พวกเขาไม่สนใจเลยว่าเธอจะบาดเจ็บหรือไม่ ทั้งสองคนกึ่งรากกึ่งกระชากเพลงรักให้เดินออกมาที่ถนนใหญ่ ถึงแม้ว่าทั้งสามคนจะตากฝนจนเปียกโชก แต่ก็ดูเหมือนว่าไม่ใช่ปัญหาของทั้งคู่เลยแม้แต่น้อย
พ่อเลี้ยงที่เริ่มหมดความอดทนหันมากระชากศีรษะของเพลงรักอีกครั้งอย่างแรง ก่อนจะดึงให้เธอเดินตามไปยังบ้านไม้สองชั้นกึ่งใหม่กึ่งเก่า ถึงแม้จะไม่มีป้ายบ่งบอกว่าที่นี่คือที่ไหน แต่คนในละแวกนี้ต่างก็รู้จักดีว่าบ้านของเจ๊ยุพินนั้นทำอาชีพอะไร
“เจ๊ยุพิน! เจ๊ยุพินอยู่มั้ย!?” มาลีเธอตะโกนลั่นสลับกับใช้มือทุบประตูรั้วรัว ๆ ท่ามกลางสายฝน เพลงรักพยายามแกะมือของพ่อเลี้ยงออกทั้งน้ำตา แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหนกลับรู้สึกว่าเขานั้นจิกเส้นผมของเธอแรงขึ้น
“รีบเรียกสิวะ! อีนี่มันดิ้นจนกูจะจับไว้ไม่ไหวแล้วนะโว๊ย!!”
“เจ๊ยุพิน!! ฉันมีของมาขายเปิดประตูหน่อย!!!”
เพลงรักใช้สายตาส่องเข้าไปด้านในจากรอยแยกของประตูรั้ว เห็นว่ามีผู้ชายสองคนท่าทางทะมัดทะแมง เขาเดินกางร่มมาที่ประตูอย่างไม่เร่งรีบ ความรู้สึกหวาดกลัวกำลังกัดกินหัวใจของเธออีกครั้ง ก่อนที่จะตัดสินใจใช้เรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายหันไปกัดที่แขนของคนเป็นพ่อเลี้ยงอย่างแรง ในจังหวะที่เขาสะดุ้งตกใจ
เธอจึงอาศัยวินาทีนั้นสะบัดตัวสุดแรงแล้วออกวิ่งอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน เป็นความรู้สึกที่ทั้งหวาดกลัวและโดดเดี่ยว ไม่รู้เลยว่าต้องวิ่งไปที่ไหน เธอทำเพียงแค่วิ่งหนีให้สุดชีวิตเท่าที่สองเท้าของเธอจะวิ่งได้
ถึงแม้ว่าฝนจะตกไม่ขาดสาย แต่ก็ยังพอให้ได้ยินเสียงตะโกนตามหลังของพ่อเลี้ยงและแม่ได้ชัดเจน เสียงฝีเท้าจากด้านหลังที่กระทบพื้นที่เปียกโชก ทำให้เธอต้องเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
เพลงรักวิ่งทั้งที่เม็ดฝนกำลังตกลงมาบาดผิว ทั้งที่หายใจไม่ทัน แต่ร่างกายกลับสั่งให้สองเท้านั้นวิ่งต่อไปอย่าได้หยุด เธอไม่รู้เลยว่าเวลานี้วิ่งมาไกลแค่ไหน จนกระทั่งสองเท้าวิ่งออกมาถึงถนนใหญ่ที่มีรถพลุกพล่าน ในใจรู้สึกโล่งอกเพราะไม่ได้ยินเสียงของทั้งสองจากด้านหลังอีกแล้ว
แต่ไม่รู้เพราะว่าร่างกายใช้พลังงานมากเกินไปหรือเปล่า จู่ ๆ ก็รู้สึกขาอ่อนแรง หัวใจเต้นเร็ว และไม่สามารถพยุงร่างกายเอาไว้ได้ ทำให้เธอเซออกไปที่ถนนก่อนที่จะรู้สึกเหมือนโลกใบนี้กำลังมืดลงช้า ๆ
“ปรี๊นนนนนนนนนน!!!”
