เมื่อไปถึงภัตตาคารโรงแรมที่จองไว้ มาดของอีกฝ่ายที่สวมเสื้อลายสก็อต สวมหมวกคาวบอย กางเกงยีน รองเท้าหนังมันปลาบทำให้เดนีสฉุกคิดถึงเรื่องก่อนหน้าที่วินตราเอ่ยเตือนเขาขึ้นมาได้
หากเอารถสปอร์ตคู่ใจมาเหมือนเป็นการข่มอีกฝ่ายมากกว่าจะมาพูดคุยเจรจาเรื่องธุรกิจ
ฝ่ายคู่ค้ากลับมานั่งรอก่อนถึง 30 นาทีด้วยซ้ำหากกรณีนี้ในความคิดของวินตราการมาถึงตรงเวลานัดเป็นเรื่องที่ดีแต่ควรจะเผื่อเหลือเผื่อขาดอย่างน้อย 15 นาทีจึงจะเป็นการดีทำธุระส่วนตัวอะไรให้เรียบร้อยจะได้นั่งเจรจาพูดคุยกันได้สะดวกคุณดนัยหรือพ่อเลี้ยงดนัยยืนขึ้นทันทีที่เห็น ‘เดนีสศศิภักดี’ ปรากฏตัวต่อหน้าเขาทั้งๆที่ก่อนหน้าฝ่ายการตลาดจัดการมาตลอดพ่อเลี้ยงดนัยมีธุระที่กรุงเทพฯพอดีเลยถือโอกาสเข้ามาเจรจาล็อตต่อไปด้วยตัวเองโดยมีผู้หญิงวัยกลางคนที่ยืนนอบน้อมอยู่ด้านหลังน่าจะเป็นเลขาส่วนตัวเช่นกันทั้งสองพูดคุยกันอย่างหอมปากหอมคอ
เมื่อบริกรนำน้ำเปล่ามาเสิร์ฟเดนีสเลยเกริ่น “สั่งอาหารก่อนดีไหมครับค่อยเจรจา” พ่อเลี้ยงดนัยมีสีหน้าลังเลเพราะคนตรงหน้าเป็นคนใหญ่คนโตลูกเจ้าสัวเวลาคงเป็นเงินเป็นทองในความคิดเขาการมาเจอครั้งนี้คงกินเวลาไม่มากแต่กลับผิดคาด
ตั้งแต่เข้ามาในห้องอาหารแบบส่วนตัวคุณเลขานอกจากเอ่ยแนะนำตัวแล้วก็สงบปากสงบคำไม่พูดอะไรออกมาสักแอะเมื่อช่วงเจรจาธุรกิจมาถึง
“ผมชอบหลักการสามประโยชน์ที่ท่านเจ้าสัวได้เล็งเห็นและใช้เป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้คู่ค้าทางธุรกิจชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจผมล่ะนับถือจริงๆอีกทั้งความแข็งแกร่งของบริษัทผมเลยเห็นโอกาสในการเติบโตและเข้ามาจับธุรกิจนี้สุดท้ายก็ไม่ผิดหวังจริงๆ”
เดนีสยิ้มไม่รู้จะพูดอะไรต่อไอ้หลักการสามประโยชน์นั้นคืออะไรมีอะไรบ้างเดี๋ยวนะเหมือนจะอ่านผ่านๆเมื่อกี้อีกทั้งยังเห็นแววตาระยิบระยับของคู่ค้ารุ่นพ่อที่มองเขาเหมือนขุมทรัพย์ทางปัญญานั่นยิ่งทำให้เดนีสกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกล่าวอ้อมแอ้มออกไป
“ทางบริษัทเราก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับที่ได้พาร์ทเนอร์คู่ค้าอย่างคุณดนัย” วินตรายกยิ้มที่มุมปากก้มหน้าจดยิกๆในไอแพดพอเกริ่นชมอย่างหอมปากหอมคอก็มาถึงเรื่องจริงจังอย่างผลิตภัณฑ์ตัวใหม่บลาๆเดนีสเริ่มหูดับทั้งๆที่ฝ่ายการตลาดก็มี
“ท่อพีวีซีสำหรับบ่อบาดาลที่สั่งไปล็อตแรกลูกค้าชื่นชอบกันใหญ่มีความแข็งแรงทางกลและมีความทนทานทานสูงสำคัญเลยคือราคาถูกมากกว่าเจ้าอื่น!”
