Share

ตอนที่ 8

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-27 11:16:38

ยามสาย แสงแดดอ่อนลอดผ่านม่านโปร่งที่ไหวตามลม ภายในเรือนของ “ฟู่ซื่อ” กลิ่นธูปหอมอบอวล ปะปนกับกลิ่นชาดอกเหมย

 

หญิงผู้ครองตำแหน่ง “ฮูหยินเอกคนปัจจุบัน” นั่งประณีตอยู่บนอาสนะไม้ลายกลีบบัว

งดงามดุจสตรีผู้สูงศักดิ์ หากแต่ในแววตากลับมีเงาของความไม่พอใจแฝงอยู่

สาวใช้ที่ไว้ใจได้ “ชุนผิง” เดินเข้ามาคุกเข่าแล้วก้มหน้ารายงานเบา ๆ

 

“อูหยินเจ้าคะ…บ่าวกลับจากตลาดแล้ว แต่…เรื่องที่สั่งเกี่ยวกับคุณหนูใหญ่…”

 

ฟู่ซื่อเอียงศีรษะเล็กน้อย “ว่าอย่างไร? คนในตลาดว่าอะไรบ้าง”

 

“…ขออภัยเจ้าค่ะ ไม่มีใครกล่าวถึงอีกเลย”

 

มือที่กำลังถือถ้วยชาชะงักเล็กน้อย ก่อนจะวางลงช้า ๆ

 

“ไม่มีเลย? หมายความว่าอย่างไร…”

 

“เมื่อคืนตลาดปิดเร็วกว่าปกติหลายร้าน แม่ค้าบางคนที่เคยพูดถึงข่าวลือเรื่องคุณหนูใหญ่ ก็เงียบ ไม่กล้ากล่าวแม้คำเดียว แม้บ่าวจะลองจงใจถามนำเรื่อง ก็ถูกปฏิเสธ หรือไม่ก็ถูกเมินค่ะ”

 

ฟู่ซื่อขมวดคิ้ว เงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยเสียงต่ำ

 

“แปลก…ข้าคิดว่าอย่างน้อยพวกชาวบ้านคงไม่หยุดพูดกันเร็วถึงเพียงนี้ หรือว่าผู้ใด…เข้าแทรกแซง?”

 

“ชุนผิง เจ้าเคยได้ยินชื่อของผู้ใดที่มีผู้คนกล่าวถึงในตลาดเร็ว ๆ นี้บ้างหรือไม่?”

 

ชุนผิงเงยหน้าช้า ๆ คล้ายลังเล

 

“หากพูดถึงผู้ที่ร้านค้าให้ความเกรงใจ…ก็มีเพียง ‘โรงเตี๊ยมเมิ่งหลิ่วชุน’ เจ้าค่ะ ว่ากันว่าเจ้าของเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี มีอำนาจในเงามืด ผู้คนเรียกเขาว่า… นายท่านหลิง “

 

ชื่อ “หลิง” สะกิดความทรงจำบางอย่างในใจของฟู่ซื่อทันที นัยน์ตานางเปลี่ยนไปวูบหนึ่ง ก่อนรีบกลบเกลื่อน

 

“…หลิงอย่างนั้นหรือ… โรงเตี๊ยมนั้นใช่โรงเดียวกับที่ข่าวกล่าวว่าฮุ่ยเฟยนั่งดื่มชายามบ่ายอยู่หรือไม่?”

 

“เจ้าค่ะ”

 

ฟู่ซื่อหลุบตาลง แต่ปลายนิ้วกลับบีบพัดในมือลงแน่นอย่างไม่รู้ตัวสายลมที่เคยเย็นสบายกลับรู้สึกร้อนอึดอัดขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล

“เป็นเพียงคุณหนูตกอับ แต่กลับมีบุรุษผู้มีอำนาจคอยลบข่าวให้เช่นนี้? นางไปเกี่ยวพันกับผู้ใด…?”

 

หลังจากนั้นฟู่ซื่อสั่งให้ “ซูอี้” สาวใช้ข้างกายอีกคนแอบสืบข่าวจากในโรงเตี๊ยมเมิ่งหลิ่วชุน

ด้วยความระแวง

 

“หรือว่า…ที่ข้าปล่อยข่าวไปมิใช่การทำลายคุณหนูผู้ไร้ที่พึ่ง… แต่คือการสะกิดเงาของใครบางคนเข้าโดยไม่รู้ตัว? หากผู้นั้นคือหลิงเซ่าเทียน…แล้วนางเกี่ยวพันกับเขาได้อย่างไร?

