“นี่นังฝน เอ็งอย่ายุ่งเรื่องของเจ้านายให้มันมากนักได้มั้ยวะ”
“โธ่แม่ แม่เองก็คิดเหมือนฉันล่ะน่า รึไม่จริง”
“เอ๊ะ นังลูกคนนี้นี่แม่สอนยังจะมาย้อน เดี๋ยวแม่ตบกบาลแยก...” ป้าสำลีเงื้อมือขึ้นหมายจะตบกบาลแยกตามที่พูดจริงๆ แต่สายฝนก็ไวกว่าหลบมือนางได้ทันแล้วหันมายิ้มแหยๆ
“โอยๆ แม่ละก็ลองคิดดีๆ สิ นี่นะ หากเราไม่ช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้คุณๆ เขา คุณหนูเราอาจจะเป็นเด็กเกเรไม่มีสัมมาคารวะเหมือนกับหลานสาวของคุณน้ำหวานก็ได้นาแม่นา...” สายฝนทำท่าขึงขังจริงจังทำให้ผู้เป็นแม่ลดมือลงแล้วครุ่นคิดตามที่ลูกสาวพูด
“เออ มันก็จริงของเอ็งนะ แล้วเราจะทำไงกันดีวะ”
“เดี๋ยวฉันจัดการเอง เพียงแต่แม่บอกว่าให้ฉันเสือกเรื่องของเจ้านายได้เท่านั้นล่ะ” สายฝนยิ้มเจ้าเล่ห์
“แล้วเอ็งจะทำไงวะ ข้าถามหน่อยสิ”
“แม่ก็อนุญาตให้ฉันเสือกเรื่องของเจ้านายได้ก่อนสิ เร็วๆ สิแม่” ป้าสำลีมองหน้าลูกสาวแล้วพยักหน้าช้าๆ อย่างเสียไม่ได้
ทางด้านคุณดิเรกกับคุณดาริกาซึ่งได้รับกล่องพัสดุจากชายนิรนามคนหนึ่งกำลังเปิดดูสิ่งที่ถูกส่งมาให้ทุกๆ สัปดาห์ด้วยความตื่นเต้นเมื่อมันคือโปสการ์ดสวยๆ ซึ่งมีรูปของบุตรสาวของตนในอิริยาบถต่างๆ พร้อมข้อความสั้นๆ ว่าเธอสบายดีไม่ต้องเป็นห่วง บางรูปดวงยิหวากำลังทำงานอยู่ในไร่หรือฟาร์มแห่งหนึ่งอย่างขะมักเขม้นแต่ดูแล้วดวงยิหวามีความสุขกับมันมากซึ่งมันทำให้คนเป็นพ่อแม่เบาใจ ว่าอย่างน้อยดวงยิหวาก็ปลอดภัยและมีความสุขดีแม้จะยังไม่รู้ว่าดวงยิหวาอยู่ที่ไหนแต่เธอก็ระบุสั้นๆ มาหลังโปสการ์ดว่าเมื่อเธอพร้อมแล้วเธอจะบอกว่าเธออยู่ที่ไหนกับใครอย่างไรและให้เวลาเธอได้คิดบ้าง...
“คุณว่าเราบังคับจิตใจแกเกินไปไหมคะ”
“ผมเองก็กำลังคิดอยู่”
“เฮ้อ คนเรา เลี้ยงกันได้แค่ตัวจริงๆ นั่นล่ะ เราให้เวลาแกหน่อยดีไหมคะ อีกอย่าง ดูๆ ไป ยิหวาดูมีความสุขดี แบบนี้น้องก็พอหายห่วง...” คุณดาริกายิ้มกับรูปที่ส่งมา
“นั่นสินะ เราค่อยๆ คิด เมื่อพร้อม ลูกก็คงบอกความจริงกับเราเอง ปล่อยแกไปสักพักก่อนดีกว่า...”
