LOGIN“อือ...คุณ...” กันติชาร้องครางไม่เป็นเสียง สะโพกกลมมนส่ายร่อนไปมา อยากจะหลีกหนีก็ใช่ อยากให้การเดินทางสุดแสนทรมานแต่เร่าร้อนระคนความสุขนี้ยืดไปอีกนานแสนนานก็ใช่ สองมือเล็กขยุ้มผมหนานุ่มบนศีรษะทุย ดึงสลับกดให้แนบชิดกับสัดส่วนเรือนกายอันอ่อนไหวมากยิ่งขึ้น ท้องน้อยแบนราบเรียบบิดเกร็งขมวดมุ่นเป็นเกลียวคลื่น ระบบภายในปั่นป่วนตอดรัดทุกสัมผัสที่เกิดขึ้น
“ให้ฉัน...” ริมฝีปากหนาขบกัดกลีบกุหลาบนวลนุ่มสลับดูดกลืนเกสรสวาทสลับลากไล้ซอกซอน...สอดลึก...กวาดเคล้า...สำรวจความลึกล้ำตามธรรมชาติ กลีบกายบอบบางนุ่มนวลและกลืนกินน้ำหวานบ่อน้ำน้อยๆ ทุกหยาดหยด
แต่ความสวยสดของกุหลาบดอกน้อยที่ยังไม่บานเบ่งเต็มที่ แม้จะถูกเขาชอนไชไปบ้างแล้ว ปลายนิ้วยาวใหญ่จึงต้องเริ่มขยับเคลื่อนไหวโยกซ้ายสะบัดย้ายไปทางขวาซอกซอนสอดลึกไปเท่าที่จะเดินทางไปได้ ก่อนจะถอยออกมาและเดินทางกลับเข้าไปใหม่ช้าสลับรัวเร็ว ปลุกเร้าความต้องการพร้อมเติมเต็มความปรารถนาอย่างต่อเนื่อง
“คุณ...ได้โปรด” เว้าวอนเสียงหวานพร่า เมื่อเรือนกายถูกซอกซอนด้วยความช่ำชองที่แทรกลึกสอดหายไปในโถน้ำผึ้งอุ่นร้อน เป็นจังหวะเนิบนาบหนักแน่น กระดิกไหวตามผนังเนื้ออ่อนนุ่ม กดคลึงมุกมณีอ่อนนุ่มและไวต่อความรู้สึก ส่งร่างร้อนปีนไต่บันไดสายรุ้งอย่างเชื่องช้า
กันติชาหวีดร้องติดๆ กันหลายครั้ง เรือนกายเบาหวิวเหมือนกับลูกโป่งที่ถูกอัดด้วยแก๊สเต็มๆ และลอยละล่องไปบนท้องฟ้า ก่อนจะแตกกระจายเหมือนกับพลุ ร่างน้อยโผโอบกอดร่างใหญ่ไว้ขนแน่น จิกปลายเล็บบนแผ่นหลังกว้างและลากแรงๆ พร้อมกับเสียงหวีดร้องยาวๆ อีกครั้งกับสายธาราแห่งความปรารถนาที่เอ่อไหลติดมือใหญ่มา
เมื่อเห็นยายจอมยั่วพร้อมที่จะรับความสุขที่เขามอบให้และยังจะให้ความสุขแก่เขาด้วยเช่นกัน สองมือใหญ่ปลดรั้งแขนเสลาให้กายโปร่งบางนอนราบไปกับโซฟา สองมือใหญ่จับทึ้งเสื้อคลุมตัวใหญ่ออกจากกายพร้อมกับเคลื่อนไปดึงบอกเซอร์ แต่เพียงแค่มือแตะลงไปเท่านั้นเอง…นรกก็มาเยือนราชันย์ เมื่อมารตัวเป้งมาขัดจังหวะความสำราญ!