“ครับ” เดนีสได้แต่ครับ
“อีกอย่างผมสนใจลงทุนกระสอบบรรจุภัณฑ์เพราะทางอีสานเองเป็นเมืองเกษตรกรรมกระสอบยังคงเป็นที่นิยมอย่าหาว่าผมเห็นแก่ได้เลยนะผู้ประกอบการเหมือนกันผมเลยอยากจะปรึกษาสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกสั่งกระสอบมีอะไรบ้าง” แววตาและสีหน้าที่รอคอยคำตอบของพ่อเลี้ยงดนัยทำเอาเดนีสได้แต่อึ้งก้มกี่หัวสมองโล่งไปหมดเพราะตั้งแต่เข้ามานั่งเก้าอี้บริหารก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรพวกนี้ผลิตภัณฑ์ในเครือมีตั้งหลายประเภทใครจะไปจำหมดอีกอย่างเขาก็ไม่ได้มีหน้าที่ต้องจดจำด้วยปรายหางตามองไปยังคุณเลขาที่เอาแต่ก้มหน้าจดจ่อแต่ไอแพด
“เอ่อ…ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรมมอก. ทุกชิ้น” คำตอบแบบกำปั้นทุบดินมากหากคิดเป็นคะแนนเต็ม 10 ได้ 0.5 ให้เพราะค่าปากกาที่เขียนลงไปวินตราคิดในใจอย่างเจ็บแสบ
“อันนั้นผมทราบดีแต่มันก็แตกต่างกันออกไปในแต่ละประเภททางอีสานก็คงจะเน้นอาหารสัตว์เกษตรกรรมแล้วจะเป็นกระสอบแบบเดียวกันได้ไงในเมื่อใช้งานคนละประเภท” แม้พ่อเลี้ยงจะไม่ได้จี้เอาคำตอบอย่างเอาเป็นเอาตายแต่สีหน้า…คุณเข้าใจคำถามผมไหม? ทำเอาเดนีสพูดไม่ออก
“…”
“ถ้าอย่างนั้นลองสอบถามคุณวินตราดีกว่าครับรายนี้เข้าใจและเชี่ยวชาญมากกว่าผม”
“คุณวินตรา…เป็นอะไรกับคุณ”
“เอ่อ…เป็นผู้ดูแลผลิตภัณฑ์นี้โดยตรงของบริษัทเลยครับนัดครั้งนี้ผมเอาผู้เชี่ยวชาญมานั่งที่นี่เพื่อตอบทุกข้อสงสัยของคุณดนัยและหวังว่าจะเราทั้งสองจะเป็นพาร์ทเนอร์คู่ค้ากันตลอดไป” วินตราเงยหน้ามองท่านประธานที่กำลังขายหน้าเอาผ้ารอดอย่างขอไปทีแถมโยนเผือกร้อนให้คนอื่นอย่างหน้าตาเฉย
ทางด้านพ่อเลี้ยงดนัยหันมามองวินตราด้วยสีหน้ารอคอยคำตอบอีกอย่างเขาเตรียมเงินอะไรมาพร้อมหมดแล้วเตรียมตัวมาเซ็นสัญญาซื้อขายเสร็จสรรพเพราะชื่อเสียงเรียงนามผลิตภัณฑ์อะไรของบริษัทก็การันตีคุณภาพมาตลอดเป็นทศวรรษแต่พอมาเจอผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรงอีกทั้งพ่วงตำแหน่งลูกชายคนโตของท่านเจ้าสัวเริ่มชักไม่แน่ใจ…ลูกไม้จะหล่นไกลต้นเนี่ยนะ!