“ดูก็รู้ว่าคนถ่ายภาพนี้เป็นผู้ชายและหลงรักลูกสาวเรา” ไม่วายที่คุณดาริกาจะพูดตามความรู้สึกเมื่อมองรูปในมือ คุณดิเรกหยิบภาพเหล่านั้นมาดูบ้างแล้วยิ้มตาม
“นั่นสินะ ผมละโกรธไม่ลงเลย...” สองสามีภรรยายิ้มให้กันรู้สึกเบาในอกอย่างประหลาด จากที่ห่วงหาและวุ่นวายใจเรื่องการหายตัวไปของดวงยิหวากลับกลายเป็นโล่งอกอย่างไม่น่าเชื่อ ความรู้สึกคนเรามันส่งผ่านทางรูปถ่ายได้จริงๆ
เปลวมองหญิงสาวที่กำลังฉีดน้ำล้างคอกม้าอย่างตั้งใจโดยมีน้องปราณคอยช่วยอยู่ห่างๆ อย่างนึกชื่นชมอยู่ไม่น้อย เขามองใบหน้าสวยหาตัวจับอยากนั้นมันเยิ้มไร้เครื่องสำอางใดๆ นั้นแดงก่ำเพราอากาศที่ร้อนและท่าทางเหนื่อยๆ ของดวงยิหวาอย่างพอใจ เขายอมรับแล้วว่าคุณหนูไฮโซอย่างเธอทำได้ทุกอย่างจริงๆ ร่างบางระหงอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตลาย สก็อตสีครีมเขียวกับกางยีนสีเข้มสวมรองเท้าบู้ทและหมวกปีกกว้างท่าทางทะมัดทะแมงซึ่งเสื้อผ้าพวกนี้เขาซื้อมาให้เธอไว้ใส่ตอนมาทำงานและดวงยิหวาก็สวมใส่ได้ดูดีน่ารักแบบสาวชาวไร่อีกด้วย เอ๊ะ นี่เขามองว่าเธอน่ารักเหรอ... เปลวตกใจกับคามคิดของตัวเอง...
“พ่อเลี้ยงทำไมให้แม่เลี้ยงมาล้างคอกม้าล่ะครับ” เบิ้มลูกน้องคนสนิทที่เป็นตั้งแต่คนขับรถ คนสวน เด็กเลี้ยงม้า นักสืบจำเป็นหรืออะไรก็ตามแต่ที่เปลวจะสั่งเขาสามารถทำได้อย่างไม่มีที่ติ เปลวจึงไว้ใจเบิ้มให้ติดตามไปไหนมาด้วยกันตลอดเวลา
“ก็เพราว่าเจ้าหล่อนเป็นแม่เลี้ยงแห่งไร่ตะวันงามน่ะสิถึงต้องทำแบบนี้ สุขสบายมานานแล้วให้ทำประโยชน์บ้างก็ดี”
“อ้อ ครับ...” เบิ้มพยักหน้าแล้วหันไปมองแม่เลี้ยงดาหวันซึ่งกำลังขัดคอกม้าอย่างขะมักเขม้น
“แล้วแกล่ะมายืนอยู่ตรงนี้คิดจะอู้งานรึไง ไปทำงานไป๊”
เบิ้มเหวอเมื่อเปลวหันมาทำเสียงดุๆ ใส่ก็เกาหัวแกรกๆ เดินคอตกไปทำงานของตนแต่ไม่วายหันไปมองแม่เลี้ยงคนงามอย่างข้องใจไม่หาย
แต่ตอนนี้คนทั้งไร่ต่างพากันตั้งข้อสังเกตว่าการที่แม่เลี้ยงดาหวันประสบอุบัติเหตุจะทำให้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนขนาดนี้เชียวหรือและในอีกมุมหนึ่งของคอกม้าก็มีดวงตาคมกร้าวคู่หนึ่งจ้องมองไปยังแม่เลี้ยงสาวแห่งไร่ตะวันงามด้วยความสงสัยไม่ต่างกัน
“จะดีหรือคะอาหวาน ทำแบบนั้นหากอาเปลวรู้คงแย่แน่ๆ เลย” น้องเปรียวรู้สึกลำบากใจเมื่อน้ำหวานบอกแผนการกลั่นแกล้งมารดาของตนซึ่งน้องเปรียวรู้สึกว่ามันจะเกินไปหน่อยอีกอย่างก็กลัวว่าอาเปลวจะรู้ว่าตนแกล้งมารดาอีก
“ดีสิคะ น้องเปรียวไม่ต้องกลัวนะคะอาหวานรับรองได้ว่าอาเปลวไม่รู้แน่ๆ อีกอย่างโดนแกล้งหนักๆ อย่างนี้คุณแม่ของน้องเปรียวคงไม่กล้าขัดใจน้องเปรียวอีก”
“แต่ว่า...”