เสียงหัวเราะหวีดหวิวเริงร่าแซวกันไปมาระหว่างชายและหญิงที่เหลืออยู่อีกเพียงแค่ห้าหกคน ไม่นับรวมเจ้าของบ้านหนุ่มใหญ่ที่นั่งมองด้วยใบหน้าเรียบเฉย แม้กระทั่งถูกล้อวงหน้าคมคร้ามก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย คงจะมีอย่างเดียวที่ทำให้เห็นใบหน้านั้นเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็ตอนที่มีสาวสวยร่างอวบอัดเดินเข้ามาคลอเคลียแลกจุมพิตดูดดื่มให้แก่กันนั่นแหละ
สองหนุ่มสาวหายเดินตามกันไปในห้อง และกลับออกมาเมื่อเวลาผ่านไปกับสภาพของสาวน้อยที่หน้าแดงก่ำ ริมฝีปากบวมเป่งเหมือนกับถูกกดทับอย่างแรง ไหนจะท่าทางระเริงรื่นสุขสมล้นปรี่ เสื้อผ้ายับย่นไม่ถึงกับมากมายแต่ก็ยังดูรู้ว่าไปทำอะไรกันมา
พอมองไปที่ราชันย์ สภาพเขายังจะหล่อเนียบนิ้งเหมือนเดิม อ๋อ...มีเหมือนกันที่เปลี่ยนไป ก็คือผมเผ้าที่หวีไว้อย่างเรียบร้อยยุ่งเหยิงเล็กน้อยกับอารมณ์ที่ดีขึ้น กับประกายแพรวพราวระยับในดวงตาที่สะท้อนกับแสงไฟนีออน
‘เราเป็นอะไรไปนี่ ทำไมถึงล่ะสายตาจากคุณราชันย์ไม่ได้’ บ่นงึมงำด้วยไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง ทำไมถึงต้องมาแอบดูพฤติกรรมของราชันย์ด้วย หรือเป็นเพราะความรู้สึกในวันนั้นยังค้างคาอยู่ใช่ไหม คิดแล้วก็น่าอายเหลือเกิน ถ้าป้าจันทร์มาไม่ทัน ไม่รู้ว่าป่านนี้เธอจะเป็นยังไงบ้าง แต่ไม่น่าแปลกใจ ด้วยบุคลิกของราชันย์ถึงจะเงียบขรึมและเย็นชา แต่ลักษณะเหล่านั้นกลับเป็นเพียงภาพมายาที่หลอกสายตาคนอื่นเท่านั้นเอง
เพราะความจริงแล้วภายในชายหนุ่มกลับร้อนฉ่าเหมือนกับเปลวเพลิง เป็นตัวดึงดูดทุกคนให้เข้าหาโดยที่ไม่ต้องทำอะไรแม้แต่น้อยนิด อีกทั้งชายหนุ่มถูกเสริมด้วยความร่ำรวยที่กินใช้สิบชาติก็ไม่หมด เป็นหัวเชื้อชั้นดีที่ใช้เรียกเหล่าแมลงวันดมกลิ่นให้ตามตอม แล้วดูเหมือนเขาเองก็จะชอบใจเสียด้วยซ้ำ
ผู้ชายก็อย่างนี้แหละใครจะโง่ไม่เอาล่ะถ้าผู้หญิงหยิบอ่อยให้น่ะ
“ชิ ผู้ชายเฮงซวย” มือเล็กจับมีดจนแน่นและสับไปบนเขียงอันใหญ่ระบายอารมณ์ กลัดกลุ้ม ปวดร้าว อิจฉา น้อยอกน้อยใจ ทำไมทุกอย่างต้องมาอัดแน่นสุมเข้ามาในตอนนี้ด้วย หนี้ก้อนใหญ่ที่เสี่ยออกเงินกู้ตามทวงและพูดจาหว่านล้อมให้เธอยอมรับการเป็นเมียคนที่สี่อยู่ทุกวี่ทุกวัน
ในขณะบรรดาเมียสองเมียสามที่ไม่พอใจก็มาหาเรื่องระรานทุกวันเช่นกัน แล้วไหนจะน้าขี้เมาที่ชอบเอ่ยปากพูดถึงกึ่งบังคับให้เธอเลือกว่าจะยอมเป็นเมียคนที่สี่ของเสี่ยเจ้าของตลาด เพื่อปลดหนี้สินทั้งหมดและเขาจะได้สบายไปด้วยหรือว่าจะเลือก...
