Share

บทที่ 6 จับตาดู

last update Last Updated: 2025-06-11 12:04:56

ซ่า~ ซ่า~

เสียงสายน้ำเย็นฉ่ำไหลออกมาจากฝักบัวตกกระทบร่างกายไหลลงสู่พื้น เด็กสาวยืนนิ่งเงียบราวกับคนไร้วิญญาณในห้องน้ำส่วนตัวเมื่อกลับมาถึงหอพัก ปล่อยให้น้ำสะอาดชำระล้างความสกปรกทั่วเรือนร่างซึ่งเต็มไปด้วยร่องรอยความป่าเถื่อน

"คุณมันใจร้าย ฮึก ฮือ" เสียงสะอื้นไห้ดังสลับกับเสียงสายน้ำไหลเป็นระยะ

ไม่เคยนึกฝันภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาของแม็กเครย์ที่เป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงแต่เขากลับบ้ากามและข่มเหงเด็กฝึกงานอย่างเธอได้ลงคอ

นานนับชั่วโมงที่ลิตาร้องไห้จนแทบไม่เหลือน้ำตา เธอคว้าหยิบผ้าขนหนูพันตัวแล้วจึงค่อยๆ เดินออกมาแต่งตัว

ครืด~ ครืด~

โทรศัพท์มือถือดังขึ้นเรียกความสนใจให้ลิตาที่พึ่งสวมเสื้อผ้าเสร็จรีบเดินมาที่กระเป๋าสะพาย ก่อนจะล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็น 'สิริ' โทรมา

"...ค่ะ พี่สิ"

[วันนี้ไม่มาทำงานหรือไง]

"ลิตารู้สึกไม่ค่อยสบายค่ะ เลยจะขอลา"

[อ้าวเหรอ เมื่อคืนพี่ให้เรากลับดึกไปหน่อยเลยไม่สบายละสิ]

"เออ..." มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสิริสักนิด แต่เธอก็ไม่สามารถเล่าเรื่องทั้งหมดให้คนในสายฟังได้ ได้แต่ปล่อยให้สิริคิดไปเองตามนั้น

[งั้น..ถ้าไม่ไหวยังไงก็พักก่อน เดี๋ยวพี่แจ้งฝ่ายบุคคลให้ ทานยารึยัง]

"ทานแล้วค่ะ ขอบคุณพี่สินะคะ"

[อืม หายไวๆ] รอจนสิริวางสาย เธอจึงวางโทรศัพท์มือถือไว้ที่หัวเตียง

"หนูคิดถึงแม่นกจังเลยค่ะ" ลิตาพึมพำเพียงลำพังถึงหนึ่งในผู้ดูแลเธอที่มูลนิธิ ซึ่งเด็กสาวนับถือท่านเหมือนแม่แท้ๆ แต่ท่านได้จากโลกนี้ไปเมื่อสองปีก่อน เธอได้แต่ปาดน้ำตาแล้วบอกให้ตัวเองเข้มแข็ง

@คฤหาสน์แม็กเครย์

ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองครั้ง ทำให้แม็กเครย์ที่กำลังยืนทดสอบอาวุธปืนอยู่ในห้องใต้ดินของคฤหาสน์ วางอาวุธปืนในมือแล้วหันมองลูกน้องคนสนิทที่เปิดประตูเข้ามาหลังได้รับอนุญาต

"ขออนุญาตครับ ผมไปส่งเด็กคนนั้นที่หอพักเรียบร้อยแล้วครับ"

"..." มาเฟียหนุ่มกลับนิ่งเฉยแล้วบรรจุกระสุนใส่ในแม็กกาซีนของปืน

"นายจะปล่อยไปเหรอครับ"

"มึงสนใจรึไง" เขาถามเสียงเรียบ แต่สายตายังคงจดจ่อที่กระบอกปืน

"ป่าวครับ ผมไม่เคยเห็นนายปล่อยคนที่รู้ความลับของนายไปสักคน"

"หึ..คอยจับตาดูเงียบๆ ก็พอ"

"ได้ครับ"

"อ้อ...วันนี้กูไม่เข้าบริษัท"

