ศราวุธนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่เดิมอย่างมีความสุข ในที่สุดเขาก็ได้ใช้ชีวิตกับคนที่เขารักอย่างเปิดเผย แถมยังได้เงินก้อนโตมาเป็นทุนอีกด้วย บนโลกใบนี้ไม่มีใครโง่เท่าปานิศาอีกแล้ว อยู่ ๆ ก็หายไปแล้วทิ้งเงินทองไว้ให้เขา เขาไม่เคยอยากแต่งงานเลยสักนิด แต่เพราะขัดเธอไม่ได้ จึงตกลงเออออไปกับเธอ ไม่คิดเลยว่ามันจะดีขนาดนี้ ถ้ารู้ว่าแต่งแล้วจะได้เงินมาใช้ง่าย ๆ เขาแต่งไปนานแล้ว
ในขณะที่ศราวุธกำลังดื่มด่ำกับความสุข ภีรณีกลับรู้สึกตรงกันข้าม เมื่อรู้ว่าคนที่พาปานิศาไปจากงานแต่คือเตวิทย์ เช้านี้สื่อทุกช่องต่างประโคมข่าวว่าสองคนนั่นเป็นชู้กัน ปานิศาแอบคบกับเตวิทย์แล้วตัดสินใจล้มงานแต่ง แล้วหนีไปกับคนที่เธอรัก มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง เธอจะไม่รู้สึกอะไรเลย ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เตวิทย์ ต่อมอิจฉาทำงานทันที เมื่อปานิศากำลังจะได้ดีกว่าเธอ ที่เธอเป็นชู้กับศราวุธก็ไม่ใช่เพราะความรัก เธออยากแย่งทุกอย่างที่ปานิศามีต่างหาก ตั้งแต่เด็กจนโตปานิศาจะได้สิ่งที่ดีกว่าเธอเสมอ
"ที่ร้ากกก มาทำอะไรตรงนี้ค้าบบบ" เสียงอ้อแอ้มาพร้อมกับคนเมา ที่กำลังเดินมาทางเธอ ทำให้ภีรณีเบื่อหน่ายหนักขึ้นกว่าเดิม ศราวุธดื่มต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อวาน ไม่คิดจะพักบ้างหรือไง
"เมาก็ไปนอน" บอกแล้วเบือนหน้าหนี เมื่อคนเมาก้มลงมาหอมที่แก้มของเธอ
"เป็นอะไร หื้ม ไม่ดีใจเหรอที่เราได้อยู่ด้วยกัน" คำถามของเขาทำให้ภีรณีบิดปากขึ้นอย่างน่าเกลียด เธอไม่อยากอยู่กับเขาเลยสักนิด ที่ทำก็เพราะอยากให้ปานิศาเสียใจจนเสียสติ
"ดีใจค่ะ ดีใจมากด้วย" ตอบเพื่อตัดปัญหา ก่อนจะขยับหนีเมื่อคนเมาโน้มตัวลงมาหา
ศราวุธหน้าคว่ำลงกับที่นอน ภีรณีลุกหนีด้วยท่าทางรังเกียจ เพราะความเมาจึงไม่สนใจอะไร เลยไม่เห็นสายตาที่ภีรณีใช้มองเขา
"นอนนะคะ เดี๋ยวฉันมา"
"จะไปไหน" เสียงอ้อแอ้เอ่ยถาม
"ไปธุระค่ะ" ตอบแล้วรีบเดินออกไป ปล่อยให้คนเมานอนอยู่อย่างนั้น
