ชีวิตของทั้งสองคู่ดำเนินไปอย่างมั่นคงและมีความสุขอย่างต่อเนื่อง พวกเขายังคงรักษาสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัวได้อย่างลงตัว มีเวลาคุณภาพให้กับครอบครัวและเพื่อนฝูง อลิสาและคีรินทร์ยังคงดูแลธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง ในขณะที่มิ้นท์และปกรณ์เองก็มีความสุขกับชีวิตคู่ของตนเอง พวกเขามักจะนัดพบปะสังสรรค์ ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันในฐานะเพื่อนสนิทและคู่รัก เช่น การไปเที่ยวต่างจังหวัด การทำอาหาร หรือการเล่นกีฬา
หลายปีผ่านไปนับจากวันที่ทั้งสองครอบครัวได้สร้างรากฐานแห่งความสุขและความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวของอลิสาและคีรินทร์ที่มีน้องธาราเข้ามาเติมเต็ม หรือครอบครัวของมิ้นท์และปกรณ์ที่ใช้ชีวิตคู่อย่างอบอุ่นและเข้าใจกัน ชีวิตของพวกเขาทั้งสี่ดำเนินไปอย่างมั่นคงและสุขสันต์อย่างต่อเนื่อง พวกเขายังคงให้ความสำคัญกับการรักษาสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัวได้อย่างลงตัว และมีเวลาคุณภาพให้กับครอบครัวและเพื่อนฝูงเสมอ
อลิสาและคีรินทร์ยังคงเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและคุณธรรมในการดำเนินงาน พวกเขาสร้างสรรค์โครงการใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอยู่เสมอ แต่ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน พวกเขาก็ไม่เคยละเลยที่จะใช้เวลากับน้องธารา ลูกชายของพวกเขา และไม่เคยลืมที่จะเติมเต็มความรักให้แก่กันและกัน
ในขณะเดียวกัน มิ้นท์และปกรณ์ก็มีความสุขกับชีวิตคู่ของตนเองอย่างเต็มที่ มิ้นท์ยังคงทำงานในสายอาชีพที่เธอรัก และปกรณ์ก็ก้าวหน้าในหน้าที่การงานเช่นกัน พวกเขาทั้งคู่ต่างประสบความสำเร็จในแบบของตนเอง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความผูกพันและความเข้าใจที่ลึกซึ้งซึ่งกันและกัน
บ่อยครั้งที่ทั้งสี่คนจะนัดพบปะสังสรรค์ ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันในฐานะเพื่อนสนิทและคู่รัก ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน การทำอาหารเย็นที่บ้านของใครคนใดคนหนึ่ง หรือการเล่นกีฬาที่พวกเขาชื่นชอบ
วันหยุดยาวที่ใกล้เข้ามา ทั้งสี่คนตัดสินใจไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันที่เขาใหญ่ เพื่อพักผ่อนและใช้เวลาคุณภาพร่วมกัน พวกเขาเลือกพักที่วิลล่าส่วนตัวที่มีบรรยากาศเงียบสงบและเป็นธรรมชาติ
เช้าวันแรกที่เขาใหญ่ อากาศสดชื่นและเย็นสบาย ทั้งสี่คนนั่งจิบกาแฟอยู่บริเวณระเบียงวิลล่า มองเห็นทิวทัศน์ของภูเขาที่เขียวขจีเบื้องหน้า
“อากาศดีจังเลยนะลิซ” มิ้นท์พูดพลางสูดหายใจเข้าลึกๆ
“ใช่มิ้นท์ ลิซอยากมาเที่ยวแบบนี้บ่อยๆ เลย” อลิสาตอบพลางยิ้ม
คีรินทร์เดินเข้ามาใกล้อลิสา แล้วแกล้งหยอกเธอด้วยการยื่นมือไปยีผมเธอเบาๆ “ลิซครับ ตื่นเช้าแบบนี้แล้วทำไมผมยังยุ่งอยู่เลย”
อลิสาหัวเราะคิกคัก เธอหันไปตีแขนคีรินทร์เบาๆ “พี่คีคะ! แกล้งลิซอีกแล้ว”
คีรินทร์หัวเราะเสียงดัง ก่อนจะดึงอลิสาเข้ามาโอบกอดอย่างอ่อนโยน แสดงให้เห็นถึงความรักที่ยังคงเบ่งบานแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
ปกรณ์ที่เห็นฉากน่ารักๆ ของเพื่อนก็ยิ้ม เขาหันไปมองมิ้นท์ที่กำลังหัวเราะกับเรื่องที่คีรินทร์แกล้งอลิสา ปกรณ์เอื้อมมือไปโอบไหล่มิ้นท์เบาๆ แล้วแอบหอมแก้มเธอขณะที่เธอกำลังหัวเราะเสียงดัง มิ้นท์ชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มออกมาด้วยความสุข
“พี่ปกรณ์คะ!” มิ้นท์พูดพลางหันไปค้อนให้เขาเบาๆ
ความสุขที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของทั้งสองคู่ ไม่ได้มาจากเรื่องยิ่งใหญ่ แต่มาจากโมเมนต์เล็กๆ น้อยๆ ที่พวกเขาได้แบ่งปันกันอย่างสม่ำเสมอ
ตลอดการเดินทางที่เขาใหญ่ พวกเขาทั้งสี่คนได้ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการไปเยี่ยมชมไร่องุ่น การปั่นจักรยานท่ามกลางธรรมชาติ หรือการนั่งดูดาวในยามค่ำคืน
วันหนึ่ง พวกเขาทั้งสี่คนไปเยี่ยมชมไร่องุ่นแห่งหนึ่ง เจ้าของไร่อธิบายถึงกระบวนการผลิตไวน์อย่างละเอียด อลิสาและคีรินทร์ให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะเกี่ยวข้องกับธุรกิจของพวกเขา ส่วนมิ้นท์และปกรณ์ก็เพลิดเพลินกับการเดินชมไร่องุ่นที่สวยงาม
“ลิซครับ พี่ว่าเราน่าจะลองทำไวน์ของเราเองบ้างนะ” คีรินทร์กระซิบข้างหูอลิสา
