เตวิทย์พาปานิศาซ้อนท้ายรถเอทีวี ที่ข้างหลังมีกระเป๋าผ้าและกล่องใบกะทัดรัดผูกติดเอาไว้ แล้วขับเข้ามาในไร่ชา ปานิศาตื่นตาตื่นใจกับไร่ชาที่กว้างจนสุดตา ตอนนี้เป็นเวลาเย็นจึงไม่มีคนงานเก็บใบชา จะมีก็แต่คนที่ดูแลไร่เท่านั้น ชายหนุ่มขับลัดเลาะเข้าไปในส่วนที่เป็นป่า แต่ยังมีต้นชาขึ้นเรียงกันเป็นแถว ปานิศาอึ้งกับที่นี่มาก ขนาดเป็นป่ายังใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า
"ข้างหลังนั่นเป็นน้ำตก ได้ยินเสียงน้ำไหลไหม" เขาหันมาถามเมื่อขับรถเข้าไปด้านใน ปานิศาส่ายหัวเป็นคำตอบ เธอไม่ได้ยินเสียงน้ำตกเพราะเสียงรถดังกว่า
"ผมรักที่นี่มาก ทุกครั้งที่มา ก็จะเข้ามาที่นี่ คืนนี้เราจะนอนที่บ้านหลังนั้น" เตวิทย์ชี้ไปที่บ้านไม้ยกพื้น ขนาดหนึ่งห้องนอน ที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ น้ำตก
"ไม่อันตรายเหรอคะ" ถามเพราะเห็นว่าอยู่กลางป่า
"ไม่ครับที่นี่เป็นที่ของผม มีแต่คนของผม ไม่มีใครทำอันตรายเราหรอก"
"แน่ใจนะคะ" ถึงแม้เขาจะยืนยันมาอย่างนั้น แต่ปานิศาก็ยังกังวล
"สบายใจเถอะ ลงไปได้แล้ว ไว้ใจผมนะครับ"
"ทำไมไม่บอกก่อน ว่าจะมาค้างคืน ฉันจะได้เตรียมตัว ดูสิไม่มีอะไรมาสักอย่าง เสื้อผ้าก็ไม่มี" เธอตัดเพ้อเพราะไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย ถ้ารู้ล่วงหน้าจะได้เอาเสื้อผ้ามาด้วย น้ำตกใสน่าเล่น ถ้ามีชุดมาเปลี่ยนคงสนุกกว่านี้
"ผมให้แม่บ้านเตรียมให้แล้ว" เตวิทย์บอกพร้อมกับโบ้ยหน้าไปที่กระเป๋าท้ายรถ
"ในกล่องมีอาหารมาด้วย อยู่ได้หลายวัน ถ้าหมดก็ให้คนงานเอามาส่ง" บอกพร้อมกับยกของลงจากรถ แล้วเดินขึ้นไปบนบ้าน ปานิศาเดินสำรวจพื้นที่รอบ ๆ ชอบใจกับน้ำตกที่ไหลลงมาเป็นสาย ถือว่าเป็นการพักผ่อน หญิงสาวบอกตัวเองแล้วเดินลงไปในแอ่งน้ำ นอกจากใสแล้วน้ำในนั้นก็เย็นมาก ปานิศานั่งบนโขดหินหย่อนขาลงไปในน้ำ เตะน้ำไปมาอย่างสนุกสนาน เธอชอบธรรมชาติ ที่ผ่านมาเธอไม่ค่อยได้ไปเที่ยว เพราะต้องทำงานเก็บเงินแต่งงาน เมื่อคิดไปถึงงานแต่ง ก็ทำให้โมโหขึ้นมาอีก
"ศราวุธไอ้สารเลว! ผู้ชายเฮงซวย!" ตะโกนออกมาสุดเสียง ภาพศราวุธเริงรักกับภีรณียังติดอยู่ในหัว สลัดยังไงก็ไม่ยอมออก หรือเธอต้องกลับไปสั่งสอน สิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจจะได้ลดลงบ้าง
