LOGIN
ปฐมกาล 6 1-4
น้ำท่วมโลก
6เมื่อมนุษย์เริ่มทวีจำนวนขึ้นบนโลกและให้กำเนิดบุตรสาว
2 บรรดาบุตรชายของพระเจ้าเห็นว่าบรรดาบุตรสาวของมนุษย์สวยงามก็เลือกเอามาเป็นภรรยาตามใจชอบ
3 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จิตวิญญาณของเราจะไม่คงอยู่กับมนุษย์ตลอดไป เพราะเขาเป็นเพียงมนุษย์ที่ต้องตาย เขาจะมีอายุขัย 120 ปี”
4 ในสมัยนั้นและสืบต่อมาภายหลัง มีคนเนฟิลอาศัยอยู่ในโลก คือสมัยที่บุตรชายของพระเจ้าไปอยู่กินกับบุตรสาวของมนุษย์และมีลูกหลานกับเขา คนเหล่านี้เป็นคนใหญ่คนโตที่มีชื่อเสียงในยุคโบราณ
กรุงปอมเบอี[2] ช่วงเวลาปัจจุบัน
ร่างในเสื้อคลุมร่างหนึ่งกำลังเดินโซเซด้วยความเจ็บปวด มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด แสดงให้เห็นว่าเขาเพิ่งผ่านการต่อสู้มา แต่นักท่องเที่ยวดูจะไม่ได้สนใจอะไรเขาเลย เพราะทุกคนกำลังตื่นตาตื่นใจ กับสถานที่ท่องเที่ยว เขาบ่นพึมพำ
“ไม่จริง ข้า แพ้เป็นไปไม่ได้ ทำไมกัน บ้าเอ๋ย ทำไมข้าต้องตาย ข้าควรจะเป็นผู้ปกครองทุกอย่างสิ ทุกสิ่งต้องสยบอยู่แทบเท้าข้าสิ”
พูดจบเขาก็กางแขนออก ร่างเปล่งแสงออกมา และตะโกนเสียงดังลั่น
“ลูกข้า แก้แค้นให้ข้าด้วย” เกิดแสงสว่างวาบขึ้นมาในชั่วพริบตา ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นโดนแสงอาบร่าง โดยที่ไม่มีใครรู้ตัวเลยสักนิด ส่วนร่างที่เปล่งแสงก็หายไปจากตรงนั้นราวกับว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ณ บ้านหลังหนึ่งในสวิตเซอร์แลนค์
บ้านหลังนี้เป็นของครอบครัว คานโล หญิงวัยเกินห้าสิบคนหนึ่งกำลังอาเจียนอยู่ในห้องน้ำ เธอชื่อ เกรตา อดีตพยาบาลที่เกษียณมาได้ห้าปีแล้ว สามีของเธอมาดูอาการ ซึ่งด้วยประสบการณ์ชีวิตนี่มันอาการของคนแพ้ท้องชัด ๆ แต่เธออายุเกินห้าสิบแล้วจะท้องได้ยังไง สามีของเธอ โรแมน ทำอาชีพเจ้าของร้าน พิชซ่า ก็อายุแปดสิบกว่าแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะมีลูกได้อีก เกรตาเองก็ไม่อยากเชื่อ แต่อาการแบบนี้ก็คิดเป็นอื่นไม่ได้แล้ว
“มันเกิดขึ้นได้ยังไงเนี่ย” โรแมนพูดขึ้นมาอย่างประหลาดใจ
“นั่นสิมันเป็นไปได้ไงกันที่รักฉันงงไปหมดแล้ว”เกรตาพูด ความประหลาดใจแรกยังไม่จบ ความประหลาดใจใหม่ก็เข้ามา เมื่อ จัซมินลูกสาวของทั้งสองคนเข้ามาในบ้าน เธอมีสีหน้าซีดเผือดราวกับเลือดในตัวไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว
“เกิดอะไรขึ้นลูก” โรแมนรีบถามทันที ใจของเขาเต้นเหมือนกับกลอง
“พ่อหนูท้อง” โรแมนได้ยินถึงกับสมองแทบจะหยุดทำงานไปเลยทีเดียว นี่มันอะไรกัน ! ในหนึ่งวันเขาต้องเจอทั้งลูกตัวเอง และเมียท้องพร้อมกัน โรแมนต้องพยายามตั้งสติแล้วถามต่อไปทันทีว่า
“นี่ท้องกับแฟนลูกเหรอ” จัซมินกลับส่ายหน้าและพูดว่า
“หนูยังไม่เคยมีอะไรกับแฟนหนูค่ะพ่อ หนูพูดความจริงนะ และแฟนหนูก็ขอเลิกกับหนูไปแล้ว ทันทีที่รู้เรื่อง” เธอพูดทั้งน้ำตา ก็แน่ล่ะคนที่ไม่เคยมีอะไรกัน แล้วจู่ ๆ แฟนมาท้องแบบนี้จะให้รับมันก็ไม่ใช่เรื่อง
“นี่มันวันอะไรของฉันเนี่ย !” โรแมนตะโกนลั่นบ้าน เขาต้องตั้งสติ อย่างแรกที่ทำคือ ต้องพาลูกและเมียไปหาหมอซะก่อน ซึ่งพอไปถึงโรงพยาบาล หมอแทบไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่า เกรตาจะท้องด้วยวัยขนาดนี้ แต่เพื่อนร่วมงานเก่าของเกรตาได้พูดขึ้นมาว่า
“วันนี้ วันอะไรเนี่ยคนท้อง รวมกันเยอะมาก แต่แปลกนะ แก่กว่าคุณเกรตายังท้องเลย”
“ว่าอะไรนะ”
“เรื่องจริงเกรตา ทุกคนงงมากเลย”
แม้จะเป็นเรื่องเจ็บปวด แต่การที่เกรตานั้นมาตั้งท้องแบบนี้ ด้วยอายุขนาดนี้มันเสี่ยงต่ออาการครรภ์เป็นพิษ[3] แถมเด็กที่เกิดมาก็โอกาสรอดต่ำ เธอเลยตัดสินใจว่าจะทำแท้ง ส่วนจัซมินเธอตัดสินใจจะเก็บเด็กเอาไว้
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพ่อ แม่ เพราะยังไงหนูไม่ใช่เด็กวัยรุ่นใจแตกซะหน่อย หนูมีงานมีการทำแล้วมั่นคงด้วย หนูจะเลี้ยงเขาอย่างดี”จัซมินตอบ เกรตาลูบท้องของตัวเอง
“แม่ขอโทษนะลูก ที่ให้หนูเกิดมาไม่ได้”
ขณะที่กำลังเตรียมการทำแท้ง ห้องผ่าตัดก็เกิดมีอุณหภูมิสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ขนาดว่าพยายามเพิ่มความเย็นของเครื่องปรับอากาศแล้ว ก็ยังร้อนอยู่ดี ความร้อนมันสูงมากขนาดทำให้ปรอดแตก ขวดแอลกอฮอล์ระเบิดเศษแก้วกระจายไปทั่ว จนต้องหนีกันออกมาแทบไม่ทัน เป็นแบบนี้เรื่อย ๆ จนพวกหมอกลัวมาก มีเสียงประหลาดดังอยู่ในหัวของเกรตา โดยเสียงนั้นได้บอกกับเธอว่า
“เด็กต้องได้เกิด เพราะมีหน้าที่สำคัญที่เขาต้องทำ เขาต้องได้เกิด” เกรตารู้สึกหวาดกลัวกับเสียงลึกลับนี่มาก เลยต้องตัดสินใจว่าจะดูแลลูกคนนี้เอง