“น่าสนใจนะคะพี่คี” อลิสาตอบกลับ
หลังจากเดินชมไร่องุ่นเสร็จ พวกเขาก็ไปลองชิมไวน์ชนิดต่างๆ ปกรณ์จิบไวน์แดงช้าๆ แล้วหันไปมองมิ้นท์ด้วยรอยยิ้ม “มิ้นท์ครับ ลองชิมดูไหมครับ อร่อยมากเลย”
มิ้นท์พยักหน้า เธอจิบไวน์เล็กน้อย แล้วพยักหน้าเห็นด้วย “อร่อยจริงๆ ค่ะพี่ปกรณ์”
ในยามค่ำคืน พวกเขาทั้งสี่คนนั่งอยู่บนระเบียงวิลล่า ชมดวงดาวที่ส่องประกายเต็มท้องฟ้า คีรินทร์กอดอลิสาไว้แน่น ส่วนปกรณ์ก็ซบหน้าลงกับไหล่ของมิ้นท์ บรรยากาศเงียบสงบและเต็มไปด้วยความอบอุ่น
“ลิซว่านี่คือช่วงเวลาที่วิเศษที่สุดเลยนะคะพี่คี” อลิสาพูดขึ้นมาเบาๆ
“พี่ก็คิดอย่างนั้นครับลิซ” คีรินทร์ตอบกลับ
การได้ใช้เวลาคุณภาพร่วมกัน การสร้างความทรงจำใหม่ๆ ทำให้มิตรภาพและความรักของพวกเขายิ่งแข็งแกร่งและยั่งยืน
เมื่อกลับมาจากเขาใหญ่ พวกเขาทั้งสองคู่ก็ยังคงดำเนินชีวิตประจำวันต่อไปอย่างมีความสุขและมีสมดุล อลิสาและคีรินทร์ยังคงดูแลน้องธาราอย่างใกล้ชิด และแบ่งเบาภาระการเลี้ยงลูกซึ่งกันและกัน ส่วนมิ้นท์และปกรณ์ก็ยังคงสนับสนุนกันและกันในทุกๆ ด้าน ทั้งในเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว
ในตอนเย็นของทุกวัน อลิสาและคีรินทร์จะใช้เวลาเล่นกับน้องธาราก่อนนอน คีรินทร์จะเล่านิทานให้ลูกฟัง ส่วนอลิสาก็จะนั่งอยู่ข้างๆ แล้วลูบศีรษะลูกเบาๆ เป็นภาพที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความรัก
ในขณะเดียวกัน มิ้นท์และปกรณ์ก็มักจะใช้เวลาหลังเลิกงานไปออกกำลังกายด้วยกัน หรือทำอาหารเย็นด้วยกันที่บ้าน การทำกิจกรรมร่วมกันเหล่านี้เป็นเหมือนการเติมพลังให้กับพวกเขาหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวัน
วันหนึ่ง มิ้นท์กำลังทำอาหารอยู่ในครัว ปกรณ์เดินเข้ามาจากด้านหลัง แล้วโอบกอดเธอไว้แน่น
“หอมจังเลยครับมิ้นท์” ปกรณ์กระซิบข้างหูเธอ
มิ้นท์ยิ้ม เธอหันกลับไปหาปกรณ์แล้วจูบที่แก้มของเขาเบาๆ “พี่ปกรณ์ก็มาช่วยสิคะ”
ปกรณ์หัวเราะเบาๆ “แน่นอนครับ”
ความสุขที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของทั้งสองคู่ ไม่ได้มาจากความหรูหราอลังการ แต่มาจากความรัก ความเข้าใจ และการได้อยู่เคียงข้างคนที่รักในทุกๆ โมเมนต์ของชีวิต
ชีวิตของอลิสาและคีรินทร์ รวมถึงมิ้นท์และปกรณ์ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าความสุขที่แท้จริงคือการได้รักษาสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัว การให้ความสำคัญกับครอบครัวและเพื่อนฝูง และการเติมเต็มความรักให้แก่กันและกันเสมอ
พวกเขาทั้งสี่คนได้ร่วมกันเติบโต ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน และได้สร้างครอบครัวที่มั่นคงและสุขสันต์ในแบบของตนเอง ความรักของพวกเขายังคงเบ่งบานเหมือนวันแรกที่พบกัน และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป
เมื่อแสงอาทิตย์ยามเย็นลาลับขอบฟ้าในวันใหม่ ก็เป็นเหมือนสัญญาณของความสุขที่ไม่มีวันสิ้นสุดในชีวิตของพวกเขา
ตอนพิเศษ งานวิวาห์ของธาราและอิงดาวเสียงดนตรีไทยบรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู กลิ่นหอมของดอกมะลิและดอกกล้วยไม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเรือนไทยโบราณที่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผ้าไหมสีทองและดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับเครื่องประดับทองคำที่เจ้าสาวสวมใส่ ส่องประกายเป็นประกายระยิบระยับวันนี้เป็นวันสำคัญ วันที่หัวใจสองดวงจะผูกพันกันชั่วนิรันดร์ วันวิวาห์ของธาราและอิงดาวหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกังวลของครอบครัว ความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง และแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีคีรินทร์และอลิสาพ่อแม่ของธารา รู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมากเมื่อลูกชายสารภาพว่าเขารักอิงดาวเกินกว่าคำว่าน้องสาว“ธาราลูก ลูกแน่ใจหรือ” อลิสาถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจในวันนั้น “อิงดาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรานะลูก”คีรินทร์เองก็เสริม “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะลูก มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจกับครอบครัวเราได้”ทางด้านมิ้นท์และปกรณ์ พ่อแม่ของอิงดาว ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก โดยเฉพาะมิ้นท์ที่เป็น
