“คุณไม่ใช่คุณแม่ของผมใช่มั้ยครับ...” เด็กชายถามน้ำเสียงจริงจังท่าทางขึงขังราวกับผู้ใหญ่ ดวงยิหวายิ้มให้น้องปราณอย่างเอ็นดู เธอไม่ค่อยชอบเด็กนัก เพราะเด็กๆ ทั้งงอแงงี่เง่าเอาใจยากดูอย่างน้องเปรียวนั่นประไร ยายเด็กนั่นล่ะ ตัวร้ายชัดๆ แต่กับเด็กชายตรงหน้าทำให้เธอลืมความไม่ชอบนั้นไปสิ้น...
“ทำไมถามแบบนั้นล่ะจ๊ะ...”
“แล้วใช่มั้ยล่ะ” เด็กชายขมวดคิ้วยุ่ง
“ถ้าจริงแล้วยังไงล่ะ หรือถ้าไม่จริงลูกจะทำยังไง...” หญิงสาวถามกลับด้วยน้ำสียงเอ็นดูไม่มีแววโกรธขึ้ง มองใบหน้าเล็กๆ นั้นอย่างรอคำตอบ เด็กชายอึ้งไปเล็กน้อย น้ำเสียงหวานใสของคนตรงหน้านั้นช่างฟังดูอบอุ่นและทำให้ดวงใจน้อยๆ ที่โหยหาความรักจากมารดาชุ่มชื้นขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
“ก็ไม่ทำไมครับ แค่อยากรู้”
“น้องปราณ ใช่มั้ยคุณแม่จำไม่ได้นัก หมอบอกว่าคุณแม่ความจำเสื่อมชั่วคราวจากอุบัติเหตุ...” เธอตอบเลี่ยงๆ ด้วยเหตุผลจริงๆ ของหมอเลยนะเนี่ย...
“ใช่ครับ ปราณรู้แล้วว่าคุณแม่หนีตามชายชู้ไปจนเกิดอุบัติเหตุรถตกเขา...” น้ำเสียงน้องปราณเศร้าลงเล็กน้อยแต่ก็แค่เพียงครู่เดียว ดูเหมือนพวกเขาชินชากระนั้น ดวงยิหวานึกโทษคนเป็นแม่ว่าทำไมถึงได้ทำตัวน่าเกลียดแบบนั้น ทำให้เด็กๆ ต้องจดจำแต่สิ่งที่เลวร้ายแบบนี้
“เอาล่ะ เรามานั่งคุยกันดีกว่า ช่วยเล่าให้คุณแม่ฟังหน่อยได้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง...” ดวงยิหวาได้ทีแอบสอบถามเรื่องราวจากเด็กชาย พลางจูงมือน้องปราณไปนั่งที่ม้านั่งใต้ต้นชมพู่ม่าเหมี่ยวที่ยังไม่ออกผล
น้องปราณมองแผ่นหลังของมารดาที่เดินนำหน้าไปแล้วก้มมองมือเรียวขาวสะอาดของมารดาที่กุมมือตนอย่างตื้นตันใจ
นานแค่ไหนนะที่คุณแม่ดาหวันไม่เคยจับมือเขาแบบนี้ แต่จริงๆ แล้วคุณแม่ไม่เคยจับจูงมือเขาแบบนี้เลยต่างหาก.. เด็กชายมองมารดาด้วยความรักล้นใจ
และในระหว่างที่สองแม่ลูกคุยกันอยู่ใต้ต้นชมพู่เปลวก็เฝ้ามองทั้งสองอยู่เงียบๆ ใบหน้าคมเข้มที่เต็มไปด้วยหนวดเคราจนไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงเครียดจัด ดวงตาสีเทาเข้มขุ่นเคืองเมื่อนึกถึงสิ่งที่ได้รับรู้มา...
