ทิฟฟานี่จ้องไปที่มาร์ค เมื่อมาร์ครู้สึกว่ามีคนจ้องมองเขา เขาจึงเงยหน้าขึ้นในขณะเดียวกับที่แอเรียนผลักทิฟฟานี่เข้าไปในครัวอย่างรวดเร็ว “ไปช่วยแจ็คสันไป!”ทันใดนั้น โทรศัพท์ของแจ็คสันซึ่งอยู่บนโต๊ะกาแฟที่ห้องนั่งเล่นก็ดังขึ้น มาร์ครับสายแทน เสียงของซัมเมอร์ดังทะลุลำโพง “ไอ้เด็กเหลือขอ แกทำอะไรกับเงิน 150,000 ดอลลาร์? ฉันไม่เห็นรู้เลยว่าบริษัทต้องการเงินทุน แกเอาไปใช้กับอะไรกันแน่? แกไม่ได้วางแผนทำอะไรไม่ดีใช่ไหม?”มาร์คดึงอุปกรณ์ออกจากหูพลางรู้สึกว่าแก้วหูของเขาร้องไห้เล็กน้อย "คุณเวสต์ ผมเอง มาร์ค แจ็คสันไม่ว่าง ผมรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาไม่ได้ใช้จ่ายอะไรโดยไม่จำเป็น ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวล เขาไม่ใช่เด็กแล้วด้วยและเงิน 150,000 ดอลลาร์ก็ไม่ได้มากนัก”เมื่อซัมเมอร์ได้ยินเสียงของมาร์ค น้ำเสียงของเธอก็อ่อนโยนขึ้นมาก “โอ้ คุณเองเหรอมาร์ค… ได้ ๆ ฉันสบายใจที่คุณคอยดูเขาอยู่ ตอนนี้เขาคบกับทิฟฟานี่ไม่ใช่เหรอ? ฉันแค่กังวลว่าเขาจะออกไปเที่ยวกับผู้หญิงอื่นอีก ปกติฉันไม่สามารถควบคุมเขาได้ คุณเป็นพี่ชายของเขา ช่วยฉันดูเขาด้วยด้วยนะ คุณแต่งงานไปแล้วในขณะที่เขายังเป็นอยู่แบบนั้น ฉันกังวลจริง ๆ ปกติฉ
เมื่อได้รับข้อความนั้น มาร์คก็ลบมันทิ้งหลังจากที่อ่านมันจบ สิ่งที่ไม่เหมาะสมเช่นนั้นไม่มีที่ให้อยู่ในโทรศัพท์ของเขา…เขาพับแขนเสื้อเพื่อช่วยแอเรียนเรื่องภาชนะใส่อาหาร เมื่อแอเรียนเห็นว่าเขากำลังจะทำงานบ้านจริง ๆ เธอจึงหยุดเขาอย่างรวดเร็ว “ไม่จำเป็นต้องช่วยฉัน แค่ล้างจานเอง คุณไม่รู้วิธีล้างอยู่แล้ว…”มาร์คพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันเรียนรู้ได้ ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้น เดี๋ยวฉันจัดการเอง”ทั้ง ๆ ที่ยังสงสัยเขาอยู่ สุดท้ายแอเรียนก็อนุญาตให้เขาเข้าไปในครัวตามลำพังพลางตรวจดูเขาเป็นครั้งคราวเพื่อให้ตัวเองไม่ต้องกังวลและเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะทำงานออกมาได้ดีจริง ๆกลิ่นหอมจากดอกไม้บนชั้นวางของกระจายสู่ตัวบ้านผ่านเครื่องปรับอากาศ เมื่อมองดูดอกกุหลาบที่มากมายอยู่ที่บ้าน แอเรียนก็รู้สึกพูดไม่ออก มาร์คไม่ได้ฟังเธอ เธอขอให้เขาไม่ส่งดอกไม้ให้เธออีกต่อไป แต่เขาก็ยังส่งช่อดอกไม้ให้เธอทุกวัน หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เธอจะไม่มีพื้นที่ว่างที่บ้านเพื่อเก็บพวกมันและร้านก็ไม่ต้องการดอกไม้มากขนาดนั้นด้วยจู่ ๆ โทรศัพท์ของมาร์คก็ดังขึ้น เขาใส่โทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากางเกง เขาจึงไม่สะดวกที่จะยิบมันด้วยมือที่เปียกและไม่ว่
