พูดจบเธอก็ยัดกระดาษตารางการทำกายภาพบำบัดใส่มือของเขาแล้วเดินหนีไปอย่างไม่ใส่ใจอารมณ์ฉุนเฉียวของคนไข้จอมเอาแต่ใจ สนใจทำไมล่ะ ในเมื่อสิทธิ์ในการดูแลรักษาเขานั้นอยู่ในกำมือเธอทั้งหมด และคนที่กุมอำนาจสูงสูดในบ้านก็เป็นพวกเดียวกันกับเธอ คนที่จะต้องยอมก็คือธีรดลต่างหาก หญิงสาวยิ้มอย่างได้ใจและไปบอกข่าวนี้แก่คุณนรา สองสาวต่างวัยต่างหัวเราะชอบใจกับแผนการของพวกตนที่กำลังจะลุล่วงด้วยดี
ในขณะที่ธีรดลมองตามหลังหญิงสาวไปอย่างโมโหฉุนเฉียวที่วิสฏฐีไม่ยอมตามใจเขา เป็นเขาที่ต้องทำตามที่เจ้าหล่อนต้องการ นี่มันไม่ใช่ตัวเขาเลย คนที่เคยเป็นผู้ควบคุมทุกอย่าง เป็นผู้คุมเกมมาเสมอเริ่มรับไม่ได้และอยากจะยอมรับความพ่ายแพ้นี้
“ยายตัวแสบ คิดว่าจะชนะฉันได้เหรอ หึ.. คอยดูเถอะ ฉันทำกายภาพบำบัดจนเดินเองได้เมื่อไหร่ เธอเสร็จฉันแน่ จะเอาคืนให้สาสมเลย” ชายหนุ่มหมายมาดในใจ และตั้งมั่นเพื่อจะเอาชนะวาสิฏฐีให้ได้
แล้วการฝึกทำกายภาพวันแรกผ่านไปด้วยดีจนน่าแปลกใจ หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปทุกอย่างก็ดีราวปาฏิหาริย์ แม้คนไข้ของเธอจะดื้อดึงบ้าง แต่ทุกออย่างก็ผ่านไปด้วยดี คนไข้ของเธอให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีจนน่าแปลกใจเลยทีเดียว หญิงสาวเก็บข้อมูลและบันทึกพัฒนาการทุกอย่างของธีรดลอย่างละเอียดและส่งผลรายงานต่อหัวหน้างานของเธอ เพื่อประเมินผลการรักษา และในวันนี้ หมอก้อง ก็มาพบเธอที่บ้านของคุณนรา
“คนไข้ของวานี่พัฒนาการสุดยอดเลยนะ อีกไม่กี่วันก็คงเดินได้ปร๋อแล้ว”
“จริงหรือคะพี่หมอก้อง”
“จริงสิ ผลเอ็กซเรย์ออกมาดีมาก กระดูกประสานกันสนิทดี บาดแผลภายนอกทั้งหมดก็หายสนิทแล้ว ที่เหลือคือสภาพจิตใจของคุณธีมแล้วล่ะว่าจะยังไงต่อไป วาต้องคุยกับจิตแพทย์ประจำตัวของเขา”
หญิงสาวพยักหน้าดูผลตรวจของคนไข้หนุ่มของตนอย่างตั้งใจ โดยไม่รู้ว่ามีสายตาอ่อนโยนของหมอก้องจ้องมองอย่างรักใคร่ไม่ปิดบัง แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น แววตาของหมอหนุ่มก็เก็บซ่อนความรู้สึกต่อสาวรุ่นน้องไว้มิดชิด
