เมื่อหลักฐานทั้งหมดถูกเปิดเผยอย่างหมดเปลือกในห้องประชุมลับ บรรยากาศภายในห้องนั้นหนักอึ้งไปด้วยความอับอายและความโกรธแค้น แพรไหมและภูริชนั่งตัวแข็งอยู่กับที่ ใบหน้าซีดเผือด ไม่สามารถปฏิเสธความผิดของตัวเองได้อีกต่อไป ทุกสายตาของผู้บริหารและผู้ถือหุ้นต่างจับจ้องมาที่พวกเขาด้วยความรังเกียจและความผิดหวัง
คีรินทร์มองไปยังแพรไหมและภูริชด้วยสายตาที่ไร้ซึ่งความปรานี “หลักฐานที่พวกคุณเห็นทั้งหมดนี้ ชัดเจนเพียงพอที่จะเอาผิดพวกคุณได้ทั้งทางกฎหมายและทางจริยธรรม” น้ำเสียงของเขาหนักแน่นและเด็ดขาด
“การกระทำของพวกคุณไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายทางการเงินให้กับบริษัทอย่างมหาศาล แต่ยังทำลายความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงที่เราสร้างสมมาอย่างยาวนาน”
เสียงซุบซิบและเสียงแสดงความไม่พอใจของผู้เข้าร่วมประชุมดังขึ้นเรื่อยๆ แพรไหมพยายามเงยหน้าขึ้นมาพูดอะไรบางอย่าง แต่คำพูดกลับติดอยู่ในลำคอ ความมั่นใจที่เคยมีหายไปสิ้น เหลือเพียงความหวาดกลัวและสิ้นหวัง ส่วนภูริชได้แต่ก้มหน้าหลบสายตา ไม่กล้าสบตาใคร
“ในฐานะประธานกรรมการบริษัท ผมขอประกาศว่า คุณแพรไหมและคุณภูริชจะถูกปลดออกจากตำแหน่งทั้งหมดโดยมีผลทันที” คีรินทร์ประกาศก้อง “และทางบริษัทจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับพวกคุณทั้งสองอย่างถึงที่สุด เพื่อเรียกคืนความเสียหายและเพื่อความยุติธรรม”
เสียงเฮือกแห่งความตกใจดังขึ้นจากแพรไหมและภูริช พวกเขาไม่คิดว่าบทลงโทษจะรวดเร็วและรุนแรงขนาดนี้ ใบหน้าของแพรไหมที่เคยสวยสง่าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธแค้นปนความเจ็บปวด เธอพยายามจะลุกขึ้นโวยวาย แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประจำอยู่ในห้องประชุมก็ได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์อย่างรวดเร็ว
“ไม่! คุณทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้นะคีรินทร์!” แพรไหมตะโกนเสียงแหลม ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาและโทสะ “ฉันไม่ยอม! แกกับอลิสาต้องชดใช้!”
ภูริชเองก็ล้มตัวลงนั่งหมดเรี่ยวแรง เขารู้ว่าเกมจบลงแล้ว ทุกสิ่งที่เขาสร้างมาถูกทำลายลงในพริบตาเดียว ชื่อเสียงที่เคยมี ตำแหน่งที่เคยภาคภูมิใจ ทุกอย่างสูญสิ้นไปพร้อมกับความจริงที่ถูกเปิดเผย
เขาได้รับผลกรรมจากการกระทำของตนเองทันที อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ถูกไล่ออกจากตำแหน่ง และสูญเสียทุกสิ่งที่เคยมี ชื่อเสียงที่สร้างมาพังทลายลงในพริบตา
ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับการตัดสินใจของคีรินทร์ ไม่มีใครอยากให้ผู้ที่ทุจริตและคิดร้ายมาอยู่ภายในองค์กรอีกต่อไป เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ได้เข้ามาดำเนินการในส่วนของคดีความทันที โดยมีหลักฐานที่อลิสาและคีรินทร์รวบรวมมาได้อย่างครบถ้วนเป็นเครื่องยืนยันความผิด
อลิสามองภาพที่เกิดขึ้นด้วยความรู้สึกหลากหลายปนกันไป ความเจ็บปวดที่ถูกเพื่อนและคนที่เคยเชื่อใจทรยศหักหลังยังคงมีอยู่ แต่ก็ถูกแทนที่ด้วยความโล่งใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อเห็นว่าศัตรูได้รับผลกรรมของตัวเองในที่สุด เธอรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก โล่งอกที่ความจริงปรากฏ และความยุติธรรมได้รับการผดุงไว้
สำหรับโปรเจกต์อาคารสำนักงานใหญ่ที่เกือบจะพังทลายไปพร้อมกับแผนการร้ายของแพรไหมและภูริช หลังจากเหตุการณ์นี้ ทีมงานทั้งหมดก็กลับมาทำงานอย่างเต็มกำลัง
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะกอบกู้ชื่อเสียงของบริษัทและโปรเจกต์ โครงการเดินหน้าต่อไปได้ และสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีในที่สุดอย่างสวยงาม อลิสาและคีรินทร์พิสูจน์ความสามารถและความบริสุทธิ์ของตนเองได้สำเร็จ ทำให้พวกเขาได้รับความเชื่อมั่นและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในวงการธุรกิจ ไม่เพียงแต่ในด้านความสามารถเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความซื่อสัตย์และคุณธรรม