“เห้ย!!!” ราเชนทร์ตะโกนออกมาเสียงดัง ก่อนที่เท้าของเขาจะเหยียบเบรกกะทันหัน ส่งผลให้ภายในรถอัลพาร์ดสีดำเงานั้นมีรังสีอำมหิตมาจากด้านหลัง
การันต์ที่นั่งไขว่ห้างอยู่เบาะหลัง กำลังใช้มือเลื่อนดูข้อมูลการประมูลเพชรของคืนนี้ หันไปจ้องหน้าเขาด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย
“เหี้ยเอ๊ย! ชนคนครับเฮีย!” ราเชนทร์คนขับรถคนสนิทร้องเสียงหลง ทำให้การันต์เงยหน้าขึ้นมองเขาเล็กน้อย
“อืม.. ลงไปดู ถ้ารอดก็เรียกรถพยาบาล ถ้าตายก็แจ้งตำรวจ อย่าให้เสียเวลา”
สิ้นสุดคำสั่งของผู้เป็นเจ้านาย ราเชนทร์รีบลงจากรถกางร่มแล้วรีบไปดูทันที
หน้ารถนั้นมีร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่นอนสลบอยู่ เธอสวมชุดนักศึกษาที่เปียกชุ่ม ร่างเล็กติดไปทางผอม ผิวซีด และมีเลือดซิบเล็กน้อยที่หัวเข่า แต่จากที่ดูคิดว่าไม่น่าจะสลบเพราะรถชน แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องพาไปหาหมออยู่ดี เพราะเขาถือคติที่ว่า ช่วยสตรีมีแต่ได้กับได้
เมื่อตัดสินใจได้แล้วจึงรีบอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินไปเปิดประตูออกช้า ๆ ก่อนจะมองหน้าของเจ้านายแบบหวาด ๆ
“เฮีย ผมว่าคงไม่ได้เจ็บหนักแต่ก็ไม่น่าทิ้งไว้แบบนี้นะครับ อย่างน้อยก็พาไปส่งโรงพยาบาลก่อนดีไหม” การันต์ปรายตามองอย่างรำคาญ แม้จะเห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนี้ไม่ชัดนักเพราะหันไปทางราเชนทร์ แต่ก็รู้สึกเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้เขาไม่สามารถละสายตาจากเธอได้
“ฮึ่ม! นี่มันมิจฉาชีพหรือเปล่าวะ แกล้งสลบให้รถชนแล้วรีดเงิน มึงไม่กลัวเหรอ” การันต์กระแอมเล็กน้อยก่อนจะหันมามองมือถือต่อ แต่ปากก็พูดไปเรื่อย ๆ จนคนเป็นลูกน้องเริ่มเสียวสันหลัง
เพราะเขารู้ดีว่าคนอย่างการันต์นั้นไม่ชอบช่วยเหลือใคร เขาไม่ใช่พ่อพระ ยิ่งไม่ต้องสนใจว่าใครจะเป็นอะไร ตายก็ฝัง ยิ่งเป็นคนที่ไม่รู้จักเขายิ่งไม่สนใจเลยสักนิด
“ผมไม่แน่ใจ แต่ไม่น่าทิ้งไว้ตรงนี้นะเฮีย อย่างน้อยเธอก็เป็นผู้หญิง..” ราเชนทร์พยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ ถึงแม้ว่าจะรู้ดีว่าโอกาสที่เจ้านายจะให้คนแปลกหน้าขึ้นรถนั้นมีไม่ถึง 1% แต่อย่างน้อยก็ขอลองอีกสักหน่อย
“อยากทำอะไรก็ทำไป กูไม่มีเวลาเล่นละครน้ำเน่าเจ้าชายขี่ม้าขาวช่วยชีวิตกับมึงหรอกนะ” แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้ราเชนทร์หน้าเหวอ ก่อนที่จะถอนใจอย่างโล่งอกแล้วรีบอุ้มเธอไปนั่งเบาะข้าง ๆ เขา
“งั้นผมฝากเจ้านายช่วยดูเธอหน่อยนะครับ ผมต้องขับรถ” ยังไม่ทันที่การันต์จะตอบอะไร ราเชนทร์ก็จัดแจงวางผู้หญิงแปลกหน้าไว้บนเบาะข้าง ๆ กับการันต์ แล้วรีบปิดประตูลงก่อนจะรีบวิ่งไปขับรถต่อ
การันต์หันขวับมองร่างเปียกน้ำข้างตัวด้วยความรำคาญขั้นสุด ก่อนจะหันไปชี้หน้าลูกน้องอย่างคาดโทษ
“มึง!!”
