FAZER LOGINตอนที่ 2 ผู้มีพระคุณ
“เปิดประตู! ไหนบอกว่าจะจ่ายค่าห้องแล้วขนของออกไปไง นึกว่าตายไปแล้ว ยังแอบมานอนสบายใจที่นี่อีกเหรอ ไม่มีปัญญาจ่ายค่าห้องก็ออกไปเลย เก็บของออกไปเลยก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน!”
“...” ฉันยืนนิ่งหันไปมองเจ้าของห้องแต่เขากลับไม่มีทีท่าตกใจอะไรเลยแล้วเสียงด้านนอกก็ดังขึ้นอีก
“ไม่มีเงินแล้วยังกล้าพาสาวมานอนกกในห้อง! ใครมันโง่เอามาเป็นแฟนกันหา! ถ้ามีเงินเลี้ยงผู้หญิงก็มาจ่ายค่าห้องด้วย #$@#&”
เสียงจากผู้หญิงมีอายุคนหนึ่งดังเล็ดลอดเข้ามาในห้องจนเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น มนุษย์ป้าด้านนอกนี้ด่าหมด ด่ามาทุกคำที่คิดได้ แล้วแต่ละคำก็หยาบคายทั้งนั้น จนฉันนั้นเริ่มเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด
“นี่นาย อื้อ!”
“เงียบก่อนอย่าเสียงดังแล้วก็อย่าเพิ่งออกไป”
ฝ่ามือหนาเลื่อนมาจากด้านหลังปิดปากของฉันไว้แนบสนิทแถมยังถูกรั้งให้ไปชิดกับแผงอกของเขาที่เปลือยเปล่า ส่วนด้านล่างนั้นก็เป็นกางเกงขายาวใส่นอนแบบผู้ชายและข้างในนั้นก็คงไม่มีอะไรกั้นจนรู้สึกได้ว่ามันมีบางอย่างสัมผัสอยู่ที่สะโพกของฉัน เป็นความรู้สึกที่ทำให้ฉันหน้าร้อนวาบอย่างไม่มีสาเหตุ
ฉันยืนนิ่งตามคำขอร้องของเขา ซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากวัตถุประหลาดด้านหลังนั้นด้วย ก็รู้อยู่หรอกว่ามันคือตัวอะไรแต่คนที่ไม่เคยสัมผัสกับของจริงอย่างฉันมันรู้สึกแปลกจนตัวแข็งทื่อไปหมด
“ไปแล้ว”
“เกิดอะไรขึ้น” ฉันขยับหนีออกมาหนึ่งก้าว กัดริมฝีปากมองผู้ชายที่ทำหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เจ๋งทำท่าลังเลที่จะตอบเล็กน้อย เขาหันมามองหน้าฉันก่อนจะอธิบายสั้นๆ
“ก็อย่างที่ได้ยินนั่นแหละ”
“เขาด่านายไหมเมื่อกี้”
“ห้องข้างๆ มั้ง” เจ๋งตอบอย่างตัดรำคาญ
“ถ้ากวนประสาทแบบนี้ก็สมควรแล้วที่เขาจะไล่นาย ทำไมไม่ขอเขาดีๆ ล่ะ”
“ช่วงนี้ผมตกอับ ก็เลยไม่มีเงินจ่ายค่าหอมาหลายเดือน”
“นายก็เลยขอไปอยู่กับฉัน จะหนีออกไปเหรอ”
“อือฮึ ก็ผมช่วยพี่ นึกว่าพี่จะช่วยผมบ้าง”
ให้ตาย ผู้ชายคนนี้เป็นคนประเภทไหน ก็เข้าใจอยู่หรอกเรื่องที่เขาช่วยฉันไว้ แต่ตอบแทนด้วยการให้ไปอาศัยอยู่ด้วยกันมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ ในเมื่อฉันเป็นผู้หญิง ส่วนเขาก็ผู้ชาย...ทั้งแท่ง!
