Share

บทที่.1 Forget it... 2

last update Последнее обновление: 2025-09-11 15:15:16

พจน์มองหาที่นั่ง เขาหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ไม่ไกลจากเค้าน์เตอร์บาร์เท่าไหร

“อิตาเลี่ยนโซดาค่ะ”

หญิงยกแก้วทรงสูงบรรจุน้ำสีสวยมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ รอยยิ้มจริงใจแต้มมุมปาก ไร้สิ่งเคลือบแคลง

“แถมแยลลี่ให้ด้วยนะคะ บอกตามตรงหวาเพิ่งหัดทำค่ะ คุณเป็นลูกค้ารายแรกที่ได้ชิม”

หญิงสาวป้องปากกระซิบเสียงแผ่ว ชี้ชวนให้พจน์ดู แยลลี่เนื้อนุ่มที่ตนเองเพิ่งทดลองทำ

“ทานได้ใช่มั้ยครับ” ชายหนุ่มถาม ส่งยิ้มล้อเลียนตามมาด้วย

หวันยิหวายิ้มแหยๆ “หวาชิมแล้วค่ะ ทานได้จริงๆ” ตอบเสียงขึงขัง

“ครับ…อร่อยครับ” พจน์ตอบหลังชิมรสแยลลี่เนื้อนุ่ม

“เห้อ!! โล่งอกไปที…มีคุณหมอคอนเฟิร์มแบบนี้ คงพอทำขายได้”

หญิงสาวเป็นลูกมือมารดาเสียเป็นส่วนใหญ่ งานในร้านทั้งหมดหวันยิหวาทำได้ ยกเว้นอบขนม ถ้าเป็นตำแหน่งนั้นคงต้องยกให้มารดา หรือไม่ก็ขวัญอุสานักศึกษาที่ทำพาสไทม์

พจน์อมยิ้ม เขาอยากชวนคุย แต่ไม่รู้จะพูดอะไรจึงได้แต่นั่งแอบมองหญิงสาวอยู่ห่างๆ

หวันยิหวาเดินกลับไปประจำที่ เมื่อมีลูกค้ารายใหม่แวะเข้ามา เธอยิ้มกว้างพูดคุยกับลูกค้าอย่างเป็นกันเอง สีหน้าสดใส ไร้ความวิตกกังวลเหมือนที่พจน์แอบกลัว

“อ้าว!! คุณหมอมาเมื่อไหรคะนี่” พรรณนาเอ่ยทัก นางเดินเข้าไปหาพจน์ใกล้ๆ

“สวัสดีครับคุณน้า” พจน์ผุดลุกขึ้นยืน ทำความเคารพพรรณนาในฐานะคนโตกว่า

“ยัยหวาทำไมไม่ยกขนมมาให้คุณหมอล่ะลูก” นางหันไปเอ็ดบุตรสาว เมื่อบนโต๊ะของพจน์มีแค่น้ำแก้วเดียว

“มาถึงก็บ่นหวาเลย แม่ถามหมอซิคะ…หวายัดเหยียดให้ แต่หมอไม่รับเอง”

“ไม่ได้นะคะ นานๆ มาที อย่าปฏิเสธเลย” พรรณนาไม่สนใจ นางเดินไปหยิบจาน ใช้คีมปากใหญ่คีบขนมอบน่ารับประทานมาหลายชิ้น ก่อนจะเดินย้อนกลับมาส่งให้พจน์

“ลองชิมดูค่ะ น้าเพิ่งคิดสูตรได้…ไม่มีแบบนี้ที่ร้านอื่นแน่ๆ”

“แม่ชอบทำค่ะหมอ แต่หวาชอบทานมากกว่า…ให้หวาออกแบบเสื้อ ยังง่ายกว่าทำขนมอีก”

หญิงสาวเดินมาร่วมวงสนทนา เธอเอ่ยอ้าง…ก่อนจะชะงักไปชั่วครู่ เมื่อภาพบางอย่างแวบเข้ามาในหัว…เหมือนมีใครบางคนกดเปิดไฟ ในห้องมืดสนิทและปิดทันที โดยไม่รอให้ไฟฟ้าสว่างเต็มที่

“อุ้ย!!” เสียงอุทานของบุตรสาวพรรณนาจึงหันมาให้ความสนใจ ท่านลุกขึ้นจากที่นั่ง ถลาเข้ามาโอบบ่าหวันยิหวาไว้ เมื่อจู่ๆ สีหน้าของบุตรสาวเผือดซีดขึ้นมาแบบฉับพลัน

“ยัยหวาเป็นอะไรลูก!!!”

