หลังจากเหตุการณ์การแทรกแซงข้อมูลในโปรเจกต์อาคารสำนักงานใหญ่ อลิสาและคีรินทร์ต้องเผชิญกับความกดดันอย่างมหาศาลจากทั้งภายในและภายนอกองค์กร แผนการของแพรไหมและภูริชเริ่มส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างเห็นได้ชัด ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้สร้างรอยร้าวเล็กๆ ในความรักที่เคยแข็งแกร่ง
การแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการแทรกแซงข้อมูลในระบบงานกินเวลานานกว่าที่คาดไว้มาก ทีมงานต้องทำงานหนักขึ้นหลายเท่าตัว เพื่อตรวจสอบทุกรายละเอียดของแผนผังอาคารและข้อมูลวัสดุที่เกี่ยวข้อง อลิสาในฐานะหัวหน้าโปรเจกต์ต้องรับผิดชอบโดยตรง เธอต้องทำงานล่วงเวลาแทบทุกคืน และบางครั้งก็แทบไม่ได้พักผ่อนเลย ร่างกายที่อ่อนล้าสะท้อนถึงภาระอันหนักอึ้งที่เธอต้องแบกรับ
"ลิซครับ พักบ้างนะ" คีรินทร์เอ่ยด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นอลิสานั่งก้มหน้าอยู่หน้าคอมพิวเตอร์จนดึกดื่นในห้องทำงานที่บริษัท แสงไฟจากจอคอมพิวเตอร์ส่องกระทบใบหน้าซีดเซียวของเธอ บ่งบอกถึงความเหนื่อยล้าที่สะสม คีรินทร์เองก็ได้รับผลกระทบจากความล่าช้าและค่าใช้จ่ายที่บานปลาย เขาต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในการแก้ไขปัญหาทางธุรกิจ รับมือกับผลกระทบจากข่าวลือที่แพรไหมปล่อยออกไป และคอยควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เลวร้ายไปกว่าเดิม เขาแทบไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวเลย
ความเครียดจากการทำงานที่หนักหน่วงเริ่มส่งผลต่อทั้งคู่ อลิสาเริ่มมีอาการนอนไม่หลับ กระสับกระส่ายในยามค่ำคืน และมักจะหงุดหงิดง่ายกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ปกติเธอจะไม่เคยเป็น ส่วนคีรินทร์ก็ต้องรับมือกับความกดดันจากผู้ถือหุ้นที่เริ่มตั้งคำถามถึงความสามารถในการบริหารจัดการของเขา รวมถึงพนักงานที่เริ่มไม่มั่นใจในอนาคตของบริษัท ความตึงเครียดนี้ค่อยๆ แทรกซึมเข้ามาในความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างช้าๆ ทำให้บรรยากาศระหว่างกันเริ่มอึมครึม
บางครั้งในยามที่พวกเขาได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพัง ความเงียบก็เข้ามาแทนที่บทสนทนาที่เคยเต็มไปด้วยความรักและความสนุกสนาน พวกเขาทั้งคู่ต่างจมอยู่กับความคิดและความกังวลของตัวเอง จนบางครั้งก็ลืมที่จะหันมาแบ่งปันความรู้สึกกับอีกฝ่าย
เมื่อความเครียดสะสมมากขึ้น ความอดทนของทั้งคู่ก็เริ่มลดลง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งเป็นผลพวงจากความกดดันที่ถาโถมเข้ามา
วันหนึ่ง คีรินทร์กำลังยุ่งอยู่กับการประชุมลับกับผู้ถือหุ้นคนสำคัญเพื่อชี้แจงสถานการณ์วิกฤตของโปรเจกต์ เขาต้องพยายามอย่างหนักเพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นของพวกเขา ทำให้เขาพลาดนัดดินเนอร์ที่เคยตกลงกับอลิสาไว้ เพื่อเป็นการผ่อนคลายจากความเครียด อลิสารอเขาอยู่ที่ร้านอาหารอยู่นานเกือบสองชั่วโมง โต๊ะอาหารที่จองไว้ยังคงว่างเปล่า เมื่อถึงเวลาที่ร้านใกล้จะปิด เธอจึงต้องกลับคอนโดด้วยความผิดหวังและน้อยใจที่ถูกทิ้งให้รอ
เมื่อคีรินทร์กลับมาถึงคอนโดในสภาพเหนื่อยอ่อน ใบหน้าของเขาหมองคล้ำและไร้เรี่ยวแรง เขาพบอลิสานั่งเงียบๆ อยู่บนโซฟาในความมืด มีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องรอดเข้ามาทางหน้าต่าง คีรินทร์พยายามจะอธิบาย "ลิซครับ พี่ขอโทษนะ พอดีมีการประชุมด่วนจริงๆ พี่เพิ่งเสร็จเมื่อกี้เอง ขอโทษที่ทำให้รอนะครับ" น้ำเสียงของเขาอ่อนล้าและเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
อลิสาถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ลิซเข้าใจค่ะพี่คีรินทร์ แต่ลิซก็รอพี่นานมากเลยนะคะ ลิซรู้สึก... เหมือนถูกทิ้งไว้คนเดียว" น้ำเสียงของเธอแฝงด้วยความน้อยใจอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นสิ่งที่คีรินทร์ไม่เคยได้ยินจากเธอมาก่อน เขาจึงรู้สึกผิดและอึดอัดใจอย่างมากที่ไม่สามารถดูแลความรู้สึกของเธอได้ในยามที่เธอต้องการ
นอกจากนี้ ภูริชยังคงส่งข้อความและโทรศัพท์มาให้กำลังใจอลิสาอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่เธอเผชิญกับความเครียดสูง เขามักจะใช้คำพูดที่ดูห่วงใยและเข้าใจสถานการณ์ของเธอเป็นอย่างดี คีรินทร์เห็นการติดต่อเหล่านั้น และแม้จะพยายามเชื่อใจอลิสาว่าเธอไม่มีอะไรกับภูริช แต่ในใจลึกๆ เขาก็ยังคงรู้สึกไม่สบายใจและมีความระแวงเล็กน้อย
"ภูริชโทรมาทำไมบ่อยจังครับช่วงนี้" คีรินทร์ถามขึ้นมาเบาๆ ในคืนหนึ่งขณะที่กำลังทานอาหารเช้าด้วยกัน เขาวางช้อนลงช้าๆ และจ้องมองอลิสา
อลิสาวางช้อนลงเช่นกัน น้ำเสียงของเธอเริ่มแข็งขึ้นเล็กน้อย เพราะรู้สึกว่าคีรินทร์ไม่ไว้ใจเธอ "เขาก็แค่โทรมาถามไถ่เรื่องงานค่ะพี่คีรินทร์ เขาก็เป็นห่วงเรื่องโปรเจกต์ที่เรากำลังเจออยู่" เธอพยายามตอบอย่างใจเย็น แต่ภายในใจก็รู้สึกอึดอัด
ความเข้าใจผิดเล็กๆ เหล่านี้เริ่มสะสม ทำให้เกิดช่องว่างเล็กๆ ในความสัมพันธ์ของพวกเขา ทั้งคู่ต่างต้องรับมือกับความเครียดจากงานและอุปสรรคภายนอก ทำให้บางครั้งก็มองข้ามความรู้สึกของอีกฝ่ายไปโดยไม่ตั้งใจ พวกเขาเริ่มหลงลืมที่จะหันมาให้กำลังใจและเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างที่เคยเป็นมา ความกดดันจากแพรไหมและภูริชกำลังส่งผลกระทบต่อความรักของพวกเขาอย่างที่ศัตรูต้องการ
ตอนพิเศษ งานวิวาห์ของธาราและอิงดาวเสียงดนตรีไทยบรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู กลิ่นหอมของดอกมะลิและดอกกล้วยไม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเรือนไทยโบราณที่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผ้าไหมสีทองและดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับเครื่องประดับทองคำที่เจ้าสาวสวมใส่ ส่องประกายเป็นประกายระยิบระยับวันนี้เป็นวันสำคัญ วันที่หัวใจสองดวงจะผูกพันกันชั่วนิรันดร์ วันวิวาห์ของธาราและอิงดาวหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกังวลของครอบครัว ความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง และแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีคีรินทร์และอลิสาพ่อแม่ของธารา รู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมากเมื่อลูกชายสารภาพว่าเขารักอิงดาวเกินกว่าคำว่าน้องสาว“ธาราลูก ลูกแน่ใจหรือ” อลิสาถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจในวันนั้น “อิงดาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรานะลูก”คีรินทร์เองก็เสริม “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะลูก มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจกับครอบครัวเราได้”ทางด้านมิ้นท์และปกรณ์ พ่อแม่ของอิงดาว ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก โดยเฉพาะมิ้นท์ที่เป็น
ตอนที่ 131 ธาราสารภาพรักอิงดาว (ตอนจบ)สายลมยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ พัดเอื่อยๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของธารา แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงสลัวๆ ส่องกระทบกับใบหน้าของธาราและอิงดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ได้ยินหลังจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจเริ่มคลี่คลาย และอิงดาวได้ยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไปแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างธาราและอิงดาวก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น