เข้าสู่ระบบไม่พูดพล่ามทำเพลง จางอวิ๋นอวี้ก็จับตู้ชิงชิงอุ้มแล้วยกตัวลอย ส่วนล่างก็จ้วงแทงไปตามจังหวะการเดิน
“หืม ออกข้างนอกยิ่งตอดแรง เจ้าชอบแบบนี้หรือ” เขาถามสตรีในอ้อมแขน
“อย่าพูดพล่อยๆ” ตู้ชิงชิงดุจางอวิ๋นอวี้ นางถลึงตาใส่ก่อนหลับตาแล้วส่งเสียงครวญครางต่อเนื่อง
แท่งหยกใหญ่ยิ่งใส่ยิ่งร้อน โดยเฉพาะเวลาที่เขาหลั่งน้ำขาวข้นเข้าร่าง ยิ่งทำให้นางรู้สึกว่าตนเองแทบไม่ต่างจากมนุษย์ปกติทั่วไป
ความเย็นเยียบบนตัวแทบไม่หลงเหลืออยู่แม้แต่น้อย
“ไม่แน่ว่าหากข้าเอาเจ้าไปเรื่อยๆ เจ้าอาจจะตั้งครรภ์ก็ได้” จางอวิ๋นอวี้หัวเราะ เพราะถ้าร่างกายตู้ชิงชิงใกล้เคียงมนุษย์เข้าไปทุกวัน การที่นางตั้งครรภ์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
“บุรุษอย่างเจ้าเนี่ยนะจะเลี้ยงเด็ก ข้านึกภาพไม่ออกเลย” ตู้ชิงชิงบ่น ร่องรักขมิบตอดรัวจนจางอวิ๋นอวี้ต้องหยุดเดิน
“อื้ม ดีมาก ขนาดของข้าใหญ่เช่นนี้แถมยังเอาเจ้าทุกวัน แต่ร่องรักเจ้าก็ยังคับแน่นไม่ต่างจากวันแรกที่ได้กัน” จางอวิ๋นอวี้พูดพลางอุ้มตู้ชิงชิงไปยังศาลาริมสระน้ำ
เขานั่งบนเก้าอี้ ให้ร่างอวบอัดของตู้ชิงชิงนั่งอยู่ด้านบน “ขย่มสิ” เขากระซิบบอกข้างหูของนาง
มือหนาจับสตรีนั่งหันหน้าออก แล้วขยำหน้าอกทั้งสองข้าง นิ้วเรียวบีบจุกหวานจนแข็งสู้มือ
ส่วนริมฝีปากก็เม้มดูดใบหูของตู้ชิงชิงจนนางเสียวสะท้าน
ตู้ชิงชิงหลับตาพริ้ม สูดปาก แล้วเริ่มขยับเอวและสะโพกขย่มท่อนเอ็นของจางอวิ๋นอวี้ตามจังหวะที่ตนเองชอบใจ
ช้าๆ สลับกับถี่รัว ไม่นานนักร่างอวบอัดก็กระตุกเกร็ง ภายในหัวของนางขาวโพลน ร่างกายเสียวซ่านรู้สึกเบาหวิวราวกับล่องลอยได้
จางอวิ๋นอวี้ที่ใกล้จะเสร็จจึงจับเอวของตู้ชิงชิงยกขึ้นลงเป็นจังหวะที่ตัวเองเสียว เขาสวนสะโพกกระแทกขึ้นตอนที่ร่องรักฉ่ำน้ำตอกลงมา
“อืม” บุรุษหลับตา อ้าปากส่งเสียงพึงพอใจ
เขากระเด้งสะโพกสวนขึ้นถี่ๆ ไม่นานนักลำใหญ่ก็หลั่งน้ำรักออกมา
“ข้าได้รับคำสั่งให้ออกไปปราบโจร เจ้าก็อยู่เฝ้าจวนละกัน” จางอวิ๋นอวี้บอกตู้ชิงชิงหลังเสร็จกิจ
“ไม่ ข้าจะไปด้วย” ตู้ชิงชิงปฏิเสธ ในเมื่อนางเป็นสตรีของจางอวิ๋นอวี้แล้ว จะให้อยู่ห่างกันคนละที่ได้อย่างไร
จางอวิ๋นอวี้หยุดครุ่นคิดครู่หนึ่ง เขาไม่อยากให้ผู้อื่นเห็นสตรีของตนเท่าไหร่นัก แต่เมื่อคิดว่านางสามารถปกป้องตนเองได้ จึงอนุญาตให้ไปด้วยกัน
.......
