พีรกันต์ขับรถไปรับรัญรวีที่หน้าหอพักในเวลาบ่ายสองโมงตรงจากนั้นก็ขับรถมาตามทางถนนพระราม 2 เพื่อมุ่งสู่ชายหาดชะอำ ระหว่างทางทั้งสองก็พูดคุยกันไปเรื่อยแต่ชายหนุ่มก็ยังไม่พูดเรื่องสำคัญสักทีหญิงสาวเลยอดไม่ได้ที่จะถาม
“คุณกันต์บอกจะคุยเรื่องสำคัญกับเนย”
“ใช่ครับ แต่ไม่ใช่เรื่องด่วนเราไปถึงแล้วหาอะไรกินแล้วค่อยคุยก็ได้”
“ใบ้ได้ไหมว่าเกี่ยวกับอะไร นะคะคุณกันต์”
เสียงอ้อนหวานจนคนฟังใจอ่อนยวบเพราะไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่เขาก็ต้องใจแข็ง
“เกี่ยวกับงานของผมครับ”
“งานของคุณเหรอคะ”
“ครับ” เขาตอบสั้นๆ สีหน้าเครียดจนเธอสังเกตเห็น
“คุณเคยบอกว่าทำธุรกิจกับที่บ้าน หรือกิจการมีปัญหาคะ เนยพอจะช่วยอะไรได้ไหม” หญิงสาวไม่เคยเห็นเขาทำหน้าเครียดแบบนี้มาก่อน เธอถามออกไปด้วยความห่วงใย
“ผมดีใจนะที่คุณอยากจะช่วย ผมว่าคุณช่วยผมได้แน่ๆ”
“บอกมาสิคะว่าจะให้ช่วยอะไร”
“คุณกำลังหลอกให้ผมพูด”
“เปล่านะคะก็แค่อยากรู้ว่าจะช่วยได้ยังไงบ้าง” รัญรวียิ้มเมื่อเขารู้ทัน
“สัญญาได้ไหมว่าจะช่วยผมถ้ามันไม่กระทบกับงานหลักของคุณ”
“ค่ะ เนยยินดีช่วย”
“ขอบคุณครับเนย คุณเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ”
“คุณก็เป็นเพื่อนที่ดีของเนยค่ะ” หญิงสาวยิ้มอย่างจริงใจเพราะตั้งแต่คบกันเป็นเพื่อนเขาไม่เคยทำให้เธอรู้สึกอึดอัดและยังเป็นผู้รับฟังที่ดีในเวลาที่เธอบ่นเรื่องงาน
ถ้าเป็นเมื่อก่อนพีรกันต์ต้องถามเธอไปแล้วว่าเมื่อไหร่จะเปลี่ยนจากเพื่อนเป็นแฟนแต่เพราะคุยกับหมอจิดาภาเมื่อวานก็ซึ่งเธอแนะนำให้เขาขอเธอเป็นแฟนอย่าจริงจังในบรรยากาศดีๆ ไม่ใช่ขอในร้านอาหารตามสั่งที่คนพลุกพล่านอย่างที่เคยทำ
“คุณง่วงไหม นอนก่อนก็ได้นะถึงแล้วผมจะปลุกเอง”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันนอนมาเยอะแล้ว”
“ขึ้นเวรรอบนี้เหนื่อยไหมครับ”
“เหนื่อยเป็นบางวันสลับกันไปค่ะ บางวันคนไข้ก็เหลือน้อย บางวันก็รับใหม่เยอะจนไม่ค่อยเวลากินข้าวเลยล่ะคะ”
“ผมว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่เสียสละมากๆ เลยนะ”
ตอนที่เป็นนักเรียนแพทย์เขาก็คลุกคลีกับพยาบาลอยู่ตลอดจึงรู้ว่าอาชีพนี้ต้องเสียสละมากทั้งร่างกายและเวลาโดยเฉพาะการขึ้นเวรดึกซึ่งเป็นเวลานอนของคนอื่น
“ค่ะ เวลาหยุดงานและเวลานอนของพวกเราจะไม่ค่อยเหมือนคนอื่น แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะคะ อย่างแผนกผู้ป่วยนอกก็จะได้หยุดเหมือนคนอื่น”