วินตราแย้มยิ้มและเอ่ยขอโทษขอโพยอีกฝ่ายอย่างเป็นมืออาชีพพร้อมทั้งร่ายรายละเอียดกางแฟ้มผลิตภัณฑ์ชี้ให้เห็นกันจะๆเป็นข้อๆอะไรยังไงได้อย่างไหลลื่นเดนีสลอบมองอีกฝ่ายด้วยความทึ่งระคนแปลกใจรับหน้าที่วันนี้แต่เหมือนทำงานมาแล้วสิบปี!
แถมยังปิดดีลด้วยการขายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มไปด้วยอีกหนึ่งบิลพ่อเลี้ยงดนัยถึงกับยกนิ้วให้
“คุณวินตราเก่งมากเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงจริงๆหากคุณพกสัญญามาด้วยผมจะเซ็นให้เสียเดี๋ยวนี้เลย”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับอีกอย่างธุรกิจต้องค่อยๆตัดสินใจค่อยๆพิจารณาผมก็หวังว่าบริษัทเราจะเป็นหนึ่งในคู่ค้าธุรกิจที่พ่อเลี้ยงดนัยให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก”
“โอ๊ยพ่อลงพ่อเลี้ยงอะไรกันครับเทียบกับศศิภักดีผมเป็นอะไรได้”
“หากไม่มีพ่อเลี้ยงบริษัทของเราก็คงไม่มั่นคงมาถึงทุกวันนี้ศศิภักดีอยู่ได้เพราะการสนับสนุนเชื่อใจและการให้ความไว้วางใจจากคู่ค้าธุรกิจทุกท่านมากกว่าครับ” วินตรายกมือไหว้อย่างนอบน้อมอีกครั้งพ่อเลี้ยงดนัยเองก็ยกมือรับไหว้ตอบเองเช่นกัน
“เอาเป็นว่าผมตกลงรายละเอียดสัญญาทางคุณร่างมาได้เลยหากมีอะไรค่อยหารือตกลงกันอีกที”
“ได้ครับ”
วินตรายืนค้อมตัวส่งคู่ค้าเสมือนมาเจรจากับอีกฝ่ายเสียเองเขาปรายหางตามองท่านประธานที่ก่อนหน้ายังพูดว่าเสียงแข็ง ‘ไม่คณามือฉันหรอก’ แล้วเป็นไงถามวัวตอบควายชัดๆ
วินตรากระแอมก่อนจะถาม “เหมือนว่าเมื่อครู่จะไม่คณามือท่านประธานเกินไปนะครับ” เดนีสขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“มันหน้าที่นายทั้งนั้น” แถเรียกได้ว่าแถสุดๆ
“อ้อครับ! ก็ไม่คณามือผมจริงๆ”
“…!…”
เต้งเสียงระฆังอีกยกดังขึ้นเป็นครั้งที่สองในหัวสมองของเดนีสวินตราชนะน็อคอีกครั้งแม่ง! ฝากไว้ก่อนเถอะ
“พ่อครับแม่ครับอยู่ไหนครับ” ก่อนจะได้ยินเสียงแทรกเข้ามา“อย่าให้พ่ออยู่กับแม่ไม่งั้นแม่จะไม่สบาย”“หา” เดนีสหน้าตื่นก่อนจะแง้มประตูแอบฟังต่อ สามพี่น้องพยักหน้าให้กัน“จริงแม่จะเสียงแหบและบ่นปวดเอวแล้วก็มีรอยยุงกัดเยอะด้วย” สามพี่น้องปรึกษาหารือกันเหมือนกำลังคุยเรื่องโลกแตกวินตราหัวเราะน้อยๆในลำคอก่อนจะมองพ่อหมาที่เงี่ยหูฟังลูกๆคุยกันสมน้ำหน้า! “พ่อชอบเล่นกับแม่แรงๆสงสารแม่พวกเราต้องปกป้องแม่ให้พ้นจากเงื้อมมือพ่อ” สามพี่น้องชูกำปั้นใส่กันสักพักแม่บ้านและพี่เลี้ยงก็มาตามเพราะปู่ย่ามารับไปเล่นบ้านใหญ่สามคนดีใจใหญ่เพราะว่าจะได้เจอลูกพี่ลูกน้องอีกหลายคนก่อนจะเฮโลลงบันไดไปข้างล่างเดนีสหัวคิ้วกระตุกโพล่งด่าในใจ ‘ไอ้ลูกเวร’ ส่วนวินตราหัวเราะท้องแข็งอยู่ข้างหลังเขาเมื่อเดนีสปิดประตูห้องสนิทพร้อมกับสีหน้าไม่สู้ดี “มิน่าพักหลังถึงทำตัวเป็นปรปักษ์กับฉันขนาดนั้นที่ไหนได้!” เดนีสโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงแต่ภรรยาสุดที่รักกลับขำจนตัวงอสองตาแดงเรื่อเพราะว่าหัวเราะมากจนเกินไป“ขำมากหรือไง”“ฮ่าๆฮ่า” วินตรายังขำไม่หยุดก่อนจะอุ้มภรรยาทุ่มลงบนเตียงกว้างด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“อย่าหวังว่าคราวนี้จะรอด” “มะ
ส่วนวินตรากับเดนีสเองก็ถอนหายใจเช่นกันยังดีที่เดนอนอยู่อนุบาลสามส่วนแฝดพี่อีกคนอยู่คนละห้องไม่งั้นเรื่องราวคงวุ่นวายมากกว่านี้เป็นแน่พี่ชายทั้งสองหวงน้องสาวยังกะอะไรดีไม่น้อยไปกว่าพ่อหมาเลยนั่นคือเรื่องแรกแล้วก็มีเรื่องราวมากมายตามมาเป็นพรวนวีรกรรมสุดแสบที่ทำเอาวินตราหัวหมุนเป็นประจำโดยเฉพาะลูกชายคนโตที่ถอดแบบเขาออกมามากที่สุดวันนี้นัดกันว่าจะทานมื้อค่ำด้วยกันแต่เดนีสแวะไปเอาเค้กร้านโปรดที่เจ้าสามแสบชอบเลยช้ากว่ากำหนดการที่บอกเอาไว้ว่าจะตั้งโต๊ะอาหารหนึ่งทุ่มตรงแต่ตอนนี้ทุ่มครึ่งพ่อหมายังไม่เห็นแม้แต่เงาเดนอนวัยห้าขวบกอดอกรออยู่บนเก้าอี้ก่อนจะใช้นาฬิกาดิจิตอลของตัวเองต่อสายหาปลายทางวินตราเองก็นั่งรออย่างใจเย็นเช่นกัน“พ่อฮะจะกลับกี่โมงครับ” “อีกสิบนาทีถึงน่าไอ้ลูกชาย” “ระยะทางจากบริษัทถึงบ้านสามสิบห้าไฟแดงแต่ละแยกสองถึงสามนาทีถ้าขับด้วยความเร็วคงที่น่าจะกลับมาก่อนเวลาหนึ่งทุ่มตรงด้วยซ้ำ”“เฮ้! ไอ้ลูกหมาพ่อมีธุระนิดหน่อยตอนนี้จะถึงบ้านแล้วครับ” แม้น้ำเสียงตอนต้นจะติดโวยวายนิดหน่อยตามนิสัยของเจ้าตัวแต่พอเจอวินตราดุไปก่อนหน้าเลยอ่อนลงแต่ไอ้ลูกชายตัวดีเหมือนกำลังซักฟอกเขาเดนีสขุ่นเคือง
