ดวงยิหวาเดินกลับเข้าบ้านหลังจากจัดการงานในไร่เสร็จเรียบร้อยแล้วอย่างเหนื่อยแสนเหนื่อย ดีที่ว่าเธอเป็นคนแข็งแรงจึงสามารถทำงานหนักขนาดนี้ได้ ตอนนี้น้องปราณยังอยู่ดูม้าตัวใหม่กับเปลว เปลวจึงอนุญาตให้เธอกลับบ้านมาก่อนเพราะเห็นว่าทำงานมาทั้งวันแล้ว ก็นับว่าเขายังมีเมตตาบ้าง แต่ก่อนที่หญิงสาวจะก้าวขึ้นชั้นบนสายฝนก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหา ดวงยิหวามองใบหน้าที่เปิดทุกความรู้สึกของสายฝนอย่างขันๆ
“มีอะไรรึฝน...”
“อ้าว ทำไมคุณรู้ล่ะคะว่าฝนมีอะไรจะพูด” สายฝนเกาหัวแกรกๆ ดูน่าขันดวงยิหวายิ้มบางๆ
“ก็มีจริงมั้ยล่ะ”
“เอ่อ มีค่ะมี คือว่า...” แล้วสายฝนก็เล่าให้นายสาวฟังด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นจนมองเห็นภาพราวเธออยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยเลยทีเดียว
“ขอบใจนะ” ดวงยิหวาพูดสั้นๆ แล้วทำท่าจะเดินขึ้นห้อง
“อ้าว.. แล้วคุณไม่สงสัยอะไรเลยเหรอคะ...” สายฝนเกาหัวท่าทางเหมือนงงกับท่าทางเฉยๆ ของเธอซึ่งดวงยิหวาพอจะเข้าใจดีว่าทำไมสายฝนจึงสงสัยว่าทำไมเธอจึงไม่แสดงอาการอะไรออกมาที่น้ำหวานมาที่นี่ เพราะใครๆ ก็รู้ว่าระหว่างดวงดาหวันกับ น้ำหวานนั้นมีอะไรๆ ที่ไม่กินเส้นกันอยู่มากมาย การที่คู่ปรับมาถึงที่แบบนี้เธอกลับทำเฉยๆ เสียอย่างนั้นมันไม่น่าจะเป็นไปได้ในความคิดของสายฝนนั่นเอง
“ฝนจะไปซื้อของกับแม่ไม่ใช่เหรอ”
“เอ่อ ค่ะ แล้วเอ่อ...”
“ก็ไปสิจ๊ะ...” ดวงยิหวาเลิกคิ้วมองสาวใช้ด้วยท่าทางที่บอกว่า ไปได้แล้ว สายฝนจึงเดินเกาหัวออกไป ดวงยิหวาละสายตาจากสายฝนแล้วมองขึ้นไปชั้นบนด้วยความรู้สึกอยากจะ ลองของ...
เมื่อมาถึงหน้าห้องเธอก็พบความผิดปกติเล็กน้อยเมื่อได้กลิ่นน้ำหอมที่ไม่คุ้นจมูก เหมือนว่าคนใช้น้ำหอมคนนั้นเทน้ำหอมลงบนฝ่ามือประพรมน้ำหอมบนร่างกายด้วยหรือว่าเทอาบเลยรึเปล่าก็ไม่รู้กลิ่นมันถึงได้ฉุนจัดและติดมาขนาดนี้และกลิ่นคงจะติดมือมาเมื่อหยิบจับอะไรกลิ่นน้ำหอมก็ติดไปด้วย ซ้ำติดลูกบิดประตูห้องของเธอด้วย
ช่างไร้รสนิยมในการใช่น้ำหอมจริงเชียว.. ไม่วายที่ดวงยิหวาจะค่อนแคะคนคนนั้นอย่างอดไม่ได้ หญิงสาวลอบยิ้มแล้วค่อยๆ เปิดประตูห้องด้วยอาการปกติไม่แสดงพิรุธใดๆ เมื่อรู้สึกเหมือนถูกจ้องมอง อยากรู้นักว่าน้องเปรียวจะแกล้งอะไรเธออีก และเจ้าของน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นใคร คงไม่ใช่คนที่คิดไว้หรอกนะ
“เฮ้อ เหนื่อยจังเลย ง่วงก็ง่วง ขออาบน้ำให้สบายสบายตัวทีเถอะ เหนียวตัวจะแย่...”
