LOGINตู้ชิงชิงใช้เวลาเพียงสามวันก็จัดการโจรทั้งสามกลุ่มและพรรคพวกขององค์ชายสี่เหอควานตายจนหมด เหตุการณ์ที่มีคนจำนวนมากล้มตายโดยไม่ทราบสาเหตุนี้สร้างความสะเทือนขวัญแก่ผู้คนเป็นอย่างมาก
ครั้นเรื่องดังกล่าวไปถึงพระกรรณฮ่องเต้ของแคว้น พระองค์ทรงเรียกขุนนางทั้งหมดรวมถึงบรรดาโหรหลวงมาวิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“กราบทูลฝ่าบาท นี่เป็นฝีมือของปีศาจแน่นอนพะย่ะค่ะ พระองค์ต้องทำพิธีขอให้ท่านเทพมาช่วยจัดการกำจัดปีศาจตนนี้” หัวหน้าโหรหลวงกราบทูลสีหน้าเคร่งเครียด
“ได้ พวกเจ้าไปเตรียมการให้เรียบร้อยภายในสามวัน ข้าจะเดินทางไปทำพิธีด้วยตนเอง”
........
จวนรองผู้บัญชาการศาลต้าหลี่
หลังจากที่ตู้ชิงชิงทำให้พวกเมิ่งหลู่ เกาถงและคนอื่นๆ หายห่วงจนไปสู่สุคติแล้ว นางก็กลับมายังจวนที่เคยอยู่กับจางอวิ๋นอวี้ ตู้ชิงชิงเลือกไม่ปรากฏกายออกมาให้ผู้ใดเห็น
หน้าจวนประดับผ้าไว้ทุกข์ ภายในจวนเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ตู้ชิงชิงเห็นเฉินเล่อจิ้นผู้บัญชาการศาลต้าหลี่ผู้ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของจางอวิ๋นอวี้กำลังปลอบน้องสาวตน
“เจ้าเห็นหรือไม่ อวี้เอ๋อร์ของเราเป็นคนดี แม้ถูกโจรสังหาร แต่ก็ยังมีพวกภูติผีช่วยจัดการฆ่าโจรให้”
“แต่นั่นบุตรชายคนเดียวของข้า แม้จะมีผีปีศาจมาฆ่าพวกโจร ข้าก็ยังทำใจไม่ได้อยู่ดี” เฉินชิงเหลียงหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตา
ตู้ชิงชิงมองภาพตรงหน้า รู้สึกปลงกับชีวิตของมนุษย์ พบเจอ จากลาล้วนเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเจอ
นางยืนเหม่อลอยสักพักก็หันหลังออกจากจวน ในเมื่อจางอวิ๋นอวี้ไม่อยู่แล้ว นางก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่เช่นกัน
สตรีจึงตัดสินใจกลับไปอยู่ที่ป่าไผ่ตามเดิม
.......
ตำหนักเทพหย่วนเฉิน
บุรุษรูปร่างสูงใหญ่ใบหน้างดงามประหนึ่งภาพวาดนั่งเอนกายอยู่บนตั่งหลังใหญ่ เขานั่งหลับตาไม่สนใจสิ่งต่างๆ รอบกาย
“ท่านเทพฝ่าด่านเคราะห์กลับมาก็เย็นชาเหมือนเดิม” ชิงสวิน บริวารคนหนึ่งกระซิบกระซาบกับบริวารอีกคน
“ก็ดีแล้ว หรือเจ้าอยากให้ท่านเทพอารมณ์ร้อนอย่างนั้นหรือ” มู่จวิน กระซิบตอบอย่างระมัดระวัง
ทว่าหลังจากคนทั้งสองพูดจบ บุรุษบนตั่งกว้างก็ลืมตาขึ้น นัยน์ตาหงส์ที่ลึกล้ำยากคาดเดาความคิดจ้องมาทางพวกเขา