หลายวันผ่านไปดวงยิหวายังคงอยู่ที่บ้านไร่ตะวันงามในฐานะ คุณแม่ ของน้องเปรียวกับน้องปราณ แต่เธอก็ต้องทำงานเหมือนลูกจ้างคนหนึ่งของเปลว
หญิงสาวปาดเหงื่อบนใบหน้างามอย่างเจ็บใจแกมโล่งอกที่งานของตนเสร็จสิ้นเสียที ทั้งท้องก็ร้องจ๊อกๆ เรียกหาอาหารเย็น ซึ่งอีกไม่กี่นาทีก็จะหนึ่งทุ่มตรง เปลวใช้งานเธอหนักมากเหมือนจะกลั่นแกล้ง หลังจากพรวนดินเสร็จเธอก็ต้องมาทำความสะอาดห้องน้ำทุกห้องในบ้านจนสะอาดเอี่ยมทั้งๆ ที่มีคนงานหลายคนในบ้านแต่ตอนนี้เธอกลับรับหน้าที่ทำความสะอาดบ้านทั้งหมด เรียกได้ว่าต้องทำงานแลกข้าวก็ไม่ผิดนัก แต่แม้งานจะหนักหรือเหนื่อยแค่ไหน และแม้ว่าอยากจะหนีไปจากที่นี่หลายรอบต่อวันแต่เพราะไม่คุ้นชินทั้งไม่รู้จะหนีอย่างไรจึงต้องทนให้เขาโขลกสับ อีกใจก็กลัวว่าหากเธอบอกเขาและยืนยันว่าเธอไม่ใช่ดวงดาหวันแล้วเขาจะฆ่าเธอหมกป่าเขาแถวนี้เสียและอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ...
“คุณแม่ครับเราไปทานข้าวกันเถอะ..” แววตาของเด็กชายที่ทอดมองเธอนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและชื่นชม น้องปราณชื่นชมเธอมากจนเธอรู้สึกละอายใจที่หลอกถามน้องปราณเรื่องดวงดาหวัน
ดวงยิหวารู้ว่าเหตุใดเด็กชายจึงชื่นชมเธอก็เพราะที่ผ่านคุณแม่ดาหวันของเขาไม่เคยหยิบจับงานในบ้านไม่เคยอยู่รับประทานอาหารพร้อมหน้า ไม่เคยพาเขาเข้านอนไม่เคยอ่านนิทานให้ฟังก่อนนอนด้วย และเรื่องเล่านิทานนี่เองทำให้ดวงยิหวารู้สึกสงสารเด็กชายจับใจ เธอไม่อยากเชื่อว่าเด็กชายวัยย่างสิบขวบนั้นยังติดฟังนิทานก่อนนอนอยู่ ส่วนน้องเปรียวนั้นก็เช่นกันแต่จะให้เปลวอ่านให้ฟังมากกว่าเพราะเด็กหญิงยังคงตั้งแง่ไม่ยอมรับว่าเธอเป็นแม่ และบางครั้งก็แอบกลั่นแกล้งเธอเพื่อเรียกร้องความสนใจอีกด้วย
เมื่อคืนก่อนน้องเปรียวก็แอบเอาตุ๊กแกตัวเป็นๆ ไปใส่ไว้ในผ้าห่มเพื่อให้เธอตกใจ เอางูปลอมมาไว้ในห้องน้ำบ้าง บ้างก็เอากาวเหนียวๆ มาใส่ไว้ในครีมบำรุงผิวของเธอ แต่เด็กหญิงคงไม่รู้ว่าคนที่ตนเองกลั่นแกล้งนั้นซ่อนเขี้ยวเล็บและความแสบสันไว้เพื่อรอวันง้างกรงเล็บคมกริบของตัวเองอยู่ ดวงยิหวาได้แต่แอบขันระคนเอ็นดูเด็กหญิง ดูก็รู้ว่าน้องเปรียวกำลังเรียกร้องความสนใจจึงพยายามหาทางกลั่นแกล้งเธอต่างๆ นานา แต่เธอก็ทำเฉยไม่แสดงอาการอะไรออกมา หญิงสาวอมยิ้มขณะเดินไปห้องอาหารกับน้องปราณและเมื่อไปถึงก็พบว่ามี แขก ร่วมโต๊ะอาหารด้วยในเย็นวันนี้
“จะกินข้าวก็ยังให้คนอื่นลำบากไปตาม...” น้องเปรียวปรายตามองน้องชายที่เกาะแขน คุณแม่ อย่างไม่พอใจ
“อุ้ย สวัสดีค่ะ คุณดาหวันกลับมานานแล้วหรือคะ ว่าแล้วเชียวต้องไปกับชู้คนใหม่ไม่รอด...” น้ำหวาน หญิงสาวไร่ข้างเคียงใบหน้าสวยหวานแต่แต่งหน้าจัดไปนิดจนเหมือนงิ้วโพล่งขึ้นอย่างไม่รักษามารยาท คิ้วที่เขียนแบบหางเชิดขึ้นจนแทบจะจรดไรผมดูตลกเหลือเกินดวงยิหวาแทบจะหัวเราะก๊ากออกมาเมื่อเห็นท่าทางกรีดมือของเจ้าหล่อน
อืม... เย็นมีนี้งิ้วหลงโรงมาให้ดู... คนแถวนี้แต่งตัวไร้รสนิยมกันจริงๆ เลย..
ดวงยิหวาค่อนแคะน้ำหวานในใจ แม้อยากจะเชือดเฉือนคนปากเปราะอย่างน้ำหวานแค่ไหนแต่เธอก็ต้องบอกตัวเองว่ายังก่อน ใจเย็นๆ ไว้ก่อน...
“เธอไม่ควรพูดแบบนี้ต่อหน้าหลานๆ ของฉันนะน้ำหวาน...”
เปลวมองน้ำหวานอย่างไม่พอใจทั้งนึกระอาในความไม่มีมารยาทของเจ้าหล่อนที่นับวันจะ เยอะ มากขึ้นทุกที แม้ก่อนหน้านี้น้ำหวานกับดาหวันไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว แต่น้ำหวานไม่ควรพูดแบบนี้ต่อหน้าเด็กๆ ในขณะที่ดวงยิหวาแอบเลิกคิ้วและยิ้มมุมปากเล็กน้อยอย่างเยาะหยันให้น้ำหวาน ซึ่งมันทำให้น้ำหวานที่พยายามรักษาภาพลักษณ์หญิงสาวผู้อ่อนหวานแสนดีแทบอยากจะลุกขึ้นกรี๊ดเสียให้ได้... สองสาวแอบเขม่นกันเงียบๆ
ตอนที่82. ตอนอวสานบทส่งท้าย...น้องเปรียวกับน้องปราณโบกมือลาเพื่อนๆ ซึ่งพ่อแม่มารับกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม เด็กทั้งสองมีความสุขที่สุด ณ ตอนนี้ พวกเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดหรือขาดความรักความอบอุ่นแม้แต่น้อย แม้ดวงยิหวาจะไม่ใช่แม่ที่แท้จริงแต่ความรักความผูกพันที่มีในสายเลือดก็ผูกพวกเขาไว้ด้วยกันอย่างเหนียวแน่นยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด“เด็กๆ จ๊ะ มาทานข้าวกันได้แล้วค่ะ พี่ฝนจะตั้งโต๊ะแล้ว”ดวงยิหวาเรียกลูกๆ ด้วยรอยยิ้ม เธอรู้สึกดีใจที่น้องเปรียวรู้จักคิดแยกแยะและให้อภัยรินลดา หญิงสาวเชื่อว่าเด็กทั้งสองจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไปในอนาคต“คุณแม่ว่าน้องเปรียวทำถูกมั้ยคะ” เด็กหญิงถามหน้ายุ่ง“ถูกสิคะ การให้อภัยเป็นสิ่งที่ดี การมีเพื่อนก็เป็นสิ่งที่ดี ลูกของคุณแม่น่ารักที่สุดค่ะ” ดวงยิหวายิ้มแล้วลูบเรือนผมของน้องเปรียวเบาๆ อย่างรักใคร่เอ็นดู“แล้วสามีละครับที่รัก น่ารักรึเปล่า” เปลวถามขึ้นพร้อมทั้งยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มนวลใสของภรรยาต่อหน้าเด็กๆ ดวงยิหวาหันมาค้อนขวับแล้วหยิกหมับเข้าที่ต้นแขนแกร่งเต็มแรงด้วยความหมั่นไส้ที่สามีชอบแสดงความรักกับเธอต่อหน้าเด็กๆ แบบนี้“คนบ้าหน้าไม่อาย นี่แน่ะๆ”“โอ๊ยๆ เจ็บครับที่รั
ตอนที่81.“ก็มองเหมือนจะถอดเสื้อผ้ายิหวา แบบนี้ไง คนบ้า”เธออ้อมแอ้มตอบรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทั่วร่างกับสายตาของสามีที่มองมาเหมือนจะกลืนกินทั้งที่เธอสวมเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขาอยู่ แต่ภายใต้เสื้อตัวใหญ่ที่ยาวถึงโคนขาเสลาก็ไร้สิ่งอื่นห่อหุ้มความงามของอิสรีไว้และตอนนี้ดวงยิหวาก็รู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่อะไรอยู่ดี“อื้ม สามีของยิหวานี่หื่นจริงๆ เลยนะครับ ไม่ไหวเลยมองภรรยาแบบจะกลืนกินได้ยังไงกัน สู้กินจริงๆ ไม่ดีกว่าเหรอ..” เขาเย้ายิ้มๆ ยกร่างบางมานั่งบนเคาน์เตอร์หินอ่อนตัวยาวตรงอ่างล้างหน้าที่สามารถขึ้นไปนั่งได้สบายๆ ทันที“อุ้ย พี่เปลวไม่นะ ยิหวาอยากอาบน้ำ หิวแล้ว”“ก็ใครว่าเราจะไม่อาบน้ำล่ะที่รัก”“ก็ปล่อยสิคะ ยิหวาจะอาบน้ำ พี่เปลวอาบแล้วก็ออกไปสิ” หญิงสาวต่อรองเมื่อเห็นใบหน้าเกลี้ยงเกลาหล่อเหลาของสามีที่บ่งบอกว่าจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วก็ใจสั่นหวิวเพราะแรงปรารถนาจากดวงตาคมมันชัดเจนเหลือเกิน นี่อย่าบอกนะว่าเขาจะ...“ยิหวาจ๋า พี่อยากรักยิหวาอีกแล้ว”ไม่พูดเปล่าแต่ร่างแกร่งแทรกเข้ามาระหว่างเรียวขาเสลาแล้วโน้มใบหน้างามลงมาชิด ปลายจมูกคมปัดเบาๆ กับปลายจมูกรั้นอย่างหยอกเย้าแล้วริมฝีปากหยักก็บดจูบ
ตอนที่80.“คุณแม่ก็บอกว่า หากสิ้นปีนี้ไม่มีวี่แววว่าจะได้อุ้มหลาน พี่เตรียมตัวกระเด็นออกจากชีวิตลูกสาวท่านไปเลย” เปลวยิ้มกรุ้มกริ่มมองเธอตาหวานเชื่อมอย่างมีความหมาย ดวงยิหวาหน้าแดงรู้ทันทีว่าตนพลาดท่าคนเจ้าเล่ห์เสียแล้ว“ยี้ คนบ้า เจ้าเล่ห์กับยิหวาอีกแล้วนะ อุ้ย ไม่เอาค่ะ นี่ยังไม่มืดนะคะเพิ่งจะสี่โมงเย็นเอง” หญิงสาวจะลุกหนีคนเจ้าเล่ห์ที่เริ่มมือไม้อยู่ไม่สุขแต่ก็ดูเหมือนจะช้าไป “ไม่เป็นไรหรอกที่รัก เราทำอะไรกันเพลินๆ เผลอแป๊บเดียวมันก็ค่ำแล้ว มาทำเจ้าตัวเล็กให้คุณแม่อุ้มดีกว่าไม่อย่างนั้นพี่ได้โดนเฉดหัวออกจากชีวิตยิหวาแน่ๆ เลย”ชายหนุ่มพูดงึมงำอยู่กับซอกคอขาวเนียนที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู ดวงยิหวาใจสั่นเมื่อรู้ตัวดีว่าไม่สามารถต้านทานแรงพิศวาสอันเร่าร้อนจากสามีได้ ริมฝีปากบางระเรื่อที่พยายามจะคัดค้านก็ถูกครอบครองด้วยปากร้อนๆ ของคนที่รอเวลานี้มาทั้งวันอย่างหิวกระหาย ลิ้นหนาสอดไล้ดูดกลืนเรียวลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อนช่ำชอง ดวงยิหวาครางเบาๆ ด้วยความซ่านหวิวมือร้อนผ่าวก็กำจัดเสื้อผ้าของเธอออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วจนดวงยิหวานึกทึ่งที่เขาสามารถทำได้รวดเร็วกว่าที่เธอถอดเองเสียอีก“อื้ม พี่เปลว
ตอนที่79.“เออนะ เหมือนกันทั้งคนทั้งม้า ไอ้วิทย์อยากจะบ้า”หมอวิทย์ทำท่าเหมือนอยากจะขาดใจตาย เจ้าม้าสาวเอียงคอมองเขาตาใสแจ๋ว มันคงจะสงสัยว่ามนุษย์คนนี้เป็นอะไรไปเป็นแน่แท้เปลวเดินตรงขึ้นไปห้องหอแสนหวาน ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าห้องว่างเปล่าแต่ได้ยินเสียงน้ำไหลซู่ๆ อยู่ในห้องน้ำเปลวยิ้มกริ่มจินตนาการไปไกล“ยิหวาจ๋า ทำอะไรอยู่จ๊ะที่รัก..”แสร้งร้องเรียกภรรยาแต่เธอไม่ตอบเขาจึงเดินไปเปิดประตูห้องน้ำด้วยความคาดหวังว่าจะเห็นร่างเปลือยเปล่างดงามของภรรยาอยู่ภายใต้สายน้ำเย็นฉ่ำแต่..เมี้ยวววว เจ้าแมวเหมียวสีตุ่นๆ กระดำกระด่างหน้าตาน่าเกลียดเปียกมะลอกมะแลกถูกยื่นมาตรงหน้าตามด้วยเสียงหัวเราะสดใสของภรรยา“อะไรกันนี่ยิหวา..” เปลวหน้าหงิกเมื่อมันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้สักนิด“ก็น้องแมวไงคะ พอดีว่าฝนเจอมันหลงมาอยู่ข้างรั้วเมื่อกี้ ยิหวาเลยจะเลี้ยงมันไว้แต่ตัวมันเปรอะมากก็เลยพามามันมาอาบน้ำเช็ดตัวให้แห้งค่ะ”เธอบอกแล้วพามันไปเช็ดตัวและไดร์เป่าขนให้มันอย่างอ่อนโยนเจ้าแมวน้อยก็อยู่นิ่งให้บริการมันด้วยท่าทางแสนสุขน่าหมั่นไส้ เปลวเดินไปกอดร่างบางไว้แล้วซุกจมูกลงกับพวงแก้มนุ่มอย่างออดอ้อนกลัวว่า