“เพื่อนไม่มีหรือไง”
“เพื่อนมีแต่มันพักกับแฟนหมดผมก็ไม่อยากไปขัดขวางความสุขใคร” เขาเดินกลับมานั่งปลายเตียงเมื่อเห็นว่าสถานการณ์มันเริ่มเปลี่ยน
ที่จริงจะไม่สนใจเลยก็ได้แต่การได้เจอเหตุการณ์เมื่อกี้ ได้ยินคำพูดคำด่าทุกคนแบบนั้นมันทำให้ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเอาเสียเลย ก็แอบสงสารเขาอยู่หรอก ฉันมันก็คนขี้สงสารอยู่ด้วย
“แล้วนายทำงานที่ร้านนั้นไม่ได้เงินจ่ายค่าหอเขาหรือไง ทำไมเขาถึงมาด่ากันขนาดนี้”
“ก็ได้ แต่ผมใช้หนี้ร้านยังไม่หมดเพราะเบิกเฮียเขาไปจ่ายค่าเทอมตัวเองกับน้อง ไหนจะค่าใช้จ่ายในแต่ละวันอีก” เขาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนจะถอนหายใจยาวๆ
“พ่อแม่ล่ะ”
“...ตาย” เจ๋งเงียบแต่เขาก็ไม่ได้ลังเลที่จะตอบ สีหน้าและแววตาของเขาแน่วแน่กับคำตอบนั้นมากและเรื่องแบบนี้เขาคงไม่โกหก
โอเค ชีวิตผู้ชายคนนี้มันโคตรน่าสงสารจนคนอย่างฉันไม่สามารถมองผ่านเลยไปและทำเป็นไม่สนใจได้ ให้ทานมาหมดทั้งคนทั้งหมา การเห็นผู้ชายร่างกำยำแถมยังหล่อฉิบหายกำลังลำบากแบบนี้ฉันก็คงต้องช่วยด้วยความ ‘จำใจ’
“แล้วฉันจะไว้ใจนายได้ไหม”
“มั่นใจได้ว่าผมไม่ทำมิดีมิร้ายกับพี่หรอก พี่ก็ไม่ได้สวยอะไรขนาดนั้นอย่าหลงตัวเอง”
ไอ้บ้านี่
ฉันจิปากอย่างนึกรำคาญ ถ้าปากหมาแบบนี้ควรตกอับไปเถอะ คงมีคนอยากช่วยหรอก
“เอาบัตรประชาชนมา แล้วช่วยบอกเหตุผลหน่อยว่าทำไมนายต้องไปขออาศัยอยู่กับฉัน ทำไมต้องฉัน”
“อย่างแรกเลยพี่ไม่ได้ชอบผม ถ้าอยู่กับพี่ผมปลอดภัยแน่นอน พี่คงไม่อ่อยหรือปล้ำผมหรอก ดูไปพี่ก็ผู้หญิงเรียบร้อย สองคือผมมีพระคุณกับพี่และสามพี่ไม่มีแฟน”
“รู้ได้ยังไงว่าฉันไม่มี”
“ดูก็รู้ว่าไม่มี เพื่อนก็ไม่น่ามี”
“ฉันมีเพื่อน!” ฉันกระแทกเสียงใส่เขาอย่างรำคาญใจ
“เพื่อนแบบเมื่อคืนหรือเปล่า ไม่น่าคบเลยสักคน นั่นคือเหตุผลว่าพี่ควร มีผู้ชายตัวโตอย่างผมอยู่ใกล้ๆ เผื่อว่าไอ้บ้านั่นมันจะกลับมาข่มขืนพี่”
เจ๋งอธิบายเหตุผลของตัวเองสามข้อที่มันควรเป็นเหตุผลสำหรับการตัดสินใจของฉัน แต่ทำไมคำพูดของเขามันถึงไม่น่าฟังนักล่ะ มันชวนให้อยากปฏิเสธ
“ฉันช่วยก็ได้ แต่บอกก่อนว่าฉันมีข้อมูลของนายแล้ว ถ้าทำอะไรให้ฉันเดือดร้อนฉันแจ้งจับนายแน่ๆ”
เขาไหวไหล่แล้วเดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้าของตัวเองยัดใส่กระเป๋าใบใหญ่ พูดตอนนี้เขาก็เก็บมันตอนนี้เลย ไม่หยุดคิดอะไรสักนิด
“พี่นั่งรอก่อน เดี๋ยวผมขอเก็บของครึ่งชั่วโมง”
“แล้วนายจะออกไปจากห้องยังไง ป้าเจ้าของหอไม่ดักตีหัวนายเหรอ ค่าหอก็ไม่จ่ายเขา”
“ก็หนีออกไป”
“ฉันให้ยืมจ่ายเอาไหม นายก็ไม่ต้องย้ายออก”
