แชร์

ตอนที่ 6 รอแค่เวลา

ผู้เขียน: จินต์พิชา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-25 22:40:48

 

เอวาริณในวัย 20 ปีกำลังช่วยมารดาเลือกซื้อของในซุเปอร์มาเก็ตแห่งหนึ่งเพราะวันนี้มารดาของเธอตั้งใจจะอาหารไทยเพื่อฉลองวันเกิดให้กับหญิงสาว

“แม่คะกินข้าวเย็นแล้วเอวาขอไปฉลองกับเพื่อนได้ไหมคะ”

“เพื่อนที่ว่ามีใครบ้างล่ะ”

“ก็กลุ่มเดิมค่ะแม่มีแต่เพื่อนผู้หญิงทั้งนั้น”

“ปีนี้หนูอายุ 20 แล้วมีหนุ่มๆ ในมหาลัยมาจีบบ้างไหม”

“ลูกสาวแม่สวยขนาดนี้จะไม่มีได้ยังไงล่ะคะ”

“แล้วมีคนไหนเข้าตาบ้างหรือยังล่ะ”

“ก็ดูๆ อยู่ค่ะแม่” เธอตอบไปเรื่อยแต่จริงๆ ไม่เคยคิดจะมองใครเลย

“อย่าลืมพามาแนะนำให้แม่รู้จักบ้างนะ”

“แม่ไม่ว่าเหรอคะถ้าเอวาจะมีแฟน”

“ลูกสาวแม่โตแล้วจะมีแฟนก็ไม่ผิดอะไร แต่แม่ขอแค่อย่าให้เสียการเรียนก็พอ”

“เอวาไม่ให้เสียการเรียนหรอกค่ะแม่” เอวาริณให้สัญญากับมารดาแต่จริงๆ แล้วเธอไม่คิดจะคบกับใครเลยเพราะยังไม่สามารถลืมธีรกานต์ได้ แม้ว่าจะไม่ได้ติดต่อกันมานานหลายปีก็ตาม

“สุขสันต์วันเกิดนะครับเอวา” หนุ่มอังกฤษหอบดอกไม้ช่อโตมาให้หญิงสาวเมื่อเธอเดินเข้ามาในผับที่นัดกับเพื่อนๆ ไว้

“ขอบคุณนะเลโอ” หญิงสาวรับช่อดอกไม้แล้วกล่าวขอบคุณด้วยภาษาอังกฤษชัดแจ๋ว

งานฉลองไม่ได้มีอะไรพิเศษเพราะเจ้าของวันเกิดบอกทุกคนว่าเธอไม่อยากได้เค้กหรือของขวัญอะไรเลย ขอแค่เพื่อนๆ ออกมาดื่มมาสนุกด้วยกันเท่านั้นก็พอ

“ขอให้มีความสุขมากๆ นะเอวา” ชัญญานุชเพื่อนคนไทยเพียงคนเดียวในกลุ่มกล่าวอวยพรพร้อมทั้งชนแก้วก่อนจะยกขึ้นดื่ม

“ขอบใจจ้ะชัญญ่า”

เพื่อนคนอื่นก็ผลัดกันอวยพรจนครบจากนั้นทุกคนก็ดื่มและเต้นกันอย่างสนุกสนาน

“เอวาผมขอคุยด้วยหน่อยสิ” เลโอก้มมากระซิบแข่งกับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม

“ว่ามาสิรอฟังอยู่” หญิงสาวพูดไปด้วยเต้นไปด้วย

“ในนี้มันดัง ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเอวาจริงๆ นะ ไปคุยข้างนอกได้ไหม”

เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของเขาเอวาริณก็หยุดเต้นและวางแก้วลงบนโต๊ะจากนั้นก็เดินตามเขาออกมานั่งบริเวณหน้าผับ

“เอาล่ะ เลโจะคุยอะไรก็รีบคุยเลยนะ”

“วันนี้วันเกิดผม”

“อ้าว! ตายจริงเราไม่รู้มาก่อนเลยไม่ได้เตรียมของขวัญให้ สุขสันต์วันเกิดนะ ส่วนของขวัญเดี๋ยวเราให้ย้อนหลังนะ ขอเวลาไปซื้อก่อน” หญิงสาวอวยพรและรู้สึกผิดที่ไม่มีของขวัญให้เขา เธอกับเลโอเพิ่งรู้จักกันไม่นานเขาเป็นเพื่อนของเพื่อนอีกทีและไม่ได้เรียนคณะเดียวกับเธอ

