ทั้งคู่นิ่งเงียบไปชั่วขณะ ชิดชนกมองไปที่จุดหนึ่งบนผนังด้านตรงข้าม ส่วนภาดามองเธออย่างเปิดเผย มือของเขาวางอยู่ที่หลังบอบบาง ราวกับกำลังประคองคนบนตักไว้
“เจ็บไหมมากไหม” เสียงทุ้มถามเบา ๆ
คำถามของเขาทำให้ชิดชนกเหลือบมอง และเธอพบว่าดวงตาคมเข้มใสกระจ่าง ไม่มีร่องรอยของความโกรธหรือการเหน็บแนมใด ๆ บนใบหน้า ตอนแรกเธอปฏิเสธที่จะตอบ แต่เธออยู่ใกล้เขาพอที่จะเห็นเมื่อเขายักคิ้ว และรู้ว่าเขาดื้อพอที่จะรอเธอได้เช่นกัน
“ไม่ค่ะ” เธอตอบเสียงเบา ๆ ในอกรู้สึกแปลก ๆ ที่ต้องอยู่ในท่านี้กับชายหนุ่ม
“ฉันขอโทษที่ก้าวก่ายเรื่องของเธอ แต่ฉันไม่อยากปล่อยเธอไปเมื่อเธอแทบไม่ได้กินอะไรเลย และฉันรู้ว่าฉันเป็นสาเหตุโดยตรงของเรื่องนั้นอย่างน้อยสองครั้ง ฉันขอโทษ คำพูดของฉันไม่เหมาะสมจริง ๆ โปรดยกโทษให้ฉัน”
คำขอโทษของเขาฟังดูจริงใจ และมารยาทที่ดีเป็นพื้นฐานของบ้านที่เธอและชิดจันทร์เติบโตมา มันจะเป็นการไม่สุภาพหากเธอไม่ยอมรับคำขอโทษของเขา
“ฉันยกโทษให้คุณ” เธอกระซิบ มองลงไปที่มือของเธอที่วางอยู่บนตัก
“ขอบใจ เธอใจดีมากกว่าที่ฉันสมควรได้รับ”
อีกครั้งที่ชิดชนกไม่พบร่องรอยของการเยาะเย้ยหรือความไม่จริงใจในน้ำเสียง แม้ว่าเธอจะพยายามหามันก็ตาม แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เธอพบว่าเสียงต่ำและแหบห้าวของเขาฟังดูน่าพอใจกว่าที่เธอต้องการ
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“ฉันจะพยายามทำตัวให้เป็นสุภาพบุรุษกว่านี้ แต่ว่าเธอจะช่วยฉันทานอาหารกลางวันที่เหลือหน่อยได้ไหม ฉันจะรู้สึกขอบคุณมากที่เธอนั่งทานเป็นเพื่อนฉัน”
คำพูดที่ดูถูกตัวเองของเขาทำให้เธอยิ้มเล็กน้อย
ภาดารู้สึกประหลาดใจกับความจริงใจของตัวเอง เขาอยากทานอาหารกลางวันกับเธอจริง ๆ ในทันทีนั้น เขาอยากมาก แม้ว่าจะรู้ว่าเธอมีสิทธิ์เต็มที่ที่จะเดินออกจากห้องอาหารและขึ้นไปที่ห้องนอนของเธอตามที่ตั้งใจไว้
แต่เธอไม่ได้ปฏิเสธทันที และเขาก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี เขาโน้มตัวลงไปใกล้หูเธอและกระซิบ
“ฉันจะปล่อยเธอลงจากตักและให้เธอนั่งที่เก้าอี้ของตัวเองก็ได้ ถ้าเธอต้องการ แม้ว่าฉันจะยินดีให้เธอนั่งที่นี่ต่อ ฉันอยากมีโอกาสป้อนอาหารเธอด้วยมือตัวเอง เพื่อให้แน่ใจว่าเธอทานอาหารในปริมาณที่เพียงพอและได้รับสารอาหารที่เหมาะสม”
สิ่งที่เขาพูดกับเธอฟังดูเกือบจะไม่เหมาะสม—เพราะวิธีที่เขาพูด แม้ว่าชิดชนกจะรู้สึกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจให้มันฟังดูแบบนั้น และเธอก็รู้ว่าเธอควรจะจากไป ตามที่เธอตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก
แต่เธอกลับรู้สึกสนใจเขา ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจและขัดกับความต้องการของเธอ
ก่อนที่จะได้ตอบอะไร ช้อนที่มีมันฝรั่งบดพูน ๆ ก็ถูกยื่นออกมาตรงหน้า
“อ้าปาก”
เธอทำตาม ยอมอ้าปากแต่โดยดี ต้องเป็นเพราะเสียงทุ้มนุ่มนั้นแน่ ๆ ที่สะกดจิตเธอเอาไว้ แล้วเขาก็ส่งช้อนเข้าปากอย่างนุ่มนวล
“ฉันจะอยู่ทานอาหารกลางวันต่อก็ได้ค่ะ แต่ฉันคิดว่าฉันควรจะกลับไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง” เธออ้อมแอ้มตอบ
ชายหนุ่มเอาผ้าเช็ดปากมาเช็ดริมฝีปากเธอก่อนจะปล่อยเธอไปด้วยความไม่เต็มใจ
“น่าเสียดาย แต่ขอบใจมากที่ยอมทานข้าวเป็นเพื่อนฉัน”
ภาดาทำตามคำพูดได้เป็นอย่างดี ไม่มีการพูดจาไม่เหมาะสมอีก เขาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเติบโตในที่ที่ป่าเถื่อนทุรกันดารให้เธอฟัง และเธอก็ได้รู้สึกถึงชีวิตในวัยเด็กของเขาจริง ๆ
ชีวิตที่ยากลำบาก ต้องใช้สติปัญญาเพื่อความอยู่รอด ถูกสอนโดยพ่อให้พึ่งพาตัวเอง ซึ่งเป็นทางเดียวที่จะรอดได้ และครอบครัวก็ค่อย ๆ สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาจากกิจการโคนม แล้วค่อย ๆ ขยายไปยังการทำไร่องุ่น มี ซึ่งตอนนั้นเขาก็อยู่ในวัยรุ่นแล้ว ไม่แปลกใจที่เขาจะเป็นคนที่หยาบกระด้างเล็กน้อย
บ่อยครั้งที่เขาทำให้เธอหัวเราะด้วยการเล่าเรื่องที่ตัวเองเป็นตัวตลก ซึ่งทำให้เธอเห็นเขาดีขึ้นกว่าเดิม จากที่เคยคิดว่าเขาเป็นคนหลงตัวเองและชอบบงการ เธอรู้สึกว่าเธอเริ่มเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของเขามากขึ้น และก่อนที่เธอจะรู้ตัว นาฬิกาในห้องนั่งเล่นก็ตีสองครั้ง
“เราคุยกันนานขนาดนั้นเลยเหรอคะ” เธอถามด้วยความประหลาดใจ
ภาดายกมือขึ้นมาวางทับมือหญิงสาวที่อยู่บนโต๊ะ
“พร้อมจะหัดขี่ม้าหรือยัง”
“พ่อเลี้ยง คือฉัน...”
“เรียกฉันว่าภาดาเถอะ เพราะฉันอยากเรียกชื่อเล่นของเธอมากกว่า ‘ชิดชนก’ ที่เป็นทางการเกินไป ได้ไหมครับ ‘แก้ว’”
“ค่ะ” ชิดชนกพยักหน้าอย่างาเอียงอาย “แต่ว่าเรื่องขี่ม้า...”
“เธอจะชอบมัน เชื่อฉันสิ” เขาบีบมือเธอเบา ๆ
ใบหน้าหวานยังดูสงสัยอยู่เล็กน้อย เธอกัดริมฝีปากด้วยความลังเล
“เอ่อ...”
“เธอกลัวม้าหรือเปล่า”
“ไม่ค่ะ ฉันคิดว่ามันเป็นสัตว์ที่สวยมาก ฉันแค่ไม่มีประสบการณ์ แล้วมันก็ตัวใหญ่มาก”
ภาดาหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อได้ข้อสรุป “ถ้าอย่างนั้น การอยู่กับฉันนี่แหละที่ทำให้เธอลังเล”
แก้มนวลเปลี่ยนเป็นสีแดง นั่นก็บอกทุกอย่างแล้ว
“คือ...ฉัน...”
