共有

ตอนที่ 7

last update 最終更新日: 2025-09-26 12:43:16

แม้ในตรอกแคบ ๆ ที่พ่อค้ารายย่อยตั้งร้านขายน้ำสมุนไพร น้ำเสียงของลูกค้ากลับดังเป็นพิเศษ

 

“ จริงสิ มีคนแอบได้ยินว่าคนในโรงเตี๊ยมเห็นคุณหนูใหญ่ยิ้มให้บุรุษเนี่ย ‘ยิ้มให้บุรุษ’ ด้วยนะ!”

 

“อ๊า! ยิ้มงั้นหรือ? โอ้ย นั่นมัน… ชัดเจนแล้วว่าไม่ใช่เพียงดื่มชา” เสียงหัวเราะขบขันอีกระลอกดังขึ้น

 

ขณะที่อีกฟากหนึ่ง มีหญิงชราผู้หนึ่งนั่งขายของแห้งอยู่ริมฟุตบาท สีหน้าหม่นหมอง ถอนหายใจพลางเอ่ยกับบุตรสาวที่นั่งปอกหัวไชเท้าอยู่ข้างกัน

 

“เสียดายจริง…เป็นถึงบุตรสาวของฮูหยินเอกแท้ ๆ แต่น่าสงสารนะ ไม่มีใครคอยดูแล ก็คงเผลอไผลตามวัย…”

 

เสียงสนทนาต่ำ ๆ ของชายหนุ่มสองสามคนผุดขึ้นกลางบรรยากาศเงียบสงบหน้าร้านเครื่องประดับกลางตลาด

 

“เจ้าคิดอย่างไรกับเรื่องคุณหนูเนี่ย?”

 

“น่าเสียดายนัก ข้าเคยได้ยินว่านางเป็นคนเงียบขรึม เรียบร้อย แต่นี่กลับทำเรื่องที่ไม่ควรเสียแล้ว…”

 

“หากข่าวเป็นจริง นางคงยากจะหาคู่ที่มีชาติตระกูลยอมรับได้อีก”

 

“ข้าได้ยินว่าท่านผู้เฒ่าเมิ่ง เคยคิดสู่ขอให้นางแต่งเป็นสะใภ้รอง ตระกูล ด้วยนะตอนนี้คงถอนใจไปถึงสามลมหายใจแล้วกระมัง”

 

ข่าวลือเหล่านี้แพร่กระจายราวหมอกควันมิใช่ด้วยเสียงตะโกน แต่ด้วยรอยยิ้มบาง ๆ เสียงหัวเราะน้อย ๆ และคำกระซิบในเงา พวกเขาไม่รู้ว่า “ชายผู้นั้น” เป็นใคร

พวกเขาไม่รู้ว่า “ห้องบนชั้นสอง” นั้นมีกี่คน และพวกเขาไม่เคยเห็นเนี่ยฮุ่ยเฟยพูดหรือทำสิ่งใดล่วงเกิน แต่สิ่งที่พวกเขา “รู้แน่” …คือ “ความเสื่อมเสีย” ได้เริ่มขึ้นแล้ว

 

 

 

หลิงเซ่าเทียนนั่งพิงพนักเก้าอี้ภายในห้องบัญชีของโรงเตี๊ยม ดวงตาดำสนิทประหนึ่งบ่อน้ำลึกไม่มีก้นทอดมองเอกสารในมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างค่อย ๆ หมุนถ้วยชาที่อุณหภูมิยังอุ่นอยู่ในอุ้งมือ

ประตูไม้เลื่อนเปิดเบา ๆ

 

เสียงฝีเท้านุ่มนวลดังขึ้นหนึ่งคู่ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงของ “อวิ๋นจิ้ง” สายลับคนสนิทที่คอยจัดการข่าวสารในเมืองแทนเขา

 

“นายท่าน มีข่าวสำคัญเกี่ยวกับคุณหนูเนี่ย”

 

หลิงเซ่าเทียนไม่ได้ละสายตาจากกระดาษในมือเพียงกล่าวเรียบ ๆ

 

“พูดมา”

 

“มีข่าวลือแพร่ในตลาดหลายจุดในช่วงสองวันมานี้ กล่าวหาว่า…คุณหนูเนี่ยฮุ่ยเฟย แอบมีสัมพันธ์ลับกับบุรุษ กล่าวกันว่า…นางนั่งดื่มชากับชายแปลกหน้าในห้องส่วนตัวที่โรงเตี๊ยม”

 

มือที่หมุนถ้วยชาชะงักเพียงครู่ก่อนจะเคลื่อนไหวต่อราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

 

“…แล้วมีผู้ใดระบุหรือไม่ว่าชายผู้นั้นคือผู้ใด?”

