Share

ตอนที่ 6

last update Last Updated: 2025-09-26 12:43:11

เมื่อหลิงเซ่าเทียนนำเนี่ยฮุ่ยเฟยเข้าไป ทันทีที่เห็นว่าเขามาเยือน หลงจู้แซ่หลงก็รีบออกมาตอบรับเขาทันทีและทำความเคารพอย่างไม่ปิดบัง

 

“นายท่าน ห้องชั้นบนจัดเตรียมไว้แล้วขอรับ”

 

เนี่ยฮุ่ยเฟยเหลือบมองเขา

 

“…นายท่าน?”

หลิงเซ่าเทียนไม่ตอบตรง ๆ เพียงแย้มยิ้มมุมปาก “ข้ากับสหายร่วมกันเปิดที่นี่ เพื่อไว้เป็นที่พักสายตาเวลาวุ่นวาย”

 

ห้องชั้นสองที่เขาพาขึ้นไป เงียบสงบ เหมาะแก่การพูดคุยบานหน้าต่างเปิดออกเห็นวิวตลาดบางส่วน แสงแดดยามบ่ายลอดผ่านม่านโปร่ง ทำให้ห้องเต็มไปด้วยบรรยากาศผ่อนคลาย

 

เสี่ยวเอ้อเข้ามาวางกาน้ำชาและขนมแห้งเบา ๆ บนโต๊ะ ก่อนจะรีบออกจากห้องไป

 

หลิงเซ่าเทียนรินชาด้วยตนเอง ก่อนยื่นถ้วยให้ฮุ่ยเฟยอย่างสุภาพ “ลองชิมดูสิ ชาจื่อฮวา (เก๊กฮวยสีม่วง) นี้ส่งตรงจากแคว้นหนานหลิง ช่วยบรรเทาอาการใจสั่น”

 

นางรับถ้วยชาไว้ไอน้ำอุ่นลอยจากถ้วยดินเผา กลิ่นหอมจาง ๆ ของกลีบดอกไม้ทำให้นางเผลอสูดลมหายใจลึก

 

หลิงเซ่าเทียนมองนางเงียบๆ ขณะจิบชาไปด้วยก่อนจะเอ่ยออกมาว่า “ข้าเอง…ก็เคยกลับไปที่เรือนหลังนั้น ในวันที่มันไม่ใช่ของข้าอีกแล้ว “

 

เนี่ยฮุ่ยเฟยเงยหน้าขึ้นสบตาเขาวินาทีนั้นนางเพิ่งรู้ว่า คนผู้นี้…ก็ไม่ต่างจากตน พวกเขาต่างเป็นผู้ถูก “ทำให้หลงเหลือ” ในขณะที่คนอื่นมีครอบครัว มีอ้อมกอด มีสิ่งให้หวงแหน พวกเขากลับมีเพียง “เงา” ที่ยังหลงเหลือในใจ

 

 

ณ โรงเตี๊ยม “เมิ่งหลิ่วชุน” ชั้นล่างนั้น เสียงพูดคุยจอแจของบรรดาสตรีผู้ดีที่นั่งประจำโต๊ะริมหน้าต่าง มิได้รบกวนบรรยากาศโดยรวมของโรงเตี๊ยมมากนัก ทว่าเสียงหัวเราะแหลมสูงของใครบางคนกลับเด่นชัดขึ้นมาเหนือเสียงอื่นราวกับตั้งใจให้ได้ยินกันทั่วทั้งชั้น

 

“อาโย่ว เจ้าเห็นหรือไม่…บุรุษผู้นั้นช่างหล่อเหลายิ่งนัก” เสียงของจางรั่วรั่วเอ่ยดังขึ้น

 

เนี่ยเหวินชิงวางพัดในมือลงช้า ๆ ดวงตากลมโตที่มักฉาบด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานฉายแววแปลกประหลาดขึ้นมาเมื่อมองผ่านฉากไม้โปร่งขึ้นไปยังชั้นบน นางจ้องอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนริมฝีปากจะเหยียดขึ้นอย่างนึกสนุก

 

“…บังเอิญยิ่งนัก “นางพึมพำเบา ๆ ขณะหยิบถ้วยชาขึ้นจิบ ทว่าแววตากลับเยียบเย็นราวหยาดน้ำค้างเหนือลานหิมะ ก่อนจะเรียกหา “สาวใช้คู่ใจ” ที่ติดตามมาตลอด นามว่า “ชุยหลาน”

