공유

บทที่ 11 จับไข้

last update 최신 업데이트: 2025-04-22 20:10:59

บทที่ 11 จับไข้

เหลียงอวี้เดินเข้ามาในห้องของไท่หยางเห็นเขายืนอยู่อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวยิ่งทำให้เขาไม่ชอบใจเลยที่สหายเปลี่ยนไปเป็นคนที่เลือดเย็นได้ถึงเพียงนี้

“เรื่องนี้เจ้าทำเกินกว่าเหตุไปแล้ว ทำไมถึงต้องทำกับนางเช่นนี้ในเมื่อเจ้าบอกว่าเจ้าไม่รักนางหมดใจแล้ว จงปลดปล่อยนางไปเถิดตอนนี้นางเป็นเพียงเชลยอย่างเจ้าว่าไร้ท่านพ่อไร้คนหนุนหลัง นางเปรียบสตรีไร้แขนไร้ขาปล่อยนางไปเสียไม่ดีกว่าหรือ ? แค่มองแววตาของนางยังไงนางก็ไม่คิดหาทางแก้แค้นเจ้าแน่ ดวงตาของนางว่างเปล่าเหมือนคนไร้วิญญาณนางคงแตกสลายไปหมด เจ้าช่วยปลดปล่อยนางหรือส่งตัวนางขายนางให้เป็นทาสเสีย และมีอีกทางหากเจ้าบอกว่าเจ้าแค้นตระกูลนางข้ามีทางเลือกให้เจ้าคือบั่นคอนางเสีย อย่าทำร้ายจิตใจของนางไปมากกว่านี้”

“เฮอะ ! องค์ชายท่านช่างรู้ดีจริง ๆ ยังไงข้าก็ไม่ยอมยกนางให้ผู้ใดทั้งนั้น คำพูดของข้าพูดออกไปแล้วไม่คืนคำมิเช่นนั้นข้าจะปกครองทหารหลายพันนายได้ยังไง ที่ข้ายอมปล่อยนางไปวันนี้เพราะเห็นว่าท่านยอมแลกกับยศของท่านแถมยังไม่กลัวแปดเปื้อนไม่แน่พรุ่งนี้อาจจะมีข่าวลือแพร่สะพัดว่าองค์ชายสามเหลียงอวี้ปกป้องเชลยศึกของแคว้นหยางอัน ข้าขอให้ท่านรับมือเรื่องนี้ให้ได้นะขอรับวันนี้ข้าไม่มีเรื่องอะไรจะพูดคุยกับท่านไม่ขอส่ง ” ไท่หยางกำมือแน่นกัดฟันกรอด เขาเป็นผู้ใดกันถึงกล้ามาเอ่ยขอนางไปจากตนง่าย ๆ เช่นนี้เวลาที่ผ่านมาเขาเห็นและรู้สายตาที่เหลียงอวี้คอยแอบมองอวิ๋นหลิงบ่อย ๆ เป็นสายตาที่บุรุษด้วยกันดูออก เขาไม่มีทางปล่อยให้นางไปเสวยสุขกับเหลียงอวี้เป็นแน่ นางจะต้องทุกช์ทรมานจนกว่าเขาจะพึงพอใจ

ครั้นนั้นเสียงของทหารได้ดังขึ้นอย่างรีบร้อนมาแจ้งท่านแม่ทัพที่หน้าห้อง

“ท่านแม่ทัพขอรับ ข้าน้อยมีเรื่องมาแจ้งขอรับเชลยของท่านยามนี้นางสลบหมดแรงระหว่างทางยังไม่ถึงห้องด้วยซ้ำ ฝนก็ไม่มีท่าทีจะหยุดตกเลยจะให้ข้าน้อยทำอย่างไรดีขอรับ ไม่มีผู้ใดกล้าแตะเนื้อต้องตัวนาง นางยังคงนอนตากฝนอยู่ที่ทางกลับห้องขอรับ” ไท่หยางหันขวับกลับมาใบหน้าเริ่มเป็นกังวลแต่ก็ช้ากว่าเหลียงอวี้หนึ่งก้าว เขาวิ่งผ่าสายฝนไปหาอวิ๋นหลิงโดยไม่สนใจว่าอีกคนจะมองและคิดเช่นไร

