ตอนที่14 ใส่ใจทุกรายละเอียด
“นายครับ สถาปนิกมาถึงแล้วครับ”
“ให้เข้ามา”
“ผมต้องการรายละเอียดตามนี้ ออกแบบและส่งรายละเอียดให้ผมภายในพรุ่งนี้ และทีมวิศวกรจะเข้ามาสำรวจพื้นที่และเริ่มก่อสร้างภายในสัปดาห์หน้า ผมต้องการให้เสร็จโดยเร็วที่สุด” ชาร์วีส่งแบบแปลนที่เขาออกแบบไว้คร่าว ๆ ให้สถาปนิกหนุ่มดู
“ในส่วนของห้องนอนต้องการให้ตกแต่งรูปแบบไหนครับ”
“ห้องสำหรับผู้หญิง ไม่ต้องหวือหวาเฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็นแต่เน้นความเป็นส่วนตัวมากที่สุด” ชาร์วีแจ้งความประสงค์กับสถาปนิกชัดเจน
“ได้ครับ ผมจะรีบลงรายละเอียดและส่งให้คุณธาราพรุ่งนี้เช้า ถ้างั้นผมขอตัวก่อนครับ”
“เชิญ” สถาปนิกหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้หลังจากนั่งเกร็งมาสักพัก เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้านก็รีบสาวเท้าเดินออกมาทันที
บ้านหลังเล็กสไตล์ทันสมัยก็ก่อสร้างและตกแต่งเกือบแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้ว พลอยใสได้รับคำสั่งให้เตรียมตัวย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังเล็กที่สร้างขึ้นใหม่นี้โดยธาราให้เหตุผลว่าก้าวเข้าสู่วัยมหาวิทยาลัยแล้วควรที่จะแยกห้องนอนกันเพื่อจะได้ใช้ชีวิตกันอย่างอิสระโดยไม่รบกวนเพื่อนคนอื่น ๆ
“เก็บของเสร็จหรือยัง” ธาราเอ่ยถามเด็กสาวขณะที่พลอยใสมาช่วยงานในครัวอย่างเช่นทุกวัน
“ใกล้เสร็จแล้วค่ะ คืนนี้เก็บอีกนิดหน่อยก็เสร็จแล้วค่ะ”
“โอเค บ้านน่าจะเสร็จพรุ่งนี้ วันมะรืนก็ย้ายเข้าไปอยู่ได้เลย” ธาราที่พึ่งไปตรวจความเรียบร้อยมาบอกกับเด็กสาวก่อนจะเดินขึ้นกลับไปทำงานที่ห้องทำงานด้านบนโดยมีเจ้าของบ้านนั่งทำงานอยู่ในนั้นตั้งแต่เช้า
แอ๊ด….
“เรื่องที่พักของพลอยใสไปถึงไหนแล้ว” ชาร์วีเอ่ยถามทันทีเมื่อลูกน้องกลับมาหลังจากที่แจ้งว่าขอลงไปตรวจเช็กความเรียบร้อยบ้านหลังเล็กที่กำลังก่อสร้างอยู่ด้านหลัง
“คาดว่าพรุ่งนี้ก็น่าจะเสร็จครับ”
“แล้วบอกเธอหรือยัง”
“บอกแล้วครับ พลอยใสทยอยเก็บของตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ”
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจากเด็กสาวถักเปียเมื่อหลายปีก่อน มาวันนี้โตเป็นสาวและกำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย
พลอยใสวิ่งวุ่นอยู่กับงานในครัวเพราะแม่ครัวใหญ่ของบ้านอย่างป้าณีนั้นล้มป่วยมาเกือบเดือน เธอจึงต้องรับหน้าที่ในการเตรียมอาหารสำหรับเจ้าของบ้านรวมทั้งอาหารสำหรับทุกคนในบ้านโดยมีบอดี้การ์ดที่พอมีฝีมือด้านการทำอาหารมาช่วยด้วยอีกสองคน
