LOGINสองแขนกำยำสอดไขว้เข้าหากัน เท้าแข็งแกร่งยื่นล้ำออกมาเกี่ยวไขว้กันไว้เบื้องหน้า ดูเหมือนกับว่ามันเรียบเรื่อยเฉื่อยชา แต่กันติชาก็รู้ดีแก่ใจว่า ถ้าเธอพลั้งเผลอเพียงแค่นิด ราชันย์จะกระชากดึงรั้งกายเธอเข้าไปอิงแอบแนบชิดเหมือนกับที่เคยเป็นมาทุกครั้งที่มีการอยู่ใกล้ชิด
สองหนุ่มสาวยืนจ้องตากันอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่คนร่างเล็กกว่าจะสู้ประกายตาคมกริบนั้นไม่ไหวเมินหลบพร้อมหัวใจตุ้มๆ ต่อมๆ
“คุณมีอะไรจะคุยกับหนู รีบพูดเถอะค่ะ หนูเหนื่อยและง่วง อยากกลับไปพักผ่อน” กันติชาพูดยาวยืดและรัวเร็วจนแทบจะหายใจหายคอแทบไม่ทัน เพราะรู้ดีว่าถ้าไม่พูดเสียก่อน เดี๋ยวชายหนุ่มก็จะดึงเอาสัมผัสร้อนผ่าวแสนวาบหวามเข้ามาจนเธอลืมไปหมด ต้องคุยกันด้วยเรื่องอะไร
“อ้อ...จ่ายเงินค่าแรงหนูมาด้วย” หญิงสาวยังไม่ลืมเรื่องสำคัญที่สุด งานก็คือเงิน เมื่องานเสร็จเงินก็ต้องมา
“หือ...มันรีบเร่งขนาดนั้นเชียวหรือหนูน้อย” ราชันย์ทอดเสียงนุ่มทุ้มพร้อมเสียงหัวเราะในลำคอ ประกายในดวงตาหวานนุ่มและเย้ายวนอย่างมีเสน่ห์ แล้วยังเผยอริมฝีปากแย้มยิ้มเล็กน้อย ส่งไปกระตุกใจสาวให้หลอมละลายเหมือนขี้ผึ้งโดนลนด้วยไฟ
หัวใจสาวน้อยถึงกับเต้นรัวเร็วเป็นกลองเพล ข่มกลั้นความเขินอายเอาไว้ไม่อยู่ รู้สึกได้ว่าพวงแก้มอิ่มเต็มทั้งสองข้างร้อนผ่าว ที่คงจะแดงก่ำเหมือนกับผลตำลึงสุกไปแล้ว
‘อีตาคุณใหญ่บ้า รู้อยู่แล้วว่าเรากำลังตื่นเต้นและกลัวอยู่ ก็ยังจะมาล้อเล่นอยู่ได้ สนุกนักหรือไงคนบ้านี่’
ร่างหนาใหญ่เดินอ้อมไปมุมหนึ่งของห้องทำงาน ที่ซอกมุมหนึ่งมีขวดแก้วสีใส ภายในมีน้ำสีขาวขุ่นอยู่เกือบจะเต็มทั้งขวดอย่างสบายๆ ไม่เร่งร้อน พร้อมเคลื่อนน้ำสีสวยจากขวดแก้วสีสวยไหลลงสู่แก้วใสอีกใบทีละน้อยๆ จนถึงครึ่งแก้ว ก่อนจะวางขวดแก้วลงเก็บที่เดิม และเคลื่อนย้ายตัวเองไปนั่งบนโซฟา เอนกายนาบไปกับความกว้าง พาดมือแข็งแกร่งไปบนพนักกับขาแข็งแกร่งยกขึ้นทาบบนขาอีกข้าง ในขณะมืออีกข้างก็ขยับเบาๆ พอให้น้ำสีสวยที่อยู่ภายในขยับน้อยๆ
“จะรีบไปไหนล่ะ ไม่อยู่คุยกันก่อนหรือ เขาว่ากันว่ากินเหล้ามันก็ต้องเคล้านารี ไม่งั้นมันก็ไม่อร่อยนะ” ชายหนุ่มถามเสียงกลั้วหัวเราะ มือแข็งแกร่งยกแก้วเหล้าขึ้นพอให้แตะริมฝีปากเพียงแค่เล็กน้อย ดวงตาจับจ้องไปยังร่างโปร่งบางที่กำลังถอยก้าวไปด้านหลังอย่างช้าๆ
