แชร์

บทที่ 1 แสนชัง02

ผู้เขียน: r.mustang
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-19 23:54:19

เสียงที่หลุดออกมาจากริมปากหยักได้รูป ทำให้ภาธรกระตุกยิ้มอย่างได้ใจ

ไม่นานอาภรณ์ที่อยู่บนตัวของปวริศาก็ค่อยๆหลุดออกมาจากตัวทีละชิ้น แม้จะต่อต้าน ก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ

ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เธอดันไหล่กว้างให้ออกห่าง กลับถูกแนบชิดมากกว่าเก่า

เสียงจากริมฝีปากเล็กถูกปล่อยออกมาไม่หยุด ไม่ต่างจากภาธรที่หลุดคำรามออกมาเสียงต่ำเมื่อได้เข้าชิดจนเป็นหนึ่ง

การแสดงออกของเขามันเร่าร้อนราวกับต้องการเผาร่างเล็กให้ไหม้เป็นจุณ สะโพกยังขยับเคลื่อนไหวอยู่ตลอด มันร้ายยิ่งกว่าพายุทอร์นาโด หยาดเหงื่อผุดพรายเต็มใบหน้าของคนทั้งคู่

ถึงมันจะอบอวลด้วยความหอมหวานในบางขณะ แต่บางครั้งก็อยากจะร้องไห้ เนื่องจากบทรักของเขามันร้าย ที่สำคัญมันดึงศักดิ์ศรีของหล่อนให้พังพินาศลงไปหมด

ในวินาทีนี้ความเสียใจจึงคืบคลานเข้าหาและปวริศาไม่รู้ว่าพายุลูกนี้จะจบลงอย่างไร

กว่าเปลือกตาบางจะกะพริบถี่และเปิดขึ้นก็เป็นช่วงสายของเช้าวันใหม่ ในห้องนี้เหลือไว้แต่ความมืดเพราะม่านสีทึบยังถูกปิดและทิ้งกลิ่นจางๆของควันบุหรี่ ซึ่งคงมาจากเขา

“ฮึก…”

ปวริศาริมฝีปากสั่นระริกอย่างคนพ่ายแพ้ น้ำตาที่เหือดแห้งไปมันกลับมาอีกหน ครั้งนี้หนักกว่าเก่า เพราะในครั้งนี้เหมือนเขากำลังเอาใจของหล่อนมาเขย่าเล่นอย่างนึกสนุก ไม่ได้แคร์ความรู้สึกกันแม้สักนิด

หญิงสาวพาใจที่ช้ำลงจากเตียงแล้วเข้าไปในห้องน้ำ สักยี่สิบนาทีก็ออกมาในชุดเดิมและมองหากระเป๋าใบย่อมที่ติดตัวมา ตอนนี้ไม่รู้อยู่ที่ใด

วินาทีที่ต้องพึ่งแสงสว่างก็ทำให้ใจชาหนึบ บางสิ่งที่ไม่อยากจะเห็นกลับปรากฏเด่นชัดในสายตาและความรู้สึก เพราะมันมีอยู่ทั่วมุมห้อง

ความรู้สึกในวินาทีนี้ละม้ายคล้ายมีคนเอาเข็มมาตอกลงกลางใจ ในห้องนี้ล้วนมีรูปคนสำคัญของเขาความริษยาพุ่งขึ้นมาเป็นริ้วๆ น้ำตาอุ่นร้อนกำลังจะร่วงหล่น ทว่ามือนุ่มก็ปาดมันทิ้ง เนื่องจากร้องไห้ไปก็เปล่าประโยชน์

ปวริศาหลุดออกจากภวังค์เนื่องด้วยมีสายเรียกเข้าและปลายสายก็คือบุคคลสำคัญ

“หนูหวาน ฝากบอกเจ้าธรหน่อย พ่อติดต่อเจ้าธรไม่ได้ พ่ออยากให้ธรกินข้าวด้วยกันเย็นนี้”

ปลายสายเอ่ยบอก เพราะโทร.ไปก็ไม่มีการรับสายจากคนเป็นลูก

ปวริศาเงียบไป ริมฝีปากเม้มแน่น เพราะอยากจะปฏิเสธ การเลี่ยงให้ท่านไม่เจอกับลูกชายในตอนนี้คงจะดีที่สุด ไม่เช่นนั้นหัวใจของท่านอาจจะระบมไม่ต่างจากเธอ แต่หล่อนจะปฏิเสธมันได้อย่างไร ในเมื่อพ่ออยากเจอหน้าลูกชาย