"แต่วันนี้มีประชุมผู้ถือหุ้น นายจะไม่เข้าไปร่วมประชุมหน่อยเหรอครับ"

"ยกเลิกไปก่อน กูเหนื่อย"

"..." เข็มทิศทำหน้างุนงงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เมื่อเจ้านายได้พูดสวนทางกับการกระทำ ทั้งที่ปากบอกว่าเหนื่อย แต่ทว่าลูกน้องที่ยศต่ำกว่ารายงานว่า เห็นแม็กเครย์ก็ไปออกกำลังกายตามปกติ หลังจากนั้นก็มาทดสอบอาวุธปืนโดยที่เจ้านายหนุ่มแทบไม่ได้สนใจจะพักผ่อน

"มึงมีอะไรก็ไปทำ" จบประโยค ลูกน้องคนสนิทก้มหัวเป็นเชิงรับคำสั่งแล้วจึงปลีกตัวออกไป

ตัดภาพมาที่หน้าธนาคารแห่งหนึ่ง ชายวัยหลังเกษียณกำลังลงจากรถหรู แล้วจึงหยุดยืนอยู่ชั่วครู่ตามกำลังวังชาของตนเอง

"นายท่านจะเข้าไปธนาคารคนเดียวแน่เหรอครับ"

"เออ กูไม่ได้แก่จนทำอะไรด้วยตัวเองไม่ไหวนะ" เขาหันไปว่าให้ลูกน้อง อะไรที่ทำด้วยตัวเองได้บ้างเขาก็อยากทำเองถึงแม้จะมีเหล่าบริวารให้คอยเรียกใช้

"ครับ ถ้าท่านเสร็จธุระแล้วก็โทรตามผมได้เลยนะครับ"

"อืม" ในขณะที่เขาเดินไปตามฟุตบาทพร้อมด้วยไม้เท้าคู่ใจเพื่อจะเข้าไปในธนาคาร เขาสวนกับเด็กสาวที่มีท่าทีอิดโรยกำลังหยุดยืนหลับตาแล้วนวดคลึงขมับเบาๆ

"หนู…หนูเป็นอะไรหรือเปล่า" เขาถามด้วยความเป็นห่วงเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

"หนูแค่รู้สึกเพลียๆ นิดหน่อยค่ะ" เด็กสาวค่อยๆ ลืมตาเงยหน้ามองชายชราคนดังกล่าว ที่มีสีผมดอกเลาทั้งหัว ผิวหนังเหี่ยวย่นตามสังขาร ถึงแม้ชายชราตรงหน้าจะมีอายุแล้ว แต่ก็ยังคงดูหล่อภูมิฐานสมวัย

"...ให้ฉันช่วยอะไรไหม" เมื่อมองที่ดวงตาของเด็กสาวรุ่นหลาน ทำให้เขานึกถึงใครบางคนที่จากเขาไปหลายปี

"หนูโอเคขึ้นแล้วค่ะ" ลิตารีบจัดระเบียบผ้าพันคอที่เธอนำมาพันมาเพื่อปกปิดร่องรอยที่ไม่อยากให้ใครเห็น "งั้นหนูไปก่อนนะคะ" เธอกล่าวลาชายชราคนดังกล่าวทันที โดยไม่ได้หันกลับมาว่าเขาหันมองเธอจนสุดสายตา

@มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

"ทำไมนักศึกษาถึงไม่อยากฝึกงานที่ โรงแรมแอมมิวตันล่ะ" อาจารย์ฝ่ายกิจการนักศึกษาถามปาลิตาด้วยความสงสัย เมื่อเห็นเธอยื่นเอกสารขอเปลี่ยนสถานที่ฝึกงานในช่วงบ่ายแก่ๆ ของวัน

"คือ...หนูว่าที่นั่นไม่เหมาะกับหนูค่ะ" แค่ได้ยินชื่อโรงแรมของมาเฟียหนุ่ม หัวใจดวงน้อยก็กระตุกวูบ ภาพความโหดร้ายก็ฉายภาพเข้ามาในโสตประสาทอีกครั้ง เธอไม่อยากกลับไปสถานที่แห่งนั้นอีกแล้ว