“เธอช่วยมาเป็นนารีออเซาะฉอเลาะออดอ้อนป้อนเหล้าให้ฉันหน่อยซิ”
กันติชาสะบัดศีรษะกับคำพูดกระเซ้าเย้าแหย่ วงหน้าสวยงองุ้มและตอบกลับไปอย่างหงุดหงิด “ไปหาเอาข้างล่างซิ มีหลายคนอยากทำหน้าที่นี้อยู่ไม่ใช่หรือไง”
“ไม่อยากได้คนอื่น อยากได้เธอนี่นาหนูน้อย น่า...มาป้อนเหล้าฉันหน่อย” รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นบนวงหน้าคร้ามดุและเต็มไปด้วยไรหนวดไรเคราที่ตอนนี้ขึ้นเต็มปลายคางไล่ไปจนถึงข้างใบหู อีกส่วนก็คือระหว่างจมูกและปาก ทำให้กันติชารู้สึกเหมือนกับกวางน้อยถูกเสือตัวใหญ่จ้องจะจับกินอย่างไรก็ไม่รู้ ดวงตากลมโตเหลือบมองไปยังประตูห้องและก้าวเดินไปหามันอย่างระมัดระวัง ไม่ให้ราชันย์รู้ว่าเธอกำลังคิดทำอะไรอยู่
“ว้าย!” เพียงแค่เผลอนิดเดียวร่างโปร่งบางก็ลอยถลาไปตกอยู่บนตักกว้าง โดยมีแขนใหญ่สอดรัดระหว่างลำตัวเหมือนกับงูเหลือมรัดเหยื่อ
“คุณปล่อยหนูนะ” ร้องบอกเสียงสั่น พร้อมหัวใจที่สั่นไหวรัวเร็วจนแทบจะทะลุออกมาจากทรวง เร่งรุดจับมือใหญ่ออกจากตัวสลับผลักดันใบหน้าคมคร้ามที่โน้มลงมาแนบชิดแก้มนุ่มเป็นพัลวัน เบือนหน้าหนีก็ไม่ได้ เมื่อเขาจับรั้งปลายคางเอาไว้ ลมหายใจอุ่นร้อนที่รินรดบนผิวกายให้สาวน้อยสั่นสะท้าน หัวใจหวิวไหวเหมือนไผ่ต้องลม
“ปล่อยทำไม และทำไมต้องปล่อย” ราชันย์ถามกลับ มือใหญ่สอดไซ้เข้าไปลูบไล้ผิวเนื้อแท้ ขบเม้มริมฝีปากไล่จากพวงแก้มนุ่มลงไปตามลำคอระหง ก่อนวกกลับขึ้นไปใหม่ ขบกัดติ่งหูเล็กนุ่ม สอดปลายลิ้นไปหยอกล้อกับช่องหูเล็กและเป่าลมร้อนๆ บนหลังหูสีน้ำผึ้งเนียนนุ่ม
“อยู่แบบนี้มันอบอุ่นดีกว่าไม่ใช่หรือไง” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงนุ่มและเว้าวอน “อบอุ่นและเร่าร้อนมากๆ ด้วย”
แม้กันติชาจะมีอารมณ์ร้อนแรงราวกับเปลวเพลิง แต่เธอก็ยังได้ชื่อว่าเป็นสาวบริสุทธิ์ ถ้าจะทำอะไรรุนแรงไป รังแต่จะทำให้แม่สาวร้อนรักบอบช้ำเสียก่อน ไม่เป็นการดีกับเขา เพราะเร่าร้อนถึงใจแบบนี้เอาไว้กินบ่อยๆ และนานๆ สักหน่อยจะเป็นการดีกว่า
มือใหญ่ลูบไล้ผิวเนินเนื้อนุ่มนิ่มเต่งตึง ตวัดลากไล้สัมผัสไปทั่วกายสาว บีบนวดฟอนเฟ้นส่งผ่านไอร้อนผ่าวแทรกซึมผ่านเนื้อผ้าบางเบาและนุ่มนิ่มจากการใช้งานหนักอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน ประพรมจุมพิตทั่ววงหน้าสวย มอบจุมพิตอุ่นร้อนวาบหวามสร้างความปั่นป่วนให้กับสาวน้อยในอ้อมแขนอย่างเชื่องช้าแต่มั่นคงประหนึ่งหินผา