มิหนำซ้ำ เขายังลงมือ ‘ปิดข่าว’ อย่างเงียบงันได้ในคืนเดียว “

 

 

ยามเย็นใกล้ค่ำภายในเรือนกลีบบัวของฟู่ซื่อ กลิ่นชาดอกหอมหมื่นลี้ยิ่งกว่าปกติ ทว่าเจ้าของเรือนกลับไม่ได้ลิ้มรสแม้หยดเดียว

 

นางนั่งอยู่บนอาสนะไม้จันทน์ ขณะนิ้วเรียวยังคงหมุนพัดไม้ในมือช้า ๆ คิ้วเรียวขมวดน้อย ๆ

แววตาเปล่งประกายเจือเย็นชาและคาดการณ์

 

“เจ้าแน่ใจใช่หรือไม่ว่าเป็นชายผู้นั้น… ‘นายท่านหลิง’ แห่งโรงเตี๊ยมเมิ่งหลิ่วชุน?”

 

เสียงของนางถามขึ้นเรียบเย็น ข้างหน้าเป็นสาวใช้ในชุดสีหม่น ผูกผ้าโพกศีรษะต่ำ “ซูอี้” สาวใช้ที่นางส่งออกไปสืบ

 

“เจ้าค่ะ ฮูหยิน นอกจากรูปพรรณสัณฐานและคำเรียกขานแล้ว ร้านค้าหลายแห่งยังมีท่าทีเกรงใจเขายิ่งกว่าทหารผู้คุมเมืองเสียอีก และมีคนกล่าวว่าเขามิใช่พ่อค้าธรรมดา หากแต่มีความเกี่ยวพันกับขุนนางใหญ่ในอดีต”

 

พัดในมือของฟู่ซื่อหยุดเคลื่อนไหวฉับพลัน “…ตระกูล ‘หลิง’ สายนั้นหรือ?”

เสียงนางเบา แต่แฝงด้วยแรงสะเทือน

 

“แม้ล่มสลายไปแล้วหลายปี…แต่หากยังมีผู้รอดชีวิต และหวนกลับมาในฐานะพ่อค้าผู้กุมเงามืดเช่นนี้ “ฟู่ซื่อหลุบตามองต่ำ ความคิดแล่นราวสายฟ้าในยามมืด

 

“ไม่เพียงแต่ปล่อยข่าวลือไม่สำเร็จ… แต่กลับกลายเป็นการเปิดทางให้นางได้พึ่งพิงผู้มีอำนาจอีกครั้ง…ข้าจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ไม่ได้ “ นางวางพัดลงกับโต๊ะ หันขวับไปทางซูอี้

 

“สะกดรอยนางตั้งแต่พรุ่งนี้ ให้เจ้าตามคุณหนูใหญ่ทุกย่างก้าวจะออกเรือนไปที่ใด พบใคร สนทนาเรื่องใด …. ข้าต้องรู้!”

 

ซูอี้พยักหน้า “เจ้าค่ะ”

 

“หากนางพัวพันกับบุรุษผู้นั้นจริง…ข้าจะเป็นผู้ ‘ตัดรากถอนโคน’ ด้วยมือของข้าเอง” ฟู่ซื่อพึมพำออกมาเบาๆ

ท่ามกลางเสียงคนจอแจ ควันขนมอบใหม่ลอยฟุ้งแม่ค้าเรียกลูกค้าเสียงเจื้อยแจ้ว สลับกับเสียงหัวเราะของเด็ก ๆ ตลาดตะวันตกวันนี้ดูจะครึกครื้นเป็นพิเศษ ด้วยอากาศปลอดโปร่ง และแสงแดดอุ่นที่ส่องผ่านเรือนกระดาษสี

 

แต่ภายใต้ความคึกคักนั้นเงาหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวตามอีกเงาหนึ่งอย่างแนบเนียน

 

ซูอี้ แฝงตัวอยู่ในชุดแม่ค้าธรรมดา ทว่าดวงตาคอยจับจ้องอยู่ที่หญิงสาวในชุดเรียบสีคราม ที่กำลังเดินทอดน่องไปยังร้านเครื่องเขียนเก่าแก่ด้านข้างถนน

 

เนี่ยฮุ่ยเฟย หญิงสาวผู้ที่เคยอยู่ในเงามืดของจวนตระกูลเนี่ย บัดนี้กลับมีแววตามั่นคงและท่วงท่าเปี่ยมสง่า แม้จะไม่มีสาวใช้ตามหลังสักคน

 

“ใจกล้านัก…ออกจากเรือนโดยไม่มีคนรับใช้ ไม่กลัวเสื่อมเสียหรืออย่างไร?”

