Home / วาย / เพชฌฆาตฟันน้ำนม (Omegaverse) / บทที่ 3 เจ้านายกับคุณลุงใจร้าย

Share

บทที่ 3 เจ้านายกับคุณลุงใจร้าย

last update Last Updated: 2025-11-11 10:52:19

บทที่

3

เจ้านายกับคุณลุงใจร้าย

หลังจากที่จัดการทุกอย่างจนแล้วเสร็จ ไอดินก็พาเจ้าตัวแสบของบ้านเดินทางไปห้างสรรพสินค้าซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองใหญ่

โดยที่สรรพสินค้าแห่งนี้ เป็นห้างเปิดใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จได้เพียงไม่นาน จึงทำให้ในเวลานี้มีผู้คนทยอยมาใช้บริการอยู่ไม่มาก แต่ก็มีอย่างไม่ขาดสาย และมันก็เป็นครั้งที่สองที่ไอดินพาเจ้านายเหยียบย่างเข้ามา

พอเดินทางมาถึงเจ้านายก็แหงนหน้ามองอาคารหลังใหญ่ จู่ๆ ภายในหัวก็พลันมีข้อมูลมากมายหลั่งไหลเข้ามา จึงทำให้เขารู้ว่าห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เป็นห้างห้างหนึ่งในเครือของตระกูล อัครพิทักษ์ นามสกุลเดียวกันกับเจ้าขุนอดีตคนรักของไอดิน

ส่งผลให้เขาอดไม่ได้ที่จะกลอกตาไปมาอย่างใช้ความคิดอยู่ครู่ใหญ่ แล้วเหลียวหน้าเงยมองอาคารตรงหน้าด้วยสีหน้าตื่นตกใจ ก่อนจะพึมพำออกอยู่ในใจว่า ห้างนี้เนี่ยนะ คิดเพียงแค่นั้นเขาก็เหลียวหน้าหันไปมองไอดินอีกที แม่รู้เรื่องนี้หรือเปล่าว่าห้างห้างนี้เป็นห้างของคนพวกนั้น

จึงทำให้คนข้างกายอย่างไอดินที่ได้เห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของเจ้านาย คิดไปเองว่าบุตรชายของตัวเองนั้นมีอาการประหลาดใจที่เห็นอาคารหลังใหญ่

เขาที่ได้เห็นท่าทางเช่นนั้นของอีกฝ่าย ก็อดไม่ได้ที่จะลอบยิ้มขำ แล้วถามออกไปว่า “อะไรกันครับ เจ้านาย เจ้านายลืมไปแล้วเหรอว่าที่นี่คือที่ไหน”

สิ้นเสียงดังกล่าวเจ้านายคิดอยู่ในใจ ถึงจะเป็นห้างของตระกูลคนคนนั้น แต่โลกคงไม่กลมจนทำให้คนสองคนโคจรมาเจอกันในที่ห่างไกลแบบนี้หรอกมั้ง

ก่อนเจ้าตัวจะส่ายศีรษะเล็กน้อย แล้วตอบกลับไปว่า “ไม่ไม่ นายนายไม่ยืม” ว่าจบเขาก็ยกนิ้วชี้ของตัวเองชี้เข้าไปในอาคารหลังใหญ่ “ดินดินเจย...เจยพานายนาย...ซื้อ...เล่น นายนายไม่ยืม (ดินดินเคยพานายนายมาของซื่อเล่นนายนายไม่ลืม)” 

พูดได้เพียงแค่นั้นเจ้านายก็อดไม่ได้ที่จะคิ้วกระตุกอยู่หลายที ที่คำพูดคำจาของเขานั้นติดๆ ขัดๆ จนฟังไม่ออกว่าพูดอะไร  แล้วอดไม่ได้ที่จะสบถอยู่ในใจว่า ‘ที่โลกเก่าเราอายุสิบเก้าแล้วนะ ทำไมถึงยังพูดไม่ชัดอีก’

ก่อนจะเหลียวหน้ามองใบหน้าของคนที่อุ้มตัวเองเอาไว้ ก็เห็นอีกฝ่ายระบายรอยยิ้มอยู่เกลื่อนใบหน้า

จึงทำให้เขาที่ไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากคำว่าครอบครัวมาก่อนรู้สึกสบายใจจนเผยรอยยิ้มออกมา เจ้านายจึงเผลอยื่นมืออ้วนๆ ป้อมๆ ของตัวเองไปจับผิวแก้มของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา

พร้อมกับพึมพำอยู่ในใจว่า ‘เจ้านายแกมาเกิดใหม่แล้ว ไม่ได้เป็นนักฆ่าเหมือนสมัยก่อนแล้ว แกคือลูกชายของเขา เขาเป็นครอบครัวคนเดียวของแก ที่แกต้องปกป้องไม่ใช่หรือไง แค่พูดไม่ชัดพูดไม่เป็นคำก็เพราะว่าตอนนี้แกยังเด็กเกินไปเท่านั้นเอง

คิดมาถึงตรงนี้นายจึงระบายยิ้มน้อยๆ ออกมา ก่อนจะพูดออกไปอีกทีว่า “ดินดินอย่ายืมซื้อเย่นให้นายนายนะ นายนายชอบของเย่น (ดินดินอย่าลืมซื่อของเล่นให้นายนายนะนายนายชอบของเล่น)”

ส่งผลให้ไอดินที่ได้ยินดังนั้นเผยรอยยิ้มบางออกมา ก่อนจะพยักหน้าลงเล็กน้อย แล้วพูดออกไปว่า “ได้สิถ้าเจ้านายไม่ดื้อไม่ซนไม่วิ่งไปเรื่อย หม่าม๊าจะซื้อของเล่นให้นะครับ”