วันเปิดเทอมใกล้มาถึงแต่เด็กสาวนั้นลืมไปว่าเธอยังไม่ได้ไปซื้อชุดนักศึกษาและรองเท้าเลยทั้ง ๆ ที่อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเปิดเทอมแล้ว
“พลอยใส ชุดนักศึกษาและอุปกรณ์ต่าง ๆ เตรียมพร้อมหมดหรือยังอีกไม่กี่วันมหาวิทยาลัยก็เปิดแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ยังคะ วันหลังค่อยไปซื้อก็ได้ค่ะ” พลอยใสยังตอบคำถามแบบเดิมเป็นรอบที่สี่ จนธาราอดไม่ได้ที่จะดุกลับไป
“ตอบพี่แบบนี้มาสี่รอบแล้ว วันนี้แก้มใสกับผ้าไหมจะออกไปซื้อชุดที่ห้าง เสร็จตรงนี้แล้วก็รีบกลับไปอาบน้ำเตรียมตัว”
“วันนี้พลอยไปไม่ได้จริง ๆ ค่ะ พลอยยังตุ๋นขาหมูค้างไว้อยู่ในครัว ไว้พลอยฝากแก้มใสและผ้าไหมซื้อมาให้ด้วยก็ได้ค่ะชุดนักศึกษาที่ไหนก็ใส่เหมือนกันหมดพลอยไม่ไปก็ได้หรอกมั้งคะ” พลอยใสหาทางออกให้ตัวเองจนได้ ธาราถึงกลับส่ายหัวให้เด็กในความดูแล
“ตามใจเราแล้วกัน”
เปิดเทอมวันแรก
พลอยใสในชุดนักศึกษาขนาดพอดีค่อนไปทางรัด กระโปรงสั้นเหนือเข่าสวมรองเท้าผ้าใบสีขาวคู่เก่าที่ธาราซื้อให้เมื่อปีก่อนเดินมาขึ้นรถด้วยสีหน้ากังวลไม่ค่อยมั่นใจกับชุดที่ใส่สักเท่าไหร่
“ยัยพลอยทำไมเธอทำหน้าแบบนั้น” แก้มใสที่เดินออกมาจากบ้านเจอพลอยใสระหว่างทางเดินจึงถามขึ้น
“เอ่อ..คือพลอยว่าชุดที่พลอยใส่อยู่มันสั้นไปนะ พลอยเลยรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ” พลอยใสตอบกลับไปทั้งที่แก้มใสเองก็ใส่ชุดที่รัดกว่าเธอด้วยซ้ำ
“เล็กอะไรยัยพลอยเธอผอมกว่าพวกฉันสองคนเสียอีก ชุดก็ซื้อมาไซซ์เดียวกันจะมาบ่นว่าสั้นไปอะไร” ผ้าไหมที่เดินตามหลังมาติด ๆ พูดแทรกขึ้น
“พวกเธอว่ามันไม่สั้นไปเหรอ” พลอยใสถามย้ำอีกครั้ง
“ไม่สั้นหรอกรีบไปกันได้แล้วเดี๋ยวจะไปสาย ต้องแวะส่งเธอก่อนอีกจะเรียนที่เดียวกันก็ไม่เรียน” แก้วใสบ่นออกไปเมื่อตอนนี้ทั้งสามไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยที่เดียวกันเพราะพลอยใสเลือกจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยรัฐบาลเพราะค่าเทอมจะถูกกว่ามหาวิทยาลัยเอกชน
ชาร์วีที่ยืนสูดอากาศยามเช้าอยู่ริมหน้าต่าง สายตาเหลือบไปเห็นเด็กในการปกครองในชุดนักศึกษาตัวสั้นเดินผ่านหน้าไป
“ธารา ธารา ไอ้ธารา!!” เสียงเรียกที่ดังมาพร้อมกับที่เจ้าตัวกำลังเดินลงบันไดจากชั้นสองของบ้านมายังด้านล่างทำให้ธาราที่นั่งทำงานอยู่ห้องรับแขกตกใจรีบหันขวับไปทางคนเป็นนายทันที
“ครับ นายมีอะไรครับ”
“มึงใช่ไหมที่พาเด็กพวกนั้นไปซื้อชุดนักศึกษาเมื่อวันก่อน” ชาร์วีกระแทกเสียงถามออกไป
“ใช่ครับ”