“หากมีผู้ใดมาหาข้าจงบอกว่าข้าไม่อยู่” เขาสั่งบุรุษทั้งสองก่อนหายตัวไปในทันใด
“เกิดสิ่งใดขึ้น” ชิงสวินขมวดคิ้ว เขาถามมู่จวินด้วยความสงสัย
ยังไม่ทันที่มู่จวินจะตอบ ก็มีนางเซียนหลายนางเดินเข้ามาในตำหนัก
พวกนางต่างถือตะกร้าใส่ผลไม้ ใบหน้าสดใสยิ้มแย้ม
“พวกเจ้า ท่านเทพหย่วนเฉินอยู่หรือไม่” เจินเมี่ยว นางเซียนผู้สวมอาภรณ์ขาวล้วนส่งเสียงถามชิงสวินกับมู่เจิน
“ไม่อยู่ขอรับ ท่านเทพลงไปโลกมนุษย์ยังไม่กลับขอรับ” มู่เจินรีบตอบโดยไม่มีพิรุธ
“ตะ แต่ว่า ข้าคลับคล้ายคลับคลาว่าเห็นท่านเทพหย่วนเฉินกลับมาแล้ว” เฟิ่งโหรว นางเซียนผู้สวมอาภรณ์เหลืองอ่อนมุ่นคิ้วสงสัย
“กลับมาแล้ว แล้วก็ลงไปอีกแล้วขอรับ” ชิงสวินรับช่วงต่อจากมู่จวิน ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้ความตื่นตระหนก
“อ่อ ถ้าอย่างนั้นพวกข้าจะมาใหม่วันหลัง” เจินเมี่ยววางตะกร้าผลไม้ลงบนโต๊ะหินอ่อน “เก็บไว้ให้ท่านเทพด้วยล่ะ แต่ถ้าใกล้เน่าแล้วท่านเทพยังไม่กลับ พวกเจ้าก็กินได้เลย”
เฟิ่งโหรวและนางเซียนคนอื่นต่างก็ทำเช่นเดียวกันกับเจินเมี่ยว พวกนางพูดน้ำเสียงประหนึ่งเสียดายที่มาเสียเที่ยว “ฝากให้ท่านเทพหย่วนเฉินด้วย”
ชิงสวินกับมู่จวินยิ้มกว้าง “ได้สิขอรับ” บุรุษทั้งสองเดินไปหยิบตะกร้า ดวงตาเปล่งประกายยินดี
“เกรงใจทุกท่านแล้ว” พวกเขาพูดพลางเก็บตะกร้าใส่ผลไม้ด้วยความรวดเร็ว
เมื่อเหล่านางเซียนกลับกันไปจดหมด บนตั่งก็ปรากฏร่างของบุรุษรูปงามอีกครั้ง เขามองตะกร้าผลไม้ ริมฝีปากบางพลันเอ่ย “พวกสตรีช่างน่ารำคาญเสียจริง”
“จริงขอรับ” ชิงสวินกับมู่จวินตอบพร้อมกัน
“ท่านเทพไม่สนใจสตรีดีแล้วขอรับ ข้าน้อยไม่อยากได้ยินเสียงแหลมๆ ของสตรีทุกวัน” มู่จวินขยายความก่อนวิ่งเข้าไปในตำหนัก
หย่วนเฉินส่ายหน้า มุมปากยกยิ้มเล็กน้อย เขาคร้านจะถือสาบริวารทั้งสองของตน
ที่สำคัญ ที่มู่จวินพูดก็ไม่ผิด สตรีมักจะพูดมากจนเขารำคาญจนต้องหลบเลี่ยงอยู่บ่อยครั้ง ไม่น่าพิศสวาทแม้แต่นิดเดียว
หย่วนเฉินหลับตาลงอีกครั้ง ทว่าเวลาผ่านไปไม่นานนัก เขาก็ลืมตาขึ้นพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย
“มีมนุษย์ทำพิธีอัญเชิญข้า ข้าต้องไปดูเสียหน่อย” หย่วนเฉินพูดกับชิงสวินก่อนที่จะลุกขึ้นยืนพลางบิดขี้เกียจ จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อทั้งสองข้าง อาภรณ์ที่สวมใส่เปลี่ยนเป็นตัวใหม่ทันที
ร่างสูงใหญ่ก้าวเท้าออกไปยังไม่ทันแตะถึงพื้น ร่างทั้งร่างนั้นก็หายไปในพริบตา
........