ไท่หยางตัดสินใจไม่เดินตามออกไปอย่างไรเหลียงอวี้คงพานางกลับห้องจึงได้เอ่ยปากบอกให้หลวนฮวานไปตามหมอมารักษาตรวจอาการของนาง

“หลวนฮวานเจ้าไปตามหมอมาตรวจดูอาการของจางอวิ๋นหลิงสั่งการให้นางหยุดพักจนกว่าร่างกายของนางจะหายดี”

“ขอรับท่านแม่ทัพ”

ฝั่งด้านเหลียงอวี้เขาวิ่งมาจนเห็นร่างของอวิ๋นหลิงนอนนิ่งอยู่กับพื้นท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายเขาไม่สนใจรีบประคองร่างของนางขึ้นและหันไปถามทหารเพื่อสอบถามห้องของนาง อุ้มช้อนร่างบางไว้ในอ้อมแขน

“ห้องของนางอยู่ที่ใด ข้าจะรีบพานางกลับห้อง”

“ด้านนู้นพะย่ะค่ะองค์ชาย” ทหารชี้นิ้วไปด้านหน้าเห็นห้องของสาวใช้เขารีบอุ้มร่างนางเดินอย่างเร่งรีบร่างกายของนางยามนี้ร้อนปานมีเปลวไฟเผาไหม้ร่างกาย ไป๋หนิงซินอยู่หน้าห้องเมื่อเห็นองค์ชายอุ้มอวิ๋นหลิงกลับมานางเริ่มเป็นกังวลรีบเข้าห้องนำผ้าห่มมาออกมารับทั้งสองคน

“เกิดอันใดขึ้นเพคะ”

“ยามนี้เจ้าอย่าพึ่งถามข้า รีบพานางเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ให้นางเร็วเข้า เหมือนนางจะจับไข้”

“เพคะ” ไป๋หนิงซินเปิดประตูห้องให้องค์ชายวางอวิ๋นหลิงลงไว้ที่พื้นก่อนที่เขาจะเดินออกนางจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ให้แก่อวิ๋นหลิงที่นอนไร้สติร่างบางสั่นเทาไปทั้งตัวด้วยความเหน็บหนาว ไป๋หนิงซินเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นางเสร็จดึงผ้าห่มหนามาห่มให้นางและเดินออกไปหาองค์ชายที่รออยู่หน้าห้อง

“องค์ชายเพคะ ดูเหมือนว่านางจะจับไข้อย่างที่ท่านเอ่ยมา จะทำอย่างไรดีเพคะหากปล่อยไว้เช่นนี้นางอาจจะไม่รอดแน่ ๆ นางถูกแดดทั้งวันตกบ่ายมาเจอฝนตกใส่อีก ร่างกายอ่อนแอนักหม่อมฉันเกรงว่านางคงมิอาจจะรับไหว”

“เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้าจะไปตามหมอหลวงมารักษานางเองค่าใช้จ่ายทั้งหมดข้าจะเป็นคนรับผิดชอบ” เหลียงอวี้กำลังเดินจากไปทันใดนั่นเองหลวนฮวานได้พาท่านหมอเดินถึงวิ่งมาด้านนี้พอดี

“เฮอะ ! ทำร้ายนางแล้วเรียกหมอมาตรวจนางทีหลังราวกับตบหัวลูบหลังทำเช่นนี้เพื่อการใดกันหรือกลัวว่านางจะตายจากไปและไม่ได้รังแกนางอีก ไร้ความเมตตาจริง ๆ” เหลียงอวี้กัดฟันกรวดกำมือแน่นเมื่อเห็นทหารมือขวาของไท่หยางพาหมอมา

“ท่านหมอเจ้าคะช่วยตรวจร่างกายนางเร็ว ๆ ด้วยเจ้าค่ะกายของนางร้อนราวกับไฟแต่นางก็หนาวสั่นไปทั้งตัว” ไป๋หนิงซินผายมือให้ท่านหมอตามนางเข้าไปในห้อง ส่วนผู้ชายทั้งหมดรออยู่ด้านนอก เมื่อตรวจไม่นานนักท่านหมอได้ออกจากห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“อาการของนางเป็นเช่นไรบ้าง”

“สตรีนางนี้ร่างกายของนางอ่อนแอยิ่งนักพะย่ะค่ะ กระหม่อมจะเขียนเทียบยาให้ระหว่างนี้ต้องให้นางพักผ่อนให้เพียงพอ มิเช่นนั้นนางอาจจะสลบไปเช่นอย่างวันนี้ และอาจจะขั้นสิ้นใจได้พะย่ะค่ะ”

