ถ้าอยากเป็นแฟนพี่ก็ต้องเรียนให้จบ คำพูดเมื่อ 7 ปี ก่อนทำให้เธอกลับมาเพื่อทวงสัญญา แต่พอกลับมาแทนที่เขาเธอจะยอมเป็นแฟนเขาง่ายๆ แต่กลับเป็นเขาที่คลั่งรักถึงขั้นยอมขัดคำสั่งของมารดา
View More“เฮ้ย ไอ้กานต์พรุ่งนี้วันเกิดมึงพวกเราไปฉลองกันหน่อยไหมวะ” เด็กหนุ่มหัวเกรียนสวมกางเกงขาสั้นสีกากีถามเพื่อนที่แต่งกายคล้ายๆ กัน
“ปีนี้บ้านกูจะจัดงานวันเกิดให้พวกมึงไปกันไหม” ธีรกานต์หรือกานต์ตอบเพื่อน
“กูอยากไป แต่ขอผ่าน” ภัทรดนัยหรือมิกซ์ตอบเป็นคนแรก
“กูก็เหมือนกัน” กอล์ฟหรือชวพลตอบตามมาอีกคน
“ทำไมวะ หรือพวกมึงกลัวพ่อกู พ่อกูก็แค่หน้าดุแต่ใจดี”
“กูไม่ได้กลัวพ่อมึงแต่กูกลัวอดแดกเหล้า”
“ไม่อดหรอกพ่อกูไม่ว่าเรากินกันได้เลย” ธีรกานต์รีบบอกเพราะอยากให้เพื่อนมาฉลองวันเกิดด้วยกันที่บ้านของตนเอง
“พ่อมึงอาจจะไม่ว่าแต่กูกลัวแม่มึงจะบอกแม่พวกกูน่ะสิ ยิ่งช่วงหลังมานี่สนิทกันมากขึ้นกว่าเดิม”
“เออกูเห็นด้วยกับไอ้โก้นะ แม่พวกเรามีอะไรก็คุยกันในกลุ่มไลน์ตลอด” ชวพลก็เห็นด้วยกับเพื่อน
“มึงไม่น้อยใจใช่ไหมที่พวกกูไม่ไป” โกสินทร์ถาม
“ไม่หรอกกูก็แค่อยากฉลองกับพวกมึงเพราะไม่รู้ไม่รู้ว่าปีหน้าจะได้เจอกันครบไหม”
“มึงไปฉลองกับครอบครัวก่อนพวกกูรอได้” ภัทรดนัยเข้าใจดีเพราะตอนวันเกิดของตนเองก็อยู่ฉลองกับบิดามารดา
“พวกมึงรอวันศุกร์ได้ไหมเดี๋ยวกูพาพวกมึงไปฉลอง จะไปร้านไหนว่ามาเลย”
“ใครเขาจะให้เด็กอย่างพวกเราเข้า กูว่าไปบ้านไอ้มิกซ์ดีกว่า”
“ทำไมต้องเป็นบ้านกูด้วยวะไอ้กอล์ฟ” เจ้าของบ้านถามเพราะบ้านของเขานั้นอยู่ไกลจากบ้านคนอื่น
“ก็บ้านมึงไม่มีพ่อแม่อยู่ไง ทางสะดวกพวกเราจะเมาแค่ไหนก็ไม่มีใครว่า” ชวพลตอบให้หายสงสัย
“กูเห็นด้วย” โกสินทร์ก็เห็นด้วยอีกคน
“ตกลงไปบ้านไอ้มิกซ์นะกูจะได้เตรียมชุดไปนอนด้วยเลย”
“บ้านกูก็ได้พวกมึงจะกินอะไรกันบ้างกูจะสั่งร้านหน้าปากซอยให้”
“เอาอะไรก็ได้พวกกูกินง่าย”
“ส่วนเหล้าเดี๋ยวกูให้พี่วินไปซื้อให้” โกสินทร์โก้ที่ใช้บริการวินรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเสนอขึ้นเพราะเขาอายุยังไม่ถึง 18 ปีจึงไม่มีร้านไหนขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้
“มึงอยากได้อะไรเป็นของขวัญวันเกิดไหม พวกกูยังไม่รู้ซื้ออะไรเลย”