ชานเมือง
เหมียวอี้หลิงมาไหว้พระที่วัด นางขอพรให้ตนเองได้ดิบได้ดีหลังจากแต่งงาน
ทว่าตอนที่นางเดินทางกลับก็พบกับรถม้าขององค์ชายสี่เหอควานขวางเอาไว้
“คนบนรถม้าใช่คุณหนูจวนเจ้ากรมโยธาหรือไม่” องครักษ์ของเหอควานตะโกนถาม
สาวใช้และสารถีที่นั่งอยู่ด้านหน้าต่างพยักหน้ารับ
“ไม่ทราบว่าพวกท่านคือคุณชายท่านไหนหรือเจ้าคะ” สาวใช้ตะโกนถามกลับ
“องค์ชายสี่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณหนู” องครักษ์ตอบสายตาดุดัน
“องค์ชายสี่ต้องการความช่วยเหลือจากหม่อมฉันอย่างนั้นหรือ” เหมียวอี้หลิงเปิดม่านหน้าต่างถามด้วยความประหลาดใจ
“ใช่แล้ว รบกวนคุณหนูรองเหมียวมาที่รถม้าข้าด้วย” เหอควานได้ยินเสียงเหมียวอี้หลิงจึงเปิดม่านหน้าต่างตอบ สายตากวาดมองสตรีไม่วางตา
เหมียวอี้หลิงเงียบไปชั่วครู่ นางนึกถึงเรื่องที่ตนเองอธิษฐาน จึงอยากลองเสี่ยงดวงพบเหอควานดู อย่างไรเสียองค์ชายสี่ก็มีอำนาจมากกว่าจางอวิ๋นอวี้ ทั้งฮ่องเต้ยังไม่ได้คัดเลือกองค์รัชทายาท ดังนั้นองค์ชายสี่ผู้นี้ก็อาจจะได้เป็นองค์รัชทายาท
สตรีลงจากรถม้าของตน แล้วขึ้นรถม้าของเหอควาน องครักษ์ของเหอควานจึงตะโกนบอกสาวใช้ของเหมียวอี้หลิง
“พวกเจ้าไม่ต้องรอ ไม่เกินหนึ่งชั่วยามข้าจะพาคุณหนูรองเหมียวไปส่งที่จวนเจ้ากรมโยธาเอง”
...
ภายในรถม้า
องค์ชายสี่เหอควานมองสตรีที่เข้ารถม้าด้วยความสนใจ เมื่อนางกำลังเลือกที่นั่งเขาจึงให้นางมานั่งด้านข้าง
“คุณหนูรองเหมียว” เขาเอ่ยทักทาย ทว่ามือหนายื่นมาจับแล้วดึงให้ร่างบางล้มลงบนตักของตนเองทันที
“อุ้ย องค์ชาย” เหมียวอี้หลิงอุทานด้วยความตกใจ
“ข้าถูกพิษ ดีที่ข้าพบเจ้า เจ้ามาช่วยข้าแก้พิษที” พูดจบเขาก็ไม่รอช้า มือหนาจับเสื้อผ้าของเหมียวอี้หลิงแล้วถอดออกอย่างช่ำชอง
ไม่นานนักเรือนร่างเปลือยเปล่าของเหมียวอี้หลิงก็นอนแผ่หลาอยู่บนเบาะใหญ่
“องค์ชาย จะทำอะไรหรือเพคะ” เหมียวอี้หลิงแม้จะเขินอายแต่ก็ยังแสร้งถามอย่างไร้เดียงสา
เหอควานไม่ตอบคำถาม เขาปลดผ้าคาดเอวของตนเอง ดึงกางเกงลงจนแท่งหยกโผล่พ้นอาภรณ์ชูคอผงกหัวหงึกหงึกแทนคำตอบ
เหมียวอี้หลิงจ้องมองไม่วางตา แท่งหยกร้อนขององค์ชายสี่แม้จะไม่ยาวใหญ่เหมือนของจางอวิ๋นอวี้ แต่ก็ใหญ่สมตัวสีแดงก่ำ มีเส้นเลือดโดยรอบดูดุดันนัก
