Share

แข่งเก็บสมุนไพร

last update Last Updated: 2025-09-25 12:14:26

...หลินเซียนก้าวเข้าสู่ป่าลึกที่รกร้าง หมอกเต็มไปหมดทุกที่ พื้นปกคลุมด้วยโคลนเหนียวและรากไม้พันกันเป็นตาข่าย แสงแดดลอดผ่านยอดไม้สูงส่องลงเป็นลำแสงเล็กๆเฉพาะบนพื้น ทำให้เห็นเพียงเศษสมุนไพรแปลกประหลาดบางต้น 

การแข่งรอบที่ 2 นี้ คือเก็บสมุนไพรในป่าแห่งนี้ ผู้ใดค้นหาสมุนไพรที่หายากที่สุดอันดับต้นๆ ก็จะสอบผ่านเข้าเป้นศิษย์สำนักได้

แต่...ป่านี้แฝงไปด้วยอันตราย มีสัตว์อสูรเพ่รพ่านเต็มไปหมด แถวยังมีต้นไม้,ดอกไม้พิษหลายต้นอีกด้วย แมลงพิษก็มีบินวน หน้าผาก็สูงเสียวสันหลัง 

หลินเซียนค่อยๆ ก้าวด้วยความระมัดระวัง ใช้สายตาและสติเต็มที่เพื่อสังเกตทุกความเคลื่อนไหว บางครั้งสัตว์อสูรโจมตีแบบทันทีทันใด เขาต้องกระโดดหนี ใช้รากไม้โหนตัว หรือแม้กระทั่งกลิ้งลงโคลนเพื่อรอดชีวิต

ผู้แข่งขันแต่ละคนสารพัดจะใช้กลโกงใส่กัน มีคนหนึ่งแกล้งเขาหักกิ่งไม้ให้ตกต้นไม้ บางคนล่อแมลงพิษมาหา บางครั้งเก็บสมุนไพรได้แล้วแต่ถูกยาสลบแล้วโดนขโมยไปก็มี

หลินเซียนแม้รากวิญญาณเซียนต่ำที่สุดในบรรดาผู้เข้าสอบ แต่เขาก็พยายามใช้ไหวพริบและความระวังตัวอย่างเต็มที่

เขาพกสมุนไพรที่คุรหนูร้านน้ำชาหามาให้ช่วยป้องกันพิษได้บ้าง และเลี่ยงสัตว์อสูรด้วยการสังเกตพฤติกรรม หลินเซ๊ยนพยายามปีนขึ้นต้นไม้สูงเพื่อความปลอดภัยเสมอเมื่อเขาจะพักผ่อน

แต่....ก็เหน้ดเหนื่อย เหงื่อไหลทั้งตัว หลินเซียนโดนพิษอสูรมดกัดมาจึงมีความเจ็บปวดเล็กน้อย มือสั่นเทา เนื้อตัวมอมแมม แต่ดวงตายังเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นสุดชีวิต

แรงใจจากความรักของแม่และย่า ความหวังที่จะให้พวกท่านได้สุขสบายเมื่อเขาเข้าสำนักได้สำเร็จยังเป็นกำลังใจหลักของเขา

ผู้เข้าสมัครคนอื่นเริ่มหวาดกลัวและระวัง บางคนคลั่งเพราะแรงกดดันและพิษ บางคนเริ่มสังเกตึว่าขยะบ้านนอกอย่างหลินเซียนมันมีฝีมือไม่ธรรมดา

ใช้เวลาอยู่นาน ในที่สุดหลินเซียนก็เจอสมุนไพรไพรเซียนระดับ 2 "ใบมะรุมเงิน" ของหายากต้นหนึ่งได้สำเร็จ เขาบรรจงเก็บไว้ในถุงสะพายข้างเอว

แต่ทันใดนั้น ผู้แข่งขันคนหนึ่งที่แอบตามมาเงียบๆ ก็ลอบเข้ามาใกล้โดยมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

ทันทีที่หลินเซียนหมุนตัวเก็บสมุนไพรอีกต้น ผู้แข่งขันเลวนั่น ใช้จังหวะนั้นฉวยโอกาสหยิบสมุนไพรของหลินเซียนไป

พอได้สมุนไพรเขาก็หัวเราะเยาะเย้ย

“ฮ่าๆ ขยะบ้านนอก… สมันไพีนี่เป็นของข้าแล้ว ฮ่าๆ!” 

