LOGINตำหนักเทพหย่วนเฉิน
บุรุษอาภรณ์ขาวปลอดกลับมาถึงตำหนัก เขาเข้าไปนั่งที่ตั่งของตนตามความเคยชิน จากนั้นจึงสะบัดแขนเสื้อปล่อยผีสาวที่เก็บกลับมาให้เป็นอิสระตรงหน้า
ตู้ชิงชิงออกมาด้วยความงุนงง นางกวาดสายตามองโดยรอบก่อนหันมองท่านเทพที่พานางมา ณ ที่แห่งนี้
เมื่อเห็นใบหน้าของเขาชัดเจน ตู้ชิงชิงถึงกับตกใจ ดวงตา จมูก ริมฝีปากนั้น เป็นสิ่งที่นางคุ้นตายิ่งนัก
บุรุษคนแรกและคนเดียวของนาง
ตู้ชิงชิงอึ้งไปเล็กน้อย นางเอ่ยชื่อที่ติดปากออกมา “จางอวิ๋นอวี้ เจ้า.. ไม่ใช่สิ ท่านคือ....ท่านเทพลงไปจุติที่โลกมนุษย์หรือเจ้าคะ”
หย่วนเฉินเลิกคิ้วประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่เคยคิดจะย้อนไปดูความทรงจำเมื่อครั้งจุติที่โลกมนุษย์ จึงไม่รู้ว่าตนเองอยู่บนโลกมนุษย์นั้นเป็นใคร และทำสิ่งใดไว้บ้าง
“คงจะใช่” เขาตอบสตรีเพียงสั้นๆ ก่อนถามสิ่งที่ตนเองสงสัย “แล้วตอนที่ข้าเป็นมนุษย์ เคยช่วยเจ้าไว้อย่างนั้นหรือ”
เขาเป็นมนุษย์ จะช่วยเหลือถ่ายทอดพลังเทพได้อย่างไรกัน นี่คือความสงสัยของเขา
“จะว่าช่วยก็ช่วย จะว่าไม่ช่วยก็ไม่ช่วยเจ้าค่ะ” ตู้ชิงชิงลังเลเล็กน้อย นางไม่รู้จะตอบบุรุษตรงหน้าอย่างไรดี ในใจเต็มไปด้วยความกระดากอาย
“ท่านเทพเคยไว้ชีวิตข้า ข้าจึงได้เป็นสตรี เอ่อ สตรี...”
“สตรีอะไร” หย่วนเฉินเริ่มหงุดหงิดกับการกระทำของนาง จึงส่งเสียงรำคาญออกมา
“สตรีอุ่นเตียงเจ้าค่ะ” ตู้ชิงชิงตอบด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ พูดจบหน้าก้มหน้ามองลงพื้นด้วยความเขินอาย
เพล้ง !
เสียงกาน้ำชาตกจนแตกกระจาย มู่จวินที่ถือน้ำชาเข้ามาตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน จึงพลาดทำกาน้ำชาตกลงพื้น
“เจ้าอย่าโกหก ท่านเทพของข้าไม่สนใจสตรี ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะเทพหรือมนุษย์ก็ตาม”
มู่จวินชี้นิ้วใส่หน้าตู้ชิงชิงก่อนก้มลงเก็บเศษกาน้ำชาแล้ววิ่งจู๊ดหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นสายตาดุจคมมีดของหย่วนเฉินมองมาที่ตน
“เป็นอย่างที่เขาพูด ข้าไม่ได้สนใจสตรี แล้วจะเอาเจ้ามาทำสตรีอุ่นเตียงได้อย่างไรกัน” หย่วนเฉินมองตู้ชิงชิงสายตาจับผิด เมื่อเห็นว่านางไม่อธิบายสิ่งใด เขาจึงออกคำสั่งน้ำเสียงเยือกเย็น
“ผีที่โกหกเช่นเจ้า จงไปสวดมนต์ชำระล้างจิตใจที่ตำหนักหลังเสีย” พูดจบเขาก็สะบัดข้อมือ ร่างของตู้ชิงชิงก็ลอยหายไปทันใด
มีความเป็นไปได้ที่นางจะได้รับพลังเทพจากการร่วมรักกับเขา แต่เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะหลับนอนกับสตรี
เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด !
สตรีนางนี้คงจงใจปิดบังความจริงบางอย่าง
หย่วนเฉินคิดวกไปวนมา สุดท้ายก็สรุปได้ว่า รอให้นางขัดเกลาจิตใจไปสักพัก เขาคงต้องไปค้นความทรงจำของนาง
ความทรงจำหลอกลวงไม่ได้
...........
ตำหนักหลัง
ตู้ชิงชิงนั่งลงกับพื้นใบหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ท่านเทพก็คือจางอวิ๋นอวี้ เขาไม่ใช่บุรุษของข้าอีกต่อไปแล้ว”
สตรีทอดถอนหายใจ หวนนึกถึงอดีตที่เคยอยู่ร่วมกัน ร่วมถึงนึกถึงเวลาที่สุขสมระหว่างพวกเขาทั้งสอง
นางยังคิดว่า หากนางตายไปอีกรอบ หรืออยู่รอที่ป่าไผ่ไปเรื่อยๆ อาจจะได้พบเจอจางอวิ๋นอวี้ที่กลับชาติมาเกิดและได้อยู่กับเขาอีกครั้ง ทว่าเมื่อเขาเป็นเทพ จางอวิ๋นอวี้คนนั้นก็เหมือนหมอกควันที่ไม่สามารถจับต้องได้อีก
นางหวังเพียงพบหน้าท่านเทพที่คิดถึงอีกครั้ง แต่ก็ไม่เคยคิดหมายปอง บุรุษที่สูงส่งเช่นนี้ มีหรือจะสนใจวิญญาณที่เคยฆ่าคนตายมาแล้วอย่างนาง
ตู้ชิงชิงยิ่งคิดยิ่งหม่นหมองเศร้าใจ นางรู้สึกดำดิ่งอยู่ในความมืด แม้แต่น้ำตาก็ไม่มีไหลออกมาสักหยด
...
“ท่านเทพ เทพเต๋ออันมาหาขอรับ” ชิงสวินเข้ามารายงานหย่วนเฉิน
ยังไม่ทันที่หย่วนเฉินจะอ้าปากโต้ตอบคำใด บุรุษผู้หนึ่งก็เดินตามหลังชิงสวินมาติดๆ
“ท่านเทพหย่วนเฉิน” ผู้ที่ตามหลังรีบยกมือทั้งสองขึ้นประสานกันพร้อมกับเอ่ยปากกล่าวคารวะ
“ท่านเทพเต๋ออัน” หย่วนเฉินคารวะกลับ “ท่านมาที่นี่มีธุระใดหรือ”
เทพเต๋ออันซึ่งมาเป็นแขกไม่รอถูกเชิญนั่ง เขามองเก้าอี้ตัวที่ใกล้ที่สุดก่อนเข้าไปนั่งลงราวกับคุ้นชินมานาน
“เทียนจวินจะพระราชทานสมรสให้เจ้าน่ะ” เทพเต๋ออันสะบัดมือเพียงหนึ่งครั้ง โต๊ะน้ำชาและชุดอุปกรณ์ชงชาก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า
“ข้าจะไปปฏิเสธเทียนจวินเอง” หย่วนเฉินได้ยินก็ขยับตัวจะลุกจากตั่ง แต่ก็ถูกรั้งตัวไว้
“ก่อนไปเจ้าควรรีบหาสตรีมาดีกว่า เพราะเจ้าตาหน้าหล่อเหลาเกินไป ทั้งยังไร้นางเซียนรู้ใจ ตอนนี้นางเซียนหลายคนจึงทะเลาะเบาะแว้งกันเพราะเรื่องของเจ้า สร้างปัญหาให้เทียนจวินปวดหัวได้ทุกวัน”
หย่วนเฉินได้ยินก็นิ่งไปชั่วครู่ เขาถอนหายใจเอือมระอากับสิ่งที่เกิดขึ้น “ข้าเคยกล่าวแล้วว่าไม่สนใจสตรี พวกนางไม่ได้ทำให้ข้ารู้สึกถึงอารมณ์ใดเลยสักนิด ....”