“ข้าถูกพิษน่ะ ดูสิ มันต้องการปลดปล่อย” เหอควานเห็นว่าสตรีมองอาวุธประจำกายของตนแล้วกลืนน้ำลาย เขาจึงเอ่ยปากออกมา
“เพื่อช่วยเหลือองค์ชาย ก็ได้เพคะ” สตรีตอบน้ำเสียงเขินอาย แต่ขาเรียวขาวอ้าออกกว้างราวกับพร้อมให้เขาแทรกกายสอดใส่เข้ามา
“ฮ่า ฮ่า คุณหนูเหมียวทั้งฉลาดทั้งงดงาม องค์ชายเช่นข้าชื่นชอบยิ่งนัก” เหอควานพูดพร้อมกับเคลื่อนกายไปตรงหว่างขาของสตรี เขาก้มหน้าแล้วใช้ลิ้นร้ายตวัดเลียกลีบเนื้อนุ่มที่ยังไม่เคยผ่านมือชาย
“อื้อ” เหมียวอี้หลิงส่งเสียงและสะดุ้งจนยกสะโพกแอ่นใส่หน้าของเหอควาน บุรุษยิ่งชอบใจยกฝ่ามือรองใต้สะโพกแล้วจับดันขึ้นให้ตนเองใช้ปากได้ถนัด
เขาทั้งเลียทั้งดูด ลิ้นร้ายตวัดเลียกลีบเนื้อซ้ายขวาจนชุ่มฉ่ำ ริมฝีปากดูดเม้มเกสรเนื้อนูนจนขยายใหญ่ขึ้น
“อ้า อ้า อ้า” เหมียวอี้หลิงครางออกมาพร้อมกับส่ายสะโพกแสดงถึงความเสียวซ่านของตนเอง
ลิ้นร้ายโลมเลียได้ไม่นาน ร่องรักก็หลั่งน้ำใสชโลมจนเปียกชุ่ม
“พร้อมแล้วสินะ” เหอควานพูด เขาเปลี่ยนท่าทาง เป็นคุกเข่าแล้วจับต้นขากางออกมาพาดบนต้นขาตนเอง
มือหนาข้างหนึ่งขยำเต้านมที่ขนาดพอดีมือ มืออีกข้างจับแท่งหยกสีแดงถูกตรงปากทางรักขึ้นลงเร็วๆ จนได้จังหวะเขาก็จับหัวหยักยัดเข้าไป
เอวสอบดันกระแทกอีกไม่กี่ที แท่งหยกนั้นก็เข้าไปจนมิด
“โอ๊ะ โอ๊ะ อ๊า” เหมียวอี้หลิงส่งเสียงตอนถูกกระแทกเข้ามา เมื่อแก่นกายแทรกเข้ามาจนมิดโพรงเนื้อนุ่มนางก็ครางเสียงหวาน “อื้ม แน่นมากเลยเพคะ”
เหอควานยิ้มชอบใจ “เจ้านั่นแหละที่ยอดเยี่ยมนัก คับแน่นกว่าสตรีคนอื่นๆ ที่ข้าเคยร่วมหลับนอนด้วยยิ่งนัก” บุรุษพูดคำหวานจนสตรีลืมตัวขมิบโพรงรักบีบรัดแท่งหยกร้อน
“อื้อ ตอดแน่นดีเหลือเกิน ข้าชอบ” เหอควานชมอีกครั้งก่อนเริ่มขยับเอวสอบเข้าออก เขากระแทกร่องรักจากแรกที่เนิบช้า แต่เมื่อร่างกายถูกกระตุ้นมากขึ้นเขาก็กระแทกกระทุ้งแรงๆ รัวๆ
ปัก ปัก ปัก ปัก ปัก
“อ้า อ้า อ้า อ้า อ้า อ้า” เหมียวอี้หลิงทำหน้าเคลิบเคลิ้ม อ้าปากส่งเสียงครางดังไม่อายผู้ใด
เหอควานมองใบหน้านางก็ชอบใจยิ่งนัก เพราะสีนางของนางแสดงออกเห็นได้ชัดว่าชื่นชอบการปรนเปรอของเขา
แค่นี้ก็ล่องลอย กว่าจะเสร็จอีกสองสามยกคงทำให้นางถึงสวรรค์ครั้งแล้วครั้งเล่า
มือหนาจับข้อมือเรียวเล็กทั้งสองข้างรวบขึ้นเหนือศีรษะ เหอควานก้มหน้าดูดเต้านมทั้งสองข้างสลับไปมาขณะที่กระแทกโพรงนุ่มอย่างเมามัน