ใบหน้าหวานรีบก้มดูความเรียบร้อยของชุดนักศึกษาที่เธอสวมเสื้อแขนยาวทับอีกชั้น ภาวนาให้สมองลืมเรื่องเมื่อคืนไปให้หมด ก่อนจะคิดหาเหตุผลต่างๆ นานา

"หนู...หนูอยากไปฝึกงานกับเพื่อนๆ ในกลุ่มมากกว่า" เธอเงยหน้าขึ้นแล้วให้คำตอบ

"แล้วนี่ นักศึกษาไม่ค่อยสบายหรือเปล่า" เมื่อเห็นใบหน้าหวานที่ดูอิดโรย อาจารย์นวลทิพย์จึงเดาไปตามนั้น

"ค่ะ หนูไม่ค่อยสบายนิดหน่อย แต่หนูโทรไปลาป่วยกับผู้จัดการโรงแรมแล้ว"

"แล้วแน่ใจนะ ว่าจะเปลี่ยนที่ฝึกงาน โรงแรมแอมมิวตันน่ะทั้งหรู เงินก็ดี มีแต่นักศึกษาอยากไปทำงานที่นั่นกันทั้งนั้น"

"ค่ะ หนูแน่ใจ หนูขอสละสิทธิ์ให้เพื่อนคนอื่นแทนได้ไหมคะ แล้วอีกอย่างหนูว่ามันไกลจากหอพักหนูด้วย"

"แต่ตอนที่นักศึกษาได้สิทธิ์ไปฝึกงานที่แอมมิวตันไม่เห็นปฏิเสธเลยนี่ แต่เอาเถอะ ถ้าหนูอยากจะไปฝึกที่เดียวกับพวกเพื่อนในกลุ่ม ทางมหาวิทยาลัยต้องแจ้งเรื่องไปที่โรงแรมและรอทางนั้นตอบกลับมาก่อน แล้วถ้ายังไงอาจารย์จะให้ทราบอีกครั้ง"

"ขอบคุณอาจารย์มากนะคะ"

"อืม" ปาลิตายกมือไหว้พร้อมกับกล่าวขอบคุณ ในขณะที่คู่สนทนาพยักหน้า แล้วเด็กสาวจึงหมุนเดินออกมาจากห้องพักของอาจารย์

"อ้าว...พี่ลิตา ช่วงนี้พี่ฝึกงานไม่ใช่เหรอ" ทันทีที่ลิฟต์เปิดออก เสียงเด็กหนุ่มก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงที่ดูโตเกินเด็กปีหนึ่งก้าวขายาวออกมาจากลิฟต์ ทำให้เจ้าของชื่อที่กำลังยืนอยู่หน้าลิฟต์สะดุ้งเล็กน้อย

"ใช่จ้ะ แต่พี่กำลังจะขออาจารย์ที่เปลี่ยนที่ฝึกงานน่ะ แล้วนี่ตองเจมาส่งรายงานเหรอ" เธอให้คำตอบเดือนคณะที่พึ่งได้รับตำแหน่งมาหมาดๆ แถมเด็กหนุ่มตรงหน้ายังเป็นหลานรหัสเธอด้วย โดยตอนแรกๆ เด็กหนุ่มจะเรียกเธอว่าป้ารหัส แต่เธอให้เรียกว่าพี่ก็พอ

เมื่อเห็นในฝ่ามือหนาของตองเจถือเอกสารรายงานจำนวนหลายเล่มที่เจ้าตัวมักจะชอบอาสาเพื่อนๆ รวบรวมงานมาส่งอาจารย์แถมชอบช่วยงานเหล่าคณาจารย์ในมหาวิทยาลัยบ่อยๆ เลยแทบไม่ต้องเดาว่าเด็กหนุ่มรุ่นน้องมาทำอะไรแถวห้องพักอาจารย์

"ถ้าพี่ไม่มีที่ฝึก ไปฝึกที่โรงแรมของบ้านผมก็ได้นะครับ ผมจัดการให้ได้"

"ไม่ต้องหรอก พี่อยากไปฝึกที่เดียวกับเพื่อนในกลุ่มมากกว่า"