“ไม่ต้องห่วงคะ เดี๋ยวอาหวานจัดการเอง น้องเปรียวก็แค่รอดูผลเท่านั้นเรื่องงูนั้นอาหวานจัดการเองค่ะ” น้ำหวานรีบยุยงเกลี้ยกล่อมให้เด็กหญิงเห็นดีเห็นงามด้วย
“เอ่อ ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ...” น้องเปรียวจำใจรับคำด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ เธอไม่อยากแกล้งคุณแม่อีกเพราะเธอเคยแกล้งคุณแม่หลายครั้งแต่คุณแม่ก็เงียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซ้ำยังทำเฉยเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาวทั้งที่รู้ว่าโดนเธอกลั่นแกล้งซึ่งมันทำให้น้องเปรียวรู้สึกผิดมาตลอด..
ในขณะเดียวกันน้ำหวานรู้สึกพอใจมากเมื่อเด็กหญิงเห็นด้วยและพาเธอไปยังห้องนอนของดวงดาหวัน หญิงสาวถือกล่องที่ใส่งูจริงๆ ไว้อย่างกระหยิ่มใจ คราวนี้ดวงดาหวันจะต้องกรี๊ดลั่นบ้านแน่ๆ เธอรู้สึกหมั่นไส้ดวงดาหวันมานานแล้วตั้งแต่สมัยที่แอบรักปราบครั้งเมื่อยังเป็นสาวน้อยแรกผลิ แต่ดวงดาหวันไม่รู้มาจากไหนก็คว้าปราบไปเป็นของตัวเองทำให้เธอผิดหวังช้ำใจ
เมื่อเธอทำใจได้เรื่องปราบก็หันมามองเปลวด้วยดวงใจที่เบิกบานขึ้นเมื่อเปลวเองก็ให้ความเอ็นดูเธอ และเหมือนจะมีใจเพราะเขาไม่เคยปฏิเสธที่เธอมาที่ไร่ของเขาทุกวัน และยังไม่เคยปฏิเสธเมื่อเธอชวนเขาไปไหนมาไหนด้วยเสมอจนตอนนี้คนทั้งจังหวัดก็เข้าใจว่าเธอกับเปลวเป็นคู่หมายกัน แม้ว่าเปลวไม่เคยเอ่ยปากขอคบเธอไม่เคยขอหมั้นหมายหรือขอเธอแต่งงานก็ตาม แต่การที่เธอกับเขาไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ ก็เป็นสัญญาณว่าเธอเป็นคนสำคัญของเปลว แต่ตอนนี้ดวงดาหวันที่เธอคิดว่าไม่ใช่คู่แข่งกลับมาทำให้เธอด้อยลงไปอย่างน่าโมโห คราวนี้ล่ะจะเป็นทีของเธอบ้าง น้ำหวานยิ้มย่องกับแผนการของตน
ตอนที่82. ตอนอวสานบทส่งท้าย...น้องเปรียวกับน้องปราณโบกมือลาเพื่อนๆ ซึ่งพ่อแม่มารับกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม เด็กทั้งสองมีความสุขที่สุด ณ ตอนนี้ พวกเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดหรือขาดความรักความอบอุ่นแม้แต่น้อย แม้ดวงยิหวาจะไม่ใช่แม่ที่แท้จริงแต่ความรักความผูกพันที่มีในสายเลือดก็ผูกพวกเขาไว้ด้วยกันอย่างเหนียวแน่นยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด“เด็กๆ จ๊ะ มาทานข้าวกันได้แล้วค่ะ พี่ฝนจะตั้งโต๊ะแล้ว”ดวงยิหวาเรียกลูกๆ ด้วยรอยยิ้ม