“มะ...ไม่ดี อยู่แบบนี้หนูอึดอัด” กันติชากัดฟันตอบกลับด้วยความวาบหวิวสยิวซ่าน สัมผัสที่ได้รับทำเอาเธอหนาวสะท้าน ขนตามเรือนกายผุดขึ้นเหมือนกับดอกเห็ด สองมือที่พยายามผลักดันร่างหนาให้ห่างกายได้แต่กำเสื้อตัวเอาไว้นิ่ง อยากร้องห้ามแต่พูดไม่ออก พร้อมหันใบหน้าไปตามแรงจับต้องของมือใหญ่ และเผยรับจุมพิตที่ทาบไล่ตั้งแต่ใบหูมายังพวงแก้ม สิ้นสุดบนริมฝีปากนุ่มนิ่ม
“แต่ฉันว่าดีนะ น่านะหนูน้อย อย่าขัดใจฉันซิ” ริมฝีปากหนาขบกัดกลีบปากบางนุ่ม บดเบียดกดคลึง ซอกซอนหาความหวาน เกี่ยวกระหวัดปลายลิ้นสากระคายกับปลายลิ้นเล็ก พร้อมแกะกระดุมเสื้อตัวโคร่งแยกสาบเสือออกจากกัน ให้ได้เห็นความสวยงามตูมเต่งที่แม้จะยังมีเสื้อชั้นในตัวกะทัดรัดซึ่งติดตะขอด้านหลังปกปิดไว้อย่างหมิ่นเหม่ แต่ด้วยความใหญ่โตอลังการของสองบัวคู่งาม ทำให้บางส่วนล้นทะลักออกมาภายนอก
“ฉันว่าไอ้เสื้อผ้าพวกนี้มันเกะกะ เอาออกดีกว่านะหนูว่าว อีกอย่างฉันก็คิดถึงตรงนี้...” ปลายนิ้วยาวและร้อนผ่าวลากไล้วนเวียนรอบป้านบัวดึงคีบเม็ดเล็กๆ ซึ่งชูชันดุนดันผ้าเนื้อบางเบาขึ้นมาหยอกเล่น
“ฉันคิดถึ้งคิดถึงตรงนี้จะแย่อยู่แล้วยาหยี” ชายหนุ่มลากเสียงหวานนุ่มและเว้าวอน มือใหญ่ลากไล้วนเวียนรอบปทุมอวบอิ่ม นวดเฟ้นกดคลึงเนินเนื้ออวบๆ เต็มไม้เต็มมืออย่างทะนุถนอม ครอบครองและฟอนเฟ้นทำอย่างที่ปากบอก คิดถึ้งคิดถึงเนินเนื้อสล้างอวบอิ่มแค่ไหน
สะโพกสอบแทรกลึกจุ่มจ้วงกายแข็งแกร่งและร้อนระอุไปในความอุ่นร้อนชื้นอย่างไม่บันยะบันยัง กายสาวตอบรับถี่ยิบทุกสัมผัสที่ถาโถมเข้าหาอย่างเร่าร้อนส่งมอบความสุขให้สองร่างหล่อหลอมกลายเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์บทรักครั้งแรกผ่านพ้น ครั้งที่สองสามก็ตามมาตลอดจนเกือบจะรุ่งสางของอีกวัน ก่อนที่สองร่างจะนอนกกกอดอย่างแนบชิด พลั่ก!! พลั่ก!! “ว้าย!!! พี่ใหญ่/คุณใหญ่” สองสาวกรีดร้องอย่างตกใจ เมื่ออยู่ดีๆ เพียงแค่เห็นหน้าสิทธิศักดิ์เท่านั้นราชันย์ก็ต่อยอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ชายิกาถลาเข้าไปกกกอดคนรัก ในขณะที่กันติชาก็รีบเขากอดราชันย์ขัดขวางไม่ให้ชายหนุ่มไปซ้ำเติมอีกครั้ง“มีอะไรคะคุณใหญ่ ต่อยคุณสิทธิ์ทำไม ไหนเราตกลงกันแล้วนะคะว่าจะยอมปล่อยให้...” “หมัดแรก