หย่วนเฉินกล่าวยังไม่ทันจบ เขาเพียงหยุดเว้นช่วงเพียงนิดเดียว แต่ว่ากลับถูกมู่จวินบริวารพูดแทรกขึ้น
“ไม่ได้ชอบสตรีก็หาบุรุษเข้ามาแทนสิขอรับ”
“เจ้านี่” เต๋ออันได้ยินก็ดุมู่จวินแทนหย่วนเฉิน “ข้าว่าเจ้าหานางเซียนที่พูดน้อยชอบเก็บตัวแต่งเข้าดีกว่า ต่างคนต่างอยู่ก็ได้ แบบนี้สบายใจดี”
“อืม ข้ารู้แล้ว” หย่วนเฉินรับคำ
...
สามวันผ่านไป
ที่หน้าประตูทางเข้าตำหนักก็มีนางเซียนผู้หนึ่งยืนแหงนหน้ามองป้ายที่ติดไว้เหนือประตู นางยื่นนิ่งอยู่สักพักจึงเข้ามาภายในเขตของตำหนัก
ชิงสวินเห็นเข้าจึงต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เขาเดินนำนางไปหาหย่วนเฉินที่นั่งอยู่ในโถงใหญ่ตำหนักหน้า
“ท่านเทพ เทพธิดาซิงเหวินมาแล้วขอรับ” ชิงสวินเอ่ยเสียงไม่ดังมากก่อนเบี่ยงออกไปรอด้านนอก
หย่วนเฉินที่นั่งหลับตาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองสตรีตรงหน้า “ข้าเชิญเจ้ามาพักที่นี่หนึ่งเดือน ขอบคุณมากที่ตอบรับคำเชิญข้า”
หย่วนเฉินหานางเซียนมาที่ตำหนักของตนเองตามที่เทพเต๋ออันแนะนำ เขาไม่ได้คิดจะแต่งนาง เพียงแต่ต้องการจะทำให้นางเซียนคนอื่นๆ ตัดใจจากตนเอง
ให้ผู้อื่นคิดว่าเขากับเทพธิดาซิงเหวินเป็นคู่บำเพ็ญกัน น่าจะเป็นทางออกที่ดี
“ข้าพักที่ไหนหรือ” ซิงเหวินไม่พูดคุยต่อ นางถามหาที่พักเพื่อจะได้ไปพักผ่อน
“ตำหนักฝั่งซ้ายขอรับ” มู่จวินตอบแทนหย่วนเฉิน เขาผายมือเชิญซิงเหวินอย่างนอบน้อม
ซิงเหวินปรายสายตามองบุรุษที่แม้จะลืมตาขึ้นมา แต่ดูเย็นชาอัธยาศัยย่ำแย่ นางไม่สนใจ ยกเท้าเดินจากไปอย่างเงียบๆ
จะว่าไปนิสัยของนางเองคงไม่ได้ดีกว่าเขาเช่นกัน
“ช่วงเวลาหนึ่งเดือนนี้ข้าจะเข้าฌาน ถ้าไม่มีอะไรสำคัญห้ามรบกวน” หย่วนเฉินบอกมู่จวินก่อนจะหายตัวไปอย่างรวดเร็ว
“เป็นเทพหรือผีเนี่ย ชอบหายวับๆ” มู่จวินแอบบ่นในใจ
........