เธอรู้สึกดีใจที่น้องเปรียวรู้จักคิดแยกแยะและให้อภัยรินลดา หญิงสาวเชื่อว่าเด็กทั้งสองจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไปในอนาคต“คุณแม่ว่าน้องเปรียวทำถูกมั้ยคะ” เด็กหญิงถามหน้ายุ่ง“ถูกสิคะ การให้อภัยเป็นสิ่งที่ดี การมีเพื่อนก็เป็นสิ่งที่ดี ลูกของคุณแม่น่ารักที่สุดค่ะ” ดวงยิหวายิ้มแล้วลูบเรือนผมของน้องเปรียวเบาๆ อย่างรักใคร่เอ็นดู“แล้วสามีละครับที่รัก น่ารักรึเปล่า” เปลวถามขึ้นพร้อมทั้งยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มนวลใสของภรรยาต่อหน้าเด็กๆ ดวงยิหวาหันมาค้อนขวับแล้วหยิกหมับเข้าที่ต้นแขนแกร่งเต็มแรงด้วยความหมั่นไส้ที่สามีชอบแสดงความรักกับเธอต่อหน้าเด็กๆ แบบนี้“คนบ้าหน้าไม่อาย นี่แน่ะๆ”“โอ๊ยๆ เจ็บครับที่รั
ตอนที่81.“ก็มองเหมือนจะถอดเสื้อผ้ายิหวา แบบนี้ไง คนบ้า”เธออ้อมแอ้มตอบรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทั่วร่างกับสายตาของสามีที่มองมาเหมือนจะกลืนกินทั้งที่เธอสวมเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขาอยู่ แต่ภายใต้เสื้อตัวใหญ่ที่ยาวถึงโคนขาเสลาก็ไร้สิ่งอื่นห่อหุ้มความงามของอิสรีไว้และตอนนี้ดวงยิหวาก็รู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่อะไรอยู่ดี“อื้ม สามีของยิหวานี่หื่นจริงๆ เลยนะครับ ไม่ไหวเลยมองภรรยาแบบจะกลืนกินได้ยังไงกัน สู้กินจริงๆ ไม่ดีกว่าเหรอ..” เขาเย้ายิ้มๆ ยกร่างบางมานั่งบนเคาน์เตอร์หินอ่อนตัวยาวตรงอ่างล้างหน้าที่สามารถขึ้นไปนั่งได้สบายๆ ทันที“อุ้ย พี่เปลวไม่นะ ยิหวาอยากอาบน้ำ หิวแล้ว”“ก็ใครว่าเราจะไม่อาบน้ำล่ะที่รัก”“ก็ปล่อยสิคะ ยิหวาจะอาบน้ำ พี่เปลวอาบแล้วก็ออกไปสิ” หญิงสาวต่อรองเมื่อเห็นใบหน้าเกลี้ยงเกลาหล่อเหลาของสามีที่บ่งบอกว่าจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วก็ใจสั่นหวิวเพราะแรงปรารถนาจากดวงตาคมมันชัดเจนเหลือเกิน นี่อย่าบอกนะว่าเขาจะ...“ยิหวาจ๋า พี่อยากรักยิหวาอีกแล้ว”ไม่พูดเปล่าแต่ร่างแกร่งแทรกเข้ามาระหว่างเรียวขาเสลาแล้วโน้มใบหน้างามลงมาชิด ปลายจมูกคมปัดเบาๆ กับปลายจมูกรั้นอย่างหยอกเย้าแล้วริมฝีปากหยักก็บดจูบ