พอคลอดสองแฝดปุ๊ปคุณแม่ลูกสามอย่างวินตราก็ปิดอู่ทันทีอีกทั้งเดนีสเองก็ยินยอมพร้อมใจทำหมันเพื่อเป็นการให้คำมั่นสัญญาไปในตัวว่าเขาจะไม่ออกนอกลู่นอกทางจะรักแม่หมาเพียงคนเดียวไม่มีลูกนอกสมรสที่ไหนอีก!เดนอนวัยสองขวบเป็นพี่คนโตของสองแฝดชาย-หญิงซึ่งผู้ชายเป็น (New Male) เหมือนวินตราชื่อเดโนส่วนน้องเล็กเป็นเพศหญิงชื่อเดเลเนเป็นรุ่นหลานสามเดอ้อ…ห้าเดถ้านับลูกสาวของเดนิมที่ชื่อเดล่าและลูกชายชื่อเดโลเข้าไปด้วยเมื่อเด็กห้าคนมารวมตัวกันเมื่อไหร่ผู้ใหญ่ก็มักจะปวดหัวทุกทีคุณปู่คุณย่าก็พลอยหมั่นดูแลสุขภาพเพราะลูกชายคนสุดท้องอย่างเดนีนก็แว่วๆว่ากำลังจะมีหลานตัวน้อยให้ศศิภักดีเองเช่นกัน วินตราทำหน้าที่ของผู้บริหารและแม่ที่ดีได้อย่างไม่มีบกพร่องและสร้างสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานสำหรับแม่ลูกอ่อนด้วยกลายเป็นว่าบริษัทในเครือศศิภักดีต่างเป็นบริษัทที่คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ต้องก็อยากจะตบเท้าเข้าทำงานและฝากชีวิตไว้ที่นี่กันทั้งนั้นเพราะผู้บริหารคำนึงถึงพนักงานเป็นหลักจึงทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีต่อทุกเพศสภาพและทุกสถานะ ตอนนี้พวกเขาย้ายออกมาอยู่บ้านใหม่ที่ไม่ไกลจากบ้านใหญ่คุณปู่คุณย่าไปหาได้สะดวกและฝากหลานได้สะดวกเช่น
“อื้อ” ความจริงเดนีสอยากจะถ่ายภาพนี้ของวินตราเอาไว้ แต่เขาก็กลัวว่าจะหลุดออกไป จึงทำได้เพียงบันทึกภาพสุดแสนอีโรติกนี้เข้าสู่สมองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อวินตรากระตุกเขาก็อมยิ้มดึงหางแมวออกดังเปาะ ก่อนกิจกรรมจะเริ่มวินตราได้ปูเตียงด้วยผ้าที่สั่งซื้อพิเศษ กันน้ำ พวกเขาเลยสามารถทำกิจกรรมเข้าจังหวะอย่างว่าได้สนุกสุดเหวี่ยง เมื่อช่องทางหลังขยายได้ที่แล้ว เดนีสก็ส่งลิ้นร้อนเข้าไปแหย่รูนั้นที่หุบอ้า ๆ อย่างเชื้อเชิญ แลบเลียช่องทางเหมือนเลียไอศกรีมรสโปรด ตวัดลิ้นเร็วช้าสลับกันตามแต่ใจจะนำพา วินตรากระเถิบตัวหนี ไม่ไหว! เขาเสียวแทบขาดใจ แถมเสียงครวญครางก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับอารมณ์วาบหวามที่กำลังพุ่งขึ้นสูงทุกวินาที แถมพ่อหมายังยกซดน้ำหวานจากช่องทางเหมือนตายอดตายอยาก วินตราเขยิบหนีครางเสียงกระเส่า“มะไม่ไหวอะ” ร่างกายเกร็งกระตุกส่วนหน้าหลั่งออกมาจนเปรอะเปื้อนไปทั่วหน้าขาและผ้าปูที่นอนแถมพ่อหมายังไม่หยุดระรัวลิ้นอีกวินตราหันไปกระชากผมที่เอาแต่ซุกก้นของเขาอย่างหื่นกระหายให้เงยหน้าขึ้นมา“เข้ามาได้แล้ว” เดนีสยันเข่าข้างนึงกับเตียงจับบั้นเอวนั้นที่แอ่นเชื้อเชิญเขาอย่างน่ารักค่อยๆสอดใส