“มึงปล่อยให้พวกเธอใส่ชุดสั้นแบบนั้นไปเรียนได้ยังไง” คนที่กำลังหัวเสียเพราะเห็นเด็กในปกครองใส่ชุดที่ทั้งรัดทั้งสั้น อาละวาดใส่ลูกน้องแบบไม่ให้มีโอกาสอธิบาย ธารามองไปยังด้านนอกบ้านผ่านกระจกบานใหญ่และเห็นพลอยใสกำลังเดินขึ้นรถ แม้ชุดที่หญิงสาวใส่จะดูรัดและสั้นไปบ้างแต่ดูยังไงก็ไม่ได้น่าเกลียดขนาดที่ว่าเจ้านายของเขาต้องเอามาโวยวายแต่เช้า
“นายครับนี่มันปี 2023 แล้วครับ การแต่งตัวมันเป็นสิทธิส่วนบุคคลครับ”
“แต่นั่นมันเด็กในความดูแลของกู”
“ถ้างั้นนายอยากให้พวกเธอใส่แบบไหน ก็พาไปซื้อเองสิครับจะได้ไม่ต้องมายืนโวยวายอยู่แบบนี้”
“ไอ้ธารา”
“โอเคครับ พรุ่งนี้ผมจะจัดการซื้อชุดใหม่มาให้พวกเธอ นายกลับไปทำงานต่อเถอะครับ บอร์ดบริหารจากฝั่งยุโรปกำลังจะเริ่มประชุมกันในอีก 5 นาที”
“ชุดที่ซื้อมาก่อนหน้านั้นสั่งให้แม่บ้านไปเก็บมาเผาทิ้งให้หมด อย่าให้กูเห็นพวกเธอใส่อีกแม้แต่ครั้งเดียว” พูดจบชาร์วีก็เดินหันกลับไปอย่างอารมณ์เสีย ธาราได้แต่มองตามคนเป็นเจ้านายและยืนครุ่นคิดอะไรบางอย่างในใจก่อนจะไปจัดการตามคำสั่ง
ช่วงแรกของการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยพลอยใสต้องทำกิจกรรมค่อนข้างเยอะเพราะปีหนึ่งมีทั้งกิจกรรมรับน้องของคณะ กิจกรรมของมหาวิทยาลัยและไหนจะต้องวุ่นกับการลงเรียนวิชาต่าง ๆ บางวันหญิงสาวก็กลับเอง บางวันก็ให้คนขับรถไปรับบ้างเพราะเลิกเรียนไม่เป็นเวลาจึงไม่อยากรบกวนคนขับรถของที่บ้านมากนัก
“หวัดดีเราชื่ออาทนะเธอชื่อพลอยใสใช่ไหม” ขณะที่หญิงสาวนั่งพักระหว่างทำกิจกรรมกับเพื่อนและรุ่นพี่ก็มีชายหนุ่มหน้าตาดีเดินเข้ามาทักทายเพื่อสร้างสัมพันธ์
“ใช่ รู้จักเราด้วยเหรอ” พลอยใสถามกลับ
“ก็กำลังทำความรู้จักอยู่นี่แหละ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ” พลอยใสพยักหน้ารับไมตรีพร้อมยิ้มอย่างเป็นมิตรส่งไปให้ หลังจากนั้นก็มีทั้งเพื่อนชายเพื่อนหญิงที่ทยอยกันเข้ามาทำความรู้จักจนกลายเป็นที่พูดถึง เรียกสั้น ๆ ว่าเป็นสาวปีหนึ่งสุดฮอตก็ว่าได้
“น้องพลอยใสจ๊ะ เดือนหน้าจะมีการประกวดดาวเดือนของมหาลัย พวกพี่ ๆ อยากขอร้องให้น้องพลอยใสเป็นตัวแทนดาวจากคณะของเราไปร่วมประกวด น้องพลอยใสจะช่วยพวกพี่ได้ไหมคะ” รุ่นพี่ปีสามเดินเข้ามาหาหญิงสาวที่กำลังนั่งคุยเล่นอยู่กับเพื่อน
“คือว่าพลอยไม่ค่อยถนัดทำอะไรแบบนี้ค่ะ ให้พลอยช่วยทำอย่างอื่นดีกว่าไหมคะ” หญิงสาวปฏิเสธออกไปอย่างมีมารยาทเพราะตั้งแต่เกิดมาจนโตมาป่านนี้เธอยังไม่เคยขึ้นเวทีประกวดอะไรสักอย่างเลย
“น้องพลอยใสเก่งอยู่แล้วค่ะ ฝึกกับพวกพี่แป๊บเดียวก็ทำได้แล้วมันไม่ยากเลย” รุ่นพี่พยายามเกลี้ยกล่อมพลอยใสอยู่นานสองนาน