“ขอบคุณมากนะคะที่พี่หมอสละเวลามาหาถึงบ้านเลย จะให้วาไปหาที่โรงพยาบาลก็ได้นะคะไม่ได้ลำบากอะไร ถือโอกาสไปเยี่ยมเพื่อนๆ ด้วย”
“ไม่เป็นไร พี่ผ่านมาพอดี ว่าแต่ เย็นนี้เราไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันไหม เราไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันนานแล้วนะ”
“นั่นสินะคะ วาก็ยุ่งๆ ทั้งที่บ้านนอกด้วย วุ่นวายไปหมด”
“เออ... แล้วที่กลับบ้านไปมีอะไรให้พี่ช่วยไหม”
ด้วยความที่สนิทสนมกันมานานตั้งแต่เด็ก เพราะทั้งสองเป็นคนบ้านเดียวกัน หมอก้องกับเธอเรียกได้ว่าเติบโตมาด้วยกันก็ว่าได้ เพราะบ้านอยู่ติดกัน พ่อแม่ก็เป็นเพื่อนกัน แต่เธอโชคร้ายที่พ่อแม่ตายจากไปเสียตั้งแต่อายุสิบขวบ ก็ได้ครอบครัวของหมอก้องดูแลช่วยเหลือ จนเมื่อเริ่มโตจนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยก็ห่างกันไปบ้าง แต่สุดท้ายเธอกับเขากด็ได้พบกัน ที่โรงพยาบาลที่ต่างก็ทำงานอยู่ และตั้งแต่นั้นก็ติดต่อคบหากันเรื่อยมา ในสายตาของวาสิฏฐี หมอก้อง คือพี่ชายที่แสนดี และเธอก็รักเขาเฉกเช่นน้องสาวรักพี่ชาย
“ก็ดีนะคะ วันนี้คุณธีมคงไม่งอแงและคงพักผ่อนเร็วกว่าทุกวัน และวันนี้ก็คงไม่ได้ทำอะไรแล้ว เพราะวันนี้เห็นเลขาเอางานมาให้เซ็นและคุยงานกันตั้งแต่สิบโมงแล้ว เลขาเขาเพิ่งกลับไปเมื่อกี้นี้เอง” หญิงสาวยกนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาสี่โมงเย็นแล้วทำหน้าเบิกบาน
“งั้นเดี๋ยววาไปขออนุญาตคุณแม่ท่านก่อนนะคะ”
“ฉันไม่อนุญาต...” เสียงห้าวๆ ของธีรดลดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่นั่งวีลแชร์เข้ามาที่ห้องรับรอบด้วยสีหน้าบึ้งตึง ด้วยความที่เขาตัวสูงใหญ่ถึง 189 เซนติเมตร แม้จะนั่งอยู่บนวีลแชร์ความสูงของเขาก็ยังเกือบเท่าๆ กับเธอที่สูง 160 เซ็นติเมตร วาสิฏฐีหันไปมองแล้วลุกขึ้นตรงไปหาเขาด้วยความห่วงใยเมื่อเห็นท่าทางเหมือนว่าธีรดลจะลุกขึ้นยืนจึงจะรีบไปประคองเขาไว้
“คุณจะลุกทำไมเนี่ย ขาคุณยังไม่หายดี จะเดินเองได้ก็ต้องใช้ไม้เท้าพยุงก่อน”
“ก็เธอไงไม้เท้าของฉัน อย่าพูดมาก ฉันอยากฝึกเดิน พาฉันไปที่สวนเดี๋ยวนี้”
“แต่ว่า...”