เมืองไผ่สวรรค์
เขาเทพประทาน
บริเวณเชิงเขา แท่นทำพิธีขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้น ในเวลานี้ฮ่องเต้และขุนนางทั้งหลายในราชสำนักล้วนจุดธูปตั้งจิตอธิษฐานร้องขอให้ท่านเทพเซียนผู้ประทานไผ่สวรรค์ลงมาปราบผีสาวที่หลบซ่อนอยู่ในป่าไผ่บนเขาแห่งนี้
ช่วงเวลาในการทำพิธีนั้น จากที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม จู่ๆ มวลเมฆก็แหวกออก แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาทำให้เกิดลำแสงคล้ายกับสะพานสายยาวทอดตัวจากผืนนภาลงสู่ยอดเขา
ท่ามกลางแสงจ้าบาดตา มีเงาร่างของคนผู้หนึ่งค่อยๆ ลอยลงมาตามลำแสง บุรุษสวมอาภรณ์ขาวบริสุทธิ์ดูไร้มลทิน เมื่อเขามาถึงยอดเขาก็เอ่ยถามน้ำเสียงราบเรียบด้วยถ้อยคำสั้นๆ
“เรียกข้ามาเพื่อวัตถุประสงค์ใด”
ฮ่องเต้ของแคว้นเห็นดังนั้นจึงรีบนำผู้คนคุกเข่าอ้อนวอน เขาพยายามมองหน้าของเทพเซียนองค์ดังกล่าว แต่ก็มองเห็นไม่ชัดเนื่องจากแสงแดดจ้า แม้จะหรี่ตามองแต่ดวงตาก็ทนกับแสงสว่างไม่ไหว จึงทำได้เพียงก้มหน้ากราบกรานวิงวอน
“คารวะท่านเทพ ได้โปรดท่านเทพช่วยจัดการภูตผีปีศาจที่อยู่ในป่าไผ่แห่งนี้ด้วยเถิด ผีร้ายตนนี้ได้เข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นจำนวนมาก แม้แต่บุตรชายของข้าพเจ้าผู้ซึ่งทำความดีมีคุณต่อบ้านเมืองมันก็ยังไม่ละเว้น สังหารอย่างไร้ปราณี”
บุรุษอาภรณ์ขาวที่ลอยอยู่บนฟ้าเหนือยอดเขาเอ่ยเสียงไม่ดังนัก ทว่าทุกคนล้วนได้ยินชัดเจน
“อืม ข้าจะจัดการผีร้ายตนนั้นเอง” พูดจบเงาร่างสูงใหญ่ก็ก้าวเท้าเยื้องย่างลงสู่ยอดเขา ภายในชั่วพริบตาก็ไม่มีผู้ใดเห็นร่างของเขา
ทุกคนล้วนตื่นเต้นดีใจที่ท่านเทพเสด็จลงมาจากสวรรค์เพื่อให้ความช่วยเหลือ
........
ป่าไผ่สวรรค์
ตู้ชิงชิงที่อยู่ในอีกมิติของบ่อน้ำกลางป่า เมื่อได้ยินเสียงของเทพเซียนชุดขาวก็รีบออกมาดูด้วยความตื่นเต้น
บุรุษผู้นี้เป็นคนที่นางเฝ้ารอคอยมาแสนนาน นึกไม่ถึงว่าการพบกันอีกครั้งจะเป็นการที่เขามาจัดการนาง
แต่ก็ไม่เป็นไร นางตายมารอบหนึ่งแล้ว จะตายอีกครั้งก็ไม่รู้สึกเสียใจและหวาดกลัวเลยสักนิด
ดีเสียอีก เกิดใหม่อาจจะได้พบเจอกับจางอวิ๋นอวี้
คิดเช่นนั้นก็ไม่รอช้า ตู้ชิงชิงไม่ได้หลบซ่อนตัว นางยืนเด่นตรงจุดที่ปลายแสงอาทิตย์ส่องถึง
“เจ้าคือผีร้ายตนนั้นหรือ” บุรุษอาภรณ์ขาวเมื่อลงมาถึงระดับยอดต้นไม้ก็เอ่ยถามตู้ชิงชิง
“ไม่ผิด” ตู้ชิงชิงตอบ “ข้ารอพบท่านมาแสนนาน ได้เจอในสถานการณ์เช่นนี้ก็คุ้ม”