หลังจากการประชุมที่แสนตึงเครียดสิ้นสุดลง และทุกอย่างคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา
อลิสาและคีรินทร์ก็พากันกลับมาที่ห้องทำงานส่วนตัวของคีรินทร์ บรรยากาศในห้องเงียบสงบ แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกของการปลดปล่อยและความสุขที่เอ่อล้น
ทันทีที่ประตูห้องปิดลง คีรินทร์ก็เดินเข้าไปหาอลิสาทันที เขาดึงเธอเข้ามากอดอย่างแนบแน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ กอดที่เต็มไปด้วยความโล่งใจ ความภาคภูมิใจ และความรักอันลึกซึ้งที่เขามีต่อเธอ
อลิสาเองก็โอบกอดตอบเขาแน่น ซบหน้าลงกับอกแกร่งของเขา ปล่อยให้น้ำตาแห่งความสุขและความรู้สึกทั้งหมดที่อัดอั้นมานานไหลออกมาอย่างเงียบๆ
“เราทำได้แล้วนะลิซ” คีรินทร์กระซิบเสียงแผ่ว พลางลูบไล้เส้นผมของเธอเบาๆ “เราทำมันสำเร็จแล้วจริงๆ”
อลิสาเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาของเธอแดงก่ำและมีน้ำตาคลอ คีรินทร์ใช้ปลายนิ้วโป้งค่อยๆ เช็ดน้ำตาที่รื้นขึ้นมาบนดวงตาของเธออย่างอ่อนโยน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรักและความอ่อนโยนที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างที่สุด
“ค่ะพี่คี เราทำได้แล้ว” อลิสาพูดเสียงสั่นเครือ “ขอบคุณนะคะ ขอบคุณจริงๆ ที่อยู่ข้างลิซมาตลอด”
คีรินทร์ยิ้มให้เธอ ก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากเธออย่างแผ่วเบา แล้วค่อยๆ เลื่อนลงมาประทับริมฝีปากบนริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ การจูบในฉากนี้เป็นการปลดปล่อยความเครียดทั้งหมดที่สะสมมา เป็นการยืนยันความรักที่เติบโตขึ้นจากการผ่านพ้นอุปสรรคอันใหญ่หลวงมาด้วยกัน มันเป็นการจูบที่นุ่มนวล แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
ทั้งความโล่งใจ ความสุข ความภาคภูมิใจ และความรักอันบริสุทธิ์ที่ไม่มีอะไรมาทำลายได้อีกแล้ว ลิ้นของพวกเขาเกี่ยวพันกันอย่างอ่อนโยน สัมผัสถึงรสชาติแห่งชัยชนะและความผูกพันที่ไม่มีวันจางหาย
มือของคีรินทร์เลื่อนลงมาโอบรัดเอวเธอแน่นขึ้น ขณะที่อลิสาก็ใช้แขนโอบรอบคอเขา เธอหลับตาลง ซึมซับทุกสัมผัสและทุกความรู้สึกที่เขาส่งผ่านมา การได้อยู่ในอ้อมกอดของเขาคือความปลอดภัยที่สุดสำหรับเธอ ความรักของพวกเขาได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าแข็งแกร่งกว่าแผนร้ายใดๆ และความสุขที่แท้จริงกำลังจะเริ่มต้นขึ้นนับจากนี้ไป
ตอนพิเศษ งานวิวาห์ของธาราและอิงดาวเสียงดนตรีไทยบรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู กลิ่นหอมของดอกมะลิและดอกกล้วยไม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเรือนไทยโบราณที่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผ้าไหมสีทองและดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับเครื่องประดับทองคำที่เจ้าสาวสวมใส่ ส่องประกายเป็นประกายระยิบระยับวันนี้เป็นวันสำคัญ วันที่หัวใจสองดวงจะผูกพันกันชั่วนิรันดร์ วันวิวาห์ของธาราและอิงดาวหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกังวลของครอบครัว ความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง และแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีคีรินทร์และอลิสาพ่อแม่ของธารา รู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมากเมื่อลูกชายสารภาพว่าเขารักอิงดาวเกินกว่าคำว่าน้องสาว“ธาราลูก ลูกแน่ใจหรือ” อลิสาถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจในวันนั้น “อิงดาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรานะลูก”คีรินทร์เองก็เสริม “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะลูก มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจกับครอบครัวเราได้”ทางด้านมิ้นท์และปกรณ์ พ่อแม่ของอิงดาว ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก โดยเฉพาะมิ้นท์ที่เป็น