ดวงยิหวาจงใจปิดประตูไม่สนิท เพราะกลัวว่าคนที่แอบดูอยู่จะไม่รู้เห็นว่าเธอกำลังทำอะไร แล้วบทบาทการแสดงของเธอจะเริ่มขึ้น…
“กรี๊ดดดด ว้ายยยยย งูๆๆ กรี๊ดดดด... โอ๊ย...” เสียงกรีดร้องที่ดังลั่นแล้วก็เงียบไปนานของคนในห้องทำให้น้องเปรียวกับน้ำหวานออกมาจากที่ซ่อนด้วยความกระวนกระวายใจ ใบหน้าเด็กหญิงซีดขาวเพราะกลัวว่ามารดาจะถูกงูกัดจริงๆ ในขณะที่น้ำหวานทำหน้ายุ่งยากใจ
อะไรกันนี่ ก็งูนั่นมันไม่มีพิษและตายแล้วนี่นาจะกัดคนได้อย่างไรกัน...
“ไหนอาหวานบอกว่างูไม่มีพิษและมันตายแล้วไงคะแล้ว แล้ว... ทำไมคุณแม่เงียบไปล่ะคะ...” เด็กหญิงทำท่าเหมือนจะร้องไห้ มองประตูที่แง้มๆ อยู่อย่างชั่งใจ
“เดี๋ยวเราเข้าไปดูกันนะคะ ถ้าเกิดอะไรร้ายแรงเราจะได้แก้ไขทันก่อนที่อาเปลวจะมา...”
น้ำหวานบอกเด็กหญิงแล้วค่อยๆ เปิดประตูห้องของดวงยิหวาข้าไป แล้วน้ำหวานกับน้องเปรียวก็เบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อเห็นร่างดวงยิหวาที่นอนนิ่งไม่ไหวอยู่กับพื้นตรงหน้าเตียง
“คุณแม่... แย่แล้ว อาหวานเราจะทำไงกันดีล่ะคะ คุณแม่จะเป็นอะไรรึเปล่าฮือๆๆ” เด็กหญิงเดินเข้าไปหาร่างที่นอนนิ่งของมารดาอย่างกล้าๆ กลัวๆ เพราะความผิดที่ตนเองทำและความเสียใจหากมารดาตายไปจริงๆ
“คะ คงไม่เป็นไรล่ะมั้ง อาจจะ จะ แค่ตกใจจนสลบไป”
น้ำหวานพูดเสียงสั่นแล้วทำท่าจะเดินกลับออกไปด้วยความกลัวว่าตนจะโดนข้อหาทำร้ายคนในบ้านของเปลวจนเสียชีวิต งูนั่นมันไม่มีพิษและมันก็เหมือนจะตายแล้วตอนเอามา มันนอนนิ่งไม่ไหวติงไม่หายใจ แล้วงูมันจะกัดคนได้อย่างไร ยิ่งเห็นร่างที่นอนนิ่งของแม่เลี้ยงดาหวันน้ำหวานก็ยิ่งกังวล
“อาหวานคะ คุณแม่ยังหายใจอยู่ค่ะ มานี่สิคะ มาช่วยกัน...” แล้วหญิงสาวก็ชะงักกึกเมื่อเด็กหญิงร้องเรียก
“ตะ แต่ อาว่าจะไปตามคนมาช่วย..”