 

นางหลบอยู่หลังแผงผลไม้ มือหนึ่งถือถาดพุทรา อีกมือกุมมีดเล็ก แสร้งเป็นแม่ค้าเดินขายไปเรื่อย ๆ ขณะที่สายตาไม่คลาดจากเป้าหมาย

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนจบ

    ราวกับสวรรค์เบิกฟ้า ลมหายใจในห้องกลับมาไหลเวียนอีกครั้ง หมอตำแยชูเด็กทารกเพศหญิงขึ้น เสียงร้องดังใสแจ๋วดังขึ้นสองสามครั้ง ก่อนเงียบลงเมื่อนางถูกห่อตัวด้วยผ้าขาวสะอาดก่อนจะอุ้มออกมาส่งมอบให้หลิงเว่าเทียนที่ด้านนอก “เป็นคุณหนูน้อยเจ้าค่ะ! สมบูรณ์แข็งแรง!” หลิงเซ่าเทียนมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความรู้สึกเหนือคำบรรยาย เขารับบุตรีตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนเป็นคนแรก ก่อนส่งให้นางผู้เป็นมารดา เนี่ยฮุ่ยเฟยมองใบหน้ากลมมนเล็กจิ๋วของลูก ดวงตาคู่นั้นยังปิดสนิท แต่กลับรู้สึกราวกับสัมผัสถึงดวงวิญญาณเล็ก ๆ ที่มาเติมเต็มหัวใจของนาง “อวี้เหม่ย…ขอต้อนรับเจ้ามาสู่โลกใบนี้…” นางกล่าวด้วยเสียงสั่น เฝ้ามองลูกอย่างหลงใหล ดวงตาคู่นั้นพร่าเลือนด้วยหยาดน้ำใส หลิงเซ่าเทียนก้มลงจุมพิตเบา ๆ ที่หน้าผากภรรยา “เจ้าคือสตรีที่เก่งที่สุดในโลก…” เสียงลมหายใจของทารกน้อยดังปนอยู่กับเสียงเทียนที่ยังคงลุกไหม้แผ่วเบาในห้อง ทั้งห

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 24

    หลังยืนยันการตั้งครรภ์ การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ก็เริ่มเกิดขึ้น ในครัวใหญ่ ปรับเมนูอาหารใหม่สำหรับสตรีมีครรภ์ เน้นอาหารอ่อน ย่อยง่าย และมีคุณค่าทางโภชนาการ และในเรือนก็ได้รับการตกแต่งใหม่เพิ่มความโปร่งและเงียบสงบ ลดเสียงรบกวน เพื่อให้เนี่ยฮุ่ยเฟยพักผ่อนได้อย่างเต็มที่แม้แต่ในห้องของหลิงจิ่งหาน ถูกแยกออกเป็นห้องเล็ก ๆ ข้างเรือนใหญ่ เพื่อให้พี่เลี้ยงดูแลอย่างใกล้ชิด โดยยังให้เด็กน้อยมาเล่นกับมารดาได้ตามเวลา หลิงจิ่งหานที่ยังพูดไม่คล่องนัก มักยื่นของเล่นให้มารดา บางครั้งก็นำตุ๊กตาผ้าไปวางบนหน้าท้องนางแล้วหัวเราะเสียงใส “เจ้าอยากให้เขาเล่นกับเจ้าใช่หรือไม่?” เนี่ยฮุ่ยเฟยหัวเราะเบา ๆ ขณะลูบผมลูกชาย“อีกไม่นานเจ้าก็จะได้เป็นพี่ชายแล้วนะ…” ในคืนหนึ่ง ขณะทั้งสองสามีภรรยนั่งบนศาลาริมสระ แสงจันทร์ทอดเงาจางบนผิวน้ำ เสียงจักจั่นแว่วจากแนวไม้ไผ่ หลิงเซ่าเทียนจ้องมองหน้าท้องของภรรยา ก่อนจะเอ่ยเสียงนุ่ม “ข้