"เอาคืินมา!

หลินเซียนรีบตามไป แต่ผู้แข่งขันคนนั้นไม่ได้โง่ เขามีเพื่อนๆที่ซ่อนตัวอยู่แถวนั้นอีก 2 คน

แล้วทั้ง 3 คนก็ก้าวออกมาล้อมรอบหลินเซียน แววตาเต็มไปด้วยความชั่วร้าย พวกมันไม่คิดจะเก็บสมุนไพรอีกต่อไป แต่จ้องเพียงจะจัดการศัตรูตรงหน้า

“สมุนไพรชั้นสูงนี้ไม่คู่ควรกับเจ้า… ยกมาให้พวกเรานั่นแหละถูกแล้ว!”

หนึ่งในนั้นตะโกนเสียงห้าว ก่อนจะพุ่งเข้ามาโจมตี

หลินเซียนที่บอบช้ำจากการปีนป่ายหาสมุนไพรตั้งแต่เช้าพยายามตั้งท่าป้องกัน ทว่าถูกอีกสองคนประสานกันบุกจากด้านข้าง หมัด เท้า และแรงผลักกระแทกใส่เขาไม่หยุด เสียงปะทะดังก้องกลางหน้าผาสูงชัน

“อั่ก!”

เลือดสดพุ่งจากมุมปาก หลินเซียนกัดฟันสู้แต่เรี่ยวแรงถดถอยลงทุกขณะ

ในจังหวะชุลมุน หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันเหวี่ยงขาเตะแรงเกินไปโดยไม่ทันคิด ร่างของหลินเซียนถูกซัดกระแทกไปที่ขอบหน้าผา ดินกรวดร่วงกราวลงเบื้องล่าง เสียงลมหวีดหวิวดังแทรกเข้ามา

“เฮ้ย! ระวังสิ!”

หนึ่งในพวกนั้นร้อง แต่สายไปแล้ว ลมพัดแรงมาก ร่างหลินเซีนร่วงลงจากหน้าผาสูงง

หลินเซียนพยายามคว้าหินขอบหน้าผา ทว่ามันเปราะเกินไป นิ้วมือที่เต็มไปด้วยเลือดและฝุ่นดินไม่อาจยึดเกาะได้มั่น ร่างของเขาโอนเอน แล้วพลัดตกจากหน้าผาสูงชันลงสู่ความมืดเบื้องล่าง!

หลินเซียนตกหน้าผา!

แทนที่เจ้า 3 คนนั้นจะสลด แต่ไม่เลย มันชะโงกมามองดูแล้วตะโกนลงไป

"ตายไปซะเจ้าขยะยาจก! อย่ามาทำให้การสอบอันทรงเกียรติ์นี้แปดเปื้อน!"

แล้วพวกมันก็หัวเราะ แล้วเดินจากไปพร้อมสมุนไพรของหลินเซียนอย่างไม่ใยดี

แต่…คนพวกนั้นไม่รู้เลยว่าใต้เหว หลินเซียนใช้สติและสัญชาตญาณกระชับรากไม้และเถาวัลย์เกาะไว้ได้หวุดหวิด

เขาพยายามปีนขึ้น ร่างสั่นมือเท้าเจ็บจากพิษและเลือดไหล แต่แววตายังคงมุ่งมั่น

“ข่ะ...ข้า… ไม่ยอม! กร่อด! ข้า…ต้องไม่ตาย ข้าต้องเป็นเซียนให้ได้! เพื่อแม่และย่าของข้า!”

