เตวิทย์เลี้ยวรถเข้าปั๊ม เมื่อมีสัญญาณแจ้งเตือนว่าน้ำมันรถกำลังจะหมดถัง หลังจากออกมาจากโรงแรม ชายหนุ่มก็ขับรถมาเกือบสี่ชั่วโมง คนที่นั่งข้าง ๆ หลับไปพร้อมกับน้ำตา ระหว่างทางเธอไม่พูดอะไรเลย เขาเองก็ไม่ได้ถาม รอให้สบายใจคงเล่าให้ฟัง
"ปลื้มครับ เข้าห้องน้ำหรือเปล่า" มือหนาแตะลงบนท่อนแขนเรียว เมื่อพารถมาจอดหน้าร้านสะดวกซื้อ เตวิทย์อยากเข้าห้องน้ำและหาอะไรรองท้อง ตั้งแต่เมื่อวานยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง ตั้งใจว่าจะไปหากินในงาน แต่ก็ต้องออกมาแล้วขับรถหลายชั่วโมงติดต่อกัน
"ปลื้ม เข้าห้องน้ำไหม" เรียกเธออีกครั้งพร้อมกับเปลี่ยนจากตบที่ต้นแขน มาเขย่าตัวเธอเบา ๆ ไม่อยากรบกวนเวลานอนของเธอเลย แต่เพราะเป็นห่วงเลยอยากให้เธอหาอะไรรองท้องสักหน่อย
"คะ?" ปานิศาปรือตาขึ้น ก่อนจะกะพริบถี่ ๆ เมื่อตื่นเต็มตา
"ที่ไหนคะ" ถามพร้อมกับขยับนั่งตัวตรง อดสงสัยไม่ได้ว่าเธอปรับเบาะนอนตอนไหนกัน มองหน้าเขาเมื่อเห็นสูทราคาแพงคลุมอยู่บนตัว
"ผมกลัวคุณหนาวเลยเอามาห่มให้นะครับ" เตวิทย์ตอบใบหน้าร้อนขึ้น เมื่อสบตากับตากลมโตของเธอ
"ขอบคุณค่ะ" เอ่ยขอบคุณแล้วมองไปรอบ ๆ อย่างสงสัย
"ที่ไหนคะ" ถามเพราะไม่คุ้นตากับสถานที่
"เข้าเขตอำเภอปากช่องครับ"
"ปากช่อง" ทวนชื่อสถานที่พร้อมกับมองหน้าเขา
"ครับ ผมเห็นคุณหลับเลยขับรถมาเรื่อย ๆ"
"ค่ะ ขอโทษนะคะที่ทำให้คุณเดือดร้อน ฉัน..."
"เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะครับ คุณจะเข้าห้องน้ำหรือเปล่า"
"ก็ดีค่ะ แต่ว่า..." ก้มมองชุดที่ใส่อยู่แล้วส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้เขา เสื้อผ้าหน้าผมไม่บอกก็รู้ว่าเธอคือเจ้าสาว
"ใส่สูทคลุมไปได้ไหมครับ"
"ชุดเจ้าสาวนะคะ"
"คนอาจจะคิดว่าคุณเป็นดารามาถ่ายแบบ คุณสวยขนาดที่ดาราบางคนยังอาย" คนชมของเขาทำให้ปานิศาขมวดคิ้ว เตวิทย์มีมุมนี้ด้วยหรือ ที่ผ่านมาเธอเห็นเขาจริงจังกับทุกเรื่อง
"มั่นใจขึ้นเยอะเลยค่ะ"
"เสร็จแล้วมารอในรถนะครับ ผมจะเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ อยากได้อะไรไหมครับ" บอกแล้วส่งกุญแจรถให้เธอ
"หิวข้าวมากเลยค่ะ คุณเลี้ยงข้าวฉันได้ไหม กลับกรุงเทพเมื่อไรจะคืนเงินให้ค่ะ" เพราะความรีบร้อน เลยไม่ได้หยิบอะไรติดมือมาสักอย่าง เตวิทย์ยิ้มให้หญิงสาว เขาอยากชวนเธอกินข้าวตั้งนานแล้ว แต่ติดที่เธอหลับยาว และคิดว่าเธอคงอายที่ใส่ชุดเจ้าสาว
"คิดมากน่า"
"ขอบคุณค่ะ ฉันเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ" พูดจบก็เดินไปห้องน้ำ เมื่อของเสียในร่างกายประท้วง เตวิทย์มองตาม ก่อนจะเดินแยกไปยังห้องน้ำชาย เวลาที่ปานิศาทำตัวเป็นกันเองน่ารักมากจริง ๆ