“ฉันอยากจะเลือกคุณน่ะ แต่...” กันติชาหันไปมองร่างหนาที่ยืนเอนกายอิงขอบโต๊ะวางเครื่องดื่มสารพัดที่จะทำให้คนเราครองสติไม่อยู่ ในมือมีแก้วใส่น้ำสีเหลืองอมส้มจับอยู่ ราวกับถูกบังคับให้ดวงตากลมโตต้องไล่มองมือหนาที่กำลังขยับเคลื่อนไหวขึ้นไปอย่างช้าๆ ลำคอระหงแห้งผากเหมือนคนที่อดน้ำมานาน กระหายหิวจนคิดว่าเพียงแค่น้ำหนึ่งหยดก็มีค่าอันมหาศาล
“คุณอยู่ใกล้เกินผู้หญิงบ้านๆ อย่างฉันจะเอื้อมมือไปถึง” ดวงตากลมโตสดใสเป็นประกายเหมือนลูกแก้วสบกับดวงตาคมกริบซึ่งมีประกายแปลกๆ มันทำให้เธอสั่นกลัว ขนกายลุกชัน และอยากลองอยากรู้ หัวใจดวงน้อยเต้นแรงและเร็วกับสายตาที่ไล่มองไปตามส่วนต่างๆ ของเรือนกายและหยุดตรงปทุมถันอวบอิ่มที่มันกำลังกระเพื่อมไหวไม่เป็นจังหวะ
กันติชาตัวสั่นระริก รู้สึกเหมือนกับว่าริมฝีปากหนาร้อนของอีกฝ่ายกำลังไล้เลียดูดกลืนตรงปลายยอดเล็กๆ บนทรวงอก ทำเอาเรือนกายถึงกับปวดร้าวและวาบหวิวในคราวเดียวกัน แม้อยากจะถอนเท้าถอยกลับไปด้านหลัง แต่มันเหมือนกับถูกตรึงไว้ด้วยดวงตาคมกริบคู่นั้นและยังจะมีมือใหญ่ที่มองไม่เห็นตรึงไว้อีกชั้น
“หยุดนะ” กันติชาห้ามหัวใจที่เต้นตึกตักๆ รัวเร็วเหมือนกลองเพล ไหนจะอาการสั่นจนทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาอย่างกะทันหัน
สองมือเล็กลูบไล้ลำขาเสลา มองตามสายตาคมกริบที่ขยับเคลื่อนลงไปหยุดตรงจุดอ่อนไหวและไวต่อความรู้สึก เหมือนกับถูกไฟช็อตจนมีไอร้อนผ่าวไหลพุ่งจากกึ่งกลางเรือนกายขึ้นไปถึงวงหน้า พวงแก้มนิ่มร้อนผ่าวเหมือนกับเอาหน้ายื่นล้ำไปให้ไฟร้อนๆ ลน ปลายลิ้นเล็กยื่นออกมาไล้เลียริมฝีปากนุ่ม เมื่อปากหนาของราชันย์ขยับและเธออ่านได้ว่า
‘เดี๋ยวเจอกันสาวน้อย’
สะโพกสอบแทรกลึกจุ่มจ้วงกายแข็งแกร่งและร้อนระอุไปในความอุ่นร้อนชื้นอย่างไม่บันยะบันยัง กายสาวตอบรับถี่ยิบทุกสัมผัสที่ถาโถมเข้าหาอย่างเร่าร้อนส่งมอบความสุขให้สองร่างหล่อหลอมกลายเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์บทรักครั้งแรกผ่านพ้น ครั้งที่สองสามก็ตามมาตลอดจนเกือบจะรุ่งสางของอีกวัน ก่อนที่สองร่างจะนอนกกกอดอย่างแนบชิด พลั่ก!! พลั่ก!! “ว้าย!!! พี่ใหญ่/คุณใหญ่” สองสาวกรีดร้องอย่างตกใจ เมื่ออยู่ดีๆ เพียงแค่เห็นหน้าสิทธิศักดิ์เท่านั้นราชันย์ก็ต่อยอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ชายิกาถลาเข้าไปกกกอดคนรัก