โรแมนเลยได้แต่พาลูกเมียกลับบ้าน เขากังวลมากกลัวจะเสียภรรยาไป ทั้งคู่แม้จะอยู่ด้วยกันมานานแต่ความรักไม่ได้น้อยลงเลย แต่พอกลับถึงบ้าน ก็พบกับบาดหลวงคนหนึ่งรออยู่แล้ว เขาเป็นชายร่างสูงอยู่ในวัยกลางคนมีผมสีทอง หน้าตาใจดี เมื่อเห็นทั้งสามเขาก็ทักทายด้วยรอยยิ้ม
“พระเจ้าอวยพร พ่อชื่อ แอนดูว์ อยากจะมาพบพวกลูก”
“คุณพ่อมีอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมถึงมาหาพวกเราได้” โรแมนแปลกใจมาก ใครจะไม่แปลกใจจู่ ๆ ก็มีบาดหลวง มารออยู่หน้าบ้านแบบนี้
“พ่อไม่อ้อมค้อมนะ พ่อมาที่นี่เพื่อคุยกับลูกเรื่องเด็กที่กำลังจะเกิดมานั่นล่ะ” คุณพ่อแอนดูว์พูดขึ้นมา
“ทำไมเหรอครับ” โรแมนตกใจมากกับสิ่งที่ได้ยิน เด็กที่เกิดมาอย่างแปลกประหลาดแบบนี้ บาดหลวงยังสนใจทำให้สงสัยว่าว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดมานี้เป็นอะไรกันแน่
“อย่าได้กลัวไป พ่อไม่ได้มาร้าย เด็กยังไม่ได้เกิด จะให้พ่อทำร้ายเด็กได้ยังไง พ่อแค่จะขอแวะมาดูเด็กสองคนนี้บ่อย ๆ เท่านั้นล่ะ” คุณพ่อแอนดูว์พูดขึ้นมา ยิ่งทำให้โรแมนแปลกใจเข้าไปใหญ่ แต่สุดท้ายก็เชิญคุณพ่อเข้ามาพูดคุยกันในบ้าน
“ทำไมครับคุณพ่อ ลูกกับหลานผมมีอะไรพิเศษเหรอครับ คุณพ่อถึงต้องมาจับตาดู” โรแมนถามทันที
“ลูกก็รู้อยู่แก่ใจนี่ว่า ลูกหลานของลูกพิเศษยังไง ลูกเห็นกับตาแล้วนี่” คุณพ่อแอนดูว์ตอบหน้าตาเฉย โรแมนเริ่มกังวล
“ผมจะต้องทำไงดีครับลูกหลานผมเป็นแบบนี้ แล้วพวกเขาจะเป็นยังไงครับ ใช้ชีวิตแบบไหนกัน”
“อย่ากลัวไปเลยลูก พ่อเชื่อว่า พระเจ้าทรงมีเหตุผลที่ให้ทั้งสองเกิดมาแบบนี้ ขอให้ลูกเข้าใจพวกเขาและมอบความรักให้เขามากพอ พ่อเชื่อเขาจะกลายเป็นคนที่ดีแน่ ๆ พ่อจะช่วยเหลือทุกอย่างนะ ขอให้เชื่อใจพ่อ” ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว โรแมนและครอบครัวจึงตัดสินใจยอมรับ
สามเดือนต่อมา เสียงเด็กร้องไห้ดังขึ้นมา ทำให้เกรตากับโรแมนต้องตกใจ เด็กคลอดออกมาแล้ว โดยที่เกรตาไม่รู้ตัวเลยสักนิด ไม่มีอาการอะไรเลย ถ้าเด็กไม่ส่งเสียงร้องก็ไม่รู้หรอกว่าเด็กเกิดแล้ว และในเวลาเดียวกัน ก็มีเสียงเด็กร้องดังจากห้องของลูกสาว และสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเธอคลอดลูกแล้ว โดยไม่รู้ตัว ในคืนเดียวกันก็ยังมีเด็กอีกหลายคนที่เกิดขึ้นมาแบบนี้
