งานแต่งงานถูกยกเลิกกลางครัน เมื่อเจ้าสาวหายตัวไป ครอบครัวเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างก็ขอโทษแขกเหรื่อที่มาในงาน ศราวุธเองก็ตกใจไม่น้อย เมื่อรู้ว่าปานิศาหายตัวไป มีเพียงภีรณีเท่านั้นที่สะใจ เมื่อได้เห็นวิวาห์ล่ม
"ยังหาปลื้มไม่เจอเหรอ" ประภาภรณ์ยกมือทาบอก หลังจากให้คนช่วยกันออกตามหาจนทั่วโรงแรม แต่ไม่มีใครพบปานิศา ศราวุธกับภีรณีมองหน้ากัน ในขณะพ่อแม่ฝั่งเจ้าบ่าวเริ่มโวยวาย
"ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ คุณภพคุณเกด ยายปลื้มคงไม่ไปไหนหรอกค่ะ" ประภาภรณ์บอกกับพ่อแม่เจ้าบ่าว แต่ภายในใจร้อนรนเป็นห่วงลูกสาวที่สุด
"จะให้ผมใจเย็นได้ยังไง งานพังลงไม่เป็นท่า ผมกับครอบครัวจะเอาหน้าไปไว้ไหน ชื่อเสียงป่นปี้ก็คราวนี้" ไตรภพโวยวาย เพราะอับอายกับเรื่องที่เกิดขึ้น นักข่าวพากับประโคมข่าวไปในทางลบ
"คือฉันคิดว่า ยายปลื้มคงมีเหตุผลนะคะ" ประภาภรณ์แก้ตัวแทนลูกสาว
"เหตุผลอะไรจะสำคัญไปกว่างานแต่ง ถ้าไม่แน่ใจก็ไม่ต้องแต่ง นี่อะไรหนีไปจากงาน ทิ้งให้คนข้างหลังต้องอับอาย" การะเกดเห็นดีเห็นงามไปกับสามี เพราะอยากได้สินสอดคืน
"ใจเย็น ๆ นะครับคุณลุงคุณป้า ปลื้มก็เสียหายเหมือนกัน ต้องมีอะไรบางอย่างถึงทำให้ปลื้มหายไป ผมกำลังให้คนตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทุกคนใจเย็นก่อนนะครับ" คำว่ากล้องวงจรปิดที่ได้ยินจากปฐวี ทำให้ศราวุธกับภีรณีมองหน้ากัน
"จริงด้วยค่ะ รอดูกล้องวงจรปิดก่อนนะคะ" ประภาภรณ์เห็นด้วยกับลูกชายคนโต ต้องมีเบาะแสของปานิศาอยู่ในกล้องวงจรปิด
"ผมขอตัวนะครับ" ศราวุธขอตัว ภาพในกล้องวงจรปิดคือหลักฐานสำคัญ ถ้ามีการตรวจสอบ ทุกคนจะต้องรู้ว่าเขากับภีรณีทำอะไรเอาไว้
"อย่าเพิ่งไปไหนเลยครับ รอดูกล้องพร้อม ๆ กันดีกว่า" ปฐวีห้ามเอาไว้ เขาคิดว่าสาเหตุที่น้องสาวหายตัวไป ศราวุธน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง นิสัยของว่าที่น้องเขยเป็นอย่างไร เขารู้ดี
"มือถือก็ไม่ได้เอาไป เงินก็ไม่มีติดตัว เราจะทำยังไงกันดี แม่เป็นห่วงน้อง" ประภาภรณ์หันมาถามลูกชาย
"ผมให้เพื่อนสนิทของยายปลื้มโทรหาเพื่อน ๆ สมัยเรียนด้วยกัน เผื่อมีใครรู้ว่าปลื้มหายไปไหน"
"แพมกับเพื่อน ๆ ก็อยู่ในงานนะคะ คงไม่มีใครรู้ว่าปลื้มไปไหนหรอกค่ะ" ภีรณีเสนอความคิดเห็น เพราะเธอเป็นเพื่อนสนิทของปานิศา