"สภาพ! ใครจะเอาลง" พอไม่มีปานิศาเข้ามาเกี่ยวข้อง ความรู้สึกที่มีต่อศราวุธเปลี่ยนไป เธอไม่อยากได้เขาเลยสักนิด หยิบมือถือขึ้นมาต่อสายหาเตวิทย์ เพราะอยากรู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ขอบคุณตัวเองที่บันทึกเบอร์เขาไว้ ตอนที่ทำงานร่วมกัน เมื่อเตวิทย์ไม่รับสาย ภีรณีจึงกวาดเงินที่ศราวุธกองไว้บนโต๊ะลงกระเป๋า เลขาของเตวิทย์น่าจะให้คำตอบเธอได้ ว่าตอนนี้เจ้านายของเธออยู่ที่ไหน
"คุณช่างเหมาะสมกับนางปลื้มจริง ๆ" มองคนเมาที่นอนกรนเสียงดังอย่างรังเกียจ ก่อนจะเดินออกไปจากห้องพัก คอนโดนี้ปานิศาซื้อให้ศราวุธ เธอตื่นเต้นมากที่ได้มาที่นี่ และลักลอบได้เสียกับเขาในห้องนี้ แต่ตอนนี้ความตื่นเต้นเหล่านั้นมันหมดไปแล้ว เพราะเธอมีเป้าหมายใหม่ อะไรก็ตามที่เป็นของปานิศาเธอจะแย่งเอามาเป็นของเธอให้หมด
เตวิทย์มองคนที่เดินมาหาตาค้าง มือหนากำถ้วยเครื่องดื่มไว้แน่น เพราะกลัวมันจะร่วงจากมือ ปานิศาในชุดเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น สวยยั่วยวนสะกดสายตาของเขาให้มองค้างอยู่ที่เธอ
ปานิศาก้มมองตัวเอง เมื่อถูกเตวิทย์จ้องมอง มือไม้เกะกะไปหมด ไม่รู้ว่ามีอะไรแปลกไปหรือเปล่า เก็บผมยาวสยายไปไว้ที่หลังหู กลั้นหายใจแล้วเดินเข้าไปหาคนที่กำลังจ้องมองเธอ
"มีอะไรหรือเปล่าคะ" ถามเมื่อเขายังมองเธออยู่อย่างนั้น เตวิทย์ละสายตาออกจากหญิงสาว เมื่อรู้ตัวว่ามองเธอนานเกินไป
"เปล่าครับ" ตอบพร้อมกับทำตัวให้เป็นปรกติ เสยกถ้วยเครื่องดื่มขึ้นดื่ม ก่อนจะร้องออกมา เมื่อริมฝีปากสัมผัสกับความร้อนของชาที่อยู่ในถ้วย
"โอ้ย!" วางถ้วยชาลงบนจานรองอย่างแรง
"คุณเต เป็นไงบ้างคะ" ส่งกระดาษทิชชูให้เขา เมื่อเห็นชาที่หกลงบนเสื้อของเขา
"ร้อนครับ" เขาชอบกินของร้อน แต่ชาในถ้วยร้อนเกินไป
"ร้อนแล้วดื่มทำไมคะ มาค่ะฉันช่วย" มือบางซับกระดาษทิชชูลงบนเสื้อของเขา เตวิทย์ทำตัวไม่ถูกกับความใกล้ชิดในครั้งนี้ น่าอายจริง ๆ ที่เขินจนถูกจับได้
"ขอบคุณครับ" เอ่ยขอบคุณเมื่อเธอละมือออกจากเสื้อเขา
"ชาอัสสัมจากไร่ ลองชิมดู รสชาติจากธรรมชาติ สดชื่นมากครับ" เตวิทย์เทชาที่บรรจุอยู่ในกาทรงสวยใส่ถ้วย แล้วเลื่อนมาตรงหน้าเธอ ปานิศารับมาดื่ม แต่ยังสงสัยชื่อที่เขาใช้เรียกชา
"รสชาติดีจังเลยค่ะ คุณว่าชาอะไรนะคะ" เธอเคยได้ยินแต่ชาเขียว ชาขาว ชาอูหลง ชากุหลาบ และชาอื่น ๆ ชื่อที่เขาบอกไม่คุ้นหู เลยอยากรู้ที่มาของชาแสนอร่อยที่เขาชงให้ดื่ม