เดอะ เนฟีลิม The Nephilim ตอนที่ 26 เขย(ปลอม ๆ) ของเท็งกุ ในตอนเช้าการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น แต่คราวนี้ ฟุยุไม่ได้ใช้ดาบคาตาตะ แต่เขากลับใช้พัดเป็นอาวุธ ไอแซก กลับรู้สึกถึงพลัง มีมากกว่าสองคนที่ผ่านมา “รู้ถึงความยิ่งใหญ่ของพวกเราแล้วสินะ จะยอมแพ้ก็ได้” นัทสึพูด แต่ไอแซกกลับพูดสวนไปว่า “อยากโดนอีกทีหรือไง” ไอแซกพูด นัทสึได้แต่กัดฟันกรอด ๆ ด้วยความโกรธ ไอแซกเรียกมีดมาเซเต้ออกมา “คู่ต่อสู้วันนี้ของแกคือข้าโวย อย่ามาขู่น้องข้าให้กลัวนะโวย” ฟุยุพูดเสียงดังลั่น “ฟุยุเราอาจไม่จำเป็นต้องสู้กันนะ” ไอแซกลองกล่อมดู เพราะยังไงเสียเขาก็ไม่ต้องการเอาชีวิตของพี่น้องฮารุเลยแม้แต่คนเดียว “ทำไมล่ะ” ฟุยุเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ที่ผ่านมาไอแซกต่อสู้โดยไม่คิดจะเจรจาก่อน ทำไมคราวนี้เขาถึงคิดจะเจรจา “ฮารุรักนายมากนะ กันไม่อยากทำร้ายนายมันเป็นการทำร้ายจิตใจของฮารุ เกินไป เพราะเธอคงไม่อยากให้คนสำคัญเจ็บตัวหรอกนะ” ไอแซกพูด แต่หารู้ไม่การพูดแบบนี้ มันเป็นการราคน้ำมันลงกองไฟ “แกรู้มั้
“แต่พอดีกันไม่ได้คิดว่าจะมาแพ้” ไอแซกเข้าโจมตีอีกครั้งหนึ่ง อะคิรับมือได้เป็นอย่างดี แต่แม้ว่าคมมีดจะไม่ได้โดนตัวเขา แต่แรงกระแทกมันสะท้อนมาทำให้เขาถึงกับแขนชา มีดมาเซเต้กลายเป็นสีแดงเพลิง ทำให้อะคิรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ออกมาจากมีดมาเซเต้ เขารู้เลยว่าถ้าเขาพลาดได้โดนย่างสดแน่ไอแซกออกแรงมากขึ้นเรื่อย ๆจนกระทั่งดาบของอะคิหักคามือ อะคิมองอาวุธในมือแล้วพูดว่า “ไม่คิดว่าชนะเหรอ”ดาบของอะคิกลับเป็นเหมือนเดิม เขาโจมตีไม่หยุด ไอแซกยังรับมือต่อไป แต่เขาก็พลิกเกมมาเป็นฝ่ายเปรียบได้ ทำให้คมมีดเฉียบหน้าของอีกฝ่ายไปได้อย่างอย่างหวุดหวิด “น่าสนุกนี่”อะคิเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนทำให้เห็นเหมือนกับว่าเขาแยกร่างได้ ไอแซกโดนฟันไปหลายแผล “ยอมแพ้ซะดีกว่านะจะได้เจ็บตัวน้อยลง”ร่างของไอแซกมีควันขึ้น อะคิรู้สึกถึงความร้อน ทำให้เขาเคลื่อนไหวได้ช้าลง ไอแซกเห็นช่องว่างแล้วเขาพึ่งไปและเอาสันมีดฟาดเข้าที่กลางหัวของอะคิ ทำให้อะคิหัวแตก “ข้าแพ้แล้ว ถ้าเจ้านี้เอาด้านคมลงมา หัวข้าเบาะไปแล้ว ! ” อะคิพูดขึ้นมา“ท่านพี่ ท่านออมมือหรือ” นัทสึพูดด้วยน้ำเสียงไม