ทางด้านเดนีสหลังจากทานมื้อเย็นกับพวกห้าสิงห์เขาก็แวะไปเอาของเล่นที่สั่งไว้เพื่อมาเล่นกับภรรยาโดยเฉพาะแต่รถดันติดเสียนี่…มาช้าเป็นชั่วโมงทั้งๆที่นัดกันดิบดีพอมาถึงห้องก็ต้องแปลกใจที่ข้างในมืดสนิทเดนีสเปิดไฟก่อนจะหอบกล่องอย่างทุลักทุเลเข้าไปในห้องนอนของตัวเองพร้อมกับเตรียมจะจ๊ะเอ๋แม่หมากลับกลายเป็นว่าแม่หมาหลับไปแล้วซะงั้น…เพราะแบบนี้เลยเปลี่ยนแพลนกะทันหันย่องเบาเหมือนแมวหนีไปอาบน้ำยังไงก็ต้องได้กินของหวานแหละน่าเดนีสผิวปากอาบน้ำขัดตัวอย่างสบายใจเฉิบพอเขาออกจากห้องนำ้มาเท่านั้นแหละ…เรนเดียร์ตัวน้อยที่แกล้งหลับกำลังหันมามองเขาด้วยสายตาทรงเสน่ห์อย่างล้นเหลือเรียวปากยังชุ่มฉ่ำไปด้วยลิปกลอสนั่งขาแบะเป็นตัวเอ็มหันหลังให้เขานั้น…เดี๋ยวก่อนนะก็ว่าละทำไมภาพนี้มันคุ้นๆโปสเตอร์นั้นรูปเมียรักเขานี่เองให้ตายจะบอกไอ้พวกนั้นไม่ได้เด็ดขาดจะได้ลืมๆไป “วินตรา!” เดนีสตะโกนเสียงเข้ม“อย่าบอกว่านายแบบคือนาย”“ใช่” เดนีสอ้าปากค้างก่อนจะสาวเท้าไปหาคุณภรรยากระโดดทับด้วยความหึงหวง “อะไอ้บ้าเจ็บ” “เจ็บสิจะได้จำ” เดนีสขบย้ำๆที่หัวไหล่มนอย่างมันเขี้ยวตอนนี้แม่หมาสวมเพียงเกาะอกแดงตัวจิ๋วที่กระชากนิดเดียวก็คงจะ
“ทำได้ทำได้แน่นอนฉันจะไม่สปอยลูกอีก” มือขวายกสามนิ้วแต่มือซ้ายกลับไขว้กากบาทอยู่ด้านหลังพอเห็นเมียรักไม่พูดอะไรก็ปรี่เข้าไปคลอเคลียขอความเห็นใจทันที“ฉันรู้ฉันผิดเอาเป็นว่าวันหลังจะไม่แอบให้ขนมอีกถ้าลูกหิวต้องหิ้วท้องรอเพราะไม่ทำตามกติกากลุ่มโอเคไหม?” วินตรากอดอกเหลือบตามองอย่างคาดโทษก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ “เด็กคนหนึ่งกว่าจะโตต้องเลี้ยงทั้งหมู่บ้านต้องเคารพกติกากลุ่มลูกเรามักน่ารักสำหรับเราเสมอแต่ใช่ว่าจะน่ารักสำหรับคนอื่นที่สำคัญหากไม่สอนให้เขาเคารพกฎหมู่กฎระเบียบเล็กๆน้อยๆพวกนี้จะสอนเขาเมื่อไหร่?”“ฉันรู้ๆฉันผิดไปแล้ว” พ่อหมาแทบจะกราบกรานเขย่าแขนเมียตัวเองขอความเมตตา “วันหลังฉันจะให้ตายตัดสินจะถามนายก่อนโอเคไหม” วินตราถอนหายใจก่อนจะสงบสติอารมณ์“วันหลังห้ามทำอีก” “ฉันจะจำไว้และจะไม่ทำอีก” ก่อนจะเข้าไปจุมพิตกระหม่อมภรรยาโอบกอดหลวมๆแม้ปากจะบอกว่าเข้าใจแต่สุดท้ายพ่อหมาก็คือพ่อหมาต่างก็ขบคิดหาวิธีที่ไม่ให้แม่หมาจับได้กลยุทธ์แพรวพราวมากขึ้นกลายเป็นถือหางลูกชายสุดๆในอีกยี่สิบกว่าปีให้หลังมีเพียงใบหน้าและแววตาที่เหมือนผู้เป็นแม่แต่นิสัยใจคอเหมือนรวมเอายีนด้อยและเด่นของพ่อแม่เข้าด้วยกั