ครืด ครืด
มือถือในกระเป๋ากางเกงสั่นขึ้น หยิบขึ้นมาดูก่อนจะยิ้มแล้วกดรับสาย ปฐวีโทรมาฝากน้องสาว เขาสัญญาว่าจะดูแลเธอให้ดีที่สุด แล้วจะให้เธอโทรกลับเมื่อถึงจุดหมายปลายทาง
ปานิศามองตัวเองในกระจกห้องน้ำ วันนี้เธอเป็นผู้หญิงที่สุดที่สุด ภีรณีอยู่กับเธอตลอดเวลา ใส่ใจทุกรายละเอียด ที่เกี่ยวกับเธอ ไม่คิดเลยว่าเพื่อนที่ดีที่สุด จะทำร้ายเธอได้อย่างเลือดเย็น ตั้งแต่เด็กจนโต ภีรณีอยากได้ของทุกชิ้นที่เธอมี สิ่งไหนที่แบ่งปันได้เธอจะให้เพื่อนเสมอ บางอย่างที่เธอรักหรือไม่อยากให้ ภีรณีก็จะแย่งไป
“แย่งของคนอื่นจนติดเป็นนิสัย” พูดกับตัวเองก่อนจะเดินออกจากหัองน้ำ ออกมาแล้วกลับเข้าไปใหม่ เมื่อเตวิทย์ส่งแปรงสีฟันกับยาสีฟันให้ เตวิทย์เป็นคนรักความสะอาด จึงไม่ลืมเผื่อแผ่มาให้เธอ
อาหารมื้อนั้นเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อ ทั้งสองนั่งกินที่โต๊ะที่ทางปั๊มจัดไว้เป็นที่นั่งพักผ่อน แรก ๆ ปานิศาก็อายที่มีคนมองมา แต่นาน ๆ ไปก็ชิน เตวิทย์ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ชายหนุ่มสาวเส้นบะหมี่เข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย ปานิศามองการกระทำของเขา เตวิทย์ตักบะหมี่เต็มช้อน แล้วส่งเข้าปากคำใหญ่ ไม่สนใจกับควันที่ลอยขึ้นมาจากกระป๋อง เขากินหมดแล้วดื่มน้ำตาม ในขณะที่เธอยังเป่าควันอยู่เลย
"โอ๊ย!" เพราะความเกรงใจกลัวเขาจะรอนาน เธอจึงทำแบบเขาบ้าง ผลที่ได้คือต้องคายเส้นบะหมี่กลับลงไปในกระป๋องตามเดิม
"ค่อย ๆ สิครับมันร้อน" บอกพร้อมกับส่งขวดน้ำในมือให้เธอ ปานิศารับไปดื่มจนหมดขวด เธอลืมไปเลยว่าเป็นขวดที่เขาดื่มอยู่ ใบหน้าหญิงสาวร้อนขึ้น เมื่อรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป ใครเขาดื่มน้ำขวดเดียวกัน
"ของคุณไม่ร้อนเหรอคะ" ถามเมื่อเห็นเขามองหน้าเธอ สลับกับขวดน้ำในมือ
"ร้อนครับ ผมชอบกินของร้อน ตอนอยู่ญี่ปุ่นผมกินแบบนี้จนติดเป็นนิสัย" เตวิทย์บอกแล้วชวนคุย ปานิศารับรู้อีกอย่างว่าเขาเคยอยู่ญี่ปุ่นมาก่อน
"เราจะไปไหนกันคะ"
"นั่นแหละที่ผมจะถามแต่ยังไม่ได้ถาม เพราะเห็นคุณหลับ เลยถือวิสาสะคิดเอาเอง ผมมีบ้านที่ปากช่อง บรรยากาศดีมาก คิดว่าคุณน่าจะชอบ" เตวิทย์บอกกับหญิงสาว ปานิศายิ้มให้เขา เธอผิดเองที่ลากเขามา จนทำให้เขาเดือดร้อนไปด้วย
"ขอโทษนะคะที่ทำให้คุณเดือดร้อน คุณกลับไปก่อนก็ได้ค่ะ ฉันขอเวลาทำใจสักพัก"
"ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คุณถึงหนีงานแต่งมาแบบนี้ ผมจะไม่ถามจนกว่าคุณจะเล่าให้ฟังเอง จำไว้อย่างหนึ่งนะปลื้ม ผมจะไม่มีวันทิ้งคุณ" หัวใจดวงน้อยกระตุกเมื่อเขาพูดจบประโยค ตากลมโตสบกับตาคมเข้ม แล้วต้องเป็นฝ่ายหลบตา เมื่อเห็นบางอย่างในนั้น มันคือคำสัญญาใช่ไหม
"ฉันอิ่มแล้วค่ะ" เธอเปลี่ยนเรื่องคุย เมื่อรู้สึกประหม่ากับการมองของเขา
"งั้นไปต่อเลยนะ" เมื่อเธอไม่คัดค้าน เตวิทย์ก็มุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางที่ตั้งใจเอาไว้ สถานที่แห่งนั้นเป็นเซฟโซนของเขา นอกจากเพื่อนสนิทแล้ว เธอเป็นคนแรกที่ก้าวเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของเขา
หลังทานอาหารกลางวัน ร่วมกับครอบครัวปานิศา เตวิทย์ก็บอกเรื่องที่กำลังคบกับปานิศา ให้ประภาภรณ์และปฐวีฟัง ทุกคนไม่แปลกใจเพราะรู้อยู่แล้ว ปฐวีดีใจจนออกนอกหน้า เขาเชียร์คู่นี้มานาน เตวิทย์เป็นคนดี เป็นคนที่เหมาะสมกับแก้วตาดวงใจของครอบครัวเขา ปานิศาพาเตวิทย์มานั่งเล่นในห้องพักผ่อน คลอเคลียไม่ห่างกัน เตวิทย์จูบเธอหลายครั้ง จนหญิงสาวอ่อนใจ “ผมมาคิดดูแล้ว เรื่องเป็นแบบนี้ก็ดีนะ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น จมูกโด่งเป็นสันไซ้ไปตามซอกคอขาวเนียน ของคนที่นั่งอยู่ในอกของเขา “ยังไงคะ” ปานิศาถามเพราะไม่เข้าใจความหมายของคำพูดเขา “ถ้าคุณไม่หนีออกมา ผมคงไม่มีวันนี้ ถ้าคุณไม่ไปกับผม ผมก็ไม่ได้เป็นแฟนคุณ เพราะคุณไม่เปิดใจให้ผม” นึกแล้วก็น้อยใจ ทำให้สารพัด ดูแลมาตั้งแต่เด็กจนโต แต่เธอกลับมองข้ามเขา “ตอนนั้นปลื้มตาพร่าเลือนค่ะ เลยมองอะไรชัด” ปาณิศาตอบ ใบหน้าสวยเงยขึ้นมาสบตากับเขา “แต่ตอนนี้ตาปลื้มบอดสนิทไปแล้ว” พูดพร้อมกับยิ้มหวานให้เขา เตวิทย์ย่นคิ้ว ไม่ทันมุกของเธอ “ทำไมครับ” ถามเพราะไม่เข้าใจ “ความรักทำให้คนตาบอดค่ะ” เตวิทย์
ศราวุธอับอายเพราะจำนนต่อหลักฐาน ปานิศาหนีไปเพราะจับได้ว่าเขามีอะไรกับภีรณี ชายหนุ่มเดินไปที่รถโดยไม่ร่ำลาและไม่ขอโทษปานิศาสักคำ “ไอ้สารเลว” ปฐวีด่าอดีตว่าที่น้องเขย “ขอบคุณ คุณน้ำหวานมากนะคะที่ช่วยปลื้มไว้” ปานิศาไหว้น้ำหวาน ขอบคุณที่น้ำหวานถ่ายคลิปสองคนนั้นไว้ ทำให้เธอมีหลักฐานเล่นงานศราวุธ “หวานเองก็ตกใจมากนะคะ หวานคิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับคุณปลื้มเลยถ่ายเอาไว้” “คุณหวานจะว่าอะไรไหม ถ้าป้าจะขอให้คุณหวานลบคลิปทิ้ง” คุณประภาภรณ์พูดไม่เต็มเสียงนัก เพราะเกรงใจน้ำหวาน นางไม่อยากให้จองเวรกันอีก ถึงคนภายนอกจะไม่รู้สาเหตุที่วิวาห์ล่ม แต่นางและคนในครอบครัวรู้ แค่นี้ก็พอแล้ว “หวานก็ไม่คิดจะเก็บไว้หรอกค่ะ” น้ำหวานตอบพร้อมกับยิ้มให้คนสูงวัย “แต่ผมต้องการเก็บเอาไว้ครับแม่ คลิปนั่นคือหลักฐานชิ้นเดียว ที่ทำให้ยายปลื้มหลุดพ้นจากคำครหา ผมจะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกน้อง อีกอย่างเตวิทย์ก็เป็นคนมีชื่อเสียง ข่าวที่ออกไปกระทบกับธุรกิจของนายเตไม่น้อย ถึงแม่จะไม่เอาเรื่อง แต่อย่างน้อย ๆ ก็ต้องให้บทเรียนสองคนนั้นบ้าง หรือไม่ก็เก็บไว้ เผื่อ
เช้านี้ปาณิศาตื่นสายกว่าทุกวัน เมื่อคืนดื่มกับเตวิทย์มาหลายแก้ว หญิงสาวโทรไปสั่งงานเลขา บอกว่าจะเข้าบริษัทสาย สิ่งที่เลขาตอบกลับมาทำให้เธอหายจากความมึนเมา ศราวุธไปหาเธอที่บริษัท รออยู่พักใหญ่ เมื่อเห็นว่าเธอมาสายจึงกลับออกไป “ก่อนกลับคุณศราวุธบอกว่าตอนบ่ายจะมาใหม่ค่ะ” ปรียานุชรายงานเจ้านาย “เขาบอกหรือเปล่าว่ามีธุระอะไร” บริษัทของเธอไม่ใช่ที่ที่ศราวุธจะเดินเข้าออกได้เหมือนเมื่อก่อน เห็นทีต้องแจ้งกับยามที่หน้าบริษัท ว่าไม่ให้เขาเข้าไปข้างใน “ไม่ได้บอกค่ะ” “คุณนุชแจ้งยามด้านหน้าด้วยนะคะ ว่าปลื้มสั่งไม่ให้ศราวุธเข้าไปในบริษัท” “จะดีเหรอคะคุณปลื้ม นุชกลัวว่า” ปรียานุชลังเล กลัวว่าคำสั่งนี้จะทำให้ศราวุธไม่พอใจ แล้วจะสร้างปัญหาให้ปานิศาภายหลัง “ไม่ต้องกลัวนะคะคุณนุช ศราวุธทำอะไรปลื้มไม่ได้หรอกค่ะ” “ดูแลตัวเองด้วยนะคะ นุชเป็นห่วง” ถึงปานิศาจะมีเตวิทย์ดูแล แต่ปรียานุชก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ถ้าศราวุธเอาเรื่องขึ้นมา ปานิศามีแต่เสียกับเสีย “ขอบคุณค่ะ วันนี้ปลื้มเข้าสายนะคะ” พูดจบก็กดวางสาย ก่อนจะเดิน
ปานิศาปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อาหารมื้อนี้เต็มไปด้วยความสุข เตวิทย์ปฏิบัติต่อเธอเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เพียงแต่สถานะเปลี่ยนไป เมื่อตอบรับเขาเป็นแฟนความรู้สึกเธอก็ไม่เหมือนเดิม ประหม่าเขินอาย เวลาที่ถูกเขามองนาน ๆ อาหารมื้อแรกของการเป็นแฟน คือสเต็กเนื้อสันในกึ่งดิบที่เธอทำสุดฝีมือ เตวิทย์ให้เลือกร้านอาหารมากมาย แต่เขากลับพามาที่บ้านของเขา และช่วยทำมื้อเย็น เธอรู้ว่าเขาทำอาหารเก่งกว่า แต่วันนี้เขาอยากชิมฝีมือเธอ จึงได้อาหารหน้าตาประหลาด ที่มาพร้อมกับรสชาติเฝื่อนลิ้น หลังจากทานอาหารเสร็จ เขาพาเธอขึ้นมาดื่มต่อบนชั้นดาดฟ้า ปานิศาดื่มไม่เก่ง เมื่อถูกคะยั้นคะยอจึงดื่มไปสามแก้ว แต่ก็ทำให้มึนได้เหมือนกัน หญิงสาวนอนบนเตียง เตวิทย์ตามมานอนข้าง ๆ แล้ว กอดเธอไว้ในอ้อมแขน “ค้างกับผมนะ ผมอยากนอนกอดคุณ” เตวิทย์กระซิบชิดใบหู พร้อมกับฝังจมูกลงมาซุกไซ้ ท้ายทอยและไรผม “แล้วนี่ไม่เรียกว่ากอดเหรอคะ” เธอเบี่ยงหน้าหนี เมื่อเขารุกหนักขึ้น ตอนนี้เขากำลังนอนกอดเธออยู่ แล้วจะเอาอะไรอีก “กอดครับแต่กอดคนละแบบ” “เอาเปรียบฉันอีกแล้วนะคะ” “เอาเปรียบที่ไหน