เพราะมันไม่เชื่อฟังคำพูดฉัน เมื่อวานจำได้ไหมว่าให้เวลาแค่สิบนาที แต่ทำไมวันนี้ยังเสือกอยู่ในบ้านฉันอีก แล้วดูเหมือนไอ้เพื่อนเฮงซวยยังไม่ได้กลับบ้านด้วยซ้ำ ส่วนหมัดสองต่อย เพราะอยากเอาคืนในทุกๆ เรื่อง” ราชันย์ยกมือชี้หน้าสิทธิ์ “แกจำไว้เลยนะไอ้สิทธิ์ ถึงฉันจะยกน้องสาวให้ แต่เมื่อไหร่ที่แกทำให้ยายน้องต้องเจ็บปวด รับรองได้เลยว่าแกได้ไปนอนหยอดน้ำข้าวต
“ได้...ให้โอกาส แต่ขอดูความประพฤติสักสามปีได้ไหมล่ะ ถ้าทำตัวดีก็ให้คบกับยายน้องได้ แล้วก็ดูใจกันอีกสักสี่ห้าปีค่อยแต่งงาน รอได้ไหมล่ะ” วงหน้าคมคร้ามผุดรอยยิ้มในดวงตา สามปีที่อีกฝ่ายจะไม่ได้เจอหน้าชายิกา เพราะเขาจะให้น้องสาวอยู่กับแม่ ให้โอกาสแค่โทรคุยไม่ให้พบหน้า ส่วนเวลาอีกสี่ห้าปีก็ประมาณว่าดูแลแบบห้ามแตะต้อง ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ไต่ตอมแน่ะ...ยังไม่วายตั้งแง่อีก เฮ้อ...วงหน้าสวยส่ายเบาๆ หันไปส่งกำลังใจให้สองคนที่ตอนนี้เริ่มขยับเข้าไปยืนใกล้กัน มือเล็กอยู่ในอุ้งมือใหญ่ที่เริ่มขยับเคลื่อนสอดไปด้านหลัง หวังโอบรอบกายบอบบาง แต่ต้องหยุดชะงัก เมื่อเจอกับสายตาคมกริบที่จับจ้องอย่างไม่คลาดแม้สักนิดเดียว “คุณใหญ่อย่าแกล้งคุณสิทธิ์กับคุณน้องซิคะ” “ไม่ได้แกล้ง แต่ยายน้องยังเด็ก ก็อยากให้คบกันนานๆ สักหน่อย อีกอย่างฉันอยากให้ยายน้องเรียนจบตรีก่อนจะมีแฟน เรียนจบโทแล้วค่อยแต่งงาน” ราชันย์พูดกลั้วหัวเราะ แล้วเมื่อเห็นหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของสิทธิศักดิ์จนอยากจะหัวเราะให้ดังลั่นห้อง เออ...แกล้งคนนี่สนุกดีเหมือนกัน ทำให้น้องสาวเขาเจ็บและเป็นทุกข์จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ผอมไปเป็นกอง ก็ทรมานอีกสักหน่
“ได้...ให้โอกาส แต่ขอดูความประพฤติสักสามปีได้ไหมล่ะ ถ้าทำตัวดีก็ให้คบกับยายน้องได้ แล้วก็ดูใจกันอีกสักสี่ห้าปีค่อยแต่งงาน รอได้ไหมล่ะ” วงหน้าคมคร้ามผุดรอยยิ้มในดวงตา สามปีที่อีกฝ่ายจะไม่ได้เจอหน้าชายิกา เพราะเขาจะให้น้องสาวอยู่กับแม่ ให้โอกาสแค่โทรคุยไม่ให้พบหน้า ส่วนเวลาอีกสี่ห้าปีก็ประมาณว่าดูแลแบบห้ามแตะต้อง ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ไต่ตอมแน่ะ...ยังไม่วายตั้งแง่อีก เฮ้อ...