“ปะ…เปล่าคะแม่…แค่มีภาพอะไรไม่รู้ค่ะ...แวบขึ้นมาในหัวหวา…พอเพ่งมองจริงๆ ก็หายไป”

“นั่งลงก่อนลูก”พรรณนาประคองบุตรสาวให้นั่งลง

“ผมนัดหมอให้มั้ยครับ ดูเหมือนความจำบางส่วนของคุณหวาจะกลับมาแล้ว”

พจน์เสนอตัว เขาวิเคราะห์จากคำพูดหญิงสาว หวันยิหวาเสียความทรงจำ แต่ไม่ใช่แบบถาวร ความจำของหล่อนเลือนหายไปชั่วคราว…อาจจะกลีบมาในเร็ววัน หรือเนิ่นนานแค่ไหนไม่มีใครรู้

“ค่ะ” พรรณานารับคำ ยกมือขึ้นลูบพวงผมด้านหลังท้ายทอยหวันยิหวาด้วยความเป็นห่วง

“หวาเบื่อตัวเองจังค่ะแม่” หญิงสาวบ่น หลังหายเจ็บตามร่างกาย เธอกลายเป็นคนที่ไม่มีความทรงจำ ไม่ต่างอะไรกับคนพิการ

“แม่ไม่เคยเบื่อหวาจ้ะ แค่หวายังอยู่ แม่ก็พอใจแล้ว” พรรณนากล่าว สวมกอดบุตรสาว ยกมือขึ้นลูบแผ่นหลัง ถ่ายทอดความห่วงใยของตนเองให้บุตรีรู้

“หวารักแม่ค่ะ” หญิงสาวกอดตอบเอียงใบหน้าแนบอกอวบของมารดา ก่อนจะกระซิบเสียงแผ่ว

“แม่กับพ่อก็รักหวา...เรามาพยายามไปด้วยกันนะลูก ไม่ต้องรีบแม่รอได้”

พรรณนานากล่าวตอบเสียงสั่น...หากเป็นไปได้นางอยากให้บุตรสาวจำอะไรไม่ได้เลยเหมือนตอนนี้ ทิ้งอดีตที่แสนเลวร้ายไปตลอดกาล เพราะในทันที ที่หวันยิหวาจำได้ หล่อนคงโศกเศร้าอย่างหนัก เสียใจเพราะความผิดหวัง และคงแทบขาดใจเมื่อสิ่งที่สูญเสียไปนั้น...เป็นสิ่งสำคัญของเพศหญิง!!

พจน์มองสองแม่-ลูก ที่กอดกันกลมด้วยสายตาอ่อนโยน ชายหนุ่มเป็นคนรุ่นใหม่ ไม่สนใจอดีตที่ผ่านไปแล้ว เขารู้ตัวดีหวันยิหวาพิเศษสำหรับเขา หากบุพกาลีของเธอไม่รังเกียจ นายแพทย์จนๆ คนนี้ พจน์ขออาสาคอยดูแลหวันยิหวาต่อจากนี้เอง

และพรรณนาก็พอจะรู้...นางอาบน้ำร้อนมาก่อน ผ่านโลกมาพอสมควร จึงพอมองออก นางพอใจนายแพทย์คนนี้มากเป็นพิเศษ ข้อเดียวที่ตขิดตะขวงใจ คือนายแพทย์ผู้นี้รู้ ปม ของบุตรีตนเอง ปมที่แม้แต่นางเองยังไม่อยากนึกถึง หากชายหนุ่มไม่รังเกียจข้อเสียข้อนั้นของบุตรสาว นางก็ยินดีต้อนรับ...

วิทย์หิ้วถุงใบใหญ่เดินเข้ามาในร้าน ท่านชะงักกึก มองภรรยาและบุตรสาวที่กอดกันกลมด้วยสายตาสงสัย

“เกิดอะไรขึ้น ยัยหวาเป็นอะไร?” ชายสูงวัยเดินเข้ามารวมกลุ่ม ถุงใบนั้นถูกโยนทิ้งใกล้ๆ ประตูทางเข้า

หญิงสาวเงยหน้าจากซอกอกมารดา ส่งยิ้มให้บิดา ทั้งที่น้ำตายังคลอขังในหน่วยตาคู่งาม...

