หลังจากที่แพรไหมและภูริชได้รับผลกรรมจากการกระทำของตนเองในห้องประชุมลับ และถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด อลิสาและคีรินทร์ก็รู้ดีว่านี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการต่อสู้พวกเขาจำเป็นต้องกอบกู้ชื่อเสียงของบริษัทและของตนเองที่ถูกทำลายไปให้กลับคืนมาอย่างสมบูรณ์ และการจะทำเช่นนั้นได้คือการนำความจริงทั้งหมดออกสู่สาธารณชน
คีรินทร์ในฐานะประธานกรรมการบริษัท จัดงานแถลงข่าวใหญ่ขึ้นในวันรุ่งขึ้นทันที ห้องแถลงข่าวในโรงแรมหรูใจกลางเมืองเต็มไปด้วยสื่อมวลชนจากทุกสำนัก ผู้บริหารระดับสูง และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ให้ความสนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความคาดหวังและความตึงเครียด
อลิสาและคีรินทร์เดินขึ้นไปบนเวทีอย่างสง่างาม ทั้งคู่สวมชุดที่ดูภูมิฐานและมั่นคง แต่สิ่งที่โดดเด่นยิ่งกว่าคือสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในกันและกัน คีรินทร์โอบเอวอลิสาอย่างทะนุถนอมและมั่นคง ทำให้ผู้ที่มาร่วมงานรับรู้ได้ถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของทั้งคู่
“สวัสดีครับทุกท่าน” คีรินทร์เริ่มกล่าวเปิดงานแถลงข่าวด้วยน้ำเสียงกังวานและทรงพลัง
“วันนี้ผมและคุณอลิสาตั้งใจจะมาแถลงข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับโปรเจกต์อาคารสำนักงานใหญ่ของเรา และข้อกล่าวหาที่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัทและของคุณอลิสาโดยตรง”
สื่อมวลชนต่างหยิบกล้องและปากกาขึ้นมาเตรียมพร้อมบันทึกทุกถ้อยคำ ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นต่างจับจ้องมาที่พวกเขาด้วยความสนใจ
อลิสาเริ่มนำเสนอข้อมูลในส่วนของเธอ ด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนและมั่นคง เธอไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวหรือประหม่าแม้แต่น้อย
“จากข่าวลือที่เผยแพร่ออกไปก่อนหน้านี้ว่าดิฉันทุจริตและนำข้อมูลความลับของบริษัทไปเปิดเผยนั้น ไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อยค่ะ”
เธอฉายหลักฐานชิ้นแรกขึ้นบนจอขนาดใหญ่ เป็นหลักฐานการสื่อสารระหว่างแพรไหมกับนักข่าวบางคนที่จงใจปล่อยข่าวลือเท็จ และหลักฐานการสร้างบัญชีอีเมลปลอมที่ส่งจดหมายบิดเบือนข้อมูลไปยังผู้บริหารและผู้ถือหุ้น “นี่คือหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าคุณแพรไหมเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปล่อยข่าวเท็จและสร้างความเข้าใจผิดเพื่อทำลายชื่อเสียงของดิฉันโดยตรงค่ะ”
เสียงฮือฮาดังขึ้นในห้องแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวต่างพากันกดชัตเตอร์ไม่หยุด ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นต่างแสดงสีหน้าตกใจ
คีรินทร์รับช่วงต่อ “และในส่วนของปัญหาที่เกิดขึ้นกับโปรเจกต์ ทั้งความล่าช้าในการจัดส่งวัสดุ หรือการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในระบบ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายกับบริษัทนั้น” เขาฉายภาพวิดีโอวงจรปิดที่บันทึกภาพภูริชกำลังแอบแก้ไขข้อมูลในระบบ และหลักฐานการโอนเงินที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างชัดเจน
“หลักฐานเหล่านี้ยืนยันได้ว่า คุณภูริชคือผู้ที่จงใจก่อวินาศกรรมโปรเจกต์ โดยการเปลี่ยนแปลงข้อมูลการจัดซื้อวัสดุ และมีการยักยอกเงินจากส่วนต่างที่เกิดขึ้น” คีรินทร์อธิบายเสียงดังฟังชัด
“และจากหลักฐานทั้งหมดที่พวกคุณเห็น คุณแพรไหมและคุณภูริชได้ร่วมมือกันวางแผนร้าย เพื่อทำลายโปรเจกต์ของเรา และสร้างความเสียหายให้กับบริษัทอย่างมหาศาล”
ภาพถ่ายการนัดพบของแพรไหมกับคุณชูชาติถูกฉายขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขา และการร่วมมือกันในการทุจริตในโครงการอื่นๆ ที่ถูกค้นพบเพิ่มเติมระหว่างการสอบสวน ภาพทั้งหมดถูกนำเสนออย่างเป็นระบบและชัดเจน ทำให้ทุกคนในห้องแถลงข่าวไม่มีข้อสงสัยในความผิดของแพรไหมและภูริชเลยแม้แต่น้อย
ความจริงปรากฏสู่สายตาคนทั่วไป สร้างความตกตะลึงและโกรธเคืองอย่างกว้างขวางต่อการกระทำของแพรไหมและภูริช