ทำงานมาสามปีฉันก็พอมีเงินเก็บอยู่หรอก หนี้สินก็มีแต่จ่ายไหว เพราะมีแค่หนี้ที่กู้มาซื้อคอนโดเท่านั้นส่วนรถนั้นมันมือสอง ฉันซื้อเงินสดที่เก็บมาตั้งแต่สมัยเรียน จากการทำงานถ่ายแบบสินค้า รับจ้างไลฟ์สดให้รานเสื้อผ้ากับเงินที่พ่อแม่ให้ไว้หลายโอกาส
พ่อกับแม่เลิกกันตั้งแต่ตอนที่ฉันยังเล็ก พ่อย้ายไปอยู่บ้านย่าทำธุรกิจที่พักและแหล่งท่องเที่ยว ส่วนแม่แต่งงานใหม่มีลูกชายกับสามีใหม่อีกคนก็คือธันวาน้องชายของฉัน พ่อเลี้ยงเป็นข้าราชการเพิ่งเกษียณไปเมื่อสองปีที่แล้ว แม่ก็เปิดร้านขายสังฆภัณฑ์
ฉันถึงไม่ต้องลำบากอะไรเพราะทั้งพ่อและแม่ให้เงินไว้ใช้ตลอด แต่ก็พอเข้าใจความลำบากของผู้ชายคนนี้อยู่บ้างเพราะพื้นฐานชีวิตครอบครัวคนเรามันไม่ได้เหมือนกันทุกคน ยิ่งพ่อแม่มาตายจากกันไปตอนที่ยังเรียนไม่จบ น้อยคนนักที่จะรอดอยู่เรียนจนจบแบบเขาได้
“ไม่ อีกเดือนผมก็เรียนจบ แล้วก็ไม่อยากทะเลาะกับป้านี่แล้ว เขาด่าผมเหมือนหมูเหมือนหมาพี่ไม่ได้ยินหรือไง”
“ก็เพราะว่านายไม่ยอมจ่ายเขา”
“ผมขอเขาแล้วว่าผมกำลังลำบาก ขอค้างสี่เดือนเพื่อที่จะจ่ายหนี้ให้ร้านครบถึงจะมาจ่ายค่าหอแต่แกไม่ยอมให้ แต่ก็เข้าใจแกนะ ไม่ใช่ลูกใช่หลานแก แกคงไม่ใจดีขนาดนั้น”
--------------
อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจเจ๋งนะคะ บอกเลย
เจ๋งพยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วเขาก็หลบไปนั่งโซฟา ที่ของตัวเองก่อนจะหยิบกีตาร์ตัวหนึ่งที่เขาพกมาด้วยนั้นมาเล่น ทำให้ห้องที่เคยเงียบสงบในเวลานี้มีเสียงเพลงเพราะๆ จากเขาดังประกอบขึ้นมาฉันเดินไปเปิดแอร์ให้เจ๋งก่อนจะเอาเสื้อผ้าของตัวเองไปจัดการหลังจากนั้นก็กลับมานอนเล่นอยู่บนเตียงที่มีกระจกกั้นกับด้านนอกที่เจ๋งนั่งอยู่ นอนฟังเขาเล่นเพลงพลางเล่นมือถือดูอะไรเรื่อยเปื่อย ยอมรับเลยว่าเสียงของเขาเพราะมาก ทำให้ฉันคิดว่านี่เป็นข้อดีอย่างหนึ่งที่พาผู้ชายคนนี้มาอาศัยอยู่ด้วย มีคนร้องเพลงให้ฟัง“รบกวนพี่หรือเปล่า”“ไม่ มีคนร้องเพลงให้ฟังก็ดี” ฉันบอกแล้วยิ้มก่อนจะปล่อยมือถือวางข้างหมอนแล้วขยับแขนมาหนุนนอนมองนักร้องที่เริ่มร้องเพลงต่อฉันเปิดอ่านข้อความของพี่ออย รุ่นพี่ในที่ทำงานที่ส่งมาให้ตั้งแต่เมื่อคืนถามว่ากลับถึงห้องหรือยัง แล้วฉันก็ตอบกลับข้อความนั้นไปแล้วทั้งที่จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตอบมันไปตอนไหนมีนา : เมื่อคืนหนูกลับยังไงอะพี่ เมาจนจำไม่ได้เลยออย : ยายคนนี้ ก็เราแยกกันที่ร้าน มีนาบอกพี่ว่าจะเรียกแท็กซี่ไงฉันปวดขมับเพราะคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก เหมือนภาพเหตุการณ์เหล่านั้นมันไม่เคยเกิดขึ้นเลย แล้วใคร