“เปล่าค่ะพ่อ หวาแค่ตกใจ!! มีบางอย่างแวบเข้ามาในหัวหวาค่ะ...”

“หือ...” วิทย์คราง มองสบตาภรรยา “หวาพอจะจำได้แล้วเหรอลูก?” ท่านถามเสียงแฝงความตระหนก

“ยังค่ะ” หวันยิหวาตอบเสียงอ่อย “มันมาแค่แวบๆ แล้วก็มืดสนิทเหมือนเดิม”

วิทย์ถอนใจด้วยความโล่งอก บุตรสาวยังไม่แข็งแรงดี เขาอยากให้ยืดเวลาไปอีกหน่อย เมื่อความทรงจำที่ถูกทิ้งไปนั้น มันสาหัสเกินกว่าที่หวันยิหวาจะรับไหว

“ผมจะนัดหมอให้ครับคุณอา...” พจน์กล่าวแทรก วิทย์จึงหันไปยิ้มให้ ท่านไม่ได้สนใจคนอื่นเลย เมื่อเป้าความสนใจอยู่ที่บุตรสาว จนกระทั่งพจน์พูดออกมา ท่านจึงรู้ว่านายแพทย์ผู้นี้ นั่งอยู่ด้วย

“ไม่ทันมองหมอ... ผมนี่เสียมารยาทชะมัด” วิทย์บ่นตัวเอง

“ไม่เป็นไรครับ หากเป็นผมก็คงไม่เห็นใครเหมือนกัน” ชายหนุ่มตอบ วิทย์รู้ทันความนัยที่ชายหนุ่มส่งให้ หากถามใจตนเอง ท่านไม่รังเกียจชายผู้นี้ แต่ประวัติอันด่างพล้อยของบุตรสาว จะเป็นตัวแปรในอนาคต เมื่อชายหนุ่มเป็นคนเด่นคนดัง หากใครก็ตามแตะต้องหวันยิหวา ด้วยข่าวฉาวๆ ท่านคงทนไม่ได้

“พ่อ...ของแม่ล่ะ?” พรรณนาถามแทรก นางไม่เห็นสามีถืออะไรมาด้วย

“ตาย...พ่อโยนทิ้งไว้ตรงไหนล่ะนั่น กำลังตกใจน่ะแม่” วิทย์ตอบภรรยา ท่านเหลียวมองหาสิ่งที่ตนเองหลงลืม

“ดีนะไม่ใช่ไข่ หรือแก้ว ไม่งั้นคงพังยับ” พรรณนาบ่นสามี มองวิทย์ที่วิ่งกลับไปฉวยถุงใบใหญ่ที่ตนเองโยนทิ้งไว้ก่อนหน้านี้

หวันยิหวาหัวเราะคิก...รีบลุกไปช่วยบิดาถือของ “ไม่มีอะไรเสียหายเลยค่ะแม่...ของทั้งหมดอยู่ในสภาพดี” เธอกล่าวเสียงร่าเริง เดินเลี่ยงเอาของในถุงไปเก็บ มีสายตา3คู่มองตาม แววตาทั้งหมดของคนสามคน ล้วนแต่ห่วงใยหวันยิหวาทั้งหมด...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เพลย์บอยทวงรัก   บทที่4.แก้ปม... 5