ได้เป็นบุรุษคนแรกของสตรีแค่นี้ก็เปรมปรีดิ์แล้ว ยิ่งเปิดบริสุทธิ์สตรีของคู่ปรับยิ่งน่าปลื้มใจกว่า
“เรียกข้า เรียกชื่อข้า” เหอควานเงยหน้าจากเต้าอวบสั่งสตรีเสียงดัง
“อะ องค์ชาย สี่ หะ เหอ ควาน หม่ะ หม่อมฉัน ชอบ มาก มาก เพ คะ” เหมียวอี้หลิงกลั้นไม่ให้ตนเองครางเพื่อพูดกับเขา
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า อย่างนี้สิ ข้าชอบ” พูดจบเขาก็ดูดเลียทั่วทั้งเต้าสลับกันไปมา ส่วนล่างก็กระแทกดุเดือดไม่กลัวว่ากลีบเนื้อจะช้ำแต่อย่างใด
ร่วมรักที่ดีต้องแบบนี้ ตอกให้ตาลอยสมองเบลอ จะได้คิดถึงแต่เขา อยากมอบตัวให้แต่เขา
เหอควานคิดเช่นนี้มาโดยตลอด เขาจึงไม่เคยแทงสตรีนางใดอย่างอ่อนโยน
ถึงกระนั้นการเอาอย่างดุเดือดและป่าเถื่อนนั้นก็ทำให้สตรีต่างลืมลีลาของเขาไม่ลง
ติดใจจนตามมาถึงจวนองค์ชายอยู่บ่อยครั้ง
เมื่อใกล้ถึงจุดสุดยอด เหอควานก็กระแทกถี่รัว จากนั้นก็ชักท่อนเอ็นของตัวเองออกแล้วจับยัดเข้าปากเหมียวอี้หลิงอย่างรวดเร็ว
อ็อก อ็อก อ็อก
น้ำรักขาวข้นพุ่งใส่เข้าปากเหมียวอี้หลิง สตรีตกใจ มองตาบุรุษราวกับต้องการความคิดเห็นของเขา
“กลืนลงไป ดี อย่างนั้นแหละ ดี” เหอควานชมเชยเหมียวอี้หลิงที่ทำทุกอย่างตามที่เขาบอก
นางทั้งสะสวย ตรงนั้นก็คับแน่น แถมหัวอ่อนเชื่อฟัง เลี้ยงเพิ่มสักคนก็ไม่เสียหาย
เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วยามเขาก็เสร็จสมตามที่ตั้งใจ บุรุษดึงหยกห้อยเอวส่งให้นางเก็บไว้
“สตรีเยี่ยมยอดอย่างเจ้า ไว้ข้าจะไปรับเข้าวัง” เขาดึงนางมาจูบปากแลกลิ้นอีกสักพักถึงส่งตัวนางกลับจวน
เมืองซานเจียงจางอวิ๋นอวี้พาลูกน้องใต้บังคับบัญชามาพักยังจวนชายป่าที่สร้างทิ้งไว้ เขาพูดคุยวางแผนจนถึงดึกดื่นจึงเข้าห้องพักของตน“พรุ่งนี้ข้าจะไปปราบโจร เจ้ารออยู่ที่นี่ละกัน” เขาพูดกับตู้ชิงชิง ก่อนเงียบไปเล็กน้อยแล้วพูดต่อ“หากเกิดอะไรขึ้นกับข้าเจ้าก็ถือว่าเป็นอิสระ อยากไปไหนก็ไปเถอะ เพียงแต่ต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ” บุรุษพูดเสียงไม่ดังมากนักแต่แสดงถึงความห่วงใยอย่างชัดเจนตู้ชิงชิงจ้องมองใบหน้าของจางอวิ๋นอวี้ “ข้าอยากเป็นอิสระก็จริง แต่ไม่ได้อยากให้เจ้าเป็นอะไรไป อีกอย่าง หากเจ้าเกิดเรื่องจริงๆ ข้าจะล้างแค้นให้”จางอวิ๋นอวี้หัวเราะ ทว่าภายในหัวใจรู้สึกอบอุ่นบอกไม่ถูก “ผีผู้หญิงอย่างเจ้าจะทำอะไรกับโจรได้ พักผ่อนเถอะ ข้าจะนอนล่ะ” เขาปล่อยให้ตู้ชิงชิงทำสมาธิ ส่วนตนเองนอนหลับเอาแรง...