ตอนที่หนึ่ง
ไม่ได้ดั่งใจ
“องค์หญิงฟื้นแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้างเพคะ หนิงอ้าย เจ้ารีบไปตามหมอหลวงมาเร็วเข้า” เสียงหญิงสาวเอ่ยอย่างนุ่มนวลอยู่ด้านข้างทำให้ฟากฟ้าต้องลืมตาขึ้นมามองดู
“องค์หญิงยังมึนงงหรือไม่เพคะ” เสียงหญิงสาวคนเดิมเอ่ยถามอย่างเอาใจใส่
องค์หญิงหรือ? องค์หญิงอะไรกัน หรือว่าเธออยู่ในกองถ่าย แต่วันนี้ไม่มีนัดถ่ายงานเรื่องไหนนี่นา
ฟากฟ้าคิดอย่างมึนงงด้วยตัวเธอเองทำงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการกองถ่ายทำละคร จึงมักใช้ชีวิตอยู่กับการถ่ายทำจนอาจจะเผลอหลงลืมไป
“องค์หญิงเสวยน้ำชาก่อนเพคะ หนิงอ้ายออกไปตามหมอหลวงแล้ว”
หนิงอ้าย? นั่นมันชื่อนางกำนัลในนิยาย”เชลยรักฮองเฮา”ที่เพิ่งอ่านไปนี่
ฟากฟ้าเริ่มก้มหน้ามองสำรวจตัวเองที่นอนอยู่บนเตียง
เฮ้ย! ทำไมเธอใส่ชุดหรูหราอย่างกับในซีรีส์จีน แล้วเตียงนี่ ห้องนี่ ก็ดูอลังการอย่างกับอยู่ในวัง
ยัยผู้หญิงหน้าขาวที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้านี่ก็เหมือนกัน ใส่ชุดอย่างกับนางกำนัลที่เคยเห็นในละคร
หรือว่า เธอกำลังฝันว่าอยู่ในนิยายเรื่องที่เพิ่งอ่านไป
ฟากฟ้ามองหน้าหญิงที่คุกเข่าอยู่แล้วลองเรียกชื่อเพื่อให้แน่ใจ
“หนิงอัน”
“เพคะ องค์หญิงอยากได้สิ่งใดเพิ่มหรือเพคะ”
ใช่แล้ว... ใช่เรื่องนี้แน่ๆ
จ้าวฮองเฮาในเรื่องที่เพิ่งอ่านเคยเป็นองค์หญิงน้อยแสนงดงาม นางมีนางกำนัลสองคนชื่อว่า หนิงอัน และหนิงอ้าย ก่อนจะรับเพิ่มมาอีกคนคือหนิงเหอ เมื่อตอนที่ได้รับตำแหน่งฮองเฮาแล้ว
นี่เธอโมโหนักเขียนจนถึงกับฝันว่าตัวเองมาเป็นจ้าวเฟยเฟิ่งเสียเองเลยหรือ อืม..ก็ดี จะได้เปลี่ยนบทได้ตามใจชอบ อิ อิ
แล้วมีตัวช่วยบ้างไหม
ในซีรีส์จีนที่เธอเคยดู ส่วนใหญ่เวลาให้นางเอกย้อนเวลาหรือฝ่ามิติ มักจะมีตัวช่วยเสมอ
เอ...ไหนล่ะ
จู่ๆฟากฟ้าในร่างจ้าวเฟยเฟิ่งก็ลุกขึ้นพลิกหมอนสะบัดผ้าห่มราวค้นหาสิ่งของสำคัญ
“องค์หญิงอยากได้สิ่งใดหรือเพคะ”
ไม่เห็นมีอะไรติดตัวมาเลย กำไลก็ไม่มี หรือจะเป็นแหวน ก็ไม่ได้ใส่ เอ...หรือจะต้องคุยทางจิต
ระบบ?
ตัวช่วย?
อะไรดีล่ะ?