    ประเทศไทย...กรุงเทพฯ บรรยากาศยามค่ำบนตึกสูง มองเห็นแสงไฟบนถนนคล้ายๆ เส้นเชือกที่พาดโยงไปมาน่าปวดหัว คลิสเตียนยืนนิ่ง สายตามองภาพนั้น แต่กลับคิดถึงใครบางคน ผู้หญิงคนหนึ่งสดใสเหมือนดอกไม้ป่า รอยยิ้มเต็มหน้า กับแววตามีชีวิตชีวา รอบตัวของเธอคือความสดชื่นที่คลิสเตียนไม่เคยเจอ สังคมของเขาทำให้ชายหนุ่มกลายเป็นคนเย็นชา เมื่อมีแต่คนที่เข้ามาเพราะหวังผลประโยชน์ สวมหน้ากากคนใจดี แต่ลับหลังคือหมาป่าผู้หิวโซ จ้องจะตะปบเหยื่อหากตนเองเพลี่ยงพล้ำ ‘คลิส...ลองทานฝีมือของหวาหน่อยค่ะ หวาทดลองทำเองเลยน๊า’ กลิ่นขนมอบลอยตลบอบอวล เป็นกลิ่นที่เพิ่งเคยมีเป็นครั้งแรกในรั้วบ้านรอสซี บ้านที่เหงียบเหงา ไร้ชีวิตชีวาฟื้นคืนมาอีกครั้ง บ้านกลายเป็นบ้านตั้งแต่หวันยิหวาเหยียบย่างเข้ามาอาศัยอยู่ด้วย หล่อนเหมือนแมวน้อย ที่ขยันมาคลอเคลียเจ้าของ มือนุ่มนิ่มนั่น แตะต้องสัมผัสเขาด้วยความอบอุ่นจริงใจ รอยยิ้มของหล่อนก็เช่นกัน ไม่ต่างอะไรกับความสดชื่นยามรุ่งอรุณ หล่อนคือความสุขที่เขาไม่เคยได้สัมผัสมานานหลายปี นับตั้งแต่บิดา-มารดาลาลับไป คลิสเตียนสะบัดใบหน้าแรงๆ ความทรงจ

  • เพลย์บอยทวงรัก   บทที่4.แก้ปม... 4

    “ผมกำลังดูข่าวอยู่” แล็ปท็อปที่ชายหนุ่มเหวี่ยงทิ้ง หล่นอยู่ไม่ไกล คลิสเตียนเปรยเบาๆ เขาลุกไปหยิบแล็ปท็อปนั่นขึ้นมาจากพื้น และมันยังค้างอยู่หน้าเดิม สาวสวยอึ้งไปเล็กน้อย กว่าจะปรับความรู้สึกให้นิ่งได้ คลิสเตียนก็จับได้เสียแล้ว “ผมว่า ไอ้รถบรรทุกคันนั้นน่ะ ของเซมิโอเน่ไม่ใช่เหรอ ผมคุ้นๆ ตราสัญญาลักษณ์ที่ติดอยู่หน้ารถนะ” “ไม่รู้ซิคะ เจนไม่ค่อยสนใจกิจการของพ่อ...คุณอยากรู้ต้องถามพ่อเองค่ะ” หญิงสาวแสร้งไขสือ แต่การบอกปัดเร็วไปซักนิด เธอไม่แม้แต่จะขอดูรูปเพื่อหาข้อแก้ต่างเลย เจนน่ารีบปฏิเสธทันที เหมือนรูปข่าวนั้น เธอเคยเห็นมาก่อน... “เจนน่า!” คลิสเตียนเรียกเจนน่าเสียงเย็นๆ “เจนขอตัวค่ะ พอดีนึกได้ว่ามีธุระ...ไว้ว่างๆ เจนจะมาหาใหม่นะคะคลิส” เจนน่าร้อนตัว เธอทนนั่งอยู่ต่อหน้าคลิสเตียนไม่ไหว เกรงว่าตนเองจะเผลอเผยพิรุธให้ชายหนุ่มจับได้ แต่สิ่งที่เจนน่าทำ หล่อนแทบจะแบให้คลิสเตียนเห็นจนถึงไส้ถึงพุง แค่อาการที่หล่อนร้อนตัว ก็ทำให้คลิสเตียนเดาทางถูก คลิสเตียนไม่ได้รั้งไว้ เขาปล่อยเจนน่ากลับไป...เพราะชายหนุ่มมีหนทางสืบได้แบบไม่อยาก