"ชาอัสสัมครับ ต้องบอกก่อนว่าชานี้มีขายทั่วไปนะครับ แต่คนจะไม่รู้จักชื่อ เพราะเรียกรวม ๆ ว่าชา อัสสัมเป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง ชาวบ้านรู้จักมานาน จะเอายอดมากินกับน้ำพริก ต่อมาได้ทดลองนำยอดอ่อนไปตากแห้ง และแปรรูปเป็นชา ผลที่ได้ก็แบบนี้ครับ รสชาติอร่อยมาก ต่อมามีการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกมากขึ้น ต่อยอดและยกระดับขึ้นไปขายตามร้านสะดวกซื้อ และห้างสรรพสินค้า และที่น่าภูมิใจก็คือเราส่งออกชาอัสสัมได้แล้วนะครับ" เตวิทย์อธิบายที่มาให้ปานิศาฟัง เธอเห็นความภูมิใจในแววตาของเขา อย่าบอกนะว่าใบชาเป็นหนึ่งในธุรกิจของเขาด้วย
"ภูมิใจแทนเกษตรกรนะคะ"
"ครับ ภูมิใจที่สุด ชาที่คุณกำลังดื่มมาจากไร่ของผมเอง ไร่อยู่ตรงนั้นครับ" พูดพร้อมกับชี้มือไปทางไร่ชาที่เป็นแนวยาวไปถึงภูเขา ปานิศามองตามแล้วก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นความกว้างใหญ่ของไร่ชาที่เขาชี้ให้ดู
"ของคุณหมดเลยเหรอคะ"
"ครับ"
"เวลาที่คุณไม่อยู่ ใครดูแลให้คะ"
"ลูกพี่ลูกน้องกับคนงานเก่าแก่ ผมก็มาดูบ้าง แต่ส่วนมากผมจะดูเรื่องการตลาด เรื่องผลิตก็ให้พี่น้องและคนงานดูแลกันไป"
"ไหนคุณบอกว่าอยู่ที่นี่คนเดียว" ปานิศาถามเพราะ เขาบอกเธออย่างนั้น
"อยู่บ้านนี้คนเดียวครับ ส่วนที่ไร่มีคนช่วยดูแล ทานข้าวกลางวันแล้วจะพาไปเที่ยว มีน้ำตกท้ายไร่ด้วยนะ คุณน่าจะชอบ"
ปานิศาไม่พูดอะไร ลงมือทานอาหารที่แม่บ้านยกมาให้เงียบ ๆ แล้วจัดการกับชาและของหวานที่อยู่บนโต๊ะ
เตวิทย์มองเพลิน อาการของปานิศาไม่เหมือนคนที่กำลังเสียใจเลยสักนิด อาจจะมีเหม่อลอยบ้างบางครั้ง แต่ก็ไม่น่าหวงเหมือนเมื่อวาน“มาทำหลานให้ให้แม่อุ้มกันเถอะบี๋” พีรดนย์เรียกคนรัก เมื่อทั้งสองเดินทางมาฮันนีมูนที่ภูทับเบิก หลังจากแต่งงานบริษัทก็ให้สวัสดิการสำหรับคู่แต่งงานใหม่ได้มาฮันนีมูนหนึ่งสัปดาห์ พีรดนย์ไม่คิดจะทำอะไรเลยนอกจากกิจกรรมบนเตียง ต่อให้ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจร้อยแปดเขาก็ไม่สน“บี๋ไปเที่ยวบ้างเถอะ” ชลนิภาบอก เมื่อสามีเรียกกลับไปบนเตียง“เที่ยวมาเยอะแล้ว อยากทำกิจกรรมกับเมียให้เต็มที่”“ไม่ไหว”“นอนเฉยๆ ก็ได้เดี๋ยวผัวจัดเอง”“ไม่บอกว่าไม่ไง” ร้องโอดครวญขอชีวิตก็ แต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อสามีสุดหื่นอยากทำกิจกรรมต่อ ร่างสูงอุ้มร่างบางไปวางบนเตียง ถอดเสื้อยืดออกทางศีรษะปาทิ้ง แล้วตามด้วยชิ้นต่อ ๆ มากระโจนคร่อมร่างเมีย จ้องมองที่ริมฝีปากแสนหวาน สดชื่นทุกครั้งที่เขาจูบ สายตาของเขาทำให้ชลนิภาอ่อนไหวยินยอมร่วมมือ ในที่สุด เธอก็ตอบสนองจูบร้อนแรงที่บดขยี้ลงมาด้วยความเต็มใจ เสื้อคลุมอาบน้ำบนตัวถูกกระตุกเชือกผูกเอวออก“ไหนว่าไม่เอาไงบี๋” พีรดนย์หยอก เมื่อเห็นว่าด้านในชุดอาบน้ำคือเนื้อตัวเปล่าเปลือยของภรรยา ไม่ใส่เสื้อผ้า แต่บอกว่าไม่พร้อมแปลก ๆ นะ“ก็คนจะอาบน้ำ” ชลนิภาเถียง“ไม่ใช่เตรียมพร้อมรับศึกเหรอ”
ชลนิภากอดอกนิ่งเงียบ ปล่อยให้เป็นหน้าที่พีรดนย์ ดูสิเห็นนางนี่บีบน้ำตา เขายังจะสงสารคนโกหกตลบแตลงอยู่ไหม“ด้าไปเถอะ” เสียงอ่อนเหมือนสงสารคนที่หลอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า“พี่พีไปส่งด้าหน่อยนะคะ”“ไม่ต้อง นี่เงินค่าแท็กซี่ หรือต้องโดนเมียหลวงตบอีกที บอกไว้ก่อนนะฉันมือหนัก” เงื้อมือขู่ เมื่อนิดายังอ้อนพีรดนย์ไม่เลิก“ไปก็ได้” กระชากกระเป๋าลากออกไปจากบ้านชลนิภาเดินตามไปดู พีรดนย์กับประไพก็ตามมาด้วย“หนูน้ำใจเด็ดมาก คนแบบนี้ต้องเจอแบบหนูน้ำ” แม่สามีชื่นชมว่าที่ลูกสะใภ้ คนแบบนี้ถึงจะดูแลลูกชายใจอ่อนของเธอได้[สัปดาห์ต่อมา]สองหนุ่มสาวไปงานแต่งของคิรากรกับเหมือนฝัน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีเรื่องติดค้างกันแล้ว พอได้เวลาโยนช่อดอกไม้ สาว ๆต่างไปยืนรอรับช่อดอกไม้อยู่หน้าเวที การโยนดอกไม้ของเจ้าสาวต่างไปจากงานอื่น ๆ ที่เจ้าสาวมักจะยืนหันหลังแล้วโยน ต่งานนี้ให้เพื่อนๆ ดึงเชือกที่ผูกติดกับช่อดอกไม้ของเจ้าสาวเชือกเส้นหนึ่งถูกยื่นมาให้ชลนิภา ชลนิภามองเชือกเส้นที่ถูกยื่นมา ก่อนจะรับเอาไว้ สาวๆ ทุกคนจับเชือกเตรียมพร้อมดึง ชลนิภาหันมองพีรดนย์ยิ้มให้เขาราวกับต้องการขอกำลังใจพิธีกรเริ่มนับ ห้า สี
