แต่กลับมองไม่เห็นปลายทางนี้ไป
เธอชื่นชมลุคคามาก มากซะจนยอมกลืนศักดิ์ศรีของตัวเอง ยอมเป็นคนรักลับๆ ของเขา
เด็กสาวใสซื่อคนนั้นที่เขาเพียงเลี้ยงเอาไว้ดูเล่น เหมือนแมวเชื่องๆ ตัวหนึ่ง
...ทว่าตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว
น้ำตาไหลซึมผ่านแก้มข้างหนึ่งโดยไร้เสียงสะอื้น หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรหาฝ่ายบุคคล เพื่อแจ้งเรื่อง ‘ลาออก’
“อื้อ~ ลุคคา... อ๊ะ” วรรณนรีสัมผัสถึงความเร่าร้อนที่ปะทุอยู่ข้างใน ความเจ็บแปลบแปรเปลี่ยนเป็นกระสัน ซาบซ่าน และเรียกร้องมากกว่าเดิม บดเบียดกายสาวเข้าหาเขาตามสัญชาตญาณ “อา...”เสียงครางทุ้มต่ำเล็ดลอดจากลำคอแกร่ง โพรงเนื้อนุ่มทั้งร้อนและรัดแน่นจนเขาแทบทนไม่ไหว เร่งจังหวะเร็วขึ้นและเร็วขึ้น... ตับ... ตับ... ตับๆๆๆๆๆ “ซี้ด... อ่า... อึก อ้า~ อะอ๊ะๆ” วรรณนรีร้อนวูบวาบราวกับโดนไฟลนร่าง ครางติดต่อกันไม่หยุด จิตใจกระเจิดกระเจิงไปกับความเป็นชายของลุคคาที่กำลังบดขยี้นวลเนื้อสาวของเธอ เสียงสอดใส่เสียดสีดังเร้าอารมณ์ เคาน์เตอร์สะเทือน เครื่องครัวกระทบกันดังสะท้อนแผ่วเบา ราวกับจะเป็นสักขีพยานความร้อนแรงของคนทั้งคู่ “ลุคคา อ๊ะ อึก...” วรรณนรีตัวสั่นสะท้านอยู่ดีๆ ก็เหม่อลอยเพราะเขาหยุด ผละท่อนลำหนาใหญ่ออก ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะได้สติ เขาก็ดึงเธอลงมาจากเคาน์เตอร์ แล้วจับหันหลัง สอดแก่นกายเข้ามากระแทกต่อรัวแรง “ยะย้า... อะอ๊า อื้อ ซี้ดอ้าอะ เสียว อ๊าย~” เสียงครางหวาน
วรรณนรีมองตาม ก่อนจะเบิกตาโพลงเมื่อเห็นความเป็นชายของลุคคาตั้งลำแข็งชันตรงหน้า ใบหูขาวเนียนแดงเถือก ร้อนฉ่าราวกับมีควันไฟระอุพ่นออกมา ทั้งที่ความจริงอากาศภายในห้องออกจะเย็นเฉียบเสียด้วยซ้ำ “ลุค อ๊า~ อือ...” “ทำไม” ลุคคาจ่อส่วนปลายบวมเบ่งกับร่องเนื้อนุ่ม แม้ไฟอารมณ์กำลังลุกท่วมใจจนเหงื่อผุดพรายขึ้นเต็มแผ่นหลัง แต่ไม่ได้รีบร้อนเอาเข้าไป เพียงซุกไซ้ เสียดสีกับหญิงสาวเบาๆ “ระร้อน” วรรณนรีหวิวไหวในอก หน้าท้องยุบพองตามแรงหายใจหอบลึก เหลือบมองแก่นกายที่กำลังถูไถกับร่องสวาทของตัวเอง ใบหน้าร้อนวูบวาบ ไม่อยากเชื่อว่าภาพแบบนี้จะเกิดขึ้นกับเธอจริงๆ หัวใจวรรณนรีเต้นกระหน่ำ ลุ้นระทึกในทุกลมหายใจเข้าออก จนโคนขาด้านในชื้นแฉะเต็มที่ จู่ๆ ลุคคาก็ก้มลงไปค้นเอาบางอย่างออกมาจากกองเสื้อผ้า ไม่นานเขาก็กลับมายืนประจันหน้าเธอเหมือนเดิม อย่าว่าแต่ขาดช่วงเลย วรรณนรียังไม่หายเหม่อด้วยซ้ำ รู้ตัวอีกทีก็เห็นเขาฉีกซองอะไรสักอย่าง แล้วความรู้สึกแข็งขึงก็ช่อช