เจ้านายจึงพยักหน้าลงไปเป็นคำตอบกลับไป ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงแข็งขันว่า “ฮับ...นายนายจะไม่ดื้อ นายนายจะไม่จน”

สิ้นเสียงดังกล่าวไอดินที่ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ก็เหลียวหน้าหันไปมองห้างสรรพสินค้าที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า แล้วชักสายตาหันกลับมามองบุตรชายของตัวเองอีกที “แล้วเจ้านายอยากได้อะไรล่ะครับ”

เจ้านายจึงยกนิ้วอ้วนๆ ป้อมๆ ของตัวเองชี้ไปด้านในอาคารหลังใหญ่ พร้อมกับพูดออกไปว่า “เต้าไปดูก่อนฮับ อยู่ตรงนี้ (เข้าไปดูก่อนครับ อยู่ตรงนี้)” ก่อนจะส่ายศีรษะไปมาเล็กน้อย แล้วพูดออกไปอีกทีว่า “นายนาย...เลือกมะถูก (นายนายเลือกไม่ถูก)”

หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของเด็กน้อยที่ตัวเองอุ้มเอาไว้ ไอดินก็เหลียวหน้าหันไปมองอาคารหลังใหญ่อีกที

โดยที่ถึงแม้ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เพิ่งสร้างเสร็จได้เพียงไม่นาน แต่ก็มีเจ้าของกิจการต่างๆ มาตั้งร้านรวงแทบจะทันที อีกทั้งยังได้รับความนิยมจากผู้คนอยู่มาก

พอเห็นท่าทางดีอกดีใจของผู้เป็นบุตรชายที่แสดงออกมา ชายหนุ่มก็สาวเท้าเดินเข้าไปด้านในอาคารหลังใหญ่นี้อย่างรวดเร็ว

พอเข้ามาด้านในได้ไอดินเข็นรถเข็นคันหนึ่งโดยให้เจ้านายยืนอยู่บนรถเข็นเพื่อจะได้จับจ่ายใช้สอยได้ง่ายขึ้น สองแม่ลูกซื้อของใช้จำเป็น โดยมีเสียงหัวเราะของเจ้านายดังให้ได้ยินยามที่ไอดินคุยเล่นกับอีกฝ่าย

แต่แล้วในระหว่างที่ไอดินกำลังเลือกซื้อขนมปังแถวหนึ่งอยู่นั้น เพื่อนำมาทำแซนด์วิชให้กับเจ้านาย ก็มีเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นมาไม่ได้ยินอยู่ไม่ห่าง “นี่นายน่ะ”

ส่งผลให้ไอดินก็เหลียวหน้าหันไปมองคนพูดทันใด พอหันไปก็เห็นว่าคนที่พูดเมื่อครู่นี้เป็นโอเมก้าคนหนึ่ง ที่มีรูปร่างและหน้าตาที่เขารู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง แต่เป็นเพราะอีกฝ่ายสวมหน้ากากอนามัยเอาไว้จึงทำให้เขาคิดไม่ออกว่าคนคนนี้คือผู้ใด 

แม้อีกฝ่ายจะจ้องมองมาอย่างไม่พอใจ แต่ไอดินที่เห็นเช่นนั้นก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดคนคนนี้ ถึงได้ตั้งแง่เป็นอริกับตน ก่อนจะถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างสุภาพ ทั้งๆ ที่ยังรู้สึกมึนงงอยู่ว่า “คุณเรียกผมเหรอครับ”

สิ้นเสียงดังกล่าวชายหนุ่มตรงหน้าก็พูดขึ้นมาว่า “ถ้าไม่เรียกนายแล้วจะให้ไปเรียกแมวแถวนี้หรือไง นายไม่มีตาหรือไงว่าที่ยืนอยู่ตรงนี้มีใครบ้างนอกจากนาย”

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย ไอดินก็เหลียวมองรอบกายของตัวเองอีกที ก่อนจะหันหน้ากลับมา แล้วพยักหน้าขึ้นลงอย่างเข้าใจ พร้อมกับครางเสียงเบาออกมาว่า “อ้อ” ว่าจบเขาก็ถามกลับไปว่า “แล้วคุณเรียกผมมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”

ก่อนจะมีเสียงของชายหนุ่มดังให้ได้ยินว่า “ก็จะอะไรซะอีกล่ะ นายดูแลลูกของนายหน่อยสิ อย่าให้ส่งเสียงดังให้มันมากนัก ไม่เห็นหรือไงว่าคนอื่นเขารำคาญ”

ส่งผลให้ไอดินที่ได้ยินคำพูดดังกล่าว ก็อดไม่ได้ที่จะกวาดตามองไปมารอบๆ กายของตัวเองอีกที ก็เห็นว่ารอบๆ กายของเขานั้นนี้แทบไม่มีใครสนใจพวกเขาเลยสักคน

แต่เป็นเพราะเสียงดังของคนตรงหน้า เพียงเดี๋ยวเดียวก็ทำให้ผู้คนเริ่มเหลียวหน้าหันมามองด้วยสายตาฉงนปนสงสัย

เขาจึงชักสายตาคืนกลับไปมองใบหน้าของคู่สนทนาทันใด แล้วพูดออกไปอย่างสุภาพว่า “ต้องขอโทษด้วยครับ” ก่อนจะหันหน้าไปพูดกับคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบุตรชาย “เจ้านายเดี๋ยวเราพูดเบาๆ หน่อยนะครับ เห็นไหมคนเขารำคาญพวกเราแล้ว” 