“วันนี้ฉันทำงานทั้งวัน ยังไม่ได้ฝึกเดิน”
“วาทำงานเถอะ ไว้วันหลังเราค่อยไปกินข้าวด้วยกัน”
“อ้าว... คุณหมอ โทษทีผมไม่ทันได้มองว่าคุณก็อยู่ด้วย”
ธีรดลปรายตามองหมอหนุ่มที่รูปร่างผอมบางและสูงน้อยกว่าตนเล็กน้อยอย่างไว้ตัว ท่าทางของเขาราวเจ้าชายและหมอก้องคือข้าราชบริพารที่ต้องพินอบพิเทาต่อเขา วาสิฏฐีแอบทำเสียงเชอะในลำคอแล้วหันไปยิ้มหวานให้กับหมอก้อง
“ค่ะพี่หมอ กลับดีๆ นะคะ วาคงไม่ได้ออกไปส่ง ต้องพาคนไข้วัยซนไปฝึกเดิน” หมอก้องยิ้มๆ แล้วกล่าวลาก่อนจะเดินจากไป
“เธอว่าใครคนไข้วัยซน” เมื่อลับหลังหมอก้องแล้วธีรดลก็ก้มลงมองคนที่เป็น ไม้เท้า ให้เขาอย่างขุ่นเคือง แววตาคมวาวๆ หน้าตึงๆ ดุดัน หากคนอื่นเห็นคงพากันกลัวแต่สำหรับเธอแล้ว มันไม่น่ากลัวสักนิด น่าขันเสียมากกว่าและเธอก็สนุกที่ได้ยั่วแหย่เขาให้ ของขึ้น…
“ก็ว่าคุณไง นอกจากคุณกับฉันจะมีใครอื่นอีกล่ะ”
“นี่เธอ เธอกล้า...”
“โอ้ยยยย อยู่แค่นี้จะตะโกนทำไมกันคุณ อยากจะฝึกเดินไม่ใช่หรือไง ก็ไปสิ ฉันจะพาไป”
เธอเงยหน้าทำเสียงดุๆ ใส่อีกต่างหากไม่ได้มีความเกรงกลัวต่อพยัคฆ์ร้ายเช่นเขาเลยสักนิด ธีรดลที่ตั้งใจจะมาหาเรื่องแม่ตัวดีที่นั่งคุยกับผู้ชายหน้าระรื่นให้กระเจิง แต่กลับกลายเป็นว่าเขาถูกเธอต่อว่าเหน็บแนมเอาเสียอีก
ตอนที่31. อวสาน“ในที่สุดเรื่องวุ่นๆ ก็จบลงด้วยดีซะทีนะคะ” วาสิฏฐีพูดขึ้นเมื่ออยู่ในห้องหอกับสามีเพียงลำพัง ธีรดลเดินเข้ามาโอบกอดภรรยาเอาไว้หลวมๆ แล้วหอมแก้มนวลแผ่วเบาอย่างเอาใจ“แถมยังช่วยชีวิตเพื่อนรักของวาได้ด้วยใช่ไหมล่ะที่ทำให้วายิ้มกว้างขนาดนี้”“แน่นอนสิคะ ยายวีวี่กับพี่ธัชดูเหมาะสมกันจะตายไป ว่าไหมคะ ไม่คิดว่าคุณแม่จะแอบคิดเหมือนวา”“แล้วไม่ดีหรือไง”“ดีสิคะ แบบนี้แหละที่วาชอบ”“หึ.. วันแต่งงานตัวเองแท้ๆ คิดถึงแต่เรื่องคนอื่นได้ยังไงกัน” น้ำเสียงของเขาติดจะงอนๆ จนเธอต้องรีบเอาใจ“อย่าน้อยใจสิคะ เรื่องวันนี้มันเหนือการควบคุมนะคะ อีกอย่าง วันนี้เหมือนเราได้จัดงานแต่งงานสองคู่เลยนะ จู่ๆ พี่ธัชก็มีเมีย ดีออกค่ะเห็นมั้ยคะ งานแต่งงานของเราเนี่ยช่างเป็นวันที่ดีจริงๆ เลย”วาสิฏฐียิ้มพลางดันร่างสามีแสนงอนนอนลงบนที่นอนนุ่มที่โรยด้วยกลีบกุหลาบสีหวานช้าๆ ซึ่งเขาก็แสนจะยินดีที่จะโอนอ่อนผ่อนตาม“ไม่ได้น้อยใจเสียหน่อย แค่อยากให้เมียเห็นผัวเป็นที่หนึ่งในใจก็เท่านั้น ส่วนเรื่องเพื่อนรักของวาก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของพี่ธัชไปเราไม่ต้องไปยุ่ง โอเคมั้ย”“แหม.. รีบส่งไม้ให้พี่ธัชเลยนะคะ วารู้หรอกค่ะว