เตวิทย์มองหญิงสาวจากระเบียงบ้าน สาเหตุที่ทำให้ปานิศาหนีมา คือศราวุธ แล้วมันเรื่องอะไรกัน ภีรณีโทรหาเขาหลายสาย แต่เขาไม่รับเพราะคิดว่าเธอโทรมาเพราะเป็นห่วงเพื่อน พอมาได้ยินแบบนี้เลยเสียดาย ภีรณีน่าจะรู้เรื่องของปานิศากับศราวุธ เพราะเป็นเพื่อนสนิทกัน หยิบมือถือขึ้นมาต่อสายหาคนสนิท อยากรู้ความเป็นไปของศราวุธ ก่อนวางมือถือลงบนโต๊ะ เตวิทย์ถ่ายรูปปานิศาไว้หลายรูป ตรงจุดที่เขายืนอยู่ ปานิศาจะมองไม่เห็นเขา จึงเป็นโอกาสให้เขามองเธอ และถ่ายรูปเธอเก็บไว้ในมือถือได้อย่างสะดวก เขาทำแบบนี้หลายครั้ง จนแกลลอรี่ในมือถืออัดแน่นไปด้วยรูปถ่ายของเธอ
"เล่นน้ำไหม" คำถามของเขาส่งผลให้คนที่กำลังเหม่อลอยสะดุ้งสุดตัว ปานิศาหันมามอง เตวิทย์จึงรู้ว่าเธอร้องไห้อีกแล้ว
"ปลื้ม ผมจะไม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ แต่คุณจงรู้เอาไว้ว่าผมจะอยู่ข้างคุณเสมอ" ร่างสูงเดินไปยังจุดที่เธอนั่งอยู่ หย่อนสะโพกลงนั่งข้าง ๆ ปานิศามองหน้าเขา ซบหน้าลงบนอกกว้าง แล้วสะอื้นออกมา
"ขอห้านาทีนะคะ" เธอบอกเมื่อร้องไห้กับอก
ของเขา"ร้องออกมาเถอะ ถ้ามันทำให้คุณสบายใจ" เตวิทย์ลูบมือลงบนแผ่นหลังบาง ปลอบให้เธอคลายจากความเสียใจ
"ฉันขอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว แล้วฉันจะไม่ร้องอีก ฉันสัญญา" เธอไม่อยากอ่อนแอ แต่เก็บไว้ไม่ไหวจริง ๆ
"ไม่ต้องสัญญาอะไรกับผม อยู่กับผมคุณไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ผมจะปกป้องคุณเอง"
"ศราวุธเขาไม่เคยรักฉันเลยค่ะ ที่ผ่านมาเขาแค่หลอกใช้ฉัน"
"เขาทำให้คุณเสียใจใช่ไหม"
"ฉันไม่ได้เสียใจ ฉันแค่เจ็บใจที่โง่ให้มันหลอกอยู่ตั้งนาน ฉันรักคนแบบนั้นได้ยังไง"
"ความรักมันไม่มีเหตุผลหรอกครับ ขอแค่ได้รักก็พอ" เหมือนกับที่เขารักเธอ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเธอไม่รัก แต่ก็ไม่เคยห้ามใจ
"คุณคงสมน้ำหน้าฉัน" เรื่องแต่งงานเขาก็เคยพูดทำนองเตือน แต่เธอไม่เคยฟัง