“ไม่ล่ะ แค่ได้อยู่กับพวกมึงก็โอเคแล้ว” ครอบครัวของเขามีฐานะดีอยู่แล้วจึงไม่เคยขาดอะไร ธีรกานต์เลยไม่อยากอะไรเพราะแค่เพื่อนจำวันเกิดเขาได้มันก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับตนเองแล้ว
“มึงจะไปถามมันทำไมวะ อย่างไอ้กานต์พรุ่งนี้ก็มีของขวัญมาวางที่โต๊ะเพียบทั้งรุ่นเดียวกันทั้งรุ่นน้องไหนจะสาวจากต่างโรงเรียนอีก”
“นั่นสิ เกิดเป็นไอ้กานต์นะโชคดีชะมัด รูปหล่อพ่อรวย”
“ไม่ว่าเทศกาลไหนมันก็ได้ของขวัญเยอะตลอด แต่กูก็ไม่เห็นว่ามันจะเอากลับบ้าน ลำบากพวกกูต้องแอบเอากลับ”
“แต่ก็ดีนะ พวกกูจะได้เอาไปให้สาวโรงเรียนอื่น”
“ไม่รู้ปีนี้สาวๆ จะให้อะไรมึงอีก ปีสุดท้ายแล้วคงได้เยอะแน่ๆ”
“กูอยากได้เป็นพวกของกินข้าง นี่มีแต่ตุ๊กตาตลอด”
“ของฟรีมึงอย่าบ่นเลยไอ้โก้ ไอ้กานต์มันยังไม่เคยบ่น”
“มันไม่บ่นแต่มันก็ไม่เคยเอากลับบ้าน”
เพื่อนของเขาพูดถูกเพราะของขวัญเหล่านั้นเขาไม่เคยอยากได้แต่ที่ต้องไว้ก็เพราะไม่อยากให้ใครต้องเสียน้ำใจ
ธีรกานต์กลับมาถึงบ้านและทานอาหารเย็นกลับครอบครัวแล้วก็มานั่งที่ห้องนั่งเล่นอย่างเคยเพราะเวลานี่เป็นเวลาที่ครอบครัวของของเขาต้องอยู่กันพร้อมหน้า บ้านหลังนี้อยู่กันหลายคนทั้งบิดามารดาน้องชายนอกจากนั้นก็ยังมีเด็กรับใช้ แม่ครัว คนขับรถและคนสวนอีกหนึ่งคน
คุณเอกวิทย์บิดาของเขาเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ที่ตอนนี้กำลังจะขยายไปตามเมืองใหญ่นอกกรุงเทพ ส่วนคุณรัตนาก็ช่วยทำงานอยู่ในฝ่ายบริหาร ธีรกานต์มีน้องชายอยู่คนหนึ่งซึ่งมีอายุห่างจากเขา 4 ปี ทั้งสองสนิทกันมากเพราะเป็นผู้ชายเหมือนกัน
“พรุ่งนี้ก็วันเกิดลูกแล้ว ปีนี้แม่จะไม่ซื้อของขวัญให้นะ แต่แม่จะให้เงินกานต์แล้วให้กานต์ไปซื้อเอง แม่ไม่ค่อยเข้าใจวัยรุ่นเท่าไหร่กลัวจะไม่ถูกใจ” เพราะเห็นว่าลูกชายอายุ 18 ปีแล้วจึงอยากให้เขาไปซื้อของที่ต้องการเอง
“แม่ครับ ถ้าถึงวันเกิดผม แม่ก็จะให้เงินผมแบบนี้ใช่ไหมครับ” พีรกันต์น้องชายของเขารีบถามขึ้นเพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะถึงวันเกิดของตนเองเช่นกัน
“รอให้อายุ 18 เท่าพี่เขาก่อนแล้วแม่จะให้เงินกันต์ไปซื้อของนะ”
“อีกตั้ง 4 ปีนะครับแม่ ผมขอก่อนไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้จ้ะ แม่ให้พี่เขาตอน 18 ลูกก็ต้องได้ตอน 18 เหมือนมันยุติธรรมดีแล้ว”
“อีกตั้ง 4 ปี” เด็กหนุ่มทำหน้าเซ็ง
