แชร์

บทที่ 7 เจอกันอีกครั้ง

ผู้เขียน: รีล์ม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-11 19:20:23

"ก็ไหนลาออกไปแล้วไม่ใช่เหรอ...ปาลิตา" ถ้อยคำกระแนะกระแหนของสาวสวยเจ้าของชื่อ 'ซอนญ่า' หญิงสาวเชื้อสายไทยแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ที่ใช้ชื่อใหม่ตั้งแต่เธอเข้ามาเป็นพีอาร์ของผับแห่งนี้ แววตาริษยาเพ่งมองอีกคนที่กำลังสำรวจความเรียบร้อยของชุดผ่านกระจกเงาในห้องน้ำ

"..." ลิตาเลือกที่จะเงียบ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซอนญ่ามักจะพูดจากระแนะกระแหนเธอ

"หึ...ไปแล้วก็น่าจะไปลับไม่ต้องกลับมาอีก"

"ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ" ถึงแม้ลิตาจะไม่ใช่คนชอบต่อปากต่อคำ แต่ทว่าอีกฝ่ายยังไม่ยอมหยุดหาเรื่อง ครั้งนี้เธอจึงต้องใช้คำพูดให้เป็นเหมือนเกราะป้องกันตัวเอง

"เจ๊น้ำไม่รู้คิดอะไรอยู่ที่รับแกเข้ามาทำงานอีกครั้ง น่ะ หึ..ทำเป็นไร้เดียงสาเวลาเจอแขกเพื่อเรียกร้องความสนใจล่ะสิไม่ว่า" ถ้อยคำกระแทกแดกดันดังขึ้นอีกครั้งในจังหวะที่เด็กสาวใบหน้าสวยปรายตามองมา

"ฉันอัดเสียงไว้ในมือถือ อยากให้ฉันไปบอกเจ๊น้ำไหมล่ะ ว่าเธอกำลังนินทาเจ๊น้ำ"

ว่าพลางลิตาล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจากกระเป๋ากระโปรงที่สวมใส่อยู่แล้วอาศัยจังหวะเปิดกล้องค้างไว้ให้ดูเหมือนกับว่าเธออัดวิดีโอจริงๆ แล้วหันหน้าจอให้ซอนญ่าดูก่อนจะหย่อนเก็บไว้ที่เดิมในเสี้ยววินาที ในเมื่อพูดจาดีๆ แล้วอีกฝ่ายยังไม่ยอมหยุดเธอคงต้องใช้วิธีข่มขู่คู่กรณี

"หนอย...อย่าให้ถึงทีฉันก็แล้วกัน"

"นั้นนะสิ เมื่อไหร่จะถึงคิวเธอล่ะซอนญ่า ฉันเห็นเธอพูดประโยคนี้มาหลายครั้งแล้วนะ"

"กรี๊ดดดดด" เจ้าเสียงแหลมกรีดร้องด้วยความไม่พอใจพร้อมด้วยเสียงกระทืบเท้าที่ดังไล่เลี่ยกัน เป็นจังหวะเดียวกันกับปาลิตาเดินออกไปจากห้องน้ำ แล้วปล่อยอีกฝ่ายยืนหน้าบูดเบี้ยวเพียงลำพัง

ภายในห้องวีไอพีที่อุณหภูมิเย็นฉ่ำ มีชายหนุ่มลูกครึ่งกำลังเจรจาเรื่องธุรกิจสีเทาด้วยท่าทางจริงจัง สลับกับเสียงเพลงสากลที่ดังกระหน่ำแทรกเข้ามาภายในห้องดังกล่าว หลังจากเจรจากันลงตัวเรื่องธุรกิจ ต่างฝ่ายก็รู้สึกผ่อนคลายลงทันที

"ดีใจนะครับที่ได้ร่วมงานกับคุณห่าวอู๋" แม็กเครย์เอ่ยถ้อยคำกับคู่ค้าทางธุรกิจตรงหน้าด้วยสีหน้าพึงพอใจ

"เช่นกันครับ คิดไม่ผิดเลยที่บินข้ามประเทศมาดีลงานกับคุณ งั้นรอผู้หญิงมาบริการสักครู่นะครับ ผมเรียกเด็กไว้แล้ว" มาเฟียหนุ่มลูกครึ่งสัญชาติจีนรู้สึกไม่ต่างกันกับคู่สนทนา

"..." แม็กเครย์จึงพยักหน้าเป็นเชิงตอบตกลงกับคำเชื้อเชิญของอีกฝ่ายแล้วหยิบมวลบุหรี่ขึ้นมาจุดไฟแช็กอย่างใจเย็น

สิบนาทีต่อมา...

