เมื่อคลื่นเล็กๆ ซัดเข้ามาในชีวิตคู่ของแต่ละฝ่าย อลิสาและคีรินทร์ รวมถึงมิ้นท์และปกรณ์ ต่างเผชิญกับบททดสอบของตนเอง แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาก้าวผ่านช่วงเวลาเหล่านี้ไปได้คือ สะพานแห่งมิตรภาพ ที่แข็งแกร่งของคนทั้งสี่ พวกเขาเรียนรู้ที่จะแบ่งปันประสบการณ์ ให้คำแนะนำ และเป็นกำลังใจให้กันและกัน ทำให้แต่ละคู่สามารถเข้าใจความแตกต่างในความสัมพันธ์ของตนเองและของเพื่อนๆ ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
หลังจากเหตุการณ์ความเห็นไม่ตรงกันเรื่องโปรเจกต์ Green City อลิสายังคงรู้สึกไม่สบายใจ แม้คีรินทร์จะพยายามปรับความเข้าใจแล้วก็ตาม เธอตัดสินใจโทรศัพท์ไปหามิ้นท์เพื่อนสนิท เพื่อระบายความรู้สึก
“มิ้นท์ลิซรู้สึกแย่จังเลย” อลิสาเปิดบทสนทนาด้วยน้ำเสียงที่ดูเศร้าสร้อย
“เป็นอะไรไปลิซ” มิ้นท์ถามด้วยความเป็นห่วงทันที
อลิสาเล่าเรื่องที่เธอมีความเห็นไม่ตรงกับคีรินทร์เรื่องงบประมาณและทิศทางของโปรเจกต์ เธอบอกว่าเธอรู้สึกว่าคีรินทร์ไม่เข้าใจวิสัยทัศน์ของเธอ
“ลิซก็เข้าใจว่าพี่คีกังวลเรื่องงบประมาณนะ แต่ลิซแค่รู้สึกว่าถ้าเราจะทำอะไร เราก็ควรจะทำให้ดีที่สุดไปเลย” อลิสาระบายความรู้สึก
มิ้นท์รับฟังอย่างตั้งใจ เธอเองก็เคยเผชิญกับปัญหาคล้ายๆ กันกับพี่ปกรณ์ ที่บางครั้งก็มีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องการใช้จ่ายหรือการตัดสินใจต่างๆ
“ลิซเอ๊ย มิ้นท์เข้าใจความรู้สึกของลิซเลย บางทีผู้ชายเขาอาจจะแค่ต้องการให้เราค่อยๆ อธิบาย หรือหาจุดที่ลงตัวร่วมกัน” มิ้นท์ปลอบใจ “ลองให้เวลาเขาได้คิดทบทวนดูอีกทีไหม หรือไม่ก็ลองหาจังหวะที่ผ่อนคลายกว่านี้ คุยกันใหม่”
คำแนะนำของมิ้นท์ทำให้อลิสาเริ่มมองเห็นมุมมองที่แตกต่างออกไป เธอตระหนักว่าบางทีความมุ่งมั่นของเธอก็อาจทำให้เธอดูแข็งกร้าวเกินไปจนคีรินทร์ไม่กล้าที่จะเสนอความคิดเห็นได้ถนัดนัก
“ขอบคุณนะมิ้นท์ ลิซรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย” อลิสาพูดด้วยน้ำเสียงที่สดใสขึ้น
ในขณะที่สองสาวกำลังปรึกษาหารือกัน สองหนุ่มอย่างคีรินทร์และปกรณ์ก็กำลังระบายความรู้สึกให้กันฟังเช่นกัน คีรินทร์รู้สึกหนักใจที่อลิสาดูเหมือนจะไม่เข้าใจเหตุผลของตนในเรื่องโปรเจกต์ ในขณะที่ปกรณ์ก็ยังคงรู้สึกหงุดหงิดกับความจุกจิกของมิ้นท์ในเรื่องชีวิตประจำวัน
“ปกรณ์ฉันไม่รู้จะทำยังไงกับลิซเลย” คีรินทร์ถอนหายใจ “ฉันก็แค่อยากให้โปรเจกต์มันออกมาดีที่สุดในงบประมาณที่เรามี แต่ลิซเธอก็ดูเหมือนจะไม่ยอมผ่อนปรนเลย”
ปกรณ์พยักหน้า เขารับฟังอย่างตั้งใจ “คีรินทร์ครับ แกเข้าใจเลยครับว่ามันหนักใจแค่ไหนที่คนรักของเราไม่เข้าใจในสิ่งที่เราคิด บางทีมิ้นท์ก็เป็นแบบนี้แหละครับ เธอเป็นคนละเอียดอ่อนมาก บางทีก็ละเอียดเกินไปจนแกรู้สึกอึดอัด”
“แล้วแกรับมือกับมิ้นท์ยังไง” คีรินทร์ถามด้วยความสนใจ
ปกรณ์หัวเราะเล็กน้อย “ก็ต้องทำใจครับคีรินทร์” เขาพูดติดตลก “แต่จริงๆ แล้ว แกคิดว่าผู้หญิงเขาไม่ได้ต้องการให้เราเห็นด้วยกับเขาทุกเรื่องหรอก บางทีเขาก็แค่อยากให้เราเข้าใจว่าทำไมเขาถึงคิดแบบนั้น หรือไม่ก็แค่อยากให้เรายอมรับฟังเขามากกว่า”
“แต่บางทีฉันก็รู้สึกว่าลิซดื้อมาก” คีรินทร์บ่น
“ลิซอาจจะไม่ได้ดื้อหรอกคีรินทร์ เธออาจจะแค่มุ่งมั่นในสิ่งที่เธอเชื่อ และคิดว่ามันคือสิ่งที่ดีที่สุด” ปกรณ์ให้ข้อคิด “ลองคิดดูนะว่าถ้าเราเห็นต่างจากคนรัก แล้วเขาไม่ยอมรับฟังเราเลย เราจะรู้สึกยังไง”
คำพูดของปกรณ์ทำให้คีรินทร์นิ่งคิดไปชั่วครู่ เขาเริ่มมองเห็นภาพรวมที่กว้างขึ้น และตระหนักว่าบางทีเขาอาจจะยึดติดกับเหตุผลมากเกินไปจนลืมที่จะเข้าใจความรู้สึกของอลิสา
“ขอบใจมากนะปกรณ์” คีรินทร์พูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “ฉันรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย”
หลังจากที่มิ้นท์และปกรณ์ได้แยกกันไปปรึกษาเพื่อนๆ พวกเขากลับมาเจอกันที่คอนโดในตอนเย็น แต่ละคนได้มุมมองใหม่ๆ จากการพูดคุยกับเพื่อนสนิท ทำให้บรรยากาศที่เคยตึงเครียดผ่อนคลายลง
มิ้นท์นั่งอยู่บนโซฟา กำลังคิดทบทวนคำแนะนำของอลิสา ส่วนปกรณ์ก็เดินเข้ามานั่งข้างๆ เธอ เขาวางมือบนไหล่ของมิ้นท์เบาๆ