“เจ้าช่วยจัดการที ไม่ว่ายาตัวนั้นจะแพงหรือหายากจงหามาให้นางข้าจะรับผิดชอบเอง”

“พะย่ะค่ะ ”

ท่านหมอได้ทำการเขียนเทียบยายื่นให้แก่องค์ชายสามแต่ทว่าตอนนั้นไท่หยางเดินมาและดึงเทียบยาก่อนจะถึงมือของเหลียงอวี้ด้วยซ้ำ

“เรื่องในจวนของข้า ข้าจัดการเองท่านเป็นเพียงคนนอกไม่ต้องมาใส่ใจ และน้ำใจไมตรีครานี้ข้าไม่ขอลืม”

พลั่ก !!! เหลียงอวี้มิอาจจะทนได้เขาพุ่งหมัดเข้าใบหน้าของไท่หยางเต็มแรงจนแรงใหญ่ถลาล้มอย่างไม่ทันทั้งตัว เขามิได้โกรธหรือโมโหด้วยซ้ำกลับหัวเราะออกมาจากลำคอใช้มือขึ้นมาเช็ดเลือดที่มุมปาก โดยมีหลวนฮวานประคองให้นายตนเองลุกขึ้น

“ฮึ ฮึ อันใดกันที่ทำให้องค์ชายผู้เยือกเย็นลงมือต่อยข้าที่เป็นสหาย อย่าบอกนะว่าเป็นเพราะเชลยนางนี้ นางสำคัญกับท่านถึงเพียงนี้หรือ ? ข้าเป็นสหายของท่านมาเนินนานแต่นางเป็นสตรีที่เข้ามาในชีวิตเพียงไม่นานแต่ท่านกลับปกป้องนาง ฮ่า ฮ่า ”

เหลียงอวี้ใบหน้าบึ้งตึงอยากจะต่อยเขาอีกสักหมัดแต่ก็ต้องทำจิตใจให้สงบเขารู้ดีต่อให้เขาต่อยหรือทำร้ายแม่ทัพทมิฬผู้นี้อีกกี่ครั้งเขาคงไม่ระคายเคืองเพราะจิตใจที่ด้านชาไร้ความรู้สึกนั้น

“หากข้ารู้ว่าสหายของข้าจะมีนิสัยเลวทรามต่ำช้าเช่นนี้ข้าไม่ขอรู้จักเจ้าเสียดีกว่า เจ้าเกือบทำให้นางตายนั่นคือความต้องการของเจ้าหรือ ? หากเป็นความต้องการของเจ้าก็ใช้ดาบบั่นคอนางเสีย ” เหลียงอวี้เอ่ยจบเดินจากไปทันทีหากอยู่ที่นี่ต่อเขาคงปะทะกับไท่หยางอีกแน่ ๆ ไท่หยางจ้องมองแผ่นหลังของสหายในใจเริ่มขุ่นมัว พลางเดินเข้าไปในห้องของอวิ๋นหลิง

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • เชลยแค้นแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 28 ปล่อยวาง(ตอนจบ)

    บทที่ 28 ปล่อยวางอวิ๋นหลิงเงยหน้าขึ้นมองไปด้านอื่นน้ำตาไหลรินไม่ต่างกัน ความเจ็บปวดที่นางพบเจอล้วนแต่เป็นเขาที่เป็นคนทำมัน ความปวดร้าวเรื่องราวที่ผ่านมาจะให้นางให้อภัยได้อย่างไร เขายังคงกอดขานางแน่น อวิ๋นหลิงไตร่ตรองเป็นอย่างดีก่อนจะเอ่ยมาทำลายความเงียบภายในห้อง“แต่มีทางหนึ่งที่ท่านสามารถทำให้ข้าให้อภัยท่านได้ ” ไท่หยางเงยหน้าขึ้นจ้องมองนาง รีบลุกขึ้นไม่ว่านางจะให้เขาทำอะไรข้ายอมทั้งนั้นหากมันจะทำให้นางให้อภัยเขาได้ และเขาจะได้ไถ่โทษกับตระกูลของนาง“ไม่ว่าเจ้าจะให้ข้าทำอะไร ข้าทำให้เจ้าได้ทั้งนั้นหากเจ้ายอมให้อภัยข้าในสิ่งที่ผ่านมา”“ปล่อย.. ปล่อยข้าไปอย่าได้รั้งกันไว้อีกเลย เพียงเท่านี้เราทั้งสองก็เจ็บปวดมามากพอแล้ว ข้าไม่อาจทนเห็นใบหน้าของท่านได้อีกความเกลียดความแค้นมันมากมายเหลือเกิน เพียงเห็นใบหน้าของท่าน ข้าก็อดที่จะคิดถึงเรื่องราวที่ท่านเคยทำไว้ไม่ได้ ได้โปรดปล่อยข้าไปเสีย ข้าจะอภัยให้ทุกสิ่งทุกอย่างเราหมดวาสนาต่อกันเพียงเท่านี้เถิด ข้าเหน็ดเหนื่อยไม่อยากจะพบเจอเรื่องเช่นนี้อีกต่อไป ...” ไท่หยางหมดเรี่ยวแรงปล่อยมือออกจากกายของนาง ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมที่ตนเองก่อขึ้นมา“ข้ารู้ว