ฉันนั่งฟังเจ๋งพูดไปน้ำเสียงของเขามันแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ฉันไม่แน่ใจว่ามันคือความโกรธหรือความน้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง“ถ้าลำบากขนาดนี้ แล้วก่อนหน้านี้นายใช้ชีวิตยังไง”“พ่อแม่ผมเสียไปตอนปีสอง อยู่ได้เพราะเงินเก็บที่พวกเขาเคยให้กับงานพิเศษ แต่ติดปัญหาตรงที่น้องผมมันต้องเข้ามหาลัย ค่าใช้จ่ายก็เลยเยอะขึ้น”“ออ แล้วทำไมนายไม่ไปอยู่กับน้อง”“น้องเรียนที่อื่น ต่างจังหวัด สอบชิงทุนได้แต่ก็ต้องใช้เงินอยู่ดี คิดว่าเดี๋ยวก็เรียนจบพอมีงานทำก็ส่งมันเรียนต่อ”ฉันพยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วก็เงียบไป ตบตีกับความคิดของตัวเองที่กำลังเถียงกันอยู่ว่าตอนนี้ฉันตัดสินใจถูกหรือเปล่าที่จะพาผู้ชายตัวสูงกว่าและร่างใหญ่กว่าคนนี้ไปอาศัยอยู่ห้องตัวเองถ้าเขาจะทำอะไรขึ้นมา มือเดียวก็ยังได้เลย“พี่กลัวผมหรือเปล่า”“ก็มีนิดหน่อย มันแปลกๆ นายน่าจะมีเพื่อนหรือคนที่สนิทกว่าฉัน” ที่เป็นแค่พี่สาวเพื่อน“เพื่อนสนิทก็มีไอ้ธันไง ส่วนเพื่อนในมหาลัยมันติดแฟน ที่ไม่สนิทผมก็เกรงใจ”“แต่นายไม่เกรงใจฉัน?”“เพราะว่าพี่ติดหนี้บุญคุณผมไง แล้วเราก็คนบ้านเดียวกัน”บ้านเดียวกันกับผีนะสิ แค่อยู่จังหวัดเดียวกันเขาอยู่อำเภอไหนฉันยังไ
ตอนที่ 2 ผู้มีพระคุณ“เปิดประตู! ไหนบอกว่าจะจ่ายค่าห้องแล้วขนของออกไปไง นึกว่าตายไปแล้ว ยังแอบมานอนสบายใจที่นี่อีกเหรอ ไม่มีปัญญาจ่ายค่าห้องก็ออกไปเลย เก็บของออกไปเลยก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน!”“...” ฉันยืนนิ่งหันไปมองเจ้าของห้องแต่เขากลับไม่มีทีท่าตกใจอะไรเลยแล้วเสียงด้านนอกก็ดังขึ้นอีก“ไม่มีเงินแล้วยังกล้าพาสาวมานอนกกในห้อง! ใครมันโง่เอามาเป็นแฟนกันหา! ถ้ามีเงินเลี้ยงผู้หญิงก็มาจ่ายค่าห้องด้วย #$@#&”เสียงจากผู้หญิงมีอายุคนหนึ่งดังเล็ดลอดเข้ามาในห้องจนเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น มนุษย์ป้าด้านนอกนี้ด่าหมด ด่ามาทุกคำที่คิดได้ แล้วแต่ละคำก็หยาบคายทั้งนั้น จนฉันนั้นเริ่มเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด“นี่นาย อื้อ!”“เงียบก่อนอย่าเสียงดังแล้วก็อย่าเพิ่งออกไป”ฝ่ามือหนาเลื่อนมาจากด้านหลังปิดปากของฉันไว้แนบสนิทแถมยังถูกรั้งให้ไปชิดกับแผงอกของเขาที่เปลือยเปล่า ส่วนด้านล่างนั้นก็เป็นกางเกงขายาวใส่นอนแบบผู้ชายและข้างในนั้นก็คงไม่มีอะไรกั้นจนรู้สึกได้ว่ามันมีบางอย่างสัมผัสอยู่ที่สะโพกของฉัน เป็นความรู้สึกที่ทำให้ฉันหน้าร้อนวาบอย่างไม่มีสาเหตุฉันยืนนิ่งตามคำขอร้องของเขา ซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากวัตถุ
ถ้าจำไม่ผิดฉันดื่มไปราวสี่ถึงห้าแก้ว โดยปกติแล้วไม่น่าจะเมาได้ ถ้าถึงกับไม่ได้สติขนาดนั้นสิ่งที่ผู้ชายคนนี้พูดอาจจะเป็นเรื่องจริงแต่ฉันก็ไม่สามารถปักใจเชื่อเขาได้ ก็เพราะว่าเขาเป็นคนแปลกหน้าก็จริงอยู่ที่ว่าเขาเป็นเพื่อนของน้องชายแต่ฉันก็จำเขาไม่ได้อยู่ดี“แล้วใครทำ นายรู้ไหม”“ไม่รู้ แต่ก็คงเป็นหนึ่งในห้าคนนั้น มีใครชอบหรือไม่ชอบพี่ไหมล่ะ”ฉันเงียบแล้วคิดตามที่เขาถาม พี่ออย พี่เจนนี่คงไม่ใช่เพราะพวกเธอก็เป็นผู้หญิงด้วยกัน ส่วนพี่แม็กก็มากับแฟนเขาจะมอมฉันทำไม พี่โอ๊ตก็มีแฟนแล้ว คนสุดท้ายคือพี่ต้า หัวหน้าในที่ทำงานเพิ่งเลิกกับแฟน แต่เวลาอยู่ในที่ทำงานเขาก็ไม่ได้ทำตัวน่าสงสัยอะไรเลย“ไม่น่าใช่...”คำพูดของฉันหยุดอยู่แค่นั้นเพราะมันมีภาพบางอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืนลอยเข้ามา ถ้าจำไม่ผิดตอนที่นั่งดื่มอยู่นั้นฉันรู้สึกได้ว่าสายตาของพี่ต้ามันแปลกไป เขามองฉันตลอด ตอนแรกฉันคิดว่าเขาอาจจะเมาหรือจะเป็นเขา“ทำไม ถ้าไม่ใช่พวกนั้น คิดว่าเป็นใคร” เขายืนกอดอกถาม ทำอย่างกับครูที่ยืนเค้นเอาคำตอบกับนักเรียนอยู่หน้าห้อง ส่วนฉันก็เป็นเด็กโง่ๆ ที่ไม่มีความรู้อยู่ในหัวเลย“ฉันไม่รู้” ฉันตอบไปแบบคนโง่ที่นึกอ
ตอนที่ 1 ขอความช่วยเหลือ“กรี้ด!!”“ไอ้เหี้ย! อะไรวะ”ฉันมองทุกอย่างตรงหน้าด้วยความตกตะลึง หัวใจเต้นโครมครามอย่างกับคนบ้า คิดทบทวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วกลับมองไม่เห็นภาพอะไรเลยนอกจากภาพของตัวเองที่นั่งดื่มอยู่กับรุ่นพี่ที่ทำงาน แล้วหลังจากนั้นภาพมันก็เริ่มพร่าเลือนจนกลายเป็นมองไม่เห็นแต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า...การที่ฉันลืมตาตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนกับผู้ชายคนหนึ่ง ถึงจะหน้าตาดีมากแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรตื่นเต้นดีใจ เพราะเขาเป็นใครก็ไม่รู้!สภาพของคนข้างๆ นอนเปลือยท่อนบน ขนาดตอนนอนหลับยังหล่อวัวตายควายล้มอย่างกับพระเอกในซีรีส์ตอนเปิดฉากขึ้นมายามเช้าตรู่โอเค ฉันควรพับเรื่องที่เขาหน้าตาดีเอาไว้ กลับมาสนใจว่าตอนนี้ฉันกำลังเจอกับเรื่องอะไรไรกันแน่เมื่อคืนฉันไม่ได้เมามากก่อนที่ภาพจะตัดไปและความเป็นไปได้ที่จะหิ้วผู้ชายมาปู้ยี่ปู้ยำกันแบบนี้ก็น้อยมาก เพราะตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยทำเรื่องเหลวไหลแบบนั้น คนอย่างมีนาต้องนอนกับผู้ชายที่เรียกว่าสามีเท่านั้น แล้วไอ้สามีที่ว่านั่นก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีมาให้เห็นสักที จนใครก็หาว่าฉันนั้นมันเลือกเยอะเลือกมากจนอาจจะต้องขึ้นคานทอ