เช้าวันรุ่งขึ้นเสียงไก่ขันและนกร้องปลุกให้ตู้ชิงชิงที่เผลอหลับลืมตาตื่นขึ้นมา นางมองไปที่เตียงก็พบว่าจางอวิ๋นอวี้ออกไปด้านนอกแล้วคิดไม่ถึงว่าเขาจะไปอย่างเงียบเชียบไม่บอกกล่าวนางสักคำความจริงก่อนที่จางอวิ๋นอวี้จะออกไปนั้น เขาก็อยากจะบอกลานาง แต่เห็นว่านางหลับอยู่เขาจึงไม่ได้รบกวนเขาไม่แน่ใจว่าผีต้องนอนหลั
ไม่พูดพล่ามทำเพลง จางอวิ๋นอวี้ก็จับตู้ชิงชิงอุ้มแล้วยกตัวลอย ส่วนล่างก็จ้วงแทงไปตามจังหวะการเดิน“หืม ออกข้างนอกยิ่งตอดแรง เจ้าชอบแบบนี้หรือ” เขาถามสตรีในอ้อมแขน“อย่าพูดพล่อยๆ” ตู้ชิงชิงดุจางอวิ๋นอวี้ นางถลึงตาใส่ก่อนหลับตาแล้วส่งเสียงครวญครางต่อเนื่องแท่งหยกใหญ่ยิ่งใส่ยิ่งร้อน โดยเฉพาะเวลาที่เขาหลั่งน้ำขาวข้นเข้าร่าง ยิ่งทำให้นางรู้สึกว่าตนเองแทบไม่ต่างจากมนุษย์ปกติทั่วไปความเย็นเยียบบนตัวแทบไม่หลงเหลืออยู่แม้แต่น้อย“ไม่แน่ว่าหากข้าเอาเจ้าไปเรื่อยๆ เจ้าอาจจะตั้งครรภ์ก็ได้” จางอวิ๋นอวี้หัวเราะ เพราะถ้าร่างกายตู้ชิงชิงใกล้เคียงมนุษย์เข้าไปทุกวัน การที่นางตั้งครรภ์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก“บุรุษอย่างเจ้าเนี่ยนะจะเลี้ยงเด็ก ข้านึกภาพไม่ออกเลย” ตู้ชิงชิงบ่น ร่องรักขมิบตอดรัวจนจางอวิ๋นอวี้ต้องหยุดเดิน“อื้ม ดีมาก ขนาดของข้าใหญ่เช่นนี้แถมยังเอาเจ้าทุกวัน แต่ร่องรักเจ้าก็ยังคับแน่นไม่ต่างจากวันแรกที่ได้กัน” จางอวิ๋นอวี้พูดพลางอุ้มตู้ชิงชิงไปยังศาลาริมสระน้ำเขานั่งบนเก้าอี้ ให้ร่างอวบอัดของตู้ชิงชิงนั่งอยู่ด้านบน “ขย่มสิ” เขากระซิบบอกข้างหูของนางมือหนาจับสตรีนั่งหันหน้าออก แล้วขยำหน้าอกทั้งสอ
หลังจากปลดปล่อยจนรู้สึกสบายตัว จางอวิ๋นอวี้ก็พูดคุยกับเยว่เส้าอยู่สักพักก่อนจะโบกมือให้เขาออกไปพักผ่อนเยว่เส้าจึงเดินไปกระซิบ พูดข้างหูจางอวิ๋นอวี้ประโยคสั้นๆ “หากอยากให้สตรีหลีกหนี ต้องทำให้พวกนางจุกและรู้ว่ารับไม่ไหว”“ข้าเข้าใจล่ะ” จางอวิ๋นอวี้พยักหน้าน้อยๆอาวุธคู่กายขนาดใหญ่สามารถทำให้สตรีเพ้อหาและก็ทำให้สตรีหวาดผวาได้เช่นเดียวกัน แล้วแต่ว่าสตรีผู้นั้นร่างกายเป็นแบบไหนค่ำคืนนั้น