วงหน้าสวยส่ายเบาๆ หันไปส่งกำลังใจให้สองคนที่ตอนนี้เริ่มขยับเข้าไปยืนใกล้กัน มือเล็กอยู่ในอุ้งมือใหญ่ที่เริ่มขยับเคลื่อนสอดไปด้านหลัง หวังโอบรอบกายบอบบาง แต่ต้องหยุดชะงัก เมื่อเจอกับสายตาคมกริบที่จับจ้องอย่างไม่คลาดแม้สักนิดเดียว “คุณใหญ่อย่าแกล้งคุณสิทธิ์กับคุณน้องซิคะ” “ไม่ได้แกล้ง แต่ยายน้องยังเด็ก ก็อยากให้คบกันนานๆ สักหน่อย อีกอย่างฉันอยากให้ยายน้องเรียนจบตรีก่อนจะมีแฟน เรียนจบโทแล้วค่อยแต่งงาน” ราชันย์พูดกลั้วหัวเราะ แล้วเมื่อเห็นหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของสิทธิศักดิ์จนอยากจะหัวเราะให้ดังลั่นห้อง เออ...แกล้งคนนี่สนุกดีเหมือนกัน ทำให้น้องสาวเขาเจ็บและเป็นทุกข์จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ผอมไปเป็นกอง ก็ทรมานอีกสักหน่
“ผมรู้ว่าคำตอบที่ให้ไปจะทำให้คุณเจ็บปวด เพราะตัวผมเองก็เจ็บปวดเหมือนกัน แต่ผมรู้อย่างเดียวว่าผมทำร้ายริตาไม่ได้” นี่คือความจริงใจจากเขาที่จะยังทำให้อาริตาได้ ความซื่อสัตย์และภักดีอย่างที่คนรักควรจะมอบให้แก่กัน แม้อีกฝ่ายจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ตามที“ถ้าอย่างนั้นนายมาที่นี่ทำไม มาทำให้ฉันเจ็บปวดอีกทำไม” หญิงสาวถามพร้อมเสียงสะอื้น น้ำตาอุ่นร้อนไหลอาบสองแก้ม ร่างบอบบางสั่นสะท้านกับความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทั่วหัวใจและร่างกาย กัดกร่อนหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ให้แทบจะหยุดเต้น ทำไมถึงไม่บอกให้เธอดีใจก่อน แล้วค่อยบอกให้รู้ในวันหลัง ซึ่งคงจะทำใจได้มากที่จะยอมรับความจริงนี้ได้แล้ว“ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยฉันไป ไม่นานฉันคงทำใจได้” “เพราะผมรักคุณ ผมรักคุณน้อง คุณจะให้โอกาสผมได้ไหม” “ไม่ได้...ถ้าแกยังคิดว่ายายฉันมีบุญคุณกับแกอยู่ และยังคิดว่าฉันเป็นเพื่อนก็ออกไปจากบ้านฉัน อย่าให้ต้องเรียกตำรวจ” ราชันย์ห้ามเสียงแข็งกร้าวและดุร้าย ใบหน้าคมคร้ามแดงคล้ำด้วยความโกรธ มือใหญ่กำหมัดเอาไว้แน่น นี่ถ้าไม่ฉุกใจว่าไอ้รถที่แอบจอดอยู่ห่างจากบ้านไปไม่มากเป็นรถสิทธิศักดิ์ละก็ ไม่รู้ว่าป่านนี้อีกฝ่ายจะทำร้ายอะไรน้องสาวเขาอี