เทพธิดาซิงเหวินเดินตามชิงสวินไปยังตำหนักฝั่งซ้าย เมื่อถึงที่หมายนางก็ให้ชิงสวินกลับไป ส่วนตนเองสำรวจภายในตำหนักสักพักถึงเดินออกมาเที่ยวชมภายนอก
นางเดินไปเรื่อยๆ จนถึงตำหนักหลัง สายตาอยากรู้มองเข้าลอดเข้าไปทางหน้าต่าง เห็นสตรีนางหนึ่งนั่งหน้าตาเศร้าสร้อยอยู่คนเดียว
“เจ้าไม่ใช่เทพเซียนนี่ เป็นผู้ใดกัน ทำไมอยู่ในตำหนักแห่งนี้” ซิงเหวินสื่อจิตถามตู้ชิงชิง
ตู้ชิงชิงสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียง นางหันหน้ามองออกทางช่องหน้าต่าง เห็นซิงเหวินยืนอยู่ไม่ไกลมากนัก
“ข้าคือภูติผีบนโลกมนุษย์ที่ท่านเทพนำตัวมาที่นี่เจ้าค่ะ” ตู้ชิงชิงไม่อ้อมค้อมตอบตามความเป็นจริง
“แล้วเหตุใดเทพหย่วนเฉินต้องพาเจ้ามาที่นี่” ซิงเหวินถามต่อ
ตู้ชิงชิงส่ายหน้าเล็กน้อย “ข้าก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ” เรื่องของนางระหว่างหย่วนเฉิน ตู้ชิงชิงไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ไปมากกว่านี้
ถึงอย่างไรเสียก็เป็นเรื่องตอนที่หย่วนเฉินลงไปจุติบนโลกมนุษย์ ไร้ค่าที่จะกล่าวถึง
“น่าแปลก” ซิงเหวินเอ่ย นางไม่ได้ถามต่อ แต่ในใจเริ่มมีข้อสงสัยมากมาย
เจ้าเทพเซียนหนุ่มที่ไม่ยินดียินร้ายกับผู้ใด กระทั่งไม่แยแสสตรี เหตุใดต้องพาผีสาวมายังสวรรค์ชั้นฟ้า
แถมยังนำนางมาขังไว้ในตำหนักหลังหลบซ่อนสายตาผู้คนอีก
ต้องมีอะไรปิดบังแน่นอน
ซิงเหวินไม่กล่าวคำใดต่อ นางเก็บความสงสัยกลับตำหนักที่ตนเองพัก ทว่าก็ยังไม่ลืมสตรีที่พบเจอในวันนี้
.....
สามวันผ่านมา
เรื่องราวในแต่ละวันราบเรียบไร้คลื่นลม จนกระนางเซียนเจินเมี่ยวและเฟิ่งโหรวเดินเชิดหน้าเข้ามาในตำหนัก
“ท่านเทพหย่วนเฉินล่ะ” เจินเมี่ยวถามมู่จวินที่กำลังสาละวนตัดแต่งกิ่งไม้
บุรุษเมื่อได้ยินก็เงยหน้ามอง แล้วตอบน้ำเสียงเอือมระอา “ท่านเทพเข้าฌานขอรับ ไม่สะดวกพบแขก”
“อ่อ พอดีพวกข้าไม่ใช่แขกแล้ว” เฟิ่งโหรวตอบ “เทียนจวินให้พวกข้ามาดูแลเทพหย่วนเฉินน่ะ” นางชูป้ายคำสั่งอวด แล้วก็เดินตามหาหย่วนเฉินโดยไม่เกรงใจผู้ใด
“ดูแลทำไม” มู่จวินนิ่วหน้า พอนึกขึ้นได้ก็วางกรรไกรตัดกิ่งไม้แล้ววิ่งตามสตรีสองนางอย่างรวดเร็ว