"นี่ลิตา" เสียงเรียกเด็กสาวที่อยู่ในยูนิฟอร์มของผับกำลังเดินออกมาจากโซนวีไอพีพร้อมกับถาดเปล่า

"มีอะไรเหรอคะเจ๊น้ำ"

"ช่วยไปรับแขกให้เจ๊หน่อยได้ไหม วันนี้เด็กพีอาร์ก็ดันมาลางานกันพร้อมกันสองคน เจ๊หาเด็กไม่ทัน

"..."

"ซอนญ่ากำลังไปดูแลคุณแม็กเครย์ส่วนอีกคนชื่อจีนๆ อะไรอู๋ๆ เนี่ยแหละยังขาดเด็กดูแล"

"เอ่อ..." ใบหน้าหวานชะงักไปชั่วครู่ ดวงตากลมใสส่ายไปมาด้วยความลังเล เธอได้แต่คิดคงเป็นเรื่องบังเอิญที่ชื่อจะซ้ำกัน

"เอาหน่า แขกสองคนนี้เป็นวีไอพี จ่ายไม่อั้น เจ๊ให้ลิตาช่วยรับแขกแค่คนนี้คนเดียวเท่านั้นแหละ"

"งั้นก็ได้ค่ะ" ลิตาตกปากรับคำเพราะความเกรงใจหากถ้าเธอเอาใจแขกดี เท่ากับว่าเจ๊น้ำก็จะได้ส่วนแบ่งพิเศษด้วย ถึงแม้จะตัวรุมๆ แต่เด็กสาวก็ยอมเข้าไปเปลี่ยนชุดที่ห้องแต่งตัวของพนักงานโดยไม่อิดออด

แกร็ก!

บานประตูถูกเปิดเข้ามาภายในห้องวีไอพีพร้อมกับหญิงสาวในเดรสรัดรูปสีดำกลิตเตอร์ เพียงแค่ไอเย็นของเครื่องปรับอากาศกระทบไหล่เนียนที่มีสายเดี่ยวพาดอยู่ ทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะ เรียวขาสวยบนส้นสูงสองนิ้วหยุดฝีเท้าทันที

"คุณแม็กเครย์" ลิตาขยับปากโดยไม่เปล่งเสียงออกมาเมื่อเธอเปิดประตูเข้ามาก็พบว่าบุคคลในห้องวีไอพีคือชายหนุ่มที่เธอไม่อยากเจอที่สุดในชีวิต ไม่รู้เวรกรรมอะไรของเธอถึงได้มาเจอเขาอีกครั้งในสถานที่อโคจรแห่งนี้

"สาวน้อย มานี่สิ" ใบหน้าหวานถูกเรียกคืนสติด้วยเสียงของชายอีกคน เธอเดินนวยนาดตรงไปนั่งลงบนโซฟาข้างๆ ชายคนดังกล่าวซึ่งกำลังนั่งไขว่ห้าง

"สวัสดีค่ะเออ...คุณ" เธอทักทายแขกตามมารยาทแล้วยกยิ้มเล็กน้อยด้วยความเป็นมิตร

"ฉันชื่อห่าวอู๋ เรียกฉันอู๋เฉยๆ ก็ได้" ดวงตากลมใสเผลอมองเจ้าของดวงตาสีอำพันฝั่งตรงข้ามกำลังปล่อยควันสีขาวคละคลุ้งในอากาศในจังหวะฝ่ามือหนาของห่าวอู๋ข้างกายโอบไปที่ไหล่มนสวยของเธอ แว็ปหนึ่งเขาแสดงความไม่พอใจผ่านสีหน้าก่อนจะเปลี่ยนเป็นนิ่งเฉยแล้วหันไปสนใจซอนญ่าที่กำลังเบียดสองเต้าไปที่ท่อนแขนแข็งแรงเพื่อเรียกร้องความสนใจจากตัวเอง

"คุณอู๋ อยากดื่มอะไรดีคะ"