“ไม่ต้องไปซื้อหรอก”

“น้อยใจเหรอที่เพื่อนคนอื่นจำวันเกิดไม่ได้”

“เปล่า ผมไม่สนใจคนอื่นผมสนใจแค่คุณ ผมอยากขออะไรสักอย่างได้ไหม”

“อะไร”

“ผมอยากขอเอวาเป็นแฟน”

เมื่อได้ฟังแล้วเอวาริณก็เงียบเพราะคำพูดของเลโอทำให้หญิงสาวนึกถึงตนเองในวัย 15 ปี ในวันนั้นเธอก็ขอใครคนหนึ่งเป็นแฟนและถูกปฏิเสธเพียงเพราะยังเด็ก ซึ่งต่างจากตอนนี้ที่เธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้วและกำลังถูกผู้ชายขอเป็นแฟน

อันที่จริงเลโอก็เป็นผู้ชายที่สาวๆ ในมหาวิทยาลัยให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย เขาทั้งหล่อรวยและยังเป็นถึงนักกีฬาฟุตบอลของมหาวิทยาลัย แต่สำหรับเอวาริณแล้วเธอมองเขาเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น

“เลโอ” เธอมองหน้าและเรียกชื่อเขาเบาๆ

“ได้ไหมเอวา” ชายหนุ่มถามย้ำ

“เราไม่ได้รังเกียจเลโอเลยนะ”

“หมายความว่าตกลงใช่ไหม”

“เราขอโทษ ตอนนี้เรายังไม่คิดเรื่องมีแฟนเลย เราอยากรีบเรียนให้จบก่อน”

“ไม่เป็นไรผมรอได้ อีกสองปีเราก็จะเรียนจบถึงตอนนั้นผมหวังว่าเราจะได้เป็นแฟนกันนะ”

“ไม่โกรธกันใช่ไหม” หญิงสาวถามเพราะกลัวว่าจะเสียเพื่อนนิสัยดีอย่างเขาไป

“จะโกรธทำไม เอวายังไม่ได้ปฏิเสธสักหน่อย ระหว่างนี้เราก็เป็นเพื่อนกันไปก่อน แต่เอวาห้ามมีแฟนนะ”

“อือ” หญิงสาวรับปากเพราะตนเองก็ยังไม่คิดจะมีใครในตอนนี้ เธอจะรอให้เรียนจบอย่างที่บอกกับเลโอและจะกลับไปทวงสัญญาที่ธีรกานต์เคยให้ไว้ แม้จะไม่ได้ติดต่อกับเขาโดยตรงแต่ก็ยังได้ยินเรื่องราวของชายหนุ่มผ่านทางพีรกันต์น้องชายของเขาที่ยังติดต่อกับเธออยู่ตลอด

หลังจากคุยกันแล้วทั้งสองคนก็เดินกลับเข้าไปในผับอีกครั้ง จากนั้นเอวาริณกับเพื่อนก็ดืี่มกันจนถึงเวลาผับปิด

เอวาริณไปนอนค้างที่อพาร์ตเม้นท์ของชัญญานุชส่วนคนอื่นก็แยกย้ายกันกลับ

“คุยอะไรกับเลโอเหรอ เห็นหายไปนานเลย” ชัญญานุชถามหลังจากอาบน้ำและปิดไฟเตรียมจะนอนกันแล้ว

“เขาขอเป็นแฟน”

“ในที่สุดเขาก็กล้าขอสักทีนะ”

“ชัญญ่ารู้มาก่อนเหรอ”

“รู้สิ เราดีใจด้วยนะ เลโอน่ะขวัญใจสาวๆ เลย แต่เขาเหมาะสมกับเอวาที่สุด คนหนึ่งก็หล่อมากอีกคนก็สวยมาก”

“แต่เรายังไม่ตอบตกลง”

“อ้าว ทำไมล่ะหรือเอวามีคนอื่นแต่เราไม่เคยเห็นเอวาคุยกับผู้ชายคนไหนเลยนะ” เพราะสนิทกันมาหลายปีแต่ก็ยังไม่เคยเห็นเพื่อนสนิทกับผู้ชายคนไหนเท่ากับเลโอมาก่อน

“ไม่รู้เรียกว่ามีคนอื่นได้ไหม”

“อะไร ยังไงเล่าให้ฟังหน่อยสิ”

“อยากฟังจริงๆ เหรอ”