ตำหนักใหญ่ โถงรับรองสตรีนางหนึ่งมองกาน้ำชาและขนมในจานที่ตั้งบนโต๊ะด้านหน้าตนหลายครั้ง “ข้ากินจนอิ่มแล้วอิ่มอีก ท่านเทพหย่วนเฉินไปไหนหรือ”“เทพธิดาอย่าร้อนใจไป ท่านเทพแค่เอ่อ อยู่กับสตรีของตนเท่านั้น” ชิงสวินตอบน้ำเสียงราบเรียบ เมื่อครู่เขาเดินผ่านหน้าห้องสรงน้ำ ได้ยินเสียงร้องครางของบุรุษสตรีสลับไปมาไม่ต้องเดาก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเสียงของผู้ใด“สตรีอย่างนั้นหรือ ไหนว่าท่านเทพยังไม่มีคู่บำเพ็ญเพียร” สตรีเอ่ยถามด้วยใบหน้าตกใจ“ตอนนี้ยังไม่มีสถานะ แต่อีกไม่นานคงมี” มู่จวินเดินเข้ามาพอดีจึงตอบคำถามนี้“ข้ารักของข้ามานาน เป็นแบบนี้ได้อย่างไร” สตรีบ่นพึมพำเสียงเบาจนไม่มีผู้ใดได้ยิน สายตามองไปยังประตูทางเข้าด้วยความหวังผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม หย่วนเฉินก็เดินเข้ามาพร้อมกับเทพเต๋ออันและนางเซียนซิงเหวิน“ข้าเห็นความสัมพันธ์ของเจ้ากับแม่นางตู้ก็พลันนึกขึ้นได้ว่า ข้าเองอายุก็ไม่น้อยแล้ว ควรมีคู่บำเพ็ญเพียรบ้าง เลยตกลงกับซิงเหวินไว้ว่าจะอยู่ร่วมกัน” เต๋ออันพูดกับหย่วนเฉินสีหน้าสดใสทว่าซิงเหวินกลับสีหน้าเรียบเฉย นางมองเต๋ออันแล้วพ่นลมหายใจออกมาเล็กน้อย “เจ้าก็ไม่ใช่เด็กแล้ว มีอายุหลายพันปี ยังจ
ลิ้นร้ายเลียลงร่องนมจนชุ่มชื้น จากนั้นก็ตวัดไปยังติ่งนูนสีชมพูเนื้อทั้งสองข้าง ปลายลิ้นฉกรวดเร็วเหมือนงู ตวัดเลียดุจลูกสุนัข ริมฝีปากดูดเม้มดั่งทารกแรกคลอด“อื้อ อื้อ” ตู้ชิงชิงลมหายใจหอบถี่ แม้นางจะยังเป็นผีแต่ก็เริ่มรู้สึกเสียวซ่านที่หน้าอกและมวนหวิวในท้องน้อยราวกับมีผีเสื้อนับร้อยนับพันตัวบินวนไปมาอยู่ภายในแค่นางเริ่มต้นเสียว ร่องรักด้านล่างก็ถูกนิ้วยาวเรียวดันแทรกเข้าไป นิ้วเรียวแข็งนั้นแยงร่องที่คับแน่นเข้าๆ ออกๆ“ท่านมันระ ไร้ เหตุผล ที่ สุด”ตู้ชิงชิงข่มกลั้นความเสียวก่นด่าบุรุษออกมาทีละคำ ทว่าร่างแยกของหย่วนเฉินหาได้สนใจไม่ เขาจับต้นขาขาวยกสูงขึ้นพาดบ่าของตน ก่อนจะยัดแก่นกายใหญ่ยาวเข้าไปในร่องรักแทนนิ้วเรียวที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำใส“อื้ม คับแน่นดีมาก” หย่วนเฉินหลับตาซึมซับความรู้สึกถูกตอดรัดอย่างเต็มที่ เมื่ออยู่ในท่าทางที่คล่องตัว เขาก็เริ่มขยับเอวสอบตอกกระทุ้งแท่งหยกร้อนของตนรัวๆปัก ปัก ปัก ปักสตรีที่ไม่ได้ร่วมรักกับบุรุษมาพักใหญ่ ครั้นถูกกระแทกหนักๆ ถี่ ใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคลิบเคลิ้ม ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอออกพร้อมกับส่งเสียงหวาน“อ้า”“รู้สึกดีหรือไม่” หย่วนเฉินยิ้มมุมปาก ดวง
