Beranda / รักโบราณ / เจ้าสาวของท่านพี่ / ตอนที่ 2 บุกห้องนอน...

Share

ตอนที่ 2 บุกห้องนอน...

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-03 14:28:34

ฝ่ายเจิ้งหมิงกำลังก้าวเร็วๆ มาตามทางเดินมุ่งสู่ห้องพัก เพื่อเตรียมสัมภาระให้พร้อมสำหรับการเดินทางไกล ระหว่างเดินผ่านห้องรับรอง องครักษ์หนุ่มก็ต้องชะงักฝีเท้า เพียงแค่เห็นว่า หญิงงามผู้หนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านหนึ่งของห้อง

นางสวมชุดฮั่นฟูตัวยาวสีขาว เสื้อกั๊กตัวนอกสีชมพูปักลายแมลงปอตัวเล็กๆ บินอยุ่ในสวนพฤกษชาติ ดวงหน้าแตะแต้มด้วยเครื่องสำอางแต่พองาม เผยผิวพรรณผุดผ่อง ดวงตาเรียวเล็ก ภายใต้คิ้วโก่งงาม จมูกโด่งเชิดน้อยๆ รับกับกลีบปากอิ่มสีชมพูสดใส ราวกลีบกุหลาบแรกแย้ม และสิ่งที่ทำให้รู้ถึงความสูงศักดิ์ก็คือ เรือนผมเกล้าประดับด้วยปิ่นทองคำ ผมส่วนหนึ่งปล่อยยาวเคลียแผ่นหลังเรียบตรงดุจแพรไหม ดูงดงามไร้ที่ติ

แต่แล้ว องครักษ์หนุ่มก็แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เมื่อแลเห็นเงาร่างของใครคนหนึ่งผ่านเข้ามาซ้อนทับอยู่เหนือร่างนั้น

เธอเป็นหญิงงามดูแปลกตา เรือนผมดำขลับซอยสั้นระต้นคอ รับกับดวงหน้ารูปไข่ขาวผ่อง ดวงตาคู่เรียวคมกล้า นั่นไม่ได้ทำให้เธอดูประหลาดเท่ากับการแต่งกายผิดกับสตรีทั่วไป เธอสวมเสื้อแขนยาวกับกางเกงเข้ารูปสีดำ ดูไม่น่าใช่การแต่งกายของชาวแผ่นดินใหญ่เลย

เจิ้งหมิงยกมือขึ้นขยี้ตา เพ่งพินิจเงาร่างนั้นอีกครั้ง พลันก็แลเห็นเพียงดวงหน้าของหญิงงาม ภาพหญิงสาวแต่งกายประหลาดเลือนหายไปเสียแล้ว

หูตาเขาคงจะฝ้าฟางไปชั่วขณะแล้วแน่ๆ ที่มองเห็นหญิงงามผู้สูงศักดิ์กลายเป็นสตรีประหลาดผู้นั้นไปได้

แต่ก็ช่างเถิด นี่ไม่ใช่เวลาที่เขาจะต้องสนใจเรื่องนี้ สู้รีบเก็บสัมภาระ แล้วรีบออกเดินทางโดยม้าเร็วไปยังจุดหมายจะดีกว่า

บอกตนเองแล้ว องครักษ์หนุ่มก็รีบเดินมายังห้องพักทันที

เจิ้งหมิงควบม้าเร็วออกจากเมืองซื่อเหอ ใช้เวลาสองวันหนึ่งคืนก็เดินทางมาถึงเมืองฉางโจว ในเวลาพลบค่ำ องครักษ์หนุ่มจึงพักค้างแรมที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง กลางเมืองฉางโจวนั่นเอง

“เสี่ยวเอ้อ ขอชาร้อนที่นึง” องครักษ์หนุ่มบอกกับเสี่ยวเอ้อหนุ่มน้อยที่กุลีกุจอเข้ามาต้อนรับเขา ตั้งแต่ก้าวเข้ามา