“แล้วทำไม่เนยถึงไม่ทำที่แผนกผู้ป่วยนอกล่ะ”
“ไม่ใช่ว่าไม่อยากทำนะคะแต่เขาไม่ค่อยรับพยาบาลจบใหม่หรอกค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นพี่ๆ ที่จบมานานแล้วหรือคนที่มีครอบครัวต้องดูแล แต่ทำงานที่วอร์ดผู้ป่วยในก็ดีไปอย่างค่ะ”
“ดียังไงครับ”
“ก็ดีตรงได้ค่าเวรบ่ายกับเวรดึกไงคะ ถ้าขยันมากก็ได้มาก”
“แล้วเนยขยันมากไหม”
“ช่วงจบใหม่ขยันมากค่ะ พี่คนไหนจะขายเวรเนยรับซื้อหมดจนแทบไม่มีวันหยุดเลยแต่ตอนนี้รับซื้อเท่าที่จำเป็นค่ะ เงินที่ได้มันไม่คุ้มกับสุขภาพที่เสียไป”
“ผมว่าเนยคิดถูกแล้ว คนเราทำงานหนักก็ต้องมีเวลาหยุดพักผ่อนบ้าง แค่ผมชวนเนยมาแบบนี้ไม่รบกวนเวลานอนใช่ไหม”
“ไม่หรอกค่ะ เนยไม่ได้นอนทั้งวันสักหน่อย”
“หยุดครั้งหน้าเราไปเที่ยวต่างจังหวัดกันไหมครับ”
“ขอดูก่อนนะคะว่าช่วงนั้นเหนื่อยมากไหม”
“ได้ครับ”
ทั้งสองมาถึงชายหาดชะอำในเวลาเกือบห้าโมงเย็นเพราะแวะทานกาแฟและเค้กระหว่างทาง
หลังทานอาหารอิ่มแล้วก็พากันมาเดินเล่นซึ่งตอนนี้ไม่ค่อยจะมีแดดแล้ว
“คุณชอบทะเลไหมครับเนย”
“ชอบค่ะ แต่ไม่ค่อยได้มา ครั้งสุดท้ายก็น่าจะสองปีที่แล้วตอนนั้นมากับที่โรงพยาบาลค่ะ”
“ถ้าคุณชอบผมจะพาคุณมาบ่อยๆ”
“ฉันไม่รบกวนคุณขนาดนั้นหรอกค่ะ”
“ไม่รบกวนเลยผมเต็มใจนะ ผมอยากดูแลคุณอยากพาไปไหนมาไหนกับคุณแบบนี้ตลอด”
“ไม่เบื่อเหรอคะ”
“เบื่ออะไร”
“ก็เบื่อที่ต้องเป็นเพื่อนกับเนย”
“ทำไม่คิดว่าผมจะเบื่อล่ะ”
“ไม่รู้สิคะ บางครั้งเนยก็คิดว่าชีวิตตัวเองมันน่าเบื่อ วันๆ ก็เอาแต่ทำงานไม่วันหยุดก็นอนไม่มีกิจกรรมอย่างอื่นเลย”
“ที่ไม่ทำอย่างอื่นเพราะอยู่คนเดียวด้วยหรือเปล่าครับ เพื่อนของเนยก็มีแต่พยาบาลเวลาหยุดก็ไม่ตรงกัน”
“ก็ส่วนหนึ่งคะ”
“อยากหายเบื่อไหมครับผมมีวิธีนะ”
“ยังไงคะ”
“มาเป็นแฟนผมสิผมรับรองว่าวันหยุดของคุณจะไม่เบื่ออีกต่อไป” พีรกันต์หยุดเดินแล้วหันหน้ามองรัญรวี เขาอยากเธอเห็นว่าเขาจริงจังกับสิ่งที่พูดมากแค่ไหน
“เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแบบนี้ไม่ดีกว่าเหรอคะ”
“เป็นเพื่อนกันก็มันก็ดี แต่ผมอยากเป็นแฟนคุณด้วยนะครับเนย”
“ถ้าเป็นแฟนมันจะมีอะไรเปลี่ยนจากนี้ไหมคะ”
“ทำไมครับ คุณกลัวอะไร” พีรกันต์มองหน้าหญิงสาวอย่างต้องการคำตอบ
“กลัวระหว่างเรามันไม่เหมือนเดิมค่ะ ตอนนี้ระหว่างเรามันดีอยู่แล้ว ถ้าเป็นแฟนกันเราต้องเจอกันมากขึ้นไหม ต้องรับโทรศัพท์ทุกครั้งหรือเปล่าคะ” รัญรวีเคยมีแฟนที่ไม่เข้าใจการทำงานจึงกลัวว่าการคบกับพีรกันต์จะจบลงเหมือนเดิมอีก เธอไม่อยากเสียเวลาจึงต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่อง