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 22

    ฤดูใบไม้ผลิเดินทางเข้าสู่กลางฤดู กลีบดอกเหมยเริ่มปลิดปลิวตามลมอ่อน ๆ ยามเช้า ในจวนหลิงที่เคยวุ่นวาย ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเบา ๆ และเสียงเด็กทารกร้องจ๊อกแจ๊ก ยามรุ่งอรุณอาบแสงแดดสีทองที่เลื้อยผ่านม่านบาง เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วดังคลอไปกับเสียงทารกน้อยที่กำลังส่งเสียงเรียกผู้เป็นแม่ในแบบของเขา ภายในเรือนกลาง เนี่ยฮุ่ยเฟยนั่งพิงเบาะนิ่มด้วยท่าทางอ่อนโยน บนตักของนางมีเด็กชายตัวน้อยวัยไม่ถึงเดือน เขากำลังดูดนมจากอกของมารดา แก้มเล็ก ๆ แดงปลั่ง มือเล็กกำแน่นจิกชายเสื้อของมารดาไว้แน่น “ค่อย ๆ ดื่มนะลูก… อย่าหายใจเร็ว” เสียงกระซิบของนางอ่อนโยนดั่งเสียงลมพัดในฤดูใบไม้ผลิ ดวงตาของนางจับจ้องใบหน้าของทารกน้อยด้วยแววตาเปี่ยมรัก หลังจากป้อนเสร็จ นางอุ้มลูกขึ้นพาดไหล่ ตบหลังเบา ๆ ให้เรอ เมื่อเสียงเรอดัง “เอิ๊ก” เล็ก ๆ ออกมา นางถึงกับหัวเราะเบา ๆ พลางยิ้มด้วยความเอ็นดู ในขณะนั้นเอง บานประตูบานใหญ่ของเรือนก็เปิดออก เสียงฝีเท้าคุ้นเคยที่หนักแน่นและมั่นคงดังขึ้น

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 23

    เมื่อบุตรชายมีอายุครบหนึ่งปี หลิงเซ่าเทียนจึงจัดพิธีเรียกว่า “จัวโจว” โดยวางสิ่งของต่าง ๆ ไว้ให้เด็กเลือก เพื่อทำนายอนาคตในศาลาหลังสวนมีผืนผ้าไหมปูลาดอย่างประณีต บนผ้านั้นมีสิ่งของเรียงราย:• พู่กันและม้วนกระดาษ (หมายถึงนักปราชญ์)• ลูกคิด (หมายถึงพ่อค้า)• ดาบไม้ (หมายถึงนักรบ)• ถุงใส่เงินทอง (หมายถึงความมั่งมี)• หยกก้อนเล็ก (หมายถึงโชคดี) หลิงจิ่งหานถูกอุ้มให้นั่งกลางวงอย่างระมัดระวัง ทุกสายตาจับจ้องขณะเขาเหลือบมองของตรงหน้า สายตาเปล่งประกายอยากรู้ ทันใดนั้น… เขาคลานตรงไปยัง พู่กัน แต่ยังไม่ทันหยิบ ก็มองเห็นลูกคิดไม้ข้าง ๆ จึงเปลี่ยนใจไปหยิบมันขึ้นมาแทน และยิ้มแฉ่งราวพอใจ เสียงหัวเราะดังขึ้นทันที “ฮ่าๆๆ เจ้าตัวแสบของเราจะเป็นพ่อค้าที่เก่งกาจหรือไม่เนี่ย” หลิงเซ่าเทียนหัวเราะ ขณะยกบุตรขึ้นสูงแล้วหมุนเบา ๆ“อย่างไรพ่อก็ขอให้เจ้าเติบโตอย่างมีสติปัญญา สุขภาพแข็งแรงพอ”