จางอวิ๋นอวี้นอนหลับสนิทบนเตียง ปล่อยให้ตู้ชิงชิงทำสมาธิฝึกปราณนางได้รับน้ำรักที่เต็มไปด้วยพลังหยางจากจางอวิ๋นอวี้ จึงทำให้ร่างกายคล้ายมนุษย์เพิ่มมากขึ้น ทั้งมีพละกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมากเรียกได้ว่าร่วมรักกับจางอวิ๋นอวี้นางมีแต่ได้ไม่มีเสีย.......วันถัดมา จางอวิ๋นอวี้พาตู้ชิงชิงไปที่จวนกั๋วกง เมื่อเข้าไปยังโถงรับรองแขกก็พบว่าเฉินชิงเหลียงผู้เป็นมารดาเรียกสตรีมาด้วยสองนางจี้นั่วและเหมียวอี้หลิงพวกนางเป็นธิดาตระกูลใหญ่ จี้นั่วเป็นบุตรีสายตรงของเจ้ากรมคลัง ส่วนเหมียวอี้หลิงเป็นบุตรอนุที่เกิดกับเจ้ากรมโยธาเฉินชิงเหลียงตั้งใจจะให้พวกนางแต่งให้จางอวิ๋นอวี้พร้อมกัน คนหนึ่งเป็นเอก ส่วนอีกคนเป็นอนุจะได้มีหล
“ขับรถม้าไปเรื่อยๆ รอบชานเมือง จะกลับจวนเมื่อไหร่ข้าจะบอกเอง” จางอวิ๋นอวี้ส่งเสียงบอกสารถี ขณะที่พูดก็ปลดสายคาดเอวของตนแล้วดึงกางเกงลงแก่นกายที่คล้ายงูยักษ์ผงาดทันใด มือหนาจับแก่นกายตนเองฟาดใส่แก้มก้นของตู้ชิงๆ จนหนำใจ จากนั้นก็นำส่วนหัวหยักถูขึ้นลงตรงกลีบเนื้อนุ่มเพื่อให้น้ำรักหลั่งออกมาเมื่อน้ำใสไหลออกมาชโลมงูตัวเขื่อง ไม่รอช้า เขาก็จับมันมุดเข้าปากถ้ำที่คับแคบ“อืม” บุรุษส่งเสียงเบาออกจากลำคอแสดงถึงความพึงพอใจ ท่านี้สอดเข้าไปกี่ครั้งก็ทั้งลึกทั้งคับแน่นช่างรู้สึกดีเสียจริง“อื้อ” ตู้ชิงชิงส่งเสียงกระเส่า เสียงร้องของนางทำให้สติของจางอวิ๋นอวี้เตลิดไปไกลเขาขยับเอวสอบกระทุ้งร่องรักที่ตอดลำใหญ่ของตนถี่ๆ ฝ่ามือทั้งสองก็บีบแก้มก้นตามจังหวะกระแทกกระทั้นปัก ปัก ปัก ปักตู้ชิงชิงที่ถูกตอกจนลึก นางได้แต่หลับตาเม้มริมฝีปากแน่น ความใหญ่โตของจางอวิ๋นอวี้ทำให้นางทั้งจุกทั้งเสียวอยากจะครางเพื่อระบายความร้อนรุ่มที่ได้รับจากบุรุษก็ทำไม่ได้เพราะถูกสั่งไว้ตั้งแต่แรกเสียงเนื้อกระแทกเนื้อนี้แม้จะดัง แต่ก็ดังสู้เสียงพูดคุยของชาวบ้านที่กำลังจับจ่ายใช้สอยไม่ได้ ทำให้ไม่มีใครสนใจรถม้าของพวกเขายกเว