"ใครบอก ผมดีใจต่างหากที่คุณรู้ตัวเร็ว ปลื้มคุณก็รู้ว่าผมไม่อยากให้คุณแต่งงาน" แขนที่กอดเธอไว้หลวม ๆ กระชับให้แน่นขึ้น ปานิศาเงยหน้าขึ้นจากอกกว้าง เพื่อมองหน้าเขา เตวิทย์อาศัยจังหวะนั้นประกบปากลงมาบนเรียวปากของเธอ ปานิศาไม่ขัดขืนจูบตอบเขาเช่นกัน ไม่มีอะไรต้องคิดนาน ถ้าเทียบระหว่างเตวิทย์กับศราวุธ
เตวิทย์เหนือกว่าหลายชั้น เขาไม่ใช่คนเลวร้าย และที่สำคัญเธอก็ไม่ได้รังเกียจเขามือหนาประคองใบหน้าสวย จับยึดเอาไว้เพื่อจูบเธอได้อย่างถนัด ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากบาง เพื่อดื่มดำความหวานของริมฝีปากคู่สวย ที่เขาเฝ้าถวิลหา หัวใจของเขาเต้นรัวเร็ว เมื่อเธอไม่ขัดขืน สองร่างกอดกันภายใต้ธรรมชาติที่โอบล้อม เตวิทย์ผ่อนหญิงสาวลงบนโขดหิน แล้วทาบทับลงมา ริมฝีปากของเขายังประกบอยู่บนเรียวปากบาง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาอยากให้ปานิศารู้ว่าเกิดจากความตั้งใจของเขา เขารักและต้องการเธอ จนไม่คิดจะหักห้ามใจ
"ปลื้มผมต้องการคุณ" กระซิบชิดปากงาม เมื่อถอนปากออก ตาคู่คมสบกับตาคู่สวย หัวใจกระตุกเมื่อเห็นแววสับสนในดวงตาของเธอ เธอกำลังเสียใจ เขาไม่ควรฉวยโอกาสกับเธอ
"ผมขอโทษ" ผละออกแต่แขนเรียวยังกอดคอเขาเอาไว้
"ขอโทษทำไมคะ ฉันเต็มใจ"
"คุณไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นหรอกทูนหัว" ลูบมือลงบนแก้มเนียนใสที่เปลี่ยนเป็นสีเรื่อ เขารู้ว่าเธอไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าเธอยอมเพราะอะไร อาจเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หรืออยากประชดใคร ถึงจะเห็นแก่ตัว แต่เขาก็ไม่อยากทำร้ายเธอ
“มาทำหลานให้ให้แม่อุ้มกันเถอะบี๋” พีรดนย์เรียกคนรัก เมื่อทั้งสองเดินทางมาฮันนีมูนที่ภูทับเบิก หลังจากแต่งงานบริษัทก็ให้สวัสดิการสำหรับคู่แต่งงานใหม่ได้มาฮันนีมูนหนึ่งสัปดาห์ พีรดนย์ไม่คิดจะทำอะไรเลยนอกจากกิจกรรมบนเตียง ต่อให้ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจร้อยแปดเขาก็ไม่สน“บี๋ไปเที่ยวบ้างเถอะ” ชลนิภาบอก เมื่อสามีเรียกกลับไปบนเตียง“เที่ยวมาเยอะแล้ว อยากทำกิจกรรมกับเมียให้เต็มที่”“ไม่ไหว”“นอนเฉยๆ ก็ได้เดี๋ยวผัวจัดเอง”“ไม่บอกว่าไม่ไง” ร้องโอดครวญขอชีวิตก็ แต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อสามีสุดหื่นอยากทำกิจกรรมต่อ ร่างสูงอุ้มร่างบางไปวางบนเตียง