เข้าสู่ระบบ“พี่ไม่รู้ว่าไม้เจออะไรมาถึงได้ซึมขนาดนี้ ปกติไม้ไม่เคยเป็นถึงขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เรื่องครอบครัว แต่คุณน้าก็ดูสบายดี พี่เลยคิดว่าไม่น่าใช่เรื่องนั้น...” ศิรินภาฉลาดและสังเกตเธอเสมอ“พี่ไม่คาดหวังให้ไม้เชื่อใจและเล่าทุกอย่างให้พี่ฟังหรอก พี่เลยคิดแค่ว่าอยากมาอยู่ข้าง ๆ ไม้ ให้ไม้รู้ว่าไม้ไม่ได้ตัวคนเดียว”“…”“ไม้ยังมีพี่อยู่ตรงนี้ และถ้าไม้อยากบอกเมื่อไหร่ พี่จะฟังและจะช่วยเหลือไม้เท่าที่ไม้อยากจะให้พี่ช่วย” เสียงนกร้องบินกลับรังดังขึ้นภายนอกตึก ทว่าภายในห้องกลับเงียบงัน “ขอบคุณมากค่ะ” นีรามนกล่าวแค่นั้น จะให้บอกอะไรอื่นได้เล่า จะให้บอกหรือว่าที่เธอต้องเศร้าแบบนี้ก็เพราะพี่สาวของคุณนั่นแหละศิรินภาเอื้อมมือไปหาคนน้อง ปลายนิ้วเกลี่ยเช็ดหยดน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาที่แสนน่ารักของคนน้อง การกระทำที่ทะนุถนอมนี้ยิ่งทำนีรามนยิ่งร้องไห้หนักกว่าเก่าคนน้องหันมองไปทางอื่น หลังมือใช้ปาดน้ำตาป้อย ๆ ในหัวพลันคิด…ว่าหากคนใจร้ายคนนั้นใจดีได้เท่า หรืออาจจะเพียงเสี้ยวหนึ่งของศิรินภา ก็คงจะดีไม่น้อยไม่ใช่มองเธอเป็นตัวอะไรไม่รู้แบบนี้…ศิรินภาไม่อาจทนเห็นน้ำตาของคนน้อง ลุกขึ้นเข้าไปสวมกอดนีรามน หยาดน้ำตาข
หลังจากเหตุการณ์นั้นไม่นานในวันเดียวกัน ศิรินภาที่ติดภารกิจอยู่จึงส่งคนสนิทอย่างจันทร์จิราให้มาดูนีรามนถึงที่ นีรามนบอกไปว่าทุกอย่างโอเค จันทร์จิราที่เพียงรับฟังและเก็บรายละเอียดเงียบ ๆ ก่อนจะทำเป็นรับรู้เรื่องราวแล้วกลับไป จากนั้นนีรามนจึงเอาแต่นั่งซึม บางครั้งหน่วงถึงขั้นไม่รู้ตัวว่าน้ำตาไหลออกมา นีรามนไม่ใช่คนที่ร้องไห้กับอะไรง่าย ๆ ...ทำไมต้องใจร้ายกับฉันขนาดนี้ด้วยคะ...คุณพันทิวา ประโยคคำถามนี้มันเอาแต่วนเวียนอยู่ในใจของเธอพันทิวายังคงอยู่ในความคิด อยู่ในห้อง รสจูบยังอยู่ในความทรงจำไม่หายมันหวาน ทว่าขมขื่นเป็นหมื่นเท่าจูบที่ยัดเยียด หาใช่เกิดจากความต้องการจูบจริง ๆ จูบเพื่อเอาชนะ เพื่อเหนือกว่าเธอ...นีรามนปาดน้ำตาขณะนั่งกอดเข่าอยู่บนเก้าอี้ทำงาน พอดีกับที่มือถือมีสายเรียกเข้า...“พี่ไปหาได้มั้ย” เป็นศิรินภาที่โทรมา“คุณจันทร์จิราเพิ่งมาหาหนูเองค่ะ”“พี่รู้ แต่พี่อยากไปหาไม้” นีรามนเหม่อมองนอกหน้าต่าง เป็นท้องฟ้ายามเย็นที่อึมครึม มันไม่มีสีส้มอบอุ่นแฝงนีรามนกรอกเสียงตอบไป “หนูขอเวลาอาบ--” “พี่ไม่ได้มาเพราะเรื่องนั้น” ถ้อยคำของคนพี่ทำให้นีรามนนิ่งไป “พี่แค่อยากมาดูว่าไม
เรียวลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดอย่างป่าเถื่อนจนเธอคล้ายถูกสูบลมหายใจ...ขณะเดียวกันนีรามนกลับรู้สึกคล้ายเติมเต็มราวกับรอคอยจูบนี้มาเนิ่นนาน...ทว่าไม่ควรเป็นจังหวะเวลานี้ ไม่ใช่เธอ...ที่เป็นผู้หญิงหน้าไม่อายที่อีกฝ่ายจงเกลียดจงชังเธอไม่นึกต้องการสัมผัสแบบนี้ แม้จะมาจากคนที่เธอมอบหัวใจให้ก็ตาม...คิดดังนั้นมือสั่นเทาจึงขึ้นผลักไสเต็มแรง และจนเมื่อปลายนิ้วร้อนสัมผัสถึงหยาดน้ำตาอุ่น...พันทิวาผละริมฝีปากออก สายใยสีใสยังเชื่อมต่อถึงกันก่อนคนใจร้ายจะยกยิ้ม ทั้งที่ความเป็นจริงในใจนั้นเริ่มหนักอึ้งราวถูกเหล็กถ่วง เมื่อได้สบสายตาแดงก่ำที่ฉ่ำน้ำทว่าปากนั้นร้ายไปก่อน แค่นยิ้มสะใจ “ก็ไม่ได้รังเกียจนี่” ทำเป็นหวงตัว จะตีราคาตนให้สูงขึ้นหรือไงทว่ารอยยิ้มกลับกระตุกวูบพอกันกับใจ เมื่อนีรามนเงยหน้าขึ้นสบสายตาเต็มขั้น ไม่ได้ร้องไห้คร่ำครวญ ทว่ากำลังกัดฟัน ปากบวมแดงเจ่อน่าจูบต่อนั้นปิดนิ่ง สายตาฉ่ำน้ำแดงก่ำ ก่อนที่น้ำตาหยดต่อไปจะไหลอาบหน้าเป็นทางยาว... ทว่าคนปากร้ายกลับอยากนึกตบปากตนเองให้เลือดอาบ ที่ดันเอ่ยเสียงเรียบเรื่อยอย่างเย็นใจยิ่งนักกับการกระทำสามานย์นี้ “ทำกับฉันมันก็ไม่ได้แย่ ถูกมั้ย?” ไม่
นีรามนซ่อนสายตาสั่นไหวของตน เปลี่ยนเป็นสู้เสือ “คุณมีเท่าไหร่ล่ะ” บังเกิดรอยยิ้มถูกใจบนใบหน้างามผุดผาด ถูกใจมาก... “มีมากกว่าไอ้ภาแล้วกัน สนใจมั้ย” จนอยากปราบให้หายพยศ ไวกว่าความคิด นีรามนจึงเบิกตากว้าง เนื้อตัวนิ่งค้าง ผิดกับความคาดหวังที่ว่าต้องช่ำชองชำนิชำนาญตามประสาเด็กกร้านโลก...คนใจดำคิด ก่อนจะเริ่มเดินเกมต่อมิคิดปล่อยให้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเป็นอิสระ “อื้อ” นีรามนครางเครือกับการรุกรานแสนวาบหวาม เมื่อได้สติเข้า เรี่ยวแรงมดในความคิดคนใจร้ายจึงผลักไส ทั้งทุบตี อย่างที่มิเคยมีใครหาญกล้าริทำ...แม้หล่อนจะไม่ปฏิเสธว่าสารเลวที่เข้าขืนใจอีกฝ่ายก่อนก็ตาม ทั้งปฏิเสธจูบ ทั้งประทุษร้าย... เอวถูกรวบเข้าแนบแน่น พอกันกับเสี้ยวหน้าที่ถูกมืออุ่นร้อนประคองไว้แนบแน่นคล้ายกักกันมิให้ไม้ปฏิเสธจูบอุกอาจตรงหน้า ความหวานอุ่นนุ่มล้ำซึมซ่านเข้า...พันทิวาครางออกมาด้วยความพึงพอใจ รวบกอดคนตัวเล็กกว่าแน่นเข้า ความเป็นนีรามนกำลังทำให้หล่อนคลั่ง นีรามนเริ่มอ่อนปวกเปียก มือสั่นเทาเผลอวางทาบบนไหล่ระหงมั่นคง แล้วร่างก็ถูกรวบเข้าอ้อมกอดคล้ายหลักยึดไว้พอดี ความร้อนถ่ายเทกันและกัน นีรามนยิ่งใจสั่น ราว