"ครับ ว่าแต่ พี่ยังไม่ได้เลี้ยงข้าวผมเลยนะครับ" ตองเจรีบทวงสัญญาตามธรรมเนียมที่รุ่นพี่จะต้องเลี้ยงข้าวรุ่นน้องสายรหัสของตัวเอง

"อ่า...เอาไว้พี่จะลองนัดเราอีกทีละกัน ช่วงนี้พี่ไม่ค่อยสบายน่ะ" ลิตากลอกตาพร้อมกับใช้ความคิดราวสองวินาทีก่อนจะให้คำตอบ

"งั้นก็ได้ครับ ห้ามลืมนะ"

"ขี้งก~"

"..." ตองเจยกยิ้มมุมปากเพียงนิด ก่อนที่เขาจะก้มมองต่ำเห็นรอยช้ำที่เรียวขาของรุ่นพี่สายรหัส ใบหน้าคมคายเปลี่ยนสีหน้าทันทีโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันสังเกต แต่ทว่าตองเจก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แล้วต่างฝ่ายก็ต่างแยกย้าย

@ผับ R

"ช่วงนี้หนูขอกลับมาทำงานกับเจ๊น้ำได้ไหมคะ ให้หนูเป็นพนักงานเสิร์ฟก็ได้" ลิตาทำหน้าเว้าวอนเพื่อขอความเห็นใจจากผู้จัดการของผับ

ถึงแม้เธอพึ่งจะได้รับเงินมาจำนวนสองล้านบาทหลังจากไปขึ้นมาที่ธนาคารก่อนจะเข้าไปพบอาจารย์เมื่อช่วงบ่าย แต่ยังไงเสียเธอก็จำเป็นจะต้องทำงานเพื่อหาเงินเท่าที่ร่างกายยังไหวเผื่อไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน

"แล้วไหนเราบอกเจ๊ว่าจะไปฝึกงานไม่ใช่เหรอ เลยขอลาออกไปน่ะ"

"พอดีหนูรอเปลี่ยนที่ฝึก เลยจะของานเจ๊ทำ ช่วงระหว่างรอที่ฝึกงานใหม่ได้ไหมคะ"

"อืม..ใจจริงเจ๊อยากให้เราไปดื่มเป็นเพื่อนแขกมากกว่ามาเป็นเด็กเสิร์ฟน่ะ แต่เอาเถอะในเมื่อไม่สะดวกเรื่องเวลาเจ๊ก็พอเข้าใจ ว่าแต่วันนี้ดูเพลียทำงานไหวแน่เหรอ"

"ไหวค่ะ หนูขอทำแค่ ถึงเที่ยงคืนแล้วจะกลับเลยค่ะ"

"อืมได้สิ งั้นไปเปลี่ยนชุดรอละกัน" ลิตาพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปยังห้องแต่งตัวของพนักงาน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    ตอนพิเศษ

    มิอาร์และมอตก้าก็เติบโตขึ้นทุกวัน ด้านแม็กเครย์จึงกลับไปทำงานเหมือนเดิม แต่พอถึงเวลาเลิกงานปุ๊บเขาก็รีบกลับมาบ้านทันที เพราะคิดถึงลูกคิดถึงเมียแทบไม่อยากห่าง ส่วนลิตาก็กลับไปเรียนต่อโดยเธอเลือกที่จะเรียนภาคค่ำแทน จะได้ไม่กระทบเวลาเลี้ยงลูกน้อยทั้งสอง"นี่ลูกก็เริ่มเดินได้แล้วนะ เราจะจัดงานแต่งงานกันเมื่อไหร่ดีครับ" ในขณะที่สองจิ๋วกำลังฝึกยืนตั้งไข่และก้าวเดินที่สนามหญ้าข้างบ้านโดยมีบรรดามือซ้ายมือขวาและป้าเจียนตามประกบไม่ห่าง รวมไปถึงแบล็กกับบราวน์ก็คอยนั่งอารักขาอยู่ใกล้ๆ สมาชิกใหม่ทั้งสองของบ้านด้วยความชาญฉลาด"ก็ไหนเราคุยกันแล้วไงคะ ว่ารอหนูกลับไปเรียนให้จบก่อน" เมื่ออยู่กันเพียงลำพังที่อีกมุมหนึ่งของสวนหย่อมเธอจึงให้คำตอบสามี"มันนานไป พี่อยากแต่งไวๆ" เขาให้ตอบห้วนๆ ทำเอาคนฟังพอจะมองออกว่าสามีหนุ่มของเธอไม่พอใจ"ไม่พอใจอะไรอีกคะเนี่ย""ก็เมียพี่กำลังกลับไปเรียน ถ้าเกิดมีหนุ่มๆ มาตามจีบให้ทำไง""อะไรกันคะ พี่เล่นส่งลูกน้องไปเข้าเรียนด้วยขนาดนั้นใครจะกล้าเข้ามาคะ" ลิตาพึ่งกลับไปเรียนเมื่อวานได้แค่วันเดียว แต่แม็กเครย์ก็ยื่นข้อแลกเปลี่ยนให้ลูกน้องของเขาไปตามเฝ้าด้วยไม่ห่างเพราะกลัวจะ