ได้ยินเช่นนั้นเจ้านายจึงเหลียวหน้าหันไปมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาไม่ชอบใจ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้คิดที่จะใส่ใจอะไรมากสักเท่าไร ก่อนจะหันหน้ากลับมามองใบหน้าของผู้เป็นมารดาแล้วพยักหน้าลง พร้อมกับพูดออกไปว่า “ได้ฮับ นายนายจะไม่พูดเจียงดัง”

สิ้นเสียงดังกล่าวไอดินก็ยกมือขึ้นลูบศีรษะของอีกฝ่าย พร้อมกับพูดออกไปด้วยรอยยิ้มว่า “ดีมากครับ เจ้านายของหม่าม๊าเป็นเด็กดีที่สุดเลย” ว่าจบเจ้าตัวก็เหลียวหน้าหันไปมองใบหน้าของคู่กรณีอีกที แล้วชักสายตาคืนกลับมาพร้อมกับพูดกับบุตรชายของตัวเองว่า “เอาล่ะในเมื่อรู้แล้วก็ขอโทษคุณน้าเขาสิลูก”

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของผู้เป็นมารดา แม้จะไม่ชอบใจแต่เขาก็ไม่อยากให้ไอดินมีเรื่องกับคนคนนี้ เจ้านายจึงพยักหน้าลงเป็นคำตอบกลับไป ก่อนจะหันหน้าไปมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ไกล แล้วก้มศีรษะลงเล็กน้อยพร้อมกับพูดออกไปว่า “นายนายขอโต๊ดฮับ”

พอเห็นว่าเด็กน้อยยอมก้มหัวขอโทษแต่โดยดี ชายหนุ่มก็สะบัดหน้าหนี แล้วแค่นเสียงในลำคอดัง เฮอะ ออกมา พร้อมกับสบถเสียงดังให้ได้ยินว่า “พวกโอเมก้าชั้นต่ำ ไม่ยอมสอนลูกสอนหลานของตัวเองให้ดี แล้วยังกล้ามาเดินเพ่นพ่านในที่สาธารณะอีก”

ได้ยินดังนั้นไอ้ดินก็ยิ้มเจื้อนแล้วเหลียวหน้าหันไปมองเด็กชายตัวน้อยที่อยู่ข้างกาย ก่อนจะยกมือลูบศีรษะของอีกฝ่ายเพื่อปลอบประโลมสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่นี้

แต่ดูเหมือนเจ้านายที่เห็นผู้เป็นมารดาถูกคนนิสัยไม่ดีรังแก คนอย่างเจ้านายที่ไม่ชอบให้ใครมาดูถูกดูแคลนสักเท่าไร มิหนำซ้ำคนคนนี้ยังเป็นแม่ที่เขาต้องทำภารกิจภารกิจปกป้องดูแลให้ดี เพื่อให้เขาได้มีชีวิตที่ยืนยาวต่อไป

เจ้านายจึงโพล่งเสียงดังออกไปทันทีว่า “อย่าว่าดินดินของนายนายนะ จนบ้า”

ส่งผลให้ไอดินรีบปรามเจ้านายเสียงดุออกไป “เดี๋ยวเถอะไม่ดีนะครับ ห้ามพูดแบบนี้นะ”

ทว่าไอดินพูดออกมาได้เพียงแค่นั้น ก็มีเสียงของคนที่อยู่ไม่ไกลดังขึ้นมาว่า “แกว่าไงนะ” เพราะดูเหมือนคำพูดของเจ้านายจะถูกส่งไปถึงหูของอีกฝ่าย

จึงทำให้ชายหนุ่มเหลียวหน้าหันกลับมามองเด็กน้อยที่ยืนอยู่ไม่ไกล พร้อมกับพูดเสียงเย็นออกมาอีกครั้งว่า “เมื่อกี้แกว่าไงนะไอ้เด็กเปรต” ก่อนเจ้าตัวจะสาวเท้าเข้าไปหาเด็กชายตัวเล็กที่ยืนอยู่บนรถเข็นด้วยท่าทางที่ไม่พอใจ

พอเห็นเช่นนั้นไอดินซึ่งสาวเท้าเดินมาบังลูกชายของตัวเองเอาไว้ แล้วพูดออกไปว่า “คุณกำลังจะทำอะไรน่ะ” ก่อนจะใช้มืออีกข้างโอบกอดเด็กชายตัวน้อยไว้ในอ้อมอกด้วยสีหน้าหวาดหวั่น

ชายหนุ่มจึงพูดเสียงดังใส่ “แกก็ถามลูกแกดูสิว่ามันพูดอะไรกับฉัน” 

เจ้านายที่เห็นเช่นนั้นจึงตวาดออกมาอีกทีว่า “นายนาย...ว่า...ว่า....ยุง...เป็น เป็น...จนบ้า จน...สัยม่ายดี (นายนายว่าคุณลุงเป็นคนบ้าคนนิสัยไม่ดี)”

ไอดินจึงรีบปรามลูกชายของตัวเองอีกทีว่า “ไม่เอานะครับเจ้านายไม่พูดไม่เพราะแบบนี้ หม่าม๊าสอนแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าเวลาพูดกับผู้ใหญ่ให้พูดดีๆ”

ก่อนจะมีเสียงของเจ้านายสวนขึ้นมาทันทีว่า “นาย...นาย” พร้อมกับส่ายศีรษะไปมาอย่างจ้าละหวั่น แล้วพูดออกมาอีกครั้งว่า “มะ...ไม่...ชอบยุงจนนี้ ยุงจนนี้ใจย้าย (ไม่ชอบลุงคนนี้ ลุงคนนี้ใจร้าย)”