  • เชลยแค้นแม่ทัพทมิฬ   บทที่27 ความจริงที่แสนเจ็บปวด

    บทที่27 ความจริงที่แสนเจ็บปวดครั้นสองเท้าย่างกรายออกมาด้านนอกบัดนี้กองกำลังของเขาถูกล้อมไปด้วยทหารของแคว้นหยางอันจนหมดสิ้น โดยมีแม่ทัพหลิวไท่หยางยืนรอเขาอยู่ด้านหน้าจวน“เจ้าช้ากว่าข้าไปหนึ่งก้าว ยอมแพ้แต่โดยดีเพราะตอนนี้แคว้นของเจ้าถูกคนของข้าล้อมรอบไว้หมดแล้ว” ไท่หยางป่าวประกาศน้ำเสียงเข้มขรึมน่าเกรงขาม อีกฝ่ายกลับหัวเราะออกมาอย่างขบขัน นี่เขาพลาดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“ฮ่า ฮ่า เจ้าคิดว่าเพียงแค่นี้ข้าจะยอมแพ้หรือ แคว้นฉู่ของข้า ยอมตายแต่ไม่ยอมลดศักดิ์ศรีเด็ดขาด พวกเราลุกขึ้นสู้เพื่อแคว้นของเรา” ชางถิงพูดปลุกใจของเหล่าทหารชั่วพริบตาเดียวกองทัพทหารของแคว้นฉู่ได้วิ่งกรู่ออกมาอีกจำนวนมาก เริ่มปะทะสู้กันอย่างดุเดือด ยามนี้แคว้นฉู่นองเลือดจนกลิ่นคละคลุ้งผู้คนเริ่มล้มตายจากการต่อสู้ และแล้วเขาก็ตกอยู่ใต้ดาบของหลิวไท่หยาง กายเต็มไปด้วยเลือดของศัตรูอาบใบหน้า ถือดาบจ่อที่คอของชางถิง“ฮ่า ฮ่า ในที่สุดเจ้าก็ชนะข้า เอาสิบั่นคอข้าไปเลยเจ้าจะได้นำชัยชนะกลับไป เอ๊ะเดี๋ยวสิ! ข้าจะบอกแก่เจ้าก่อนแล้วกัน ข้าได้ยินมาว่าจับตัวบุตรสาวของจางชิงหลงแคว้นหนานไฮ้ไปเพื่อแก้แค้นนางใช่หรือไม่ อีกอย่างเจ้าเองก็ลงมื

  • เชลยแค้นแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 26 รับไว้เพียงไมตรีมิอาจจะรับความรักของท่านได้