[หลายเดือนต่อมา] “แม่ครับผมจะแต่งงานกับน้ำ” พีรดนย์เดินมาบอกแม่ตอนที่ท่านกำลังดูละครหลังข่าว “จริงหรือลูก” ประไพดีใจมากนับว่าลูกชายฉลาดที่ไม่เลือกคนอย่างนิดา“แล้วคนโน่นล่ะ” คนโน้นที่ประไพพูดถึง คือนิดา ที่ยังโทรมาหาพีรดนย์ทุกวัน“ถ้าแม่หมายถึงดาด้า เราจบกันแล้วครับ ที่ผมช่วยก็เพราะดาด้ากำลังป่วย” พีรดนย์บอกให้แม่สบายใจ“จบจริง ๆ ก็ดี แม่บอกตรง ๆ นะแม่คงทำใจไม่ได้ ถ้าพีเลือกผู้หญิงคนนั้นมาเป็นคู่ชีวิต”“ไม่หรอกครับ ถ้าดาด้าแข็งแรงขึ้น ผมก็จะหาที่อยู่ใหม่ให้เธอ”“ทำอะไรบอกให้หนูน้ำรู้ด้วยนะลูก มารู้ทีหลังหนุน้ำจะเสียใจ”“ครับ แม่ไปขอน้ำให้ผมหน่อยนะครับ”“ได้สิ เต็มใจเลยล่ะคนนี้ เดี๋ยวแม่โทรบอกลุงยุทธให้รีบลงมากรุงเทพ ไปขอสาวให้หลานชาย” ประยุทธพี่ชายสามีอยู่ทางเหนือ รักพีรดนย์เหมือนลูกในไส้ เรื่องน่ายินดีแบบนี้ต้องบอกให้ท่านรับรู้“ขออะไรกันเหรอคะพี่พี” เสียงที่ดังมาประตูห้อง ทำให้สองแม่ลูกต้องหันไปมอง เห็นนิดายืนหน้าซีดอยู่ตรงนั้นประไพก็ส่ายหัว พีรดนย์ยังนั่งอยู่ที่เดิม ไม่ลุกไปประคองเธออย่างที่นิดาคิดเอาไว้ พีรดนย์ไม่ไปหาและไม่รับโทรศัพท์นิดาเลยมาหาเขาที่บ้าน บรรจงแต่งหน้ามาเป็นอย่
ยกทรงถูกดึงผ่านศีรษะไม่ใส่ใจในการปลดตะขอ พีรดนย์เป็นคนแบบนี้เรื่องเซ็กส์เขาไม่เคยใจเย็นเลยสักครั้ง แต่เขาแน่ใจว่าอาการรีบร้อนหอวกระหายที่กำเป็นอยู่เกิดขึ้นกับชลนิภาคนเดียวเท่านั้น ชลนิภาเป็นเหมือนแห่งน้ำที่เขาพบจอตอนหิวกระหาย เมื่อเจอแล้วก้อยากกินทันที ทันทีที่เต้าสวยปรากฏต่อสายตา มือสั่นก็ยกขึ้นเคล้นสองเต้า ครอบปากลงบนส่วนยอดเด้งนุ่มดูดเม้มสลับขบกันเบาๆ“อ๊า” คนโดนดูดหน้าอกครางเสียงสั่น ขาที่ห้อยอยู่สั่นเทา สองมือสองเข้าหากลุ่มผมดำสลวยของเขา ขยี้จนเส้นผมชายหนุ่มยุ่งเหยิงพีรนดนย์ลากปลายลิ้นมาตามหน้าท้องหดเกร็งเป็นจังหวะ ตามความเสียวกระสัน ดันชายกระโปรงขึ้นไปกองอยู่ที่เอวเล็ก ปลดแพนตี้ปกคลุมกุหลาบช่องามลงมาตามเรียวขา หญิงสาวใช้นิ้วเท้าเขี่ยมันตกลงพื้นพีรดนย์รีบร้อนจัดการกับสิ่งปกปิดที่ขัดขวางทาง ถอดเสื้อเชิ้ตออกแล้วปาทิ้งลงพื้น ตามด้วยกางเกงยีนส์ผ้าเนื้อดี และกางเกงชั้นในสีขาวสะอาดเป็นลำดับสุดท้าย จับเรียวขาที่ห้อยอยู่ยกขึ้นไปวางบนเคาน์เตอร์ แล้วแทรกตัวเข้าตรงกลางหว่างขา ฝังหน้าลงใจกลางความเป็นหญิง ตวัดลิ้นเลียกลีบกุหลาบดอกงามอวบอูม เลียหนัก ๆ ขึ้นลงตรงร่องสวาทฉ่ำเยิ้ม เขี่ยเกสรกุหลา