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 52 Happy Ending (NC)

    เวลาต่อมา…แม็กเครย์ก็ได้เข้ารับรักษาตัวที่โรงพยาบาลในตัวอำเภอ ส่วนทุกคนที่เหลือก็บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เธอจึงอยากนอนเฝ้าไข้พ่อของลูกด้วยตัวเองแสงสว่างของเช้าวันใหม่ก็ทอแสงผ่านเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ทำให้ร่างอรชรที่นอนบนโซฟารู้สึกตัว ซึ่งเป็นเวลาที่นายแพทย์หนุ่มต้องเข้ามาตรวจดูอาการของแม็กเครย์ตามหน้าที่"พี่แม็กเครย์อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมคะ หนูจะไปซื้อมาให้" เธอลุกขึ้นมาถามชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้หลังจากที่คุณหมอออกไปแล้ว โดยชายหนุ่มตอบสนองตัวยาได้ดีก็ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจหลังจากผ่านเรื่องราวร้ายๆ มาแล้ว"ไม่ครับ พี่ขอโทษนะที่ดูแลหนูกับลูกไม่ดี" เขาค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้นหลังพิงหัวเตียง พลางจับมือหญิงสาว ถ้าเธอกับลูกเป็นอะไรไปเขาคงไม่ให้อภัยตัวเอง"ขอโทษทำไมกันคะ ตอนนี้หนูกับลูกก็ปลอดภัยดี" หลังจากผ่านการตรวจร่างกายมาแล้วก็พบว่าสองแฝดในท้องหัวใจเต้นปกติดี ส่วนลิตาก็มีแค่รอยฟกช้ำตามร่างกายเท่านั้น"แล้วพี่แม็กยังไม่เล่าให้ฟังเลยนะคะ ว่าพี่ตามมาช่วยหนูทันได้ไง" ในขณะที่ถามเธอก็ลากเก้าอี้ตัวเล็กมาไว้ข้างเตียงแล้วจึงหย่อนสะโพกนั่งลง"จริงๆ พี่ตามหนูมาแหละ นอนรีสอร์ตถัดไปนี