“นะน้องพลอยอย่าปฏิเสธพวกพี่เลย คณะเราไม่ได้ตำแหน่งดาวเดือนมาครองหลายปีแล้ว น้องพลอยช่วยกู้ศักดิ์ศรีคณะบริหารของพวกเรากลับมาด้วยเถอะนะ” รุ่นพี่สาวปีสามหว่านล้อมพลอยใส เพราะเห็นแววออร่าของสาวรุ่นน้องที่พุ่งออกมาเด่นชัดขนาดนี้ สายสะพายอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน
“พลอยกังวลว่าจะทำให้พี่ ๆ และเพื่อนผิดหวังเอาสิคะ”
“ถ้าน้องพลอยลงประกวดพวกพี่รับรองว่าตำแหน่งดาวมหาลัยต้องเป็นของคณะบริหารแน่นอนค่ะ เชื่อสายตาพวกพี่ได้เลย” เสียงการันตีจากรุ่นพี่ให้ความมั่นใจกับหญิงสาว จนพลอยใสเกิดอาการลังเล
“เด็ก ๆ ทุกคนคะ ฟังทางนี้ค่ะ” เสียงโทรโข่งดังขึ้นเรียกความสนใจของทุกคนให้หันมามอง ทุกสายตาจับจ้องที่หญิงสาวและกลุ่มรุ่นพี่ที่ยืนโอบล้อมอยู่สี่ห้าคน
“เดือนหน้ามหาลัยเราจะมีการจัดประกวดดาวเดือน พวกพี่เห็นตรงกันว่าจะส่งพลอยใสเป็นตัวแทนเข้าประกวด ใครเห็นด้วยบ้างช่วยยกมือขึ้นหน่อย”
พรึบ!!
เป็นไปตามคาดมือนับร้อยยกขึ้นเหนือศีรษะแสดงว่าเห็นด้วยที่จะให้พลอยใสเป็นตัวแทนคณะไปประกวดดาวเดือนในปีนี้
“ทุกคนเห็นด้วยที่จะให้น้องพลอยเป็นตัวแทนของคณะเรา จะเหลือก็แต่น้องพลอยตัดสินใจแล้วล่ะค่ะ” รุ่นพี่สาวเพิ่มระดับความกดดันให้พลอยใสเข้าไปอีก จนหญิงสาวเริ่มหาทางปฏิเสธอีกไม่ได้
“งั้นพลอยโทรขออนุญาตผู้ปกครองก่อนนะคะ” พลอยใสเดินเลี่ยงออกไปกดต่อสายหาธาราทันที
ตู๊ด ~ ตู๊ด ~ ตู๊ด ~
“ว่าไงพลอย”
“พี่ธาราคะคือว่า..” พลอยใสอ้ำอึ้งไม่พูดออกมาสักทีจนธาราต้องถามออกไป
“มีเรื่องอะไรก็บอกกับพี่มา พี่ไม่ได้เป็นคนดุแบบไร้เหตุผลเหมือนเจ้านายหรอกนะ” ธาราตั้งใจพูดเสียงดังให้คนที่นั่งทำงานอยู่โต๊ะข้าง ๆ ได้ยิน
“คือรุ่นพี่มาขอให้พลอยเป็นตัวแทนคณะเข้าร่วมประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัยน่ะค่ะ”
“ก็เอาสิพลอยจะได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ อยากทำอะไรก็ทำให้เต็มที่ใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยให้สนุกและมีความสุขที่สุด พี่ว่าพลอยก็เหมาะดีนะทั้งสวยน่ารักและมีความสามารถเผลอ ๆ ได้ตำแหน่งดาวมหาลัยมาครองด้วย”
“กูไม่อนุญาต” เสียงเข้มพูดแทรกขึ้นเสียงดังเข้าไปในสายจนหญิงสาวที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุขต้องหน้าเจื่อนลงทันที
“นายจะห้ามอะไรเด็กมันนักหนาครับ ปล่อยให้เด็กมันทำสิ่งที่อยากทำสิครับเรามีหน้าที่แค่สนับสนุนไม่ใช่เหรอครับ” ธาราหันไปพูดกับคนเป็นนายที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ ก่อนจะบอกกับหญิงสาวอีกครั้งว่าเขาอนุญาต
“พลอยลงประกวดได้เลย พี่อนุญาตครับ”
“แต่คุณวีเขา..”
“พี่จะคุยกับนายเองครับ ไม่ต้องกังวล”