พีรดนย์หนีนิดาออกมาหลังจากที่เธอขอร้องให้เขามาอยู่เป็นเพื่อนที่คอนโด ตั้งใจไปซื้อเค้กหน้านิ่มไปฝากชลนิภาที่ทำงาน แต่สิ่งที่เขาเห็นตรงหน้าทำให้ไม่อาจเดินต่อไปได้ แฟนของเขายืนกอดอยู่กับแฟนอีกคน แล้วตอนนี้เขาควรอยู่ในฐานะอะไร เพื่อนเหมือนเดิมอย่างนั้นเหรอชลนิภาผละออกจากอ้อมแขนของคิรากร ทั้งสองปรับความเข้าใจกันและจากกันด้วยดี จากลากันด้วยความเข้าใจดีกว่าจบแบบเกลียดกันเป็นไหน ๆ จังหวะที่ชลนิภาหันกลับมา เจอพีรดนย์ยืนอยู่ต่อหน้าพอดี“แก...พี”“ยินดีด้วยว่ะ ยินดีด้วย” ไม่รู้เรื่องว่าสองคนคุยอะไรกัน แต่ก็อยากร่วมแสดงความยินดีกับเพื่อนรัก กอดกันกลมแบบนี้แสดงว่าไม่ได้พูดเรื่องเลิกกัน คงคุยเรื่องอนาคตร่วมกัน เรื่องดีๆ แบบนี้เขาควรยินดีถึงจะถูก รู้สึกเหมือนโดนหักหลังอีกครั้ง แต่ภาพไม่รุนแรงเท่าตอนนิดาร่วมรักกับชู้บนเตียง แต่มันดันเจ็บกว่าเป็นร้อยเท่า“ฉันก็ยินดีกับแกด้วยว่ะ” เมื่อตั้งสติได้ ชลนิภาก็พูดประโยคนี้ออกมา เธอก็ควรยินดีกับพีรดนย์เช่นกัน“ยินดีบ้าบออะไร!” พีรดนย์เสียงดัง คนกำลังจะถูกทิ้ง มีเรื่องอะไรให้น่ายินดีกัน“แกรู้อยู่แกใจ ยังต้องให้ฉันพูดอีกเหรอ” ตอบโต้เขาเสียงสั่น พีรดนย์จะรู้ไหม
พีรดนย์โทรหาชลนิภาซ้ำ ๆ แต่หญิงสาวไม่รับสายเขาเลยสักครั้ง ชายหนุ่มเข้าเกมออนไลน์เพื่อหาเพื่อนคุย ตั้งแต่เป็นแฟนกับชลนิภาเขาก็ไม่ได้เข้าไปคุยกับเพื่อนในเกมอีกเลย ไม่รู้ว่าวันนี้โอเอซิสจะยังอยู่ไหม“น้ำ” หัวหน้าเดินมาถึงโต๊ะทำงานของชลนิภา ด้วยสีหน้าถมึงทึง โยนกระดาษลงบนโต๊ะดังโครม แต่หญิงสาวยังคงนิ่งไม่สะดุ้งสะเทือน มองกระดาษแผ่นนั้นด้วยใบหน้านิ่งเฉย“มีอะไรคะพี่มาร์ช” ทำไมทำหน้าหน้าซังกะตายแบบนั้นคะ“ยังมีหน้าพูดอีกเหรอ เธอตรวจงานก่อนส่งให้ลูกค้าหรือเปล่า” มาร์ชพูดด้วยน้ำเสียงเกรียวกราด ถึงจะเป็นความผิดครั้งแรกของชลนิภา แต่เขาก็ไม่ชอบใจ“ตรวจค่ะ” แทบไม่ดูด้วยซ้ำ ไม่มีกะจิตกะใจตรวจงาน หรือทำอะไรทั้งนั้น เมื่อเช้าลุกขึ้นมาอาบน้ำ แต่งตัวมาทำงานได้ก็ดีมากแล้ว หลังจากเห็นโพสต์ในเฟซบุ๊กของนิดาเมื่อคืนก็ไม่มีใจทำอะไรอีกเลย“ตรวจทำไมมันถึงผิดพลาดแบบนี้ งานออกแบบที่น้ำเคยทำ มันดีกว่านี้ร้อยเท่า ทำไมงานนี้ถึงได้ชุ่ยอย่างนี้ล่ะน้ำ ลองเอากลับไปดูใหม่แล้วแก้สเกลให้พี่ด้วย ลูกค้าด่าพี่มาจนหูชาแล้วเนี่ย” พี่มาร์ชก็คือพี่มาร์ช ไม่ว่าจะโมโหแค่ไหนก็ยังใจดีและให้โอกาสลูกน้องเสมอ“ค่ะ” ตอบรับเนือยๆ หมดไฟใ