ตอนที่30.สิ้นคำพูดของคุณนรา นางรตีกับลูกๆ ถึงกับหน้าถอดสีเมื่อได้ยินชื่อแซ่ของเจ้าของบ้าน“คุณ คุณว่าอะไรนะคะ คุณเป็นใครนะคะ”“อ้อ.. นี่พวกเธอคงไม่รู้สินะว่าที่ที่พวกเธอเหยียบอยู่นี่เป็นคฤหาสน์ของตระกูลลูเซียโน่ และที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเธอนี่คือ คุณนรา ลูเซียโน่ เฉิน และลูกชายทั้งสามคนของคุณนรา”องุ่นพูดขึ้นด้วยท่าทางมาดมั่นพร้อมทั้งเชิดหน้าใส่สามแม่ลูกอย่างเป็นต่อ“แม่.. เป็นไปได้ยังไง ไหนว่าแค่บ้านของพวกเศรษฐีใหม่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร”“นั่นสิ แล้วทีนี้เราจะทำไงดี แต่ว่า.. แม่ ลูกชายตระกูลนี้งานดีมากเลย ฉันอาจจะมีสิทธิ์เป็นเมียเขานะแม่”“พวกแกนี่ให้มันน้อยๆ หน่อย ตอนนี้คิดก่อนว่าจะทำไง ไม่ใช่มามัวบ้าผู้ชาย เอาตัวรอดจากตรงนี้ให้ได้ก่อนเถอะ”สามแม่ลูกกระซิบกระซาบปรึกษาหารือกัน ก่อนที่นางรตีจะเอ่ยขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้“ยังไงซะพวกคุณก็เป็นคนนอกครอบครัวของเรา ดังนั้นเรื่องนี้เป็นปัญหาในครอบครัว พวกคุณก็ไม่เกี่ยวอยู่แล้ว วีวี่กลับบ้านกับน้านะจ๊ะ พวกเรามีเรื่องต้องคุยกัน”นางหันมาทำเสียงอ่อนหวานกับวีรนุชที่ยืนมองมาตาขวาง แต่หญิงสาวก็หันไปมองคุณนราเหมือนขอความช่วยเหลือ“จะว่าเราเป็นคนนอกก็ไม่
ตอนที่29.“อย่าริทำตัวเป็นพ่อสื่อเลยเจ้าตัวดี”“โธ่ น้องก็แค่หวังดีน่าพี่ชาย”“ไม่ต้องเลย นายหวังดีกับฉันทีไร ชีวิตฉันปั่นป่วนทุกที”ผู้เป็นพี่ชายยกมือห้าม ท่าทางเข็ดขยาดของชายหนุ่มเรียกเสียงหัวเราะของทุกคน แล้วไม่นานส้มโอก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามา“แย่แล้วค่ะคุณท่าน แย่แล้วๆ”“มีอะไรส้มโอหน้าตาตื่นมาเชียว”“มี มีคนมาค่ะ”“มีคนมาแล้วยังไง ตั้งสติดีๆ ค่อยๆ พูด”“คือว่า มีคนมาหาคุณหนูวีวี่แล้วเกิดตะลุมบอนกันอยู่หน้ารั้วโน่นค่ะ เหมือนเขาจะมาพาตัวคุณหนูวีวี่ไป”“แย่แล้ว.. ต้องเป็นแม่เลี้ยงของวีวี่แน่เลยค่ะ” วาสิฏฐีหน้าตื่นเป็นห่วงเพื่อนรักขึ้นมาทันที“งั้นเราออกไปดูกันดีกว่า”ว่าแล้วทุกคนก็รีบลุกออกไปจากโต๊ะรับประทานอาหารมื้อค่ำอันแสนสุขไปที่หน้าบ้านก็ทันได้เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งไม่ต่ำกว่าห้าคนและหญิงสาวอีกสามคนยืนรุมล้อมทั้งฉุดกระชากลากถูวีรนุชอยู่ โดยมีองุ่นกีดขวางป้องกันไม่ให้คนพวกนั้นทำได้สำเร็จภาพที่เห็นจึงดูวุ่นวายโกลาหลอยู่ไม่น้อยเมื่อองุ่นสาวตุ้ยนุ้ยร่างยักษ์ไม่ยอมให้ใครเข้าถึงตัววีรนุชได้ง่ายๆ“ถอยไปนะนังอ้วน อย่ามาขวางพวกฉัน ฉันจะพาตัวนังลูกไม่รักดีกลับ”“ฉันไม่ใช่ลูกแก นังแพศยา
ตอนที่28.“ฉันนี่แย่จริง วันดีของเพื่อนแท้ๆ มานั่งพูดพร่ำอะไรก็ไม่รู้ พูดถึงแต่เรื่องของตัวเองอีกต่างหาก”“ฉันเข้าใจเธอนะวีวี่ และไม่เป็นไรเลย เธอสามารถพูดได้ฉันไม่ได้ถือสาอะไรอีกอย่างฉันรู้ว่าเธอกลัวว่ากำลังจะเสียที่พึ่งสุดท้ายอย่างฉันไป เธอแค่กลัว และทุกคนมีสิทธิ์ที่จะกลัว”วาสิฏฐีพูดยิ้มๆ แล้วลูบไหล่ของวีรนุชอย่างปลอบโยน เข้าใจดีว่าตอนนี้วีรนุชรู้สึกอย่างไร วีรนุชก็เหมือนลูกคุณหนูที่ถูกเลี้ยงอย่างตามใจ ดูท่าทางดื้อรั้นเอาแต่ใจและร้ายกาจไม่ยอมคน แต่ลึกๆ แล้ว วีรนุชก็ต้องการการปกป้อง อ่อนแอเป็น ร้องไห้เป็น ซึ่งคนที่วีรนุชจะแสดงความอ่อนแอให้เห็นก็มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้น กับคนอื่น วีรนุชคือคุณหนูตัวร้ายที่พร้อมจะบวกทุกอย่างไม่ไว้หน้าใคร แต่กับเธอ วีรนุชเสมือยน้องสาวตัวน้อยที่แม้จะร้ายแสนร้ายเพียงใด ก็ต้องการความรัก และได้รับการปกป้องทะนุถนอม ซึ่งเธอก็พร้อมจะปกป้องน้องสาวคนนี้เสมอและท่าทางอันอ่อนโยนและความเข้าอกเข้าใจ พร้อมจะปกป้องทุกเมื่อของวาสิฏฐีนี้เอง ที่ทำให้วีรนุชประทับใจในตัวของเพื่อนคนนี้ วาสิฏฐีคือผู้หญิงที่เป็นผู้หญิงทั้งเนื้อทั้งตัว วาสิฏฐีอ่อนหวานน่ารัก แต่ก็เด็ดเดี่ยวเข