"ฉันอยากลองสูตรออนเดอะร็อกของที่นี่ ชงให้หน่อยสิ"

"ได้สิคะ" เด็กสาวจึงคีบน้ำแข็งก้อนกลมลงในแก้ววิสกี้ปากกว้าง บรรจงรินเหล้าลงใส่ในแก้วใบเดิมแล้วนำมันไปวางตรงหน้าของชายหนุ่ม

"นี่ค่ะ"

"...อึก~…เรียนอยู่ชั้นมัธยมหรือมหา'ลัย?" ห่าวอู๋หยิบแก้วเหล้าแล้วกระดกเข้าปากในพรวดเดียว ผิวพรรณและใบหน้าชวนมองของเด็กสาวทำให้เขาเข้าใจว่าเธอน่าจะเรียนอยู่ระดับชั้นมัธยมปลาย

"หนูเรียนมหา'ลัยแล้วค่ะ อ๊ะ!” เด็กสาวสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเมื่อห่าวอู๋เลื่อนฝ่ามือหนาไปที่เรียวขาอ่อนของเธออย่างโจ่งแจ้ง

"คุยมาตั้งนานฉันยังไม่รู้จักชื่อเธอเลย" แม้จะมีป้ายชื่อเล่นของเธอติดอยู่ที่หน้าอก แต่เขากลับอยากให้ยินคำนั้นจากปากของเด็กสาวมากกว่า

"ชื่อ...ลิตาค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่ลืมแนะนำตัว" ตั้งแต่เจอหน้าชายหนุ่มที่ย่ำยีรังแกเธอ สติสัมปชัญญะก็แทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

"ฉันสนใจเธอนะ ให้ฉันเลี้ยงดูเธอไหม" มาเฟียหนุ่มลูกครึ่งสัญชาติจีนก็ได้ยื่นข้อเสนอด้วยถ้อยคำสุภาพโดยไม่อ้อมค้อม คงไม่ต้องเดาให้มากความ เมื่อเด็กสาวหน้าตาสะสวยอย่างลิตามาทำงานกลางคืนก็คงไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากเรื่องเงิน

"ขะ…คุณพูดจริงเหรอคะ" เธอกัดริมฝีปากสีชมพูด้วยประหม่า แล้วเอียงคออย่างมีจริตมองอีกฝ่ายที่ยื่นปลายปลายจมูกพ่นรดลมหายใจเจือกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ กระทบกับลำคอระหงของเธอ

"งั้นค่อยคุยกันหลังเธอเลิกงาน"

"เดี๋ยวก่อน" จู่ๆ เสียงทุ้มของแม็กเครย์หนุ่มก็โพล่งขึ้นอย่างถือวิสาสะ

"มีอะไรรึเปล่าครับคุณแม็กเครย์" ห่าวอู๋หันไปตามต้นทางของเสียงก็พบว่า เจ้าของประโยคกำลังมีท่าทีเดือดดาล

"เด็กนั้นไม่มีสิทธิ์รับแขก"

"อ้ายยย!" แม็กเครย์รีบปัดมือหญิงสาวข้างกายออกอย่างแรงโดยไม่สนใจว่าเจ้าหล่อนกำลังทำหน้าแบบไหน

"มานี่!" พูดจบเขาจึงหยัดกายลุกขึ้นเดินตรงมาที่เด็กสาวฝั่งตรงข้ามแทน

"โอ๊ย...ปล่อยนะคะ คุณแม็กเครย์" ลิตาเบิกตาโพลงด้วยความตกใจเมื่อเขากระชากแขนเธอออกจากวงแขนของห่าวอู๋อย่างแรงทำเอาร่างอรชรเซไปที่อกแกร่งของเขาแทน

"อะไรกันคุณแม็กเครย์"

"เด็กคนนี้ของผม" เขาตอบคำถามห่าวอู๋เพียงสั้นๆ แล้วฉุดลิตาออกไปจากห้องนี้ทันทีโดยไม่สนใจสายตาของทุกคนที่มองตาม