“ผมอยากเจอคุณมากขึ้นแต่นั้นต้องเป็นตอนที่คุณว่างและไม่เหนื่อยจากงานจนเกินไป ส่วนเรื่องโทรศัพท์ผมไม่ซีเรียสผมรู้ว่าคุณทำงานแต่ขออย่างเดียวอย่าหายไปนานแค่นั้นก็พอ นะครับเนยเป็นแฟนผมนะ” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง เขามั่นใจว่ารัญรวีคือผู้หญิงที่ตนเองตามหามานาน ครั้งแรกอาจจะสะดุดตาเพราะความสวยแต่พอได้คุยก็ยิ่งชอบเธอมากขึ้น จนตอนนี้เขาคิดว่ามันกลายเป็นความรักไปแล้ว
รัญรวีเป็นผู้หญิงที่ขยันทำงาน ฉลาดและจิตใจดีเธอทำให้คนเจ้าชู้อย่างเขายอมหยุดที่เธอโดยที่ไม่ได้เอ่ยขอเลยแต่พีรกันต์กลับเต็มใจ
“คุณกันต์ค่ะถ้าจะเป็นแฟนกับเนยจริงๆ เนยขออะไรอย่างหนึ่งได้ไหมคะ”
“ได้สิขอมาเลย” นาทีนี้ไม่ว่ารัญรวีจะขออะไรเขาก็ยินยอมทุกอย่างขอเพียงแค่เธอยอมตกลงเป็นแฟนเท่านั้น
“เนยไม่ชอบคนโกหกเพราะฉะนั้นอย่าโกหกเนย ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ มีอะไรก็ต้องบอกกันตรงๆ”
“ได้สิสบายมาก ตกลงเราเป็นแฟนกันแล้วนะ”
“ก็ได้ค่ะ เนยจะลองให้โอกาสคุณ”
“ขอบคุณครับเนยผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณเสียใจ”
“นี่ใช่ไหมคะเรื่องสำคัญที่คุณบอกจะคุย เนยคิดว่าเรื่องงานของคุณเสียอีก”
“เรื่องนี้สำคัญที่สุด แต่ยังมีอีกเรื่องที่ผมจะบอกคุณและขอให้คุณช่วย”
“เรื่องอะไรคะ”
“ผมเคยบอกคุณว่าผมทำธุรกิจของที่บ้าน”
“ค่ะ เนยรู้แล้วธุรกิจมีปัญหาเหรอคะ”
“ครับเรามีปัญหาเรื่องคนทำงานไม่ค่อยพอเลยอยากให้เนยช่วยไปทำงานกับที่บ้านของผมได้ไหม ชวนเพื่อนมาด้วยก็ได้นะคะ”
“ไม่มีปัญหาค่ะ วันไหนที่เนยหยุดเนยไปช่วยคุณก็ได้ ว่าแต่ที่บ้านคุณทำธุรกิจอะไรคะ เนยเป็นพยาบาลไม่รู้ว่าจะช่วยคุณได้มากแค่ไหน” รัญรวีรีบรับปากทั้งที่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าที่บ้านของเขาทำธุรกิจอะไร ที่เธอช่วยเพราะตลอดเวลาสองเดือนกว่าที่รู้จักกันเขาเป็นเพื่อนที่ดีกับเธอมากและตอนนี้เธอก็เพิ่งยอมเป็นแฟนกับเขาเรื่องช่วยเหลือเขาได้หญิงสาวก็ยินดีจะทำ
“ได้สิ เนยช่วยผมได้มากเลยทีเดียว” พีรกันต์บอกด้วยความมั่นใจ