ส่งผลให้ชายหนุ่มที่ได้ยินเสียงของเจ้านาย ถึงกับฟิวส์ขาดแบบทันทีทันใด แล้วโพล่งเสียงดังอย่างไม่พอใจว่า “ไอ้เด็กบ้า นี่” ก่อนจะถลาเข้าไปหาเด็กน้อยตรงหน้าอย่างไม่สนหน้าใครที่ไหน “วันนี้ขอจัดการเด็กปากเสียอย่างแกหน่อยเถอะ”

พอเห็นว่าคนคนนี้จะเข้ามาทำร้ายบุตรชาย ไอดินก็คว้าร่างของอีกฝ่ายเอาไว้ “คุณจะทำอะไรลูกผม” แล้วพยายามยื้อร่างที่สูงกว่าตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย

จึงทำให้ชายหนุ่มเหลียวหน้าหันมามองไอดินอยากไม่ชอบใจ ก่อนเจ้าตัวจะพยักหน้าขึ้นลง แล้วแค่นเสียงเย็นออกไปว่า “ทำอะไรอย่างนั้นเหรอ” ว่าจบยกมือขึ้นเพื่อหมายจะจัดการกับคนคนนี้ให้พ้นทางไป

ทว่าในขณะที่ชายหนุ่มแปลกหน้ากำลังจะเงื้อมมือฟาดฝ่ามือลงไปบนผิวหน้าของไอดินอยู่นั้นเอง จู่ๆ ก็มีเสียงที่แสนคุ้นเคยของใครบางคนดังให้ได้ยินอยู่ไม่ไกล

“นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกัน” ก่อนเจ้าของเสียงนั้นจะเข็นรถเข็นเดินเข้ามา 

ส่งผลให้ไอดินที่เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายถึงกับเบิกตากว้างอยู่ตกใจ เขารีบสะบัดมือแล้วผลักร่างของชายตรงหน้าให้ถอยออกไป เพื่อหมายจะหมุนกายแล้วพาลูกน้อยที่ยืนอยู่ในรถเข็นหนีออกไปจากจุดนี้อย่างจ้าล่ะหวั่น

แต่ดูเหมือนเรี่ยวแรงของชายหนุ่มคนนี้จะมีมากกว่าไอดินอยู่หลายส่วน จึงทำให้เขาไม่สามารถสะบัดร่างของคนคนนี้ให้ถอยออกไปได้อย่างที่ใจต้องการ พร้อมกับเสียงของอีกฝ่ายที่พูดขึ้นมาว่า “ฉันไม่อนุญาตให้นายไป นายก็ไม่มีสิทธิ์จะไปไหนทั้งนั้น”

จึงทำให้ไอดินยิ่งพยายามดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากพันธนาการนี้ไปอย่างเอาเป็นเอาตาย และยังไม่ทันที่ไอดินจะได้จัดการอะไรต่อ คนจับตัวเขาไว้พูดขึ้นมาอีกทีว่า “ก็จะอะไรซะอีกล่ะครับ ไอ้เด็กเปรตนี่มันมาว่าต้า ว่าต้าว่าเป็นคนบ้า พี่ขุนต้องจัดการมันให้ผมด้วยนะครับ”

ได้ยินเช่นนั้นเจ้าขุนก็เหลียวหน้าหันไปมองใบหน้าของคู่กรณีของคนรักตัวเองด้วยสายตาไม่ชอบใจ แต่สิ่งที่เห็นทำให้เขาต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจ และเขาตกใจยิ่งกว่าคือเด็กน้อยที่ยืนอยู่ในรถเข็นที่ดูก็รู้ว่าเป็นลูกของอีกฝ่าย 

ความรู้สึกหวงแหนอย่างแรงกล้าก่อตัวขึ้นมาทันใด ก่อนตัวเองจะสบถออกมาอย่างไม่พอใจว่า “กล้าที่จะมีคนอื่นนอกจากฉันอย่างนั้นเหรอ”

พอถูกจ้องมองมาไอดินก็รีบก้มหน้าลง แล้วพยายามจะดึงแขนที่ถูกคนตรงหน้าดึงเอาไว้คืนกลับมา พร้อมกับพูดออกไปว่า “ผมขอโทษด้วยครับ ต่อไปผมจะดูแลลูกให้ดีๆ ช่วยปล่อยผมสักทีเถอะ” 

แต่ดูเหมือนอิสรภาพที่เขาต้องการจะไม่ได้มาง่ายๆ ด้วยเช่นกัน เพราะนอกจากชายหนุ่มตรงหน้าจะไม่ยอมปล่อยเขาไปแล้ว เจ้าขุนอดีตที่แสนเจ็บปวดยังสาวเท้าเข้ามาจับหัวไหล่

จึงทำให้คนที่เห็นท่าทางของเจ้าขุนอย่างกีตาร์ มองเห็นเจ้าขุนก้าวขาเข้าไปหาโอเมก้าตรงหน้าด้วยท่าทางที่เดือดดาล เขาก็อดไม่ได้ที่จะขยับริมฝีปากยกขึ้นเล็กน้อยอย่างพอใจ แล้วพูดเสียงเย็นออกไปให้คนที่อยู่ไม่ไกลได้ยิน  “แกโดนดีแน่ไอ้โอเมก้าชั้นต่ำ” 

พูดได้เพียงแค่นั้นเจ้าขุนก็เหลียวหน้าหันไปมองกีตาร์ที่ยืนอยู่ข้ากัน แล้วพูดเสียงเรียบออกไปว่า “ถอยไปก่อนต้าพี่มีเรื่องจะคุยกับคนคนนี้ก่อน”

กีตาร์ที่ได้เห็นท่าทางเช่นนั้นของคนรัก ตอนแรกเขาก็ขยับยกริมฝีปากของตัวเองออกมาอย่างดีใจ แล้วยอมปล่อยมือจากอีกฝ่ายอย่างว่าง่ายในทันที