หลินเซียนกัดฟันจนเลือดออกปากขยับตัวปีนหน้าผา เข้าใช้ความอดทน และกำลังใจ เพื่อเอาชนะความโหดร้ายตรงหน้านี้ให้ได้

....เช้าวันใหม่พระอาทิตย์ขึ้นอรุณรุ่ง หมอกค่อย ๆ จางและแสงแดดส่องลงบนสมุนไพรที่ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนเก็บมาได้ พวกเขาออกมาจากป่ากันหมดแล้ว ยกเว้นหลินเซียน

"ข้าว่ามันคงตายไปในป่าแล้ว ขยะยากจนที่ไม่มีแม้แต่สมบัติเซียนสักชิ้นป้องกันตัว เหอะ!"

เซียนผู้คุมสอบดูเวลา ขณะที่กำลังจะแจ้งว่าหมดเวลา

"เดี๋ยว! รอเดี๋ยวก่อนขอรับ!"

ทุกคนหันไปมอง เป็นภาพเด็กหนุ่มแต่งตัวโทรมๆ เสื้อผ้าบางส่วนขาดวิ่น ตามร่างกายมีบาดแผลขีดข่วนมากมาย เผยให้เห็นผิวขาวเนียนใสของร่างกายและกล้ามเนื้อที่ดูเย้ายวนใจ ราวกับเขาคือคุณชายชาติตระกูลสูงส่งผู้กินหรูอยู่สบาย

แม้มีแผลหลายจุด แต่ใบหน้าของหลินเซียนยิ้ม …เป็นรอยยิ้มที่นุ่มละมุนใครเห็นก็รู้สึกหลงไหล เขารีบวิ่งมายื่นดอกไม้สมุนไพรให้ท่านเซียนผู้คุมสอบ

ผู้คุมสอบตะลึง และตามองเขาด้วยสายตาประหลาดใจ

"ดอกบัวสีชมพูเรืองแสง....ดอกบัวหยกฟ้า! สมุนไพรเซียนระดับ 3! เจ้าเก็บมันมาได้ยังไง??"

"ข้าเจอมันอยู่ใต้หน้าผาขอรับ ข้าเลยปีนไปเก็บมาขอรับ"

ผู้คุมสอบมองหน้าหลินเซียน ใบหน้าของเขาแม้จะเหนื่อยอ่อนและบาดแผลทั้งร่างกาย แต่เขายิ้มแย้มมีความสุขมาก

“หึ! ไอ้เด็กพรสวรรค์ต่ำ เจ้าฝืนฟ้าได้แล้ว...

"สอบผ่าน!!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)   ตามความสามารถ

    (3 เดือนผ่านไป).....บัดนี้ศิษย์ทั้ง 6 คนบรรลุระดับรวบรวมปราณขั้นต้นได้หมดแล้ว หลินเซียนเริ่มให้แต่ละคนฝึกฝนต่างกัน - หลี่เทียนอวิ๋น แม้เขาจะเป็นคนก้าวร้าวแต่เขาเป็นลูกขุนนางจึงมีการศึกษาดีกว่าทุกคน หลินเซียนเริ่มสอนทักษะพื้นฐานการสร้าวงค่ายกลให้แก่เขา- เซียวฉิง นางฝึกฝนวิชากระบี่มาจากแม่แล้วหลินเซียนจึงสอนการบรรจุพลังปราณลงในกระบี่ให้- หวังต้า หลินเซียนสอนปราณธาตุไฟให้เขา หวังต้าชอบมากเพราะเขาคิดว่าอนาคตย่อมมีประโยชน์กับงานร้านตีเหล็กของเขาได้- จางซาน หลินเซียนสอนวิชาการปรุงยา และความรู้เรื่องสมุนไพรเซียนให้เขา เผื่อวันหน้าเขาจะหลอมยาไว้บำรุงร่างกายตัวเอง- หานซิ่วเรียนรู้พลังปราณธาตุน้ำตาหลินเซียน- หลิงเออร์แม้จะเป็นเด็กแต่รากวิญญาณเซียนเธอดีพิเศษ หลินเซียนจึงให้เธอฝึกปราณธาตุน้ำ, ไม้ และดิน ซึ่งปราณธาตุไม้นั้นหลินเซียนให้เสี่ยวหมิงออกมาช่วยด้วย เธอจึงทั้งสนุกที่ได้เล่นหมีแพนด้าและสัมผัสปราณธาตุไม้การสอนศิษย์ทุกคนหลายเดือนนี้หลินเซียนก็เหมือนได้ทบทวนวิชาต่างๆที่ตัวเองเคยร่ำเรียนมาให้ความรู้แน่นขึ้น เก็บตกเศษชิ้นส่วนเล็กๆในแต่ละวิชามาเติมเต็มปัญญาตนเอง บางครั้งกลางดึกเขาเองก็ไป

  • เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)   สัมผัสปราณ

    ....ข่าวการไล่ตะเพิดอันธพาลทำให้ไม่มีีอาจารย์สถาบันติวอื่นกล้ามาคบหากับหลินเซียน แต่ก็ทำให้มีชื่อเสียงในกลุ่มเด็กๆเยาวชนที่อยากผ่านการทดสอบเป็นเซียนบางคน ทำให้สถาบันของหลินเซียนคึกคักขึ้น ห้องเรียนเล็กๆบัดนี้มีคนหนุ่มสาวทั้งชายหญิงรวมถึงเด็กน้อยครั้งก่อนมาเรียนด้วย 6 คนแล้วคนแรก คือเด็กหญิงตัวน้อยที่มาช่วยหลินเซียนครั้งที่แล้ว เธอชื่อหลิงเออร์ เป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่อยู่กับคุณปู่ที่เปิดร้านขายน้ำหมึกและพู่กันข้างๆบ้านหลินเซียนนี่เอง เนื่องจากหลินเซียนบอกจะสอนให้ฟรี ปู่เธอจึงอนุญาตให้มาเรียนด้วยคนที่ 2 ชื่อหลี่อวิ๋นเทียน อายุ 14-15 ปีแล้ว เขาเป็นคุณชายสกุลขุนนางปลายแถว เนื่องด้วยเป็นเด็กมั่นใจตัวเองสูงพ่อแม่สอนไม่ฟัง จึงเอามาฝากให้หลินเซียนช่วยอบรมให้คนที่ 3 ชื่อหวังต้า เป็นลูกชายคนโตของร้านช่างตีเหล็กในตลาดคนที่ 4 ชื่อหานซิ่ว เป็นลูกชาวนายากจนจากชนบท แต่เป็นคนเรียบร้อยถ่อมตน หลินเซียนให้เขาพักที่สถาบัน โดยให้ทำงานทำความสะอาดเรือนแลกกับการให้ที่พักคนที่ 5 ชื่อเซียวฉิง เธอเป็นลูกสาวจอมยุทธหญิง ชำนาญวิชาดาบ แต่เมื่อตรวจพบว่ามีรากวิญญาณเซียน แม่เธอจึงพาเข้าเมืองหลวง และได้ยินชื่อเสียงหล

  • เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)   อาจารย์หลิน

    ....แคว้นจูตั้งอยู่ทางเหนือสุดของทวีป ถูกขนาบด้วยเทือกเขาหิมะที่สูงเสียดฟ้าปกคลุมด้วยหิมะตลอดปี และในหุบเขามีทะเลสาบน้ำแข็งนิรันดร์ที่เล่ากันว่าซ่อนสมบัติเซียนและกระบี่โบราณไว้อยู่ด้วยส่วนพื้นที่ราบเป็นทุ่งน้ำแข็งและทะเลสาบที่ถูกแช่แข็งเกือบทั้งปี แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนสั้นๆจะมีทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่มให้สัตว์เลี้ยงและกวางป่าออกหากินมีลมเหนือหนาวเย็นพัดลงมาที่เมืองทั้งปี ดวงอาทิตย์ส่องแสงน้อยจึงเป็นแคว้นที่กลางวันสั้นส่วนกลางคืนยาว ทำให้ผู้คนที่นี่แข็งแกร่งและอดทนณ เมืองหลวงขอแคว้นชื่อไป๋ซวง(น้ำค้างขาว) มีกำแพงเมืองที่ถูกสร้างด้วยหินแข็งแรงและไม้สนดำ ทนทานต่อพายุหิมะผู้คนแคว้นนี้มีผิวซีดขาว แก้มแดงจากอากาศหนาว มักสวมเสื้อคลุมหนังสัตว์ซ้อนหลายชั้นอาชีพหลักคือ ล่าสัตว์, ทำหนังสัตว์, ค้าขนสัตว์, และหลอมเหล็กจากแร่ในภูเขา จึงมีตลาดแลกเปลี่ยนที่คึกคัก แม้จะเป็นแคว้นห่างไกลที่นี่ยังเป็นแคว้นที่ผู้คนมีรากวิญญาณเซียนหลายคน นั่นจึงทำให้มีสำนักเซียนมากมายในแคว้น ซึ่งการทดสอบเข้าเป็นศิษยืแต่ละสำนักก็มีทั้งการสอบมาตรฐานที่ราชสำนักกำหนด และการทดสอบเฉพาะแต่ละสำนักด้วยและด้วยทางการสนับสนุนอย่างด

  • เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)   สิบปีสุดท้ายนี้ลูกจะอยู่กับแม่ไม่ไปไหน

    A : ไง?หลินเซียน : ท่านเป็นใคร ทำไมข้าไม่เห็นหน้าท่าน? แล้วที่นี่ที่ไหน?B : สำคัญด้วยรึ?หลินเซียน : พวกท่านเป็นใคร? ข้าอยู่ที่ไหน?B : เจ้าหนู ที่นี่มันเป็นสถานที่ๆอธิบายยากอยู่นะ เจ้าอย่าสนใจเลยA : เจ้าช่วยตอบคำถามพวกเราสัก 2 ข้อได้ไหม? แล้วเราจะปล่อยเจ้าไปหลินเซียน : ท่านจะถามอะไรขอรับ?A : ข้าจะถามว่า.......B : ส่วนข้าอยากถามเจ้าว่า.....A+B : แล้ววันหลังพวกเราจะมาขอคำตอบหลินเซียนลืมตาเบิกโพลง เขามองรอบๆตัว ตอนนี้เขานอนอยู่บนเตียง มีผ้าห่ม และผ้าพันแผลพันกายนิดหน่อย"เจ้าฟื้นแล้วรึ?" ไม่ใช่ใครที่ไหน คือนางปีศาจจิ้งจอกเก้าหางนั่นเอง นางนั่งเฝ้าเขาอยู่ไม่ไปไหน แถมมีเสี่ยวหมิงแพนด้าตัวน้อยอยู่ข้าง ๆ พอมันเห็นว่าหลินเซียนฟื้นแล้วมันดีใจรีบเดินเข้าไปออดอ้อนทันที"ขอบใจเจ้ามากที่มาช่วยพวกเรา" หลินเซียนเอื้อมไปจับมือนางจิ้งจอก ทำเอานางเขินแก้มแดง"ม....ไม่มีอะไรนี่ การตอบแทนบุญคุณเป็นเรื่องธรรมดา" หางนางโผล่ออกและบิดไปมา หลินเซียนยิ้มใความเขินอายของสาวแก่อายุตั้งพันปี"อาจารย์ท่านตื่นแล้ว!" องค์ชายดีใจพูดเสียงดัง อาการบาดเจ็บเขาดีขึ้นมากเพราะน้ำวิเศษในน้ำเต้าที่หลินเซียนให้เขาดื่ม

  • เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)   ดั่งคำสัญญา....