“นายมาทำไมอีกนายสิทธิ์” เพียงแค่เห็นหน้าสิทธิศักดิ์เท่านั้นชายิกาก็ยิงคำถามไปในทันที และแทบจะไม่รอฟังคำตอบด้วยซ้ำ ปิดหนังสือนิตยสารในมือลงดังปังใหญ่ รีบวางลงบนโต๊ะพร้อมร่างเล็กบอบบางผุดลุกจากที่นั่ง แต่ก็ไม่ทัน ร่างหนาที่ถลาเข้ามาดักทางไว้ แล้วเมื่อจะหันไปอีกด้านการตัดสินใจก็ช้าไป แขนเรียวถูกคว้าไว้และออกแรงดึงเพียงเล็กน้อยร่างอรชรอ้อนแอ้นก็ถลาขึ้นไปนั่งบนตักกว้าง พร้อมแขนที่สอดรัดระหว่างลำตัว“ปล่อยฉันนะนายสิทธิ์ นายไม่มีสิทธิ์จะมาทำแบบนี้กับฉัน” หญิงสาวตวาดเสียงเขียว ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มจนแบนราบเรียบ สองมือเล็กพยายามจิกทึ้งดึงแขนใหญ่ออกจากกาย แต่ยิ่งขัดขืนอ้อมแขนแข็งแกร่งก็ยิ่งรัดแน่นมากขึ้น หัวใจที่เพียรสร้างความเข้มแข็ง พยายามบอกว่าอย่าหวั่นไหว แต่เพียงแค่ได้เห็นหน้า ได้สัมผัสกลิ่นกายที่คุ้นเคย หัวใจก็เริ่มไหวหวั่นเสียแล้ว “ปล่อยฉันนะนายสิทธิ์ ถ้าพี่ใหญ่มานายเจ็บตัวแน่” ในเมื่อทำอย่างไรแล้วอีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมปล่อยก็ยกชื่อพี่ชายมาขู่ หวังว่าอีกฝ่ายจะกลัวและรีบไปเสียที ก่อนที่หัวใจซึ่งเธอพยายามก่อกำแพงไม่ให้หวั่นไหวจะพังทลายครืนลงมาสิทธิศักดิ์หัวเราะในลำคอ ก็เขาน่ะเฝ้าอยู่หน้าบ้าน
วงหน้าคมหวานเหลียวมองซ้ายขวาลากพากันติชาและชายิกาไปยังมุมสุดของห้องที่ก่อสร้างไม่เสร็จและมีเส้นทางเล็กๆ ให้เดิน แต่ต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังที่สุด เพราะมีเศษดินเศษไม้และเหล็กแหลมๆ กองอยู่เต็ม ถึงแม้จะพยายามระมัดระวังตัวมากเท่าไหร่ แต่อีกสองสาวที่พยายามขัดขืนอย่างสุดฤทธิ์ไม่ยอมเดินตามง่ายๆ ก่อนที่ขาใหญ่จะเดินพลาด เหยียบเข้ากับกองไม้ขนาดใหญ่ซึ่งภายในนั้นมีเหล็กแหลมๆ ซุกซ่อนอยู่ “โอ๊ย!”แต่ถึงแม้จะเจ็บกายสักเพียงใดนภดลก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มือใหญ่กระชากร่างเล็กทั้งสองร่างตามติดไปด้วย แต่ทั้งราชันย์และสิทธิศักดิ์ รวมถึงตำรวจอีกหลายนายที่เฝ้าจับตาดูอยู่ไม่ยอมให้ชายหนุ่มทำได้ง่ายๆ รีบตรงเข้าไปช่วยเหลือ แต่ดูเหมือนจะยังเป็นความซวยของชายิกา เพราะเมื่อราชันย์กระชากตัวน้องสาวมาได้ร่างเล็กก็กลิ้งไป จนลอยคว้างอยู่บนปลายเหล็กแหลมๆ ที่สอดไว้ทำคานพื้น ในขณะที่นภดลนั้นก็เหมือนจะเป็นคราวเคราะห์ เมื่อร่างใหญ่ล้มทับเหล็กแหลมและมันได้เสียบเข้าที่ช่องท้อง เหนือทรวงอกเล็กน้อย เลือดไหลทะลักออกจากร่างที่กำลังกระตุกถี่ๆ ดวงตาเบิกกว้าง แต่กระนั้นอีกฝ่ายก็หารับรู้ถึงความเจ็บปวดไม่ ยังคงส่งเสียงแผดร้องด่าทอกันติชา