น่าแปลกที่โรงเตี๊ยมใจกลางเมืองยามพลบค่ำเช่นนี้กลับดูเงียบเหงาไร้ผู้คน

“ครับ คุณชาย” เสี่ยวเอ้อหายเข้าไปในครัวด้านหลังครู่หนึ่งก็กลับออกมาพร้อมสิ่งที่เจิ้งหมิงต้องการ

“เสี่ยวเอ้อ เจ้าเคยได้ยินเรื่องที่มีผู้หญิงท้องในเมืองฉางโจวหายตัวไปรึเปล่า”

“ได้ยินครับคุณชาย แต่มันก็แปลกอยู่นะครับ ทำไมคนที่หายตัวไปจึงต้องเป็นคนท้องด้วย ชาวบ้านแถวนี้เค้าก็ลือกันทั้งนั้นแหละครับว่า พวกที่จับตัวคนท้องไปคงไม่ใช่คนธรรมดา”

“งั้นเหรอ” เจิ้งหมิงแสดงท่าทีว่าเขาสนใจเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ

ขณะที่เสี่ยวเอ้อเองก็เล่าตามประสาคนช่างพูด

“ครับ เค้าลือกันว่า อาจจะเป็นฝีมือพวกปีศาจจิ้งจอกก็ได้ คิดดูนะครับคุณชาย บางทีพวกมันอาจจะจับคนท้องไปผ่าท้อง เอาเด็กออกมากินก็ได้ คิดแล้ว ขนลุกจริงๆ เลยครับคุณชาย” เสี่ยวเอ้อทำท่าทางขนลุกขนพองอย่างที่พูด

“อ้อ มิน่าล่ะ พอใกล้ค่ำถึงไม่มีใครออกมาข้างนอกกันเลย”

“ครับ แขกที่มาพักก็สั่งอาหารเข้าไปกินในห้อง คงกลัวเจอปีศาจจิ้งจอกกันหมดล่ะครับ”

“เรอะ ขอบใจมากนะ เอานี่ เจ้าไปเถอะ” เจิ้งหมิงยื่นเงินค่าน้ำชาให้เสี่ยวเอ้อ ก่อนที่เขาจะผละไปต้อนรับแขกรายใหม่ที่เพิ่งก้าวเข้ามา

แม้จะกลับเข้ามาในห้องพักนานแล้ว หากองครักษ์หนุ่มก็ยังคิดไม่ตกเรื่องที่ได้ยินมาจากเสี่ยวเอ้อหนุ่มน้อยอยู่ดี เพราะหากเรื่องการหายตัวของหญิงตั้งครรภ์ในเมืองฉางโจวเป็นฝีมือของปีศาจจิ้งจอกดังข่าวลือจริง เหตุใด จางเหวินชิง สามีของหนึ่งในหญิงตั้งครรภ์ที่หายตัวไป จึงมีชีวิตรอดไปร้องทุกข์ถึงเมืองซื่อเหอได้

หากผู้อยู่เบื้องหลังเป็นปีศาจจริง เขาควรจะถูกตามฆ่าตั้งแต่ตอนเดินทางไปเมืองซื่อเหอแล้ว

เป็นไปได้ไหมนะว่า จะมีเงื่อนงำบางอย่างแอบแฝงในเรื่องนี้อยู่

เจิ้งหมิงครุ่นคิดก่อนตัดใจดับตะเกียงนอน

ในห้วงนิทรารมย์อันลึกล้ำนั้น เจิ้งหมิงมองเห็นตัวเองยืนอยู่กลางห้องนอนแปลกตา

โต๊ะ ตู้ เตียง ไร้ลวดลายดูเรียบ เตียงนอนที่ควรจะมีมุ้งม่าน กลับมีเพียงที่นอนวางอยู่บนเตียงกลางห้อง ผ้าปูที่นอน หมอน ผ้าห่มสีขาวจัดวางอย่างเป็นระเบียบ

แทนที่ภายในห้องจะสว่างด้วยแสงตะเกียง ก็กลับสว่างจ้าด้วยแสงจากโคมระย้า ด้านหนึ่งของผนังห้องมีอะไรบางอย่างรูปสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่แขวนอยู่ และที่แปลกก็คือ มีภาพผู้คนแต่งกายแปลกๆ เคลื่อนไหวอยู่ในนั้นด้วย