ในขณะที่กันติชาก็รีบเขากอดราชันย์ขัดขวางไม่ให้ชายหนุ่มไปซ้ำเติมอีกครั้ง“มีอะไรคะคุณใหญ่ ต่อยคุณสิทธิ์ทำไม ไหนเราตกลงกันแล้วนะคะว่าจะยอมปล่อยให้...” “หมัดแรก เพราะมันไม่เชื่อฟังคำพูดฉัน เมื่อวานจำได้ไหมว่าให้เวลาแค่สิบนาที แต่ทำไมวันนี้ยังเสือกอยู่ในบ้านฉันอีก แล้วดูเหมือนไอ้เพื่อนเฮงซวยยังไม่ได้กลับบ้านด้วยซ้ำ ส่วนหมัดสองต่อย เพราะอยากเอาคืนในทุกๆ เรื่อง” ราชันย์ยกมือชี้หน้าสิทธิ์ “แกจำไว้เลยนะไอ้สิทธิ์ ถึงฉันจะยกน้องสาวให้ แต่เมื่อไหร่ที่แกทำให้ยายน้องต้องเจ็บปวด รับรองได้เลยว่าแกได้ไปนอนหยอดน้ำข้าวต
“ได้...ให้โอกาส แต่ขอดูความประพฤติสักสามปีได้ไหมล่ะ ถ้าทำตัวดีก็ให้คบกับยายน้องได้ แล้วก็ดูใจกันอีกสักสี่ห้าปีค่อยแต่งงาน รอได้ไหมล่ะ” วงหน้าคมคร้ามผุดรอยยิ้มในดวงตา สามปีที่อีกฝ่ายจะไม่ได้เจอหน้าชายิกา เพราะเขาจะให้น้องสาวอยู่กับแม่ ให้โอกาสแค่โทรคุยไม่ให้พบหน้า ส่วนเวลาอีกสี่ห้าปีก็ประมาณว่าดูแลแบบห้ามแตะต้อง ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ไต่ตอมแน่ะ...ยังไม่วายตั้งแง่อีก เฮ้อ...วงหน้าสวยส่ายเบาๆ หันไปส่งกำลังใจให้สองคนที่ตอนนี้เริ่มขยับเข้าไปยืนใกล้กัน มือเล็กอยู่ในอุ้งมือใหญ่ที่เริ่มขยับเคลื่อนสอดไปด้านหลัง หวังโอบรอบกายบอบบาง แต่ต้องหยุดชะงัก เมื่อเจอกับสายตาคมกริบที่จับจ้องอย่างไม่คลาดแม้สักนิดเดียว “คุณใหญ่อย่าแกล้งคุณสิทธิ์กับคุณน้องซิคะ” “ไม่ได้แกล้ง แต่ยายน้องยังเด็ก ก็อยากให้คบกันนานๆ สักหน่อย อีกอย่างฉันอยากให้ยายน้องเรียนจบตรีก่อนจะมีแฟน เรียนจบโทแล้วค่อยแต่งงาน” ราชันย์พูดกลั้วหัวเราะ แล้วเมื่อเห็นหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของสิทธิศักดิ์จนอยากจะหัวเราะให้ดังลั่นห้อง เออ...แกล้งคนนี่สนุกดีเหมือนกัน ทำให้น้องสาวเขาเจ็บและเป็นทุกข์จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ผอมไปเป็นกอง ก็ทรมานอีกสักหน่
“ได้...ให้โอกาส แต่ขอดูความประพฤติสักสามปีได้ไหมล่ะ ถ้าทำตัวดีก็ให้คบกับยายน้องได้ แล้วก็ดูใจกันอีกสักสี่ห้าปีค่อยแต่งงาน รอได้ไหมล่ะ” วงหน้าคมคร้ามผุดรอยยิ้มในดวงตา สามปีที่อีกฝ่ายจะไม่ได้เจอหน้าชายิกา เพราะเขาจะให้น้องสาวอยู่กับแม่ ให้โอกาสแค่โทรคุยไม่ให้พบหน้า ส่วนเวลาอีกสี่ห้าปีก็ประมาณว่าดูแลแบบห้ามแตะต้อง ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ไต่ตอมแน่ะ...ยังไม่วายตั้งแง่อีก เฮ้อ...