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 11 ยัดเยียดให้ขายตัว

    "มึงไปเอาเอกสารทั้งหมดที่กูต้องเซ็นมาที่นี่ วันนี้กูไม่เข้าบริษัท" แม็กเครย์เดินออกมานอกห้องแล้วหันไปสั่งการกับลูกน้องคนเดิม"ได้ครับนาย"ภายในห้องทำงานที่รายล้อมไปด้วยหนังสือหลายร้อยเล่มซึ่งจัดวางไว้เป็นระเบียบบนชั้นวางหนังสือ แม็กเครย์นั่งเซ็นเอกสารและตรวจแฟ้มงานที่กองไว้บนโต๊ะ เขาสะดุดกับเอกสารชุดหนึ่งแล้วอารมณ์เดือดดาลก็คุกรุ่นขึ้นทันทีใจความสำคัญของกระดาษแผ่นนี้คือ ทางคณะของมหาวิทยาลัยที่ปาลิตาเรียนอยู่ ขอยกเลิกฝึกงาน เนื่องจากเด็กสาวมีความประสงค์จะไปฝึกงานที่อื่นใกล้ๆ หอพัก และให้นักศึกษาคนอื่นมาฝึกงานที่นั่นแทนแม็กเครย์จึงขยำกระดาษแผ่นดังกล่าวทิ้งลงที่พื้นเพื่อระบายอารมณ์ เด็กนั้นกล้าดียังไง ถึงได้ปฏิเสธที่จะฝึกงานกับโรงแรมห้าดาวหรูหราใจกลางเมืองที่มีเงินเดือนให้อย่างโรงแรมแอมมิวตันก๊อก ก๊อก"ขออนุญาตครับ นาย""เข้ามา" เขาละสายตาจากเอกสารแล้วเงยหน้าให้คำตอบมือขวาคนสนิทที่กำลังเดินเข้ามาในห้องทำงาน"นายครับ HR แจ้งมาว่า เรื่องขอยกเลิกการฝึกงานของปาลิตา ไม่ทราบว่านายจะอนุมัติหรือไม่ครับ พอดีทางมหา'ลัยติดต่อมาต้องการทราบผลภายในวันนี้ครับ เพราะมันมีผลต่อชั่วโมงฝึกงาน" ประโยคยืดย

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 10 หงุดหงิด

    "ไปดีลงาน แต่เจ้าพ่อรถตักดินดันไปลากเด็กในคลับมาแทน?"เสียงของออนิกซ์โพล่งขึ้นเป็นเชิงเหน็บแนมทันทีที่เห็นพี่แม็กเครย์เดินเข้ามาด้านในของห้องรับรองที่พวกเขาในกลุ่มมักจะมารวมตัวกันเพื่อคุยเรื่องธุรกิจสีเทาหรือสังสรรค์บ้างในบางครั้ง ไม่ก็ไปที่คลับของเขาแทน ส่วนฉายา "เจ้าพ่อรถตักดิน" เป็นคำที่เพื่อนๆ ตั้งไว้เรียกแม็กเครย์โดยเฉพาะ สืบเนื่องจากชื่อของเจ้าตัวดันไปใกล้เคียงกับคำว่าแม็กโคร"มึงหงุดหงิดเรื่องอะไร หรือเป็นเพราะกูโทรไปขัดจังหวะมึงบนรถ?" เป็นลาร์คินที่ตั้งข้อสังเกต เพราะโดยปกติเท่าที่เขาเห็น แม็กเครย์ไม่เคยมีเรื่องหัวเสียขนาดนี้มาก่อน มาเฟียใบหน้าเย็นชาเป็นนักแก้ปัญหาที่เก่งกาจ ขนาดถูกลูกน้องหักหลัง แต่แม็กเครย์ก็ไม่เคยไม่แสดงท่าทีเกรี้ยวกราดให้ได้เห็น ยิ่งเรื่องผู้หญิงความเป็นไปได้แทบเป็นศูนย์"เด็กมันคงพยศแหละมั้ง เจ้าพ่อรถตักดินลูกรังถึงได้อารมณ์เสียเอา" ไทเลอร์พูดแทรกขึ้นพลางหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาแกว่งเบาๆ ก่อนจะกระดกของเหลวสีแดงเข้มเข้าปากในพรวดเดียว"ถ้าพวกมึงตามกูมาแค่ต้องการกวนตีนใส่กู งั้นกูจะกลับ" แม็กเครย์รีบตัดบทสนทนาก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาซึ่งว่างอยู่ โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 9 ฟ้าสว่าง NC+