หญิงสาวเศร้าละอายต่อบุญคุณที่ท่านมีให้ ความหวังเล็กๆ ที่จะเป็นกำลังใจให้สรวิศมีชีวิตบั้นปลายอย่างมีความสุข ที่ฝากให้ทำให้สำเร็จ แต่เธอกลับทำมันไม่ได้

แถมตอนนี้หล่อนก็ไม่กล้าจะทำร้ายจิตใจของสรวิศ

“ไม่สะดวกหรือเปล่าหนูหวาน”

“เปล่าค่ะ เดี๋ยวตอนเที่ยงหวานจะไปบอกคุณธรให้นะคะ” แย้งกลับเพราะไม่อยากให้คิดมาก

“ขอบคุณจ้ะหนูหวาน”

น้ำเสียงของสรวิศดีขึ้น เพราะเป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่ไม่ได้เจอบุตรชาย เนื่องจากตนต้องไปอยู่ต่างประเทศ ด้วยสาเหตุหนึ่งที่ยังไม่คิดจะบอกให้คนใกล้ตัวได้ล่วงรู้

“ค่ะ”

แม้จะตอบรับไป ปวริศาก็ยังไม่รู้ว่าจะทำได้สำเร็จหรือไม่ และคิดว่าเขาอาจจะมีข้อแลกเปลี่ยนที่ร้ายกาจ ซึ่งเธอคงจะปฏิเสธมันไม่ได้

หญิงสาวเร่งรีบออกไปแล้วกลับไปที่ห้องเช่าซึ่งย้ายมาอยู่ตั้งแต่สถานะสมรสกลายเป็นหย่าร้าง เพื่อเปลี่ยนชุดใหม่และไปเริ่มงาน

“พี่ฝนคะหวานมาขอพบคุณธรค่ะ”

ปวริศาแจ้งความประสงค์กับเลขาฯ สุดเก่งของภาธร พร้อมกับระบายยิ้มทักทายตามประสาคนร่วมงานกัน

“สักครู่นะคะน้องหวาน” อรณิชาต่อสายเข้าไปแจ้งเจ้านายฉับไวและชั่วครู่ต่อมาก็ได้คำตอบ “คุณธรบอกให้น้องหวานนั่งรอก่อนค่ะ พอดีคุณธรคุยอยู่กับ...คนสำคัญ”

ปวริศาถอยเท้ามานั่งรอที่หน้าห้อง โดยไม่ได้เอะใจกับคำว่าคนสำคัญ จนกระทั่งบานประตูห้องนั้นถูกเปิดออก คนที่ออกมากลับไม่ใช่ภาธร และนั่นทำให้ปวริศานิ่งงันไป ไม่ต่างจากใจที่เต้นช้าลงซึ่งมาพร้อมกับความเจ็บแปลบ

คนที่ออกมาก็ชะงักไปเช่นกัน สุดท้ายก็เลือกจะเดินผ่านหน้าของปวริศาไป โดยที่ไม่ได้ทักทาย

ส่วนปวริศาหลุบตาต่ำพร้อมกับความละอายในหัวใจ ต่อให้มีอะไรมากลบเกลื่อนก็ไม่สามารถสู้กับความรู้สึกนี้ได้ เพราะเธอคือตัวต้นเหตุที่ผลักไสใครคนนี้ให้ชีวิตดิ่งลงเหว

เมื่อเสียงฝีเท้าพ้นผ่านไป หญิงสาวก็เหลือบไปมองหน้าเจ้าของห้องซึ่งเดินตามออกมา พบว่าภาธรกำลังมองมาเช่นกัน สีหน้าคมนั้นเจือไปด้วยความขุ่นเคือง

ชายหนุ่มเดินผ่านหน้าเธอไปยังทางหนีไฟ แม้ว่าหญิงสาวอยากจะวิ่งหนีไปให้ไกลก็ทำไม่ได้ เพราะความหวังที่สรวิศฝากไว้อยู่ในมือ

ชายหนุ่มหยิบมวนบุหรี่มวนหนึ่งขึ้นมาจุดไฟ ก่อนจะอัดมันเข้าปอดเพราะความเครียด ที่แห่งนี้คือที่ประจำของเขา สายตาคู่ขุ่นมัวมองออกไปนอกหน้าต่าง

ปวริศาเห็นความตึงเครียดทั้งจากทางสีหน้าและแววตาของคนตรงหน้าแม้จะมาหยุดยืนอยู่ข้างหลังเขาแล้ว หญิงสาวก็ยังเงียบเพราะกำลังรวบรวมความกล้า