ตอนที่ 131 ธาราสารภาพรักอิงดาว (ตอนจบ)สายลมยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ พัดเอื่อยๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของธารา แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงสลัวๆ ส่องกระทบกับใบหน้าของธาราและอิงดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ได้ยินหลังจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจเริ่มคลี่คลาย และอิงดาวได้ยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไปแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างธาราและอิงดาวก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น สัญญาณจากใจที่ทั้งคู่ส่งออกมาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่กำแพงที่มองไม่เห็นของความเป็นลูกพี่ลูกน้องก็ยังคงกั้นขวางอยู่วันนี้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับจากการทานอาหารค่ำด้วยกัน ธารารู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดความในใจออกไป เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าธาราสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนอิงดาวรู้สึกได้อิงดาวหันมามองธารา ใบหน้าข
ตอนที่ 130 สัญญาณจากใจหลังจากอิงดาวยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ยังคงใช้เวลาอยู่กับธารามากขึ้น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น ความรู้สึกระหว่างธาราและอิงดาวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อน มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการมองตาที่ยาวนานกว่าปกติ การสัมผัสกันโดยบังเอิญที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือบทสนทนาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นพี่น้อง ธารายังคงไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป แต่อิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง บทสรุปของตอนนี้จะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้อ่านลุ้นว่าความสัมพันธ์ของธาราและอิงดาวจะก้าวไปในทิศทางใดต่อไปในอนาคตสายลมยามเย็นพัดโชยอ่อนเข้ามาในระเบียงคอนโดมิเนียมของธารา แสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนฟ้า อิงดาวนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดของธารา ส่วนธารากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางธุรกิจของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย
ตอนที่ 129 ความรักที่ต้องเลือกอิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเองวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิก
ตอนที่ 128 เมื่ออิงดาวต้องการที่พึ่งจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจ อิงดาวรู้สึกท้อแท้และเปราะบางมาก เธอเริ่มรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้ให้กำลังใจเธอเท่าที่ควร หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญหน้า อิงดาวหันมาพึ่งพาธารามากขึ้นเธอระบายความในใจและความกังวลให้กับธาราฟัง ธารารับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เขากอดอิงดาวแน่นเพื่อปลอบประโลม เมื่ออิงดาวได้อยู่ในอ้อมกอดของธารา เธอกลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธาราเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอิงดาวเสียใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอเสียงฝนพรำนอกหน้าต่างห้องทำงานของอิงดาวในค่ำคืนที่เงียบสงัด สะท้อนกับหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตาของเธอ รายงานตัวเลขผลประกอบการที่แสดงถึงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องวางแผ่บนโต๊ะ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกท้อแท้และเปราะบางในใจของเธอ วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้อิงดาวรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความสิ้นหวังเธอพยายามที่จะเข้มแข็ง พยายามที่จะยิ้มและให้กำลังใจทีมงาน แต่ลึกๆ แล้ว เธอกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับไหว เธอพยายามโทรหาพฤกษ์
ตอนที่ 127 โอกาสที่ใกล้ชิดเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่