สื่อมวลชนต่างพากันนำเสนอข่าวนี้พาดหัวใหญ่ในทุกช่องทาง ประณามการกระทำของทั้งคู่ และยกย่องการกระทำของอลิสาและคีรินทร์ที่กล้าหาญในการเปิดโปงความจริง การกอบกู้ชื่อเสียงของบริษัทดำเนินไปอย่างรวดเร็ว โปรเจกต์อาคารสำนักงานใหญ่ที่เคยเป็นประเด็นร้อน ก็กลับมาได้รับความเชื่อมั่นจากสาธารณชนอีกครั้ง
บนเวทีท่ามกลางสายตาผู้คนนับร้อยที่กำลังมองมาด้วยความชื่นชม คีรินทร์ยืนเคียงข้างอลิสาตลอดเวลา เขายังคงโอบเอวเธออย่างทะนุถนอมและมั่นคง ราวกับเป็นผู้พิทักษ์ที่พร้อมปกป้องเธอจากทุกสิ่ง สายตาที่เขามองเธอเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและความรักอันลึกซึ้ง ความรู้สึกที่สื่อออกมาจากแววตาของเขานั้นบริสุทธิ์และชัดเจน จนทุกคนสัมผัสได้ถึงความผูกพันอันแน่นแฟ้นระหว่างคนทั้งสอง
อลิสาส่งยิ้มบางๆ ให้เขา เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเชื่อใจ ความโล่งใจที่ผ่านพ้นวิกฤตมาด้วยกัน และความสุขที่ได้เห็นความจริงปรากฏต่อสาธารณชน เธอซบศีรษะลงบนไหล่ของคีรินทร์เล็กน้อยอย่างเป็นธรรมชาติ แสดงออกถึงความสบายใจที่ได้อยู่ใกล้เขา
“ขอบคุณทุกท่านที่เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของบริษัทและของพวกเรานะครับ” คีรินทร์กล่าวสรุปด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข “เราขอสัญญาว่า เราจะดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์โปร่งใส และจะนำพาบริษัทให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปในอนาคตครับ”
เสียงปรบมือดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วห้องแถลงข่าว อลิสาและคีรินทร์ยืนรับเสียงชื่นชมนั้นด้วยหัวใจที่พองโต นี่ไม่ใช่แค่ชัยชนะทางธุรกิจ แต่เป็นชัยชนะของความจริง ความดีงาม และความรักที่มั่นคงของพวกเขา
ฉากนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของความรักที่เอาชนะทุกสิ่ง ความรักที่ทำให้คนสองคนจับมือกันฝ่าฟันอุปสรรคที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิต และก้าวขึ้นสู่เวทีแห่งชัยชนะร่วมกัน ความสามัคคีและความเชื่อใจที่มีให้กันทำให้พวกเขาแข็งแกร่งพอที่จะเปิดโปงความจริงและได้รับความยุติธรรมกลับคืนมา ความรักของอลิสาและคีรินทร์ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นแรงบันดาลใจที่พิสูจน์ให้เห็นว่าความจริงใจและความซื่อสัตย์จะนำพาไปสู่ชัยชนะเสมอ
ตอนพิเศษ งานวิวาห์ของธาราและอิงดาวเสียงดนตรีไทยบรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู กลิ่นหอมของดอกมะลิและดอกกล้วยไม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเรือนไทยโบราณที่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผ้าไหมสีทองและดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับเครื่องประดับทองคำที่เจ้าสาวสวมใส่ ส่องประกายเป็นประกายระยิบระยับวันนี้เป็นวันสำคัญ วันที่หัวใจสองดวงจะผูกพันกันชั่วนิรันดร์ วันวิวาห์ของธาราและอิงดาวหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกังวลของครอบครัว ความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง และแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีคีรินทร์และอลิสาพ่อแม่ของธารา รู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมากเมื่อลูกชายสารภาพว่าเขารักอิงดาวเกินกว่าคำว่าน้องสาว“ธาราลูก ลูกแน่ใจหรือ” อลิสาถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจในวันนั้น “อิงดาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรานะลูก”คีรินทร์เองก็เสริม “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะลูก มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจกับครอบครัวเราได้”ทางด้านมิ้นท์และปกรณ์ พ่อแม่ของอิงดาว ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก โดยเฉพาะมิ้นท์ที่เป็น