    บทที่ 26 รับไว้เพียงไมตรีมิอาจจะรับความรักของท่านได้ฝั่งด้านอวิ๋นหลิงตั้งแต่หลังจากกลับมาจากวันนั้น นางไม่ได้พบเจอหน้าไท่หยางอีกเลย ได้ยินผ่านจากไป๋หนิงซินว่าเขาปลอดภัยดีนางเองก็สบายใจทำงานเหมือนอย่างเคย แม้จะอยู่ห้องใกล้ ๆ กันกับเขาแต่ทว่านางไม่เคยคิดจะก้าวเข้าไปหาเขาเลยด้วยซ้ำ“เจ้าคิดอะไรอยู่หรือ ? ” ไป๋หนิงซินยื่นหมั่นโถวให้นางพลางย่อนกายนั่งลงข้าง ๆ ช่วงนี้เหมือนหิมะจะหยุดตกแล้วทว่ายังมีความเยือกเย็นหลงเหลืออยู่ในอากาศ หมั่นโถวร้อน ๆ พอทำให้คลายหนาวได้บ้าง“ขอบใจนะ ข้าเพียงแค่คิดว่าหากข้าไม่กลับมาเจ้าจะเป็นอย่างไร คิดถึงข้าบ้างหรือไม่?”“ถามมาได้ขนาดเจ้าหายไปเพียงหนึ่งคืนข้าแทบนอนไม่หลับ กระวนกระวายไปหมดไม่เห็นหรือไงว่าข้าดีใจแค่ไหนที่เจ้ากลับมา ” ไป๋หนิงซินเอ่ยพลางกินหมั่นโถวเข้าปากคำใหญ่“นั่นสินะ ... ถ้าตอนนั้นข้าเลือกที่จะทิ้งไท่หยางและหนีไปตอนนี้ชีวิตของข้าจะเป็นอย่างไรนะ”“อย่าบอกนะว่าเจ้ามีโอกาสหนียามที่ท่านแม่ทัพได้รับบาดเจ็บนะ”“อื้ม ...แม่ทัพของเจ้าบอกให้ข้าหนีไปยามมีโอกาสแต่ไม่รู้ทำไมข้าถึงไม่หนีกันนะ อาจจะเป็นเพราะว่าข้าเกรงว่าเจ้าจะร่ำไห้เพราะเป็นห่วงข้านะสิ ฮึ ฮึ”

  • เชลยแค้นแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 25 แม่ทัพถูกโจมตี

    บทที่ 25 แม่ทัพถูกโจมตีจวนแม่ทัพหลิวไท่หยางไป๋หนิงซินเฝ้ามองไปที่ประตูจิตใจกระวนกระวายเป็นห่วงอวิ๋นหลิง นี่ก็ยามซวี (19.00) แล้วทั้งสองคนยังไม่กลับเข้าจวนอีกทั้งหิมะก็ตกแรงมากกว่าเดิม นางมิอาจจะเก็บความเป็นห่วงเอาไว้ได้รีบย่างกรายไปหาหลวนฮวานที่ยืนอยู่หน้าห้องของแม่ทัพไท่หยาง“หลวนฮวานทำไมท่านถึงใจเย็นได้ ไม่ร้อนใจเลยหรือ?เมื่อไหร่ท่านแม่ทัพจะพาอวิ๋นหลิงกลับจวน ข้าชักเป็นห่วงจริง ๆ หวังว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับท่านแม่ทัพหรอกใช่มั้ย”“เจ้าอย่าเป็นกังวลไปเลย ท่านแม่ทัพมีฝีมืออีกไม่นานก็คงกลับมา” แม้ปากจะเอ่ยเช่นนั้นแต่ใจของหลวนฮวานก็เป็นห่วงท่านแม่ทัพเช่นเดียวกัน ทว่ายามนั้นมีทหารใบหน้าแตกตื่นวิ่งเข้ามาแจ้งให้หลวนฮวานได้รับรู้“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”“เรื่องอะไรกันทำไมเจ้าถึงได้รีบร้อนวิ่งมาถึงเพียงนี้”“ข้าออกไปดื่มสุราที่โรงเตี๊ยมมาเมื่อครู่ได้ยินเรื่องของท่านแม่ทัพ มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่อยู่ใกล้ ๆ หุบเขามาพูดคุยกันเรื่องของแม่ทัพไท่หยางเขาขึ้นไปเก็บสมุนไพรและเห็นว่าท่านแม่ทัพกำลังถูกคนของแคว้นฉู่ไล่ล่า คนของพวกนั้นมากันมาเหลือเกินไม่รู้ว่าป่านนี้ท่านแม่ทัพจะเป็น

  • เชลยแค้นแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 24 หนีไปสิตอนที่เจ้ามีโอกาส