  • เพลย์บอยทวงรัก   บทที่4.แก้ปม... 3

    “พูดมา ฉันรอฟังอยู่” ชายหนุ่มเปรย สายตาไม่ได้ละไปจากเอกสารในมือ เขาแน่ใจว่าเซเก้ต้องการสื่อสารเรื่องอะไร “มีตั๋วจากโรมไปไทย แต่ที่นั่งเป็นแบบชั้นประหยัดครับ ถ้าเจ้านายจะไปพรุ่งนี้” คลิสเตียนเหลือบมอง “เรื่องแค่นี้จัดการไม่ได้ ฝีมือนายตกไปนะเซเก้ หรือจะต้องให้ฉันซื้อทั้งสนามบินมาเสียเลย” เซเก้กลืนน้ำลายฝืดๆ คำประชดประชันของเจ้านายเล่นเอาเขาเหงื่อตก “ทุกอย่างจะเรียบร้อยครับ” การ์ดหนุ่มรับคำเสียงหนักแน่น คงไม่ต้องถึงขั้นซื้อสนามบิน แต่คงต้องรีบก่อนที่เจ้านายจะระเบิดตูม “ดี” เซเก้ถอยหลังกลับ เขาคงต้องไปกว้านหาซื้อตั๋วเครื่องบิน ก่อนที่เจ้านายจะพิโรธ...ชายหนุ่มยกมือปาดเหงื่อ...ทุกวันแทบจะร้างราผู้โดยสาร ทำไมต้องจำเพราะเจาะจงเป็นวันที่คลิสเตียนต้องการเดินทาง ตั๋วชั้นเฟิร์สคลาสเต็มทุกที่นั่ง...และนั่นคือสาเหตุให้เขาวิ่งวุ่นอยู่ตอนนี้... หลังลูกน้องคู่ใจหายลับไป คลิสเตียนหยิบแล็ปท็อปส่วนตัวขึ้นมาค้นหาอะไรบางอย่าง ข่าววันเกิดอุบัติเหตุใหญ่ เป็นข่าวครึกโครมอยู่เกือบเดือน... แต่กลับเงียบหายไปดื้อๆ เหมือนมีใครบางคนปกป

  • เพลย์บอยทวงรัก   บทที่4.แก้ปม... 2

    หญิงสาวลงจากรถประจำทางเดินเข้าซอยแคบๆ หนึ่งอึดใจต่อมาเธอก็เดินถึงบ้านหลังน้อย ซีรีนขมวดคิ้ว ในบ้านมืดสนิท เหมือนไม่มีคนอยู่ หญิงสาวไขกุญแจรั้ว เดินผ่านประตูหน้าจัดแจงล็อครั้วด้านนอกเหมือนเดิม ก่อนจะเดินไปไขประตูบ้าน ไฟฟ้าสว่างพรึ่บ!! เมื่อเธอกดสวิทซ์เปิด แสงสว่างจัดจ้าขึ้นมา หญิงสาวกราดตามองไปรอบๆ ตัวสมบัติน้อยชิ้นยังอยู่ที่เดิม หญิงสาวแอบขำตัวเอง หากผู้ชายคนนั้นเป็นคนร้าย เขาก็โง่เต็มทน เมื่อเขาให้เธอไปเอาเงินจำนวนมากจากคน คนหนึ่งแลกกับการยกเค้าบ้านเธอ ซึ่งเปรียบกันไม่ได้เลย “เป็นไงบ้างคุณ?” หญิงสาวโผล่หน้าเข้าไปถาม อัลเบโต้ปรือตามอง เขาปวดแผลอย่างมากเลยใช้วิธีนอนหลับ เพื่อให้ลืมๆ ความเจ็บปวดนั่น ถุงไก่ทอด กับอาหารอ่อนอีกหนึ่งอย่าง ซีรีนวางไว้ข้างตัวคนป่วย เธอยกมืออังหน้าผากชายหนุ่ม “ตัวร้อนนี่ ปวดแผลไหม? โทษทีนะ ฉันมัวแต่หาบ้านหลังนั้น ใช้เวลานานกว่าจะเจอใครจะไปคิดล่ะ บ้านที่คุณให้ไปหลังใหญ่ยังกับปราสาท” หญิงสาวพูดไปเรื่อย เพื่อไม่ให้เงียบเกินไป เธอฉวยผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก เดินไปชุบน้ำมาหมาดๆ ก่อนจะเดินกลับมาเพื่อจัดการเช็ดตัวคนป่วยให้อุณหภูมิในร่