หย่วนเฉินปล่อยให้ตู้ชิงชิงนอนหลับภายในตำหนัก ส่วนตัวเขาออกมาภายนอกด้วยใบหน้าสดใส ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าหลั่งน้ำไปเยอะรู้สึกได้ปลดปล่อย เขาจึงออกมาเดินเล่น แล้วค่อยกลับไปเข้าฌานอีกครั้ง เมื่อถึงสวนหย่อมข้างตำหนัก เขาก็พบกับเทพเต๋ออัน ผู้ซึ่งเป็นเทพข้างกายเทียนจวินกำลังพูดคุยอยู่กับเทพธิดาซิงเหวินครั้นได้ยินเสียงเดินเข้าไปใกล้ ทั้งเต๋ออันและซิงเหวินต่างก็หันมองหย่วนเฉินพร้อมกัน“ข้าก็คิดว่าเจ้าละกิเลสได้แล้ว ที่ไหนได้” เต๋ออันอมยิ้มพลางกล่าวหยอกเย้าหย่วนเฉินซิงเหวินอมยิ้มเช่นเดียวกัน “ข้าก็คิดไม่ถึงว่าท่านเทพหย่วนเฉินผู้ปฏิเสธนางเซียนเกือบทั้งสวรรค์กลับเลือกผีสาวร่วมเตียงโดยไม่อายผู้ใด”“เจ้าเป็นสตรี ใยถึงพูดแบบนี้” หย่วนเฉินถลึงตาใส่คนทั้งสอง“ข้ามีอายุหลายพันปี เหตุใดถึงต้องอายด้วย” ซิงเหวินตอบแล้วหันหน้าเข้าหาเต๋ออัน“เอ๊ะ ตอนนี้ฝั่งทะเลบูรพามีไอสวรรค์พิสุทธิ์จำนวนมาก หากมนุษย์หรือภูตผีที่มีกายเนื้อสูดกลืนอย่างต่อเนื่อง ก็จะสร้างกายทิพย์เป็นเซียนได้”เต๋ออันพยักหน้า แล้วส่งเสียง “อ่อ อ่อ อ่อ จริงด้วย ข้าลืมไปได้อย่างไรเนี่ย พอมีกายทิพย์แล้ว ก็แช่น้ำอมฤตสามวันสามคืน ฝึกบำเพ็
หน้าตำหนักหลักเทพธิดาเจินเมี่ยวกับเฟิ่งโหรวมาถึงก็พบซิงเหวินยืนดักอยู่ที่หน้าประตู นางได้ยินเสียงพูดคุยระหว่างสตรีทั้งสองกับมู่จวิน จึงรีบออกมายังตำหนักนี้“ข้าได้ยินมาว่าพวกเจ้าทั้งสองจะมาดูแลหย่วนเฉินของข้า แต่คงต้องทำให้พวกเจ้าผิดหวังแล้ว หย่วนเฉินมีพวกข้าดูแลแล้ว” ซิงเหวินตอบน้ำเสียงราบเรียบแต่แววตาเปล่งประกายบางอย่าง“พวกข้า” เจินเมี่ยวขมวดคิ้วทวนคำของซิงเหวินซิงเหวินยกยิ้มริมฝีปากคล้ายกับเป็นสตรีร้ายกาจ นางผลักประตูตำหนัก เดินนำเข้าไปภายในไม่ไกลจากเตียงนอนนัก ที่เตียงถูกดึงผ้าม่านปิดทุกฝั่ง ทว่าก็ยังพอมองเห็นเงาร่างในนั้นหนึ่งเงาบุรุษนอนบนเตียง และอีกหนึ่งเงาสตรีนั่งทับส่วนล่างของบุรุษ พร้อมกับขยับร่างกายในท่วงท่าที่ชวนจินตนาการไปไกล“นางผู้นั้น เป็นใครกัน” เฟิ่งโหรวตกใจถามเสียงดัง“นางคือสตรีคนแรกของท่านเทพขอรับ” มู่จวินที่อยู่ข้างหลังมาตลอดเปิดปากตอบให้ทุกคนได้ยิน “นางปรนนิบัติตั้งแต่อยู่บนโลกมนุษย์ เมื่อเสด็จกลับสวรรค์ก็ยังพานางกลับมาด้วย”“แน่ใจนะ ดูเหมือนว่าฝ่ายชายจะนอนนิ่งๆ เสียมากกว่า หรือไม่ใช่เทพหย่วนเฉิน” เมี่ยวเจินมุ่นคิ้วสงสัย ไม่ทันที่ซิงเหวินจะทันขัดขวาง นางก็เด