ภีรณีกลับมาที่คอนโดของศราวุธ เมื่อเห็นเขายังนอนอยู่ก็โมโหหนัก แต่ก็พยายามข่มกั้นเอาไว้ ศราวุธคือคนเดียวที่จะทำให้เธอสมหวัง ให้ศราวุธกลับไปคืนดีกับปานิศา เตวิทย์จะได้เป็นของเธอ มือบางลูบไล้ไปตามหน้าอกแน่นหนัน ปลุกคนหลับด้วยวิธีที่ถนัด ศราวุธปรือตาขึ้น เมื่อเห็นภีรณีก็หลับตาต่อ นอนให้เธอจัดการเรื่องที่ค้างคา “ตื่นได้แล้วค่ะที่รัก ปลื้มกลับมาแล้วนะคะ คุณไม่คิดจะไปหาเมียคุณหน่อยเหรอ” ภีรณีกระซิบชิดใบหู “เมียผมก็อยู่นี่ไง” ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงยิ้มด้วยความดีใจ ที่ชนะปานิศาได้ แต่ตอนนี้มันต่างกัน เพราะเธอไม่ต้องการเขาแล้ว “ที่รักขา แพมอยากให้คุณกลับไปหาปลื้ม” คำพูดของภีรณีทำให้ศราวุธขมวดคิ้วมุ่น เขาจบกับปานิศาแล้ว จะให้กลับไปทำไมอีก “ทำไม!” ถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ภีรณีบิดปากให้กับคำถามของเขา ‘เพราะฉันเบื่อแกไง’ คิดแต่ไม่ได้พูดออกไป “คุณก็รู้ว่าปลื้มเป็นบ่อเงินบ่อทองของเรา แพมอยากให้คุณกลับไปหาปลื้ม ให้คุณกอบโกยเงินของมันมาให้มากที่สุด เงินที่ได้มาไม่นานก็หมด แพมอยากให้คุณกลับไปง้อมัน มันรักคุณมาก คงยกโทษให้ไม่ยาก”
ทันทีที่ประตูปิดลง ปานิศาก็ผละออกจากอกของเตวิทย์ แต่ก็ช้าไปกว่าแขนแกร่ง ที่กอดเอวบางเอาไว้ แล้วใช้ช่วงตัวดันหญิงสาวให้ล้มลงไปกับโซฟา “คุณเต!” ปานิศากรีดร้องเมื่อร่างใหญ่ทับลงมา “เด็กนิสัยไม่ดี พอหมดประโยชน์ก็เฉดหัวทิ้ง” เตวิทย์ว่าให้แล้วก้มลงมาหาจนริมฝีปากแตะกัน ปานิศายกมือขึ้นมาปิดปากเขาเอาไว้ “ขอโทษที่ขัดจังหวะนะคะ แต่ฉันทนไม่ไหวจริง ๆ” “มาถูกจังหวะเลยครับ ผมกำลังหาวิธีไล่ภีรณีอยู่พอดี” “ไม่จริงมั้ง รอยที่เสื้อเป็นพยานได้” “หึงเหรอ” หัวใจพองโตคับอก แอบคาดหวังว่าจะได้ยินคำตอบที่เกี่ยวกับตัวเอง ปานิศาหึงจนทนไม่ไหว ทำนองนี้ “เปล่าค่ะ” “แล้วที่ทำตอนนั้น” “การแสดงล้วน ๆ” “ว้า...เราก็คิดว่าจะหึงบ้าง รู้อะไรไหมปลื้ม” “อะไรคะ” เธอถามแล้วรอฟังอย่างตั้งใจ “ตอนที่คุณเปิดประตูเข้ามา เห็นภีรณีเดินออกมาจากข้างหลัง ผมตกใจมาก กลัวว่าคุณจะเข้าใจผมผิด ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ รอยที่เสื้อเป็นอุบัติเหตุ เธอล้มผมเลยเข้าไปประคอง ไม่รู้ด้วยว่ามีรอยที่เสื้อ” เตวิทย์บ