“อดทนหน่อยครับเฮีย แป๊บเดียวถึงโรงพยาบาลแล้ว”
ตอนที่ 10 ลงโทษพูดจบชายหนุ่มได้ใช้อีกมือกระชากแขนของเพลงรัก ก่อนจะผลักเธอล้มลงบนโซฟา มือหนาแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองทีละเม็ดจนเผยให้เห็นแผ่นอก ก่อนที่เขาจะโยนเสื้อเหล่านั้นทิ้งไปอย่างไม่ไยดีไม่เพียงเท่านั้น ชายหนุ่มยังรีบร้อนปลดเข็มขัดออกพร้อมทั้งงัดความเป็นตัวตนที่ตื่นขึ้นออกมาชมโลกกว้าง เมื่อครั้งนั้นหญิงสาวไม่ทันได้เห็นตัวตนของเขาได้ชัดเจน แต่ครั้งนี้ทันทีที่สายตาของเธอจับจ้องมองความเป็นชาย ดวงตาของเธอก็ต้องเบิกโพลงความเป็นตัวตนที่หลบซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงตัวใหญ่ มันทำให้เธอปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเจ้าสิ่งนั้นมันช่างใหญ่โตกว่าที่เธอคิดเอาไว้มากแต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้หายตกใจ ชายหนุ่มกลับเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะจับหัวของเธอเข้าไปใกล้จนริมฝีปากสัมผัสกับสิ่งนั้น“อม!!” การันต์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด มือหนากดศีรษะของเธอเข้าไปใกล้จนริมฝีปากนั้นอ้าออกแล้วครอบครองแท่งเนื้ออย่างช่วยไม่ได้เพลงรักที่ยังไม่ประสีประสาเรื่องนี้ กลับถูกเขาชักจูงจนเธอพอจะจับทางได้ ริมฝีปากหวานขยับเข้าออกเป็นจังหวะ สลับกับใช้ลิ้น เล็ก ๆ นั้นห
ตอนที่ 9 เธอเป็นสิ่งของของฉันเสียงกระจกไฟฟ้าถูกเลื่อนขึ้นหลังจากลูกน้องคนสนิทถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ภายในรถยนต์หรูที่กำลังจอดสนิทอยู่หน้ามหาวิทยาลัยนั้น มีสายตาคมกริบมองจ้องภาพของหญิงสาวที่เขารู้จักดีกำลังยิ้มมีความสุขให้กับผู้ชายคนอื่น ทั้งสองจับมือกันด้วยท่าทางสนิทสนมก่อนจะพากันเดิมข้ามถนนเข้าไปในมหาลัยการันต์ยังคงจ้องมองทั้งสองอยู่แบบนั้นไม่แม้แต่จะขยับตัวหรือพูดอะไรออกมาเลยสักนิด สายตาของเขายังเอาแต่จดจ้องผ่านบานกระจกใสไปยังร่างของเพลงรัก หญิงสาวที่เพิ่งอ้าขาให้เขาเมื่อคืน เสียงหวานที่ครวญครางใต้ร่างเขายังจดจำได้ดี แต่บัดนี้เธอกลับกำลังดูมีความสุขกับคนอื่น“หึ! นี่เหรอคนใสซื่อ ที่แท้ก็ร่านไม่เบา” น้ำเสียงของการันต์คำรามต่ำลอดไรฟัน ก่อนจะหันไปพูดกับราเชนทร์ด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“หึ! ถ้าร้านเล็ก ๆ หน้ามหาลัยนั่นมันทำให้เธอมีความสุขขนาดนั้น ก็ไปทำให้มันหายไปซะ!”“ครับ!” ราเชนทร์ตอบรับคำสั่งผู้เป็นนายโดยไม่ถามเหตุผลเลยแม้แต่คำเดียว“แล้วไอ้ผู้ชายนั่นให้ทำยังไงครับเฮีย” ราเ