ทว่าเพียงเดี๋ยวเดียวเขาก็สังเกตเห็นใบหน้าของคนรักที่ดูยังไงก็เหมือนตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นตรงหน้ามากกว่าที่จะเข้ามาจัดการเรื่องของเขาให้

ภายในใจก็บังเกิดลางสังหรณ์บางอย่างที่ผุดขึ้นมาอย่างช้าๆ เขาจึงหันไปถลึงตาใส่ไอดินอย่างไม่ชอบใจ 

ส่งผลให้ไอดินที่ไม่อยากคุยกับคนตรงหน้านี้สักเท่าไร หันไปพูดกับคู่ขาของอีกฝ่ายว่า “แต่ผมไม่อยากคุยกับเขา คุณช่วยเอาแฟนของคุณไปไว้ที่อื่นที”

ชายหนุ่มที่ได้เห็นเช่นนั้นแม้จะไม่พอใจอีกฝ่าย แต่เพื่อต้องการแยกคนทั้งสองออกจากกัน เขาก็ไม่คิดที่จะให้คนทั้งคู่ได้คุยกันดีๆ ด้วยเช่นกัน

กีตาร์จึงยื่นมือไปคว้าท่อนแขนของคนรักตัวเองเอาไว้ แล้วพูดออกไปว่า “พี่ขุนถึงต้าจะไม่ชอบมัน ก็ไม่เห็นว่าพี่จะต้องทำกับมันถึงขนาดนี้เลยนี่ครับ แค่ไล่สองแม่ลูกคู่นี้ออกจากห้างของพี่ไปก็พอแล้วนี่ครับ” ว่าจบเขาก็หันไปถลึงตาใส่ไอดินอีกที แล้วขมุบขมิบปากเป็นคำพูดออกไปให้อีกฝ่ายได้เห็นว่า ‘รีบๆ ใส่หัวไปซะสิ...’

แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไร เจ้าขุนก็เหลียวหน้าหันไปมองใบหน้าของกีตาร์ด้วยสายตานิ่ง แล้วพูดเสียงเรียบออกมาว่า “ต้า...”

ส่งผลให้กีตาร์ที่ได้เห็นสายตาดังกล่าว ก็เกิดอาการหวาดหวั่นขึ้นมาทันที จนตัวเองต้องปล่อยมือทั้งสองข้างออกจากแขนของคนตรงหน้าแบบทันทีทันใด แล้วก้าวถอยหลังออกมาอย่างว่าง่ายโดยที่ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยคำใดออกมา

เมื่อไม่มีผู้ใดรั้งตัวเขาไว้ เจ้าขุนก็เหลียวหน้าหันไปมองไอดินอีกที ก่อนจะเผลอบีบฝ่ามือลงไปบนท่อนแขนของอีกฝ่ายอย่างเต็มกำลัง แล้วถามด้วยน้ำเสียงลอดไรฟันออกมาว่า “เด็กคนนี้ลูกใคร”

เจ้านายที่เห็นเช่นนั้น จึงร้องออกมาไม่พอใจเต็มที่ “ป่อยดินดิน จองนายนายนะ (ปล่อยดินดินของนายนายนะ)” แล้วเขย่งปลายเท้าพร้อมกับยื่นฝ่ามืออ้วนๆ ป้อมๆ ของตัวเอง ฟาดลงไปบนท่อนแขนของคนตรงหน้าอยู่หลายที

เพราะอย่างไรเสียภารกิจในชาตินี้ของเขาคือปกป้องคนคนนี้จนสุดความสามารถของตัวเองเช่นกัน 

จึงทำให้เจ้าขุนที่ถูกฝ่ามือเล็กๆ ของเด็กน้อยข้างกายตีลงมาอย่างเต็มกำลัง อดไม่ได้ที่จะเหลียวหน้าหันไปมองใบหน้ากลมๆ ของอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ พร้อมกับขู่ออกไปว่า “นี่เจ้าเด็กน้อย...ถ้ายังไม่เลิกวอแวอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”

แต่มีหรือคนอย่างเจ้านายจะยอมให้อีกฝ่ายมารังแกได้ง่ายๆ เขาจึงก้มลงไปคว้าเอาขวดนมที่กินหมดแล้วในกระเป๋าของใช้เด็กที่วางอยู่ในรถเข็นขึ้นมา แล้วเขวี้ยงใส่ปลายคางของเจ้าขุนอย่างแม่นยำ

พร้อมกับพูดออกไปว่า “นี่แหนะคุณยุงใจย้าย ยังแกดินดินจองนายนายหยอ (นี่แหนะคุณลุงใจร้ายรังแกดินดินของนายนายเหรอ)” 

ส่งผลให้เจ้าขุนที่ถูกขวดนมพิฆาตจากมืออ้วนๆ ป้อมๆ ปาใส่เต็มปลายคาง เขาก็ถึงกับเซถอยหลังไปอยู่หลายก้าวทันใด ฝ่ามือที่จับท่อนแขนของไอดินเอาไว้ก็จำต้องปล่อยอย่างไม่เต็มใจสักเท่าไร

ก่อนตัวเองจะยกมือขึ้นมากุมปลายคางที่ถูกขวดนมกระแทกใส่ แล้วจ้องมองใบหน้ากลมๆ ของเด็กน้อยตรงหน้าที่กำลังพยายามเชิดหน้า พร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากอดอกอย่างหมายมาด แต่ทำไม่ได้สักที

เจ้าขุนจ้องมองเด็กน้อยตรงหน้าได้เพียงครู่เดียว จู่ๆ ความรู้สึกบางอย่างในร่างกายก็แผ่ซ่านขึ้นมากลางใจ จนรู้สึกปวดร้าวก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายขึ้นมาเสียอย่างนั้น 

แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรต่อ กีตาร์คนรักของตัวเองก็รีบสาวเท้าเข้ามาใกล้ ก่อนชายหนุ่มจะยืนมือไปคว้าท่อนแขนของเขาเอาไว้

พร้อมกับกล่าวละล่ำละลักออกมาว่า “พี่ขุนเป็นอะไรไหมครับ” ว่าจบเจ้าตัวจะเหลียวหน้าหันไปมองใบหน้าของเด็กน้อยอย่างไม่พอใจ “เดี๋ยวเถอะไอ้เด็กเวรนี่” แล้วจะถลาเข้ามาหามายจะฟาดสักทีสองทีให้สาแก่ใจ

จึงทำให้ไอดินรีบก้าวขาเข้ามาปกป้องเด็กน้อยเอาไว้ พร้อมกับหันหน้าไปมองใบหน้าของคู่กรณีตรงหน้าด้วยสายตาแข็งกร้าวแบบไม่ยินยอม พร้อมกับพูดออกไปดังๆ ว่า “อย่านะ”

พอได้เห็นสายตาของไอดินที่ไม่ต่างจากแมวที่กำลังพองขนขึ้นมา เจ้าขุนก็ทอดถอนลมหายใจออกมา แล้วพูดออกไปว่า “ต้าพอเถอะคนมุงดูกันมากแล้ว”

สิ้นเสียงดังกล่าวกีตาร์ที่ได้ยินเช่นนั้น ก็เหลียวหน้าหันไปมองเจ้าขุนอย่างไม่เข้าใจก่อนตัวเองจะพูดออกไปว่า “แต่...”

แต่คำพูดก็ของเขาก็ถูกขัดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเข้มๆ ของอีกฝ่าย “ตาพี่พูดนี่ไม่เข้าใจหรือยังไง อย่าให้ต้องมาพูดซ้ำ”

ส่งผลให้คนที่ได้ยินคำพูดห้ามปรามของอีกฝ่ายทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอออกมาอย่างไม่พอใจ แล้วเหลียวหน้าหันไปพูดกับไอดินอีกที “วันนี้ถือว่าพวกแกโชคดี” ก่อนจะสะบัดหน้า แล้วสาวเท้าเข้าไปหาเจ้าขุนที่ยืนอยู่ไม่ไกล

พอเห็นว่าคนทั้งสองยอมปล่อยเขาออกมาอย่างง่ายๆ ไอ้ดินก็ไม่รอช้ารีบเข็นข้าวของไปยังเคาน์เตอร์คิดเงินตรงหน้า จากนั้นจึงรีบสาวเท้าเดินออกมาจากห้างสรรพสินค้านี้ราวกับถูกไล่ล่าจากสัตว์ร้าย

โดยที่ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ามีสายตาของเจ้าขุนมองไปจนสุดสายตา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เพชฌฆาตฟันน้ำนม (Omegaverse)   บทที่ 11 เจ้านายกับพี่ชายของหม่าม๊า

    บทที่11เจ้านายกับพี่ชายของหม่าม๊าท่ามกลางบรรยากาศอันแสนเย็นฉ่ำ ที่พ่นออกมาจากเครื่องปรับอากาศภายในห้องโถงใหญ่ แต่กลับไม่ช่วยให้อารมณ์ของหนึ่งเด็กสองผู้ใหญ่ที่อยู่ด้านใน เย็นตามอุณหภูมิภายในห้องนี้แต่อย่างใดนัยน์ตาสีเข้มบนใบหน้าน่ารักของไอดิน ยังคงจับจ้องมองใบหน้าสวยหวานของหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่วางตามือทั้งสองข้างยังคงกำหมัดแน่นอย่างไม่พอใจ ที่อีกฝ่ายพยายามเข้ามาทำร้ายลูกของตน แม้เจ้านายจะพูดไม่ดีใส่ แต่หญิงสาวตรงหน้าที่เป็นคนเริ่มก่อนก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันโดยที่ทางคู่กรณีนั้นก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกันสักเท่าไร เพราะหลังจากที่ได้ยินคำพูดของโอเมก้าแม่ลูกหนึ่งตวาดเสียงดังลั่นใส่อย่างไม่สนหน้าใครจึงทำให้หล่อนรู้สึกไม่พอใจจนอยากกระชากผมสีดำบนศีรษะของคู่กรณีออกมาสักหนึ่งกำให้สาแก่ใจอัลฟ่าหญิงที่ถูกอีกฝ่ายผลักอย่างเต็มแรง แต่ด้วยพละกำลังของโอเมก้าคนหนึ่ง จึงทำให้เธอไม่ได้เสียการทรงตัวมากมายสักเท่าไรพอตั้งหลักได้เจ้าหล่อนก็เงยหน้าขึ้นจับจ้องมองใบหน้าขาวซีดด้วยสายตาแข็งกร้าวทันใด ก่อนจะคำรามออกมาอย่างไม่พอใจว่า “แก...ไอโอ้เมก้าชั้นต่ำ”แล้วพุ่งเข้าไปหาโอเมก้าหนุ่มตรงหน้าโดยไม่สนใจผู้ใด เพราะ