 

“ขึ้นไปดูให้ชัดว่าสตรีที่นั่งอยู่นั่นคือฮุ่ยเฟยหรือไม่ “ น้ำเสียงแผ่วเบา ทว่าแฝงแรงกดดันที่สาวใช้ไม่กล้าปฏิเสธ แต่เพียงครู่เดียวชุยหลานกลับมาค้อมตัวกระซิบข้างหูนาง

 

“… เป็นคุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ “

เนี่ยเหวินชิงยิ้มหวานเอ่ยสั่งสาวใช้ของตนอีกครั้ง “ไปแจ้งท่านแม่ให้เร็วที่สุด”

 

ภายในเรือนด้านตะวันตกของจวนเนี่ย ซึ่งเป็นเรือนของฟู่ซื่อ ที่อยู่ในชุดผ้าไหมปักลายเมฆสีเงิน นั่งอ่านบทกวีอยู่บนเตียงอุ่น เมื่อได้ยินเสียงรายงานจากหน้าห้องก็เอ่ยอนุญาตให้สาวใช้ของบุตรสาวตนเข้าพบทันที

“มีอะไรถึงได้รีบร้อนเช่นนี้ แล้วลูกข้าอยู่ที่ใด?”

 

ชุยหลานค้อมตัวลง แล้วกล่าวด้วยเสียงตื่นเต้นปนสะใจ

 

“คุณหนูนางให้บ่าวมาแจ้งท่านว่า บัดนี้คุณหนูใหญ่ …นางกำลังดื่มชาอยู่กับบุรุษ ณ โรงเตี๊ยมเมิ่งหลิ่วชุนเจ้าค่ะ แถมเป็นบุรุษที่ไม่มีใครรู้ว่ามาจากตระกูลใด!”

ฟู่ซื่อชะงักไปเพียงอึดใจ ก่อนหัวเราะเบา ๆ “โอ้…เป็นเช่นนั้นหรือ?” นางวางตำราในมือ ก่อนเอ่ยต่อ

“ถึงคราวที่สวรรค์เป็นใจให้ข้าบ้างแล้วละ”นางหันไปหาสาวใช้ในเรือนที่ยืนอยู่อีกฟากห้อง

“ไปสั่งให้พวกแม่ค้าในตลาด…กระจายข่าว ว่า ‘คุณหนูใหญ่ตระกูลเนี่ย’ แอบนัดบุรุษนอกจวนไปดื่มชากลางวันแสก ๆ แล้วยังนั่งในห้องสองต่อสองเสียด้วย! อย่าให้ใครรู้ว่าต้นข่าวมาจากไหน อย่าเอ่ยสิ่งใดทั้งสิ้น ให้ทุกอย่างดู… ‘หลุด’ ออกจากปากคนในโรงเตี๊ยม “

 

“เจ้าค่ะ!”

เพียงข้ามคืน ข่าวลือเริ่มแพร่กระจายไปทั่วตลาด

“ว่าไปแล้ว ข้าเห็นบุรุษรูปงามคนหนึ่งพาเด็กสาวเข้าห้องบนจริง ๆ”

“ไม่แน่…อาจจะเป็นคู่หมาย หรือไม่ก็บุรุษที่แอบคบหากัน”

เสียงกระซิบ…เสียงหัวเราะเบา ๆ อย่างเจือเยาะ

 

“เฮ้อ เจ้าได้ยินหรือยังเรื่องคุณหนูใหญ่ตระกูลเนี่ยน่ะ?”

 

“อะไร? คุณหนูที่ไม่เคยออกจากจวนนั่นน่ะหรือ?”

 

“นั่นแหละ! เขาว่าเมื่อวานนางไปดื่มชากับบุรุษหน้าตาดีอยู่ในโรงเตี๊ยมเมิ่งหลิ่วชุนนะสิ”

 

“หา! จริงหรือ? แถมอยู่กันแค่สองคนอีก?”

 

“ใช่แล้ว ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่คู่หมั้น…เจ้ายังจะคิดอะไรได้อีกล่ะ?”