“แต่อาหวานเป็นคนเอางูมาแกล้งคุณแม่นะคะ อาหวานต้องมาดูคุณแม่ของน้องเปรียวสิคะ เร็วเข้าค่ะ แล้วน้องเปรียวจะโทร. หาอาหมอวิทย์”
“จ้ะๆ” เมื่อเด็กหญิงพูดอย่างนี้น้ำหวานจึงเดินกลับมา ส่วนเด็กหญิงก็รีบวิ่งออกไปเพื่อโทรศัพท์แต่ไม่ทันที่น้องเปรียวจะก้าวพ้นห้องก็ต้องหยุดชะงักเพราะเสียงกรีดร้องโหยหวนของน้ำหวาน
“กรี๊ดดดด อ้ายยย งูๆ ช่วยด้วยยยย...”
น้ำหวานกรีดร้องเสียงหลงเมื่อในขณะที่กำลังจะก้มมองดูว่าคนที่นอนนิ่งนั้นตายหรือยังมีชีวิตอยู่ก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับเอางูที่ตนเองนำมาตวัดพันรอบคอของเธอ
“ฮะๆ ฮ่าๆ เป็นไงล่ะ เต้นเหมือนงิ้วออกโรงเลยใช่มั้ย ให้มันรู้ซะบ้างว่าอย่าบังอาจมาทำแบบนี้กับฉัน...” ดวงยิหวาในครบดวงดาหวันลุกขึ้นหัวเราะมองคนที่เต้นเป็นเจ้าเข้าด้วยแววตาสะใจ
“คุณแม่ ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยคะ...” เด็กหญิงเดินเข้ามาถามมารดาด้วยแววตาสงสัยและไม่เข้าใจ
“ไม่จ้ะลูกรัก แต่หากงูนั้นเป็นงูมีพิษจริงๆ คุณแม่คงตายไปแล้วเพราะลูกร่วมมือกับคนอื่นมาทำร้ายคุณแม่ หนูเกลียดคุณแม่จนอยากจะทำร้ายคุณแม่ขนาดนี้เลยหรือคะน้องเปรียว...”
“น้องเปรียว...” เด็กหญิงก้มหน้านิ่งด้วยความรู้สึกผิด น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อาจเก็บกักไว้ได้ เมื่อคิดว่าหากมารดาเสียชีวิตไปจริงๆ จะเป็นอย่างไร
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะลูก ตอนนี้คุณแม่ปลอดภัยแล้วอย่าร้องไห้นะจ๊ะ...” ดวงยิหวาโอบกอดร่างเล็กๆ ของน้องเปรียวไว้และเด็กหญิงก็โอบเธอแน่นเหมือนกลัวว่าเธอจะหายไป ตอนนี้น้องเปรียวเพิ่งค้นพบว่าตนกลัวว่าจะเสียมารดาไปจริงๆ
ตอนที่82. ตอนอวสานบทส่งท้าย...น้องเปรียวกับน้องปราณโบกมือลาเพื่อนๆ ซึ่งพ่อแม่มารับกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม เด็กทั้งสองมีความสุขที่สุด ณ ตอนนี้ พวกเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดหรือขาดความรักความอบอุ่นแม้แต่น้อย แม้ดวงยิหวาจะไม่ใช่แม่ที่แท้จริงแต่ความรักความผูกพันที่มีในสายเลือดก็ผูกพวกเขาไว้ด้วยกันอย่างเหนียวแน่นยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด“เด็กๆ จ๊ะ มาทานข้าวกันได้แล้วค่ะ พี่ฝนจะตั้งโต๊ะแล้ว”ดวงยิหวาเรียกลูกๆ ด้วยรอยยิ้ม เธอรู้สึกดีใจที่น้องเปรียวรู้จักคิดแยกแยะและให้อภัยรินลดา