“พ่อว่าปิดเทอมนี้กานต์ไปสอบใบขับขี่รถยนต์ได้แล้วนะเปิดเทอมจะได้ขับรถไปเรียน แล้วอยากได้รถยี่ห้อไหนก็เลือกมาเดี๋ยวพ่อจะให้เลขาจัดการให้”
“อายุ 18 นี่ได้รถด้วยเหรอครับพ่อ” คนที่ตื่นเต้นไม่ใช่คนได้รถแต่เป็นพีรกันต์
“ก็ใช่น่ะสิ เรียนจบม.6พี่เขาก็เข้าเรียนมหาวิทยาลัยมันมีกิจกรรมที่ต้องทำเอารถไปเรียนเองจะสะดวกกว่า”
“ถ้าผมเรียนจบก็จะได้เหมือนกันใช่ไหมครับพ่อ” เด็กหนุ่มตื่นเต้นแม้ว่าตอนนี้จะยังขับรถไม่เป็นก็ตาม
“แต่ต้องสอบใบขับขี่ให้ผ่านนะพ่อถึงจะซื้อให้”
“ครับพ่อ/ครับ” ลูกชายทั้งสองตอบพร้อมกัน
“พรุ่งนี้เพื่อนของกานต์จะมาด้วยไหม”
“ไม่มาครับแม่ แต่ผมขอไปฉลองกับเพื่อนเย็นวันเสาร์นะครับแล้วก็ค้างที่บ้านไอ้มิกซ์หนึ่งคืน”
“ได้สิ จะซื้ออะไรไปฉลองบ้างมาเอาเงินที่แม่นะ”
“ครับ”
“พี่กานต์ผมขอไปด้วยได้ไหม”
“เด็กอย่างนายไม่เกี่ยว”
“แม่ครับผมว่าพี่เขาต้องแอบไปกินเหล้ากันแน่เลยถึงไม่ยอมให้ผมไปด้วย”
“พี่เขาโตแล้วจะกินเหล่าก็ไม่แปลกหรอก แต่กินแล้วอยู่แต่ในบ้านนะอย่าออกมาข้างนอก ถ้าไปกินแล้วมีเรื่องขึ้นมาพ่อจะไม่ให้ออกไปไหนอีกเลย”
“รับรองไม่มีปัญหาครับ ผมขอตัวไปอ่านหนังสือก่อนนะครับพรุ่งนี้มีเทสย่อย”
“เดี๋ยวสิกานต์”
“ครับแม่”
“พรุ่งนี้แม่จะจัดงานวันเกิดของเราพร้อมกับน้องเอวานะ”
“ยังเด็กข้างบ้านเหรอครับ ทำไมต้องจัดพร้อมกันด้วย”
“ก็น้องเขาเกิดวันเดียวกับกานต์แม่ว่าจัดไปพร้อมกันเลยจะได้ครึกครื้นหน่อยกานต์ไม่มีปัญหาใช่ไหม”
“ไม่มีหรอกครับขอแค่อย่ามางอแงจนหมดสนุกก็พอ”
“น้องไม่เคยงอแงเลยแม่ว่าน้องน่ารักดีนะ กานต์อย่าลืมหาของขวัญวันเกิดให้น้องด้วยนะ
“ครับแม่” ธีรกานต์รับคำก่อนจะเดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านซึ่งเป็นห้องนอนของตนเอง
หลังจากที่ทุกคนออกจากห้องไปแล้วบ่าวสาวก็มีเวลาอยู่ด้วยกันตามลำพัง“เหนื่อยไหมครับ”“ไม่ค่ะ”“งานวันนี้เป็นพิธีในโบสถ์เราจัดแบบเรียบง่ายแต่ถ้ากลับไปที่เมืองไทยงานจะเป็นอีกแบบ”“ทำไมต้องจัดสองที่ล่ะคะ เอวาว่ามันเปลือง”“พี่ยินดีจ่าย พี่อยากให้ทุกคนรู้ว่าพี่แต่งงานกับเอวา พ่อกับแม่ของพี่ก็อยากให้ทุกคนรู้ว่าลูกชายคนโตของท่านแต่งงานแล้ว อีกอย่างสาวๆ จะได้เลิกมาสนใจพี่”“เอวาชอบข้อสุดท้ายที่สุดเลยค่ะ”“เอาละวันนี้เราเหนื่อยมามากแล้วพี่ว่ารีบไปอาบน้ำกันดีกว่าพี่ช่วยถอดชุดให้นะ”“เอวาถอดเองก็ได้”“แต่พี่อยากช่วยนี่คะ ให้พี่ช่วยนะคะ”เมื่อเขาพูดเพราะๆ แบบนี้เอวาริณก็ต้องยอมใจอ่อนถึงแม้จะรู้สึกอายมากแค่ไหนก็ตาม“พี่กานต์อย่าจ้องแบบนั้นสิคะเอวาอายนะ”“อายทำไมพี่เคยเห็นมาทั้งตัวแล้วนะ”เขาหัวเราะร่วนก่อนจะรีบถอดชุดของเธอและของตนเองออกจนร่างกายของทั้งสองไม่เหลือเสื้อผ้าเลยสักชิ้นเอววาริณตัวสั่นเมื่อเขาพาเธอมายังห้องน้ำแล้วค่อยๆ ชโลมครีมอาบน้ำลงบนผิวเธออย่างช้าๆ“คิดถึงจัง”ธีรกานต์กระซิบข้างหูและขยับเขามากอดเธอจนแน่น“เราเจอกันทุกวันนะคะ”“เอวาก็รู้ว่าพี่หมายถึงอะไร” เสียงเขาแหบพร่าทำให้คนฟังขนลุ
ธีรกานต์โทรศัพท์ไปบอกกับมารดาว่าตนเองคุยกับมารดาของเอวาริณแล้วและอยากให้ท่านกับบิดามาช่วยพูดกับบิดาของหญิงสาวเพราะอาจอห์นจะค่อนข้างเกรงใจบิดาของตนเองอยู่มาก“แม่ดีใจด้วยนะกานต์ แม่กับพ่อจะรีบไป”“ขอบคุณครับแม่”พอวางสายจากมาดราแล้วธีรกานต์ก็กลับเขามายังห้องรับแขกและนั่งคุยกับมารดาของคนรักอีกพักใหญ่“วันนี้เป็นวันหยุดของร้าน แม่ว่าเอวาออกไปเที่ยวกับพี่เขาก็ได้นะ”“พี่กานต์อยากไปเที่ยวที่ไหนคะ”“มีหลายที่เลยที่อยากไป”“แต่เราต้องกลับมาทานข้าวเย็นที่บ้านนะคะ วันนี้พ่อบอกว่าจะทำสเต็กค่ะ”“กานต์ก็มากินด้วยกันนะ เดี๋ยวอาจะบอกอาจอห์นทำเผื่อ”“ขอบคุณครับ”“เราไปเดินเที่ยวใกล้ก็ได้ค่ะ วันนี้อากาศไม่ร้อนเท่าไหร่”“พี่ว่าเรื่องเที่ยวเอาไว้ก่อนดีไหม พี่อยากให้เอวาพาไปซื้อเสื้อผ้า”“ไม่ได้เอามาจากเมืองไทยเหรอคะ”“พี่รีบก็เลยเอามาแค่นิดหน่อย กะว่าจะมาหาซื้อเอาข้างหน้า”“ได้เลยค่ะ เอวารู้จักร้านเยอะเลย”“รีบไปกับเถอะ เดี๋ยวจะกลับไม่ทันข้าวเย็นนะ”“ค่ะแม่”“ผมไปก่อนนะครับอาแก้ว”เอวาริณพาชายหนุ่มมายังห้างเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของตนเองเพราะที่นี่มีร้านเสื้อผ้าที่ครอบครัวของเธอมักจะมาหาซื้อประจ
เอวาริณพามารดาไปตรวจตามนัดเรียบร้อยจากนั้นก็พากันกลับมาที่บ้าน“แผลแม่แห้งดีแบบนี้อีกไม่กี่วันก็คงกลับไปทำงานได้แล้ว”“เอวาอยากให้พักผ่อนอีกนิดค่ะ ช่วงนี้เอวาดูร้านเองได้”“แล้วงานที่เมืองไทยล่ะ เราบอกพี่กันต์หรือยังว่ากลับมาอังกฤษ”“บอกแล้วค่ะ พี่กันต์ไม่ว่าอะไร เขาบอกว่าพร้อมตอนไหนก็ค่อยกลับไปทำ”“เดี๋ยวแม่ก็หายดีแล้ว หนูก็กลับได้”“ทำไมแม่อยากให้เอวากลับจังคะ มีอะไรหรือเปล่า”“แม่ก็แค่อยากให้หนูไปช่วยงานพี่เขา”“แค่นั้นจริงเหรอคะ” เอวาริณรู้ว่ามารดาของตนอยากให้ตนกับพีรกันต์คบกันซึ่งมันไม่มีทางเป็นไปได้เลย“แม่อยากให้หนูสนิทกับพี่กันต์”“ตอนนี้เราก็สนิทกันนะคะ”“แต่อยากให้สนิทมากกว่านี้”“แม่ก็บอกมาเลยสิคะว่าอยากให้เอวากับพี่กันต์คบกัน”“ลูกสาวแม่ฉลาดไม่เบาเลยนะ แล้วตกลงจะลองคบกันดูไหมล่ะ แม่ว่าหนูกับพี่กันต์ก็เหมาะสมกันดีนะ เรื่องนี้ป้านาก็เห็นด้วยกับแม่ ป้าเขาอยากได้หนูไปเป็นลูกสะใภ้”“ถ้าเอวากับพี่กันต์ไม่เป็นแบบที่กับป้านาคุยกันแม่จะเสียใจไหมคะ แล้วแม่กับป้านายังจะคุยกันเหมือนเดิมไหม”“มันคนละเรื่องกันนะ เรื่องของหนูกับพี่กันต์เรื่องหนึ่ง แม่กับป้านาก็เรื่องหนึ่ง ถึงลูกสองคนจะไม
จากนั้นพนักงานล้างจานคนใหม่ก็ยืนประจำตำแหน่งเขาล้างจานใบแล้วใบเล่าจนกระทั่งถึงเวลาสี่ทุ่มซึ่งลูกค้าคนสุดท้ายเพิ่งออกจากร้านไป“เป็นไงคะเหนื่อยไหม”“นิดหน่อยเอวาล่ะ พี่เห็นเราหัวหมุนเลยเก่งเหมือนกันนะ”“เอวายังเก่งไม่เท่าแม่เลยค่ะ แม่ทำได้ดีกว่านี้เอวาแค่พยายามทำให้เต็มที่”“แต่พี่ว่าได้ขนาดนี้ก็เก่งมากแล้ว เอาละเดี๋ยวตรงนี้พี่จัดการเองเอวาไปนั่งพักนะ”“ไม่เป็นไรค่ะอีกนิดเดียวช่วยกันจะได้เสร็จไวๆ”วันนี้ร้านของหญิงสาวปิดดึกกว่าทุกครั้งเพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดพนักงานทุกคนจึงช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่“พี่กานต์หิวไหมคะ”“นิดหน่อย เอวาล่ะพี่เห็นตอนเย็นเรากินข้าวไปแค่นิดเดียว”“เอวาไม่ค่อยหิวค่ะ”“เราสั่งพิซซ่ามากินไหม จะได้คุยกันด้วย” เขาเห็นว่าร้านพิซซ่าที่อีกฝั่งของถนนยังเปิดอยู่จึงเสนอขึ้น“ได้ค่ะ”ไม่นานนักพิซซ่าก็มาส่ง ทั้งสองคนนั่งทานอยู่กลางร้านซึ่งตอนนี้พนักงานทุกคนกลับไป“พี่กานต์มาหาเอวาถึงพี่นี่คงไม่ใช่แค่มาเที่ยวใช่ไหมหรือมาตามกลับใช่ไหมคะ”“พี่เป็นห่วงก็เลยมาดูให้แน่ใจว่าเอวาสบายดีไหม”“แล้วรู้ได้ยังไงคะว่าเอวากลับมาที่นี่”“พี่ไปหาเอวาที่บ้านคุณยายท่านก็เลยบอกว่าเอวากลับมา
ธีรกานต์มาถึงอังกฤษแล้วก็รีบตรงไปยังร้านอาหารไทยของอาวาสิการ์ทันที แต่เขาก็เจอแค่พนักงานของร้านที่กำลังช่วยกันเก็บกวาดเพราะตอนนี้เลยเวลาร้านปิดแล้วชายหนุ่มถามถึงอาการป่วยแต่พนักงานในร้านก็ไม่มีใครยอมบอกเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้านายซึ่งธีรกานต์ก็เข้าใจเรื่องนี้ดี“ผมขอที่อยู่ที่บ้านของอาแก้วได้ไหมครับ” เมื่อไม่มีใครบอกเขาเลยไปดูด้วยตาของตัวเอง“ขอโทษด้วยพวกเราคงให้ที่อยู่นั่นกับคุณไม่ได้”“ผมรู้ว่าพวกคุณคงไม่อยากให้ที่อยู่เจ้านายกับผม