ตอนที่78.“ยิหวาจ๋า สวยเหลือเกินคนดี..” เปลวครางแผ่วละเรียวลิ้นจากยอดทรวงสีหวานที่ดูดกลืนกินอย่างเอร็ดอร่อยเพื่อมุ่งไปยังทุ่งดอกไม่แสนสวยที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนให้ดื่มกินความหวานล้ำที่เคยได้ลิ้มรสมาก่อนหน้านี้ทำให้เปลวแทบอดใจไม่ไหวที่จะได้ลิ้มรสน้ำหวานจากดอกไม้สาวฉ่ำเยิ้มหลอกล่อให้เขาหลงใหลมึนเมา มือหนาเลื่อนไล้ไปยังต้นขาและสะโพกตึงแน่นลูบไล้วนเวียนใกล้ดงดอกไม้งามหยอกเย้าให้เธอดิ้นพล่านด้วยความซ่านกระสัน ดวงยิหวาเผยอครางกระเส่ามือเรียวจิกบ่ากว้างของเขาแน่นเพื่อระบายความเสียวเสียด เลือดในกายสาวร้อนระอุเดือดพล่านราวกับว่ากายของเธอจะมอดไหม้ลงไปเพราะลิ้นและมือร้อนๆ ของเขา“อื้ม พี่เปลว อา...” ดวงยิหวาครางกระเส่าเมื่อลิ้นร้อนไล้เลียต่ำลงไปยังสะดือน่ารักและต่ำลงๆ จนถึงกึ่งกายสาวพร้อมกับนิ้วแกร่งเดินทางมาถึงจุดอ่อนไหวชื้นฉ่ำด้วยน้ำหวานเอ่อซึมยั่วเย้าให้ดูดดื่มและเปลวก็ไม่รอช้าที่จะทำดังนั้นและเมื่อลิ้นร้อนแตะแต้มลงบนกลีบดอกไม้งามดวงยิหวาก็สะดุ้งสุดตัวทั้งยังครางออกมาด้วยความซ่านกระสันสุดใจ ร่างงามส่ายพลิ้วดั่งใบไม้ต้องลมเมื่อถูกความเสียวซ่านโจมตีจากทั้งมือและปากของเขาก็ทำให้เธอแทบขาดใจ แล้วร่
ตอนที่77.แต่เพราะพ่อเลี้ยงเปลวไม่อยากให้ใครพูดถึงเพราะสงสารหลานๆ จึงให้ดวงยิหวาสวมรอยเป็นดวงดาหวันไปชั่วคราวรอจนมั่นใจว่าหลานๆ รับได้จึงจะบอกความจริงให้รับรู้ ซึ่งทุกคนก็เข้าใจดีเพราะเจ๊ขาเม้าท์ทั้งสองถึงแม้จะเป็นคนที่ค่อนข้างพูดมากและชอบจับกลุ่มนินทาคนอื่นแต่พวกนางก็พูดในเรื่องที่มีมูลความจริงทุกเรื่อง ดังนั้นความเป็นมาของดวงยิหวาจึงไม่มีใครติดใจทั้งยังร่วมยินดีกับการแต่งงานอันยิ่งใหญ่ของพ่อเลี้ยงเปลวกับดวงยิหวาที่กำลังจะมีขึ้นอีกด้วยเมื่อเรื่องวุ่นวายต่างๆ ผ่านไปเปลวก็จัดการทำบุญและจัดการเรื่องศพของดวงดาหวันที่เอื้องอำพรางคดีด้วยการฝังไว้ที่ชายป่าท้ายไร่นั่นเองซึ่งอาคมได้บอกกับเขาตอนที่ยอมจำนนต่อความผิดที่ก่อไว้แต่สุดท้ายเมื่ออาคมรู้ว่าหญิงสาวที่ตนรักนั้นได้จบชีวิตลงเขาก็ฆ่าตัวตายในคุก นับว่าอาคมมีความรักที่จริงใจต่อเอื้องมากอย่างไม่น่าเชื่อ เปลวได้นำอัฐิของปราบกับดวงดาหวันและเอื้องมาทำบุญครั้งใหญ่และนำไปเก็บไว้รวมกันอย่างน้อยๆ พี่ชายของเขาก็คงจะได้อยู่ใกล้ๆ คนที่รัก และเอื้องก็คงจะได้รับรู้ว่าตนมีญาติมีพี่น้องอยู่ในโลกใบนี้แต่สำหรับดวงดาหวันซึ่งจากโลกนี้ไปโดยที่เธอไม่มีโอกาสได้บ