บนถนนที่ควรจะมีผู้คนเดินขวักไขว่ หรือเกี้ยวขุนนางมีวัตถุประหลาดตาเทียมล้อแล่นสวนกันไปมา

เห็นแล้วเจิ้งหมิงก็ชะโงกหน้าไปมองอย่างอดตื่นตาตื่นใจไม่ได้

แต่แล้ว… องครักษ์หนุ่มก็ต้องสะดุ้งสุดตัว กับเสียงแหวแหลมลั่นดังมาจากทางด้านหลัง

“คุณเป็นใคร เข้ามาในห้องฉันได้ยังไง”

เมื่อหันไปมอง จึงเห็นว่าหญิงสาวผมสั้นระต้นคอ หน้าตาคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนยืนอยู่

เธอสวมชุดคลุมตัวยาว ทำด้วยผ้าขนหนูสีขาวสะอาด รัดตัวเสื้อด้วยสายคาดเอวเย็บต่อจากตัวชุดนั่นเอง ดูไม่รัดกุมเอาซะเลย หากหญิงสาวก็ยังตั้งการ์ตเตรียมรับมือกับผู้บุกรุกเต็มที่

“แล้วแม่นางล่ะ เป็นใคร”

“พูดจาแปลกๆ แบบนี้ คนบ้าแน่ๆ” เธอปรามาด ก่อนพุ่งเข้ามาอย่างไม่หวั่นเกรง

เจิ้งหมิงจึงต้องต่อสู้กับเธออย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ต่างคนต่างรุกรับกันด้วยมือเท้าอย่างไม่มีใครยอมใคร

“แม่นาง หยุดคุยกับข้าก่อนเถิด”

“จะคุยอะไร ก็คุณบุกเข้ามาในห้องฉันน่ะ” เธอโต้ และคงได้ถีบยอดอกเขาแล้ว หากไม่เพราะสายรัดเอวชุดคลุมอาบน้ำเจ้ากรรม เกิดหลุดซะก่อน

“ว้าย!” เธออุทานลั่น ถอยกรูดไปทางผนังด้านหนึ่ง รีบรวบชุดปิดบังเรือนร่างขาวโพลนเอาไว้อย่างรวดเร็ว

“อย่าเข้ามานะ”

“แม่นาง ฟังข้าก่อน ข้าไม่ได้เจตนาจะมาที่นี่ ข้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาที่นี่ได้ยังไง”

“คุณกำลังจะบอกฉันว่า คุณทะลุมิติเข้ามาในห้องฉันงั้นสิ ออกไปนะ” หญิงสาวไม่พูดเปล่า ค่อยๆ ขยับไปจนถึงลิ้นชักข้างเตียง ก่อนจะฉวยวัตถุสีดำมะเมื่อมขึ้นมาปลดล็อคแมกกาซีน ปากก็ขู่ฟ่อ

“ยกมือขึ้น ฉันบอกให้ยกมือไง”

เจิ้งหมิงยกมือขึ้นอย่างว่าง่าย แต่แล้วภาพเหตุการณ์ตรงหน้าก็มลายไป กลายเป็นว่าเขายังคงนอนอยู่ที่เดิม

“นี่ข้าฝันไปหรอกเหรอ” เจิ้งหมิงรำพึงกับตนเอง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจะเหมือนจริงขนาดนี้ แม้จะเป็นแค่ความฝัน หากเขาก็ยังรู้สึกเคล็ดขัดยอกเล็กน้อย คล้ายได้ผ่านการต่อสู้กับหญิงสาวคนนั้นมาจริงๆ

อีกห่วงเวลาหนึ่ง ห่างไกลกันหลายศรรตวรรษ “ณารา เหว่ย” สะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึก หอบหายใจแรง แววตาทั้งคู่ทอประกายหวาดหวั่นในความมืด เพียงครู่ก็ถอนหายใจยาว เมื่อรู้แน่ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความฝัน

ตลอดทั้งวัน เธอคงคร่ำเคร่งกับการถ่ายละคร สวมบทนางเอกหนังจีนโบราณอยู่แน่ๆ ถึงได้เก็บเอามาฝันเป็นตุเป็นตะได้ขนาดนี้ ถึงขนาดฝันว่า มีผู้ชายแต่งตัวอย่างชาวยุทธบุกเข้ามาในห้องนอน

หญิงสาวล้มตัวลงนอน พลิกกายไปมาบนเตียงอยู่เป็นนาน เมื่อไม่อาจข่มตาหลับได้ จึงลุกขึ้นเปิดไฟกลางห้อง

แต่แล้ว ก็ต้องแปลกใจ เมื่อเห็นรอยเท้ามากมายปรากฏอยู่บนพื้นห้อง อีกทั้งปืนพกของเธอเองก็ตกอยู่บนพื้นห้องด้วย

หากมีใครเข้ามาในห้องจริง ก็ไม่น่าจะมีรอยเท้าเปื้อนดินแบบนี้ได้ เมื่อเดินสำรวจไปทั่วทั้งห้อง ก็ไม่เห็นร่องรอยของการปีน หรืองัดแงะเข้ามา

หรือสิ่งที่เธอฝัน จะเกิดขึ้นจริงกันนะ

ณาราทิ้งกายลงบนที่นอนนุ่ม ครุ่นคิดหาสาเหตุของรอยเท้า

ยิ่งเปิดย้อนดูภาพจากกล้องวงจรปิดชนิดพิเศษที่เธอติดไว้บนนาฬิกาปลุก ก็กลับพบว่า กล้องหยุดทำงานไป ช่วงเวลาระหว่าง 5 ทุ่ม 45 นาทีถึงเที่ยงคืน ขณะที่เวลาอื่นนั้น กล้องยังคงทำงานปกติ

มันจะต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นกับเธอแน่ๆ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เจ้าสาวของท่านพี่    คอนที่48. จบ

    ทันทีที่กองทัพจากเมืองหลวงยกพลขึ้นบกที่เกาะจวินจวู พร้อมด้วยเจิ้งหมิง จี้หมิน และเจิ้นหยาง บรรดาหญิงตั้งครรภ์ที่ถูกจับตัวไป ก็ถูกช่วยพาขึ้นเรือกลับมายังฝั่ง เมื่อไม่ได้รับยาจากคนของเจ้าเกาะ ความทรงจำของพวกนางก็ค่อยๆ กลับคืนมา ที่ต้องลุ้นระทึกก็คือ หญิงตั้งครรภ์จำนวน 5 นาง ได้คลอดลูกบนเรือ ดีที่เจียงจื่อหยารอบคอบ ให้หมอตำแยในเมืองฉางโจวติดตามไปด้วยหลายคน จึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางใช้เวลาเกือบครึ่งเดือน เฉินลู่ซีก็ส่งหญิงตั้งครรภ์กลับสู่ครอบครัวได้สำเร็จ“อวี้เอ๋อ” จางเหวินชิง กอดภรรยาไว้ในอ้อมแขนทั้งน้ำตาอาบสองแก้ม นึกว่าชาตินี้จะไม่ได้พบภรรยาเสียแล้ว“ท่านพี่” นางเองก็กอดสามีเอาไว้แน่นเช่นกัน“ขอบคุณใต้ท้าว องครักษ์เจิ้ง ที่ช่วยคลี่คลายคดีความทุกข์ให้ครอบครัวข้า ขอบคุณครับ” จางเหวินชิงคารวะจากใจขณะที่เสี่ยวหง ปิงปิงและซวงเอ๋อเองก็ต่างโผเข้ากอดสามีของนาง ก่อนจะรีบผละออก เมื่อเห็นว่าณารายืนมองมายิ้มๆ“เจี้ยนฟาง” นางทั้งสามปรี่เข้ามาหาณารา ต่างกวาดสายตามองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วมาหยุดอยู่ตรงกลางลำตัว“เอ๊ะ เจ้าไม่ได้ตั้งครรภ์นี่” ซวงเอ๋อทักขึ้นด้วยความประหลาดใจ“อึม” ณาราพยักหน้า