 

พ่อค้าขายขนมใกล้ประตูเมืองถอนหายใจอย่างสมเพชขณะเลื่อนถาดขนมให้ลูกค้า

 

“ข้าก็เคยเห็นนางตอนยังเด็กนะ…ดูเป็นเด็กเรียบร้อย แต่ตอนนี้โตเป็นสาวแล้ว ถ้าไม่ระวังตน ก็ไม่แปลกหรอกที่ชื่อเสียงจะมัวหมอง”

 

ข้างร้านขายเครื่องประดับ หญิงวัยกลางคนในชุดแพรสีชมพูซีดหยุดเลือกปิ่นปักผมแล้วหันมากระซิบกับสหาย

 

“นางเป็นบุตรสาวของฮูหยินเอกที่ตายไปนานแล้วนี่นะ? แต่ตอนนี้เห็นว่าไม่มีใครในจวนใส่ใจนัก…”

 

“ยิ่งไม่มีผู้คุ้มกัน ก็ยิ่งทำตัวตามใจหรือเปล่า?”

 

“เฮอะ ๆ ๆ ข้าได้ยินว่าบุรุษผู้นั้น…รูปงามนัก นางคงต้านเสน่ห์ไม่ไหวกระมัง”

เสียงหัวเราะเย้ยหยันตามมาทันที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนจบ

    ราวกับสวรรค์เบิกฟ้า ลมหายใจในห้องกลับมาไหลเวียนอีกครั้ง หมอตำแยชูเด็กทารกเพศหญิงขึ้น เสียงร้องดังใสแจ๋วดังขึ้นสองสามครั้ง ก่อนเงียบลงเมื่อนางถูกห่อตัวด้วยผ้าขาวสะอาดก่อนจะอุ้มออกมาส่งมอบให้หลิงเว่าเทียนที่ด้านนอก “เป็นคุณหนูน้อยเจ้าค่ะ! สมบูรณ์แข็งแรง!” หลิงเซ่าเทียนมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความรู้สึกเหนือคำบรรยาย เขารับบุตรีตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนเป็นคนแรก ก่อนส่งให้นางผู้เป็นมารดา เนี่ยฮุ่ยเฟยมองใบหน้ากลมมนเล็กจิ๋วของลูก ดวงตาคู่นั้นยังปิดสนิท แต่กลับรู้สึกราวกับสัมผัสถึงดวงวิญญาณเล็ก ๆ ที่มาเติมเต็มหัวใจของนาง “อวี้เหม่ย…ขอต้อนรับเจ้ามาสู่โลกใบนี้…” นางกล่าวด้วยเสียงสั่น เฝ้ามองลูกอย่างหลงใหล ดวงตาคู่นั้นพร่าเลือนด้วยหยาดน้ำใส หลิงเซ่าเทียนก้มลงจุมพิตเบา ๆ ที่หน้าผากภรรยา “เจ้าคือสตรีที่เก่งที่สุดในโลก…” เสียงลมหายใจของทารกน้อยดังปนอยู่กับเสียงเทียนที่ยังคงลุกไหม้แผ่วเบาในห้อง ทั้งห

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 24

    หลังยืนยันการตั้งครรภ์ การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ก็เริ่มเกิดขึ้น ในครัวใหญ่ ปรับเมนูอาหารใหม่สำหรับสตรีมีครรภ์ เน้นอาหารอ่อน ย่อยง่าย และมีคุณค่าทางโภชนาการ และในเรือนก็ได้รับการตกแต่งใหม่เพิ่มความโปร่งและเงียบสงบ ลดเสียงรบกวน เพื่อให้เนี่ยฮุ่ยเฟยพักผ่อนได้อย่างเต็มที่แม้แต่ในห้องของหลิงจิ่งหาน ถูกแยกออกเป็นห้องเล็ก ๆ ข้างเรือนใหญ่ เพื่อให้พี่เลี้ยงดูแลอย่างใกล้ชิด โดยยังให้เด็กน้อยมาเล่นกับมารดาได้ตามเวลา หลิงจิ่งหานที่ยังพูดไม่คล่องนัก มักยื่นของเล่นให้มารดา บางครั้งก็นำตุ๊กตาผ้าไปวางบนหน้าท้องนางแล้วหัวเราะเสียงใส “เจ้าอยากให้เขาเล่นกับเจ้าใช่หรือไม่?” เนี่ยฮุ่ยเฟยหัวเราะเบา ๆ ขณะลูบผมลูกชาย“อีกไม่นานเจ้าก็จะได้เป็นพี่ชายแล้วนะ…” ในคืนหนึ่ง ขณะทั้งสองสามีภรรยนั่งบนศาลาริมสระ แสงจันทร์ทอดเงาจางบนผิวน้ำ เสียงจักจั่นแว่วจากแนวไม้ไผ่ หลิงเซ่าเทียนจ้องมองหน้าท้องของภรรยา ก่อนจะเอ่ยเสียงนุ่ม “ข้