เดอะ เนฟีลิม The Nephilim ตอนที่ 25 ไม้กันโอนิ “ขำอะไร อยากปากแตกอีกรอบหรือไง” ไอแซกพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ก็ขำแกน่ะสิ ทำเป็นวางท่าใหญ่โต แต่จริง ๆ ก็เป็นพวกพันธุ์ทางที่ถูกเลี้ยงมนุษย์ชั้นต่ำ” นัทสึพูด ไอแซกมองแก้วชาแล้วถามฮารุว่า “แก้วนี่แพงมั้ย” “ไม่นะ” ฮารุพาซื่อตอบไป “ใครจะเอาแก้วชาแพง ๆ มาต้อนรับพวกพันธุ์ทางล่ะ” นัทสึยังคงเยาะเย้ย ไอแซกขว้างแก้วชาไปเต็มแรง นัทสึไม่ทันได้ตั้งตัวและหลบไม่ทันโดนเข้าเต็ม ๆ หัว “แก !” “ถ้าของแพงกันจะไม่เอาปาหัวแกไง ไอ้ปากต่ำ ๆ แบบนี้ ถ้าใช้ของแพงปามันเสียของ” “เฮ้ย ๆ ทำอะไรเกรงใจท่านพ่อกันบ้าง” อะคิพูดเป็นเชิงห้าม “ท่านพ่อข้าว่า ฆ่ามันทิ้งหรือไล่มันไปเถอะ ไม่งั้นอาจเกิดสงครามได้” นัทสึยังคงเสนอวิธีการนี้ เหมือนฟุยุจะได้สติแล้ว “นั่นสิท่านพ่อไล่มันไปเถอะ แต่เราไม่ต้องยกน้องให้พวกโอนิก็ได้นี่ เราจะสู้กับพวกมันเอง” “ไม่ไป ถ้าฮารุไปด้วย” ไอแซกพูดอีกครั้ง ฮารุจับมือของไอแซกเอ
ระหว่างทางที่เดินทาง บรรยายกาศมันตึงเครียดมาก จนทำให้อึดอัด ไอแซกมองดูวิวรอบ ๆ เห็นว่าบรรยากาศมันร่มรื่น และเส้นทางมันเป็นทางที่ขึ้นไปบนภูเขาหลังจากนั้น มีหมอกลงจัด จนมองไม่เห็นทางแล้ว “จะบอกไว้อย่างนะ พี่น้องคนอื่นไม่ใจดีเหมือนฉันหรอกนะ” อะคิพูดขึ้นมา “พี่อะคิเป็นพี่คนรองน่ะ คือ เอาไงดีล่ะ อะคินี่ล่ะปกติที่สุดแล้วมั้ง” ฮารุกระซิบบอก ไอแซกพยักหน้ารับรู้เขารู้สึกถึงกดดันและจิตสังหารมากมาย ไอแซกนึกเสียดายที่เขาไม่ได้พกปืนมาด้วย แต่การเอาปืนเข้าญี่ปุ่นเป็นเรื่องยาก เพราะญี่ปุ่นมีกฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืนที่เข้มข้นมาก เขาเลยไม่ได้เอาปืนมาด้วยสักกระบอง ความรู้สึกของไอแซกตอนนี้เขาอยากจะปืนหลาย ๆ กระบอกจะทำให้อุ่นใจกว่านี้ ไอแซกเห็นฮารุเริ่มกดดันแล้ว เธอมาบ้านแท้ ๆ ทำถึงดูกังวลขนาดนี้ ไอแซกจับมือของฮารุ “ผมอยู่นี่” คำพูดของไอแซก ทำให้ฮารุรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้าง“เฮ้ย ๆ ข้าไม่หัวหลักหัวตอนะโวย !” อะคิสังเกตเห็น เขาเริ่มคิดว่าสองคนนี้คงจะเป็นแฟนกันจริง ๆ ไม่ใช่แฟนปลอม ๆ เมื่อเข้าเขตหมู่บ้าน เป็นหมู่ขนาดเล็กมีบ้านไม่กี่หลังคาเรือน บรรยากาศร่มรื่น