"อยู่ในงานแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดนี่ครับ" ปฐวีหันมาพูดกับภีรณี แล้วมองเลยไปยังศราวุธ ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองเป็นอย่างไร เขารู้ดี มีเพียงปานิศาเท่านั้นที่ปิดหูปิดตาตัวเอง
"แพมเป็นห่วงปลื้มจังเลยค่ะ" ภีรณีเปลี่ยนเรื่อง เพราะกลัวจะวกเข้าหาตัว ท่าทางที่แสดงออกว่าห่วงใยเพื่อน ตบตาปฐวีไม่ได้เลยสักนิด
บทสนทนาต้องจบลง เมื่อเจ้าหน้าที่ของโรงแรมเข้ามาแจ้งว่า กล้องวงจรปิดพร้อมแล้ว ภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดทำให้ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวโกรธจัด ปานิศาหนีไปกับเตวิทย์ แถมเธอยังเป็นคนฉุดกระชากเตวิทย์ไปอีกด้วย กล้องวงจรปิดในโรงแรมเสียหลายจุด จึงทำให้ศราวุธกับภีรณีรอดตัว ภาพที่เห็นทำให้ภีรณีกำหมัด เป็นแบบนี้ได้ยังไง ทำไมคนที่พาปานิศาไปคือเตวิทย์
"เป็นแบบนี้แล้วทางคุณจะรับผิดชอบยังไงคะ เจ้าสาวหนีไปกับผู้ชาย ฉันรับไม่ได้จริง ๆ ถ้าไม่อยากแต่งก็น่าจะบอกกันดี ๆ นี่เล่นหนีไปกับชู้ ฉันไม่ฟ้องเรียกค่าเสียหายก็บุญแล้ว" ได้ทีการะเกดก็ใส่ฝั่งเจ้าสาวเป็นชุด คุณประภาภรณ์หน้าเสียเพราะภาพในกล้องวงจรปิดมันฟ้อง ผิดกับปฐวีที่ยืนกำหมัดแน่น เขารู้ว่าปานิศาต้องเห็นอะไรบางอย่างจึงหนีไป ถึงจะไม่มีหลักฐานมาแก้ตัวให้น้อง แต่ก็สบายใจเพราะคนที่พาปานิศาไปคือเตวิทย์ ปฐวีรู้ว่าเตวิทย์รู้สึกยังไงกับน้องสาวของเขา เคยเปิดโอกาสให้เตวิทย์กับปานิศาใกล้ชิดกัน แต่ปานิศาไม่เคยเปิดใจ หัวใจของเธอมีแค่ศราวุธคนเดียวเท่านั้น
"ปัด รู้เรื่องของน้องกับคุณเตหรือเปล่า" ประภาภรณ์ถาม เพราะคิดว่าปฐวีน่าจะรู้เรื่องนี้
"ปลื้มกับคุณเตเคยทำงานด้วยกันครับแม่"
"แบบนี้ไม่น่าจะใช่ผู้ร่วมงานธรรมดานะ" ไตรภพพูดขึ้น
"แล้วทางคุณจะเอายังไง" อานนท์ที่นั่งฟังมานานพูดขึ้น ไม่ชอบใจที่ฝั่งเจ้าบ่าวต่อว่าหลานสาวเสีย ๆ หาย ๆ ถึงปานิศาจะหนีไปกับเตวิทย์จริงก็เถอะ แต่เขาเชื่อว่าหลานต้องมีเหตุผล
"ไม่มีอะไรซับซ้อนนี่ครับ ทางเราขอสินสอดคืนทั้งหมด ดีนะที่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส ผมคงรับปานิศาเป็นสะใภ้ไม่ได้"
"พ่อครับ ผมว่า..." ศราวุธเอ่ยขึ้นเมื่อพ่อเริ่มโวยวาย ปานิศาร่ำรวยเป็นบ่อเงินบ่อทองของครอบครัว เขามีอะไรกับภีรณีเพราะภีรณียั่วยวนจนห้ามใจไม่ไหว และที่สำคัญภีรณีไม่เรียกร้องอะไร เธอย่อมเป็นเมียเก็บของเขา
"หยุดเลยนะตาวุธ พ่อทำถูกแล้ว แม่ก็รับไม่ได้เหมือนกัน ขอโทษที่ต้องพูดตรง ๆ นะคะ" พูดกับลูกชายแต่ท้ายประโยคประชดให้ฝ่ายเจ้าสาว