เกินจะทน (ตอบจบ)พีรกันต์เครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเพราะเขาเองก็เคยคิดเรื่องนี้แต่เพราะกลัวว่าจะไม่ได้เจอลูกอีกจึงยอมปล่อยเลยตามเลย“ถ้าเขาไม่ยอมให้ตรวจมึงก็แอบตรวจสิ เป็นถึงเจ้าของโรงพยาบาลเรื่องแค่นิคิดไม่ได้”“แต่มันผิดกฎหมายนะ” นุกูลทนายหนุ่มพูดขึ้น“กูถามมึงหน่อยนะไอ้นุถ้ามึงเป็นไอ้กันต์มึงอยากจะรู้ไหมว่าเด็กที่เรียกว่าลูกน่ะเป็นลูกของมึงจริงๆ หรือเปล่า”“เป็นใครก็ต้องอยากรู้”“งั้นมึงก็เงียบไปเลยนะ” ธนวินท์หันมาทำตาดุใส่เพื่อน“ถ้ายังไม่อยากตรวจDNAก็ตรวจแค่กรุ๊ปเลือดก่อนก็ได้ มึงรู้ไหมน้องข้าวหอมกรุ๊ปเลือดอะไร”“กูไม่รู้แต่น่าจะมีในผลตรวจเลือด” เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูอีเมลที่ทางโรงพยาบาลส่งให้เมื่อครั้งก่อนพอเห็นกรุ๊ปเลือดของลูกสาวแล้วก็หน้าซีด“ไหนกูขอดูหน่อย” เมฆาคว้าโทรศัพท์ในมือเพื่อนไปดูจากนั้นก็เงยหน้ามองพีรกันต์แล้วนิ่ง“มึงเลือดกรุ๊ปอะไร”“AB” เขาตอบเหมือนคนไร้วิญญาณเพราะถ้าเขาเลือดกรุ๊ปABก็ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ข้าวหอมจะมีเลือดกรุ๊ปO“นั่นมึงจะไปไหนกันต์” อธิษถามเห็นพีรกันต์ลุกขึ้น“กูจะไปถามหลินให้รู้เรื่อง”“ใจเย็นก่อน” เมฆาที่นั่งอยู่ใกล้ฉุดมือของพีรกันต์ให้นั
การอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวไม่ง่ายเลยสำหรับพีรกันต์เพราะนอกจากเขาจะคอยดูแลข้าวหอมแล้วยังต้องคอยหลบหลีกลินรดาที่มักจะเข้าใกล้และยุ่งกับการใช้ชีวิตของเขามากกว่าที่คุยกันไว้“นี่มันดึกแล้วนะกันต์จะออกไปไหนอีก”“หน้าที่ของผมคือเล่านิทานและพาลูกเข้านอนตอนนี้ผมก็ทำหน้าที่ของผมเสร็จแล้วผมจะไปไหนมันก็เรื่องของผม” พีรกันต์ตอบอย่างหัวเสีย“หลินอยากคุยกับคุณ ขอเวลาหลินได้ไหมเราไปคุยกันที่ห้องนะคะ”“เรามีเรื่องอะไรต้องคุยกันอีก”“ก็เรื่องของเรา”“ระหว่างผมกับคุณมีแค่เรื่องของลูก ไม่มีเรื่องของเราหรอกนะ”“คุณชวนหลินมาอยู่ที่บ้านแต่คุณไม่เคยสนใจหลินเลยนะคะ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ คุณไม่มีใครหลินก็ไม่มีใครทำไมเราไม่ลองคุยกันอีกสักครั้ง”“ผมว่าผมชัดเจนแล้วนะว่าจะเป็นแค่พ่อของข้าวหอมที่ผมทำทุกอย่างก็เพื่อลูก ผมไม่เคยคิดอะไรกับคุณเลย”“คุณจะกลับไปหาผู้หญิงที่ชื่อเนยเหรอคะ คุณคิดว่าเธอจะรอคุณเหรอ”“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเนยเพราะถึงไม่มีเนยผมก็คิดจะกลับไปคบกับคุณ อะไรที่มันผ่านไปแล้วปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ ผมอยากทำหน้าที่พ่อที่ดีของข้าวหอมเรื่องอื่นผมไม่อยากคิด”“หลินทำผิดอะไรคุณถึงไม่คิดจะกลับมาเป