  • เพชฌฆาตฟันน้ำนม (Omegaverse)   บทที่ 10 เจ้านายกับพี่สาวที่นิสัยไม่ดี

    บทที่10เจ้านายกับพี่สาวที่นิสัยไม่ดีสองวันผ่านไป...หลังจากที่ศศินและดีแลนเดินทางมาเยี่ยมไอดินและเจ้านายผู้เป็นบุตรชายถึงที่บ้าน เวลาก็ล่วงเลยพ้นผ่านมาแล้วถึงสองวันแต่ถึงกระนั้นไอดินก็ยังเอาแต่นั่งคิดไม่ตกอยู่ดี แม้หลายวันมานี้จะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ตามที แต่ลางสังหรณ์บางอย่างก็ยังคงร้องเตือนเขาอย่างไม่หยุดหย่อน ว่าในอีกไม่นานหลังจากนี้อาจมีเรื่องใหญ่ที่เขาไม่อาจรับมือได้เกิดขึ้นมาชายหนุ่มนั่งอยู่บนเก้าอี้มือทั้งสองข้างกำแน่นถูกวางเอาไว้บนโต๊ะไม้ตรงหน้า แล้วใช้ปลายเล็บของมือทั้งสองข้างสะกิดกันไปมาอย่างใช้ความคิดอย่างหนักแต่เพียงเดี๋ยวเดียวเขาก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ หนึ่งที ก่อนจะพูดพึมพำออกมาเบาๆ ว่า “เราไม่ได้ไปหาคนพวกนั้นซะหน่อยนี่ แกจะกลัวอะไรขนาดนั้น”ก่อนเจ้าตัวจะหยัดกายยืนขึ้น แล้วสาวเท้าเดินไปหาเจ้านาย ที่ยังนอนหลับขวดนมคาปากอยู่บนที่นอน พอได้เห็นเช่นนั้นริมฝีปากบางก็เผยรอยยิ้มออกมา ก่อนจะยื่นมือไปหยิบขวดขวดนมที่คาอยู่ในปากของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นบุตรชายออกมาอย่างเบามือ จากนั้นไอดินก็ดึงผ้าห่มที่ถูกถีบออกไปกองอยู่ปลายเท้า ขึ้นมาห่มร่างเล็กๆ ที่ยังคงนอนหลับตาอยู่บนเตียงกว

  • เพชฌฆาตฟันน้ำนม (Omegaverse)   บทที่ 9 น้องเจ้านายกับพี่ใต้หล้า

    บทที่9น้องเจ้านายกับพี่ใต้หล้าหลังจากที่ดีแลนจ้องมองดูบุตรชายของตัวเองได้เพียงไม่นาน ก็มีเสียงของไอดินดังขึ้นมาว่า “เอาล่ะ เอาล่ะ นี่ก็เลยเวลาเที่ยงมามากแล้ว พวกเรามากินข้าวกันเถอะ”ก่อนคนพูดจะเหลียวหน้าหันไปมองเจ้านายที่ยืนอยู่ไม่ไกล “ผัดคะน้าจานนี้มันหวานเกินไป ให้ลุงแดนกินมากๆ เดี๋ยวจะเป็นเบาหวานเอานะครับเข้าใจไหม”ส่งผลให้เด็กน้อยตรงหน้าที่ได้ยินเสียงของผู้เป็นมารดา อดไม่ได้ที่จะหลุบสายตามองผักคะน้าตรงหน้าที่ตัวเองอุตส่าห์ปรุงรสให้ใหม่อย่างแสนเสียดาย มองได้เพียงครู่เจ้านายที่ไม่อยากให้มารดาของตัวเองรู้สึกไม่ดีมากเกินไป จึงพยักหน้าลงอย่างว่าง่าย แล้วพูดออกไปอย่างใสซื่อว่า “ปัดจะน้าตานนี้ หวานหวานไป ยุงแดนตินไม่ได้หยอฮับ (ผัดคะน้าจานนี้ ลุงแดนกินไม่ได้เหรอครับ)”ไอดินจึงตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า “ลุงแดนกินไม่ได้ครับ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา” แล้วยื่นมือไปจับจานผัดคะน้า พร้อมกับพูดออกไปอีกทีว่า “หม่าม๊าขอผัดคะน้านี้มาได้ไหมครับ”ได้ยินเช่นนั้นแม้จะเสียดายที่ไม่ได้กลั่นแกล้งดีแลนให้สาแก่ใจ แต่พอได้เห็นใบหน้าของไอดินที่มีแววของความหนักใจอยู่เล็กน้อย เขาก็พยักหน้าลงเป็นคำตอบกลับไป พร้อมกับพ

  • เพชฌฆาตฟันน้ำนม (Omegaverse)   บทที่ 8 เจ้านายกับผัดคะน้าแสนอร่อย

    บทที่8เจ้านายกับผัดคะน้าแสนอร่อยหลังจากที่ได้ยินเสียงตกใจของผู้เป็นมารดา เจ้านายถูกไอดินอุ้มขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนเขาก็รีบส่ายศีรษะไปมา แล้วพูดออกไปว่า “นายนายไม่เต็บ นายนายไม่เป็นอะไย (นายนายไม่เจ็บ นายนายไม่เป็นอะไร)”แต่ถึงกระนั้นไอดินก็ยังไม่วางใจ แล้วพยายามดูร่องรอยบาดแผลบนร่างกายของอีกฝ่าย ว่ามีส่วนใดช้ำหรือถูกกระแทกบ้างหรือไม่ พร้อมกับถามออกไปว่า “เจ้านายครับ เจ็บที่หัวไหมลูก หัวผมกระแทกกับพวกนี้ไหม”เจ้านายจึงส่ายศีรษะ แล้วตอบกลับไปว่า “ไม่แทกฮับ” ก่อนตัวเองจะยกฝ่ามือขึ้นมาจับหัวของตัวเองเอาไว้ พร้อมกับส่ายหน้าไปมาอีกที “หัวนายนายไม่แทกไยฮับ ไม่เต็บเยย (หัวนายนายไม่กระแทกครับ ไม่เจ็บเลย)”ก่อนจะมีเสียงของมารดาของตัวเองดังขึ้นให้ได้ยินอีกครั้งว่า “แล้วตามตัวผมล่ะ มีอะไรกระแทกไหม ให้หม่าม๊าดูหน่อย” พร้อมกับพยายามแกะกระดุมชุดหมีของเด็กน้อยตรงหน้า เพื่อสำรวจดูร่างกายภายใต้ร่มผ้าแบบทันทีทันใดพอเปิดออกมาได้ก็เห็นมีแต่พุงน้อยๆ ที่ตอนนี้กำลังกระเพื่อมขึ้นลงเล็กน้อยเพราะแรงหายใจ ก่อนนายจะยกฝ่ามือตีลงไปบนพุงขาวๆ ของตัวเองสองที แล้วพูดออกไปว่า “นายนายไม่เต็บ ตัวไม่ได้แทก แทกกับคุงโต๊ะฮั