"ผมว่ารอให้ปลื้มกลับมา แล้วค่อยคุยเรื่องสินสอดดีกว่านะครับ ทางเราไม่ได้มีเจตนาจะโยกโย้ แต่สินสอดบางส่วนเป็นของเรา ถ้าจะเอาคืนตอนนี้ผมเกรงว่า" คำพูดที่เหลือของปฐวีค้างไว้แค่ริมฝีปาก เมื่อการะเกดขัดขึ้น
"ภาพในกล้องวงจรปิด น่าจะเป็นหลักฐานให้ทางเราฟ้องเรียกค่าเสียหายได้นะคะ เจ้าสาวหนีไปกับชู้ ศาลน่าจะมีคำตอบดี ๆ ให้เรา" จงใจเน้นคำว่าชู้ ให้ปฐวีและมารดาได้ยินชัด ๆ
"ช่างเถอะปัด คืนส่วนของเขาไปให้หมด แม่ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ ตกลงเอาตามนี้นะคะ ทางเราคืนสินสอดส่วนที่เป็นของคุณทั้งหมด เรื่องค่าใช่จ่ายในงาน ฉันจะรับผิดชอบเอง" ประภาภรณ์ตัดปัญหาเพราะยิ่งคุยก็ยิ่งมากเรื่อง ปฐวีทำท่าจะค้านเพราะรู้ว่าเงินที่ฝ่ายชายนำมาเป็นสินสอด คือเงินของน้อง ปานิศาไม่อยากให้
ศราวุธเสียหน้า จึงให้ยืมเงินและทองหมั้นบางส่วน"เอาตามนี้ก็ได้ค่ะ ไม่ใช่ฉันไม่รักไม่เอ็นดูหนูปลื้มนะคะ แต่หนีไปกับผู้ชายแบบนี้ ฉันรับไม่ไหวจริง ๆ" พูดจบการะเกดก็ดึงแขนสามีออกไปจากห้อง ศราวุธกับภีรณีตามออกไปด้วย ทุกคนที่อยู่ในห้องถอนหายใจออกมา จะว่าโล่งอกก็น่าจะใช่ ที่ปานิศาไม่ต้องตกนรกทั้งเป็น ศราวุธกับภีรณีคืองูพิษ ที่ปานิศาเก็บไว้ข้างกาย
"ไม่ต้องห่วงนะครับแม่ ยายปลื้มจะปลอดภัย" บอกกับมารดาเพราะอยากให้ท่านคลายความกังวล
"อธิบายให้แม่ฟังได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น ปัดติดต่อคุณเตได้ไหม แม่เป็นห่วงน้อง"
"แม่สบายใจเถอะครับ ปลื้มสบายใจก็กลับมาเอง"
"ถ้าปัดติดต่อคุณเตได้ ฝากบอกคุณเตด้วยนะ ว่าแม่ฝากน้องด้วย" ประภาภรณ์บอกกับลูกชาย เป็นแบบนี้ก็ดีคืนสินสอดไปจะได้จบสิ้นกันเสียที
...................................................................................
"งามหน้าจริง ๆ ดีนะที่ได้สินสอดมาด้วย" การะเกดเดินบ่นมาเรื่อยทาง แต่ก็ดีใจที่ได้เงินกลับมามากมาย
"เลิกบ่นเถอะคุณ ได้เงินแล้วก็จบกันไป" ไตรภพบอกกับภรรยา แม้จะเสียดายฐานะทางครอบครัวของว่าที่ลูกสะใภ้ แต่เงินที่ได้มาก็จำนวนไม่น้อย สามารถนำมาตั้งตัวได้เลย
"แพมขอตัวนะคะ" ภีรณีเอ่ยขอตัวเมื่อเดินมาถึงลานจอดรถ
"ไม่กลับด้วยกันเหรอ" ศราวุธถาม
"แพมนึกได้ว่ามีงานด่วน เจอกันคืนนี้นะคะ" พูดจบภีรณีก็เดินจากไป หัวใจของหญิงสาวร้อนระอุด้วยความอิจฉา เตวิทย์คือผู้ชายที่เธอหมายปอง ถึงแม้จะมีศราวุธแต่คนที่เธออยากใช้ชีวิตด้วยคือเตวิทย์ ที่เธอทนอยู่กับศราวุธเพราะอยากเอาชนะปานิศา เธอพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ปานิศาเสียใจ