ตอนที่ 131 ธาราสารภาพรักอิงดาว (ตอนจบ)สายลมยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ พัดเอื่อยๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของธารา แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงสลัวๆ ส่องกระทบกับใบหน้าของธาราและอิงดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ได้ยินหลังจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจเริ่มคลี่คลาย และอิงดาวได้ยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไปแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างธาราและอิงดาวก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น สัญญาณจากใจที่ทั้งคู่ส่งออกมาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่กำแพงที่มองไม่เห็นของความเป็นลูกพี่ลูกน้องก็ยังคงกั้นขวางอยู่วันนี้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับจากการทานอาหารค่ำด้วยกัน ธารารู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดความในใจออกไป เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าธาราสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนอิงดาวรู้สึกได้อิงดาวหันมามองธารา ใบหน้าข
ตอนที่ 130 สัญญาณจากใจหลังจากอิงดาวยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ยังคงใช้เวลาอยู่กับธารามากขึ้น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น ความรู้สึกระหว่างธาราและอิงดาวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อน มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการมองตาที่ยาวนานกว่าปกติ การสัมผัสกันโดยบังเอิญที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือบทสนทนาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นพี่น้อง ธารายังคงไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป แต่อิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง บทสรุปของตอนนี้จะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้อ่านลุ้นว่าความสัมพันธ์ของธาราและอิงดาวจะก้าวไปในทิศทางใดต่อไปในอนาคตสายลมยามเย็นพัดโชยอ่อนเข้ามาในระเบียงคอนโดมิเนียมของธารา แสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนฟ้า อิงดาวนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดของธารา ส่วนธารากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางธุรกิจของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย
ตอนที่ 129 ความรักที่ต้องเลือกอิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเองวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิก
ตอนที่ 128 เมื่ออิงดาวต้องการที่พึ่งจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจ อิงดาวรู้สึกท้อแท้และเปราะบางมาก เธอเริ่มรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้ให้กำลังใจเธอเท่าที่ควร หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญหน้า อิงดาวหันมาพึ่งพาธารามากขึ้นเธอระบายความในใจและความกังวลให้กับธาราฟัง ธารารับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เขากอดอิงดาวแน่นเพื่อปลอบประโลม เมื่ออิงดาวได้อยู่ในอ้อมกอดของธารา เธอกลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธาราเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอิงดาวเสียใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอเสียงฝนพรำนอกหน้าต่างห้องทำงานของอิงดาวในค่ำคืนที่เงียบสงัด สะท้อนกับหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตาของเธอ รายงานตัวเลขผลประกอบการที่แสดงถึงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องวางแผ่บนโต๊ะ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกท้อแท้และเปราะบางในใจของเธอ วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้อิงดาวรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความสิ้นหวังเธอพยายามที่จะเข้มแข็ง พยายามที่จะยิ้มและให้กำลังใจทีมงาน แต่ลึกๆ แล้ว เธอกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับไหว เธอพยายามโทรหาพฤกษ์
ตอนที่ 127 โอกาสที่ใกล้ชิดเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่