  • เพชฌฆาตฟันน้ำนม (Omegaverse)   บทที่ 7 เจ้านายกับอริหัวใจ

    บทที่7เจ้านายกับอริหัวใจหลังจากที่เห็นไอดินเดินจากไป นัยน์ตาสีเข้มบนใบหน้าน่ารักของเจ้านายก็มีประกายวาบผ่าน เขารีบลงจากโต๊ะไม้ แล้วสาวเท้าไปที่เตาแก๊สซึ่งอยู่ไม่ไกลสักเท่าไรพอเดินไปถึงก็พบว่าความสูงของมันสูงกว่าหัวของเขามากพอดู เจ้านายจึงเหลียวซ้ายแลขวาไปมา ก็เห็นว่าในละแวกใกล้มีโต๊ะที่เขาใช้ยืนล้างผัก และเก้าอี้ที่โต๊ะกินข้าวเท่านั้น เขาจึงตัดสินใจลากโต๊ะที่เขาใช้ล้างผักมาวางไว้ที่ข้างๆ บริเวณเตาแก๊สทันที แต่เอาเข้าจริงเป็นเพราะไอดินไม่อยากให้โต๊ะมันพลิกตอนที่เจ้านายยืนอยู่ด้านบนได้ง่ายๆ จึงใช้โต๊ะไม้ที่ค่อนข้างหนักมาวางเอาไว้ให้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมาจึงทำให้เจ้านายที่พยายามเข็นโต๊ะไม้นี้อยู่นานด้วยกำลังทั้งหมดที่มี แต่โต๊ะไม้เจ้ากรรมก็ไม่ยอมขยับไปสักทีอย่างที่ใจต้องการ พอเข็นได้ไม่เท่าไรก็เริ่มหายใจหอบฮักเขาจึงยืดตัวขึ้นแล้วเอามือทั้งสองข้างกอดอกไว้ นัยน์ตาสีเข้มจับจ้องมองโต๊ะไม้ตรงหน้า แล้วยกนิ้วชี้ของตัวเองชี้ไปที่โต๊ะไม้ตรงหน้าอย่างไม่พอใจพร้อมกับสบถออกมาว่า “โจ๊ะบ้า ตัวจ้อแต่นี้ตำไมเจ็นยาก (โต๊ะบ้า ตัวก็แค่นี้ทำไมเข็นยาก)” แต่ถึงกระนั้นเจ้านายก็ยังไม่ยอม

  • เพชฌฆาตฟันน้ำนม (Omegaverse)   บทที่ 6 เจ้านายกับเพื่อนสนิทของหม่าม๊า

    บทที่6เจ้านายกับเพื่อนสนิทของหม่าม๊าหลังจากที่จัดการเตรียมของทุกอย่างแล้วเสร็จ และกำลังจะลงมือทำข้าวผัดอยู่นั้น จู่ๆ สายตาก็เหลือบไปเห็นเจ้านายกำลังเขย่งปลายเท้าอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อจะคว้าเอาอะไรบางอยู่ที่อยู่ไกลๆไอดินที่ได้เห็นท่าทางของอีกฝ่าย จึงอดไม่ได้ที่จะเลิกเรียวคิ้วเข้มขึ้นหนึ่งข้างอย่างสนอกสนใจ ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปหาอีกฝ่าย แล้วถามออกไปว่า “เจ้านายจะเอาอะไรครับ เดี๋ยวหม่าม๊าหยิบให้”ได้ยินเช่นนั้นเจ้านายจึงเหลียวหน้าหันไปมองคนพูดทันที ก่อนเจ้าตัวจะชักสายตาคืนกลับไป แล้วชี้ไปที่ขวดน้ำยาล้างจานที่อยู่ไม่ไกล พร้อมกับพูดออกมาว่า “ดินดินเอาจวดนั้นให้นายนายหน่อยฮับ (ดินดินเอาขวดนั้นให้นายนายหน่อยฮับ)”จึงทำให้ไอดินอดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า “เจ้านายจะเอาขวดน้ำยาล้างจานมาทำไมครับ”เจ้านายจึงชูแครอทที่ถูกหั่นไว้อันหนึ่งขึ้นมา แล้วตอบกลับไปว่า “ปักอันนี้มันเปื้อนนายนายย้างไม่ออก นายนายเยยจะเอาอันอันนั้นมาใต่ย้างปัก ปักจะไอ้อาดฮับ (ผักอันนี้มันเปื้อนล้างไม่ออก นายนายเลยจะเอาอันนี้มาใส่ล้างผัก ผักจะได้สะอาดครับ)”ส่งผลให้ไอ้ดินที่เห็นเช่นนั้น อดไม่ได้ที่จะคิ้วกระตุกอย่าหลายที แล้วหั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status