“มาทำหลานให้ให้แม่อุ้มกันเถอะบี๋” พีรดนย์เรียกคนรัก เมื่อทั้งสองเดินทางมาฮันนีมูนที่ภูทับเบิก หลังจากแต่งงานบริษัทก็ให้สวัสดิการสำหรับคู่แต่งงานใหม่ได้มาฮันนีมูนหนึ่งสัปดาห์ พีรดนย์ไม่คิดจะทำอะไรเลยนอกจากกิจกรรมบนเตียง ต่อให้ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจร้อยแปดเขาก็ไม่สน“บี๋ไปเที่ยวบ้างเถอะ” ชลนิภาบอก เมื่อสามีเรียกกลับไปบนเตียง“เที่ยวมาเยอะแล้ว อยากทำกิจกรรมกับเมียให้เต็มที่”“ไม่ไหว”“นอนเฉยๆ ก็ได้เดี๋ยวผัวจัดเอง”“ไม่บอกว่าไม่ไง” ร้องโอดครวญขอชีวิตก็ แต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อสามีสุดหื่นอยากทำกิจกรรมต่อ ร่างสูงอุ้มร่างบางไปวางบนเตียง ถอดเสื้อยืดออกทางศีรษะปาทิ้ง แล้วตามด้วยชิ้นต่อ ๆ มากระโจนคร่อมร่างเมีย จ้องมองที่ริมฝีปากแสนหวาน สดชื่นทุกครั้งที่เขาจูบ สายตาของเขาทำให้ชลนิภาอ่อนไหวยินยอมร่วมมือ ในที่สุด เธอก็ตอบสนองจูบร้อนแรงที่บดขยี้ลงมาด้วยความเต็มใจ เสื้อคลุมอาบน้ำบนตัวถูกกระตุกเชือกผูกเอวออก“ไหนว่าไม่เอาไงบี๋” พีรดนย์หยอก เมื่อเห็นว่าด้านในชุดอาบน้ำคือเนื้อตัวเปล่าเปลือยของภรรยา ไม่ใส่เสื้อผ้า แต่บอกว่าไม่พร้อมแปลก ๆ นะ“ก็คนจะอาบน้ำ” ชลนิภาเถียง“ไม่ใช่เตรียมพร้อมรับศึกเหรอ”
ชลนิภากอดอกนิ่งเงียบ ปล่อยให้เป็นหน้าที่พีรดนย์ ดูสิเห็นนางนี่บีบน้ำตา เขายังจะสงสารคนโกหกตลบแตลงอยู่ไหม“ด้าไปเถอะ” เสียงอ่อนเหมือนสงสารคนที่หลอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า“พี่พีไปส่งด้าหน่อยนะคะ”“ไม่ต้อง นี่เงินค่าแท็กซี่ หรือต้องโดนเมียหลวงตบอีกที บอกไว้ก่อนนะฉันมือหนัก” เงื้อมือขู่ เมื่อนิดายังอ้อนพีรดนย์ไม่เลิก“ไปก็ได้” กระชากกระเป๋าลากออกไปจากบ้านชลนิภาเดินตามไปดู พีรดนย์กับประไพก็ตามมาด้วย“หนูน้ำใจเด็ดมาก คนแบบนี้ต้องเจอแบบหนูน้ำ” แม่สามีชื่นชมว่าที่ลูกสะใภ้ คนแบบนี้ถึงจะดูแลลูกชายใจอ่อนของเธอได้[สัปดาห์ต่อมา]สองหนุ่มสาวไปงานแต่งของคิรากรกับเหมือนฝัน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีเรื่องติดค้างกันแล้ว พอได้เวลาโยนช่อดอกไม้ สาว ๆต่างไปยืนรอรับช่อดอกไม้อยู่หน้าเวที การโยนดอกไม้ของเจ้าสาวต่างไปจากงานอื่น ๆ ที่เจ้าสาวมักจะยืนหันหลังแล้วโยน ต่งานนี้ให้เพื่อนๆ ดึงเชือกที่ผูกติดกับช่อดอกไม้ของเจ้าสาวเชือกเส้นหนึ่งถูกยื่นมาให้ชลนิภา ชลนิภามองเชือกเส้นที่ถูกยื่นมา ก่อนจะรับเอาไว้ สาวๆ ทุกคนจับเชือกเตรียมพร้อมดึง ชลนิภาหันมองพีรดนย์ยิ้มให้เขาราวกับต้องการขอกำลังใจพิธีกรเริ่มนับ ห้า สี