“ใช่สิ เราอยากรู้ว่าเพราะอะไรเอวาถึงปฏิเสธเลโอ”

“ฟังแล้วห้ามหัวเราะกันนะ” เอวาริณบอกกับเพื่อนจากนั้นเธอก็เล่าเรื่องของตนเองในวัย 15 ปีให้กับชัญญานุชฟัง เรื่องที่เธอเก็บเอาไว้คนเดียวมาตลอดห้าปี

“ถ้าเขาจำเรื่องนี้ไม่ได้ เอวาจะเสียเวลารอเขาเปล่าๆ นะ”

“พี่กานต์ไม่ใช่คนขี้ลืมนะ เขาต้องจำได้สิ” หญิงสาวบอกเพื่อนไปทั้งที่คนเองก็ยังไม่แน่ใจเพราะไม่ได้คุยกับเขานานแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ติดต่อกันก็ในวันเกิดตอนที่เอวาริณอายุได้ 16 ปีและหลังจากนั้นเขาก็ไม่เคยติดต่อมาเลย แต่หญิงสาวก็ส่งอีเมลไปอวยพรวันเกิดให้เขาทุกปี

“ถ้าเขามีแฟนแล้วล่ะ”

“ยังนะ เขายังไม่มีแฟน บางทีเขาอาจจะรอเราอยู่”

“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดี แต่เอวาไม่คิดเหรอว่าเขาอาจจะมีแฟนแล้วแต่คนที่บ้านไม่รู้ ผู้ชายอายุขนาดนั้นไม่น่าจะยังโสด”

“แต่น้องชายเขาบอกแบบนั้น”

“เขาอาจจะไม่รู้หรือรู้แต่ไม่บอกเอวาก็ได้นะ” ชัญญานุชไม่เชื่อว่าธีรกานต์จะยังโสด

“แล้วเราจะรู้ความจริงได้ยังไง”

“ก็ต้องไปเห็นกับตาไงล่ะ”

“แต่เรากลับไปตอนนี้ไม่ได้” เพราะไม่รู้จะเอาเหตุผลอะไรมาบอกมารดาว่าจะกลับเมืองไทย

“ก็รอเรียนจบสิ กลับพร้อมกันเลย”

“เราก็คิดจะกลับตอนเรียนจบ”

“จะกลับไปหาพี่เขาจริงๆ เหรอ”

“ก็แค่กลับไปถามเขาอีกครั้ง”

“กลัวคำตอบไหม”

“ก็นิดหน่อย แต่ถ้าพี่กานต์เขาลืมเรื่องของเราไปแล้วหรือปฏิเสธเราก็จะได้เคลียร์ความรู้สึกของตัวเองด้วย”

“ตอนนั้นเอวายังเด็ก บางที่ความรู้สึกที่มีให้เขามันอาจจะแค่ความชื่นชอบก็ได้นะ”

พี่กานต์ก็พูดแบบนั้นเหมือนกันเราเลยคิดว่าจะลองไปเจอเขาอีกสักครั้งจะได้แน่ใจด้วยว่าความรู้สึกของเรามันเปลี่ยนไปไหม

“เหลือเวลาอีกตั้งสองปี ระหว่างนี้ไม่คิดจะลองคบใครบ้างเหรอ”

“ถ้าเราจะคบกับใครเราก็อยากเต็มที่กับเขานะ แต่ถ้ายังมีเรื่องพี่กานต์ติดอยู่ในใจแบบนี้มันก็คงไม่แฟร์กับคนที่คบด้วย”

“มันก็จริงนะถ้างั้นเวลาที่เหลือเราตั้งใจเรียนกันดีกว่านะเรียนจบจะได้กลับเมืองไทยพร้อมๆ กัน”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เพลิงรักหมอกานต์   ตอนที่30 เพลิงรักหมอกานต์ (ตอนจบ)