“ฉันรับรองได้ว่าฉันจะตั้งใจสอน แก้ว ฉันจริงจังกับความรับผิดชอบของตัวเองมาก และฉันคิดว่าการขี่ม้าเป็นทักษะที่ทุกคนโดยเฉพาะคนที่อยู่ในไร่ควรรู้”
ชิดชนกกัดริมฝีปาก ไม่แน่ใจว่าจะพูดอะไรดี
“ออกไปที่คอกม้ากับฉันสักครั้ง ฉันจะเลือกม้าที่เหมาะสมกับเธอให้ ฉันสัญญาว่าจะใจเย็น แต่ถ้าสุดท้ายเธอไม่ชอบ ฉันจะให้น้องชายฉันสอนเธอแทน”
“ก็ได้ค่ะ”
มุมปากหยักยกยิ้มพอใจ ภาดารู้ว่าเขาสามารถทำให้เธอสนุกกับการขี่ม้าได้ ถ้าเธอยอมเชื่อใจ
เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “ไปเปลี่ยนเป็นชุดที่ทะมัดทะแมงหน่อย ฉันจะรอ”
ชิดชนกลุกขึ้นและก้าวไปหนึ่งก้าว แล้วมองกลับมาที่ชายหนุ่มราวกับกำลังจะเปลี่ยนใจ
แต่เขาไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น
“รีบไปสิ อย่าให้ฉันรอนานนะ เด็กน้อย”
เพียงแค่เห็นเขาขยิบตาอย่างขี้เล่น ชิดชนกก็ทำตามอย่างว่าง่าย
“หยุดเถอะ คุณทำให้ฉันหน้าแดง”“ดี การหน้าแดงเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเธอ และฉันพบว่าความบริสุทธิ์ของเธอ ความสุภาพเรียบร้อยของเธอ พูดตามตรง...มีเสน่ห์มาก”ชิดชนกหัวเราะ หันหนีจากคนร่างยักษ์เพื่อมุ่งหน้าไปยังเตียงใหญ่“ฉันไม่บริสุทธิ์อีกต่อไปแล้ว คุณควรจะรู้เรื่องนั้น”ภาดาย่องเข้ามาข้างหลังหญิงสาวอย่างเงียบ ๆ เหมือนที่เขาทำในบางครั้ง และตีอย่างแรงไปที่ก้นข้างหนึ่งก่อน จากนั้นอีกข้างหนึ่ง ก่อนที่เธอจะหันหนีเพื่อให้ก้นของเธออยู่ห่างจากเขาและเมื่อเธอพยายามที่จะทำเช่นนั้น เธอก็พบว่าตัวเองติดอยู่ในอ้อมแขนของเขาโดยสมบูรณ์“อย่าคิดแบบนั้นแม้แต่น้อย ที่รัก ความบริสุทธิ์เป็นคุณสมบัติ เป็นตัวตนของเธอ ไม่ใช่ลักษณะทางกายภาพ และเธอมีมัน ฉันไม่คิดว่าฉันเคยมี ซึ่งบางทีอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงดึงดูดฉันมากนัก เธอเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับฉัน”ชิดชนกยื่นมือขึ้นและสัมผัสเขา หนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เธอทำเช่นนั้นโดยสมัครใจ“คุณเป็นคนดี”“ฉันผ่านอะไรมามาก ที่รัก”ระหว่างที่พูดก็ยกมือขยำสองเต้าที่แสนล่อต่อล่อใจ แล้วก้มหน้าลงเชยชิมยอดถันที่แข็งชูชันคล้ายเชิญชวน ดูดแรง ๆ จนเสียงหวานครางออกมา“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถ
งานแต่งงานไม่เหมือนกับสิ่งที่ชิดชนกเคยจินตนาการไว้เมื่อเป็นเด็ก ที่จะต้องมีแขกเหรื่อมาร่วมแสดงความยินดี และเธอที่อยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวฟูฟ่องเหมือนเจ้าหญิง ท่ามกลางดอกไม้ที่ประดับตกแต่งไปทั่วงานงานแต่งงานจัดขึ้นที่ไร่ของภาดาเอง เป็นงานเล็ก ๆ เฉพาะคนในครอบครัวและคนรู้จักสนิทกันเท่านั้นถึงกระนั้น เธอก็มีชุดที่เป็นทางการ เพราะเขาอยากให้เธอเป็นเจ้าสาว และมันเป็นเพียงครั้งเดียวในชีวิตลูกผู้หญิงชุดแต่งงานแม้ไม่ใช่ชุดฟูฟ่องแบบเจ้าหญิง ซึ่งนั้นเป็นเพียงจินตนาการในวัยเยาว์ ชิดชนกพอใจมาก เพราะถูกออกแบบและตัดเย็บมาอย่างดี เหมาะสำหรับงานแต่งงานแบบใกล้ชิด