นางกำนัลน้อยมององค์หญิงซึ่งทำหน้าบิดๆเบี้ยวๆไปมาด้วยความแตกตื่น
หรือองค์หญิงของนางจะเสียใจจนฟั่นเฟือนไปแล้ว
ฟากฟ้าเรียกหาตัวช่วยอยู่นานก็ยังไม่มีวี่แววจนเริ่มถอดใจ
เฮ้อ...สงสัยจะไม่มี
ไม่มีก็ช่าง เธอลุยเองก็ได้ เชอะ ยัยนักเขียนขี้งก เอ...หรือจะเป็นตัวเธอเองที่ขี้งก เพราะนี่มันฝันของเธอไม่ใช่หรือ
ฟากฟ้าในร่างจ้าวเฟยเฟิ่งล้มตัวนอนลงตามเดิม ไม่นานหมอหลวงก็เข้ามาตรวจและจัดยาบำรุงให้ตามเนื้อเรื่อง
นางกำนัลทั้งสองปรนนิบัติอย่างนุ่มนวลจนเมื่อเห็นว่าองค์หญิงน้อยหลับตาลงจึงได้ย่องออกไปอย่างเงียบเชียบ
“หนิงอัน เจ้าไปเตรียมพระกระยาหารสักหน่อยเถิด เมื่อองค์หญิงตื่นจะได้เสวย ข้าจะรีบไปกำกับการต้มยา หากพระองค์ยังป่วยอยู่เช่นนี้ อาจไม่ทันเข้าร่วมพิธีฝังพระศพของฮ่องเต้” เสียงนางกำนัลทั้งสองกระซิบกระซาบกันอยู่หน้าห้องก่อนจะมีเสียงเดินออกไป
เมื่ออยู่ตามลำพัง ฟากฟ้าในร่างจ้าวเฟยเฟิ่งจึงลืมตาขึ้นมาทบทวนเนื้อเรื่องที่เคยอ่าน
ตอนนี้น่าจะเป็นช่วงที่ฮ่องเต้พระบิดาขององค์หญิงเพิ่งสิ้นพระชนม์ไป องค์หญิงน้อยซึ่งเพิ่งอายุ15 ยังอยู่ในวัยแรกแย้มสดใสร่าเริงไร้เดียงสา เมื่อได้รับข่าวร้ายโดยไม่ทันตั้งตัวจึงตกใจจนสิ้นสติ
หลังจากนี้ก็จะเป็นพิธีพระศพ แล้วบรรดาขุนนางก็จะกดดันให้องค์หญิงน้อยเลือกชายหนุ่มเพื่อสมรสเป็นสวามี
เรื่องนี้นักเขียนได้สร้างเรื่องทำนองว่าฮ่องเต้ที่ศพยังอุ่นไม่มีโอรสหลงเหลืออยู่แล้ว มีเพียงพระธิดาองค์เดียว ดังนั้นการจะสืบทอดบัลลังก์จึงต้องให้องค์หญิงแต่งชายหนุ่มมาเป็นฮ่องเต้ ส่วนนางก็จะได้เป็นฮองเฮา เรื่องจึงมาตกหนักที่จ้าวเฟยเฟิ่ง
องค์หญิงน้อยนางนี้ใช้เวลาเลือกเฟ้นอยู่ไม่กี่วัน ด้วยโดยกดดันอย่างหนัก สุดท้ายจึงเลือกบุตรชายของราชครูซึ่งเคยเห็นหน้าคาตามาบ้าง เหตุผลหนึ่งเพราะเขาไม่มีฐานอำนาจยิ่งใหญ่จนน่ากลัว และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือเขามีหน้าตาหล่อเหลาอีกทั้งท่าทางหัวอ่อน ว่าง่าย จึงน่าจะไม่เป็นปัญหากับนางมากนัก
ตอนที่สามสิบสอง เนื้อเรื่องที่เปลี่ยนไปจ้าวเฟยเฟิ่งมองไปทางคนสกุลหวังสองพ่อลูกซึ่งนั่งพิงกันอยู่โดยไม่เอ่ยขอความเมตตา“เสนาบดีหวังเล่า ไม่แก้ตัวสักหน่อยหรือ”“ข้าไม่มีสิ่งใดจะแก้ตัว ขอเพียงประหารในคราวเดียวอย่าได้เจ็บปวดจนเกินไปจะเป็นพระกรุณายิ่งแล้ว”“แล้วคุณหนูหวังเล่า”“ผู้แพ้เป็นมาร ผู้ชนะย่อมเป็นพระ ครั้งนี้เจ้าได้ชัยไปก็ด้วยโชคดีที่มีอนุหลายคนคอยช่วยเหลือ ครั้งหน้าอย่าหวังว่าเรื่องจะดำเนินไปเช่นนี้อีก ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าได้มีโอกาสดีดีเช่นนี้อีกแน่” วาจาถูกเอ่ยด้วยความเคียดแค้นและไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ สายตาของหวังลี่ถิงถูกส่งออกมาสื่อให้เห็นว่านางไม่ยินยอมและจะหาโอกาสกลับมาอีกแน่หรือว่านิยายเรื่องนี้จะวนกลับไปใหม่และต้องเดินเรื่องวนไปวนมาอยู่อย่างนี้หรือ ไม่...