ก่อนจะเห็นว่าเขาพยายามจะกระชากเนกไทให้คลายออกมาแล้วปลดกระดุมเสื้อเล็กน้อย ราวกับเขาร้อน หล่อนว่าเขาคงร้อนรุ่มเพราะ…คนสำคัญ

ชั่วอึดใจต่อมาก็ได้ยินชายหนุ่มเค้นเสียงเข้มออกมา “ธุระ”

ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ได้ว่าอกเขาใกล้จะระเบิด เพียงไม่รู้ว่าเรื่องใด

“คุณท่านให้มาชวนไปทานข้าวเย็นค่ะ ท่านติดต่อคุณธรไม่ได้เลยขอให้หวานมาบอก”

“ทำหน้าที่เป็นตัวสื่อกลาง?” พอได้ฟังธุระที่ว่า ภาธรก็นึกขันกับความพยายามของคนด้านหลังที่ทำมาตลอดสองปี แม้ผลลัพธ์จะไม่เคยสำเร็จก็ตาม

“ค่ะ ไปหาท่านหน่อยนะคะ หวานขอ”

“ขอ?”ภาธรหันมาถาม วางสีหน้าเรียบ “คงให้ไม่ได้ มีอะไรมาแลกหรือเปล่า”

“หัวใจหวานที่จะให้คุณเหยียบ”

“ให้ขนาดนั้น?”

ปวริศาพยักหน้า เพราะตอนนี้มันก็เหมือนโดนเหยียบย้ำที่หัวใจอยู่แล้ว เพิ่มไปอีกนิด ก็คงไม่ตายหรอก

“อืม เอาสิ ฉันจะไป”

“ค่ะ”

ปวริศาหมุนตัวกลับ ประโยคถัดมาจากเขานั้นรั้งให้หญิงสาวต้องหยุด ซึ่งมาพร้อมกับใจที่ระบม

“จะไม่ถามหน่อยเหรอว่าป่านมาทำไม” ป่าน หรือมาติกา คนสำคัญคนเดียวที่สามารถเข้าไปอยู่ในใจดวงร้ายๆของคนพูดได้ และเป็นเจ้าของภาพทุกภาพที่อยู่ในคอนโดฯ เขา

คนพูดช่างใจมืดดำ เขาถามเพื่อให้เธอเจ็บ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เจ้าสาวในรอยชัง   ตอนพิเศษ ภาธรคนดุ

    ตอนพิเศษ ภาธรคนดุ ---- “อื้อ..คุณธร” เสียงเล็กหอบกระเส่าแต่ก็พยายามเรียกชื่อคนที่ทำให้หล่อนมีอาการนี้ออกมา แต่ดูท่าภาธรจะไม่ได้สนใจเสียงของเธอแม้สักนิด เพราะนี่คือหนที่สองแล้วที่เธอเรียกเขา ชายหนุ่มเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาขยับสะโพก แถมยังเป็นจังหวะที่เนิบนาบสลับกับดุร้อน “หือ” เขาครางรับแต่ก็ไม่ได้ฟังหรอกว่าคนใต้ร่างกำลังพูดอะไร เพราะสนใจกับสิ่งที่ทำตรงหน้ามากกว่า จนปวริศาโมโหใช้กำปั้นทุบอกแกร่ง แต่ภาธรกลับยิ้มให้ แถมยังยกสะโพกขึ้นสูงแล้วดันเข้าไปสุด ปวริศาเม้มปากแน่น เธอรู้ว่าเขากำลังจงใจกลั่นแกล้ง “หวานบอกว่าหยุดได้แล้ว” หญิงสาวพูดแทบไม่ได้ศัพท์ ศีรษะก็สั่นคลอนไปตามแรงที่ถูกส่งมา ก่อนภาธรจะก้มลงมาซุกที่ลำคอระหง และขยับกายแนบชิดขึ้นกว่าเก่า “อืม” “หยุด” เสียงเล็กสั่งอีกหนน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น คนทำก็ส่ายศีรษะและตอบกลับเสียงดังฟังชัด