“พี่กานต์มีเบอร์อาจารย์หมอศาสตราไหมขอผมหน่อยสิ”“มีสิ นายจะเอาไปทำอะไรหรือจะจ้างอาจารย์มาตรวจพี่ว่าอย่าเสียเวลาเลยพี่เคยชวนท่านหลายครั้งแล้ว”“เปล่าครับ”“แล้วจะเอาเบอร์ไปทำไมหรือมีใครป่วย”“ผมอยากปรึกษาท่าน”“กันต์มีอะไรหรือเปล่า หรือลูกไม่สบาย” เมื่อเห็นลูกชายคนเล็กมีสีหน้าเครียดคนเป็นมารดาก็ร้อนใจ“เปล่าครับแม่ คนที่ใม่สบายคือข้าวหอม”“อะไรนะ หลานแม่ป่วยเป็นอะไร”“เนยบอกผมว่าข้ามหอมเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวครับแม่”“ป่วยถึงขั้นไหนแล้วตรวจเจอนานหรือยังรักษาไปถึงขั้นไหนแล้ว ต้องให้คีโมหรือเปล่า”“ผมยังไม่รู้รายละเอียดอะไรมากครับวันนี้ว่าจะพาข้าวหอมไปหาอาจารย์หมอ”“น่าสงสารจังตัวแค่นั้นก็ป่วยแล้ว กันต์ต้องดูแลลูกดีๆ”“ครับแม่”“คนที่บอกนายว่าข้าวหอมป่วยคือเนยเหรอ”“ครับพี่ เนยบอกผมเมื่อคืน”“แปลกดีนะทำไมคนที่บอกไม่ใช่แม่ของข้าวหอมล่ะ แล้วเนยไปรู้มาได้ยังไง”“ผมมัวแต่ตกใจเลยลืมถามเรื่องนี้ไปเลย แต่ก็ช่างมันเถอะจะรู้จากใครความจริงก็คือความจริง”“ถ้าต้องไปดูแลข้าวหอมบ่อยๆ กันต์ก็คุยกับหนูเนยให้เข้าใจนะลูก แบ่งเวลาให้ดี” เพราะคนหนึ่งก็หลานสาวอีกคนก็ว่าที่ลูกสะใภ้“คงไม่ต้องแล้วล่ะครับแม่”“ก
เพราะมีข้าวหอมมาอยู่ด้วยที่บ้านพีรกันต์เลยไม่คิดมากเรื่องรัญรวีเท่าไหร่จนกระทั่งผ่านไปสามวันหญิงสาวก็ยังไม่ติดต่อกลับมาพีรกันต์ไม่อยากรออีกต่อไปแล้ววันนี้เขาจึงมาดักรอหญิงสาวตรงทางเดินระหว่างโรงพยาบาลกับคอนโดมิเนียม“เนย”“พี่กันต์” รัญรวีตกใจเพราะจู่ๆ เขาก็โผล่ออกมาจากมุมถนน“พี่ขอคุยด้วยหน่อย”“เอาไว้คุยวันหลังดีไหมคะ ตอนนี้มันดึกแล้ว”“พี่ไม่อยากรอแล้วนะ สามวันมานี้เนยไม่ติดต่อพี่มาเลย”“เนยงานยุ่งค่ะ”“ไปนั่งคุยกันในรถก่อน”“แต่เนยจะกลับไปพักแล้ว”“จะไปดีๆ หรือจะให้พี่อุ้มไปละเนย"เพราะคำขู่ของเขารัญรวีเลยยอมเดินตามมาที่รถ เธอขึ้นไปนั่งยังตำแหน่งเดิมที่เคยนั่งแต่ความรู้สึกแปลกออกไปเพราะตอนนี้คนข้างกายของเธอไม่ใช่คนที่เธอจะใช้ชีวิตด้วยอีกต่อไปแล้ว“พี่กันต์จะคุยอะไรคะ”“เนยเป็นอะไร โกรธอะไรพี่หรือเปล่า พี่ทำอะไรผิดเหรอเนยถึงไม่ติดต่อพี่เลยแล้วยังเก็บของพี่ออกจากคอนโด”“พี่กันต์ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยค่ะ เนยเองที่ผิด ผิดที่ไปรักคนมีเจ้าของอย่างพี่”“กำลังพูดเรื่องอะไรพี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”“ก็พี่กับครอบครัวของพี่”“ครอบครัวของพี่ก็คือเนย เราจะแต่งงานและร่วมสร้างมันด้วยกัน”“พี่กันต์ค่ะ