  • เพลย์บอยทวงรัก   บทที่4.แก้ปม... 1

    บทที่4.แก้ปม... หลังพบหมอ...หวันยิหวาไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย คำแนะนำของท่าน ไม่ช่วยให้เธอจำอะไรได้มากขึ้น สิ่งที่คอยแวบเข้ามาในสมอง ก็ยังเป็นอยู่เช่นเดิม ความทรงจำเหล่านั้น คงพยายามโผล่มาให้เธอนึกออก แต่มันรวดเร็วเสียจนคว้าเอาไว้ไม่ทัน หญิงสาวถอนใจแรงๆ นึกเบื่อตนเองที่กลายเป็นภาระของบิดา มารดา เธออยากรู้นักอะไรทำให้เธอกดความทรงจำนั้นไว้ มันเป็นเรื่องสะเทือนใจหรืออย่างไร?!! กลไกในร่างกายของเธอจึงปกปิดไว้...ช่วยปกป้องเธอจากความเจ็บปวดที่จะเกิดขึ้น หากเธอจำสิ่งเหล่านั้นได้ทั้งหมด หวันยิหวาเดินทอดน่องริมทะเลที่มีคลื่นลูกเล็กๆ พัดเข้าหาชายฝั่ง เธอคิดอะไรเพลินๆ ปล่อยให้กระแสลมพัดต้องผิวกาย พวงผมสลวยด้านหลังถูกสายลมพัดใส่จนผมเส้นเล็กไหวไปมาเหมือนดั่งระลอกคลื่นในท้องทะเลก็ไม่ปาน กลิ่นไอทะเลที่มีความเค็มปะปนมาด้วย ช่วยให้หญิงสาวรู้สึกผ่อนคลาย สภาพอากาศที่แสนคุ้นเคย เธอแน่ใจ... สิ่งรอบตัวนี้ เธอพบเจอมาตั้งแต่เด็ก หญิงสาวตัดใจ เดินย้อนขึ้นไปด้านบน เธอมองหารถรับจ้าง เพื่อโดยสารกลับบ้าน แต่มาเปลี่ยนใจตอนหลัง หวันยิหวาเบื่อที่จะอยู่คนเดียว การมีเพื่อนช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ

  • เพลย์บอยทวงรัก   บทที่3.เจนน่า เซมิโอเน่ 2

    “เจน...หนูเอาคนของพ่อไปใช้ แล้วทำไมพ่อจะไม่รู้ล่ะว่าหนูเอาพวกมันไปทำอะไรมา” เสียงของเปาโลทุ้มนุ่ม เขากำลังหาทางช่วยบุตรสาว เมื่อคนที่เจนน่าต่อกรด้วย น่ากลัวกว่าเสือร้ายหลายสิบเท่า หญิงสาวสบถออกมาเบาๆ “เชี่ย!” นึกขัดใจความภักดีของคนเหล่านั้น ไม่ว่าจะยังไงบิดาของเธอก็ยังเป็นเจ้าชีวิต ที่พวกมันไม่คิดจะหักหลัง ทั้งๆ ที่เธอกำชับกำชาหลายสิบรอบ พวกมันก็ยังคาบข่าวมาบอกบิดาของเธอจนได้ “อย่าไปว่าพวกเขาเลย...บอกพ่อน่ะดีแล้ว พ่อจะได้หาทางช่วย...หนูเล่นผิดคนแล้วล่ะเจน...เพราะถึงอนาคตของเราจะเป็นดองกับฝ่ายนั้น...แต่คนอย่างคลิสเตียนคงไม่ยอมให้ใครมาลูบคมง่ายๆ” เปาโลเตือน คลิสเตียนน่ากลัว เขาเป็นคนดูยาก ขนาดมีสัญญาใจผูกมัด ชายผู้นั้นยังยืดระยะเวลาออกไปจนได้ ไม่แน่ว่า...ความฝันระหว่างผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจะเป็นหมั้น เพราะหากคลิสเตียนตกลงปลงใจจริง...เขาน่าจะยอมนานแล้ว ไม่ใช่ยื้อเวลาไว้เช่นนี้ ในเมื่อบุตรีของท่านก็ไม่ได้ด้อยกว่าผู้หญิงคนไหนในโรมเลย “อีนั่นสมควรตายค่ะพ่อ มันฉกคลิสไปกก หนูยอมไม่ได้!!” ความหึง หวงฉายชัดออกมาทางแววตา หวันยิหวาสมควรตาย หล่อนเป็นใครมาจากไหน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status