  • เจ้าสาวของท่านพี่    ตอนที่47. ค่ำคืนหนึ่ง

    เจ้าเป็นถึงฮูหยินรองของตำหนักอ๋อง ใครเล่าจะข่มขู่เจ้าได้ แต่เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ อย่างไรข้าก็ต้องพาตัวทั้งเจ้าและพ่อบ้านไปรับโทษอย่างแน่นอน” สิ้นคำพูดของท่านอ๋อง 9 ไห่หลานก็พาตัวจ้าวหลงซินออกมา โดยมีเฉินลู่ซี และมือปราบเจิ้นหยางเดินตามเข้ามาในห้องเช้าวันต่อมา นอกจากข่าวใหญ่ เรื่องคนของศาลซื่อเหอ นำกำลังทหารจากเมืองหลวงไปยังเกาะจวินจวูแล้ว ยังมีข่าวของฮูหยินรองแห่งตำหนักอ๋อง ปองร้ายธิดาคนเล็กของท่านอ๋อง มิหนำซ้ำยังลักลอบเป็นชู้กับพ่อบ้านจ้าวหลงซิน เป็นที่พูดถึงทั่วเมืองเมื่อเรื่องร้ายผ่านไปแล้ว ไห่ถวนก็ขอตัวตามเจิ้งหมิงกลับเกาะจวินจวู ขณะที่ณาราในร่างจ้าวเจี้ยนฟางเอง ต้องรออยู่ที่ตำหนักอ๋อง ให้เจิ้งหมิงทำธุระของเขาให้เสร็จสิ้นเสียก่อน ค่อยพาผู้ใหญ่จากเมืองหลวงมาสู่ขอนางตามประเพณีแม้จะมีชีวิตสุขสบายดีแล้ว ณาราก็ยังรู้สึกอึดอัดอยู่ดี ที่ไม่สามารถบอกให้ใครล่วงรู้ได้ว่า เธอไม่ใช่จ้าวเจี้ยนฟาง ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถทำให้ท่านอ๋อง 9 เสียใจเรื่องธิดาได้ จึงทำได้เพียงเก็บคำเสียค่ำคืนหนึ่ง ท่านอ๋อง 9 นอนกระสับกระส่ายอยู่บนที่นอน จิตดิ่งลึกลงสู่ห้วงนิทรารมย์ ที่มีเพียงม่านหมอกขาวจนมองไม่เ

  • เจ้าสาวของท่านพี่    ตอนที่46.ท่านอ๋อง เมตตาข้าด้วย

    นึกไม่ถึงว่า เสี่ยวชุ่ยจะฝ่าฝืนคำสั่ง คิดปองร้ายจ้าวเจี้ยนฟาง“ข้าผิดไปแล้ว ท่านอ๋อง เมตตาข้าด้วย”“ข้าจะให้ใต้ท้าวเฉิน เป็นคนตัดสินความเรื่องนี้เอง”ท่านอ๋อง เมตตาข้าด้วย”“เสี่ยวชุ่ย บอกข้ามาว่าใครสั่งการให้เจ้าทำร้ายท่านหญิงน้อยเช่นนี้” ฮุ่ยเหนียงปราดเข้าหาคนผิด จิกเล็บลงกับเรือนผมของนางสุดแรง จนหน้าหงาย ดวงตาจับจ้องหน้าสาวรับใช้วาวโรจน์ มิใช่เพราะต้องการให้นางสาภาพความจริง ตรงกันข้าม ฮุ่ยเหนียงต้องการให้นางปิดปากให้สนิทต่างหาก“ฮูหยินรอง ข้าข้า”“พูด” ท่านอ๋อง 9 ตวาดลั่น ดวงหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ“หากเจ้าไม่บอก ข้าจะตัดลิ้นเจ้าซะ” ฮุ่ยเหนียงบอกเป็นนัยๆ ว่า หากนางเปิดปาก จะตัดลิ้นสาวรับใช้เสียให้รู้แล้วรู้รอดหากยังไม่ทันที่เสี่ยวชุ่ยจะเอ่ยอะไรออกมา ร่างนอนนิ่งอยู่บนเตียงก็กระตุกเฮือก ชักตาตั้ง กระอักเลือดสีแดงสดออกมา“ท่านอ๋อง ท่านหญิงแย่แล้วเจ้าค่ะ” ไห่หลานโวยวายพลางร้องไห้โฮๆ“เด็กๆ พานางไปขังไว้ก่อน ใต้ท้าวเฉินมาค่อยตัดสินความ”สิ้นคำสั่งเรียกคนของท่านแล้ว ท่านอ๋อง9 ก็ปราดมาที่เตียง ประคองธิดาคนเล็กเอาไว้ในอ้อมแขน“เจี้ยนฟาง เจ้าต้องไม่เป็นอะไรนะ” ท่านอ๋อง 9 รำพัน น้ำตานองหน้า