[หลายเดือนต่อมา] “แม่ครับผมจะแต่งงานกับน้ำ” พีรดนย์เดินมาบอกแม่ตอนที่ท่านกำลังดูละครหลังข่าว “จริงหรือลูก” ประไพดีใจมากนับว่าลูกชายฉลาดที่ไม่เลือกคนอย่างนิดา“แล้วคนโน่นล่ะ” คนโน้นที่ประไพพูดถึง คือนิดา ที่ยังโทรมาหาพีรดนย์ทุกวัน“ถ้าแม่หมายถึงดาด้า เราจบกันแล้วครับ ที่ผมช่วยก็เพราะดาด้ากำลังป่วย” พีรดนย์บอกให้แม่สบายใจ“จบจริง ๆ ก็ดี แม่บอกตรง ๆ นะแม่คงทำใจไม่ได้ ถ้าพีเลือกผู้หญิงคนนั้นมาเป็นคู่ชีวิต”“ไม่หรอกครับ ถ้าดาด้าแข็งแรงขึ้น ผมก็จะหาที่อยู่ใหม่ให้เธอ”“ทำอะไรบอกให้หนูน้ำรู้ด้วยนะลูก มารู้ทีหลังหนุน้ำจะเสียใจ”“ครับ แม่ไปขอน้ำให้ผมหน่อยนะครับ”“ได้สิ เต็มใจเลยล่ะคนนี้ เดี๋ยวแม่โทรบอกลุงยุทธให้รีบลงมากรุงเทพ ไปขอสาวให้หลานชาย” ประยุทธพี่ชายสามีอยู่ทางเหนือ รักพีรดนย์เหมือนลูกในไส้ เรื่องน่ายินดีแบบนี้ต้องบอกให้ท่านรับรู้“ขออะไรกันเหรอคะพี่พี” เสียงที่ดังมาประตูห้อง ทำให้สองแม่ลูกต้องหันไปมอง เห็นนิดายืนหน้าซีดอยู่ตรงนั้นประไพก็ส่ายหัว พีรดนย์ยังนั่งอยู่ที่เดิม ไม่ลุกไปประคองเธออย่างที่นิดาคิดเอาไว้ พีรดนย์ไม่ไปหาและไม่รับโทรศัพท์นิดาเลยมาหาเขาที่บ้าน บรรจงแต่งหน้ามาเป็นอย่
ยกทรงถูกดึงผ่านศีรษะไม่ใส่ใจในการปลดตะขอ พีรดนย์เป็นคนแบบนี้เรื่องเซ็กส์เขาไม่เคยใจเย็นเลยสักครั้ง แต่เขาแน่ใจว่าอาการรีบร้อนหอวกระหายที่กำเป็นอยู่เกิดขึ้นกับชลนิภาคนเดียวเท่านั้น ชลนิภาเป็นเหมือนแห่งน้ำที่เขาพบจอตอนหิวกระหาย เมื่อเจอแล้วก้อยากกินทันที ทันทีที่เต้าสวยปรากฏต่อสายตา มือสั่นก็ยกขึ้นเคล้นสองเต้า ครอบปากลงบนส่วนยอดเด้งนุ่มดูดเม้มสลับขบกันเบาๆ“อ๊า” คนโดนดูดหน้าอกครางเสียงสั่น ขาที่ห้อยอยู่สั่นเทา สองมือสองเข้าหากลุ่มผมดำสลวยของเขา ขยี้จนเส้นผมชายหนุ่มยุ่งเหยิงพีรนดนย์ลากปลายลิ้นมาตามหน้าท้องหดเกร็งเป็นจังหวะ ตามความเสียวกระสัน ดันชายกระโปรงขึ้นไปกองอยู่ที่เอวเล็ก ปลดแพนตี้ปกคลุมกุหลาบช่องามลงมาตามเรียวขา หญิงสาวใช้นิ้วเท้าเขี่ยมันตกลงพื้นพีรดนย์รีบร้อนจัดการกับสิ่งปกปิดที่ขัดขวางทาง ถอดเสื้อเชิ้ตออกแล้วปาทิ้งลงพื้น ตามด้วยกางเกงยีนส์ผ้าเนื้อดี และกางเกงชั้นในสีขาวสะอาดเป็นลำดับสุดท้าย จับเรียวขาที่ห้อยอยู่ยกขึ้นไปวางบนเคาน์เตอร์ แล้วแทรกตัวเข้าตรงกลางหว่างขา ฝังหน้าลงใจกลางความเป็นหญิง ตวัดลิ้นเลียกลีบกุหลาบดอกงามอวบอูม เลียหนัก ๆ ขึ้นลงตรงร่องสวาทฉ่ำเยิ้ม เขี่ยเกสรกุหลา