บุรุษเลิกคิ้วสีหน้าแปลกใจ แม้ว่าเขาจะแสดงสีหน้าเช่นนี้ แต่ตู้ชิงชิงก็ยังมองเห็นใบหน้าเขาไม่ชัด
หากเขาไม่ต้องการ ก็ไม่มีผู้ใดสามารถมองเห็นใบหน้าที่แท้จริงได้
“เจ้ายินดีรับความตายหรือ” บุรุษอาภรณ์ขาวถาม น้ำเสียงยังคงราบเรียบไร้ความรู้สึก
“แน่นอน” ตู้ชิงชิงตอบ นางค่อยๆ ลอยตัวขึ้นสูงเพื่อจะได้เข้าใกล้บุรุษอาภรณ์ขาว “ความปรารถนาของข้าสมหวังแล้ว นอกนั้นแล้วแต่ท่านเทพจะจัดการ”
ช่วงขณะที่บุรุษอาภรณ์ขาวจะสะบัดปลายนิ้วส่งพลังสลายร่างของตู้ชิงชิงนั้น เขากลับรับรู้ได้ว่าภายในร่างของผีสาวตนนี้มีพลังที่คุ้นเคยไหลวนเวียนอยู่ภายใน
พลังที่ทำให้กายเนื้อของนางนั้นกลายสภาพคล้ายมนุษย์อีกครั้ง
ทั้งยังทำให้มีพลังงานหล่อเลี้ยงไปยังอวัยวะต่างๆ จนเรียกได้ว่าขาดอีกนิดเดียวนางก็จะมีกายเนื้อเหมือนมนุษย์
พลังที่ว่านี้ก็คือพลังเทพของเขาเอง
เขาชะงักมือทันใด “เจ้าเคยพบเจอข้ามาก่อนหรือ” เขาส่งเสียงถามด้วยความสงสัย
ตู้ชิงชิงพยักหน้า “เมื่อสามร้อยปีก่อน ข้าประสบอุบัติเหตุตกหน้าผาที่หลังเขาแห่งนี้ ท่านเทพเป็นผู้ที่ช่วยเหลือข้า มอบชีวิตให้ข้าอีกครั้ง”
“ช่วยชีวิตอย่างนั้นหรือ” บุรุษทวนคำ เขาหวนนึกถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ครานั้นที่เขานำไผ่สวรรค์มายังดินแดนแห่งนี้ บังเอิญพบเห็นรถม้าคันหนึ่งกำลังตกหน้าผา เข้าจึงใช้พลังที่มีประคองรถม้าให้ลงสู่พื้นอย่างปลอดภัย
ไม่ได้ช่วยเหลือนางจนถึงขั้นต้องมอบพลังเทพเลยแม้แต่น้อย
บุรุษมุ่นคิ้วครุ่นคิดอย่างหนัก ในเมื่อเขายังคิดไม่ออก ก็จะไม่ลงมือกำจัดนางไปก่อนจะคลายความข้องใจ
“เจ้า ไปกับข้า” เขาตวัดแขนเก็บวิญญาณของตู้ชิงชิงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เหาะขึ้นสูงเพื่อกลับสวรรค์
“ข้าจัดการผีร้ายตนนั้นแล้ว พวกเจ้าใช้ชีวิตตามปกติได้แล้ว” เขากล่าวกับฮ่องเต้และผู้คนที่รออยู่เชิงเขา
เมื่อได้ยินถ้อยคำดังกล่าว ฮ่องเต้และผู้คนที่รอฟังข่าวดีต่างก้มคำนับไม่หยุด ปากก็พลางกล่าวขอบคุณด้วยความตื้นตันใจ
“ขอบคุณท่านเทพๆ”
บุรุษอาภรณ์ขาวไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ เขากลับไปยังตำหนักของตนเองทันที