    หลังจากที่ทุกคนออกจากห้องไปแล้วบ่าวสาวก็มีเวลาอยู่ด้วยกันตามลำพัง“เหนื่อยไหมครับ”“ไม่ค่ะ”“งานวันนี้เป็นพิธีในโบสถ์เราจัดแบบเรียบง่ายแต่ถ้ากลับไปที่เมืองไทยงานจะเป็นอีกแบบ”“ทำไมต้องจัดสองที่ล่ะคะ เอวาว่ามันเปลือง”“พี่ยินดีจ่าย พี่อยากให้ทุกคนรู้ว่าพี่แต่งงานกับเอวา พ่อกับแม่ของพี่ก็อยากให้ทุกคนรู้ว่าลูกชายคนโตของท่านแต่งงานแล้ว อีกอย่างสาวๆ จะได้เลิกมาสนใจพี่”“เอวาชอบข้อสุดท้ายที่สุดเลยค่ะ”“เอาละวันนี้เราเหนื่อยมามากแล้วพี่ว่ารีบไปอาบน้ำกันดีกว่าพี่ช่วยถอดชุดให้นะ”“เอวาถอดเองก็ได้”“แต่พี่อยากช่วยนี่คะ ให้พี่ช่วยนะคะ”เมื่อเขาพูดเพราะๆ แบบนี้เอวาริณก็ต้องยอมใจอ่อนถึงแม้จะรู้สึกอายมากแค่ไหนก็ตาม“พี่กานต์อย่าจ้องแบบนั้นสิคะเอวาอายนะ”“อายทำไมพี่เคยเห็นมาทั้งตัวแล้วนะ”เขาหัวเราะร่วนก่อนจะรีบถอดชุดของเธอและของตนเองออกจนร่างกายของทั้งสองไม่เหลือเสื้อผ้าเลยสักชิ้นเอววาริณตัวสั่นเมื่อเขาพาเธอมายังห้องน้ำแล้วค่อยๆ ชโลมครีมอาบน้ำลงบนผิวเธออย่างช้าๆ“คิดถึงจัง”ธีรกานต์กระซิบข้างหูและขยับเขามากอดเธอจนแน่น“เราเจอกันทุกวันนะคะ”“เอวาก็รู้ว่าพี่หมายถึงอะไร” เสียงเขาแหบพร่าทำให้คนฟังขนลุ

  • เพลิงรักหมอกานต์   ตอนที่ 29 เปลี่ยนใจไม่ได้แล้ว

    ธีรกานต์โทรศัพท์ไปบอกกับมารดาว่าตนเองคุยกับมารดาของเอวาริณแล้วและอยากให้ท่านกับบิดามาช่วยพูดกับบิดาของหญิงสาวเพราะอาจอห์นจะค่อนข้างเกรงใจบิดาของตนเองอยู่มาก“แม่ดีใจด้วยนะกานต์ แม่กับพ่อจะรีบไป”“ขอบคุณครับแม่”พอวางสายจากมาดราแล้วธีรกานต์ก็กลับเขามายังห้องรับแขกและนั่งคุยกับมารดาของคนรักอีกพักใหญ่“วันนี้เป็นวันหยุดของร้าน แม่ว่าเอวาออกไปเที่ยวกับพี่เขาก็ได้นะ”“พี่กานต์อยากไปเที่ยวที่ไหนคะ”“มีหลายที่เลยที่อยากไป”“แต่เราต้องกลับมาทานข้าวเย็นที่บ้านนะคะ วันนี้พ่อบอกว่าจะทำสเต็กค่ะ”“กานต์ก็มากินด้วยกันนะ เดี๋ยวอาจะบอกอาจอห์นทำเผื่อ”“ขอบคุณครับ”“เราไปเดินเที่ยวใกล้ก็ได้ค่ะ วันนี้อากาศไม่ร้อนเท่าไหร่”“พี่ว่าเรื่องเที่ยวเอาไว้ก่อนดีไหม พี่อยากให้เอวาพาไปซื้อเสื้อผ้า”“ไม่ได้เอามาจากเมืองไทยเหรอคะ”“พี่รีบก็เลยเอามาแค่นิดหน่อย กะว่าจะมาหาซื้อเอาข้างหน้า”“ได้เลยค่ะ เอวารู้จักร้านเยอะเลย”“รีบไปกับเถอะ เดี๋ยวจะกลับไม่ทันข้าวเย็นนะ”“ค่ะแม่”“ผมไปก่อนนะครับอาแก้ว”เอวาริณพาชายหนุ่มมายังห้างเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของตนเองเพราะที่นี่มีร้านเสื้อผ้าที่ครอบครัวของเธอมักจะมาหาซื้อประจ