ฟากฟ้าในร่างจ้าวเฟยเฟิ่งไม่ยอม เธอเข้ามาเดินเรื่องและสวมบทบาทของจ้าวฮองเฮามาจนใกล้จบเรื่องแล้ว เธอจะไม่ยอมให้เรื่องวนกลับไปเริ่มต้นใหม่แน่จ้าวฮองเฮาออกราชโองการสั่งประห
ตอนที่สามสิบเอ็ด ผิดแผนอัครเสนาบดีจาง เสนาบดีคลัง เสนาบดีกรมพิธีการ ขุนนางคนสำคัญอีกสามสี่คนซึ่งทยอยเดินเข้ามาต่างแยกย้ายกันไปนั่งเรียงสองฝั่งห้องโถง ในขณะที่จางชงเมิ่ง ข่งซีห่าวและไป๋ชุนกังเดินไปยืนด้านหลังจ้าวฮองเฮาในฐานะอนุชายเกากงกงก้าวออกมาจากด้านข้างพร้อมประกาศเสียงดัง“ถวายบังคมจ้าวฮองเฮา”เสียงทำความเคารพและถวายพระพรดังขึ้นกึกก้องพร้อมเพรียง“พวกเจ้ายังไม่รีบคุกเข่าลงอีก” เกากงกงตวาดกลุ่มคนที่โดนควบคุมอยู่ตรงกลางอย่างโมโห คนพวกนี้สั่งการให้จับกุมเขาไปขังไว้ในตำหนักร้าง กว่าจะมีคนไปช่วยออกมาก็อดข้าวอดน้ำอยู่หลายวันทหารต่างช่วยกันใช้อาวุธกระแทกเข้าที่หลังและขาจนคนทั้งกลุ่มต้องคุกเข่าลงอย่างไม่เต็มใจ“ข้าไม่เกี่ยวข้องด้วย เพียงถูกเชิญมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ถึงอย่างไรข้าก็มีฐานะเป็นอ๋องคนหนึ่ง เจ้าควรให้เกียรติข้าบ้างนะจ้าวฮองเฮา” อ๋องหย่งรีบเอ่ยขึ้นเมื่อโดนกระแทกจนจำต้องคุกเข่าเป็นคนสุดท้าย“ไม่รู้เรื่องหรือ ให้เกียรติหรือ ท่านทำสิ่งใดไว้ย่อมร
“เจ้าเนี่ยนะ ข้าไม่เชื่อ” จ้าวเฟยเฟิ่งเอ่ยคำดูหมิ่นออกมา“ไม่เชื่อก็ถามพวกเขาดูสิ แผนทั้งหมดข้าเป็นคนคิดแล้วบอกให้ท่านพ่อทำตามโดยการติดต่อกับอ๋องหย่ง ส่วนหวงฮุ่ยจือก็เห็นด้วยกับข้า แม้จะอยากแต่งงานกันแต่เขาถูกเจ้าทำลายเกียรติไปแล้ว จึงยอมช่วยงานเพื่อเร่งส่งเจ้าไปยมโลกโดยเร็ว”“หมอไป๋ไม่มีเหตุผลที่ต้องช่วยเจ้า” จ้าวเฟยเฟิ่งข้องใจ“เดิมทีไม่มี แต่บิดาของเขาอยู่ในกำมือข้า หากเขาไม่ทำย่อมกลายเป็นบุตรอกตัญญู อีกทั้งหลังจากนี้ ข้าย่อมตอบแทนด้วยตำแหน่งลาภยศอย่างจุใจ”“เจ้าซื้อหนิงเหอด้วยสิ่งใดหรือ”“ด้วยสิ่งที่นางไม่เคยได้จากเจ้าอย่างไรเล่า พี่หนิงเหออยากได้การยอมรับและอยากได้ชีวิตครอบครัวที่ดี ข้ารับปากจะยกฉีเซี่ยหลิวให้พวกเขาได้แต่งงานกัน หลังจากนี้นางก็จะกลายเป็นฮูหยินเอกสกุลฉีมีชีวิตอย่างสุขสบาย ไม่ต้องคอยรับใช้คนเอาแต่ใจเช่นเจ้า”“หากข้าตาย คิดหรือว่าจะได้บัลลังก์และตำแหน่งฮ่องเต้ไปง่ายๆ ยังมีอัครเสนาบดีจางอยู่อีกทั้งคน”“ย่อมง่ายดายด้วยพวกเราจะยัด