สัญญาณจากใจที่ทั้งคู่ส่งออกมาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่กำแพงที่มองไม่เห็นของความเป็นลูกพี่ลูกน้องก็ยังคงกั้นขวางอยู่วันนี้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับจากการทานอาหารค่ำด้วยกัน ธารารู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดความในใจออกไป เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าธาราสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนอิงดาวรู้สึกได้อิงดาวหันมามองธารา ใบหน้าข
ตอนที่ 130 สัญญาณจากใจหลังจากอิงดาวยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ยังคงใช้เวลาอยู่กับธารามากขึ้น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น ความรู้สึกระหว่างธาราและอิงดาวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อน มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการมองตาที่ยาวนานกว่าปกติ การสัมผัสกันโดยบังเอิญที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือบทสนทนาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นพี่น้อง ธารายังคงไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป แต่อิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง บทสรุปของตอนนี้จะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้อ่านลุ้นว่าความสัมพันธ์ของธาราและอิงดาวจะก้าวไปในทิศทางใดต่อไปในอนาคตสายลมยามเย็นพัดโชยอ่อนเข้ามาในระเบียงคอนโดมิเนียมของธารา แสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนฟ้า อิงดาวนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดของธารา ส่วนธารากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางธุรกิจของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย
ตอนที่ 129 ความรักที่ต้องเลือกอิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเองวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิก
ตอนที่ 128 เมื่ออิงดาวต้องการที่พึ่งจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจ อิงดาวรู้สึกท้อแท้และเปราะบางมาก เธอเริ่มรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้ให้กำลังใจเธอเท่าที่ควร หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญหน้า อิงดาวหันมาพึ่งพาธารามากขึ้นเธอระบายความในใจและความกังวลให้กับธาราฟัง ธารารับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เขากอดอิงดาวแน่นเพื่อปลอบประโลม เมื่ออิงดาวได้อยู่ในอ้อมกอดของธารา เธอกลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธาราเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอิงดาวเสียใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอเสียงฝนพรำนอกหน้าต่างห้องทำงานของอิงดาวในค่ำคืนที่เงียบสงัด สะท้อนกับหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตาของเธอ รายงานตัวเลขผลประกอบการที่แสดงถึงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องวางแผ่บนโต๊ะ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกท้อแท้และเปราะบางในใจของเธอ วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้อิงดาวรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความสิ้นหวังเธอพยายามที่จะเข้มแข็ง พยายามที่จะยิ้มและให้กำลังใจทีมงาน แต่ลึกๆ แล้ว เธอกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับไหว เธอพยายามโทรหาพฤกษ์
ตอนที่ 127 โอกาสที่ใกล้ชิดเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่