 

อวิ๋นจิ้งส่ายหน้า

 

“ไม่แน่ชัด ใครกล่าวถามก็ถูกปฏิเสธว่า ‘ได้ยินมาจากคนในโรงเตี๊ยม’ เท่านั้นดูเหมือนจะมีการวางมือบางอย่างอยู่เบื้องหลัง …”

 

“…ห้องที่ใช้วันนั้นเป็นห้องประจำของข้า” เสียงเขานิ่งเรียบ ไม่สูง ไม่ต่ำ แต่ทำเอาอวิ๋นจิ้งเหงื่อตก

 

“ข้าน้อยตรวจสอบเส้นทางข่าว พบว่าจุดแรกเริ่ม มาจากร้านขายปิ่นในซอยตะวันตก ซึ่งเจ้าของร้าน…เคยรับเครื่องประดับจากจวนตระกูลเนี่ยขอรับ”

 

“…ฟู่ซื่อ” หลิงเซ่าเทียนเอ่ยชื่อนั้นออกมาช้า ๆ เสียงของเขานิ่ง แต่แฝงแรงสะท้อนดั่งคลื่นลึกใต้ทะเล

 

“ ฟู่ซื่อผู้นี้ คือผู้ที่มีมือยาวที่สุด เอื้อมเข้ามาถึงโรงเตี๊ยมของข้า แส่ในเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตน”

 

เขาวางถ้วยชาลงบนโต๊ะเบา ๆ

 

“ดูเหมือนนางจะลืมไปเสียแล้ว…ว่าโลกนี้ยังมีเงา ที่มิใช่เงาของตนเอง”

 

 

รุ่งเช้าหลิงเซ่าเทียนไม่กล่าวสิ่งใด เขาเพียงยื่นแผ่นไม้บาง ๆ ชิ้นหนึ่งให้บนแผ่นไม้ มีรายชื่อร้านค้า สถานที่ และชื่อบุคคลห้าราย ซึ่งล้วนเกี่ยวพันกับการปล่อยข่าวลือในช่วงสองวันที่ผ่านมา

 

“ในคืนนี้…ข้าต้องการความเงียบ” เขากล่าวด้วยเสียงราบเรียบ

 

“และไม่ใช่เพียงเงียบแต่ต้องเป็นเงียบอย่างไม่กล้าแม้จะกระซิบอีก”

 

ชายชุดดำพยักหน้า เข้าใจคำสั่งทันที

 

“รับทราบ นายท่าน”

 

กลางดึกในย่านตลาดใหญ่ของเมืองลั่วหลิง ร้านปิ่น ร้านผ้า ร้านชา และร้านสมุนไพรบางแห่งถูกแวะเวียนโดยคนแปลกหน้า

 

ชายเงียบ ๆ เหล่านี้ไม่พูดอะไรมากเพียงซื้อของเล็กน้อย แล้วกล่าวประโยคหนึ่งก่อนจากไป…

 

“คุณหนูใหญ่ตระกูลเนี่ย มิมีวันเลือกคบคนไม่คู่ควร และนางมิเคยก้าวข้ามเส้นที่สตรีดีงามไม่พึงข้าม ข่าวลือหากกล่าวเกินจริง ลิ้นอาจขาด หรือไม่ก็เป็นศีรษะของพวกเจ้านั่นแหละที่จะขาด “

 

 

รุ่งเช้าวันถัดไปเสียงซุบซิบในตลาดเงียบไปอย่างน่าประหลาด หญิงวัยกลางคนที่เคยหัวเราะเยาะกลับเม้มปากเงียบไม่ยอมเอ่ยอะไร

เจ้าของร้านปิ่นในตรอกตะวันตกเก็บร้านเร็วกว่าปกติด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