ตอนที่สามสิบ เจ้าแผนการเมื่อเห็นว่าองครักษ์เงาถูกส่งออกไปแล้ว หวงฮุ่ยจือจึงรีบลุกขึ้นเดินออกไปอย่างรวดเร็วจ้าวเฟยเฟิ่งสบตานิ่งเฉยของไป๋ชุนกังก่อนจะล้มตัวลงนอนอย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรงไม่นานก็มีเสียงคนหลายคนเดินตรงมายังห้องบรรทมโดยมีนางกำนัลหนิงเหอเปิดประตูนำเข้ามาจ้าวฮองเฮามองใบหน้าที่เดินเรียงกันมาอย่างพร้อมเพรียงด้วยสายตาฉงนสงสัยโดนเฉพาะคนสุดท้ายซึ่งนางไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน“หนิงเหอ เหตุใดจึงเป็นเจ้าที่พาคนพวกนี้เข้ามา เกากงกงเล่า อยู่ที่ใด ไยไม่มากราบทูลขออนุญาตก่อน” จ้าวฮองเฮาตรัสถามเสียงอ่อนแรงความจริงนางสงสัยอยู่แต่แรกแล้วว่า ช่วงหลายวันมานี้ เหตุใดนางกำนัลหนิงอันและหนิงอ้ายจึงหายหน้าไป อีกทั้งเกากงกงเองก็หายไปเช่นกัน มีเพียงหนิงเหอซึ่งอยู่ดูแลรับใช้ แต่ด้วยอ่อนแรงเต็มทนจึงไม่อยากถามให้มากความ “พวกเราคงรบกวนเวลาฮองเฮาไม่นาน ไม่ต้องสร้างความยุ่งยากให้เกากงกงหรอกพ่ะย่ะค่ะ” เสนาบดีหวังเอ่ยตอบเสียงระรื่น“พวกเจ้ามีเรื
ตอนที่ยี่สิบเก้าเจ็บป่วยหลังจากคืนนั้น จ้าวเฟยเฟิ่งจึงแสร้งแวะไปที่ตำหนักของอนุข่งซีห่าวและอนุไป๋ชุนกัง เพื่อไม่ให้ผู้คนครหานินทาว่านางไม่โปรดปรานพวกเขา แต่หญิงสาวเพียงนั่งกินอาหารและจับจูงกันเข้าห้องนอนเพื่อสร้างภาพเท่านั้นภายในห้องนอนกลับเป็นการนั่งลงพูดคุยกันของสองหนุ่มสาวเพื่อถกสถานการณ์ในช่วงนี้ผ่านการแวะเวียนยังตำหนักของเหล่าอนุทุกค่ำคืน ไม่นานจ้าวเฟยเฟิ่งก็มีอาการป่วยไข้จนสังเกตได้แค่ก แค่ก แค่ก“น้องเฟย ช่วงนี้เจ้าดูอ่อนเพลียและมีสีหน้าซีดเซียวมาก อีกทั้งยังไอไม่หยุดเช่นนี้ กลับไปพักก่อนดีหรือไม่”จางชงเมิ่งซึ่งเพิ่งมาถึงยังห้องอักษรทันได้ยินเสียงไอของฮองเฮาสาวจึงรีบก้าวเข้ามาถามอย่างห่วงใยแม้เขาจะไม่พอใจที่หญิงสาวแวะเวียนไปหาชายอื่น แต่ไม่อาจว่ากล่าวอันใดได้ด้วยนางมีตำแหน่งเป็นถึงฮองเฮา“หมอหลวงไป๋ตรวจดูแล้ว บอกว่าเพียงโดนไอเย็นมากไปหน่อย กินยาฝังเข็มแล้ว อีกไม่กี่วันก็ดีขึ้นเอง”“งานพวกนี้ไม่ได้เร่งมากนัก พี
ตอนที่ยี่สิบแปด หาหลักฐาน“เชอะ ทำลายหลักฐานมาแล้วล่ะสิ จึงกล้าท้าทายเช่นนี้”“ทำลายที่ใด กลับจากจวนสกุลหวังพี่ก็ตรงมาที่นี่ จะมีเวลาใดทำอย่างที่เจ้าว่า น้องเฟย เจ้าฟังพี่หน่อยเถิด หวังลี่ถิงมีเจตนาไม่ดีต้องการยุแยงให้พวกเราแตกคอกัน พี่ย่อมรู้ตัวอยู่ก่อนไม่ปล่อยให้นางได้ทำสำเร็จตามแผนแน่” “แล้วในห้องนั่น เข้าไปทำสิ่งใดกัน” “นางแสร้งว่ามีของสำคัญจึงให้พี่ช่วยค้นหา พี่ทำทีเป็นช่วยหาของแต่สังเกตท่าทางของนางโดยตลอด จู่ๆนางก็แสร้งทำถ้วยน้ำชาหกใส่ชุดเสื้อผ้าแล้วขอตัวไปเปลี่ยนที่หลังฉากเพื่อยั่วยวน แต่นางหรือจะงดงามเท่าน้องเฟย พี่ไม่มีวันหลงกลตื้นๆพวกนี้ จึงฉวยโอกาสค้นข้าวของในห้องของนางจนทั่ว”