“มิ้นท์พี่ขอโทษนะครับที่เมื่อวานพูดจาไม่ดีกับมิ้นท์” ปกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พี่รู้ว่ามิ้นท์เป็นคนเจ้าระเบียบ พี่จะพยายามปรับตัวให้มากขึ้นนะครับ”
มิ้นท์หันมามองเขาด้วยแววตาที่อ่อนลง “มิ้นท์ก็ขอโทษเหมือนกันค่ะพี่ปกรณ์ ที่บ่นมากไปหน่อย บางทีมิ้นท์ก็จุกจิกเกินไปจริงๆ แหละค่ะ”
ปกรณ์ยิ้ม เขาเอื้อมมือไปลูบหัวมิ้นท์เบาๆ เป็นการแสดงออกถึงความรักและความห่วงใยที่เขามีให้เธอเสมอ “เรามาคุยกันดีๆ นะครับ ถ้ามีอะไรไม่สบายใจ มิ้นท์บอกพี่ได้ทุกเรื่องเลยนะ”
“ค่ะพี่ปกรณ์” มิ้นท์ซบหน้ากับอกของปกรณ์อย่างออดอ้อน เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่อได้อยู่ใกล้เขา
ปกรณ์กอดเธอแน่น เขารับรู้ได้ถึงความผูกพันที่แนบแน่นระหว่างพวกเขา แม้จะมีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เข้ามาในชีวิตคู่ แต่การได้พูดคุย ปรับความเข้าใจ และให้อภัยกัน คือสิ่งที่ทำให้ความรักของพวกเขายิ่งเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น
ในวันรุ่งขึ้นทั้งสี่คนนัดเจอกันที่ร้านอาหารโปรดของพวกเขา บรรยากาศดูสดใสและผ่อนคลายกว่าเมื่อสองสามวันก่อน อลิสาและคีรินทร์นั่งเคียงข้างกันอย่างอบอุ่น ส่วนมิ้นท์และปกรณ์ก็นั่งหัวเราะคิกคักกับเรื่องตลกเล็กๆ น้อยๆ ที่ปกรณ์เล่า
อลิสาหันมามองคีรินทร์แล้วยิ้ม “พี่คีคะ ลิซคิดว่าเรื่องโปรเจกต์ Green City เราลองมานั่งคุยกันใหม่ดีไหมคะ ลิซมีแนวคิดที่จะปรับเปลี่ยนบางส่วน เพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณที่เรามี”
คีรินทร์หันมายิ้มอย่างดีใจ เขาจับมืออลิสาไว้แน่น “ดีเลยครับลิซ พี่เชื่อว่าถ้าเราช่วยกันคิด เราจะหาทางออกที่ดีที่สุดได้แน่นอน”
ในขณะเดียวกัน ปกรณ์ก็เอื้อมมือไปตบไหล่มิ้นท์เบาๆ แล้วกระซิบข้างหูเธอ “มิ้นท์ครับ พี่จะพยายามเก็บของให้เรียบร้อยมากขึ้นนะครับ”
มิ้นท์ยิ้มเขินๆ แล้วตบไหล่ปกรณ์เบาๆ เพื่อเป็นการปลอบใจ “ไม่เป็นไรค่ะพี่ปกรณ์ มิ้นท์ก็จะพยายามใจเย็นๆ มากขึ้นเหมือนกันค่ะ”
มิตรภาพที่แข็งแกร่งของทั้งสี่คนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้แต่ละคู่สามารถก้าวผ่านปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ไปได้ การมีคนรักที่เข้าใจกัน และมีเพื่อนสนิทที่คอยเป็นที่ปรึกษาและให้กำลังใจเสมอ ทำให้ชีวิตของพวกเขาสมบูรณ์แบบและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกบททดสอบที่กำลังจะมาถึงด้วยความมั่นคง
ตอนพิเศษ งานวิวาห์ของธาราและอิงดาวเสียงดนตรีไทยบรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู กลิ่นหอมของดอกมะลิและดอกกล้วยไม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเรือนไทยโบราณที่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผ้าไหมสีทองและดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับเครื่องประดับทองคำที่เจ้าสาวสวมใส่ ส่องประกายเป็นประกายระยิบระยับวันนี้เป็นวันสำคัญ วันที่หัวใจสองดวงจะผูกพันกันชั่วนิรันดร์ วันวิวาห์ของธาราและอิงดาวหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกังวลของครอบครัว ความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง และแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีคีรินทร์และอลิสาพ่อแม่ของธารา รู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมากเมื่อลูกชายสารภาพว่าเขารักอิงดาวเกินกว่าคำว่าน้องสาว“ธาราลูก ลูกแน่ใจหรือ” อลิสาถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจในวันนั้น “อิงดาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรานะลูก”คีรินทร์เองก็เสริม “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะลูก มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจกับครอบครัวเราได้”ทางด้านมิ้นท์และปกรณ์ พ่อแม่ของอิงดาว ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก โดยเฉพาะมิ้นท์ที่เป็น