เสียงของเธอถูกปิดลงด้วยปากของเขาแอเรียนไม่สามารถหลุดพ้นจากเงื้อมมือของเขาได้ เมื่อมาร์คจูบไปถึงข้างหูของเธอ เธอก็โพล่งขึ้นว่า “คุณแน่ใจเหรอว่าคุณรักฉัน? หรือคุณแค่อยาก? มาร์ค ถ้าคุณอยากจะอยู่กับฉันจริง ๆ ให้เวลาฉันยอมรับคุณและยอมรับอดีตหน่อย ไม่ใช่บังคับให้ฉันทำแบบนี้ตลอดเวลา! ตอนนี้ฉันรับไม่ได้ที่จะต้องอยู่กับคนที่ทำให้พ่อของฉันต้องตาย!”มาร์คชะงัก “ถ้าฉันให้เวลาเธอ เธอจะยอมรับฉันไหม?”แอเรียนไม่รู้คำตอบเหมือนกัน ถ้าเขาให้เวลาเธอเพียงพอ เธอจะยอมรับเขาและสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตได้จริงเหรอ? เธอคิดว่าเธอน่าจะทำไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่เธอเห็นเขา เธอจะนึกถึงการตายอย่างเข้าใจผิดของพ่อของเธอและพบมันเป็นเรื่องยากที่จะปล่อยไป คนที่เธอเคยคิดว่าเป็นคนที่สำคัญที่สุด กลับกลายเป็นคนที่ทำให้เธอสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง เธอจะปล่อยให้มันผ่านไปได้อย่างไร?ความเงียบของเธอทำให้มาร์คตกใจ “พูดอะไรหน่อยสิ! เธอจะพยายามยอมรับฉันไหมถ้าฉันให้เวลาเธอ?”แอเรียนกัดริมฝีปากของเธอ “ฉันไม่รู้… ฉันไม่รู้ว่าฉันจะทำได้หรือเปล่า… อย่าบังคับฉันเลย…”ถ้า... ถ้าเธอแจ้งเวลาเขา แม้ว่ามันจะเป็นเพียงการประมาณคร่าว ๆ หรือสัญญาอ
มาร์คพูดราวกับว่าอ่านใจเธอออก “ฉันสามารถให้เวลาเธอได้ แต่ไม่ใช่เพื่อที่เธอจะได้ละเลยฉันและเสียเวลาของฉันไปด้วย เธอต้องพิจารณาความสัมพันธ์ของเราอย่างจริงจัง ถ้าเธอทำไม่ได้ ฉันจะพาเธอกลับไป อย่าขอให้ฉันยอมแพ้ในตัวเธอ ฉันทำไม่ได้หรอก”แอเรียนรู้สึกเหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้อง เธอขมวดคิ้ว “นี่มันไม่ยุติธรรมเลย ฉันต้องตกลงที่จะกลับไปอยู่กับคุณหรือถ้าไม่งั้นฉันจะถูกบังคับให้กลับไปกับคุณงั้นเหรอ? ฉันไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเลยเหรอ? ถ้าฉันยังทำไม่ได้หลังจากที่พิจารณาแล้ว ไม่ว่าอย่างไงฉันก็ต้องกลับไปกับคุณอยู่ดี แล้วจะให้เวลาฉันเพื่ออะไร? เพื่อให้ฉันชักชวนตัวเองให้ไปอยู่กับคุณเหรอ? คุณไม่คิดว่าคำขอของคุณไม่สมเหตุสมผลไปหน่อยเหรอ? จริง ๆ แล้วคุณควรให้เวลาฉันพิจารณาและหากฉันไม่สามารถผ่านมันไปได้เราจะแยกทางไม่ใช่เหรอ?”มาร์คมองเธอและออกเสียงแต่ละคำอย่างชัดเจน "ถูกตัอง ฉันให้เวลาเธอเพื่อให้เธอคุ้นชินกับมัน ยอมรับความจริงที่ว่าเธอไม่สามารถและจะไม่มีวันจากฉันไปได้เท่านั้น ไม่ใช่เพื่อให้เธอพิจารณาว่าเธอจะอยู่หรือจะไป”ถึงแม้ว่าแอเรียนจะรู้สิ่งนี้ดีอยู่แล้ว เธอก็ยังรู้สึกหมดหนทางอยู่ดี ถ้าเธอปฏิเสธเขาตอนนี้ เ