วงหน้าสวยส่ายเบาๆ หันไปส่งกำลังใจให้สองคนที่ตอนนี้เริ่มขยับเข้าไปยืนใกล้กัน มือเล็กอยู่ในอุ้งมือใหญ่ที่เริ่มขยับเคลื่อนสอดไปด้านหลัง หวังโอบรอบกายบอบบาง แต่ต้องหยุดชะงัก เมื่อเจอกับสายตาคมกริบที่จับจ้องอย่างไม่คลาดแม้สักนิดเดียว “คุณใหญ่อย่าแกล้งคุณสิทธิ์กับคุณน้องซิคะ” “ไม่ได้แกล้ง แต่ยายน้องยังเด็ก ก็อยากให้คบกันนานๆ สักหน่อย อีกอย่างฉันอยากให้ยายน้องเรียนจบตรีก่อนจะมีแฟน เรียนจบโทแล้วค่อยแต่งงาน” ราชันย์พูดกลั้วหัวเราะ แล้วเมื่อเห็นหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของสิทธิศักดิ์จนอยากจะหัวเราะให้ดังลั่นห้อง เออ...แกล้งคนนี่สนุกดีเหมือนกัน ทำให้น้องสาวเขาเจ็บและเป็นทุกข์จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ผอมไปเป็นกอง ก็ทรมานอีกสักหน่
“ผมรู้ว่าคำตอบที่ให้ไปจะทำให้คุณเจ็บปวด เพราะตัวผมเองก็เจ็บปวดเหมือนกัน แต่ผมรู้อย่างเดียวว่าผมทำร้ายริตาไม่ได้” นี่คือความจริงใจจากเขาที่จะยังทำให้อาริตาได้ ความซื่อสัตย์และภักดีอย่างที่คนรักควรจะมอบให้แก่กัน แม้อีกฝ่ายจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ตามที“ถ้าอย่างนั้นนายมาที่นี่ทำไม มาทำให้ฉันเจ็บปวดอีกทำไม” หญิงสาวถามพร้อมเสียงสะอื้น น้ำตาอุ่นร้อนไหลอาบสองแก้ม ร่างบอบบางสั่นสะท้านกับความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทั่วหัวใจและร่างกาย กัดกร่อนหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ให้แทบจะหยุดเต้น ทำไมถึงไม่บอกให้เธอดีใจก่อน แล้วค่อยบอกให้รู้ในวันหลัง ซึ่งคงจะทำใจได้มากที่จะยอมรับความจริงนี้ได้แล้ว“ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยฉันไป ไม่นานฉันคงทำใจได้” “เพราะผมรักคุณ ผมรักคุณน้อง คุณจะให้โอกาสผมได้ไหม” “ไม่ได้...ถ้าแกยังคิดว่ายายฉันมีบุญคุณกับแกอยู่ และยังคิดว่าฉันเป็นเพื่อนก็ออกไปจากบ้านฉัน อย่าให้ต้องเรียกตำรวจ” ราชันย์ห้ามเสียงแข็งกร้าวและดุร้าย ใบหน้าคมคร้ามแดงคล้ำด้วยความโกรธ มือใหญ่กำหมัดเอาไว้แน่น นี่ถ้าไม่ฉุกใจว่าไอ้รถที่แอบจอดอยู่ห่างจากบ้านไปไม่มากเป็นรถสิทธิศักดิ์ละก็ ไม่รู้ว่าป่านนี้อีกฝ่ายจะทำร้ายอะไรน้องสาวเขาอี