ตอนที่ 131 ธาราสารภาพรักอิงดาว (ตอนจบ)สายลมยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ พัดเอื่อยๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของธารา แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงสลัวๆ ส่องกระทบกับใบหน้าของธาราและอิงดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ได้ยินหลังจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจเริ่มคลี่คลาย และอิงดาวได้ยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไปแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างธาราและอิงดาวก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น สัญญาณจากใจที่ทั้งคู่ส่งออกมาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่กำแพงที่มองไม่เห็นของความเป็นลูกพี่ลูกน้องก็ยังคงกั้นขวางอยู่วันนี้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับจากการทานอาหารค่ำด้วยกัน ธารารู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดความในใจออกไป เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าธาราสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนอิงดาวรู้สึกได้อิงดาวหันมามองธารา ใบหน้าข
ตอนที่ 130 สัญญาณจากใจหลังจากอิงดาวยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ยังคงใช้เวลาอยู่กับธารามากขึ้น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น ความรู้สึกระหว่างธาราและอิงดาวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อน มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการมองตาที่ยาวนานกว่าปกติ การสัมผัสกันโดยบังเอิญที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือบทสนทนาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นพี่น้อง ธารายังคงไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป แต่อิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง บทสรุปของตอนนี้จะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้อ่านลุ้นว่าความสัมพันธ์ของธาราและอิงดาวจะก้าวไปในทิศทางใดต่อไปในอนาคตสายลมยามเย็นพัดโชยอ่อนเข้ามาในระเบียงคอนโดมิเนียมของธารา แสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนฟ้า อิงดาวนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดของธารา ส่วนธารากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางธุรกิจของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย
ตอนที่ 129 ความรักที่ต้องเลือกอิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเองวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิก
ตอนที่ 128 เมื่ออิงดาวต้องการที่พึ่งจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจ อิงดาวรู้สึกท้อแท้และเปราะบางมาก เธอเริ่มรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้ให้กำลังใจเธอเท่าที่ควร หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญหน้า อิงดาวหันมาพึ่งพาธารามากขึ้นเธอระบายความในใจและความกังวลให้กับธาราฟัง ธารารับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เขากอดอิงดาวแน่นเพื่อปลอบประโลม เมื่ออิงดาวได้อยู่ในอ้อมกอดของธารา เธอกลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธาราเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอิงดาวเสียใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอเสียงฝนพรำนอกหน้าต่างห้องทำงานของอิงดาวในค่ำคืนที่เงียบสงัด สะท้อนกับหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตาของเธอ รายงานตัวเลขผลประกอบการที่แสดงถึงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องวางแผ่บนโต๊ะ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกท้อแท้และเปราะบางในใจของเธอ วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้อิงดาวรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความสิ้นหวังเธอพยายามที่จะเข้มแข็ง พยายามที่จะยิ้มและให้กำลังใจทีมงาน แต่ลึกๆ แล้ว เธอกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับไหว เธอพยายามโทรหาพฤกษ์
ตอนที่ 127 โอกาสที่ใกล้ชิดเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่