ตำหนักเทพหย่วนเฉินบุรุษอาภรณ์ขาวปลอดกลับมาถึงตำหนัก เขาเข้าไปนั่งที่ตั่งของตนตามความเคยชิน จากนั้นจึงสะบัดแขนเสื้อปล่อยผีสาวที่เก็บกลับมาให้เป็นอิสระตรงหน้าตู้ชิงชิงออกมาด้วยความงุนงง นางกวาดสายตามองโดยรอบก่อนหันมองท่านเทพที่พานางมา ณ ที่แห่งนี้เมื่อเห็นใบหน้าของเขาชัดเจน ตู้ชิงชิงถึงกับตกใจ ดวงตา จมูก ริมฝีปากนั้น เป็นสิ่งที่นางคุ้นตายิ่งนักบุรุษคนแรกและคนเดียวของนางตู้ชิงชิงอึ้งไปเล็กน้อย นางเอ่ยชื่อที่ติดปากออกมา “จางอวิ๋นอวี้ เจ้า.. ไม่ใช่สิ ท่านคือ....ท่านเทพลงไปจุติที่โลกมนุษย์หรือเจ้าคะ”หย่วนเฉินเลิกคิ้วประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่เคยคิดจะย้อนไปดูความทรงจำเมื่อครั้งจุติที่โลกมนุษย์ จึงไม่รู้ว่าตนเองอยู่บนโลกมนุษย์นั้นเป็นใคร และทำสิ่งใดไว้บ้าง“คงจะใช่” เขาตอบสตรีเพียงสั้นๆ ก่อนถามสิ่งที่ตนเองสงสัย “แล้วตอนที่ข้าเป็นมนุษย์ เคยช่วยเจ้าไว้อย่างนั้นหรือ”เขาเป็นมนุษย์ จะช่วยเหลือถ่ายทอดพลังเทพได้อย่างไรกัน นี่คือความสงสัยของเขา“จะว่าช่วยก็ช่วย จะว่าไม่ช่วยก็ไม่ช่วยเจ้าค่ะ” ตู้ชิงชิงลังเลเล็กน้อย นางไม่รู้จะตอบบุรุษตรงหน้าอย่างไรดี ในใจเต็มไปด้วยความกระดากอาย“ท่านเทพเคยไว้ชีวิต
ตู้ชิงชิงใช้เวลาเพียงสามวันก็จัดการโจรทั้งสามกลุ่มและพรรคพวกขององค์ชายสี่เหอควานตายจนหมด เหตุการณ์ที่มีคนจำนวนมากล้มตายโดยไม่ทราบสาเหตุนี้สร้างความสะเทือนขวัญแก่ผู้คนเป็นอย่างมากครั้นเรื่องดังกล่าวไปถึงพระกรรณฮ่องเต้ของแคว้น พระองค์ทรงเรียกขุนนางทั้งหมดรวมถึงบรรดาโหรหลวงมาวิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น“กราบทูลฝ่าบาท นี่เป็นฝีมือของปีศาจแน่นอนพะย่ะค่ะ พระองค์ต้องทำพิธีขอให้ท่านเทพมาช่วยจัดการกำจัดปีศาจตนนี้” หัวหน้าโหรหลวงกราบทูลสีหน้าเคร่งเครียด“ได้ พวกเจ้าไปเตรียมการให้เรียบร้อยภายในสามวัน ข้าจะเดินทางไปทำพิธีด้วยตนเอง”........จวนรองผู้บัญชาการศาลต้าหลี่หลังจากที่ตู้ชิงชิงทำให้พวกเมิ่งหลู่ เกาถงและคนอื่นๆ หายห่วงจนไปสู่สุคติแล้ว นางก็กลับมายังจวนที่เคยอยู่กับจางอวิ๋นอวี้ ตู้ชิงชิงเลือกไม่ปรากฏกายออกมาให้ผู้ใดเห็นหน้าจวนประดับผ้าไว้ทุกข์ ภายในจวนเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ตู้ชิงชิงเห็นเฉินเล่อจิ้นผู้บัญชาการศาลต้าหลี่ผู้ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของจางอวิ๋นอวี้กำลังปลอบน้องสาวตน“เจ้าเห็นหรือไม่ อวี้เอ๋อร์ของเราเป็นคนดี แม้ถูกโจรสังหาร แต่ก็ยังมีพวกภูติผีช่วยจัดการฆ่าโจรให้”“แต่นั่นบุ