  • เจ้าสาวของท่านพี่    ตอนที่ 45 ความจริงที่เพิ่งกล้าพูดออกมา

    ณารายิ้มยั่วเย้า“อยากรู้ว่าเคยมั้ยล่ะคะ” ณาราสบตาคนตรงหน้าแน่วนิ่ง ก่อนจะดันร่างของคนตัวใหญ่กว่าให้เดินถอยหลังไปที่เตียง แกล้งผลักเขาลงกับที่นอน แล้วกระโดดขึ้นคร่อม ทั้งที่ในชีวิตนี้ เธอไม่เคยทำแบบนี้กับชายใดเลยแม้แต่ครั้งเดียว“เจ้าจะทำอะไร!” เจิ้งหมิงเบิกตากว้าง ตกใจกับท่าทีของเธอ ไม่นึกเลยว่า ผู้หญิงจากโลกอนาคตจะไวไฟได้เพียงนี้แต่แทนที่ณาราจะตอบคำถาม กลับก้มลงจรดริมฝีปากกับหน้าผากของเขาแล้วเลื่อนเรื่อยลงมาหยุดตรงซอกคออย่างย่ามใจเรื่องอะไรเจิ้งหมิงจะยอมให้นางทำอย่างนั้นฝ่ายเดียว พอนางเผลอ เขาก็เป็นฝ่ายพลิกกายขึ้นมาอยู่ด้านบน ทำเอาคนคิดจะแกล้งหยอกเย้าเล่นหน้าตื่น“พี่จะทำอะไร”“เจ้าอยากให้ข้าทำอะไรล่ะ หึม” เจิ้งหมิงเป็นฝ่ายยิ้มยั่วเย้าบ้าง แล้วจรดริมฝีปากอุ่นจัดลงกับใบหูเล็ก ระเรื่อยลงมายังซอกคอขาวละมุน แล้ววนเรื่อยขึ้นไปยังใบหูเล็กรวดเร็ว“พี่เจิ้ง อย่า ข้าแค่ล้อเล่นเท่านั้น ไม่ได้จริงจังสักหน่อย”“แต่เจ้าทำให้ข้าอยากจริงจังนี่นา”“ข้าบอกแล้วไงล่ะว่าแค่ล้อเล่น ข้าบอกให้ก็ได้ว่า ข้ายังไม่เคยมีความสัมพันธ์กับชายใดสักหน่อย” ณาราสารภาพอ้อมแอ้ม“ลงไปได้แล้ว เดี๋ยวไห่ถวนก็มาเห็นเข้าหรอ