วรรณนรีมือไม้สั่น ลูบคลำแผ่นอกแกร่งใต้ผ้าซาตินนุ่มลื่น... ราวกับกำลังสำรวจขุมทรัพย์ล้ำค้า “เร็วสิ” เสียงทุ้มเร่งเร้า เธอกลืนน้ำลายเอือก... ช้อนสายตามองเขาก่อนแล้วค่อยปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ด พรึ่บ เสื้อเชิ้ตลุคคาหล่นลงไปกองกับพื้น เผยท่อนบนเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นตึงต่อหน้าวรรณนรี รอนซิกแพกของเขาชัดจนหญิงสาวตาพร่าไปชั่วขณะ ฝ่ามือเล็กลากผ่านร่องอกแกร่งลงมาลูบคลำกล้ามท้องฉกรรจ์ด้วยความอยากรู้อยากเห็น “คุณดูดีมากเลย” “ชอบไหม” “อือ” วรรณนรีเอ่ยอย่างเขินๆ เหลือบมองขอบกางเกงเขาแววตาเปล่งประกาย ไม่ต่างจากเด็กที่กำลังสงสัยว่าข้างในนั้นมีอะไรซ่อนอยู่ ลุคคากระตุกยิ้มมุมปาก ก้มลงซบซอกคอขาวเนียนก่อนเอ่ยเสียงยั่วยวน “ถอดอีกสิ” “....” วรรณนรีเม้มริมฝีปาก ไม่เอ่ยคำพูดใดออกมา นิ้วเรียวขยับไปปลดหัวเข็มขัด คลายพันธนาการที่ผูกรั้งเอวสอบเอาไว้ทีละชิ้น... กระทั่งซิปเปิดอ้า เนื้อนูนด้าน
“ลุคคาลองนอนกับฉันสักครั้งไหม ฉันอาจไม่ได้สวยที่สุด แต่รูปร่างดีมากเลยนะ แล้วคุณก็ไม่เสียหายอะไรหรอก”โดยไม่คาดคิดเขาเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดคลิปเสียงที่บันทึกเอาไว้ให้เธอฟัง“นี่”วรรณนรีได้ยินเสียงตัวเองตอนเมาแล้วก็อยากจะคลุ้มคลั่งขึ้นมา ทั้งอาย โกรธ และนึกไม่ถึงว่าเขาจะถึงขั้นเก็บคลิปเสียงเธอเอาไว้ลุคคามองใบหน้าที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของวรรณนรี ยิ่งรู้สึกว่าเธอน่ารักจนเขาอดที่จะแกล้งต่อไม่ได้“คุณ!”วรรณนรีเอื้อมมือมาแย่งโทรศัพท์ในมือลุคคา แต่เขาโยกแขนหลบอย่างรู้ทัน เธอถึงกับกระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจ“ทำอะไรต้องเก็บหลักฐาน ฉันเคยบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอ”“อึก”“ว่าไง ตอนนี้มีอะไรจะพูดอีกไหม” ลุคคารั้งเอวบางเข้าหา โน้มหน้าลงพูดข้างผิวแก้มวรรณนรีลมหายใจร้อนกรุ่นทำเธอคันยุบยับไปข้างในหัวใจ เหลือบตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลา สีหน้ามีความลังเลเหลืออยู่“ทำไม มีใครรออยู่ที่ห้องหรือไง”“ไม่ ไม่มี...”วรรณนรีลมหายใจติดขัด ลนลานปฏิเสธ กลัวว่าเขาจะเข้าใจผิดจึงไม่ทันสังเกตเห็นสายตาเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าย“หรือว่าเธอรังเกียจฉัน”“ฉัน...”วรรณนรีอ้ำอึ้ง มองตอบสายตาจับจ้องของเขา หัวใจสั่นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอ
“เปลี่ยนรองเท้า” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นลอยๆ แต่กลับสลักลึกลงในหัววรรณนรี แม้เขาไม่ได้หันกลับมา เธอก็เข้าใจได้ว่าเขากำลังสั่งเธอ“....” หญิงสาวถอดรองเท้า เปลี่ยนเป็นสลิปเปอร์ เดินเข้ามาในบ้านเงียบๆลุคคาตรงเข้าครัว ถอดเสื้อคลุมพาดไว้กับเก้าอี้ เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตซาตินสีเข้มแนบไปกับแผ่นหลังกว้าง เนื้อผ้านุ่มลื่นถูกแสงไฟสะท้อนให้เห็นสัดส่วนอย่างชัดเจน ทุกการเคลื่อนไหวเผยให้เห็นเส้นไหล่และท่อนแขนที่เปี่ยมไปด้วยกล้ามเนื้อน่าหลงไหลเขาหยิบผ้ากันเปื้อนมาสวมอย่างคล่องแกล่ว เส้นสายผ้าพาดผ่านเอวสอบ เดินไปยืนหน้าเคาน์เตอร์ครัว ลงมือหยิบมีดและวัตถุดิบอย่างเงียบขรึมวรรณนรีกลืนน้ำลายเอือก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกำลังหิว หรือโดนรูปร่างของลุคคายั่วจนหน้ามืดตาลายก็ไม่รู้ลุคคาเองก็ดื่มไปเยอะ ไม่ค่อยได้แตะอาหารนัก ในท้องไม่มีอะไรให้ย่อย ตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกหิวแล้วเหมือนกัน“ให้ช่วยไหมคะ” วรรณนรีเดินมาชะโงกหน้ามองลุคคาที่กำลังเตรียมเนื้อเพื่อทำสเต๊ก“ไม่ต้อง”วรรณนรีได้ยินเช่นนั้นก็สูดหายใจลึก เลือกที่จะไม่กวนใจเขาอีก เดินมานั่งรอนิ่งๆ ที่โต๊ะ ระหว่างนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาไถ
วรรณนรีเดิมตามลุคคามาที่ลานจอดรถเงียบๆ โดยเว้นระยะห่างจากเขาประมาณหนึ่งเมื่อถึงรถ เธอก็เดินวนรอบหนึ่งตามที่ได้รับการสั่งสอนมาจากโรงเรียนสอนขับรถ พูดแล้วก็น่าอาย เธอเพิ่งจะไปเรียนขับรถมาเมื่อสามเดือนก่อน ก่อนเข้าสมัครงานนี่เอง เพราะหนึ่งในคุณสมบัติของพนักงานที่นี่คือต้องมีใบขับขี่ หรือจะพูดให้ดีก็คือ ต้องขอบคุณที่การสมัครงานครั้งนั้นทำให้เธอได้รับความสามารถเพิ่ม นั่นก็คือการขับรถยนต์เป็น “กุญแจรถคุณล่ะ” เธอยื่นมือไปยังลุคคา ลุคคามองเรียวแขนที่ดูเล็กเรียวและเปราะบางของเธอแล้วเริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ “เคยขับหรือเปล่า” ลุคคาเอากุญแจออกมาแล้วแต่ยังตัดใจส่งให้วรรณนรีไม่ได้ “ขับได้ค่ะ” “งั้นก็รบกวนด้วยแล้วกัน” ลุคคาหย่อนกุญแจรถหรูลงบนฝ่ามือวรรณนรีอย่างไม่มีทางเลือก เดินมาเปิดประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับ วรรณนรีมองกุญแจรถในมือก่อนสูดหายใจลึก สตาร์ทรถเหมือนปกติ ทั้งที่หัวใจเต้นรัวแรงเพราะเพิ่งเคยขับรถรุ่นนี้ครั้งแรก แม้ระบบเกียร์ของรถทุกคันแทบจะเหมือนกันแต่คอนโซลรถกลับแตกต่างกันเล็ก
Comments