แม้แต่กลุ่มบัณฑิตหนุ่มที่เคยนั่งร่ำสุราพูดถึง “คุณหนูผู้เสื่อมเสีย” ก็เปลี่ยนหัวข้อกระทันหันเมื่อมีคนแปลกหน้าเดินผ่าน

 

ภายในโรงเตี๊ยมเมิ่งหลิ่วชุน หลิงเซ่าเทียนยังคงอ่านหนังสืออยู่เงียบ ๆ ในห้องใต้ดินหลังร้านชา

มีเพียงอวิ๋นจิ้งที่เข้ามารายงานเสียงเบา

 

“ภารกิจสำเร็จ…ตอนนี้ไม่มีใครกล้าพูดถึงข่าวลือนั้นอีก แม้แต่คนที่เคยซุบซิบ ก็ต่างตีหน้าไม่รู้ไม่เห็น”

 

หลิงเซ่าเทียนวางหนังสือลงช้า ๆ สายตาทอดออกไปยังหน้าต่างกระดาษที่ปิดไว้จากภายใน

 

“ข้าไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศว่านางบริสุทธิ์ เพียงทำให้โลกนี้รู้ว่า หากคิดจะกล่าวถึงนาง…ต้องกลัวเสียก่อน”

 

 

 

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่13

    เมื่อฟ้าเช้าเริ่มปรากฏแสงแดดแรกของวัน หลิงเซ่าเทียนเดินออกจากวังหลวงโดยไม่มีใครรู้ว่าเขาคือใคร มีเพียงร่องรอยรองเท้าบนฝุ่นบาง ๆ ที่ลานหิน และเงาของเขาที่ทอดยาวไกล เขาหยิบตราลับเล็กอีกดวงจากอกเสื้อ เป็นตราที่ราชเลขามอบให้เขาโดยเฉพาะตราที่ให้สิทธิ์ “ปิดเมือง สอบสวน และควบคุมผู้ต้องสงสัย” ได้โดยตรงในอำนาจของราชเลขาหวังจิ่นข่าย “ถึงเวลาตอบแทนความยุติธรรม…ของท่านพ่อแล้ว” เรือนเล็กของเนี่ยฮุ่ยเฟยนั่งอยู่กลางสวนหลังเรือน นางกำลังวาดภาพเหมือนของมารดาตามความทรงจำ ในใจเต็มไปด้วยความกังวล หลังข่าวลือเรื่องขบถเงาเริ่มแทรกซึมสังคมสาวใช้คนสนิทวิ่งเข้ามา สีหน้าเคร่งเครียด “คุณหนูเจ้าคะ! มีคนแปลกหน้าป้วนเปี้ยนแถวเรือนตั้งแต่เช้า! ข้าคิดว่า…พวกเขาไม่ใช่คนของจวน!” เนี่ยฮุ่ยเฟยหยุดมือที่กำลังแตะปลายพู่กันสายตาแปรเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “นั่นแสดงว่า…ฟู่ซื่อเริ่มลงมือแล้ว

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 12

    คลิก… ฝากล่องเปิดออกภายในมีม้วนผ้าไหมยาวหลายผืน จดหมายที่ถูกพับอย่างบรรจง และ “เหรียญประจำตระกูล” ซึ่งหายไปนานนับสิบปี นางค่อย ๆ หยิบจดหมายฉบับหนึ่งขึ้นลายมือมารดาชัดเจน และเปื้อนรอยน้ำตาเก่า ๆ นางอ่านเบา ๆ ในจดหมาย มารดานางเขียนถึง ภัยที่ใกล้เข้ามาในวันนั้นกล่าวถึง “ขุนนางบางคน” ที่มีความเกี่ยวพันกับฟู่ซื่อ และการยักยอกเงินหลวงผ่านกิจการในนามร้านเล็ก ๆ มารดานางพยายามจะเปิดโปง แต่ถูกสั่งปิดปากอย่างเลือดเย็นหลิงเซ่าเทียนเงียบอยู่นาน ก่อนพูดช้า ๆ “นี่…คือหลักฐานที่ท่านพ่อของข้า เคยตามหา และเป็นหลักฐาน…ที่อาจโค่นทั้งฟู่ซื่อและตระกูลเนี่ยพร้อมกันได้” แววตาของฮุ่ยเฟยในยามนั้น…ไม่ใช่สายตาของคุณหนูผู้เคยถูกทอดทิ้งอีกต่อไปแต่มันคือดวงตาของคนที่ตื่นขึ้นจากเงามืดพร้อมจะยืนอยู่กลางแสงอย่างไม่กลัวสิ่งใด “ข้าจะไม่ถอยอีกต่อไป…ไม่ว่าใครจะต้องล้มไปกับความจริงนี้ก็ตาม”