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 21

    รุ่งเช้าวันถัดมา หลิงเซ่าเทียนส่งอวี๋เหยียนกับสายลับคนสนิทเดินทางไปทางเหนือ เพื่อสืบความเคลื่อนไหวของกลุ่มขุนนางชายแดน อีกกลุ่มหนึ่ง ส่งเข้าเมืองหลวงอย่างลับเพื่อเตรียม ‘พยาน’ ที่เคยถูกปิดปากในอดีต เขาไม่ได้รอการโจมตีเขากำลัง ‘เตรียมสวนกลับ’ ในเวลาและสถานที่ที่เขาเลือกอย่างไรก็ตามภายในโรงน้ำชาร้างนอกประตูเมือง ชายวัยกลางคนสวมชุดหรูหราแต่ปิดหน้าอยู่ในเงา กำลังพูดกับคนรับใช้ข้างกาย “หลิงเซ่าเทียน…ไม่ยอมตายเหมือนพ่อมัน เช่นนั้น…เราคงต้องทำให้มันทรมานเสียก่อนจะตาย”หลายวันต่อมา ขณะที่ท้องฟ้าเมืองหลวงขมุกขมัว ท่ามกลางม่านเมฆสีเทาหนักอึ้งรถม้าคันหนึ่งแล่นเข้าสู่ประตูวังหลวงอย่างเงียบงันภายในรถม้า ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก “อวี๋เหยียน” มือซ้ายของหลิงเซ่าเทียน และ ชายชรา คนที่หายไปจากแผ่นดินมานานกว่า 10 ปี ผู้เคยเป็น “เจ้ากรมอาลักษณ์” ที่อยู่ใต้คำสั่งของบิดาหลิงเซ่าเทียนเมื่อครั้งยังมีอำนาจ เขาคือหนึ่งในคนไม่กี่คน ที่รู้แผนปลอมเอกสารและใส่ร้ายตระกูลหลิงเมื่อ 13 ปีก่อน และเป็นคนเดียวที่…หนีรอดมาได้ “ข้าคิดว่าจะตายอย่างคนไม่มีชื่อ…แต่ในเมื่อผู้มีบุญคุณยังมีชีวิต ข้าจะขอเอาชีวิตที่เหลือ ทำให้ความ

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 20

    ภายในจวนตระกูลหลิงเอง สาวใช้คนหนึ่งที่เพิ่งเข้ามาใหม่ ถูกส่งตัวให้รับหน้าที่ในครัวท่าทางว่าง่าย พูดน้อย ไม่สะดุดตาแม้แต่น้อย นางมักเงียบงันและหลบในเงามืดของเรือนแต่ในคืนหนึ่ง ขณะที่เรือนอาหารเตรียมมื้อเย็นสำหรับฮูหยินตั้งครรภ์ นางแอบใส่ “สิ่งบางอย่าง” ลงในหม้อต้มยาจีนอย่างแผ่วเบาก่อนรีบหายตัวไปจากมุมครัวอย่างไร้ร่องรอยทว่า… เงาร่างหนึ่งยืนอยู่เหนือหลังคาใกล้ศาลาเงียบดวงตาคู่นั้นจับจ้องทุกการเคลื่อนไหว และใบหน้าที่หลบอยู่ภายใต้หน้ากากสีเงิน คือสายลับผู้หนึ่งที่หลิงเซ่าเทียนสั่งให้จับตามองทุกสิ่งในจวนของเขาเอาไว้เมื่อหลิงเซ่าเทียนกลับถึงจวนก่อนเวลา และทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องอาหาร เขากลับหยุดนิ่งทันทีก่อนจะเอ่ยกับซูหรูด้วยเสียงเรียบแต่แฝงความเย็น“นำยาทั้งหมดไปเททิ้ง และนำภาชนะไปให้ท่านหมอตรวจทันที”เนี่ยฮุ่ยเฟยมองเขาอย่างประหลาดใจ หลิงเซ่าเทียนเดินเข้าไปนั่งใกล้ ลูบมือนางเบา ๆ ก่อนเอ่ย“มีคนต้องการให้เจ้ากับลูก…ไม่ได้อยู่ต่อในโลกนี้”เนี่ยฮุ่ยเฟยหน้าซีดลงช้า ๆ นางไม่เอ่ยสิ่งใด เพียงแต่เงียบงัน มือแน่นิ่งในมือเขาหลิงเซ่าเทียนเงยหน้าขึ้น ดวงตาคมดุดันดุจพยัคฆ์ใต้เงาเมฆ“ข้าเคยยอมให้ค

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status