เรียบง่ายและประณีต ทำจากผ้าเนื้อดีสีฟ้าอ่อน ปักด้วยดอกไม้เล็ก ๆ สีฟ้าเข้มกว่าเล็กน้อย ทั้งหมดมีลำต้นและใบสีเขียวเล็ก ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เพื่อขับเน้นผิวขาวนวลของเธอภาดาหันหน้าไปหาเจ้าสาวที่กำลังเดินมาหาเขาอย่างช้า ๆ เธอถือช่อดอกกุหลาบขาวและแดงที่เขาเตรียมมาเป็นพิเศษสำหรับเธอและวันนี้ ซึ่งเธอมอบให้กับชิดจันทร์ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเพื่อนเจ้าสาวของเธอ เช่นเดียวกับที่ภีรพลเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวของเขาเมื่อภาดาจับมือเธอไว้ในมือของเขา เขาสังเกตด้วยความตกใจว่
เขารู้ว่าเขากับเธอมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร อีกทั้งอารมณ์ที่ฉุนเฉียวของเขาอีก แต่เขากับเธอจะผูกพันกันไปตลอดชีวิต เขาจึงตั้งใจที่จะทำให้มันดีสำหรับพวกเขาทั้งสองคนเท่าที่จะทำได้ และถ้ามันเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนตัวเองเล็กน้อยให้ดีขึ้น เขาก็จะทำมันเขาอยากมีความสุข และถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ เขาก็อยากให้เธอมีความสุขด้วยดังนั้น เขาจึงตั้งใจที่จะสานต่อการสนทนาของพวกเขา ถึงแม้ว่าพวกเขาดูเหมือนจะไม่มีเวลาอยู่ด้วยกันตามลำพังเพื่อให้เขาทำเช่นนั้นได้ก่อนที่ทุกคนจะเข้านอนประมาณเที่ยงคืน ภาดาคว้าเสื้อคลุมมาสวม แล้วเปิดประตูห้องออกไป ตรวจสอบดูว่าไม่มีใครอื่นอยู่ในทางเดินของโรงแรม เขาจึงเดินไปที่ห้องของชิดชนก แล้วเคาะประตูเบา ๆ“แก้ว ฉันเอง ขอฉันเข้าไปหน่อย”ชิดชนกที่หลับสนิทด้วยความเพลีย เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู ก็ก่นด่านิดหน่อยก่อนที่จะงัวเงียลุกขึ้นมา เปิดไฟดวงเล็กบนโต๊ะข้างเตียง และไปที่ประตู“คุณภาดา มีอะไรรึเปล่าคะ” เธอถามอย่างงง ๆภาดาต้องควบคุมอารมณ์ของเขา มิฉะนั้นเขาจะพูดอะไรที่ทำให้เขาเสียใจภายหลัง “ขอฉันเข้าไปหน่อย”ชิดชนกลังเลกับความคิดนั้น “แต่ฉันคิดว่าคุณบอกว่าเ
“ที่รัก เราจะแต่งงานกันและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน และฉันไม่อยากให้เธอคิดว่ามีอะไรที่เธอไม่สามารถบอกฉันได้ แม้ว่าเธอจะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ฉันอาจไม่อยากได้ยินหรือเรื่องซุกซนที่เธอทำ มันจะดีกว่าเสมอสำหรับเธอที่จะบอกฉันมากกว่าที่จะไม่บอก”รู้ว่าเขาจะไม่ปล่อยเธอไปจนกว่าเขาจะได้สิ่งที่เขาต้องการ เธอจึงถอนหายใจอย่างหนัก“ฉันสงสัยว่าคุณจะจำเรื่องนี้ได้ไหม ตอนที่เราเรื่องแต่งงาน คุณพูดว่า…”เธอหยุดและกลืนน้ำลายอย่างแรง แต่เขาไม่ผลักดันเธอ ภาดาเห็นว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอ มันไม่ง่ายสำหรับเขาเช่นกัน เขาตระหนัก เพราะมันทำให้เขาปวดใจเมื่อเธอดูเศร้าสร้อย และเพราะเขาพยายามอย่างหนักที่จะทำให้สถานการณ์ที่ไม่ปกติและอึดอัดนี้ถูกต้องสำหรับเธอ“คุณบอกว่าคุณไม่สามารถให้ภรรยาของคุณสวมเสื้อผ้าเก่า ๆ ได้” เธอกระซิบอย่างน่าสังเวชภาดาไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงขุ่นเคืองกับคำพูดที่ไม่ตั้งใจนั้น และนั่นคือสิ่งที่เขาพูดกับเธอเกือบจะตรง ๆ ถ้าในลักษณะที่อ่อนโยนและอ่อนโยนมาก“ฉันขอโทษที่พูดไม่คิด แต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงคิดมากกับเรื่องแค่นี้ เธอช่วยอธิบายให้คู่หมั้นหัวทึบของเธอหน่อยได้ไหม”ชิดชนกซาบซึ้งในอารมณ์ขันที่