ถอดเสื้อยืดออกทางศีรษะปาทิ้ง แล้วตามด้วยชิ้นต่อ ๆ มากระโจนคร่อมร่างเมีย จ้องมองที่ริมฝีปากแสนหวาน สดชื่นทุกครั้งที่เขาจูบ สายตาของเขาทำให้ชลนิภาอ่อนไหวยินยอมร่วมมือ ในที่สุด เธอก็ตอบสนองจูบร้อนแรงที่บดขยี้ลงมาด้วยความเต็มใจ เสื้อคลุมอาบน้ำบนตัวถูกกระตุกเชือกผูกเอวออก“ไหนว่าไม่เอาไงบี๋” พีรดนย์หยอก เมื่อเห็นว่าด้านในชุดอาบน้ำคือเนื้อตัวเปล่าเปลือยของภรรยา ไม่ใส่เสื้อผ้า แต่บอกว่าไม่พร้อมแปลก ๆ นะ“ก็คนจะอาบน้ำ” ชลนิภาเถียง“ไม่ใช่เตรียมพร้อมรับศึกเหรอ”
ชลนิภากอดอกนิ่งเงียบ ปล่อยให้เป็นหน้าที่พีรดนย์ ดูสิเห็นนางนี่บีบน้ำตา เขายังจะสงสารคนโกหกตลบแตลงอยู่ไหม“ด้าไปเถอะ” เสียงอ่อนเหมือนสงสารคนที่หลอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า“พี่พีไปส่งด้าหน่อยนะคะ”“ไม่ต้อง นี่เงินค่าแท็กซี่ หรือต้องโดนเมียหลวงตบอีกที บอกไว้ก่อนนะฉันมือหนัก” เงื้อมือขู่ เมื่อนิดายังอ้อนพีรดนย์ไม่เลิก“ไปก็ได้” กระชากกระเป๋าลากออกไปจากบ้านชลนิภาเดินตามไปดู พีรดนย์กับประไพก็ตามมาด้วย“หนูน้ำใจเด็ดมาก คนแบบนี้ต้องเจอแบบหนูน้ำ” แม่สามีชื่นชมว่าที่ลูกสะใภ้ คนแบบนี้ถึงจะดูแลลูกชายใจอ่อนของเธอได้[สัปดาห์ต่อมา]สองหนุ่มสาวไปงานแต่งของคิรากรกับเหมือนฝัน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีเรื่องติดค้างกันแล้ว พอได้เวลาโยนช่อดอกไม้ สาว ๆต่างไปยืนรอรับช่อดอกไม้อยู่หน้าเวที การโยนดอกไม้ของเจ้าสาวต่างไปจากงานอื่น ๆ ที่เจ้าสาวมักจะยืนหันหลังแล้วโยน ต่งานนี้ให้เพื่อนๆ ดึงเชือกที่ผูกติดกับช่อดอกไม้ของเจ้าสาวเชือกเส้นหนึ่งถูกยื่นมาให้ชลนิภา ชลนิภามองเชือกเส้นที่ถูกยื่นมา ก่อนจะรับเอาไว้ สาวๆ ทุกคนจับเชือกเตรียมพร้อมดึง ชลนิภาหันมองพีรดนย์ยิ้มให้เขาราวกับต้องการขอกำลังใจพิธีกรเริ่มนับ ห้า สี
[หลายเดือนต่อมา] “แม่ครับผมจะแต่งงานกับน้ำ” พีรดนย์เดินมาบอกแม่ตอนที่ท่านกำลังดูละครหลังข่าว “จริงหรือลูก” ประไพดีใจมากนับว่าลูกชายฉลาดที่ไม่เลือกคนอย่างนิดา“แล้วคนโน่นล่ะ” คนโน้นที่ประไพพูดถึง คือนิดา ที่ยังโทรมาหาพีรดนย์ทุกวัน“ถ้าแม่หมายถึงดาด้า เราจบกันแล้วครับ ที่ผมช่วยก็เพราะดาด้ากำลังป่วย” พีรดนย์บอกให้แม่สบายใจ“จบจริง