สิ้นสุดคำพูดของเธอ ชายหนุ่มได้ตวาดเสียงดังลั่นจนหญิงสาวสะดุ้งและทรุดตัวลงพร้อมกับร้องไห้“เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ชอบคนล้ำเส้น นับจากวันนี้ไปเราสองคนไม่มีอะไรต่อกันอีก”“พี่กรณ์จะทิ้งอินเหรอ! พี่ได้อินแล้วจะทิ้งอินเหรอ! อินไม่ยอมหรอกนะ!” เพลงรักยืนมองภาพตรงหน้าด้วยความตกใจ สำหรับเธอแล้วไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้เดือดดาลขนาดนี้มาก่อน ดวงตาสวยยังคงจ้องมองภาพของกรณ์ที่นั่งลงช้า ๆ ใช้มือเชยคางหญิงสาวขึ้นมา รอยยิ้มที่เขาส่งไปให้ดูน่าขนลุก ก่อนจะเห็นว่าเขาเลื่อนใบหน้าไปกระซิบข้างหูของเธอแม้ว่าเพลงรักจะไม่ได้ยินว่าเขาพูดอะไร แต่หลังจากนั้นหญิงสาวก็ทุบหน้าอกเขารัว ๆ ด้วยความไม่พอใจ และก็เป็นกรณ์ที่ลุกขึ้นก่อน และยืนปล่อยให้หญิงสาวนั่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่ได้หันไปสนใจอะไรเธออีกในตอนนั้นเป็นจังหวะเดียวกับที่ชายหนุ่มหันมาเห็นเพลงรักที่กำลังมองอยู่พอดี และทันทีที่เขาเห็นเธอใบหน้าเมื่อครู่ที่เรียบเฉยดุดันก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มหวานแบบที่เธอเห็นเป็นประจำทันทีหญิงสาวเองก็ยิ้มตอบกลับ แม้ในใจจะรู้สึกกระอักกระอ่วนเพราะไม่สามารถสลัดภาพที่เธอเห็นเมื่อครู่
ตอนที่ 8 ผู้ชายที่ดีที่สุดการันต์ขับรถออกจากเพนต์เฮ้าส์อย่างใจเย็น แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความรู้สึกสับสนบางอย่าง ร่างกายที่เครียดตึงด้วยอารมณ์ปรารถนาเมื่อครู่เริ่มผ่อนคลายลงอย่างมาก แต่สิ่งที่เข้ามาทำให้ใจเขาเกือบสั่นนั้นคือความรู้สึกแปลก ๆ ที่ก่อตัวขึ้นในอกข้างซ้าย ชายหนุ่มเหยียบคันเร่งอย่างรวดเร็วไปยังคฤหาสน์ของตนเอง โดยพยายามสลัดความคิดที่ยุ่งเหยิงนั้นให้หลุดออกไป“ก็แค่ผู้หญิงคนเดียว พอเบื่อก็เอาไปขาย จะคิดมากไปทำไมวะ”แสงแดดอ่อน ๆ ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามากระทบใบหน้าของเพลงรักจาง ๆ พอให้ช่วยปลุกเธอขึ้นมา หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ก่อนที่ภาพความทรงจำเมื่อคืนก็ดูเหมือนจะทำงานได้เป็นอย่างดี วิ่งวนเข้ามาในหัวเธอราวกับกำลังตอกย้ำเหตุการณ์นั่นร่างบอบบางขยับลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะรู้สึกเจ็บปวดไปตามร่างกาย โดยเฉพาะในส่วนที่เธอรู้สึกว่ายังบอบช้ำมากที่สุด แม้จะเขินอายจนไม่กล้าจะนึกถึง แต่สุดท้ายเธอก็ต้องบังคับตัวเองลุกขึ้นจากเตียงหลังจากที่เธอยืนได้มั่นคงดีแล้ว เพลงรักได้หันกลับไปดึงผ้าห่มบนที่นอนออก ดวงตาหวานจ้องมองผ้าปูที่นอนที่เลอะคร