แม้ว่าการแต่งงานใหม่อีกครั้งจะเป็นสิ่งที่ห่างไกลจากความคิดของภาดามากที่สุด แต่ข้าวสารได้กลายเป็นข้าวสุกแล้ว เขาจึงต้องรับมือกับผลที่ตามมาของสิ่งที่พวกเขาทำอย่างรวดเร็วเขายอมรับและแม้กระทั่งยอมรับความรับผิดชอบของเขาที่มีต่อชิดชนก ในลักษณะที่ทำให้เขาประหลาดใจ และเขาคาดหวังให้เธอทำเช่นเดียวกันพวกเขาทำสิ่งที่พวกเขาไม่ควรทำ และพวกเขาต้องทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อแก้ไขสถานการณ์ โดยเขาจะกดดันให้เธอยอม แม้ว่าจะไม่มีโอกาสที่เธอจะตั้งท้องแต่แม้จะสวมแหวนของชายหนุ่ม แม้แต่ตอนนี้ที่มีความเป็นไปได้อย่างชัดเจนว่าเธออาจตั้งครรภ์ ชิดชนกก็ยังไม่แน่ใจว่าการแต่งงานเป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับพวกเขามันถูกต้องตามหลักการ มันเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สมควรจะทำ แต่เธอไม่มีความมั่นใจเลยพ่อเลี้ยงภาดา คนที่ไม่สามารถเอามือของเขาออกจากเธอได้แม้ว่าเขาจะไม่ชอบเธอมากนักในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง และผู้ที่ดูเหมือนพอใจที่จะแต่งงานกับผู้หญิงที่เห็นได้ชัดว่าฐานะต่ำกว่ามากน่ะหรือแม้แต่อาหารเลิศรสในร้านอาหารก็ไม่สามารถทำให้ชิดชนกสดชื่นขึ้นได้ และการเลือกชุดแต่งงานและเสื้อผ้าก็เช่นกันในที่สุด ภาดาก็ทนไม่ไหว เขาฉ
เมื่อตื่นขึ้นในเช้าวันรุ่งขึ้น ชิดชนกพบว่าเธออยู่ในเตียงของตัวเอง ในห้องของตัวเอง สงสัยว่าเธอมาที่นี่ได้อย่างไรภาดาทำให้เธอตื่นอยู่เกือบทั้งคืน เขาแสดงความรักกับเธอในรูปแบบต่าง ๆ แต่ละรูปแบบทำให้เธอหน้าแดงมากขึ้นกว่าครั้งก่อน ๆ แม้กระทั่งตอนนี้ หลายชั่วโมงต่อมา เพียงแค่ระลึกถึงพวกมัน แก้มขาวก็แดงปลั่งเป็นมะเขือเทศสุกจนเธอต้องยกมือทั้งสองข้างกุมแก้มไว้และแล้วเธอก็จำได้ว่า ก่อนที่เธอจะหลับไปอย่างเหนื่อยอ่อนในอ้อมแขนของเขา เขาได้กระซิบอย่างกล้าหาญที่ข้างหูของเธอว่า“ถ้าก่อนหน้าไม่ท้อง ตอนนี้เธอน่าจะท้องแล้ว”เขาคงจะอุ้มเธอมาส่งที่ห้องหลังจากหลับไปแล้ว และด้วยความเพลียทำให้เธอหลับลึกมาก ซึ่งไม่ใช่ความคิดที่ไม่ดี เมื่อพิจารณาว่าแม่บ้านจะมาถึงตั้งแต่เช้ามืดเพื่อทำอาหารเช้าให้พวกเขา และเธอคงจะตายถ้าถูกจับได้ว่าแอบออกจากห้องของภาดาเพื่อกลับมาที่ห้องของเธอเขาช่วยให้เธอรอดชีวิตจากชะตากรรมที่น่าอัปยศนั้นไปได้ร่างเล็กผุดลุกขึ้นจากเตียง จัดการอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็วและออกจากห้อง ไม่แน่ใจว่าเธออยากจะเจอเขาหรือไม่ แต่โล่งใจที่เขาดูเหมือนจะรอเธออยู่ที่บันได“อรุณสวัสดิ์ คุณชิดชนก” เขาพูดด้วยน้ำ