  • เจ้าสาวในรอยชัง   บทที่ 13 พิสูจน์ใจ06

    บทที่ 13 พิสูจน์ใจ06 ถ้อยคำของหญิงสาวทำให้ภาธรนิ่งแล้วค่อย ๆ ยิ้มออกมา พร้อมกับดึงร่างเล็กเข้ามาใกล้ ดวงตาคมเป็นประกาย เพราะมันตีความได้ว่าเขากำลังได้รับโอกาส “จริงหรือ หวานให้โอกาสฉันหรือ” “โอกาสของหวานไม่ได้ให้ใครง่าย ๆ” ทิฐิที่มีเธอขอวางมันลง เพราะรู้แล้วว่ามีมันก็ไม่ได้ทำให้มีความสุขเลย และเมื่อเขารู้ว่าตัวเองผิดและเลือกที่จะปรับปรุง เธอก็จะยื่นโอกาสให้กับเขา ขอเพียงเขาไม่ทำลายมันพังอีกครั้งก็พอ ที่สำคัญความตายและการพลัดพรากมันน่ากลัว โดยที่เราไม่รู้เลยว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นเธอจะไม่ปล่อยให้เวลาเสียไปโดยไม่ได้ทำในสิ่งที่มีความสุข “ฉันรู้ แล้วจะไม่ทำลายโอกาสนี้อีกแน่ ฉันสัญญา สัญญาครับหวาน” ชายหนุ่มยังพร่ำขอบคุณรวมถึงบอกรักอีกหลายหน “จบเรื่องนี้ ฉันขอนอนกอดหวานนะ” “ค่ะ” เพราะเธอก็อยากกอดเขาให้แน่นกว่านี้เช่นกัน ทางด้านสรวิศพอรู้เรื่องก็ตกใ

  • เจ้าสาวในรอยชัง   บทที่ 13 พิสูจน์ใจ05

    แต่สุดท้ายเขาก็ต้องตัดสินใจแย่งมีด จนในที่สุดก็ต้องยอมเจ็บตัวด้วยการคว้ามีดด้วยมือเปล่า ทำให้ถูกบาด เลือดสีแดงฉานไหลทะลักด้วยความคนร้ายตัวใหญ่กว่าจึงมีพลังมาก ทำให้การยื้อแย่งอาวุธในครั้งนี้ ภาธรมีแววแพ้ปวริศาสูดลมหายใจและลุกขึ้นได้ หญิงสาวพยายามที่จะก้าวเดิน แต่หล่อนไม่ได้หนี ปวริศาไปคว้าก้อนหินขึ้นมาหมายจะเอาไปตีหัวคนร้ายที่กำลังยื้อยุดอาวุธกับภาธรด้านคนร้ายกำลังให้ความสนใจกับศัตรูตรงหน้าเท่านั้น ทำให้ละสายตาไปจากหญิงสาว ปวริศาก้าวไปด้วยความรวดเร็วและฟาดก้อนหินใส่ศีรษะคนร้ายแต่ก้อนหินอาจจะเล็กไป และความเจ็บทำให้เธอใช้แรงได้ไม่มาก คนร้ายจึงเพียงร้องลั่น ไม่ได้หมดสติ ก่อนจะหันมามองปวริศาตาวาวอย่างต้องการจะฆ่า“หวาน ฉันบอกให้หนีไป” ภาธรต้องตะคอกบอกและยังยื้อกับคนร้ายไว้ เพื่อให้มันไม่สามารถไปทำร้ายปวริศาได้ แต่ไหงเจ้าหล่อนกลับเอาตัวมาเสี่ยง ที่สำคัญเขาก็ใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว“หวานไม่ทิ้งคุณ”“ไม่ต้องมาห่วงฉัน ไปซะ ไปสิ บอกให้ไปไง”ส่วนปวริศาพอรู้ว่าแผนที่ตีหัวไม่สำเร็จ คราวนี้เจ้าหล่อนจึงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งทำให้คนร้าย

  • เจ้าสาวในรอยชัง   บทที่ 13 พิสูจน์ใจ04

    วันรุ่งขึ้น วันนี้หญิงสาวเลือกที่จะออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้า เพราะวันนี้คือวันเสาร์ ซึ่งภาธรจะมาอยู่กับบิดาทั้งวัน เธอจึงหนีมาเพื่อออกไปไกล ๆ ให้ใจห่างแต่ดูเหมือนว่าใจจะไม่ได้ห่างตามที่คิด เพราะตอนนี้เธอก็ยังคิดถึงเขา พร้อมกับไม่เข้าใจว่าทำไมถึงตัดภาธรออกไปไม่ได้เสียที ต่อให้คิดว่าที่ผ่านมาเขาทั้งร้ายและเย็นชา แต่หัวใจดวงนี้มันกลับยังไปรักเขาอยู่ได้หนักไปกันใหญ่ยามคิดถึงที่สิ่งที่เขาทำเพื่อขอคืนดี ทั้งใจและความรู้สึกมันอ่อนยวบอย่างง่ายดายมันตอกย้ำได้ดีว่าทุกคำที่พูดกับภาธรไป หล่อนโกหกทั้งเพ ปวริศาแค่นยิ้มสมเพชตัวเองเวลานี้เกือบจะหนึ่งทุ่มตรง หล่อนยังนั่งอยู่ที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน โดยรู้ว่ามีใครบางคนเฝ้าดูเธออยู่ตลอด นั่นคือทักษ์ดนัย แต่หล่อนทำเป็นไม่สนใจทว่าปวริศาไม่ทราบว่าไม่ใช่แค่ทักษ์ดนัยเท่านั้นที่จ้องมองอยู่ มีชายคนหนึ่งแอบมองปวริศาอยู่นานแล้ว แถมยังมองด้วยสายตาที่ไม่ปกติ มีความหื่นกระหายอยู่ในนั้นยิ่งเวลาค่ำเท่าไร ก็ยิ่งเงียบสงัดขึ้น ไม่นานความเงียบก็ได้กลืนกินไปทั่วพื้นที่ โดยเหลือเวลาอีกไม่นานสวนสาธารณะจะปิดปวริศาจึงลุกขึ้