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 51 คนที่อยู่เบื้องหลัง

    ในเวลานี้ท้องฟ้าก็มืดมิดพอดี บรรยากาศที่ชวนขนลุกทำเอาร่างอรชรรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อ ชายฉกรรจ์พาเธอเข้าไปในเส้นทางป่าทึบที่ไร้ผู้คน พื้นดินที่มีหญ้ารกปกคลุมมีเพียงแสงของดวงจันทร์ที่ให้ความสว่างในเวลานี้ เธอคิดถึงแม็กเครย์จับใจ แล้วใครกันนะที่ต้องการตัวเธอ แล้วเขาต้องการไปเพื่ออะไร ในสมองมันตีรวนไปหมดใช้เวลาพอสมควรก็เริ่มถึงหน้าผาสูง ดวงตากลมเห็นบุคคลที่เธอคุ้นเคยดียืนเอามือไพล่หลังกำลังจ้องมองไปยังท้องทะเลในยามค่ำคืนดวงตากลมเบิกโพลงเป็นไข่ห่าน อยู่ๆ ชายคนดังกล่าวหันมามองเธอ"ได้ตัวมาแล้วครับนาย""เปิดปากมันออก"ฟึบบบ!!! แรงกระชากจากกาวของสกอตช์เทปทำเอาเธอสะบัดหน้าหนีด้วยความรู้สึกเจ็บ"ขะ…คุณลุง" ริมฝีปากแดงเถือกเรียกสรรพนามชายตรงหน้าเสียงสั่นหรือว่าแท้จริงแล้วปองพลคือคนที่อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ในวันนี้"หึ…มาสักทีนะหนูลิตา""ลุงทำแบบนี้ทำไมคะ ต้องการอะไร""มึงจ่ายเงินให้พวกมันได้แล้ว" ปองพลหันไปบอกคนขับรถของตัวเองที่ยื่นซองสีน้ำตาลซึ่งข้างในบรรจุเงินสด ในขณะที่ตัวเองหยิบปืนออกมาจากซองปืนพกข้างบั้นเอวออกมา"มีอะไรก็เรียกใช้พวกผมได้นะครับ" เสียงในหนึ่งของชายชุดดำบอกปองพลหลังจากนับเงิ

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 50 คนแปลกหน้า

    ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและสมาชิกในบ้านเริ่มสนิทกันมากขึ้น บางวันเธอก็นอนที่บ้านและบางวันก็กลับไปนอนที่บ้านของแม็กเครย์ การที่มีครอบครัวแท้ๆ มันอบอุ่นแบบนี้นี่เอง ส่วนเด็กๆ ในท้องของลิตาก็เริ่มโตขึ้นไปตามพัฒนาการคุณตาของปาลิตาหมายมั่นอยากให้หลานสาวได้เข้าไปช่วยงานในบริษัทของตระกูล เธอจึงได้เข้าไปศึกษาเนื้องานของบริษัทในบางเพื่อไม่ให้รู้สึกเบื่อ และหลังจากที่เธอคลอดลูกแล้ว จึงจะค่อยไปดูกิจการที่ภาคใต้ในลำดับต่อไปเวลาได้เดินไปเรื่อยๆ ก็ถึงวันที่ครอบครัวของปาลิตาเดินทางมาพักผ่อนที่ปราณบุรี ท้องน้อยๆ ในวันวานมาตอนนี้กลับนูนออกชัดขึ้นซึ่งในตอนแรกแม็กเครย์จะตามแฟนสาวของเขามาด้วย แต่เธอก็ห้ามไว้เพราะอยากเป็นส่วนตัวกับคนที่บ้าน และลุงของเธอได้ย้ำกับว่าอยากให้มีเพียงคนในครอบครัวเท่านั้น แต่เธอก็ไม่กล้าบอกแม็กเครย์ไปตามตรงโดยลิตาจะนั่งไปกับปภังกร ส่วนปัถย์วีไปคันเดียวกับปองพล ในขณะที่ทุกคนยืนเตรียมและตรวจเช็กสัมภาระภายในรถ จู่ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของปัถย์วีก็ดังขึ้น เขาจึงรีบกดรับสาย"ว่าไง"[นายครับ ไฟล์งานประมูลเพชรของไตรมาสถัดไปมันถูกลบไปครับ]"มันจะถูกลบไปได้ไงวะ หรือมีใครเข้ามาในห้องทำงา