ตอนที่ 7 เทสต์ของหลังจากที่การันต์เหยียบคันเร่งรถสปอร์ตมิดไมล์ เขามาถึงโรงแรมได้ในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ชายหนุ่มเดินขึ้นไปยังเพนต์เฮาส์ของตนเองด้วยความเร่งรีบ ก่อนจะใส่รหัสแล้วเปิดประตูเข้าไปในเวลาต่อมาทันทีที่ประตูถูกเปิดออกไฟในห้องก็พร้อมเพรียงกันสว่างขึ้น การันต์กวาดตามองไปรอบ ๆ โซฟาตัวใหญ่ แต่กลับไม่เห็นว่าเพลงรักจะอยู่ตรงนั้น สองเท้ารีบก้าวเดินตรงไปยังตำแหน่งห้องนอน ก่อนจะลองขยับลูกบิดประตูและพบว่ามันไม่ได้ล็อกและทันทีที่เปิดเข้าไป แม้ว่าในห้องจะมืดมากแต่ก็ยังพอมีแสงนวล ๆ จากโคมไฟหัวเตียงให้ความสว่างอยู่บ้าง ทำให้ดวงตาคมเห็นภาพของเพลงรักที่นอนอยู่บนเตียงขนาดคิงไซต์ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา การันต์ค่อย ๆ ปิดประตูอย่างเบามือที่สุดก่อนที่สองเท้าจะค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้เธอเงียบ ๆชายหนุ่มหยุดยืนอยู่ข้างเตียง เขาย่อลงแล้วค่อย ๆ สอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มข้าง ๆ หญิงสาวที่นอนหลับอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว แม้แต่คนอื่นเดินเข้ามาใกล้เธอยังไม่ขยับ มีเพียงแค่ส่งเสียงอืออาเล็กน้อยทั้งที่ยังไม่ลืมตาการันต์ใช้มือข้างหนึ่งค่อย ๆ สอดเข้าไปใต้คอของเธ
ตอนที่ 6 ภาพติดตาเสียงประตูรถตู้ปิดดังสนั่น หลังจากที่การันต์ก้าวออกจากเพนต์เฮาส์เขาได้ทิ้งร่างเล็ก ๆ ของผู้หญิงที่เขาเพิ่งนำกลับมาไว้ที่นั่น“คืนนี้ไม่พักที่นี่เหรอเฮีย”“ไม่” เสียงทุ้มตอบเรียบเย็นก่อนจะเอนศีรษะนอนหลับตา“ดูจากสภาพเธอแล้วให้พักดีกว่า.. พรุ่งนี้ค่อยมา” ราเชนทร์พยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไรต่อ แต่สายตานั้นก็ยังเผลอเหลือบมองขึ้นไปยังเพนต์เฮาส์ที่การันต์เพิ่งเดินลงมา ชายหนุ่มเหลือบมองลูกน้องคนสนิทของตัวเอง แล้วหลับตาลงพูดขึ้นกับเขาอีกครั้ง“สนใจผู้หญิงคนนั้นเหรอ” ลูกน้องหนุ่มแทบจะหันกลับมามองหน้าของเจ้านายแทบจะทันที ถึงแม้เขาจะยังหลับตาอยู่ในท่าสบาย ๆ แต่สำหรับราเชนทร์ที่ทำงานกันมานานกลับรู้ดีว่าคำพูดนี้หมายถึงอะไร“ผมเหรอ”“กูแบ่งให้เล่นได้นะ อยากลองไหม” น้ำเสียงที่เหมือนไม่จริงจังนั้น แต่กลับแฝงไปด้วยความรู้สึกหลายอย่าง และเพราะคำพูดนี้จึงทำให้เขารู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก“คุณการันต์ล้อผมเล่นแล้ว..” เขายิ้มเจื่อน ๆ