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 22

    ฤดูใบไม้ผลิเดินทางเข้าสู่กลางฤดู กลีบดอกเหมยเริ่มปลิดปลิวตามลมอ่อน ๆ ยามเช้า ในจวนหลิงที่เคยวุ่นวาย ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเบา ๆ และเสียงเด็กทารกร้องจ๊อกแจ๊ก ยามรุ่งอรุณอาบแสงแดดสีทองที่เลื้อยผ่านม่านบาง เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วดังคลอไปกับเสียงทารกน้อยที่กำลังส่งเสียงเรียกผู้เป็นแม่ในแบบของเขา ภายในเรือนกลาง เนี่ยฮุ่ยเฟยนั่งพิงเบาะนิ่มด้วยท่าทางอ่อนโยน บนตักของนางมีเด็กชายตัวน้อยวัยไม่ถึงเดือน เขากำลังดูดนมจากอกของมารดา แก้มเล็ก ๆ แดงปลั่ง มือเล็กกำแน่นจิกชายเสื้อของมารดาไว้แน่น “ค่อย ๆ ดื่มนะลูก… อย่าหายใจเร็ว” เสียงกระซิบของนางอ่อนโยนดั่งเสียงลมพัดในฤดูใบไม้ผลิ ดวงตาของนางจับจ้องใบหน้าของทารกน้อยด้วยแววตาเปี่ยมรัก หลังจากป้อนเสร็จ นางอุ้มลูกขึ้นพาดไหล่ ตบหลังเบา ๆ ให้เรอ เมื่อเสียงเรอดัง “เอิ๊ก” เล็ก ๆ ออกมา นางถึงกับหัวเราะเบา ๆ พลางยิ้มด้วยความเอ็นดู ในขณะนั้นเอง บานประตูบานใหญ่ของเรือนก็เปิดออก เสียงฝีเท้าคุ้นเคยที่หนักแน่นและมั่นคงดังขึ้น

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 23

    เมื่อบุตรชายมีอายุครบหนึ่งปี หลิงเซ่าเทียนจึงจัดพิธีเรียกว่า “จัวโจว” โดยวางสิ่งของต่าง ๆ ไว้ให้เด็กเลือก เพื่อทำนายอนาคตในศาลาหลังสวนมีผืนผ้าไหมปูลาดอย่างประณีต บนผ้านั้นมีสิ่งของเรียงราย:• พู่กันและม้วนกระดาษ (หมายถึงนักปราชญ์)• ลูกคิด (หมายถึงพ่อค้า)• ดาบไม้ (หมายถึงนักรบ)• ถุงใส่เงินทอง (หมายถึงความมั่งมี)• หยกก้อนเล็ก (หมายถึงโชคดี) หลิงจิ่งหานถูกอุ้มให้นั่งกลางวงอย่างระมัดระวัง ทุกสายตาจับจ้องขณะเขาเหลือบมองของตรงหน้า สายตาเปล่งประกายอยากรู้ ทันใดนั้น… เขาคลานตรงไปยัง พู่กัน แต่ยังไม่ทันหยิบ ก็มองเห็นลูกคิดไม้ข้าง ๆ จึงเปลี่ยนใจไปหยิบมันขึ้นมาแทน และยิ้มแฉ่งราวพอใจ เสียงหัวเราะดังขึ้นทันที “ฮ่าๆๆ เจ้าตัวแสบของเราจะเป็นพ่อค้าที่เก่งกาจหรือไม่เนี่ย” หลิงเซ่าเทียนหัวเราะ ขณะยกบุตรขึ้นสูงแล้วหมุนเบา ๆ“อย่างไรพ่อก็ขอให้เจ้าเติบโตอย่างมีสติปัญญา สุขภาพแข็งแรงพอ”