  • เพลิงรักหมอกานต์   ตอนที่ 28 ไม่คิดว่าหมอจะเป็นคนแบบนี้

    เอวาริณพามารดาไปตรวจตามนัดเรียบร้อยจากนั้นก็พากันกลับมาที่บ้าน“แผลแม่แห้งดีแบบนี้อีกไม่กี่วันก็คงกลับไปทำงานได้แล้ว”“เอวาอยากให้พักผ่อนอีกนิดค่ะ ช่วงนี้เอวาดูร้านเองได้”“แล้วงานที่เมืองไทยล่ะ เราบอกพี่กันต์หรือยังว่ากลับมาอังกฤษ”“บอกแล้วค่ะ พี่กันต์ไม่ว่าอะไร เขาบอกว่าพร้อมตอนไหนก็ค่อยกลับไปทำ”“เดี๋ยวแม่ก็หายดีแล้ว หนูก็กลับได้”“ทำไมแม่อยากให้เอวากลับจังคะ มีอะไรหรือเปล่า”“แม่ก็แค่อยากให้หนูไปช่วยงานพี่เขา”“แค่นั้นจริงเหรอคะ” เอวาริณรู้ว่ามารดาของตนอยากให้ตนกับพีรกันต์คบกันซึ่งมันไม่มีทางเป็นไปได้เลย“แม่อยากให้หนูสนิทกับพี่กันต์”“ตอนนี้เราก็สนิทกันนะคะ”“แต่อยากให้สนิทมากกว่านี้”“แม่ก็บอกมาเลยสิคะว่าอยากให้เอวากับพี่กันต์คบกัน”“ลูกสาวแม่ฉลาดไม่เบาเลยนะ แล้วตกลงจะลองคบกันดูไหมล่ะ แม่ว่าหนูกับพี่กันต์ก็เหมาะสมกันดีนะ เรื่องนี้ป้านาก็เห็นด้วยกับแม่ ป้าเขาอยากได้หนูไปเป็นลูกสะใภ้”“ถ้าเอวากับพี่กันต์ไม่เป็นแบบที่กับป้านาคุยกันแม่จะเสียใจไหมคะ แล้วแม่กับป้านายังจะคุยกันเหมือนเดิมไหม”“มันคนละเรื่องกันนะ เรื่องของหนูกับพี่กันต์เรื่องหนึ่ง แม่กับป้านาก็เรื่องหนึ่ง ถึงลูกสองคนจะไม

  • เพลิงรักหมอกานต์   ตอนที่ 27 เราต้องเลิกกันใช่ไหม

    จากนั้นพนักงานล้างจานคนใหม่ก็ยืนประจำตำแหน่งเขาล้างจานใบแล้วใบเล่าจนกระทั่งถึงเวลาสี่ทุ่มซึ่งลูกค้าคนสุดท้ายเพิ่งออกจากร้านไป“เป็นไงคะเหนื่อยไหม”“นิดหน่อยเอวาล่ะ พี่เห็นเราหัวหมุนเลยเก่งเหมือนกันนะ”“เอวายังเก่งไม่เท่าแม่เลยค่ะ แม่ทำได้ดีกว่านี้เอวาแค่พยายามทำให้เต็มที่”“แต่พี่ว่าได้ขนาดนี้ก็เก่งมากแล้ว เอาละเดี๋ยวตรงนี้พี่จัดการเองเอวาไปนั่งพักนะ”“ไม่เป็นไรค่ะอีกนิดเดียวช่วยกันจะได้เสร็จไวๆ”วันนี้ร้านของหญิงสาวปิดดึกกว่าทุกครั้งเพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดพนักงานทุกคนจึงช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่“พี่กานต์หิวไหมคะ”“นิดหน่อย เอวาล่ะพี่เห็นตอนเย็นเรากินข้าวไปแค่นิดเดียว”“เอวาไม่ค่อยหิวค่ะ”“เราสั่งพิซซ่ามากินไหม จะได้คุยกันด้วย” เขาเห็นว่าร้านพิซซ่าที่อีกฝั่งของถนนยังเปิดอยู่จึงเสนอขึ้น“ได้ค่ะ”ไม่นานนักพิซซ่าก็มาส่ง ทั้งสองคนนั่งทานอยู่กลางร้านซึ่งตอนนี้พนักงานทุกคนกลับไป“พี่กานต์มาหาเอวาถึงพี่นี่คงไม่ใช่แค่มาเที่ยวใช่ไหมหรือมาตามกลับใช่ไหมคะ”“พี่เป็นห่วงก็เลยมาดูให้แน่ใจว่าเอวาสบายดีไหม”“แล้วรู้ได้ยังไงคะว่าเอวากลับมาที่นี่”“พี่ไปหาเอวาที่บ้านคุณยายท่านก็เลยบอกว่าเอวากลับมา