หญิงสาวเชื่อว่าเด็กทั้งสองจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไปในอนาคต“คุณแม่ว่าน้องเปรียวทำถูกมั้ยคะ” เด็กหญิงถามหน้ายุ่ง“ถูกสิคะ การให้อภัยเป็นสิ่งที่ดี การมีเพื่อนก็เป็นสิ่งที่ดี ลูกของคุณแม่น่ารักที่สุดค่ะ” ดวงยิหวายิ้มแล้วลูบเรือนผมของน้องเปรียวเบาๆ อย่างรักใคร่เอ็นดู“แล้วสามีละครับที่รัก น่ารักรึเปล่า” เปลวถามขึ้นพร้อมทั้งยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มนวลใสของภรรยาต่อหน้าเด็กๆ ดวงยิหวาหันมาค้อนขวับแล้วหยิกหมับเข้าที่ต้นแขนแกร่งเต็มแรงด้วยความหมั่นไส้ที่สามีชอบแสดงความรักกับเธอต่อหน้าเด็กๆ แบบนี้“คนบ้าหน้าไม่อาย นี่แน่ะๆ”“โอ๊ยๆ เจ็บครับที่รั
ตอนที่81.“ก็มองเหมือนจะถอดเสื้อผ้ายิหวา แบบนี้ไง คนบ้า”เธออ้อมแอ้มตอบรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทั่วร่างกับสายตาของสามีที่มองมาเหมือนจะกลืนกินทั้งที่เธอสวมเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขาอยู่ แต่ภายใต้เสื้อตัวใหญ่ที่ยาวถึงโคนขาเสลาก็ไร้สิ่งอื่นห่อหุ้มความงามของอิสรีไว้และตอนนี้ดวงยิหวาก็รู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่อะไรอยู่ดี“อื้ม สามีของยิหวานี่หื่นจริงๆ เลยนะครับ ไม่ไหวเลยมองภรรยาแบบจะกลืนกินได้ยังไงกัน สู้กินจริงๆ ไม่ดีกว่าเหรอ..” เขาเย้ายิ้มๆ ยกร่างบางมานั่งบนเคาน์เตอร์หินอ่อนตัวยาวตรงอ่างล้างหน้าที่สามารถขึ้นไปนั่งได้สบายๆ ทันที“อุ้ย พี่เปลวไม่นะ ยิหวาอยากอาบน้ำ หิวแล้ว”“ก็ใครว่าเราจะไม่อาบน้ำล่ะที่รัก”“ก็ปล่อยสิคะ ยิหวาจะอาบน้ำ พี่เปลวอาบแล้วก็ออกไปสิ” หญิงสาวต่อรองเมื่อเห็นใบหน้าเกลี้ยงเกลาหล่อเหลาของสามีที่บ่งบอกว่าจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วก็ใจสั่นหวิวเพราะแรงปรารถนาจากดวงตาคมมันชัดเจนเหลือเกิน นี่อย่าบอกนะว่าเขาจะ...“ยิหวาจ๋า พี่อยากรักยิหวาอีกแล้ว”ไม่พูดเปล่าแต่ร่างแกร่งแทรกเข้ามาระหว่างเรียวขาเสลาแล้วโน้มใบหน้างามลงมาชิด ปลายจมูกคมปัดเบาๆ กับปลายจมูกรั้นอย่างหยอกเย้าแล้วริมฝีปากหยักก็บดจูบ