ขณะที่ตู้ชิงชิงสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น จางอวิ๋นอวี้ก็เดินไปสำรวจแผ่นกระดาษที่นางอธิษฐานขอพร ในเศษกระดาษที่ขาดกระจายมีร่องรอยเผาไหม้นั้น มีร่องรอยของน้ำหมึกใจความว่า‘ข้าอยากพบเจอท่านเทพเซียนผู้นั้นที่ป่าไผ่สวรรค์บนเขาเทพประทานแห่งนี้อีกครั้ง’มุมปากของจางอวิ๋นอวี้ยกขึ้นอย่างน่าหวาดกลัว “ช่างเพ้อฝันเสียจริง”แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังกวาดสายตาสำรวจด้วยความสนใจ เหตุใดกระดาษเหล่านี้ถึงระเบิดคล้ายกับถูกฉีกทึ้งแทบทุกแผ่นเขาจำได้ว่า ช่วงที่เขาเสร็จกิจเมื่อคืน กระดาษแผ่นสุดท้ายก็ระเบิดส่งแสงระยิบระยับเป็นฉากหลังที่งดงามพอดีราวกับว่า ตั้งแต่เริ่มมีสัมพันธ์กับตู้ชิงชิง กระดาษอธิษฐานแผ่นแรกก็ระเบิด และเมื่อเสร็จสมทั้งคู่ ก็ถึงกระดาษแผ่นสุดท้ายพอดิบพอดีช่างบังเอิญเสียจริง“เพราะว่าเจ้าเพ้อฝันถึงเทพเซียน เป็นผีแต่ไม่เจียมตัว กระดาษเหล่านี้เลยระเบิดจนหมด อ่อ หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะเจ้ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับข้า คำอธิษฐานของเจ้าจึงเป็นโมฆะไปแล้ว”จางอวิ๋นอวี้พูดพลางเหลือบตามองสตรีที่ดวงหน้าเศร้าหมอง นางไม่ต่อปากต่อคำของเขาแต่อย่างใด เท้าเรียวเดินมาอยู่ด้านหลังของเขาอย่างเงียบเชียบเขาจึงไม่กล่าวสิ่งใดอีก
“สาวรับใช้หรือ เจ้ามันบ้าไปแล้ว” ตู้ชิงชิงชูกำปั้นหมายจะทุบจางอวิ๋นอวี้ แต่ก็ไม่ทัน ร่างอวบอัดถูกจับพลิกคว่ำหน้าอกแนบติดพื้น แต่สะโพกยกแอ่นอวดร่องรักที่ยังมีน้ำสีขาวเปรอะเปื้อน“งามนัก” มุมปากของจางอวิ๋นอวี้โค้งขึ้น น้อยครั้งนักที่เขาจะยิ้มได้เช่นนี้เขาไม่พูดมากความ จับแก่นกายที่ยังตั้งผงาดเย่อหยิ่งอวดดีตีใส่บั้นท้ายกลมงอนของตู้ชิงชิงทีละข้างจนแดง จากนั้นก็ดันหัวเห็ดบานใหญ่มุดผ่านน้ำรักขาวขุ่นเข้าไปในโพรงเนื้อนุ่มอีกครั้ง“อืม ท่านี้ลึกดีจริงๆ ดันเข้าไปได้มากกว่าเดิม” บุรุษเอ่ยกับตนเองเสียงไม่ดังนักแม้จะไม่ดัง แต่ตู้ชิงชิงก็ได้ยินชัดเจน นางรู้สึกมากกว่าจางอวิ๋นอวี้ด้วยซ้ำ มีหรือจะไม่รู้ว่าตอนนี้ท่อนเอ็นร้ายกาจของเขาแนบชิดเต็มพื้นที่ร่องรักของตนท่อนเอ็นร้อนกระตุ้นให้โพรงนุ่มเริ่มขยับตอดรัด เมื่อท่อนเอ็นครูดถูไปมา การตอบสนองก็เพิ่มมากขึ้นร้อนดีเหลือเกินตู้ชิงชิงคิดในใจ นางตายมาหลายปีนอกจากความเย็นก็แทบไม่สามารถสัมผัสความอบอุ่นของคนมีชีวิตได้ แต่ท่อนเอ็นใหญ่แท่งนี้ทำให้โพรงเนื้อนางร้อนผ่าว ทั้งขมิบและตอดอย่างบ้าคลั่ง ยิ่งสัมผัสความเสียวก็ยิ่งอยากให้ลำเอ็นนี้อยู่ภายในโพรงรักนานๆจะได