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 21

    รุ่งเช้าวันถัดมา หลิงเซ่าเทียนส่งอวี๋เหยียนกับสายลับคนสนิทเดินทางไปทางเหนือ เพื่อสืบความเคลื่อนไหวของกลุ่มขุนนางชายแดน อีกกลุ่มหนึ่ง ส่งเข้าเมืองหลวงอย่างลับเพื่อเตรียม ‘พยาน’ ที่เคยถูกปิดปากในอดีต เขาไม่ได้รอการโจมตีเขากำลัง ‘เตรียมสวนกลับ’ ในเวลาและสถานที่ที่เขาเลือกอย่างไรก็ตามภายในโรงน้ำชาร้างนอกประตูเมือง ชายวัยกลางคนสวมชุดหรูหราแต่ปิดหน้าอยู่ในเงา กำลังพูดกับคนรับใช้ข้างกาย “หลิงเซ่าเทียน…ไม่ยอมตายเหมือนพ่อมัน เช่นนั้น…เราคงต้องทำให้มันทรมานเสียก่อนจะตาย”หลายวันต่อมา ขณะที่ท้องฟ้าเมืองหลวงขมุกขมัว ท่ามกลางม่านเมฆสีเทาหนักอึ้งรถม้าคันหนึ่งแล่นเข้าสู่ประตูวังหลวงอย่างเงียบงันภายในรถม้า ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก “อวี๋เหยียน” มือซ้ายของหลิงเซ่าเทียน และ ชายชรา คนที่หายไปจากแผ่นดินมานานกว่า 10 ปี ผู้เคยเป็น “เจ้ากรมอาลักษณ์” ที่อยู่ใต้คำสั่งของบิดาหลิงเซ่าเทียนเมื่อครั้งยังมีอำนาจ เขาคือหนึ่งในคนไม่กี่คน ที่รู้แผนปลอมเอกสารและใส่ร้ายตระกูลหลิงเมื่อ 13 ปีก่อน และเป็นคนเดียวที่…หนีรอดมาได้ “ข้าคิดว่าจะตายอย่างคนไม่มีชื่อ…แต่ในเมื่อผู้มีบุญคุณยังมีชีวิต ข้าจะขอเอาชีวิตที่เหลือ ทำให้ความ

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 20

    ภายในจวนตระกูลหลิงเอง สาวใช้คนหนึ่งที่เพิ่งเข้ามาใหม่ ถูกส่งตัวให้รับหน้าที่ในครัวท่าทางว่าง่าย พูดน้อย ไม่สะดุดตาแม้แต่น้อย นางมักเงียบงันและหลบในเงามืดของเรือนแต่ในคืนหนึ่ง ขณะที่เรือนอาหารเตรียมมื้อเย็นสำหรับฮูหยินตั้งครรภ์ นางแอบใส่ “สิ่งบางอย่าง” ลงในหม้อต้มยาจีนอย่างแผ่วเบาก่อนรีบหายตัวไปจากมุมครัวอย่างไร้ร่องรอยทว่า… เงาร่างหนึ่งยืนอยู่เหนือหลังคาใกล้ศาลาเงียบดวงตาคู่นั้นจับจ้องทุกการเคลื่อนไหว และใบหน้าที่หลบอยู่ภายใต้หน้ากากสีเงิน คือสายลับผู้หนึ่งที่หลิงเซ่าเทียนสั่งให้จับตามองทุกสิ่งในจวนของเขาเอาไว้เมื่อหลิงเซ่าเทียนกลับถึงจวนก่อนเวลา และทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องอาหาร เขากลับหยุดนิ่งทันทีก่อนจะเอ่ยกับซูหรูด้วยเสียงเรียบแต่แฝงความเย็น“นำยาทั้งหมดไปเททิ้ง และนำภาชนะไปให้ท่านหมอตรวจทันที”เนี่ยฮุ่ยเฟยมองเขาอย่างประหลาดใจ หลิงเซ่าเทียนเดินเข้าไปนั่งใกล้ ลูบมือนางเบา ๆ ก่อนเอ่ย“มีคนต้องการให้เจ้ากับลูก…ไม่ได้อยู่ต่อในโลกนี้”เนี่ยฮุ่ยเฟยหน้าซีดลงช้า ๆ นางไม่เอ่ยสิ่งใด เพียงแต่เงียบงัน มือแน่นิ่งในมือเขาหลิงเซ่าเทียนเงยหน้าขึ้น ดวงตาคมดุดันดุจพยัคฆ์ใต้เงาเมฆ“ข้าเคยยอมให้ค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status