ตอนที่ 131 ธาราสารภาพรักอิงดาว (ตอนจบ)สายลมยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ พัดเอื่อยๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของธารา แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงสลัวๆ ส่องกระทบกับใบหน้าของธาราและอิงดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ได้ยินหลังจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจเริ่มคลี่คลาย และอิงดาวได้ยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไปแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างธาราและอิงดาวก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น สัญญาณจากใจที่ทั้งคู่ส่งออกมาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่กำแพงที่มองไม่เห็นของความเป็นลูกพี่ลูกน้องก็ยังคงกั้นขวางอยู่วันนี้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับจากการทานอาหารค่ำด้วยกัน ธารารู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดความในใจออกไป เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าธาราสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนอิงดาวรู้สึกได้อิงดาวหันมามองธารา ใบหน้าข
ตอนที่ 130 สัญญาณจากใจหลังจากอิงดาวยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ยังคงใช้เวลาอยู่กับธารามากขึ้น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น ความรู้สึกระหว่างธาราและอิงดาวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อน มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการมองตาที่ยาวนานกว่าปกติ การสัมผัสกันโดยบังเอิญที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือบทสนทนาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นพี่น้อง ธารายังคงไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป แต่อิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง บทสรุปของตอนนี้จะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้อ่านลุ้นว่าความสัมพันธ์ของธาราและอิงดาวจะก้าวไปในทิศทางใดต่อไปในอนาคตสายลมยามเย็นพัดโชยอ่อนเข้ามาในระเบียงคอนโดมิเนียมของธารา แสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนฟ้า อิงดาวนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดของธารา ส่วนธารากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางธุรกิจของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย
ตอนที่ 129 ความรักที่ต้องเลือกอิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเองวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิก
ตอนที่ 128 เมื่ออิงดาวต้องการที่พึ่งจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจ อิงดาวรู้สึกท้อแท้และเปราะบางมาก เธอเริ่มรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้ให้กำลังใจเธอเท่าที่ควร หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญหน้า อิงดาวหันมาพึ่งพาธารามากขึ้นเธอระบายความในใจและความกังวลให้กับธาราฟัง ธารารับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เขากอดอิงดาวแน่นเพื่อปลอบประโลม เมื่ออิงดาวได้อยู่ในอ้อมกอดของธารา เธอกลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธาราเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอิงดาวเสียใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอเสียงฝนพรำนอกหน้าต่างห้องทำงานของอิงดาวในค่ำคืนที่เงียบสงัด สะท้อนกับหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตาของเธอ รายงานตัวเลขผลประกอบการที่แสดงถึงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องวางแผ่บนโต๊ะ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกท้อแท้และเปราะบางในใจของเธอ วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้อิงดาวรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความสิ้นหวังเธอพยายามที่จะเข้มแข็ง พยายามที่จะยิ้มและให้กำลังใจทีมงาน แต่ลึกๆ แล้ว เธอกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับไหว เธอพยายามโทรหาพฤกษ์
ตอนที่ 127 โอกาสที่ใกล้ชิดเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่