  • เจ้าสาวในรอยชัง   บทที่ 13 พิสูจน์ใจ03

    “อยากได้อะไรอีกไหมหวาน เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะซื้อมาให้” ภาธรถามขณะที่รับรายการซื้อของสดมาจากมือของปวริศาและก็อ่านมันจนครบถ้วนแล้วไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเขาถึงได้รายการพวกนี้มา ทั้งที่เมื่อเช้าถูกปฏิเสธ นั่นก็เพราะบิดายอมพูดให้ ไม่งั้นหญิงสาวตรงหน้าคงไม่ยอมแน่“ถ้าหวานบอกว่า สิ่งที่หวานอยากได้คืออยากให้คุณธรหายไปจากชีวิตหวานแล้วล่ะคะ ทำให้หวานได้ไหม” น้ำเสียงบอกไปจริงจังไม่ต่างจากหน้าตาคนฟังใจวูบไหวและส่ายหน้าฉับไว ความกลัวแล่นจู่โจมหนักขึ้น เพราะน้ำเสียงของปวริศาไม่ได้มีแววล้อเล่นอยู่เลยแถมที่ผ่านมา ปวริศาก็ปฏิเสธความห่วงใยที่เขามีให้ทั้งหมด และรู้ว่าบางครั้งที่ยินยอมให้อยู่ใกล้ ก็เพราะเกรงใจบิดา“ฉันคงทำให้ไม่ได้”“งั้นต่อไปก็ไม่ต้องถามค่ะ ว่าหวานอยากได้อะไร” หญิงสาวบอกพร้อมด้วยสีหน้าที่มีแต่ความว่างเปล่า ยิ่งทำให้ภาธรรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก“หวาน ฉันขอโอกา...” ยังไม่ทันที่ภาธรจะเอ่ยได้จบประโยค ปวริศาก็สวนมาฉับไว เพราะล่วงรู้ว่าชายหนุ่มต้องการพูดสิ่งใด และหล่อนไม่อยากจะได้ยินมัน“หวานยังยืนยัน หวานไม่มีโอกาสให้ ปล่อยมือหวานเถอะค่

  • เจ้าสาวในรอยชัง   บทที่ 13 พิสูจน์ใจ02

    “ถ้ายังรักอยู่ ลุงแค่อยากจะให้หวานลองคิดว่าจะให้โอกาสธรได้ไหม ลุงยอมรับการตัดสินใจของหนูเสมอ โดยที่ไม่ต้องเห็นแก่ลุง เพียงแต่ลุงอยากเห็นหวานมีความสุขแบบแท้จริง” ท่านหยุดมอง แล้วก็เห็นว่าดวงตาของปวริศาวูบลง “ที่ลุงเห็นอยู่ทุกวันนี้ มันไม่ใช่ความสุข หวานมีทิฐิ ซึ่งคนที่เจ็บไม่แพ้ธรก็คือหวาน” “หนู...” หญิงสาวพูดไม่ออก เพราะมันคือเรื่องจริงทุกอย่าง “ถ้ายังรักกันก็แสดงมันออกมา อย่าให้เรื่องราวมันลงเอยแบบลุง เพราะลุงไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว” บทเรียนของเขามันน่าจะทำให้ปวริศาคิดได้ ถึงลูกชายจะให้อภัยแล้ว แต่ใจก็ไม่ได้มีความสุขแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะสิ่งที่เคยทำในอดีตมันคอยมาย้ำเตือนอยู่เสมอ “เก็บไปคิดนะหนูหวาน” ปวริศาพยักหน้ารับและถอยกลับมายังห้องนอนของตนเอง เช้าวันนี้ปวริศาก็ยังตื่นเวลาเดิม แม้เมื่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status