พีรดนย์หนีนิดาออกมาหลังจากที่เธอขอร้องให้เขามาอยู่เป็นเพื่อนที่คอนโด ตั้งใจไปซื้อเค้กหน้านิ่มไปฝากชลนิภาที่ทำงาน แต่สิ่งที่เขาเห็นตรงหน้าทำให้ไม่อาจเดินต่อไปได้ แฟนของเขายืนกอดอยู่กับแฟนอีกคน แล้วตอนนี้เขาควรอยู่ในฐานะอะไร เพื่อนเหมือนเดิมอย่างนั้นเหรอชลนิภาผละออกจากอ้อมแขนของคิรากร ทั้งสองปรับความเข้าใจกันและจากกันด้วยดี จากลากันด้วยความเข้าใจดีกว่าจบแบบเกลียดกันเป็นไหน ๆ จังหวะที่ชลนิภาหันกลับมา เจอพีรดนย์ยืนอยู่ต่อหน้าพอดี“แก...พี”“ยินดีด้วยว่ะ ยินดีด้วย” ไม่รู้เรื่องว่าสองคนคุยอะไรกัน แต่ก็อยากร่วมแสดงความยินดีกับเพื่อนรัก กอดกันกลมแบบนี้แสดงว่าไม่ได้พูดเรื่องเลิกกัน คงคุยเรื่องอนาคตร่วมกัน เรื่องดีๆ แบบนี้เขาควรยินดีถึงจะถูก รู้สึกเหมือนโดนหักหลังอีกครั้ง แต่ภาพไม่รุนแรงเท่าตอนนิดาร่วมรักกับชู้บนเตียง แต่มันดันเจ็บกว่าเป็นร้อยเท่า“ฉันก็ยินดีกับแกด้วยว่ะ” เมื่อตั้งสติได้ ชลนิภาก็พูดประโยคนี้ออกมา เธอก็ควรยินดีกับพีรดนย์เช่นกัน“ยินดีบ้าบออะไร!” พีรดนย์เสียงดัง คนกำลังจะถูกทิ้ง มีเรื่องอะไรให้น่ายินดีกัน“แกรู้อยู่แกใจ ยังต้องให้ฉันพูดอีกเหรอ” ตอบโต้เขาเสียงสั่น พีรดนย์จะรู้ไหม
พีรดนย์โทรหาชลนิภาซ้ำ ๆ แต่หญิงสาวไม่รับสายเขาเลยสักครั้ง ชายหนุ่มเข้าเกมออนไลน์เพื่อหาเพื่อนคุย ตั้งแต่เป็นแฟนกับชลนิภาเขาก็ไม่ได้เข้าไปคุยกับเพื่อนในเกมอีกเลย ไม่รู้ว่าวันนี้โอเอซิสจะยังอยู่ไหม“น้ำ” หัวหน้าเดินมาถึงโต๊ะทำงานของชลนิภา ด้วยสีหน้าถมึงทึง โยนกระดาษลงบนโต๊ะดังโครม แต่หญิงสาวยังคงนิ่งไม่สะดุ้งสะเทือน มองกระดาษแผ่นนั้นด้วยใบหน้านิ่งเฉย“มีอะไรคะพี่มาร์ช” ทำไมทำหน้าหน้าซังกะตายแบบนั้นคะ“ยังมีหน้าพูดอีกเหรอ เธอตรวจงานก่อนส่งให้ลูกค้าหรือเปล่า” มาร์ชพูดด้วยน้ำเสียงเกรียวกราด ถึงจะเป็นความผิดครั้งแรกของชลนิภา แต่เขาก็ไม่ชอบใจ“ตรวจค่ะ” แทบไม่ดูด้วยซ้ำ ไม่มีกะจิตกะใจตรวจงาน หรือทำอะไรทั้งนั้น เมื่อเช้าลุกขึ้นมาอาบน้ำ แต่งตัวมาทำงานได้ก็ดีมากแล้ว หลังจากเห็นโพสต์ในเฟซบุ๊กของนิดาเมื่อคืนก็ไม่มีใจทำอะไรอีกเลย“ตรวจทำไมมันถึงผิดพลาดแบบนี้ งานออกแบบที่น้ำเคยทำ มันดีกว่านี้ร้อยเท่า ทำไมงานนี้ถึงได้ชุ่ยอย่างนี้ล่ะน้ำ ลองเอากลับไปดูใหม่แล้วแก้สเกลให้พี่ด้วย ลูกค้าด่าพี่มาจนหูชาแล้วเนี่ย” พี่มาร์ชก็คือพี่มาร์ช ไม่ว่าจะโมโหแค่ไหนก็ยังใจดีและให้โอกาสลูกน้องเสมอ“ค่ะ” ตอบรับเนือยๆ หมดไฟใ