รอเธอหันมา พลันเมื่อเห็นนายของพวกเขาเดินตามเด็กสาวคนนั้นเข้าไปในหอพัก นายของเขากลายเป็นคนในหอพักไปเรียบร้อย ทั้งชานนท์และศิลามองนายเหนือหัวของพวกเขาจนลับสายตา ก่อนจะหันมามองตากันอย่างไม่พูดอะไรก็เข้าใจ ตอนนี้นายของพวกเขาคล้ายหมาจรที่เอาแต่คอยขู่กรรโชกคนที่หวังดี อยากรับเลี้ยง... ทว่าเมื่อเห็นว่าเขาถอยห่าง ก็กลับหงอย ได้แต่คาบสายจูงไว้รอท่า ด้วยท่าทีหูลู่ หางตก และ ณ ตอนนี้นายของพวกเขาก็โดนตกเข้าให้แล้ว ตก...ด้วยรอยยิ้มของเด็กคนนั้น นีรามน . . . พันทิวากวาดตามองห้องเล็กแคบของนีรามนอย่างประเมิน สายตานั่นไม่ใช่แค่สงสัย...มันดูหมิ่น แต่ซ่อนความสนใจบางอย่างอยู่ด้วย “อยู่ที่แบบนี้ทุกวันเหรอ?” เสียงที่เอ่ยฟังดูปกติ แต่แฝงแรงตัดสินลึก ๆ ในทุกถ้อยคำ นีรามนวางถุงข้าวของลง “สำหรับอยู่คนเดียว ก็พออยู่ได้ค่ะ” “ไอ้ภามันไม่เคยมาดูแลบ้างเลยเหรอ?” “มันไม่เกี่ยวกับคุณภา” เธอว่าเสียงเรียบ พันทิวาหัวเราะเบา ๆ เดินสำรวจห้องราวกับถือกรรมสิทธิ์ เธอไม่ควรปล่อยให้คนคนนี้อยู่ใกล้ แต่ก็ไม่เคยห้ามเขาได้เลยตั้งแต่ต้น "ดูเธอเหมือนอยากให้ฉันอยู่ อยากให้ฉันเห็น" พันทิวา...คนสวยของเธอ เดินสำรวจไปท
เหตุใดยามที่เห็นรอยยิ้มของเด็กคนนั้นที่เพียงแย้มยิ้มใส่แมวสีส้มและสีขาว และลายขมุกขมัวที่เดิมก็นอนอยู่แถว ๆ ทางเข้าหอพัก เมื่อเห็นนีรามนพวกมันจึงเดินเข้ามาหาอย่างรู้งาน หางสะบัดไหวไปมา ท่าทางที่เด็กคนนั้นยอบตัวลงลูบหัวพวกมันพร้อมเทอาหารเปียกที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อใส่จานข้าวที่ตั้งอยู่หน้าทางเข้าหอพัก คล้ายภายในของหล่อนที่มันว้าวุ่น หาที่ลงไม่ได้ สุดท้ายจึงสงบลงในที่สุด...เมื่อพบเห็นเด็กอวดดีว่ายังอยู่ดี . . . “แค่เขาให้ข้าวก็เชื่องแล้วหรือไง โง่...” เสียงหนึ่งที่ดังขึ้นจากด้านหลัง เสียงที่เธอไม่ได้ยินมาสักพักทว่ายังคงดังในความรู้สึก นีรามนหันขวับไปหา พบว่ามีใครก็ไม่รู้ที่ปรามาสได้แม้กระทั่งแมวที่ไม่รู้เดียงสา พันทิวายกยิ้มสะใจ ทว่าภายในรู้สึกวูบโหวงเล็กน้อยเมื่อเห็นสายตาที่วูบไหวของเด็กอวดดี ราวกับไม่ดีใจสักนิดที่หล่อนมาอยู่ตรงนี้ “คุณพันทิวา” นีรามนยืนขึ้นในรองเท้าผ้าใบ เธออยู่ในกางเกงยีนขายาว เสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบ ๆ มวยผมเกล้าที่หลังท้ายทอย เธอยกมือไหว้อีกคนที่ยังคงสวยสง่าดังเดิม ดูไม่เข้ากันกับพื้นที่นี้สักนิด พันทิวามองดูเด็กกะโปโลยกมือไหว้หล่อน ไม่ได้รับไหว้ มอง






![หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