ตอนที่80.“คุณแม่ก็บอกว่า หากสิ้นปีนี้ไม่มีวี่แววว่าจะได้อุ้มหลาน พี่เตรียมตัวกระเด็นออกจากชีวิตลูกสาวท่านไปเลย” เปลวยิ้มกรุ้มกริ่มมองเธอตาหวานเชื่อมอย่างมีความหมาย ดวงยิหวาหน้าแดงรู้ทันทีว่าตนพลาดท่าคนเจ้าเล่ห์เสียแล้ว“ยี้ คนบ้า เจ้าเล่ห์กับยิหวาอีกแล้วนะ อุ้ย ไม่เอาค่ะ นี่ยังไม่มืดนะคะเพิ่งจะสี่โมงเย็นเอง” หญิงสาวจะลุกหนีคนเจ้าเล่ห์ที่เริ่มมือไม้อยู่ไม่สุขแต่ก็ดูเหมือนจะช้าไป “ไม่เป็นไรหรอกที่รัก เราทำอะไรกันเพลินๆ เผลอแป๊บเดียวมันก็ค่ำแล้ว มาทำเจ้าตัวเล็กให้คุณแม่อุ้มดีกว่าไม่อย่างนั้นพี่ได้โดนเฉดหัวออกจากชีวิตยิหวาแน่ๆ เลย”ชายหนุ่มพูดงึมงำอยู่กับซอกคอขาวเนียนที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู ดวงยิหวาใจสั่นเมื่อรู้ตัวดีว่าไม่สามารถต้านทานแรงพิศวาสอันเร่าร้อนจากสามีได้ ริมฝีปากบางระเรื่อที่พยายามจะคัดค้านก็ถูกครอบครองด้วยปากร้อนๆ ของคนที่รอเวลานี้มาทั้งวันอย่างหิวกระหาย ลิ้นหนาสอดไล้ดูดกลืนเรียวลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อนช่ำชอง ดวงยิหวาครางเบาๆ ด้วยความซ่านหวิวมือร้อนผ่าวก็กำจัดเสื้อผ้าของเธอออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วจนดวงยิหวานึกทึ่งที่เขาสามารถทำได้รวดเร็วกว่าที่เธอถอดเองเสียอีก“อื้ม พี่เปลว
ตอนที่79.“เออนะ เหมือนกันทั้งคนทั้งม้า ไอ้วิทย์อยากจะบ้า”หมอวิทย์ทำท่าเหมือนอยากจะขาดใจตาย เจ้าม้าสาวเอียงคอมองเขาตาใสแจ๋ว มันคงจะสงสัยว่ามนุษย์คนนี้เป็นอะไรไปเป็นแน่แท้เปลวเดินตรงขึ้นไปห้องหอแสนหวาน ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าห้องว่างเปล่าแต่ได้ยินเสียงน้ำไหลซู่ๆ อยู่ในห้องน้ำเปลวยิ้มกริ่มจินตนาการไปไกล“ยิหวาจ๋า ทำอะไรอยู่จ๊ะที่รัก..”แสร้งร้องเรียกภรรยาแต่เธอไม่ตอบเขาจึงเดินไปเปิดประตูห้องน้ำด้วยความคาดหวังว่าจะเห็นร่างเปลือยเปล่างดงามของภรรยาอยู่ภายใต้สายน้ำเย็นฉ่ำแต่..เมี้ยวววว เจ้าแมวเหมียวสีตุ่นๆ กระดำกระด่างหน้าตาน่าเกลียดเปียกมะลอกมะแลกถูกยื่นมาตรงหน้าตามด้วยเสียงหัวเราะสดใสของภรรยา“อะไรกันนี่ยิหวา..” เปลวหน้าหงิกเมื่อมันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้สักนิด“ก็น้องแมวไงคะ พอดีว่าฝนเจอมันหลงมาอยู่ข้างรั้วเมื่อกี้ ยิหวาเลยจะเลี้ยงมันไว้แต่ตัวมันเปรอะมากก็เลยพามามันมาอาบน้ำเช็ดตัวให้แห้งค่ะ”เธอบอกแล้วพามันไปเช็ดตัวและไดร์เป่าขนให้มันอย่างอ่อนโยนเจ้าแมวน้อยก็อยู่นิ่งให้บริการมันด้วยท่าทางแสนสุขน่าหมั่นไส้ เปลวเดินไปกอดร่างบางไว้แล้วซุกจมูกลงกับพวงแก้มนุ่มอย่างออดอ้อนกลัวว่า