ๆ ก็ดี แม่บอกตรง ๆ นะแม่คงทำใจไม่ได้ ถ้าพีเลือกผู้หญิงคนนั้นมาเป็นคู่ชีวิต”“ไม่หรอกครับ ถ้าดาด้าแข็งแรงขึ้น ผมก็จะหาที่อยู่ใหม่ให้เธอ”“ทำอะไรบอกให้หนูน้ำรู้ด้วยนะลูก มารู้ทีหลังหนุน้ำจะเสียใจ”“ครับ แม่ไปขอน้ำให้ผมหน่อยนะครับ”“ได้สิ เต็มใจเลยล่ะคนนี้ เดี๋ยวแม่โทรบอกลุงยุทธให้รีบลงมากรุงเทพ ไปขอสาวให้หลานชาย” ประยุทธพี่ชายสามีอยู่ทางเหนือ รักพีรดนย์เหมือนลูกในไส้ เรื่องน่ายินดีแบบนี้ต้องบอกให้ท่านรับรู้“ขออะไรกันเหรอคะพี่พี” เสียงที่ดังมาประตูห้อง ทำให้สองแม่ลูกต้องหันไปมอง เห็นนิดายืนหน้าซีดอยู่ตรงนั้นประไพก็ส่ายหัว พีรดนย์ยังนั่งอยู่ที่เดิม ไม่ลุกไปประคองเธออย่างที่นิดาคิดเอาไว้ พีรดนย์ไม่ไปหาและไม่รับโทรศัพท์นิดาเลยมาหาเขาที่บ้าน บรรจงแต่งหน้ามาเป็นอย่
ยกทรงถูกดึงผ่านศีรษะไม่ใส่ใจในการปลดตะขอ พีรดนย์เป็นคนแบบนี้เรื่องเซ็กส์เขาไม่เคยใจเย็นเลยสักครั้ง แต่เขาแน่ใจว่าอาการรีบร้อนหอวกระหายที่กำเป็นอยู่เกิดขึ้นกับชลนิภาคนเดียวเท่านั้น ชลนิภาเป็นเหมือนแห่งน้ำที่เขาพบจอตอนหิวกระหาย เมื่อเจอแล้วก้อยากกินทันที ทันทีที่เต้าสวยปรากฏต่อสายตา มือสั่นก็ยกขึ้นเคล้นสองเต้า ครอบปากลงบนส่วนยอดเด้งนุ่มดูดเม้มสลับขบกันเบาๆ“อ๊า” คนโดนดูดหน้าอกครางเสียงสั่น ขาที่ห้อยอยู่สั่นเทา สองมือสองเข้าหากลุ่มผมดำสลวยของเขา ขยี้จนเส้นผมชายหนุ่มยุ่งเหยิงพีรนดนย์ลากปลายลิ้นมาตามหน้าท้องหดเกร็งเป็นจังหวะ ตามความเสียวกระสัน ดันชายกระโปรงขึ้นไปกองอยู่ที่เอวเล็ก ปลดแพนตี้ปกคลุมกุหลาบช่องามลงมาตามเรียวขา หญิงสาวใช้นิ้วเท้าเขี่ยมันตกลงพื้นพีรดนย์รีบร้อนจัดการกับสิ่งปกปิดที่ขัดขวางทาง ถอดเสื้อเชิ้ตออกแล้วปาทิ้งลงพื้น ตามด้วยกางเกงยีนส์ผ้าเนื้อดี และกางเกงชั้นในสีขาวสะอาดเป็นลำดับสุดท้าย จับเรียวขาที่ห้อยอยู่ยกขึ้นไปวางบนเคาน์เตอร์ แล้วแทรกตัวเข้าตรงกลางหว่างขา ฝังหน้าลงใจกลางความเป็นหญิง ตวัดลิ้นเลียกลีบกุหลาบดอกงามอวบอูม เลียหนัก ๆ ขึ้นลงตรงร่องสวาทฉ่ำเยิ้ม เขี่ยเกสรกุหลา