ตำหนักใหญ่ โถงรับรองสตรีนางหนึ่งมองกาน้ำชาและขนมในจานที่ตั้งบนโต๊ะด้านหน้าตนหลายครั้ง “ข้ากินจนอิ่มแล้วอิ่มอีก ท่านเทพหย่วนเฉินไปไหนหรือ”“เทพธิดาอย่าร้อนใจไป ท่านเทพแค่เอ่อ อยู่กับสตรีของตนเท่านั้น” ชิงสวินตอบน้ำเสียงราบเรียบ เมื่อครู่เขาเดินผ่านหน้าห้องสรงน้ำ ได้ยินเสียงร้องครางของบุรุษสตรีสลับไปมาไม่ต้องเดาก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเสียงของผู้ใด“สตรีอย่างนั้นหรือ ไหนว่าท่านเทพยังไม่มีคู่บำเพ็ญเพียร” สตรีเอ่ยถามด้วยใบหน้าตกใจ“ตอนนี้ยังไม่มีสถานะ แต่อีกไม่นานคงมี” มู่จวินเดินเข้ามาพอดีจึงตอบคำถามนี้“ข้ารักของข้ามานาน เป็นแบบนี้ได้อย่างไร” สตรีบ่นพึมพำเสียงเบาจนไม่มีผู้ใดได้ยิน สายตามองไปยังประตูทางเข้าด้วยความหวังผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม หย่วนเฉินก็เดินเข้ามาพร้อมกับเทพเต๋ออันและนางเซียนซิงเหวิน“ข้าเห็นความสัมพันธ์ของเจ้ากับแม่นางตู้ก็พลันนึกขึ้นได้ว่า ข้าเองอายุก็ไม่น้อยแล้ว ควรมีคู่บำเพ็ญเพียรบ้าง เลยตกลงกับซิงเหวินไว้ว่าจะอยู่ร่วมกัน” เต๋ออันพูดกับหย่วนเฉินสีหน้าสดใสทว่าซิงเหวินกลับสีหน้าเรียบเฉย นางมองเต๋ออันแล้วพ่นลมหายใจออกมาเล็กน้อย “เจ้าก็ไม่ใช่เด็กแล้ว มีอายุหลายพันปี ยังจ
ลิ้นร้ายเลียลงร่องนมจนชุ่มชื้น จากนั้นก็ตวัดไปยังติ่งนูนสีชมพูเนื้อทั้งสองข้าง ปลายลิ้นฉกรวดเร็วเหมือนงู ตวัดเลียดุจลูกสุนัข ริมฝีปากดูดเม้มดั่งทารกแรกคลอด“อื้อ อื้อ” ตู้ชิงชิงลมหายใจหอบถี่ แม้นางจะยังเป็นผีแต่ก็เริ่มรู้สึกเสียวซ่านที่หน้าอกและมวนหวิวในท้องน้อยราวกับมีผีเสื้อนับร้อยนับพันตัวบินวนไปมาอยู่ภายในแค่นางเริ่มต้นเสียว ร่องรักด้านล่างก็ถูกนิ้วยาวเรียวดันแทรกเข้าไป นิ้วเรียวแข็งนั้นแยงร่องที่คับแน่นเข้าๆ ออกๆ“ท่านมันระ ไร้ เหตุผล ที่ สุด”ตู้ชิงชิงข่มกลั้นความเสียวก่นด่าบุรุษออกมาทีละคำ ทว่าร่างแยกของหย่วนเฉินหาได้สนใจไม่ เขาจับต้นขาขาวยกสูงขึ้นพาดบ่าของตน ก่อนจะยัดแก่นกายใหญ่ยาวเข้าไปในร่องรักแทนนิ้วเรียวที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำใส“อื้ม คับแน่นดีมาก” หย่วนเฉินหลับตาซึมซับความรู้สึกถูกตอดรัดอย่างเต็มที่ เมื่ออยู่ในท่าทางที่คล่องตัว เขาก็เริ่มขยับเอวสอบตอกกระทุ้งแท่งหยกร้อนของตนรัวๆปัก ปัก ปัก ปักสตรีที่ไม่ได้ร่วมรักกับบุรุษมาพักใหญ่ ครั้นถูกกระแทกหนักๆ ถี่ ใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคลิบเคลิ้ม ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอออกพร้อมกับส่งเสียงหวาน“อ้า”“รู้สึกดีหรือไม่” หย่วนเฉินยิ้มมุมปาก ดวง