รัญรวีตื่นขึ้นมาในตอนสายเธอในขณะที่พีรกันต์ออกไปทำงานแล้ว หญิงสาวมองสภาพห้องนอนแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความสุขที่เขามอบให้เมื่อคืนมันยังชัดเจนอยู่ในความทรงจำ คำบอกรักที่เขากระซิบข้างหูเธอจำมันได้อย่างดีและจะจดจำมันไปตลอดว่าตนเองเคยมีความสุขมากแค่ไหนหญิงสาวเข้าห้องน้ำมองตัวเองในกระจกร่างกายเต็มไปด้วยรอยรักที่เขาฝากไว้ มันตอกย้ำว่าเธอและเขาผ่านเรื่องบนเตียงมาแล้วอย่างเร่าร้อนแต่มันก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกเพราะรัญรวีไม่คิดจะนอนกับใครอีกแล้ว การอยู่ตัวคนเดียวมันอาจเหงาแต่ที่ผ่านมาเธอก็เคยอยู่คนเดียวมาตลอดหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วหญิงสาวก็เก็บของใช้ของพีรกันต์ลงกระเป๋าก่อนะจะเอาไปฝากไว้ที่หน้าเคาน์เตอร์ด้านล่างและสั่งไว้แล้วว่าห้ามเขาขึ้นมาบนห้องเธออีก รหัสที่ประตูหน้าห้องถูกเปลี่ยน รัญรวีตัดการติดต่อทุกช่องทางเพราะกลัวว่าถ้าได้ยินเสียงของเขาเธอจะตัดเขาออกไปจากชีวิตไม่ได้หญิงสาวใช้เวลาว่างตลอดวันจัดห้องใหม่เพราะถ้าอยู่ในบรรยากาศเดิมๆ ก็จะคิดถึงเขา กว่าทุกอย่างจะเข้าที่ก็เป็นเวลาเย็น เธอทำอาหารจากของสดที่เหลืออยู่ในตู้จากนั้นก็นั่งทานคนเดียวเงียบๆโทรศัพท์ที่อยู่ตรงหน้าดังขึ้นรีญ
พีรกันต์กอดกระชับร่างที่หอบเหนื่อยรอจนเธอหายใจเป็นปกติจากนั้นก็รีบอาบน้ำและเช็ดตัวให้เธอก่อนจะอุ้มมาวางบนเตียง“เนยจ๋า พี่ไม่ไหวขออีกคืนนี้ขอแรงหน่อยไหม” เพราะท่าทางยั่วยวนและลีลารักเมื่อครู่มันปลุกความดิบเถื่อนในกายเขาจนต้องเอ่ยขอ“เนยตามใจพี่กันต์ทุกอย่าง” เพราะนี่จะเป็นคืนสุดท้ายเธอก็อยากให้เขาทำทุกอย่างไปตามใจปรารถนา รัญรวีอยากเก็บทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขาขึ้นไว้เป็นความทรงจำเมื่อเธอพูดออกมาแบบนั้นพีรกันต์ก็เริ่มบทรักอีกครั้ง ปากร้อนจูบไปทั่วใบหน้าซอกคอดูดแรงจนขึ้นรอย รัญรวีทั้งเจ็บทั้งเสียวจนได้แต่ครางหวาน“อื้อ...พี่กันต์ขาจูบเนยหน่อยได้ไหม”ลิ้นร้อนสอดเข้าโพรงปากนุ่มตวัดรัดลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อน เธอเองก็จูบกลับไปอย่างถึงพริกถึงขิงทำให้เขาครางอย่างพอใจหญิงสาวหูอื้อตาลายไปกับปากร้อนที่จูบเบียดแนบชิด เธอปล่อยกายปล่อยใจไปตามแรงปรารถนาพีรกันต์จูบจนพอใจก็ยอมให้ปากเล็กเป็นอิสระ เขาลากไล้ความเปียกชื้นมาตามผิวนุ่มขบเม้มแทะเล็ม ฝากรอยประทับไว้ทั่วเนินอกอิ่ม ตาคมมองยอดถันที่ชูชัน ลิ้นร้อนลากวนอย่างปลุกเร้าก่อนจะครอบครองเข้าอุ้งปากร้อน ดูดแรงอย่างคนกระหาย ยิ่งเธอแอ่นโค้งเข้าหาเ