“นายมาทำไมอีกนายสิทธิ์” เพียงแค่เห็นหน้าสิทธิศักดิ์เท่านั้นชายิกาก็ยิงคำถามไปในทันที และแทบจะไม่รอฟังคำตอบด้วยซ้ำ ปิดหนังสือนิตยสารในมือลงดังปังใหญ่ รีบวางลงบนโต๊ะพร้อมร่างเล็กบอบบางผุดลุกจากที่นั่ง แต่ก็ไม่ทัน ร่างหนาที่ถลาเข้ามาดักทางไว้ แล้วเมื่อจะหันไปอีกด้านการตัดสินใจก็ช้าไป แขนเรียวถูกคว้าไว้และออกแรงดึงเพียงเล็กน้อยร่างอรชรอ้อนแอ้นก็ถลาขึ้นไปนั่งบนตักกว้าง พร้อมแขนที่สอดรัดระหว่างลำตัว“ปล่อยฉันนะนายสิทธิ์ นายไม่มีสิทธิ์จะมาทำแบบนี้กับฉัน” หญิงสาวตวาดเสียงเขียว ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มจนแบนราบเรียบ สองมือเล็กพยายามจิกทึ้งดึงแขนใหญ่ออกจากกาย แต่ยิ่งขัดขืนอ้อมแขนแข็งแกร่งก็ยิ่งรัดแน่นมากขึ้น หัวใจที่เพียรสร้างความเข้มแข็ง พยายามบอกว่าอย่าหวั่นไหว แต่เพียงแค่ได้เห็นหน้า ได้สัมผัสกลิ่นกายที่คุ้นเคย หัวใจก็เริ่มไหวหวั่นเสียแล้ว “ปล่อยฉันนะนายสิทธิ์ ถ้าพี่ใหญ่มานายเจ็บตัวแน่” ในเมื่อทำอย่างไรแล้วอีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมปล่อยก็ยกชื่อพี่ชายมาขู่ หวังว่าอีกฝ่ายจะกลัวและรีบไปเสียที ก่อนที่หัวใจซึ่งเธอพยายามก่อกำแพงไม่ให้หวั่นไหวจะพังทลายครืนลงมาสิทธิศักดิ์หัวเราะในลำคอ ก็เขาน่ะเฝ้าอยู่หน้าบ้าน
วงหน้าคมหวานเหลียวมองซ้ายขวาลากพากันติชาและชายิกาไปยังมุมสุดของห้องที่ก่อสร้างไม่เสร็จและมีเส้นทางเล็กๆ ให้เดิน แต่ต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังที่สุด เพราะมีเศษดินเศษไม้และเหล็กแหลมๆ กองอยู่เต็ม ถึงแม้จะพยายามระมัดระวังตัวมากเท่าไหร่ แต่อีกสองสาวที่พยายามขัดขืนอย่างสุดฤทธิ์ไม่ยอมเดินตามง่ายๆ ก่อนที่ขาใหญ่จะเดินพลาด เหยียบเข้ากับกองไม้ขนาดใหญ่ซึ่งภายในนั้นมีเหล็กแหลมๆ ซุกซ่อนอยู่ “โอ๊ย!”แต่ถึงแม้จะเจ็บกายสักเพียงใดนภดลก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มือใหญ่กระชากร่างเล็กทั้งสองร่างตามติดไปด้วย แต่ทั้งราชันย์และสิทธิศักดิ์ รวมถึงตำรวจอีกหลายนายที่เฝ้าจับตาดูอยู่ไม่ยอมให้ชายหนุ่มทำได้ง่ายๆ รีบตรงเข้าไปช่วยเหลือ แต่ดูเหมือนจะยังเป็นความซวยของชายิกา เพราะเมื่อราชันย์กระชากตัวน้องสาวมาได้ร่างเล็กก็กลิ้งไป จนลอยคว้างอยู่บนปลายเหล็กแหลมๆ ที่สอดไว้ทำคานพื้น ในขณะที่นภดลนั้นก็เหมือนจะเป็นคราวเคราะห์ เมื่อร่างใหญ่ล้มทับเหล็กแหลมและมันได้เสียบเข้าที่ช่องท้อง เหนือทรวงอกเล็กน้อย เลือดไหลทะลักออกจากร่างที่กำลังกระตุกถี่ๆ ดวงตาเบิกกว้าง แต่กระนั้นอีกฝ่ายก็หารับรู้ถึงความเจ็บปวดไม่ ยังคงส่งเสียงแผดร้องด่าทอกันติชา