หย่วนเฉินปล่อยให้ตู้ชิงชิงนอนหลับภายในตำหนัก ส่วนตัวเขาออกมาภายนอกด้วยใบหน้าสดใส ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าหลั่งน้ำไปเยอะรู้สึกได้ปลดปล่อย เขาจึงออกมาเดินเล่น แล้วค่อยกลับไปเข้าฌานอีกครั้ง เมื่อถึงสวนหย่อมข้างตำหนัก เขาก็พบกับเทพเต๋ออัน ผู้ซึ่งเป็นเทพข้างกายเทียนจวินกำลังพูดคุยอยู่กับเทพธิดาซิงเหวินครั้นได้ยินเสียงเดินเข้าไปใกล้ ทั้งเต๋ออันและซิงเหวินต่างก็หันมองหย่วนเฉินพร้อมกัน“ข้าก็คิดว่าเจ้าละกิเลสได้แล้ว ที่ไหนได้” เต๋ออันอมยิ้มพลางกล่าวหยอกเย้าหย่วนเฉินซิงเหวินอมยิ้มเช่นเดียวกัน “ข้าก็คิดไม่ถึงว่าท่านเทพหย่วนเฉินผู้ปฏิเสธนางเซียนเกือบทั้งสวรรค์กลับเลือกผีสาวร่วมเตียงโดยไม่อายผู้ใด”“เจ้าเป็นสตรี ใยถึงพูดแบบนี้” หย่วนเฉินถลึงตาใส่คนทั้งสอง“ข้ามีอายุหลายพันปี เหตุใดถึงต้องอายด้วย” ซิงเหวินตอบแล้วหันหน้าเข้าหาเต๋ออัน“เอ๊ะ ตอนนี้ฝั่งทะเลบูรพามีไอสวรรค์พิสุทธิ์จำนวนมาก หากมนุษย์หรือภูตผีที่มีกายเนื้อสูดกลืนอย่างต่อเนื่อง ก็จะสร้างกายทิพย์เป็นเซียนได้”เต๋ออันพยักหน้า แล้วส่งเสียง “อ่อ อ่อ อ่อ จริงด้วย ข้าลืมไปได้อย่างไรเนี่ย พอมีกายทิพย์แล้ว ก็แช่น้ำอมฤตสามวันสามคืน ฝึกบำเพ็
หน้าตำหนักหลักเทพธิดาเจินเมี่ยวกับเฟิ่งโหรวมาถึงก็พบซิงเหวินยืนดักอยู่ที่หน้าประตู นางได้ยินเสียงพูดคุยระหว่างสตรีทั้งสองกับมู่จวิน จึงรีบออกมายังตำหนักนี้“ข้าได้ยินมาว่าพวกเจ้าทั้งสองจะมาดูแลหย่วนเฉินของข้า แต่คงต้องทำให้พวกเจ้าผิดหวังแล้ว หย่วนเฉินมีพวกข้าดูแลแล้ว” ซิงเหวินตอบน้ำเสียงราบเรียบแต่แววตาเปล่งประกายบางอย่าง“พวกข้า” เจินเมี่ยวขมวดคิ้วทวนคำของซิงเหวินซิงเหวินยกยิ้มริมฝีปากคล้ายกับเป็นสตรีร้ายกาจ นางผลักประตูตำหนัก เดินนำเข้าไปภายในไม่ไกลจากเตียงนอนนัก ที่เตียงถูกดึงผ้าม่านปิดทุกฝั่ง ทว่าก็ยังพอมองเห็นเงาร่างในนั้นหนึ่งเงาบุรุษนอนบนเตียง และอีกหนึ่งเงาสตรีนั่งทับส่วนล่างของบุรุษ พร้อมกับขยับร่างกายในท่วงท่าที่ชวนจินตนาการไปไกล“นางผู้นั้น เป็นใครกัน” เฟิ่งโหรวตกใจถามเสียงดัง“นางคือสตรีคนแรกของท่านเทพขอรับ” มู่จวินที่อยู่ข้างหลังมาตลอดเปิดปากตอบให้ทุกคนได้ยิน “นางปรนนิบัติตั้งแต่อยู่บนโลกมนุษย์ เมื่อเสด็จกลับสวรรค์ก็ยังพานางกลับมาด้วย”“แน่ใจนะ ดูเหมือนว่าฝ่ายชายจะนอนนิ่งๆ เสียมากกว่า หรือไม่ใช่เทพหย่วนเฉิน” เมี่ยวเจินมุ่นคิ้วสงสัย ไม่ทันที่ซิงเหวินจะทันขัดขวาง นางก็เด