    บทที่ 24 หนีไปสิตอนที่เจ้ามีโอกาสสีหน้าของเขาเริ่มซีดเซียวขาวเผือกไร้เลือดฝาด นางพยุงเขาเข้ามาด้านในพร้อมจับเขานั่งลงพิงผนังหิน กลิ่นเลือดคละคลุ้งเต็มอากาศยังคงไหลไม่หยุด อวิ๋นหลิงจ้องมองฝ่ายตรงข้ามพร้อมครุ่นคิดหากนางจะใช้โอกาสนี้ในการหลบหนีคงไม่ยากเพราะเขาคงไม่มีเรี่ยวแรงจะตามนางได้ทันแน่ ๆ นางต้องการหลุดพ้นจากเขาจึงช่างใจคิดครู่ใหญ่ และเหมือนว่าไท่หยางจะรู้ถึงความคิดของนาง“เจ้าคงคิดอยากจะทิ้งข้าไว้และหนีข้าไปสินะ เอาสิยามนี้เป็นเวลาที่เจ้าจะได้หลุดพ้นจากเนื้อมือของข้าแล้ว โอกาสที่เจ้าจะหนีจากข้ามาถึงแล้วปล่อยให้ข้ารอความตายอยู่ที่นี่โดยมิต้องใส่ใจข้า แต่ถ้าหากว่าข้ารอดไปได้ข้าจะตามหาเจ้าต่อให้ต้องพลิกแผ่นดินทั่วใต้หล้าข้าก็จะตามหาเจ้าให้เจอ เมื่อนั้นอย่าหวังว่าจะหนีข้าไปได้เพราะข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปอีก” น้ำเสียงแหบพร่าคล้ายคนกำลังหมดแรงเอ่ยออกมาโดยใช้กำลังทั้งหมด อวิ๋นหลิงเริ่มลังเล หากนางจะหนีเขาไปนางจะไม่มีทางให้เขาหานางได้พบเลย นางหันไปมองหน้าถ้ำก่อนจะหันกลับมามองไท่หยางอีกครา ถอนหายใจเฮือกใหญ่ลุกขึ้นยืนและวิ่งออกไปจากถ้ำทันที ปล่อยให้เขาอยู่ในถ้ำรอความตายและทนความเจ็บปวดที่กำ

  • เชลยแค้นแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 23 จำไม่ได้

    บทที่ 23 จำไม่ได้‘คำพูดของนางทำให้จิตใจของข้าสั่นคลอนได้ถึงเพียงนี้เลยหรือ ?’ “เฮ้อ ! เจ้าคิดว่าเจ้าพบเจอเพียงเท่านี้แล้วข้าจะหายโกรธแค้นหรืออย่างไรกัน เพียงเท่านี้ยังน้อยไปกับที่ท่านแม่ข้าพบเจอ เลิกทำสายตาสีหน้าเบื่อโลกเสียข้าบอกแล้วอย่างไรว่าข้าไม่มีทางให้เจ้าตายจากข้าไปง่าย ๆ ที่ข้าพาเจ้ามาที่นี่เพราะอยากตอกย้ำความเจ็บปวดเจ้าเท่านั้น เจ้าจำที่นี่ไม่ได้เลยหรือ” อวิ๋นหลิงหมดสิ้นความหวังที่เขาจะผลักนางลงเหว เขาก็ยังคงเป็นเช่นนี้เสมอเป็นชายที่ไร้ใจอำมหิตไม่ยอมปล่อยให้นางได้ทำตามความปรารถนานางกวาดสายตามองไปด้านหน้า เทือกเขาสูงชันแม้ท้องฟ้าจะไร้แสงอาทิตย์แต่นางยังคงมองเห็นทิวทัศน์ด้านล่างได้อย่างชัดเจน แต่ทว่าความทรงจำของอวิ๋นหลิงกลับจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าที่นี่มีความหมายต่อนางอย่างไร แล้วทำไมนางต้องเจ็บปวดด้วยเล่า“ข้าไม่เห็นอันใดแม้แต่น้อยเห็นแต่หุบเขา ท่านต้องการสิ่งใดกับข้ากันแน่ หากไม่ต้องการผลักข้าตกเหวแล้วสิ่งใดกันในที่นี่จะทำให้ข้าเจ็บปวด ” น้ำเสียงนิ่งเรียบตอบกลับอย่างไร้ความรู้สึก ทำให้อีกฝ่ายโมโหขึ้นทันตา เพราะสถานที่นี้คือที่ที่เขาเคยพานางเมื่อยามที่รักกันปานจะกลืนกินก่อนที

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status