  • เจ้าสาวของท่านพี่    ตอนที่ 44 แฝงตัวเข้าตำหนักอ๋อง

    ท่านอ๋อง 9 ผุดลุกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว คิ้วทั้งสองขมวดเข้าหาจนแทบจะชนกัน เมื่อจู่ๆ ธิดาคนเล็กก็พาหญิงสาวผู้หนึ่งมาแนะนำให้รู้จัก พร้อมกับหนุ่มน้อยไห่ถวน จากเกาะจวินจวู“นี่ไห่หลาน พี่สาวของไห่ถวน เพิ่งมาจากเกาะจวินจวูค่ะ” ณาราแนะนำทั้งที่แทบกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่“อึม แม่นางไห่หลานนี่ ดูลักษณะรูปร่างช่างดูค้นตานัก เหมือนเคยพบที่ใดมาก่อน” เฉินลู่ซีตั้งข้อสังเกต แม้เรือนร่างภายใต้เครื่องแต่งกายสตรีจะไม่ได้กำยำล่ำสันมากนัก แต่ก็ดูบึกบึนกว่าสตรีโดยทั่วไปอยู่ดีเจิ้งหมิงทำชะม้ายชายตาครู่หนึ่ง ก่อนจะปลดผ้าคลุมหน้าออกดวงหน้าแตะแต้มด้วยเครื่องสำอาง แม้งดงามก็จริง แต่ทำไมเขาจะจำดวงตาคมกล้าคู่นั้นไม่ได้เล่าว่า นางเคยเป็นใครมาก่อน“นี่เจ้า เอ่อ…”“ท่านพ่อ ข้าอยากกลับบ้านแล้ว เรารีบกลับกันเถอะค่ะ” ณาราเดินมาเกาะแขนท่านอ๋อง 9 เอาไว้หลวมๆ“ท่านพ่อคะ อย่างไร ลูกขอพาคนของลูกไปด้วยนะคะ ตอนอยู่บนเกาะ ทั้งสองช่วยเหลือลูกเอาไว้มากเหลือเกิน ลูกไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณอย่างไร จึงทำได้เพียงรับรองทั้งสองเป็นอย่างดี”“ได้สิลูก เรากลับกันเถอะนะ” ท่านอ๋อง 9 ยิ้มน้อยๆ ทั้งที่ประหลาดใจเหมือนกันว่า ทำไมเจิ้งหมิงจ

  • เจ้าสาวของท่านพี่    ตอนที่ 43 สืบความจริงเรื่องวางยาพิษ

    ท่านอ๋อง 9 และเจิ้งหมิงยังคงนั่งเฝ้าจ้าวเจี้ยนฟางอยู่ข้างเตียงไม่ห่าง นานๆ จึงจะหันมามองหน้ากันสักครั้ง กระทั่งนาทีหนึ่ง ต่างก็หันมาสนทนากัน กลายเป็นว่าต่างเอ่ยขึ้นมาพร้อมกัน“เจิ้งหมิง”“ท่านอ๋อง”“เจ้ามีอะไรก็ว่ามาเถิด”“ท่านอ๋องกินอะไรบ้างเถิดดนะครับ ประเดี๋ยวจะไม่สบายไปอีกคน” องครักษ์หนุ่มปรายสายตาไปยังโต๊ะกลม ปูด้วยผ้าสีขาวสะอาดตากลางห้อง ซึ่งมีข้าวกับซี่โครงหมูตุ๋นกับฟักวางอยู่สองที่“เจ้าเองก็ควรจะกินอะไรบ้างนะ อย่ามัวบอกให้ข้ากินแต่ฝ่ายเดียว คนหนุ่มก็ล้มป่วยได้เช่นกัน”“ถ้าอย่างนั้น เชิญครับท่านอ๋อง” ว่าพลางเจิ้งหมิงก็เป็นฝ่ายผายมือให้ท่านอ๋องไปนั่งที่โต๊ะอาหารก่อน แล้วจึงเป็นฝ่ายตามไปนั่งบ้าง“ข้ามีบุตรธิดาหลายคนก็จริง แต่เจี้ยนฟางก็เป็นลูกที่ข้ารักและห่วงใยมากที่สุด เพราะนางเหมือนฮุหยินของข้ามาก ข้าก็เหมือนพ่อคนอื่นๆ ที่ทั้งรักทั้งหวงลูกสาว ดังแก้วตาดวงใจ ในเมื่อรู้ว่าเจี้ยนฟางกับเจ้าต่างมีใจให้กัน อีกทั้ง ข้าก็ได้เห็นกับตาแล้วว่า ตอนที่หลี่จิ้งจับเจี้ยนฟางเป็นตัวประกันนั้น เจ้าเป็นห่วงความปลอดภัยของนางมาก ยิ่งกว่าชีวิตของตนเองซะอีก หากเจ้าอยากจะใช้ชีวิตร่วมกับลูกข้าจริง ก็

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status