ตอนที่27.วาสิฏฐียิ้มปลื้มปริ่มกับตัวเอง ขณะเข้ามาเปลี่ยนชุดเป็นชุดราตรีสำหรับทานมื้อค่ำกับครอบครัวซึ่งเป็นชุดราตรีสั้นฟูฟ่องแบบเรียบง่ายแต่หรูหราสีฟ้าสดใสซึ่งเป็นสีโปรดของเธอ“แหม... หน้าบานเหลือเกินนะแม่คุณ”วีรนุชเดินมากระแซะเพื่อนรักอย่างหมั่นไส้ ร่างระหงในชุดเดรสสั้นเหนือเข่าฟูฟ่องสีม่วงอ่อนคล้ายกับชุดของเจ้าสาว แม้แบบจะเรียบง่ายแต่ก็ส่งผลให้ผู้สวมใส่งดงามราวเจ้าหญิงตัวน้อยแสนซนงดงามไม่ต่างจากเจ้าสาวในค่ำคืนนี้นั่งลงตรงหน้าเจ้าสาวแสนสวย“แหงล่ะ คืนนี้เป็นคืนของฉันนี่นา เจ้าสาวอย่างฉันก็ต้องสวยที่สุดหน้าบานที่สุดอยู่แล้ว”“เธอโชคดีจังนะที่ได้แต่งงานกับพี่ธีม ได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรัก”“ถ้าเธอเจอคนที่รัก เธอก็จะได้แต่งงานกับเขา และเอก็จะมีความสุขเหมือนกันกับฉัน...”“ไหนล่ะคนที่ฉันรักและเขาก็รักฉันน่ะ มีที่ไหนกัน ตั้งแต่คบกันมาเธอเคยเห็นฉันคบใครจริงจัง หรือมีใครมาคบฉันจริงจังมั่งไหมล่ะ ผู้ชายที่เข้ามาหาฉันมีแต่พวกหน้าหม้อ ตอแหลไปวันๆ คบฉันเพื่ออยากใช้ฉันเป็นสะพานไปสู่ดวงดาว คบกับฉันเพราะฉันรวย เพราะพ่อฉันเป็นประธานบริษัท คนพวกนั้นไม่มีใครจริงใจกับฉันสักคน ขนาดเพื่อนผู้หญิงก็ยังไม่
ตอนที่26. “คุณหญิงนราครับ ภารกิจของลูกชายสุดหล่อสำเร็นลุล่วงนะครับ คุณหญิงแม่จัดการเตรียมงานแต่งได้เลย”“ย่ะพ่อคุณ แต่กว่าจะสำเร็จก็ทำเอาแม่ลุ้นจนเหนื่อยนะ น่าจะให้หนูวาเล่นตัวมากกว่านี้หน่อย”“อย่าบอกนะครับว่าทั้งหมดนี่คุณแม่วางแผนแกล้งผม”“แล้วไม่ได้หรือไงจ๊ะ ก็เราปากแข็งก่อนนี่นา แม่ก็เลยบอกหนูวาให้เล่นตัวมากหน่อย อย่ายอมใจอ่อนง่ายๆ แต่ไม่นึกเลยว่าหนูวาจะยอมใจอ่อนงานขนาดนั้น”“โอ๊ย คุณแม่ครับ แค่นี้ลูกชายคุณแม่ก็แทบหัวใจสลายแล้วนะครับ คอยดูนะผมจะจัดการลงโทษยัยหนูวาของคุณแม่หนักๆ เลยโทษฐานแกล้งให้ผมทรมานใจ”ปากพูดสายกับผู้เป็นแม่แต่สายตาจับจ้องอยู่ที่หญิงสาวอย่างหมายมาด วาสิฏฐีพยายามจะดิ้นรนออกจากวงแขนแข็งแรงเมื่อรู้ว่าชะตากรรมของตนจะเป็นอย่างไรในตอนนี้ ถ้าไม่หนีไปตอนนี้มีหวังโดนเขาจับกินทั้งตัวแน่นอน“จะทำอะไรก็ระวังหน่อยก็แล้วกัน เดี๋ยวหลานแม่จะตกใจขวัญหนีดีฝ่อ”“นี่คุณแม่รู้แล้วหรือครับว่าวาท้อง”“แม่ก็ไม่แน่ใจนักหรอก แต่จากประสบการณ์ แม่มั่นใจว่าหนูวากำลังจะมีหลานให้แม่แน่นอน เอาล่ะ ตอนเย็นกลับมาฉลองกับแม่ก็แล้วกัน แม่จะเตรียมของอร่อยไว้ให้ แล้วอย่าทำให้สะใภ้ของแม่มีรอยขีดข่วนเ