  • เพลิงรักหมอกานต์   ตอนที่ 26 อยากกลับตอนไหนก็ตามใจ

    ธีรกานต์มาถึงอังกฤษแล้วก็รีบตรงไปยังร้านอาหารไทยของอาวาสิการ์ทันที แต่เขาก็เจอแค่พนักงานของร้านที่กำลังช่วยกันเก็บกวาดเพราะตอนนี้เลยเวลาร้านปิดแล้วชายหนุ่มถามถึงอาการป่วยแต่พนักงานในร้านก็ไม่มีใครยอมบอกเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้านายซึ่งธีรกานต์ก็เข้าใจเรื่องนี้ดี“ผมขอที่อยู่ที่บ้านของอาแก้วได้ไหมครับ” เมื่อไม่มีใครบอกเขาเลยไปดูด้วยตาของตัวเอง“ขอโทษด้วยพวกเราคงให้ที่อยู่นั่นกับคุณไม่ได้”“ผมรู้ว่าพวกคุณคงไม่อยากให้ที่อยู่เจ้านายกับผม แต่ผมขอถามหน่อยได้ไหมว่าเอวามาที่นี่หรือเปล่า ผมเป็นคนรักของเธอ”“ฉันว่าคุณหาข้ออ้างที่ดีกว่านี้ไหม หนูเอวายังไม่มีคนรัก”“ผมรู้ว่ามันเชื่ออยาก แต่ผมยืนยันว่ามันคือเรื่องจริง ขอแค่ผมได้พบกับเธอ”“ถ้าคุณเป็นคนรักของหนูเอวาจริงก็คงไม่มามาตามหาที่ร้านแบบนี้ และก็คงมีเบอร์โทรศัพท์ของหนูเอวา”“เอวาทำโทรศัพท์ตกน้ำผมก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอเปลี่ยนมาใช้เบอร์ไหน”“พวกเราต้องขอโทษด้วยที่ให้ที่อยู่หรือเบอร์ติดต่อของเธอไม่ได้จริงๆ นี่มันก็ดึกแล้วฉันว่าคุณกลับไปพักก่อนดีกว่าถ้าอยากเจอพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ บางทีหนูเอวาอาจจะเข้ามาที่ร้านก็ได้” แม่ครัวคนไทยบอกเขาด้วย

  • เพลิงรักหมอกานต์   ตอนที่ 25 ผู้หญิงของน้องชาย

    “แม่ครับผมขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม” ธีรกานต์มาถึงบ้านก็รีบเข้าไปหามารดาในห้องนั่งเล่นทันที“ดูท่าทางรีบร้อนจัง เรื่องด่วนเหรอลูก”“ครับแม่”“เอาล่ะจะคุยอะไรก็ว่ามาเลยแม่พร้อมจะฟังแล้ว”“เรื่องนายกันต์กับเอวาครับ”“แม่ก็กำลังอยากจะคุยเรื่องนี้อยู่พอดีเลย ช่วงนี้สองคนนั้นเป็นยังไงกันบ้างแม่ไม่เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันเลย แต่เอวากับลูกนี่สิดูสนิทกันขึ้นนะ”“ครับ เราสองคนสนิทกันมากขึ้น”“อีกหน่อยน้องก็มาเป็นคนในครอบครัวสนิทกันไว้ก็ดีแล้วล่ะ แต่ก็อย่าสนิทกันจนเกินงามเพราะเราเป็นผู้ชายน้องเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาจะว่าน้องเอาได้นะ” เธอกังวลนิดหน่อยเพราะลูกชายคนโตก็ยังโสด ถ้ามีข่าวแบบนี้ออกไปก็คงไม่ดีแน่ๆ“แม่คิดว่าเอววากับนายกันต์จะเปิดใจคบกันจริงๆ เหรอครับ ผมว่ามันเป็นไปได้ยากนะครับ”“กานต์พูดเหมือนไปรู้อะไรมา หรือนายกันต์ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้”“ผมยังไม่ได้ถามนายกันต์”“ยังไม่ถามแล้วรู้ได้ยังไง”“ผมมีเรื่องจะสารภาพกับแม่ ถ้าแม่จะโกรธผมก็ไม่ว่าอะไร ขอแค่แม่อย่าห้ามก็พอ”“กานต์ไปทำอะไรมาถึงคิดว่าแม่จะโกรธ ลองเล่ามาสิ แม่ว่าเรื่องมันคงใหญ่มากใช่ไหมสีหน้าเราถึงได้กังวลแบบนี้”“เรื่องมันใหญ่มากและผมคิดว่า

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status