ตอนที่78.“ยิหวาจ๋า สวยเหลือเกินคนดี..” เปลวครางแผ่วละเรียวลิ้นจากยอดทรวงสีหวานที่ดูดกลืนกินอย่างเอร็ดอร่อยเพื่อมุ่งไปยังทุ่งดอกไม่แสนสวยที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนให้ดื่มกินความหวานล้ำที่เคยได้ลิ้มรสมาก่อนหน้านี้ทำให้เปลวแทบอดใจไม่ไหวที่จะได้ลิ้มรสน้ำหวานจากดอกไม้สาวฉ่ำเยิ้มหลอกล่อให้เขาหลงใหลมึนเมา มือหนาเลื่อนไล้ไปยังต้นขาและสะโพกตึงแน่นลูบไล้วนเวียนใกล้ดงดอกไม้งามหยอกเย้าให้เธอดิ้นพล่านด้วยความซ่านกระสัน ดวงยิหวาเผยอครางกระเส่ามือเรียวจิกบ่ากว้างของเขาแน่นเพื่อระบายความเสียวเสียด เลือดในกายสาวร้อนระอุเดือดพล่านราวกับว่ากายของเธอจะมอดไหม้ลงไปเพราะลิ้นและมือร้อนๆ ของเขา“อื้ม พี่เปลว อา...” ดวงยิหวาครางกระเส่าเมื่อลิ้นร้อนไล้เลียต่ำลงไปยังสะดือน่ารักและต่ำลงๆ จนถึงกึ่งกายสาวพร้อมกับนิ้วแกร่งเดินทางมาถึงจุดอ่อนไหวชื้นฉ่ำด้วยน้ำหวานเอ่อซึมยั่วเย้าให้ดูดดื่มและเปลวก็ไม่รอช้าที่จะทำดังนั้นและเมื่อลิ้นร้อนแตะแต้มลงบนกลีบดอกไม้งามดวงยิหวาก็สะดุ้งสุดตัวทั้งยังครางออกมาด้วยความซ่านกระสันสุดใจ ร่างงามส่ายพลิ้วดั่งใบไม้ต้องลมเมื่อถูกความเสียวซ่านโจมตีจากทั้งมือและปากของเขาก็ทำให้เธอแทบขาดใจ แล้วร่
ตอนที่77.แต่เพราะพ่อเลี้ยงเปลวไม่อยากให้ใครพูดถึงเพราะสงสารหลานๆ จึงให้ดวงยิหวาสวมรอยเป็นดวงดาหวันไปชั่วคราวรอจนมั่นใจว่าหลานๆ รับได้จึงจะบอกความจริงให้รับรู้ ซึ่งทุกคนก็เข้าใจดีเพราะเจ๊ขาเม้าท์ทั้งสองถึงแม้จะเป็นคนที่ค่อนข้างพูดมากและชอบจับกลุ่มนินทาคนอื่นแต่พวกนางก็พูดในเรื่องที่มีมูลความจริงทุกเรื่อง ดังนั้นความเป็นมาของดวงยิหวาจึงไม่มีใครติดใจทั้งยังร่วมยินดีกับการแต่งงานอันยิ่งใหญ่ของพ่อเลี้ยงเปลวกับดวงยิหวาที่กำลังจะมีขึ้นอีกด้วยเมื่อเรื่องวุ่นวายต่างๆ ผ่านไปเปลวก็จัดการทำบุญและจัดการเรื่องศพของดวงดาหวันที่เอื้องอำพรางคดีด้วยการฝังไว้ที่ชายป่าท้ายไร่นั่นเองซึ่งอาคมได้บอกกับเขาตอนที่ยอมจำนนต่อความผิดที่ก่อไว้แต่สุดท้ายเมื่ออาคมรู้ว่าหญิงสาวที่ตนรักนั้นได้จบชีวิตลงเขาก็ฆ่าตัวตายในคุก นับว่าอาคมมีความรักที่จริงใจต่อเอื้องมากอย่างไม่น่าเชื่อ เปลวได้นำอัฐิของปราบกับดวงดาหวันและเอื้องมาทำบุญครั้งใหญ่และนำไปเก็บไว้รวมกันอย่างน้อยๆ พี่ชายของเขาก็คงจะได้อยู่ใกล้ๆ คนที่รัก และเอื้องก็คงจะได้รับรู้ว่าตนมีญาติมีพี่น้องอยู่ในโลกใบนี้แต่สำหรับดวงดาหวันซึ่งจากโลกนี้ไปโดยที่เธอไม่มีโอกาสได้บ