    พรึ่บบบ!เขาช้อนร่างเปลือยของเด็กสาวด้วยความไวประหนึ่งปีศาจ แล้วจับเธออ้าขาพร้อมๆ กับกดสะโพกมนลงมาที่ตักแกร่งสวบ!"กรี๊ดดดดด ยะ...อย่านะ"ช่องทางรักที่เปียกแฉะไปด้วยน้ำหวานค่อยๆ กลืนกินแก่นกายความเป็นชายที่ขนาดใหญ่กว่าข้อมือเข้าไปได้ง่ายกว่าครั้งแรก ฝ่ามือหนาล็อกสะโพกงามงอนของสาวน้อยกระทบกับหน้าขาของของเขาด้วยความหื่นกระหาย"รอฟ้าสว่างก่อนนะแล้วฉันจะหยุด" เขากระซิบด้วยน้ำเสียงแหบพร่าก่อนจะเป็นฝ่ายออกแรงตับๆๆๆเสียงเนื้อกระแทกเนื้อดังกึกก้องภายในรถหรูตามจังหวะระรัวด้วยฝีมือคนตัวสูง ปลายส้นสูงเสียดสีไปมากับเบาะหนัง เธอจึงคว้ากอดลำคอหนาเพื่อหาที่ยึดเหนี่ยว กลิ่นน้ำหอมราคาแพงบนลำตัวเขาเสมือนกับดักที่ล่อให้เหยื่อติดกับทว่าอีกฝ่ายกลับมองภาพคนตรงหน้าที่เปลือยเปล่าซึ่งสวมเพียงรองเท้าส้นแหลมกำลังนั่งคร่อมบนตัวเขา กระตุ้นอารมณ์ดิบเถื่อนให้ยิ่งร้อนระอุ"อื้อ! จะ...จุก""อืม~" แม็กเครย์ตะโบมดูดสองเต้าอวบที่จุกสีชมพูกำลังแข็งชูชันตรงหน้าราวกับคนอดอยาก ช่างล่อตาให้เขาอยากจะขย้ำมันแรงๆ เขาขบกัดหน้าอกใหญ่ทั้งสองข้างไปมาด้วยความกระหาย จนลิตาใบหน้าเหยเกทั้งรู้สึกเจ็บและเสียวในเวลาเดียวกันเขาผลักเธอ

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 8 หญิงร่าน NC

    ตุ๊บ!"โอ๊ย นี่คุณจะพาฉันไปไหน กระเป๋าฉันอยู่ที่ห้องแต่งตัว" สรรพนามที่เด็กสาวแทนตัวเปลี่ยนไป พร้อมๆ กับกำปั้นเล็กอีกข้างพยายามทุบนิ้วมือของเขาเพื่อให้คลายพันธนาการออกจากข้อแขนของเธอแต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งกระตุ้นต่อมโทสะของเขาให้เดือดดาล"เข้าไป" เขายัดเธอเข้าไปในรถโรลส์รอยซ์คันหรูที่ลานจอดรถ แล้วก้าวขายาวตามขึ้นมาติดๆ"ปล่อยนะ ฉันไม่ไป โอ๊ย!" ร่างอรชรล้มคะมำกระแทกกับเบาะหนังจนเด็กสาวรู้สึกเจ็บแปล๊บที่สะโพกงอนงาม ก่อนจะกวาดสายตามองภายห้องโดยสารที่กว้างขวางกว่าปกติแบบที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน"หึ...อยู่กับฉันทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวเพื่ออัพราคา พอทีกับคนอื่นรีบอ้าขาให้โดยไม่ลังเล...ผู้หญิงร่าน" ถ้อยคำดูถูกของแม็กเครย์ทำเอาเด็กสาวถูกเรียกคืนสติ แล้วหันมองเขาด้วยแววตาวาวโรจน์ ฝ่ามือเล็กกำหมัดแน่นด้วยความขุ่นเคือง"ออกรถ""ขะ...คุณจะพาฉันไปไหน" ดวงตากลมมองข้างทางด้วยความหวาดกลัวเมื่อรถคันดังกล่าวถูกขับเคลื่อนไปถนนเส้นหลักด้วยความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดหลังจากที่แม็กเครย์ออกคำสั่ง"อยากขายตัวนักไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวฉันซื้อไว้เอง""มะ...ไม่ ก็บอกไม่ได้ขายไง" เธอตวาดกลับเสียงสั่นไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเจอ

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 7 เจอกันอีกครั้ง

    "ก็ไหนลาออกไปแล้วไม่ใช่เหรอ...ปาลิตา" ถ้อยคำกระแนะกระแหนของสาวสวยเจ้าของชื่อ 'ซอนญ่า' หญิงสาวเชื้อสายไทยแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ที่ใช้ชื่อใหม่ตั้งแต่เธอเข้ามาเป็นพีอาร์ของผับแห่งนี้ แววตาริษยาเพ่งมองอีกคนที่กำลังสำรวจความเรียบร้อยของชุดผ่านกระจกเงาในห้องน้ำ"..." ลิตาเลือกที่จะเงียบ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซอนญ่ามักจะพูดจากระแนะกระแหนเธอ"หึ...ไปแล้วก็น่าจะไปลับไม่ต้องกลับมาอีก""ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ" ถึงแม้ลิตาจะไม่ใช่คนชอบต่อปากต่อคำ แต่ทว่าอีกฝ่ายยังไม่ยอมหยุดหาเรื่อง ครั้งนี้เธอจึงต้องใช้คำพูดให้เป็นเหมือนเกราะป้องกันตัวเอง"เจ๊น้ำไม่รู้คิดอะไรอยู่ที่รับแกเข้ามาทำงานอีกครั้ง น่ะ หึ..ทำเป็นไร้เดียงสาเวลาเจอแขกเพื่อเรียกร้องความสนใจล่ะสิไม่ว่า" ถ้อยคำกระแทกแดกดันดังขึ้นอีกครั้งในจังหวะที่เด็กสาวใบหน้าสวยปรายตามองมา"ฉันอัดเสียงไว้ในมือถือ อยากให้ฉันไปบอกเจ๊น้ำไหมล่ะ ว่าเธอกำลังนินทาเจ๊น้ำ"ว่าพลางลิตาล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจากกระเป๋ากระโปรงที่สวมใส่อยู่แล้วอาศัยจังหวะเปิดกล้องค้างไว้ให้ดูเหมือนกับว่าเธออัดวิดีโอจริงๆ แล้วหันหน้าจอให้ซอนญ่าดูก่อนจะหย่อนเก็บไว้ที่เดิมในเสี้ยววินาที ในเมื่อพ

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 6 จับตาดู

    ซ่า~ ซ่า~เสียงสายน้ำเย็นฉ่ำไหลออกมาจากฝักบัวตกกระทบร่างกายไหลลงสู่พื้น เด็กสาวยืนนิ่งเงียบราวกับคนไร้วิญญาณในห้องน้ำส่วนตัวเมื่อกลับมาถึงหอพัก ปล่อยให้น้ำสะอาดชำระล้างความสกปรกทั่วเรือนร่างซึ่งเต็มไปด้วยร่องรอยความป่าเถื่อน"คุณมันใจร้าย ฮึก ฮือ" เสียงสะอื้นไห้ดังสลับกับเสียงสายน้ำไหลเป็นระยะไม่เคยนึกฝันภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาของแม็กเครย์ที่เป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงแต่เขากลับบ้ากามและข่มเหงเด็กฝึกงานอย่างเธอได้ลงคอนานนับชั่วโมงที่ลิตาร้องไห้จนแทบไม่เหลือน้ำตา เธอคว้าหยิบผ้าขนหนูพันตัวแล้วจึงค่อยๆ เดินออกมาแต่งตัวครืด~ ครืด~โทรศัพท์มือถือดังขึ้นเรียกความสนใจให้ลิตาที่พึ่งสวมเสื้อผ้าเสร็จรีบเดินมาที่กระเป๋าสะพาย ก่อนจะล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็น 'สิริ' โทรมา"...ค่ะ พี่สิ"[วันนี้ไม่มาทำงานหรือไง]"ลิตารู้สึกไม่ค่อยสบายค่ะ เลยจะขอลา"[อ้าวเหรอ เมื่อคืนพี่ให้เรากลับดึกไปหน่อยเลยไม่สบายละสิ]"เออ..." มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสิริสักนิด แต่เธอก็ไม่สามารถเล่าเรื่องทั้งหมดให้คนในสายฟังได้ ได้แต่ปล่อยให้สิริคิดไปเองตามนั้น[งั้น..ถ้าไม่ไหวยังไงก็พักก่อน เดี๋ยวพี่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status