เอริกไม่ได้แก้คำพูดของเธออีกต่อไปเพราะเขามัวแต่กินอยู่ สิ่งที่เรียกว่า "ไว้เจอกัน" จะไม่เกิดขึ้นอยู่ดี มันเหมือนกับ "ไม่เจอกัน" มากกว่า เขาจะไม่มาที่เมืองนี้โดยเปล่าประโยชน์ ทริปนี้เป็นเพียงอุบัติเหตุตั้งแต่แรกหลังจากนั้นไม่นาน ธัญญ่าก็ถามด้วยความคาดหวังว่า “ริกกี้ บ้านเกิดของคุณก็อยู่ที่เมืองหลวงด้วยเหรอ? เมืองหลวงใหญ่ไหม? ด้วยตึกระฟ้าทุกหนทุกแห่งที่ดูยิ่งใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อใช่ไหม?”เอริกไม่เคยเจอใครที่ถามคำถามโง่ ๆ แบบนี้มาก่อนและตอบแบบสบาย ๆ ว่า “ไม่มากก็น้อย ทุกอย่างก็ปกติดี มันใหญ่กว่าที่นี่มากและดีกว่ามาก มีประชากรหนาแน่นด้วย เธอไม่เคยไปที่นั้นเหรอ?”ธัญญ่าส่ายหัวอย่างโศกเศร้า “ไม่ ฉันไม่เคยจากที่นี่เลย อันที่จริง ฉันอยากพาคุณปู่ของฉันออกไปเที่ยว ออกไปดูโลกภายนอก แต่ฉันมีเงินไม่มาก ฉันกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อเก็บออมบ้าง ตอนนี้คุณปู่แก่แล้วและเขาก็ป่วย เขาจำทางไม่ได้อีกแล้วและเขาอาจจะจำฉันไม่ได้ในเร็ว ๆ นี้ด้วย… ฉันอยากพาเขาไปเที่ยวเมืองหลวงตอนที่เขายังอยู่ที่นี่ ด้วยเงินที่คุณให้มา มันช่วยฉันได้มากเลย แผนที่จะพาคุณปู่ออกเดินทางคืบหน้าไปเยอะเลย!”จู่ ๆ เอริกก็รู้สึกว่าอาหารม
ทิฟฟานี่ประหลาดใจมาก “แบบนั้นก็ได้เหรอ? พวกเขาไม่ได้หย่ากัน หลายปีแล้วที่คุณไม่ได้พบเขา และคุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาตายไปแล้วหรือมีชีวิตอยู่ มันไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ? ถ้าเขาไม่มีความรู้สึกระหว่างกัน เขาควรหย่ากันไม่ดีกว่าเหรอ? พวกเขาทั้งสองจะได้เป็นอิสระ แบบที่เป็นอยู่ตอนนี้เป็นการเสียเวลาแม่ของคุณ… โอ้โห… เอาล่ะ ฉันเข้าใจ ถ้าสถานการณ์เป็นเช่นนั้น เราจะละเว้นพ่อของคุณก็แล้วกัน”แจ็คสันรีบเปลี่ยนเรื่อง “ในเมื่อคุณตกลงแล้ว ให้ผมนัดพรุ่งนี้เลยไหม? อยู่เป็นเพื่อนผมคืนนี้ก่อน…”ทิฟฟานี่จ้องมองเขาอย่างไม่ปรานี “ฉันเพิ่งกลับมาและคุณไม่ให้ฉันกลับบ้านไปหาแม่ฉันเหรอ? พรุ่งนี้เราก็ได้เจอกันแล้ว ฉันจะไม่อยู่คืนนี้ ทำตัวดี ๆ หน่อยสิคะ!"น่าแปลกที่แจ็คสันไม่ยืนกราน “โอเค… กลับไปใช้เวลากับแม่ของคุณนะ หลังจากพรุ่งนี้เขาก็จะเป็น 'แม่ของเรา'”ในตอนบ่าย แจ็คสันส่งทิฟฟานี่กลับบ้านและไปที่คฤหาสน์เวสต์ซัมเมอร์อยู่บ้านและกำลังอ่านหนังสือพลางอุ้มสุนัขของเธอ เธอไม่ได้แสดงปฏิกิริยามากนักเมื่อเห็นลูกชายกลับบ้าน “เปลี่ยนรองเท้าด้วย อย่าทิ้งรอยเท้าไว้ทุกที่”แจ็คสันเปลี่ยนสวมรองเท้าแตะที่ประตูก่อนจะเดินไปข้างห