เดอะ เนฟีลิม The Nephilim ตอนที่ 24 ไม้กันหมา สามข้าวกลับมาบ้านหลังจากกินอาหารเช้าแล้ว เมื่อถึง มีอีกาตัวหนึ่งอยู่ในบ้านอยู่แล้ว ฮารุเลยเดินเข้าไปหามัน มันพูดบ้างอย่างเป็นภาษาญี่ปุ่น ฮารุถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อได้ยิน “ไม่นะ !”จอยยากับราโมน่ารีบมาดูเพื่อนรักทันที ปกติแล้วอีกามา เธอยิ้มอย่างมีความสุขและชวนกินของฝากทุกครั้ง “เกิดอะไรขึ้น” สองสาวถามพร้อมกันราวกับนัดกันไว้ “ไม่นะ ไม่นะ ต้องไม่เป็นแบบนี้” ฮารุดูเครียดมาก เธอเดินไปเดินมาก่อนจะเปิดเพลงและเต้นไม่หยุด ซึ่งฮารุจะเป็นแบบนี้เสมอ เวลามีเรื่องให้เครียด แต่ว่า อย่างฮารุเนี่ยนะจะเครียดเรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ ๆ จนกระทั่งเหนื่อย และก็นั่งลง “พ่อฉัน บอกว่า ฉันต้องต้องแต่งงาน” ฮารุพูด จอยยากับราโมน่าพูดพร้อมกันราวกับนัดกันไว้ “อะไรนะ !” “เรื่องจริง เผ่าเท็งกุกับพวกโอนิ มีแผนการที่จะจับมือเป็นพันธมิตรกันน่ะสิ แล้ววิธีที่ดีที่สุดคือ ก็คือแต่งงานไง” “เฮ้ย ! เดียวทำไม่ต้องเป็นเธอด้วยล่ะ ก็พ่อเธ
“เฉย ๆ เถอะน่า เดินยังลำบาก ยังไงไปให้พวกนนนี่รักษาก่อนเถอะ” ไอแซกพูด จอยยากับราโมน่า มองหน้ากันและทำหน้าไม่ถูก เป็นจังหวะเดี๋ยวกับดาริโอเดินออกมาพอดี เขาแอบยิ้มแล้วพูดเบา ๆ ว่า “โย่วเฮ้ย ! ติ่งคอมพลีส”เมื่อไปถึงปราสาทของดานโน่ นนน่าก็พาสามสาวไปรักษาตัว ซึ่งคราวนี้ฮารุเจ็บหนักสุด นนน่าเลยบังคับให้ฮารุต้องค้างที่นี่ “อาการหนักแบบนี้ต้องการพักผ่อนนะ ต้องค้างแล้วล่ะ” “แต่...” “เหล็กพิกซี่ทั่วไม่เป็นอันตรายหรอก แต่นี่โดนไปตั้งหลายทียังไง นนน่าต้องขออยู่อาการก่อนล่ะ รออยู่นี่ล่ะเดี๋ยวจะไปจัดห้องให้ จอยยากับราโมน่าก็ค้างด้วยกันเลยแล้วกัน” ฮารุ จอยยา ราโมน่า ปฎิเสธไม่ได้ ก็ต้องเลยตามเลย ฮารุตื่นเต้นมาก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอ นอนบ้านคนอื่น แบบ ทั้งสามลงมาที่โต๊ะอาหาร ซึ่งอาหารวันเป็น ชุดแฮมเบอร์เกอร์ มีเฟรนฟราย และไก่ทอดด้วย ดูเหมือนของร้านฟาสฟู้ค แต่ก็อร่อยมาก ซึ่งมีเติมได้เรื่อย ๆ สักพักโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา แน่นอนคนที่โทรมาเวลาแบบนี้มีแค่คนเดียวคือ คุณเจ้าขา “ครั้งนี้ทำดีนะคะ ไม่ได้ระเบิดอะไร แต่ความคิด