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 49 ครอบครัวแท้ๆ

    "สวัสดีทุกคนนะคะ" เธอยกมือไหว้ทุกคนอย่างมีมารยาทหลังจากทราบชื่อของทุกคน เกิดมาไม่คิดไม่ฝันว่าจะกลายเป็นลูกเศรษฐี มีคนใช้กับเขา แต่ละคนล้วนแก่กว่าเธอทั้งนั้น การกระทำดังกล่าวทำให้เหล่าบริวารของบ้านอัศวรัศมิ์กุลต่างรู้สึกประทับใจกับเจ้านายคนใหม่ ที่ดูใจดีและไม่ถือตัว"เดี๋ยวเตรียมห้องใหม่ให้คุณลิตาด้วยนะโพน งั้นทุกคนมีอะไรก็ไปทำ" ปภังกรหันไปบอกแม่บ้านใหญ่ประจำคฤหาสน์รวมไปถึงคนอื่นๆ"โถ คุณหนูลิตาช่างดูคล้ายคุณปิ่นมากๆ โดยเฉพาะดวงตา พูดแล้วก็คิดถึงคุณปิ่นนะคะ ดีใจกับคุณท่านด้วยที่ได้เจอหลานสาวแล้ว" โพนแม่บ้านวัยป้าคนเก่าแก่ของที่นี่ เมื่อเห็นใบหน้าของปาลิตาก็อดคิดถึงมารดาของเด็กสาวไม่ได้ หลังจากที่แสดงความยินดีกับประมุขของบ้านเสร็จโพนจึงปลีกตัวออกไปทำตามคำบัญชาด้วยความเต็มใจปภังกรจึงเอามือแตะที่หลังของหลานสาวเบาๆ เป็นเชิงให้เดินไปพักผ่อนที่โซฟาเบดด้วยกัน"ถ้าโพนเตรียมห้องเสร็จแล้วหนูขึ้นไปพักได้เลยนะ อยากได้อะไรเพิ่มเติมบอกตาได้""ขอบคุณคุณตามากนะคะ""ไม่ต้องขอบคุณหรอก ต้องขอบคุณไอ้ไมค์มากกว่าที่มันเจอหนูแล้วมันพาหนูมาหาตา ไม่อย่างนั้นป่านนี้เราคงไม่ได้เจอหน้ากันหรอกหลานรักของตา" ใบหน้า

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 48 แต่งงานกันนะ

    หลังจากกลับมาพักผ่อนที่บ้านในช่วงบ่ายของวัน เขาจึงนัดแนะลิตาโดยบอกเธอว่าจะพามาดินเนอร์ที่รูฟท็อปโรงแรมแอมมิวตันซึ่งอยู่บนชั้นดาดฟ้า-ช่วงเย็น-ร่างอรชรในชุดแม็กซี่เดรสแบบเปิดไหล่ ก็เดินเคียงคู่มากับมาเฟียหนุ่มในปล่องลิฟต์ซึ่งกำลังเคลื่อนตัวมาถึงชั้นบนสุดของโรงแรม ทันทีที่ถึงรูฟท็อปบาร์ดาดฟ้าของแอมมิวตัน ก็มีสายลมเย็นกระทบผิวบาง บรรยากาศเป็นส่วนตัวโดยไม่มีแขกเลยสักคน จะเห็นก็มีแค่พนักงานของโรงแรมเท่านั้น ทำเอาลิตาถึงกับเผยอริมฝีปากเล็กๆ"อ้าว ไม่มีคนเลยเหรอคะ" ปกติเธอจะต้องเห็นภาพแขกเหรื่อที่มารับประทานอาหารมื้อเย็นอย่างคลาคล่ำเต็มทุกเกือบโต๊ะแต่มาวันนี้กลับปราศจากผู้คน แถมก็จัดโซนที่เห็นพระอาทิตย์ตกดินได้ชัดที่สุดให้มีซุ้มดอกไม้สดส่งกลิ่นหอมให้รู้สึกสดชื่น และใกล้กันมีกลีบดอกกุหลาบซึ่งถูกโปรยไว้เป็นรูปหัวใจตกแต่งด้วยเทียนLEDช่วยเพิ่มแสงสว่าง"ก็พี่อยากมากินกับหนูแค่สองคนหนิ ก็เลยให้ปิดรูฟท็อปหนึ่งวันครับ""ขนาดนั้นเชียว" เธอมุ่ยหน้ากลบเกลื่อนความเขินอาย แต่ก็อดดีใจไม่ได้ที่เขาพยายามเอาอกเอาใจเธอตามที่พูดจริงๆ และตั้งแต่เธอมาฝึกงานที่นี่ก็ยังไม่เคยมีโอกาสได้มานั่งทานอาหารที่นี่เลยสักค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status