ตอนที่80.“คุณแม่ก็บอกว่า หากสิ้นปีนี้ไม่มีวี่แววว่าจะได้อุ้มหลาน พี่เตรียมตัวกระเด็นออกจากชีวิตลูกสาวท่านไปเลย” เปลวยิ้มกรุ้มกริ่มมองเธอตาหวานเชื่อมอย่างมีความหมาย ดวงยิหวาหน้าแดงรู้ทันทีว่าตนพลาดท่าคนเจ้าเล่ห์เสียแล้ว“ยี้ คนบ้า เจ้าเล่ห์กับยิหวาอีกแล้วนะ อุ้ย ไม่เอาค่ะ นี่ยังไม่มืดนะคะเพิ่งจะสี่โมงเย็นเอง” หญิงสาวจะลุกหนีคนเจ้าเล่ห์ที่เริ่มมือไม้อยู่ไม่สุขแต่ก็ดูเหมือนจะช้าไป “ไม่เป็นไรหรอกที่รัก เราทำอะไรกันเพลินๆ เผลอแป๊บเดียวมันก็ค่ำแล้ว มาทำเจ้าตัวเล็กให้คุณแม่อุ้มดีกว่าไม่อย่างนั้นพี่ได้โดนเฉดหัวออกจากชีวิตยิหวาแน่ๆ เลย”ชายหนุ่มพูดงึมงำอยู่กับซอกคอขาวเนียนที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู ดวงยิหวาใจสั่นเมื่อรู้ตัวดีว่าไม่สามารถต้านทานแรงพิศวาสอันเร่าร้อนจากสามีได้ ริมฝีปากบางระเรื่อที่พยายามจะคัดค้านก็ถูกครอบครองด้วยปากร้อนๆ ของคนที่รอเวลานี้มาทั้งวันอย่างหิวกระหาย ลิ้นหนาสอดไล้ดูดกลืนเรียวลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อนช่ำชอง ดวงยิหวาครางเบาๆ ด้วยความซ่านหวิวมือร้อนผ่าวก็กำจัดเสื้อผ้าของเธอออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วจนดวงยิหวานึกทึ่งที่เขาสามารถทำได้รวดเร็วกว่าที่เธอถอดเองเสียอีก“อื้ม พี่เปลว
ตอนที่79.“เออนะ เหมือนกันทั้งคนทั้งม้า ไอ้วิทย์อยากจะบ้า”หมอวิทย์ทำท่าเหมือนอยากจะขาดใจตาย เจ้าม้าสาวเอียงคอมองเขาตาใสแจ๋ว มันคงจะสงสัยว่ามนุษย์คนนี้เป็นอะไรไปเป็นแน่แท้เปลวเดินตรงขึ้นไปห้องหอแสนหวาน ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าห้องว่างเปล่าแต่ได้ยินเสียงน้ำไหลซู่ๆ อยู่ในห้องน้ำเปลวยิ้มกริ่มจินตนาการไปไกล“ยิหวาจ๋า ทำอะไรอยู่จ๊ะที่รัก..”แสร้งร้องเรียกภรรยาแต่เธอไม่ตอบเขาจึงเดินไปเปิดประตูห้องน้ำด้วยความคาดหวังว่าจะเห็นร่างเปลือยเปล่างดงามของภรรยาอยู่ภายใต้สายน้ำเย็นฉ่ำแต่..เมี้ยวววว เจ้าแมวเหมียวสีตุ่นๆ กระดำกระด่างหน้าตาน่าเกลียดเปียกมะลอกมะแลกถูกยื่นมาตรงหน้าตามด้วยเสียงหัวเราะสดใสของภรรยา“อะไรกันนี่ยิหวา..” เปลวหน้าหงิกเมื่อมันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้สักนิด“ก็น้องแมวไงคะ พอดีว่าฝนเจอมันหลงมาอยู่ข้างรั้วเมื่อกี้ ยิหวาเลยจะเลี้ยงมันไว้แต่ตัวมันเปรอะมากก็เลยพามามันมาอาบน้ำเช็ดตัวให้แห้งค่ะ”เธอบอกแล้วพามันไปเช็ดตัวและไดร์เป่าขนให้มันอย่างอ่อนโยนเจ้าแมวน้อยก็อยู่นิ่งให้บริการมันด้วยท่าทางแสนสุขน่าหมั่นไส้ เปลวเดินไปกอดร่างบางไว้แล้วซุกจมูกลงกับพวงแก้มนุ่มอย่างออดอ้อนกลัวว่า