แต่ผมขอถามหน่อยได้ไหมว่าเอวามาที่นี่หรือเปล่า ผมเป็นคนรักของเธอ”“ฉันว่าคุณหาข้ออ้างที่ดีกว่านี้ไหม หนูเอวายังไม่มีคนรัก”“ผมรู้ว่ามันเชื่ออยาก แต่ผมยืนยันว่ามันคือเรื่องจริง ขอแค่ผมได้พบกับเธอ”“ถ้าคุณเป็นคนรักของหนูเอวาจริงก็คงไม่มามาตามหาที่ร้านแบบนี้ และก็คงมีเบอร์โทรศัพท์ของหนูเอวา”“เอวาทำโทรศัพท์ตกน้ำผมก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอเปลี่ยนมาใช้เบอร์ไหน”“พวกเราต้องขอโทษด้วยที่ให้ที่อยู่หรือเบอร์ติดต่อของเธอไม่ได้จริงๆ นี่มันก็ดึกแล้วฉันว่าคุณกลับไปพักก่อนดีกว่าถ้าอยากเจอพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ บางทีหนูเอวาอาจจะเข้ามาที่ร้านก็ได้” แม่ครัวคนไทยบอกเขาด้วย
“แม่ครับผมขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม” ธีรกานต์มาถึงบ้านก็รีบเข้าไปหามารดาในห้องนั่งเล่นทันที“ดูท่าทางรีบร้อนจัง เรื่องด่วนเหรอลูก”“ครับแม่”“เอาล่ะจะคุยอะไรก็ว่ามาเลยแม่พร้อมจะฟังแล้ว”“เรื่องนายกันต์กับเอวาครับ”“แม่ก็กำลังอยากจะคุยเรื่องนี้อยู่พอดีเลย ช่วงนี้สองคนนั้นเป็นยังไงกันบ้างแม่ไม่เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันเลย แต่เอวากับลูกนี่สิดูสนิทกันขึ้นนะ”“ครับ เราสองคนสนิทกันมากขึ้น”“อีกหน่อยน้องก็มาเป็นคนในครอบครัวสนิทกันไว้ก็ดีแล้วล่ะ แต่ก็อย่าสนิทกันจนเกินงามเพราะเราเป็นผู้ชายน้องเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาจะว่าน้องเอาได้นะ” เธอกังวลนิดหน่อยเพราะลูกชายคนโตก็ยังโสด ถ้ามีข่าวแบบนี้ออกไปก็คงไม่ดีแน่ๆ“แม่คิดว่าเอววากับนายกันต์จะเปิดใจคบกันจริงๆ เหรอครับ ผมว่ามันเป็นไปได้ยากนะครับ”“กานต์พูดเหมือนไปรู้อะไรมา หรือนายกันต์ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้”“ผมยังไม่ได้ถามนายกันต์”“ยังไม่ถามแล้วรู้ได้ยังไง”“ผมมีเรื่องจะสารภาพกับแม่ ถ้าแม่จะโกรธผมก็ไม่ว่าอะไร ขอแค่แม่อย่าห้ามก็พอ”“กานต์ไปทำอะไรมาถึงคิดว่าแม่จะโกรธ ลองเล่ามาสิ แม่ว่าเรื่องมันคงใหญ่มากใช่ไหมสีหน้าเราถึงได้กังวลแบบนี้”“เรื่องมันใหญ่มากและผมคิดว่า
Comments