ตำหนักเทพหย่วนเฉินบุรุษอาภรณ์ขาวปลอดกลับมาถึงตำหนัก เขาเข้าไปนั่งที่ตั่งของตนตามความเคยชิน จากนั้นจึงสะบัดแขนเสื้อปล่อยผีสาวที่เก็บกลับมาให้เป็นอิสระตรงหน้าตู้ชิงชิงออกมาด้วยความงุนงง นางกวาดสายตามองโดยรอบก่อนหันมองท่านเทพที่พานางมา ณ ที่แห่งนี้เมื่อเห็นใบหน้าของเขาชัดเจน ตู้ชิงชิงถึงกับตกใจ ดวงตา จมูก ริมฝีปากนั้น เป็นสิ่งที่นางคุ้นตายิ่งนักบุรุษคนแรกและคนเดียวของนางตู้ชิงชิงอึ้งไปเล็กน้อย นางเอ่ยชื่อที่ติดปากออกมา “จางอวิ๋นอวี้ เจ้า.. ไม่ใช่สิ ท่านคือ....ท่านเทพลงไปจุติที่โลกมนุษย์หรือเจ้าคะ”หย่วนเฉินเลิกคิ้วประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่เคยคิดจะย้อนไปดูความทรงจำเมื่อครั้งจุติที่โลกมนุษย์ จึงไม่รู้ว่าตนเองอยู่บนโลกมนุษย์นั้นเป็นใคร และทำสิ่งใดไว้บ้าง“คงจะใช่” เขาตอบสตรีเพียงสั้นๆ ก่อนถามสิ่งที่ตนเองสงสัย “แล้วตอนที่ข้าเป็นมนุษย์ เคยช่วยเจ้าไว้อย่างนั้นหรือ”เขาเป็นมนุษย์ จะช่วยเหลือถ่ายทอดพลังเทพได้อย่างไรกัน นี่คือความสงสัยของเขา“จะว่าช่วยก็ช่วย จะว่าไม่ช่วยก็ไม่ช่วยเจ้าค่ะ” ตู้ชิงชิงลังเลเล็กน้อย นางไม่รู้จะตอบบุรุษตรงหน้าอย่างไรดี ในใจเต็มไปด้วยความกระดากอาย“ท่านเทพเคยไว้ชีวิต
ตู้ชิงชิงใช้เวลาเพียงสามวันก็จัดการโจรทั้งสามกลุ่มและพรรคพวกขององค์ชายสี่เหอควานตายจนหมด เหตุการณ์ที่มีคนจำนวนมากล้มตายโดยไม่ทราบสาเหตุนี้สร้างความสะเทือนขวัญแก่ผู้คนเป็นอย่างมากครั้นเรื่องดังกล่าวไปถึงพระกรรณฮ่องเต้ของแคว้น พระองค์ทรงเรียกขุนนางทั้งหมดรวมถึงบรรดาโหรหลวงมาวิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น“กราบทูลฝ่าบาท นี่เป็นฝีมือของปีศาจแน่นอนพะย่ะค่ะ พระองค์ต้องทำพิธีขอให้ท่านเทพมาช่วยจัดการกำจัดปีศาจตนนี้” หัวหน้าโหรหลวงกราบทูลสีหน้าเคร่งเครียด“ได้ พวกเจ้าไปเตรียมการให้เรียบร้อยภายในสามวัน ข้าจะเดินทางไปทำพิธีด้วยตนเอง”........จวนรองผู้บัญชาการศาลต้าหลี่หลังจากที่ตู้ชิงชิงทำให้พวกเมิ่งหลู่ เกาถงและคนอื่นๆ หายห่วงจนไปสู่สุคติแล้ว นางก็กลับมายังจวนที่เคยอยู่กับจางอวิ๋นอวี้ ตู้ชิงชิงเลือกไม่ปรากฏกายออกมาให้ผู้ใดเห็นหน้าจวนประดับผ้าไว้ทุกข์ ภายในจวนเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ตู้ชิงชิงเห็นเฉินเล่อจิ้นผู้บัญชาการศาลต้าหลี่ผู้ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของจางอวิ๋นอวี้กำลังปลอบน้องสาวตน“เจ้าเห็นหรือไม่ อวี้เอ๋อร์ของเราเป็นคนดี แม้ถูกโจรสังหาร แต่ก็ยังมีพวกภูติผีช่วยจัดการฆ่าโจรให้”“แต่นั่นบุ