พีรดนย์หนีนิดาออกมาหลังจากที่เธอขอร้องให้เขามาอยู่เป็นเพื่อนที่คอนโด ตั้งใจไปซื้อเค้กหน้านิ่มไปฝากชลนิภาที่ทำงาน แต่สิ่งที่เขาเห็นตรงหน้าทำให้ไม่อาจเดินต่อไปได้ แฟนของเขายืนกอดอยู่กับแฟนอีกคน แล้วตอนนี้เขาควรอยู่ในฐานะอะไร เพื่อนเหมือนเดิมอย่างนั้นเหรอชลนิภาผละออกจากอ้อมแขนของคิรากร ทั้งสองปรับความเข้าใจกันและจากกันด้วยดี จากลากันด้วยความเข้าใจดีกว่าจบแบบเกลียดกันเป็นไหน ๆ จังหวะที่ชลนิภาหันกลับมา เจอพีรดนย์ยืนอยู่ต่อหน้าพอดี“แก...พี”“ยินดีด้วยว่ะ ยินดีด้วย” ไม่รู้เรื่องว่าสองคนคุยอะไรกัน แต่ก็อยากร่วมแสดงความยินดีกับเพื่อนรัก กอดกันกลมแบบนี้แสดงว่าไม่ได้พูดเรื่องเลิกกัน คงคุยเรื่องอนาคตร่วมกัน เรื่องดีๆ แบบนี้เขาควรยินดีถึงจะถูก รู้สึกเหมือนโดนหักหลังอีกครั้ง แต่ภาพไม่รุนแรงเท่าตอนนิดาร่วมรักกับชู้บนเตียง แต่มันดันเจ็บกว่าเป็นร้อยเท่า“ฉันก็ยินดีกับแกด้วยว่ะ” เมื่อตั้งสติได้ ชลนิภาก็พูดประโยคนี้ออกมา เธอก็ควรยินดีกับพีรดนย์เช่นกัน“ยินดีบ้าบออะไร!” พีรดนย์เสียงดัง คนกำลังจะถูกทิ้ง มีเรื่องอะไรให้น่ายินดีกัน“แกรู้อยู่แกใจ ยังต้องให้ฉันพูดอีกเหรอ” ตอบโต้เขาเสียงสั่น พีรดนย์จะรู้ไหม
พีรดนย์โทรหาชลนิภาซ้ำ ๆ แต่หญิงสาวไม่รับสายเขาเลยสักครั้ง ชายหนุ่มเข้าเกมออนไลน์เพื่อหาเพื่อนคุย ตั้งแต่เป็นแฟนกับชลนิภาเขาก็ไม่ได้เข้าไปคุยกับเพื่อนในเกมอีกเลย ไม่รู้ว่าวันนี้โอเอซิสจะยังอยู่ไหม“น้ำ” หัวหน้าเดินมาถึงโต๊ะทำงานของชลนิภา ด้วยสีหน้าถมึงทึง โยนกระดาษลงบนโต๊ะดังโครม แต่หญิงสาวยังคงนิ่งไม่สะดุ้งสะเทือน มองกระดาษแผ่นนั้นด้วยใบหน้านิ่งเฉย“มีอะไรคะพี่มาร์ช” ทำไมทำหน้าหน้าซังกะตายแบบนั้นคะ“ยังมีหน้าพูดอีกเหรอ เธอตรวจงานก่อนส่งให้ลูกค้าหรือเปล่า” มาร์ชพูดด้วยน้ำเสียงเกรียวกราด ถึงจะเป็นความผิดครั้งแรกของชลนิภา แต่เขาก็ไม่ชอบใจ“ตรวจค่ะ” แทบไม่ดูด้วยซ้ำ ไม่มีกะจิตกะใจตรวจงาน หรือทำอะไรทั้งนั้น เมื่อเช้าลุกขึ้นมาอาบน้ำ แต่งตัวมาทำงานได้ก็ดีมากแล้ว หลังจากเห็นโพสต์ในเฟซบุ๊กของนิดาเมื่อคืนก็ไม่มีใจทำอะไรอีกเลย“ตรวจทำไมมันถึงผิดพลาดแบบนี้ งานออกแบบที่น้ำเคยทำ มันดีกว่านี้ร้อยเท่า ทำไมงานนี้ถึงได้ชุ่ยอย่างนี้ล่ะน้ำ ลองเอากลับไปดูใหม่แล้วแก้สเกลให้พี่ด้วย ลูกค้าด่าพี่มาจนหูชาแล้วเนี่ย” พี่มาร์ชก็คือพี่มาร์ช ไม่ว่าจะโมโหแค่ไหนก็ยังใจดีและให้โอกาสลูกน้องเสมอ“ค่ะ” ตอบรับเนือยๆ หมดไฟใ