ตอนที่78.“ยิหวาจ๋า สวยเหลือเกินคนดี..” เปลวครางแผ่วละเรียวลิ้นจากยอดทรวงสีหวานที่ดูดกลืนกินอย่างเอร็ดอร่อยเพื่อมุ่งไปยังทุ่งดอกไม่แสนสวยที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนให้ดื่มกินความหวานล้ำที่เคยได้ลิ้มรสมาก่อนหน้านี้ทำให้เปลวแทบอดใจไม่ไหวที่จะได้ลิ้มรสน้ำหวานจากดอกไม้สาวฉ่ำเยิ้มหลอกล่อให้เขาหลงใหลมึนเมา มือหนาเลื่อนไล้ไปยังต้นขาและสะโพกตึงแน่นลูบไล้วนเวียนใกล้ดงดอกไม้งามหยอกเย้าให้เธอดิ้นพล่านด้วยความซ่านกระสัน ดวงยิหวาเผยอครางกระเส่ามือเรียวจิกบ่ากว้างของเขาแน่นเพื่อระบายความเสียวเสียด เลือดในกายสาวร้อนระอุเดือดพล่านราวกับว่ากายของเธอจะมอดไหม้ลงไปเพราะลิ้นและมือร้อนๆ ของเขา“อื้ม พี่เปลว อา...” ดวงยิหวาครางกระเส่าเมื่อลิ้นร้อนไล้เลียต่ำลงไปยังสะดือน่ารักและต่ำลงๆ จนถึงกึ่งกายสาวพร้อมกับนิ้วแกร่งเดินทางมาถึงจุดอ่อนไหวชื้นฉ่ำด้วยน้ำหวานเอ่อซึมยั่วเย้าให้ดูดดื่มและเปลวก็ไม่รอช้าที่จะทำดังนั้นและเมื่อลิ้นร้อนแตะแต้มลงบนกลีบดอกไม้งามดวงยิหวาก็สะดุ้งสุดตัวทั้งยังครางออกมาด้วยความซ่านกระสันสุดใจ ร่างงามส่ายพลิ้วดั่งใบไม้ต้องลมเมื่อถูกความเสียวซ่านโจมตีจากทั้งมือและปากของเขาก็ทำให้เธอแทบขาดใจ แล้วร่
ตอนที่77.แต่เพราะพ่อเลี้ยงเปลวไม่อยากให้ใครพูดถึงเพราะสงสารหลานๆ จึงให้ดวงยิหวาสวมรอยเป็นดวงดาหวันไปชั่วคราวรอจนมั่นใจว่าหลานๆ รับได้จึงจะบอกความจริงให้รับรู้ ซึ่งทุกคนก็เข้าใจดีเพราะเจ๊ขาเม้าท์ทั้งสองถึงแม้จะเป็นคนที่ค่อนข้างพูดมากและชอบจับกลุ่มนินทาคนอื่นแต่พวกนางก็พูดในเรื่องที่มีมูลความจริงทุกเรื่อง ดังนั้นความเป็นมาของดวงยิหวาจึงไม่มีใครติดใจทั้งยังร่วมยินดีกับการแต่งงานอันยิ่งใหญ่ของพ่อเลี้ยงเปลวกับดวงยิหวาที่กำลังจะมีขึ้นอีกด้วยเมื่อเรื่องวุ่นวายต่างๆ ผ่านไปเปลวก็จัดการทำบุญและจัดการเรื่องศพของดวงดาหวันที่เอื้องอำพรางคดีด้วยการฝังไว้ที่ชายป่าท้ายไร่นั่นเองซึ่งอาคมได้บอกกับเขาตอนที่ยอมจำนนต่อความผิดที่ก่อไว้แต่สุดท้ายเมื่ออาคมรู้ว่าหญิงสาวที่ตนรักนั้นได้จบชีวิตลงเขาก็ฆ่าตัวตายในคุก นับว่าอาคมมีความรักที่จริงใจต่อเอื้องมากอย่างไม่น่าเชื่อ เปลวได้นำอัฐิของปราบกับดวงดาหวันและเอื้องมาทำบุญครั้งใหญ่และนำไปเก็บไว้รวมกันอย่างน้อยๆ พี่ชายของเขาก็คงจะได้อยู่ใกล้ๆ คนที่รัก และเอื้องก็คงจะได้รับรู้ว่าตนมีญาติมีพี่น้องอยู่ในโลกใบนี้แต่สำหรับดวงดาหวันซึ่งจากโลกนี้ไปโดยที่เธอไม่มีโอกาสได้บ