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 11

    อีกด้านของเมืองนั้น ภายในห้องหนังสือของหลิงเซ่าเทียน แสงจากตะเกียงส่องลงบนแผนที่และสมุดบัญชีเก่า ๆ บ่าวคนสนิทของเขารายงานด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ “นายท่าน ร้านเก่าของฮูหยินเนี่ยถูกลอบวางเพลิง!” หลิงเซ่าเทียนเงยหน้าขึ้นทันทีแววตาเยือกเย็นวูบผ่าน ก่อนเขาจะลุกขึ้น “พวกมันเริ่มแล้ว….ไปเตรียมรถม้า ข้าจะไปพบกับฮุ่ยเฟยในคืนนี้” ในยามที่ทุกสิ่งเคลื่อนไหวในเงามืดความลับของอดีต คำมั่นในปัจจุบัน และเงาแค้นของอนาคต…กำลังเริ่มปะทะกันอย่างเงียบงัน เสียงฝีเท้าบนลานกรวดเงียบเชียบ หากมั่นคงบ่าวคนสนิทของหลิงเซ่าเทียนเดินมาหยุดที่ข้างหน้าต่าง โบกมือเบา ๆ ส่งสัญญาณ ไม่นานนัก เงาร่างสูงสง่าก็ข้ามกำแพงเข้าสู่เรือนอย่างไร้สุ้มเสียงสายตาเขาเหลือบมองความมืดรอบข้างก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องแคบ ๆ ที่แสงตะเกียงยังคงส่องสลัว เนี่ยฮุ่ยเฟยนั่งรออยู่แล้ว ราวกับรู้ว่าเขาจะมาสีหน้าแม้เคร่งขรึม แต่ดวงตายังคงเยือกเย็นอย่างควบคุม

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 10

    เนี่ยฮุ่ยเฟยสบตาเขานางเห็นแววจริงใจในดวงตานั้นแต่ก็ยังไม่ละความระแวดระวัง “ข้าไม่เข้าใจ…เหตุใดท่านจึงต้องช่วยเหลือข้า” หลิงเซ่าเทียนวางถ้วยชาลงเงียบไปนาน ก่อนตอบช้า ๆ “ในสายตาคนนอก เจ้าอาจเป็นเพียงคุณหนูตกอับของจวนตระกูลเนี่ย แต่ข้า…เห็นเจ้ายืนหยัดด้วยตัวเองมาตลอด ไม่แม้แต่จะยอมจำนนต่อโชคชะตา” เสียงเขาชะงักเล็กน้อยก่อนพูดคำที่ทำให้นางแทบลืมหายใจ “และที่สำคัญ…ข้าเป็นหนี้คนผู้หนึ่ง ซึ่งเกี่ยวพันกับท่าน” ดวงตาของฮุ่ยเฟยเบิกขึ้น “หนี้? ท่านหมายถึงใครกัน…” หลิงเซ่าเทียนสบตานางใบหน้าเขาเคร่งขรึมแต่เปี่ยมด้วยความอ่อนโยน “ฮูหยินเอกแห่งตระกูลเนี่ย มารดาของเจ้า” มือที่ถือถ้วยชากระชับแน่นขึ้นเล็กน้อยหัวใจเต้นถี่…คล้ายกลัวความจริงที่รออยู่เบื้องหน้านางเงยหน้าขึ้นช้า ๆ เสียงที่เปล่งออกมาแม้เบา แต่ชัดเจนและมั่นคง “ท่านแม่ของข้า นางเกี่ยวข้องอะไรกับท่

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 9

    เนี่ยฮุ่ยเฟยหยุดอยู่หน้าร้านหนึ่งมองแผ่นป้ายไม้ที่จางไปตามกาลเวลาร้านนั้นคือ “ร้านผ้าเมฆา” ร้านผ้าที่เคยเป็นของมารดาตนเนี่ยฮุ่ยเฟยมองป้ายร้านอยู่นาน ดวงตาที่ปกติแน่วแน่นั้นสั่นระริกเพียงครู่ จากนั้นจึงหันหลังเดินต่อ โดยมุ่งหน้าไปยังตรอกด้านหลังตลาด จากนั้นซูอวี้ก้เดินตามนางไปซูอี้มองซ้ายขวาอย่างระมัดระวังตรอกนี้เป็นทางเชื่อมระหว่างตลาดกับโรงเตี๊ยมเมิ่งหลิ่วชุนจังหวะที่นางแทรกตัวเข้าไป ทันใดนั้น…เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นด้านหลัง เร็ว และมั่นคงจนผิดสังเกตซูอี้ขมวดคิ้ว รีบหมุนตัวกลับกลับพบเพียงบุรุษในชุดดำ สวมหมวกบังหน้า เดินสวนผ่านเธอไปเงียบ ๆ แต่สัมผัสบางอย่างไม่ถูกต้องกลิ่นยาสมุนไพรจาง ๆ กับแรงกดดันจากแววตาผู้ผ่านไปนั้นทำให้หลังของซูอี้เย็นวาบหลิงเซ่าเทียนยืนมองออกไปจากหน้าต่างเขาสวมเสื้อคลุมสีเข้ม ผ้าคาดเอวหรูหราแต่ไม่อวดอ้างในมือนั้นถือพัดไม้ไผ่ปักชื่อ ‘เมิ่งหลิ่วชุน’ อย่างอ่อนช้อย ข้างหลังเขา คือชายวัยกลางคนในชุดทหารปลอมตัว “จินซาน” อดีตองครักษ์ประจำตระกูลหลิง“สาวใช้นั่นใช่คนของฟู่ซื่อหรือไม่?” หลิงเซ่าเทียนถามโดยไม่หันกลับมา“ใช่ขอรับ ข้าสืบพบว่าเรียกชื่อว่าซูอี้ สนิทกับฮู

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 8

    ยามสาย แสงแดดอ่อนลอดผ่านม่านโปร่งที่ไหวตามลม ภายในเรือนของ “ฟู่ซื่อ” กลิ่นธูปหอมอบอวล ปะปนกับกลิ่นชาดอกเหมยหญิงผู้ครองตำแหน่ง “ฮูหยินเอกคนปัจจุบัน” นั่งประณีตอยู่บนอาสนะไม้ลายกลีบบัวงดงามดุจสตรีผู้สูงศักดิ์ หากแต่ในแววตากลับมีเงาของความไม่พอใจแฝงอยู่สาวใช้ที่ไว้ใจได้ “ชุนผิง” เดินเข้ามาคุกเข่าแล้วก้มหน้ารายงานเบา ๆ“อูหยินเจ้าคะ…บ่าวกลับจากตลาดแล้ว แต่…เรื่องที่สั่งเกี่ยวกับคุณหนูใหญ่…”ฟู่ซื่อเอียงศีรษะเล็กน้อย “ว่าอย่างไร? คนในตลาดว่าอะไรบ้าง”“…ขออภัยเจ้าค่ะ ไม่มีใครกล่าวถึงอีกเลย”มือที่กำลังถือถ้วยชาชะงักเล็กน้อย ก่อนจะวางลงช้า ๆ“ไม่มีเลย? หมายความว่าอย่างไร…”“เมื่อคืนตลาดปิดเร็วกว่าปกติหลายร้าน แม่ค้าบางคนที่เคยพูดถึงข่าวลือเรื่องคุณหนูใหญ่ ก็เงียบ ไม่กล้ากล่าวแม้คำเดียว แม้บ่าวจะลองจงใจถามนำเรื่อง ก็ถูกปฏิเสธ หรือไม่ก็ถูกเมินค่ะ”ฟู่ซื่อขมวดคิ้ว เงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยเสียงต่ำ“แปลก…ข้าคิดว่าอย่างน้อยพวกชาวบ้านคงไม่หยุดพูดกันเร็วถึงเพียงนี้ หรือว่าผู้ใด…เข้าแทรกแซง?”“ชุนผิง เจ้าเคยได้ยินชื่อของผู้ใดที่มีผู้คนกล่าวถึงในตลาดเร็ว ๆ นี้บ้างหรือไม่?”ชุนผิงเงยหน้าช้า ๆ คล้ายล

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status