    .....หลินเซียนใช้ม่านวารีพิทักษ์ป้องกันครบไปแล้ว 3 ครั้ง ดังนั้นลูกไฟสีน้ำเงินและสีเขียวที่ลอยพุ่งมานี้เขาไม่สามารถใช้วิธีเดิมป้องกันได้อีกแล้วหลินเซียนรีบชูแหวนธาราสวรรค์ขึ้นมา เขาเสี่ยงดวงดูว่าแหวนธาราสวรรค์จะสามารถดูดพลังไฟประหลาดทั้งสองนี้เก็บไว้ได้ไหม ปรากฏว่าแหวนธาราสวรรค์ดูไฟทั้งสองสีเข้าไปได้ แต่หากถอดจิตเข้าไปดูด้านในไฟนั้นลุกท่วมไปทั่วทำเอาปราณน้ำที่สะสมไว้ระเหยปั่นป่วนไปหมดหลินเซียนคิดว่าคงไม่อาจเก็บไว้ประหลาดแบบนี้ได้อีกแล้ว ฝ่ายเซียนหยวนอิงประหลาดใจไม่น้อย ไม่คิดว่าหลินเซียนจะมีแหวนธาราสวรรค์ของหายาก เขารู้สึกเจ็บแผลที่ถูกดาบวารีแทงเมื่อสักครู่"โทษที่เจ้าทำให้ข้าเจ็บ งั้นข้าจะเผาเจ้าด้วยสุดยอดไฟของข้า!"เขาปล่อยพลังออกมามากมายจะเศษซากอาคารถล่ม แผ่นดินสั่นไหว เขาใช้สิงมือกุมกันจนมีลูกไฟสีทองแดงโผล่ขึ้นมามันไม่ใ่ชไฟธรรมดา เพียงคนทั่วไปมองก็ตาบอดทันที พวกเซียนระดับต่ำก็มองแล้วจะรู้สึกเหมือนถูกโดนแผดเผาทั้งร่างส่วนหลินเซียนมั้นมองได้แค่แผบเดียวแล้วต้องรีบเอามือมาปิดบัง "นี่คือไฟจากแกนพิภพ!"เซียนชุดแดงหยิบสมบัติเซียนออกมาขว้างไปที่หลินเซียนกลายเป็นกรงแสงที่ไม่มีทางหนีห

  • เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)   ไฟ...ปะทะ...น้ำ

    ....กลางสมรภูมิ แผ่นฟ้าสีเลือดฉาบด้วยแสงอัคคีแดงฉาน บัดนี้กองทัพขององค์ชายจ้าวหานเฟิง ที่มีทั้งทหารกล้าและเหล่าเซียนแคว้นจ้าวกำลังถลำลึกสู่ขอบเหวแห่งความพ่ายแพ้เสียงโครมครามของอาวุธชนกับอาวุธปะปนกับเสียงโหยหวน สายลมพัดกลิ่นคาวเลือดโชยอวลจนแทบหายใจไม่ออก ร่างทหารผู้กล้าและเซียนถูกเปลวเพลิงนรกกลืนกิน ร่างพวกเขากรีดร้องเพียงครู่ก่อนจะแหลกสลายกลายเป็นเถ้าธุลีเหนือสนามรบ บนฟากฟ้าสีแดงฉานปรากฏเงาร่าง เซียนหยวนอิงฝ่ายศัตรูเพียงหนึ่งเดียว ชายชราผมขาวหนวดขาวในชุดสีแดง นัยน์ตาเขาราวกับแผดเผาด้วยเพลิงโลกันต์ ปราณของเขาเป็น "ไฟนรก" ที่ไม่ดับสิ้นแม้เมื่อดวงวิญญาณหลุดร่าง เปลวไฟนี้กัดกร่อนทั้งเนื้อหนังและวิญญาณ ผู้ที่ถูกเผาแม้ตายแล้วก็ยังได้ยินเสียงกรีดร้องของตนเองก้องสะท้อนอยู่ในห้วงว่างเหล่าเซียนแคว้นจ้าวพยายามค้ำยันค่ายกลถึงที่สุด เพื่อป้องกันไฟนรก แต่เส้นลายยันต์บนฟ้าและพื้นดินแตกร้าวอย่างน่าสยดสยอง ราวกับมังกรที่ใกล้ขาดลมหายใจ เซียนหนุ่มสาวและชายชรามากมายผู้รับหน้าที่เป็นเสาหลักของค่ายกล เลือดไหลจากเจ็ดทวาร ร่างสั่นสะท้านจนแทบจะยืนไม่อยู่ หากค่ายกลแตกพังเมื่อใด กองทัพแคว้นจ้าวทั้งหมดจะถูกไฟ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status