ทิฟฟานี่หยิกแขนด้านในของเขาเล็กน้อย “แม่ของฉันยังอยู่ที่นี่ คุณช่วยหยุดงอแงได้ไหม?”ลิเลียนพูดทันทีว่า “ไม่เป็นไร เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาสุดโรแมนติกอันแสนหวานของเธอเถอะ คิดเสียว่าฉันไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้วกัน”เมื่อพวกเขาไปถึงคฤหาสน์เวสต์ หลังของลิเลียนก็แข็งทื่อ ที่อยู่อาศัยของครอบครัวเพียงอย่างเดียวก็มีมูลค่ามากกว่าหนึ่งล้านดอลลาร์ เธอค่อนข้างพอใจกับลูกเขยในอนาคตของเธอซัมเมอร์สั่งให้คนใช้ทำความสะอาดพื้นที่ทั้งหมดอย่างทั่วถึง เธอยังขอให้คนสวนเล็มต้นไม้ในสวนด้วย นอกจากนี้ เธอยังให้ถั่วน้อยของเธอเปลี่ยนเป็นชุดสีขาวน่ารักพร้อมโบว์ผูกที่คอเมื่อพวกเขาเข้าไปในพื้นที่บ้าน ถั่วน้อยก็รีบวิ่งเข้าหาทิฟฟานี่โดยตรง น่าแปลกที่เธอพบว่าตัวเองเป็นที่ชื่นชอบของสัตว์ตัวเล็ก ๆ เธออุ้มถั่วน้อยขึ้นอย่างระมัดระวังเพราะมันเป็นสุนัขเลี้ยงของซัมเมอร์ ซัมเมอร์มักโปรดปรานสุนัขที่เธอเลี้ยง ทิฟฟานี่ก็เลยไม่กล้าที่จะรุนแรงกับมันลิเลียนมองไปที่ถั่วน้อยและพบว่าตัวเองสนใจมันเช่นกัน “สุนัขตัวนี้สวยจังเลย แต่งตัวได้น่ารักมาก! ช่างรื่นเริง”ซัมเมอร์ยิ้มและพาพวกเขาไปที่ห้องนั่งเล่น “ฉันว่างเสมอและแจ็คสันไม่ได้อยู่ที
เธอเดินกลับไปที่ห้องและเขย่าแจ็คสันให้ตื่นขึ้นจากการงีบหลับ “เร็วเข้า ลุกขึ้นแต่งตัวเร็ว พ่อของคุณกลับมาแล้ว!”แจ็คสันสะดุ้ง “อะไรนะ?”เธอพยักหน้าอย่างจริงจัง “ฉันไม่ได้โกหก มันเป็นความจริง เขาอยู่ชั้นล่าง รีบลุกและลงไปข้างล่างกับฉัน ฉันตื่นเต้นเกินไปที่จะทำสิ่งนี้คนเดียว”แจ็คสันขมวดคิ้ว เขาเดินไปที่ห้องน้ำอย่างสบาย ๆ และอาบน้ำใส่เสื้อผ้าแล้วลงไปชั้นล่าง สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาเมื่อเขามองไปที่พ่อของเขา เขาไม่ได้ทักทายแต่กลับดึงทิฟฟานี่ไปนั่งที่โซฟาข้าง ๆ เขา“ลูกโตขึ้นแล้วนะแจ็คสัน”แจ็คสันเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า “ผู้คนมักเติบโต ผมควรจะยังคงเป็นเด็กเหมือนในความทรงจำของคุณเหรอ?”พ่อของเขาหรี่ตาลง แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “มันเป็นความผิดของพ่อเองทั้งหมด”ลิเลียนรู้สึกสงสัย แต่มันเป็นเรื่องครอบครัว เธอจึงหุบปากไว้ ความอดทนของซัมเมอร์นั้นช่างน่าตกใจ มองผิวเผินเธออาจดูไม่สบายใจ แต่เธอก็ไม่ได้โกรธเคือง ทั้งครอบครัวมีความสงบสุขมากในระหว่างมื้ออาหาร ยกเว้นแจ็คสันที่มีสีหน้าเคร่งขรึมและไม่ได้พูดอะไรมากหลังจากทานอาหารเสร็จ ในที่สุดซัมเมอร์ก็ขาดสติและกรีดร้องใส่สามีของเธอเมื่อ